ลู่หนิงมองดูซูซินเหยียนที่ใช้ตะเกียบเขี่ยข้าวไปมาไม่ยอมกินเสียที นางเพียงยืนมองอยู่เงียบๆ สงสารซูซินเหยียนจับใจ ทั้งที่เป็นฮูหยินพึ่งแต่งงานได้ไม่กี่วันแท้ๆ แต่สามีกลับไม่สนใจ ไม่เคยเหยียบมาที่เรือนนี้ ไม่ยอมเข้าหอจนบ่าวไพร่พากันนินทาให้ซูซินเหยียนต้องอับอาย นางต้องนั่งกินข้าวคนเดียวทุกมื้อ ยิ่งตอนนี้ถานลี่หลินที่คิดว่าตายไปแล้วกลับมา โจวเยี่ยนเฉิงก็ยิ่งละเลยทำราวกับไม่มีซูซินเหยียนอยู่ที่จวนนี้ พรอดรักกับถานลี่หลินเอาอกเอาใจสารพัด จนบ่าวไพร่พากันไปประจบถานลี่หลิน ไม่เห็นหัวซูซินเหยียน ก่อนหน้าที่นางไปเอาสำรับอาหารที่โรงครัว บ่าวในโรงครัวก็ไม่สนใจทำอาหารไว้รอ มีแต่ทำให้ถานลี่หลิน จนนางต้องลงมือทำอาหารด้วยตัวเอง
" ฮูหยินท่านกินสักนิดเถอะเจ้าค่ะ ดูสิเจ้าคะมีแต่ของชอบของท่านทั้งนั้นเลย ข้าลงมือทำเองเลยนะ"
ซูซินเหยียนเงยหน้าขึ้นมองลู่หนิง
" ที่เจ้าหายไปตั้งนานก็เพราะไปทำอาหารให้ข้า"
" เอ่อ เจ้าค่ะ ข้าแค่อยากทำของชอบให้ท่าน กลัวว่าบ่าวในครัวจะทำไม่ถูกปากเลยทำเอง ท่านลองชิมดูสิเจ้าคะ ข้าไม่ได้ทำอาหารนานแล้วไม่รู้ว่ารสชาติยังใช้ได้ไหม"
ลู่หนิงผายมือให้ซูซินเหยียนกินอาหาร นางไม่อยากบอกความจริงว่าบ่าวรับใช้ไม่ได้ทำอาหารให้ แถมยังพูดอีกว่าต่อไปหากอยากกินก็ให้ทำกินเอง เพราะพวกนางจะทำให้เฉพาะโจวเยี่ยนเฉิงกับถานลี่หลินเท่านั้น นางเกรงว่าหากซูซินเหยียนรู้เรื่องจะยิ่งคิดมาก
" อืมใช้ได้ เจ้าก็นั่งลงกินด้วยกันสิ ต่อไปนี้เจ้าก็มากินเป็นเพื่อนข้าทุกมื้อ กินเสร็จข้าอยากออกไปเดินเล่นดูปลาที่สระน้ำสักหน่อย"
" เจ้าค่ะ"
กินข้าวเช้าเสร็จ ซูซินเหยียนออกไปเดินเล่นระหว่างเดินผ่านบ่าวไพร่ที่กำลังทำความสะอาดอยู่ ไม่มีใครทำความเคารพนางสักคน นางก็หาได้สนใจ พอไปถึงศาลาริมน้ำก็เห็นถานลี่หลินนั่งอยู่ มีบ่าวรับใช้สองคนอยู่ด้วย คนหนึ่งรินชาให้ อีกคนก็บีบนวดให้
" ก็แค่สาวใช้คนหนึ่งถือว่านายท่านโปรดปราน ถึงได้ทำตัวราวกับเป็นฮูหยินของจวน ให้ข้าไปสั่งสอนดีไหมเจ้าคะ"
" ไม่ต้อง ปล่อยนางไป ต่างคนต่างอยู่"
" แต่ท่านอยากมานั่งเล่นดูปลา นางเป็นแค่สาวใช้สมควรหลีกทางให้ท่าน"
" ช่างเถอะ ข้าไม่อยากดูแล้วเราไปที่อื่นกัน"
นางหันหลังเดินออกมา แต่ถานลี่หลินเห็นก่อนจึงเรียกขึ้น
" ฮูหยิน ท่านมาเดินเล่นหรือเจ้าคะ หรือว่าจะมานั่งเล่นที่ศาลา นี่ข้าก็พึ่งมา เชิญท่านมานั่งด้วยกันสิเจ้าคะ ดูขนมพวกนี้สิพวกบ่าวในครัวเอามาให้ข้าเยอะแยะเลย ข้ากินคนเดียวไม่หมดหรอก แต่จะโทษพวกนางก็ไม่ได้ เป็นเพราะนายท่านสั่งให้พวกนางดูแลข้าให้ดี สั่งให้ทำอาหารอร่อยๆกับขนมที่ข้าชอบมาให้ข้า"
ซูซินเหยียนหันไปมองดูหน้าถานลี่หลินที่พูดไปยิ้มไป รอยยิ้มเยาะเย้ยกับคำพูดที่หมายความว่าโจวเยี่ยนเฉิงใส่ใจนางมากกว่าใครๆ ทำให้ซูซินเหยียนเจ็บแปลบในใจขึ้นมา ถานลี่หลินเห็นแววตาวูบไหวของซูซินเหยียนก็ยิ้มชอบใจ เดินเข้ามาจูงมือซูซินเหยียนเดินไปนั่งที่ศาลา แต่ยังไม่ทันนั่งสายตาก็เหลือบไปเห็นโจวเยี่ยนเฉิงกำลังเดินมาทางนี้ จึงสะบัดมือซูซินเหยียนออกแล้วถอยหลังจนตกสระน้ำ ตู้มม
" ว้ายลี่หลิน ช่วยด้วยลี่หลินตกน้ำ"
" ฮูหยินเหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้"
สาวใช้คนหนึ่งตะโกนให้คนช่วย อีกคนก็ต่อว่าซูซินเหยียน โจวเยี่ยนเฉิงรีบวิ่งมากระโดดลงน้ำไปช่วยถานลี่หลิน พอพาถานลี่หลินขึ้นน้ำมาได้ สาวใช้สองคนก็เข้าไปรับโจวเยี่ยนเฉิงจ้องมองซูซินเหยียนนัยตาดุดัน ถามเสียงแข็งกร้าว
" บอกข้ามาว่าหลินเอ๋อตกน้ำได้ยังไง"
" ฮูหยินผลักนางเจ้าค่ะนายท่าน"
สาวใช้คนหนึ่งตอบ ลู่หนิงรีบแย้ง
" เจ้ากล้าดียังไงมาใส่ร้ายฮูหยิน นายท่านฮูหยินไม่ได้ทำเจ้าค่ะ แต่เป็นนางที่ตกลงไปเอง"
" ไม่จริงเจ้าค่ะนายท่าน พวกข้าสองคนเห็นกับตาว่าฮูหยินผลักลี่หลินตกน้ำ เพราะไม่พอใจที่นางมานั่งที่ศาลานี้ก่อน นางยังไล่ให้ลี่หลินออกไปเพื่อที่นางจะได้นั่งคนเดียว"
" ไม่จริงเจ้าค่ะนายท่าน พวกนางโกหก"
" เป็นเรื่องจริงลี่หลินบอกว่าให้นั่งด้วยกัน แต่ฮูหยินก็ไม่ยอม เลยผลักลี่หลินตกน้ำ"
" ไม่จริงเจ้าค่ะนายท่าน พวกนางใส่ร้ายฮูหยินของข้า ฮูหยินกำลังจะเดินกลับแต่นางเรียกไว้ยังจูงมือฮูหยินเดินไปในศาลา แล้วอยู่ๆก็ปล่อยมือเดินถอยหลังตกน้ำไปเอง"
" เจ้าพูดอะไร ข้าว่ายน้ำไม่เป็นเหตุใดต้องเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยงด้วย แค่กแค่ก"
" ไม่ต้องพูดแล้วหนิงเอ๋อ พูดไปยังไงเขาก็ไม่ฟังหรอก"
โจวเยี่ยนเฉิงหันไปมองถานลี่หลินที่น้ำตาคลอก็ยิ่งสงสาร ความโมโหก็พุ่งขึ้นมา เดินเข้าไปผลักซูซินเหยียนตกน้ำ ตู้มม
" ฮูหยิน "
ลู่หนิงร้องด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าโจวเยี่ยนเฉิงจะไร้เหตุผลเช่นนี้
"นายท่าน เหตุใดต้องทำกันถึงเพียงนี้ รีบช่วยฮูหยินขึ้นมาเถอะ นางว่ายน้ำไม่เป็น"
โจวเยี่ยนเฉิงมองดูซูซินเหยียนตะเกียกตะกายอยู่ในน้ำด้วยสายตาเย็นชา
" ว่ายน้ำไม่เป็น หลินเอ๋อก็ว่ายน้ำไม่เป็นเหมือนกัน ในเมื่อเจ้าผลักนางลงไป ก็ลองรับรู้รสชาติการจมน้ำดูบ้าง"
" นายท่าน ไม่คิดเลยว่าท่านจะใจร้ายเช่นนี้ฟังความข้างเดียวไม่สนถูกผิด"
" บังอาจ ข้าเป็นใครเจ้าเป็นใคร ดี ถ้าเจ้าสงสารนายของเจ้านัก งั้นก็ลงไปอยู่ด้วยกันซะ"
ตู้มม โจวเยี่ยนเฉิงถีบลู่หนิงตกน้ำไปอีกคนถานลี่หลินกับสาวใช้อีกสองคนพากันหัวเราะสะใจ โจวเยี่ยนเฉิงหันมามอง ถานลี่หลินก็รีบเปลี่ยนสีหน้าเป็นเศร้าสร้อยทันทีแกล้งไอถี่ๆขึ้นมา แค่กแค่กแค่ก บ่าวรับใช้ชายหลายคนวิ่งเข้ามามุงดู โจวเยี่ยนเฉิงอุ้มถานลี่หลินขึ้นมา
" ห้ามใครช่วยพวกนางขึ้นมา หากใครกล้าขัดคำสั่งข้า ก็เตรียมตัวถูกขายออกไปได้เลย"
บ่าวรับใช้สองคนที่ทำท่าจะกระโดดลงไปช่วยก็หยุดชะงัก ซูซินเหยียนมองดูแผ่นหลังของโจวเยี่ยนเฉิงที่อุ้มถานลี่หลินเดินออกไป เห็นถานลี่หลินหันหน้ามายิ้มเยาะ ใจของนางเจ็บปวดราวเข็มนับพันเล่มทิ่มแทง ปล่อยให้ร่างค่อยๆจมลงไปใต้น้ำ
เห็นสีหน้าไม่สู้ดีของเขา นางก็พูดต่อ" ใกล้ๆกันยังมีขนมถูกเททิ้งด้วย น่าเสียดายหากไม่กินก็น่าจะให้คนอื่น ไม่ก็แจกเด็กๆก็ได้ ทำแบบนี้ไม่ดีเลย"โจวเยี่ยนเฉิงกัดฟันแน่นด้วยความโกรธ รีบหุนหันจากไป ถานลี่หลินมองตาม กระตุกยิ้มมุมปาก หึหึ ขนมอร่อยน่ากินจะทิ้งให้เสียของทำไม ทั้งขนมติงเซิงขนมหม่าซูถง อยู่ในท้องของนางนี่ซูซินเหยียนกำลังยืนคุยกับคนอื่นๆอยู่ โจวเยี่ยนเฉิงก็เข้ามาฉุดกระชากนางออกมา" ปล่อยนะ ท่านเป็นบ้าอะไร"นางสะบัดออกจากเขาด้วยท่าทีรังเกียจ" ตามข้ามานี่ ข้ามีเรื่องจะคุยกับเจ้า"" แต่ข้าไม่มีอะไรจะคุยกับท่าน"" เหยียนเอ๋อ"" เรียกข้าแบบเดิมเถอะ อย่าเรียกข้าแบบนี้เลย เราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น"" ข้าอยากถามว่าทำไมต้องเอาของที่ข้าให้ไปทิ้งด้วย ข้าตั้งใจซื้อมันมาให้เจ้านะ"นางขมวดคิ้วมองหน้าเขา " ของพวกนั้นข้าให้หนิงเอ๋อนำมันไปคืนท่านไม่ได้ทิ้ง"ลู่หนิงที่ยืนอยู่ไม่ไกล ได้ยินที่ทั้งสองพูดก็รีบเดินเข้าไปหา" ข้าเอาของพวกนั้นไปฝากสือหลางคืนท่านไม่ได้ทิ้งเจ้าค่ะ ต่อจากนี้ท่านก็ต้องไปถามเขาเองแล้วแหละ"เห็นโจวเยี่ยนเฉิงทำหน้างง ซูซินเหยียนก็พอเดาออก" ใครบอกท่านว่าของพวกนั้นถูกทิ้ง ถานล
เมื่อเดือนก่อนฝนตกหนักน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมหมู่บ้าน ถนนหนทางถูกตัดขาดสะพานข้ามแม่น้ำก็พัง น้ำท่วมอยู่เป็นเดือนพึ่งจะเริ่มลดลง ทหารอาสาซ่อมแซมสะพานเสร็จไปหนึ่งแห่ง คือทางหน้าหมู่บ้าน ส่วนอีกแห่งทางหลังหมู่บ้าน หลายคนกำลังช่วยกันซ่อมแซมอยู่ เพราะน้ำท่วมผ่านไปหลายวันแล้ว กว่าโจวเยี่ยนเฉิงจะมาถึงน้ำจึงแห้งเหือดไปหมด เหลือเพียงดินโคลนแห้งเกรอะกรัง ทหารที่มาช่วยงานและอาสาคนอื่นๆต่างช่วยชาวบ้านทำความสะอาด แต่ชาวบ้านยังคงพักอยู่ในกระโจมบนที่สูง แม่ทัพฉีเส้าหมิงสำรวจดูรอบหมู่บ้านเกรงว่าอาจเกิดดินถล่มลงมาอีก จึงยังไม่ให้ชาวบ้านเข้าไปพักอาศัย แต่ให้รอดูสถานการณ์อีกสักระยะก่อนช่วงเย็นซูซินเหยียนนั่งเล่นอยู่ใต้ต้นไม้กับลู่หนิงและฉีหว่านหรู" ซินเหยียน ที่เขามาถึงที่นี่คงไม่ใช่มาตามเจ้าหรอกนะ"" ตามข้ารึ เป็นไปไม่ได้หรอก เขาไม่ได้รักข้า ไม่เคยรักเลยด้วยซ้ำ ข้ายอมหย่าให้เขากับถานลี่หลินได้สมหวัง เขาต้องดีใจอยู่แล้ว ไม่ต้องทนใช้ชีวิตร่วมกับข้า "" แต่ข้าสังเกตุว่าเขาคอยมองดูเจ้าตลอดเลยนะ"" ใช่เจ้าค่ะคุณหนู ข้าก็เห็นเหมือนกัน ข้าว่าสายตาที่เขามองคุณหนูแตกต่างไปจากเมื่อก่อนมาก เมื่อก่อนเขามองท่านด้วย
พอหมอเดินออกไปถานลี่หลินก็รีบเข้ามานางจะเอื้อมมือไปสัมผัสแผ่นหลังของโจวเยี่ยนเฉิง แต่ก็ชักมือกลับ กลัวจะโดนแผลให้เขาเจ็บกว่าเก่า " นายท่านเป็นแบบนี้พอใจเจ้าหรือยัง"สือหลางพูดแขวะก่อนเดินออกไป ถานลี่หลินน้ำตาไหลอาบแก้ม" พี่เยี่ยนเฉิง เป็นความผิดของข้า เพราะข้าท่านถึงต้องมาเจ็บตัวเช่นนี้ "ผ่านไปสักพักโจวเยี่ยนเฉิงค่อยๆลืมตาขึ้นมา เห็นถานลี่หลินนั่งน้ำตาคลออยู่ข้างๆ พอเห็นเขาลืมตา น้ำตาเม็ดโตก็ไหลรินอาบแก้มนางยิ้มทั้งน้ำตา" พี่เยี่ยนเฉิงท่านฟื้นแล้ว"ขยับเพียงนิดเขาก็รู้สึกเจ็บปวดไปทั่วทั้งหลังและตูด สือหลางได้ยินเสียงก็รีบเข้ามาดูด้วยความดีใจ ก่อนจะออกไปแล้วกลับเข้ามาใหม่พร้อมถ้วยยา ถานลี่หลินแย่งถ้วยยามาถือไว้" เอามานี่ข้าจัดการเอง เจ้ามีอะไรก็ไปทำเถอะ"สือหลางไม่ชอบใจกับท่าทีของถานลี่หลิน ที่ทำตัวราวฮูหยินของจวน ชี้นิ้วสั่งคนนั้นคนนี้ เขาไม่อยากสนใจจึงเดินออกไป เห็นท่าทีกระตือรือร้นของนาง โจวเยี่ยนเฉิงก็นึกถึงอดีต ตอนนั้นเขาเล่นปีนต้นไม้กับซูตงหยางแล้วพลาดตกลงมาได้รับบาดเจ็บ ซูซินเหยียนก็เป็นห่วงเขาแบบนี้ นางร้องไห้ห่วงว่าเขาจะขาหักพิการเดินไม่ได้อีก มานั่งเฝ้าคอยดูแลเขา ยังช่วย
" ข้าเข้าใจแล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ไม่จำเป็นทน ทนอยู่ไปเพื่ออะไร เขาไม่รักไม่เห็นค่าก็หย่าไปเลย ข้าสนับสนุนเจ้า"" กุ้ยเฟยเพคะ"เช่อเอ๋อหันไปมองหน้าเมิ่งกุ้ยเฟย คิดว่าเมิ่งกุ้ยเฟยจะเกลี้ยกล่อมให้ซูซินเหยียน กลับไปคืนดีกับโจวเยี่ยนเฉิง แต่กลับเห็นดีเห็นงามกับการหย่าร้าง" ข้าพูดผิดตรงไหน เหตุใดสตรีจะต้องทนอยู่กับบุรุษที่ไม่รักเรา ในโลกนี้ยังมีบุรุษอีกเกลื่อนกลาด ไม่เห็นต้องไปสนใจ ในเมื่อโจวเยี่ยนเฉิงมีไข่มุกล้ำค่าในมือแล้วไม่เห็นค่ากลับไปให้ความสำคัญกับก้อนกรวด ก็ปล่อยเขาไป เหยียนเอ๋อของข้างดงามถึงเพียงนี้ ข้าจะหาบุรุษที่ดีกว่าโจวเยี่ยนเฉิงเป็นร้อยเท่าให้นางเอง"เมิ่งกุ้ยเฟยทำท่าครุ่นคิด ใครนะที่น่าสนใจ" เมิ่งกุ้ยเฟยเพคะ สาวใช้นางนั้นมาแล้วเพคะ"นางกำนัลคนหนึ่งเข้ามารายงาน" ให้นางเข้ามา"ถานลี่หลินเดินตามนางกำนัลเข้ามาถวายความเคารพ" รู้ใช่ไหมว่าข้าเรียกเจ้ามาทำไม"" หม่อมฉันโง่เขลา ไม่ทราบเพคะ"" คุกเข่าลง"นางรีบนั่งลงคุกเข่า หันไปเห็นซูซินเหยียนนั่งอยู่ข้างๆเมิ่งกุ้ยเฟยก็หน้าซีด มีลางสังหรณ์ไม่ดี" เจ้ารู้หรือไม่ว่าการทำลายข้าวของพระราชทานมีโทษเช่นไร"" หม่อมฉันผิดไปแล้วเพคะ หม่อ
" ช่วงนี้ท่านดูเคร่งเครียด ให้ข้าช่วยทำให้ท่านสบายตัวดีหรือไม่"ถานลี่หลินลูบไล้อกแกร่งของโจวเยี่ยนเฉิงค่อยๆแหวกสาบเสื้อออก ลูบอกเปลือยเปล่าเมื่อเห็นว่าเขาเริ่มเคลิ้ม จึงใช้อีกมือลูบแท่งหยกของเขาจนมันเริ่มตื่นตัว โจวเยี่ยนเฉิงเห็นภาพทับซ้อน มองเห็นหน้าของถานลี่หลินเป็นซูซินเหยียน พอสะบัดหัวอีกทีถึงได้รู้ว่าเขาตาลาย เขารีบผลักถานลี่หลินออก " ดึกแล้วเจ้าไปนอนเถอะ ข้ามีเรื่องด่วนต้องไปจัดการ"พูดจบก็รีบจ้ำอ้าวเดินออกไป ทิ้งให้ถานลี่หลินยืนเหวออยู่ตรงนั้น เหตุใดเขาถึงได้ปฏิเสธนาง เหตุใดถึงได้รีบร้อนออกไปยามดึกแบบนี้ เขาจะไปที่ไหน หรือว่าจะไปหาซูซินเหยียน ไหนบอกว่าไม่ได้รักไง ก็ในเมื่อหย่ากันแล้วจะไปหาทำไมอีก นางกำมือแน่นแววตาฉายความโกรธเกรี้ยวโจวเยี่ยนเฉิงมาถึงจวนของซูตงหยาง ก็เห็นว่ามีบ่าวรับใช้ชายยืนเวรยามเต็มไปหมด ถ้าเข้าไปตรงๆก็คงต้องปะทะฝีมือกัน เขาไม่อยากทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ จึงเอาม้าไปผูกไว้ใต้ต้นไม้ห่างจากหน้าจวน แล้วใช้วิชาตัวเบาเหาะทะยานไต่ไปบนหลังคา ว่าแต่ซูซินเหยียนอยู่เรือนไหนนะ จวนแห่งนี้ไม่ได้กว้างมาก มีแค่ไม่กี่เรือน เรือนหลังนั้นเป็นของซูตงหยาง ส่วนตรงนั้นเป็นเ
" ซินเหยียน"" มาทำไม"" ข้ามารับเจ้ากลับจวน"" กลับไปทำไม ท่านกับข้าหย่ากันแล้ว หนังสือหย่าข้าวางเอาไว้ในห้อง ท่านไม่เห็นรึ"" เห็นแล้ว ข้าก็ฉีกทิ้งแล้วด้วย"" ท่าน"" ข้าไม่หย่า ข้ารับปากกับท่านแม่ไว้แล้วว่าจะแต่งงานกับเจ้าแค่คนเดียว มีเจ้าเป็นฮูหยินของข้าแค่คนเดียวเท่านั้น กลับไปกับข้าเถอะ สามีภรรยาไม่ควรแยกกันอยู่เช่นนี้"" ฮ่า ฮ่า ฮ่า"" เจ้า เจ้าหัวเราะอะไร"" ข้ารู้สึกขบขันยิ่งนัก จริงอย่างท่านว่า สามีภรรยาไม่ควรแยกจาก แต่ท่านกับข้าหาใช่สามีภรรยากัน ไม่ เราไม่เคยมีอะไรกัน คืนเข้าหอท่านก็ไปนอนที่ห้องหนังสือ กอดจูบลูบไล้ภาพวาดของถานลี่หลิน"อย่าว่าแต่เข้าหอเลย แม้แต่แตะต้องตัวนางก็ไม่เคย จับมือก็ไม่เคยโจวเยี่ยนเฉิงตกใจ นางรู้ได้อย่างไร หรือว่าคืนนั้นนางจะไปตามเขาแล้วเห็น" ซินเหยียน คือว่าเรื่องนั้นข้าอธิบายได้ ข้าคืนนั้นข้าเมาหนักไปหน่อย ข้ายอมรับว่าข้าคิดถึงหลินเอ๋อ แต่คนเราล้วนมีอดีตกันทั้งนั้น ตอนนั้นข้าคิดถึงนางที่จากไปแล้วไม่มีโอกาสได้พบเจออีก ไม่คิดว่าอยู่ดีๆนางจะปรากฏตัว ส่วนเรื่องเข้าหอข้ายังทำใจไม่ได้ เลย เลยให้เวลาตัวเองหน่อย"" หึ จะเข้าหอกับข้าต้องใช้เวลาทำใจขนาดนั้