(ภาค 1)
บทที่ 8
วัยเยาว์ (2)
เล่นซ่อนหากันอยู่ดีๆ น้องชายที่แสนน่ารักก็หายตัวไป!
ริคาร์โด ลูกัสตาร์กับคนรับใช้ช่วยกันออกตามหาซีเอลเป็นการใหญ่
น้องชายของเขาเป็นโอเมก้าบริสุทธิ์ หน้าตาจิ้มลิ้มน่ารัก หากถูกลักพาตัวไปล่ะก็...ไม่อยากจะคิดเลย
แต่ความกังวลของริคาร์โดกลับสูญเปล่า เพราะตอนที่เจอตัวซีเอล เจ้าเด็กน้อยกลับได้เพื่อนเล่นใหม่ซะแล้ว แถมยังแนะนำเพื่อนใหม่ให้พี่ชายรู้จักด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
เห็นแบบนี้ริคาร์โดโกรธน้องชายไม่ลงจริงๆ ถึงก่อนนั้นจะเผลอเอ็ดใส่ไปยกหนึ่งเพราะความเป็นห่วงก็ตาม
วันต่อมา ซีเอลชวนริคาร์โด และยังอ้อนวอนท่านพ่อให้พามาเที่ยวคฤหาสน์ดยุกมาร์คัส
ตอนแรก ท่านพ่อตกใจ ต่อให้มาเที่ยวในอาณาเขตของดยุกมาร์คัส หากกลับไม่มีเหตุผลให้ต้องสุงสิง
ทว่าพอถูกลูกชายคนเล็กอ้อนแล้วอ้อนอีก มาร์ควิสลีวานได้แต่ใจอ่อน พาลูกชายทั้งสองมายังคฤหาสน์ของดยุกมาร์คัส พร้อมถือของฝากมาทักทาย
แน่นอนว่า ทุกคนในคฤหาสน์ตั้งแต่ดยุกมาร์คัสตลอดจนเหล่าคนรับใช้ตัวเล็กๆ ต่างแปลกใจที่เห็นเด็กจากตระกูลมาร์ควิสมาพบไคล์เดน
คนในตระกูลฮิลล์ตันคบค้าสมาคมกับคนนอกน้อยมาก ไม่ใช่เพราะพวกเขาหยิ่งยโส แต่เพราะใบหน้าดุดัน บวกกับความแข็งแกร่งโดยกำเนิด ทำให้คนอื่นๆ เข้าใจผิดจนไม่กล้าคบค้าสมาคมด้วย
ยกเว้นก็เพียงแต่เด็กจากตระกูลมาร์ควิส
ภายหลังไม่ได้มีแค่ซีเอลกับไคล์เดนที่สนิทกัน ต่อมา ริคาร์โดกับพวกพี่ชายพี่สาวของไคล์เดนยังคบหากันเป็นเพื่อนสนิทถึงขั้นทำธุรกิจร่วมกัน
ในปีที่ซีเอลอายุสิบเจ็ด
มีการ์ดเชิญจากราชวังส่งมายังตระกูลขุนนาง ให้เด็กๆ ในตระกูลเข้าร่วมงานเลี้ยงวันคล้ายวันประสูติเจ้าชายอเล็กซีส...เจ้าชายเพียงหนึ่งเดียวแห่งอาณาจักรอันเดอร์นิซ
ทันทีที่เห็นการ์ดเชิญ ซีเอลหน้าซีดเผือด
งานเลี้ยงวันคล้ายวันประสูติเจ้าชายอเล็กซีสไม่ใช่งานเลี้ยงธรรมดา แต่จัดขึ้นเพื่อให้เจ้าชายเลือกคนที่ถูกใจมาเป็นคู่หมั้น
ซีเอลหน้าตาน่ารักและยังโดดเด่นที่สุดในบรรดาเหล่าโอเมก้ารุ่นราวเดียวกัน ฐานะก็ดีเลิศ และยังเป็นโอเมก้าบริสุทธิ์
คุณสมบัติของโอเมก้าบริสุทธิ์คือสามารถตั้งท้องได้ง่าย ว่ากันว่า เด็กที่คลอดจากโอเมก้าบริสุทธิ์ส่วนใหญ่จะเป็นอัลฟ่าที่แข็งแรงสมบูรณ์
‘ท่านพ่อ ข้าไม่อยากไปงานเลี้ยง!’
ซีเอลโพล่งแล้ววิ่งไปหลบหลังพี่ชายที่อายุห่างกันถึงห้าปี
มาร์ควิสลีวานรักลูกๆ อย่างเท่าเทียม หากลูกชายบอกไม่อยากไปก็จะไม่บังคับ
แต่ว่า...การ์ดเชิญงานเลี้ยงของเจ้าชายครั้งนี้เป็นราชโองการของจักรพรรดิ ขืนปฏิเสธ ตระกูลลูกัสตาร์อาจถูกเพ่งเล็งในภายหลัง มาร์ควิสลีวานไม่ได้กลัวอำนาจของจักรพรรดิแสนอ่อนแอผู้นั้น เพียงแต่ไม่อยากฟังคำติฉินนินทาของเหล่าขุนนางที่เก่งแต่ปาก
‘พ่อก็ไม่อยากให้ลูกไปนักหรอก แต่พระราชามีรับสั่งลงมาแล้วว่าให้เด็กๆ ที่ได้รับการ์ดมากันทุกคน’
‘บอกว่าซีเอลไม่สบายก็ได้นี่ครับ’ ริคาร์โดเสนอแนะ
‘ใช่ๆ’ ซีเอลพยักหน้าติดๆ
‘ถ้าง่ายอย่างนั้นก็ดีสิ กลัวก็แต่ว่าจักรพรรดิจะให้เด็กที่ไม่มาในวันนั้นเข้าเฝ้าทีหลัง แบบนั้นจะไม่ยิ่งสะดุดตากว่าเดิมเหรอ’ มาร์ควิสลีวานกล่าวด้วยสีหน้ากลัดกลุ้ม
ได้ยินแบบนั้น ซีเอลขนลุกซู่
แบบนั้นสะดุดตาเกินไปจริงๆ ด้วย เทียบกันแล้ว เข้าร่วมงานเลี้ยง แล้วคอยหลบเลี่ยงสายตาของเจ้าชายยังจะง่ายกว่า
จริงด้วย!
หลังจากครุ่นคิดใคร่ครวญ ซีเอลก้าวเท้าออกมาจากที่กำบัง
‘ก็ได้ครับ ข้าจะไป’
ในงานเลี้ยงวันคล้ายวันประสูติเจ้าชายอเล็กซีส ซีเอลพยายามสุดความสามารถเพื่อไม่เป็นที่สะดุดตา โชคดีที่ไคล์เดนกับพี่ๆ ก็มาร่วมงานเลี้ยงด้วย
ลูกๆ ของดยุกฮิลล์ตันเป็นอัลฟ่ากันทุกคน แม้ถูกเชิญให้เข้าร่วมงานเลี้ยง แต่ไม่มีใครมีคุณสมบัติเป็นคู่หมั้นของเจ้าชายสักคน เพราะเจซซี่ ฮิลล์ตัน บุตรสาวของดยุกมาร์คัสอายุมากกว่าเจ้าชายหลายปี
คนตระกูลฮิลล์ตันชอบจับดาบมากกว่าร่วมงานเลี้ยง ทุกคนจึงมายืนหลบมุม แสดงออกอย่างชัดเจนว่าต้องการปลีกวิเวก อย่าเข้ามาใกล้เด็ดขาด
ซีเอลอาศัยความสัมพันธ์แฝงอยู่กับกลุ่มพี่น้องฮิลล์ตัน
พี่ชายพี่สาวของไคล์เดนชอบซีเอลอยู่แล้วจึงให้ความร่วมมือ ยืนล้อมหน้าล้อมหลังซีเอลราวกับเป็นองครักษ์พิทักษ์โอเมก้า
งานเลี้ยงคืนนั้น เจ้าชายอเล็กซีสเต้นรำกับโอเมก้าหลายคน ยกเว้นซีเอล
เมื่องานเลี้ยงจบลง ซีเอลโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก
ทว่า
สองสามวันให้หลัง กลับมีจดหมายจากราชวังส่งมาถึงมาร์ควิสลีวาน จดหมายระบุว่า ซีเอล ลูกัสตาร์ ถูกรับเลือกให้เป็นคู่หมั้น
ซีเอลไหล่ห่อเหี่ยวอย่างสิ้นหวัง คิดอย่างเศร้าสลดว่าไม่อาจฝืนชะตากรรมได้เลยจริงๆ สินะ
อุตส่าห์เจอกับไคล์เดนและได้เป็นเพื่อนกันแล้ว คิดว่าจะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาได้แล้วเสียอีก แต่...
เวxเอ๊ย!
ซีเอลสบถคำหยาบเป็นครั้งแรก ก่อนจะร้องไห้ฟูมฟายจนถึงกับไข้ขึ้น
อีกด้านหนึ่ง มาร์ควิสลีวานเดินทางเข้าวังหลวงเพื่อทูลขอให้จักรพรรดิยกเลิกการหมั้นหมาย บังเอิญระหว่างทางได้เจอกับดยุกมาร์คัสพอดี หลังจากพูดคุยกันคร่าวๆ ทั้งสองมีเป้าหมายเดียวกัน
แรงกดดันจากขุนนางทั้งสองตระกูลใหญ่ ทำเอาจักรพรรดิตระหนักว่าได้ตัดสินใจผิดพลาดไปเสียแล้ว
‘เป็นครั้งแรกเลยนะที่ดยุกมาร์คัสกับมาร์ควิสลีวานทูลขอเรื่องเดียวกัน’ จักรพรรดิกล่าวอ้อมแอ้มพร้อมกับปาดเหงื่อ ‘แต่ว่านะ ลูกใครใครก็รักใช่ไหม เราเองก็ปฏิเสธเจ้าชายไม่ได้’
‘ถูกอย่างที่พระองค์ตรัส ลููกใครใครก็รัก ดังนั้นฝ่าบาทช่วยยกเลิกการหมั้นด้วยพ่ะย่ะค่ะ’ มาร์ควิสลีวานยังคงรั้นจะถอนหมั้นให้ได้
‘กระหม่อมเห็นด้วยกับมาร์ควิสลีวาน เด็กคนนั้นกระหม่อมหมายปองไว้ให้กับลูกชายแล้วแท้ๆ ทำไมฝ่าบาทถึงได้ชิงตัดหน้าก่อนพ่ะย่ะค่ะ’ ดยุกมาร์คัสกล่าวอย่างฉุนๆ
‘โถ เห็นแก่ที่เราเป็นจักรพรรดิ ยอมยวนๆ ให้หน่อยไม่ได้หรือ’
ขุนนางทั้งสองตอบประสานเสียง ‘ไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ!’
‘ต้องถอนหมั้นให้ได้หรือ’
‘ต้องถอนหมั้นให้ได้พ่ะย่ะค่ะ’
‘หากลูกชายกระหม่อมคิดสั้นขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ’
ดยุกมาร์คัสได้ยินคำพูดของมาร์ควิสลีวานก็พลอยตกใจไปด้วย อดจะพึมพำอย่างสะเทือนอารมณ์ไม่ได้ ‘โธ่ ซีเอลเด็กดี...’
จักรพรรดิกุมขมับ หลังจากใคร่ครวญแล้วว่าการจับคู่ให้กับคนสองคนที่ไม่ได้รักกันมีแต่จะส่งผลเสีย สุดท้ายจึงตรัสว่า ‘อเล็กซีสเป็นคนรักง่ายหน่ายเร็ว ถึงเราไม่ออกราชโองการถอนหมั้นตอนนี้ อีกไม่กี่ปีเจ้าตัวก็คงประกาศถอนหมั้นเอง ตอนนี้พวกเจ้าช่วยหลับหูหลับตาทำเป็นไม่รู้ก่อนได้หรือไม่’
‘ไม่กี่ปีของฝ่าบาทคือกี่ปีกันพ่ะย่ะค่ะ’ ดยุกมาร์มาคัสถาม ‘การทำเป็นไม่รู้ของพระองค์ ลูกชายของกระหม่อมก็เศร้าเสียใจเหมือนกัน’
‘เราจะตบรางวัลให้ดยุกอย่างงาม’
‘ของล้ำค่ากระหม่อมมีเยอะแล้ว’
‘โถ...ยอมเราหน่อยไม่ได้หรือ แค่...เอ่อ ห้าปี เราสัญญาจะออกราชโองการถอนหมั้นให้’
‘ไม่พ่ะย่ะค่ะ ต้องภายในหนึ่งปี’ มาร์ควิสลีวานปฏิเสธทันควัน
‘งั้นสี่ปี’ จักรพรรดิต่อรอง
‘หนึ่งปีครึ่ง ไม่ขาดไม่เกิน’
‘สามปีครึ่งแล้วกัน มากกว่านี้ไม่ได้จริงๆ’
‘สองปี กระหม่อมให้มากกว่านี้ไม่ได้แล้ว’
‘สามปีเถอะ ภายในสามปี ถ้าอเล็กซีสไม่ถอนหมั้น...เราจะออกราชโองการเอง พวกเจ้าช่วยไว้หน้าเราหน่อยไม่ได้จริงเหรอ’
ขุนนางสูงวัยทั้งสองหันมองหน้ากัน
สามปี...ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม
อย่างไรก็ตาม เพื่อป้องกันการผิดสัญญา มาร์ควิสลีวานและดยุกมาร์คัสกดดันให้จักรพรรดิเขียนราชโองการล่วงหน้า
ระหว่างเขียนราชโองการ จักรพรรดิเปรยว่า...
‘ว่าแต่ว่า ทั้งสองตระกูลสนิทสนมกันตอนไหน เหตุใดเราไม่ยักรู้เลย’
(ภาค 2) บทที่ 40เวทมนตร์ของฟาฟา ก่อนหน้านั้นเล็กน้อย... คาร์ริสจูงมือฟาร์เลียสแล้วเดินนำมาที่ห้องนั่งเล่นที่อยู่ข้างๆ ห้องทำงานของริคาร์โด ภายในห้องนั่งเล่นถูกตกแต่งสำหรับเด็กเล็กโดยเฉพาะ ตู้หนังสือตัวเตี้ยมีหนังสือภาพและหนังสือนิทานเต็มชั้น กลางห้องปูด้วยพรมนุ่มๆ มีทั้งหมอนทั้งตุ๊กตา รวมถึงของเล่นอื่นๆ อีกมากมาย ดวงตาสีเขียวมรกตของฟาร์เลียสเบิกโตเมื่อเห็นหนังสือที่อยู่ในชั้น ปิดบังความตื่นเต้นไม่มิด เจ้าหนูน้อยยิ้มอย่างภาคภูมิ วิ่งไปหยิบหนังสือนิทานออกมาหลายเล่มแล้วยื่นให้พี่ชายคนสวย “ฟาฟาชอบอ่านหนังสือเหยอ” “ชอบมาก!” ฟาร์เลียสพยักหน้าแรงๆ พลางรับหนังสือนิทานมาจากมือของเจ้าตัวน้อย “คายิ้ดก็ชอบ” ว่าแล้วก็นั่งแหมะบนพื้นพรม ฟาร์เลียสนั่งตาม “ถ้าอย่างนั้นมาอ่านนิทานกันนะครับ ท่านคาร์ริส” “เรียกคายิ้ดเจยๆ” เจ้าตัวจิ๋วไม่เพียงกำชับ ยังยื่นมือเล็กปิดปากเด็กชายที่โตกว่า มือเล็กที่ปิดปากฟาร์เลียสนุ่มนิ่มแล
(ภาค 2) บทที่ 39ความสงสัยที่ถูก(ขัดจังหวะ) ดาร์เรียนที่กำลังจะก้าวออกจากประตู หากก็ต้องหมุนตัวหันกลับมามองริคาร์โด แต่รอแล้วรอเล่า ชายหนุ่มกลับเอาแต่นั่งเงียบ “ท่านริคาร์โด มีธุระกับข้าหรือครับ?” ดาร์เรียนเอียงศีรษะถามด้วยความสงสัย ริคาร์โดประสานมือเท้าคาง ...เจ้าจำข้าไม่ได้จริงหรือ ...เรื่องคืนนั้นในคฤหาสน์เล็กด้วย ...หลังจากนั้น ทำไมไม่ติดต่อข้า ...ตอนนี้เจ้ากับเจ้าชายอเล็กซีสยังติดต่อกันหรือไม่ คำถามมากมายผุดขึ้นในหัว แต่จนแล้วจนรอดริคาร์โดก็ไม่ได้ถามออกมา สุดท้ายทำได้แค่มองดาร์เรียนด้วยสีหน้าขึงขัง หากกระนั้นก็หลุดปากคำว่า ‘เจ้าชายอเล็กซีส’ ออกมาอย่างไม่รู้ตัว ทันใดนั้นดาร์เรียนแสดงสีหน้ารู้สึกผิด เป็นสีหน้าแบบเดียวกับตอนที่ช่วยเจ้าหนูน้อยคาร์ริสตอนตกบันได เรื่องเจ้าชายอเล็กซีส ดาร์เรียนรู้สึกผิดต่อซีเอลมาตลอด แต่ไม่มีโอกาสได้อธิบายหรือขอโทษ เพราะต่างฝ่ายต่างเจอกันผ่านๆ ในงานเลี้ยงเท่านั้น ในเมื่อริคาร์โดถามขึ้นมา ก็ขอตอบตรงนี้เลย “ข้ากับเจ้าชายไม
(ภาค 2) บทที่ 38พี่ชายคนสวย คลอลีน เทรย์เวอร์...น้องสาวเพียงคนเดียวของบารอนคาร์สัน เทรย์เวอร์ คลอลีนเป็นคนสวย และมีรอยยิ้มที่สดใส แต่การคลอดก่อนกำหนดทำให้เธอมีร่างกายที่อ่อนแอมาตั้งแต่เด็ก จึงต้องเก็บตัวพักฟื้นที่เมืองโรเวสต์ซึ่งอยู่แถบชนบท อันเป็นบ้านเกิดของท่านยาย คลอลีนเสียชีวิตด้วยอาการป่วยกำเริบเมื่อสี่ปีก่อน คุณผู้หญิงดูมัวส์ในวัยเจ็ดสิบ ได้ถือจดหมายที่เป็นลายมือของหลานสาวเดินทางมายังอาณาเขตกอร์เลต เพื่อนำจดหมายนั้นมาให้กับบารอนคาร์สันผู้เป็นหลานชาย เนื้อหาระบุสั้นกระชับ ราวกับว่าตอนที่เขียนจดหมาย เธอมีเวลาจำกัด ถึงท่านพี่คาร์สัน ชายที่น้องเคารพรักที่สุด ตอนท่านพี่ได้รับจดหมายฉบับนี้ น้องคงกลายเป็นเศษเสี้ยวเล็กๆ ของกลุ่มดาวอยู่ที่ไหนสักแห่งบนฟากฟ้า...ท่านพี่คะ ขออภัยที่ต้องบอกเรื่องนี้กะทันหันผ่านทางจดหมาย น้องขอฝาก ‘สมบัติอันล้ำค่าที่สุดในชีวิต’ ให้ท่านพี่ช่วยดูแลแทนน้องด้วย หากท่านพี่อยากบ่นน้องล่ะก็ ขอเป็นหลังจากนี้สักห้าสิบปี แปดสิบปี หรือหนึ่งร้อยปีก็จะดีใจมาก ท่านพี่ไม่ต้องรีบมาเจอเพื่อบ่นน้องก็ได้ค่ะ
(ภาค 2) บทที่ 37ค่ำคืนนั้น (2) พอถูกครอบครองริมฝีปาก ความปรารถนาก็ถูกกระตุ้นเร้า ดาร์เรียนเหมือนคนสติหลุดทันที ริมฝีปากงามเผยอเปิด จากนั้นเป็นฝ่ายสอดลิ้นเข้าไปในโพลงปากของริคาร์โด ชายหนุ่มเลิกคิ้ว จ้องมองใบหน้าคนสวยจากระยะประชิด พร้อมกับจูบแลกลิ้นอย่างลึกล้ำ ริคาร์โดตั้งใจจะรับผิดชอบดาร์เรียน แม้ว่าอีกฝ่ายจะมีชื่อเสียงไม่ดีนัก แต่...ไม่มีอะไรที่ริคาร์โดควบคุมไม่ได้ ฉะนั้นแล้ว ถึงดาร์เรียนมีนิสัยปอกลอกคนรวย เขาก็จะควบคุมนิสัยด้านนั้นของอีกฝ่ายเอง เสื้อผ้าของดาร์เรียนเลื่อนออกจากร่างกาย เผยผิวพรรณขาวผ่อง ใต้แสงจันทร์สีเงินที่สาดส่องเข้ามาทางหน้าต่าง นัยน์ตาคมเข้มจ้องมองยอดอกซ้ายขวาสีชมพูที่ชูชัน ริคาร์โดก้มหน้าลง ใช้ปลายลิ้นดุนดันยอดอกไปมา “อ่า อ๊า...” ดาร์เรียนร้องคราง เอวบางบิดส่ายอย่างคลุ้มคลั่ง ท่าทางแบบนั้น ยิ่งกระตุ้นเร้าสัญชาตญาณความเถื่อนของอัลฟ่า เรียวลิ้นที่ดุนดันยอดอกพลันเปลี่ยนมาดูดเม้มจนเกิดเสียง หนำซ้ำ มือใหญ่ยังเลื่อนลงเบื้องล่าง แหวกแย้มเรียวขาให้อ้ากว้าง
(ภาค 2) บทที่ 36 ค่ำคืนนั้น (1) กลิ่นหอมหวานอ่อนๆ ปลุกเร้าให้ส่วนที่ต่ำกว่าสะดือตื่นตัว ริคาร์โดไม่อยากรีบสรุปว่าความหอมเย้ายวนนี้คือกลิ่นฟีโรโมนของโอเมก้า(คู่ชีวิต) ทว่า...ยิ่งอยู่ใกล้ดาร์เรียน กลิ่นหอมนี้ยิ่งมัวเมาแทบทำให้สติของเขาหลุดลอย อยากกระโจนเข้าไปครอบครองอีกฝ่ายทันที เก้าปีที่ผ่านมา เขาไม่เคยได้กลิ่นฟีโรโมนของโอเมก้าอันเกิดจากอาการป่วย แต่แล้ววันนี้ กลิ่นหอมหวานชวนให้โหยหาทั้งเข้มข้นทั้งรุนแรงกระทบอยู่แค่เพียงปลายจมูก “อือ...” ริมฝีปากของคนสวมฮู้ดส่งเสียงงึมงำเหมือนไม่สบายตัว เสียงนั้นช่วยดึงสติของริคาร์โดกลับมาจากความคิด ไหนๆ ก็รู้แล้วว่าเจ้าของใบหน้าใต้ฮู้ดนี้เป็นใคร ขอดูให้เต็มสองตาหน่อยเถอะ ชายหนุ่มคิด ก่อนจะดึงฮู้ดสีเขียวลง ทันใดนั้น นัยน์ตาสีเข้มของริคาร์โดพลันเบิกกว้าง ...เป็นใบหน้าที่สวยมากจริงๆ ผิวขาวผ่องนวล แพขนตาหนา จมูกโด่งเล็กรับกับริมฝีปากคู่สวยสีชมพู จังหวะนี้เอง ดาร์เรียนปรือตาขึ้นเล็กน้อย ริคาร์โดจึงเห็นว่าอีกฝ่ายมีดวงตาสีน้ำตาลธรรมดา ม
(ภาค 2) บทที่ 35 ริคาร์โดกับโอเมก้า(ปริศนา) ...หกเดือนที่แล้ว ถึงแม้ริคาร์โดจะขึ้นชื่อว่าเป็น ‘หนุ่มเจ้าสำราญ’ หากก็ใช่ว่าจะหลับนอนกับใครไปเรื่อย หลังจากปฏิเสธโอเมก้าที่เพิ่งนัดเจอกันเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน ริคาร์โดตรงมาที่ร้านเหล้าของมาร์โก ดื่ม...และดื่ม เพื่อลืมคำพูดแย่ๆ ของโอเมก้าคนนั้น โอเมก้าบางคนงดงามแค่เพียงภายนอก ธาตุแท้นั้นมีแต่ให้ความรู้สึกแย่เกินรับไหว เหมือนอย่างบุตรชายคนรองของเคานต์เซนน์โรล เพราะเห็นว่าอีกฝ่ายหน้าสวยถูกใจ ฐานะยังคู่ควรเหมาะสม ริคาร์โดเลยตามจีบอยู่ช่วงหนึ่ง หัวค่ำวันนี้ก็ยังอุตส่าห์ชวนอีกฝ่ายออกมาเดต แต่พอริคาร์โดพูดถึงหลานชายปุบ อีกฝ่ายก็พูดจาเหยียดหยามซีเอลกับคาร์ริสของเขาทันที ‘ท่านริคาร์โดจะเลี้ยงดูลูกนอกสมรสของน้องชายจนถึงเมื่อไรครับ หากท่านแต่งงานแล้ว เด็กคนนั้นก็ยังจะอยู่ที่คฤหาสน์ลูกัสตาร์ต่อไปเหรอ?’ ‘พูดแบบนั้นหมายความว่ายังไง’ ‘เด็กคนนั้นมีปมด้อยเรื่องครอบครัวใช่ไหมล่ะครับ หากท่านริคาร์โดแต่งงานและมีลูกของตัวเองขึ้นมา เด็กนั่นจะต้องเกิดความอิจฉา ข้าคิดว่าท่านส่งเ