Share

(ภาค 1) บทที่ 7 วัยเยาว์ (1)

last update Last Updated: 2025-08-04 09:58:11

(ภาค 1)

บทที่ 7

วัยเยาว์ (1)

            ระหว่างถูกอุ้มกลับรถม้า ซีเอลหวนนึกถึงวันคืนเก่าก่อน

            ถ้าพูดถึงเรื่องเข้าใจผิด ไม่ได้มีแค่ไคล์เดนเท่านั้น แต่คนจากตระกูลฮิลล์ตันมักถูกมองว่า ‘น่ากลัว’ เพียงแค่พวกเขามีใบหน้าที่ดุดัน   

            ในปีที่ซีเอลอายุเจ็ดขวบ มีโอกาสมาเที่ยวเมืองโมซาน่า หนึ่งในเมืองภายใต้การปกครองของดยุกมาร์คัส ฮิลล์ตัน...พ่อของไคล์เดน  

            นอกจากอาณาเขตของสองตระกูลอยู่ติดกันแล้ว ดยุกมาร์คัสกับมาร์ควิสลีวานไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางการเมือง ทั้งสองตระกูลรู้จักกันเพียงผิวเผิน   

            ปีนั้น มาร์ควิสลีวานได้วันหยุดพักร้อนยาว เลยมีโอกาสพาครอบครัวมาเที่ยวในเมืองโมซาน่า นครในอาณาเขตของดยุกมาร์คัส และยังเป็นเมืองใหญ่เจริญรุ่งเรืองในแถบตะวันตก

            ตั้งแต่มาถึงเมืองโมซาน่า มาร์ควิสลีวานพาลูกชายทั้งสองท่องเที่ยวในหลายสถานที่ ทั้งพาไปแช่บ่อน้ำพุร้อน และชิมอาหารจากทะเลสดๆ รสชาติโอชะ

            วันที่สามของการท่องเที่ยว ท่านพ่อพาพวกเขามาปิกนิกที่สวนสาธารณะประจำเมือง  

            สวนสวนอันกวางใหญ่ บ่อน้ำพุน่าตื่นตาตื่นใจ และยังมีดอกไม้นานาพรรณเบ่งบาน

            ท่านพ่อนั่งจิบชาฝรั่ง ซีเอลกับริคาร์โดเล่นซ่อนหา

            ภายใต้แสงแดดรำไรที่แสนอบอุ่น ซีเอลเป่ายิ้งฉุบชนะพี่ชายคลานไปแอบหลังพุ่มไม้เพื่อซ่อนตัวจากริคาร์โด ระหว่างลุ้นใจระทึก อยู่ๆ ก็ได้ยินเสียงสะอึกสะอื้นดังมาจากไหนสักแห่ง 

            ‘ฮึก...ฮื่อ....’

            เสียงสะอื้นไห้สะกิดความสงสัยของซีเอล เขาลุกจากที่ซ่อน เดินหาเสียงนั้น 

            หาอยู่สักพัก ในที่สุดก็เจอเด็กชายเรือนผมสีเงินนั่งกอดเข่าก้มหน้าร้องไห้ มองจากรูปร่างน่าจะอายุพอๆ กับซีเอล

            ‘เป็นอะไรไป หลงทางเหรอ’

            ซีเอลเข้าไปนั่งยองๆ ตรงหน้าเด็กชายผมสีเงินพลางถาม   

            ‘ย...อย่ามาคุย...ฮึกๆ กับข้าเลย’

            ‘ทำไมล่ะ’

            ดวงตากลมโตสดใสแสดงออกถึงความอยากรู้อยากเห็น  

            เด็กชายเงยหน้าขึ้นมานิดหนึ่ง ดวงตาสีเหลืองอำพันที่ซ่อนอยู่หลังเรือนผมสีเงินจ้องมองซีเอล สักครู่ก็ส่ายหน้าพูดเสียงแผ่วเบา ’...อย่ามองข้า’

            ‘คุยก็ไม่ได้ มองก็ไม่ได้ ทำไมล่ะ’ ซีเอลถามอย่างไร้เดียงสา 

            ‘ใบหน้าข้า...เหมือนปีศาจ’

            ได้ยินแบบนี้แทนที่จะกลัว กลับยิ่งทำให้ซีเอลสนใจมากกว่าเดิม 

            ‘ไหน...ให้ข้าดูหน่อย’

            ‘ก็บอกว่าหน้าข้าเหมือนปีศาจยังไงล่ะ!’

            เด็กชายผมเงินตวาดใส่เสียงดัง ซีเอลทำแก้มป่อง แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ไม่ได้โกรธ แค่รู้สึกไม่พอใจนิดหน่อย มากไปกว่านั้น เขาอยากรู้ว่าหน้าตาเหมือนปีศาจมันเป็นยังไง 

            ‘หน้าเจ้าเหมือนปีศาจแล้วมันจะทำไมกันล่ะ เจ้าก็เป็นเจ้าอยู่ดี หรือเจ้าต้องทำตัวเป็นปีศาจเหมือนกับหน้าตาด้วยเหรอ อีกอย่างนะ ปีศาจไม่ร้องไห้กันหรอก’

            จบคำพูดของซีเอล เห็นชัดว่าเด็กชายผมเงินตัวแข็งทื่อไปเลย สักพักให้หลัง อีกฝ่ายยอมเงยหน้ามองซีเอลตรงๆ  

            ทั้งที่ดูเด็กกว่าตนแท้ๆ ทำไมพูดจาแก่แดดจัง แต่กระนั้น คำพูดแก่แดดของเด็กนัยน์ตาสีฟ้าที่อยู่ตรงหน้ากลับทำให้เด็กชายรู้สึกมั่นใจอย่างน่าประหลาด  

            ‘เจ้าจะไม่กลัวข้าแน่นะ’

            ‘สัญญาเลย!’

            ไม่พูดเปล่าๆ ซีเอลยื่นมือน้อยๆ ให้อีกฝ่ายเกี่ยวก้อยสัญญา

            เด็กชายผมเงินเกี่ยวนิ้วก้อยกับซีเอลพร้อมบอก ’สัญญาแล้วนะว่าจะไม่กลัวข้า’

            ‘อืม!’

            ซีเอลพยักหน้าแรงๆ จนคอแทบเคล็ด  

            เด็กชายผมเงินลังเลสักครู่ หลังจากตัดสินใจแล้ว ใบหน้าที่ฟุบกับหัวเข่าค่อยๆ เงยขึ้นมา

            ผมหน้าของเด็กชายยาวลงมาปรกถึงดวงตา ซีเอลอยากมองให้ชัดๆ กว่านี้จึงยื่นมือไปปัดเรือนผมของเด็กชาย 

            อีกฝ่ายชะงัก ซีเอลเองก็ด้วย 

            เด็กชายผู้มีเรือนผมสีเงินอายุราวๆ แปดเก้าขวบ มากกว่าซีเอลไม่กี่ปี คิ้วหนาเข้ม นัยน์ตาสีเหลืองอำพันเหมือนกับดวงตาของสัตว์ร้าย จมูกโด่ง ริมฝีปากบางได้รูป มองรวมๆ ใบหน้าของเด็กคนนี้อาจมีความดุดัน แต่ไม่ได้น่ากลัวเหมือนปีศาจสักหน่อย

            ‘น่ารักออก’ ซีเอลโพล่ง 

            ‘ห๊ะ!?’ เด็กชายผมเงินตัวแข็งทื่อ 

            ‘ข้าบอกว่าเจ้าน่ารัก ว่าแต่ เจ้าชื่ออะไรเหรอ’

            ‘ไคล์เดน ฮิลล์ตัน’

            ‘ไคล์เดน ฮิลล์ตันเหรอ...เห๊ะ!?” 

            ไคล์เดนเอียงศีรษะเมื่อเห็นซีเอลส่งเสียงตกใจ

            ไคล์เดน ฮิลล์ตัน ชายผู้มีเรือนผมสีเงิน ใบหน้าหล่อเหลา ทว่ากลับมีดวงตาดุดันราวกับสัตว์ร้าย บ้านเกิดคือเมืองโมซาน่า...

            ในนิยายต้นฉบับ มีการบบรรยายถึงสามีของซีเอลไว้นิดหน่อย ในอนาคตผู้ชายคนนี้จะทารุณซีเอลจนตาย!

            พอนึกถึงจุดจบของตัวเองแล้ว ปากเล็กๆ สีชมพูขบกันจนเกิดเสียงกึกๆ   

            ไคล์เดนวัยแปดขวบรีบก้มหน้าลง ทั้งยังเอาผมลงมาปิดบังใบหน้าด้วย 

            ‘ว...ว่าแล้วเชียว เจ้ากลัวข้า’

            น้ำเสียงสั่นเครือเหมือนกำลังจะร้องไห้ดึงสติของซีเอลกลับมา 

            เขารีบแย้งว่า ‘ไม่ใช่!’

            ‘แต่เจ้าตัวสั่นเหมือนกลัวนี่น่า’

            ‘เพราะเจ้าเป็นลูกชายของท่านดยุกมาร์คัสต่างหาก’

            ‘เจ้ารู้จักพ่อข้าเหรอ’

            ซีเอลพยักหน้าติดๆ ’สาบานก็ได้ ข้าไม่ได้กลัวเจ้าจริงๆ แค่ตกใจที่รู้ว่าเจ้าเป็นลูกชายของนักดาบชื่อเสียงโด่งดัง’ แล้วซีเอลก็แนะนำตัวเองว่าเป็นลูกชายคนเล็กของมาร์ควิสลีวาน ท่านพ่อของพวกเขารู้จักกัน   

            ใบหน้าที่เอาแต่ก้มต่ำเงยขึ้นมา ดวงตาสีเหลืองอำพันเป็นประกาย

            ‘เจ้ารู้จักพ่อของข้าจริงๆ ด้วย!’

            ดยุกมาร์คัส ฮิลล์ตันมีภรรยาสองคน ภรรยาคนแรกคือดัชเชสชาร์ลอต มาจากตระกูลชนชั้นสูง หลังจากดัชเชสชาร์ลอตเสียชีวิตด้วยอาการป่วยกะทันหัน สองปีต่อมาดยุกมาร์คัสก็แต่งงานกับภรรยาคนที่สอง วีเวีย...ภรรยาคนที่สองเป็นสามัญชน และเป็นเพียงเบต้าธรรมดา

            ตระกูลฮิลล์ตันเชี่ยวชาญศาสตร์การต่อสู้ ทุกคนล้วนมีร่างกายแข็งแรง คนในตระกูลฮิลล์ตันจะมีออร่าความดุดันตั้งแต่เกิด พี่ชายและพี่สาวของไคล์เดน ในอนาคตจะเป็นนักดาบที่มีชื่อเสียง ตามรอยของดยุกมาร์คัส ส่วนไคล์เดน พอจับดาบเข้าสนามรบครั้งแรกก็ได้รับชัยชนะทันที ชายหนุ่มได้รับการแต่งตั้งเป็นเคานต์และได้อาณาเขตเบอร์แรมมาปกครอง  

            ระหว่างที่ไคล์เดนเดินทางกลับเมืองหลวง เป็นช่วงที่ซีเอลถูกเจ้าชายอเล็กซีสถอนหมั้น

            หากเป็นไปตามนิยายต้นฉบับ ซีเอลที่วางแผนสังหารนักบุญเรเซฟได้ถูกตัดสินโทษประหาร ทว่ามาร์ควิสลีวานได้ใช้ทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลไถ่ตัวลูกชายออกจากคุกใต้ดิน ซ้ำทูลขอให้จักรพรรดิช่วยลดทอนโทษลงมา ความพยายามของคนเป็นพ่อสั่นคลอนจิตใจของจักรพรรดิ ทว่าความผิดของซีเอลนั้นใหญ่หลวงเกินกว่าจะให้อภัย ดังนั้นจักรพรรดิจึงมีราชโองการให้ซีเอลแต่งงานกับเคานต์ไคล์เดน

            การแต่งงานของทั้งสองไม่ใช่เรื่องน่ายินดี ผลจากสงครามทำให้ไคล์เดนมีอาการคลุ้มคลั่งรักษาไม่หาย ชะตากรรมของซีเอลนับว่าเลวร้ายกว่าการถูกประหารเสียอีก หนึ่งปีต่อมาซีเอลตายเพราะอาการบอบช้ำภายใน  

            ตามต้นฉบับ ซีเอลได้เจอกับไคล์เดนครั้งแรกคือตอนอายุยี่สิบเอ็ด นั่นก็คือวันแต่งงาน

            แต่แล้วทำไม ซีเอลถึงเจอไคล์เดนเร็วขนาดนี้    

            หากนี่คือโชคชะตา....

            ใช่ ต้องเป็นโชคชะตาแน่ๆ ผลจากที่ซีเอลไม่เดินตามเส้นทางของตัวร้าย เป็นเด็กดี และไม่กลั่นแกล้งใคร พระเจ้าเลยทำให้เขากับสามี(ในอนาคต)ได้เจอกันก่อนกำหนด อีกอย่าง ไคล์เดนตอนนี้ดูไม่เหมือนคนที่ชอบความรุนแรง ถ้าสาเหตุที่ทำให้ไคล์เดนเปลี่ยนไปเกิดจากความกดดันของสงคราม เช่นนั้นมีอะไรช่วยปลอบประโลมไคล์เดนได้บ้าง

            อ๊ะ จริงสิ 

            ไคล์เดนไม่มีเพื่อน และเหมือนจะถูกล้อว่าหน้าเหมือนปีศาจ

            ถ้าสาเหตุนี้ทำให้ไม่มีใครยอมรับไคล์เดน อย่างนั้นเขาจะเป็นเพื่อนให้เอง!  

            ‘ไคล์เดน’

            ซีเอลโพล่งพร้อมคว้ามือเด็กชายมากุมแน่น  

            ‘อะ อะไร!?’  

            ‘เรามาเป็นเพื่อนกันเถอะ’

            ไคล์เดนตะลึง ‘พะ...พูดจริงเหรอ...’

            ซีเอลยิ้มแป้น ’ข้าเห็นใบหน้าของเจ้าแล้ว แต่ก็ไม่ได้กลัวนี่น่า เพราะงั้นเรามาเป็นเพื่อนกันเถอะ’

            ชั่ววินาทีนั้น รอยยิ้มสดใสอันงดงามทำเอาหัวใจของไคล์เดนสั่นไหว ดอกไม้ที่เบ่งบานอยู่รอบตัวราวกับส่งกลิ่นหอมรื่น

            เพื่อน...ดีจัง ในที่สุดก็มีเพื่อนแล้ว! 

            หลังจากคิดอย่างดีใจ ศีรษะน้อยๆ ผงกสองสามที 

            ‘ดะ ได้สิ’

            ‘เย่ พวกเราเป็นเพื่อนกันแล้วนะ!’

            ‘อืม เพื่อนกัน’

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สามีของตัวร้าย น่ารักเหมือนกันนะ (ภาค 1-2)   (ภาค 2) บทที่ 74 บทพิเศษ

    (ภาค 2)บทที่ 74บทพิเศษ หลายปีต่อมา ภายในท้องพระโรงอันโอ่อ่า ณ พระที่นั่งอันสูงส่ง จักรพรรดิผู้งดงามที่สุดในประวัติศาสตร์ของจักรวรรดิอันเดอร์นิซ นั่งเท้าคางมองอัศวินหนุ่มผมเงินก้าวยาวๆ ตรงเข้ามายังบัลลังก์ แทนที่จะหยุดยืนเบื้องล่าง อัศวินหนุ่มผมเงินกลับก้าวขึ้นบันได วินาทีที่จักรพรรดิไม่ทันได้ตั้งตัว เขาคนนั้นใช้แขนแข็งแรงทั้งสองข้างเท้าลงบนที่เท้าแขนบัลลังก์ อัศวินหนุ่มโน้มตัวลงต่ำ นัยน์ตาสีฟ้าลึกล้ำจับจ้องมองดวงหน้าอันละเอียดลออของจักรพรรดิในระยะประชิด ทั้งๆ ที่อัศวินหนุ่มกล้าทำถึงขนาดนั้น กลับไม่มีองครักษ์คนใดเข้าไปขัดขวางเลยสักคน จักรพรรดิคนงามยังคงเท้าคางเช่นเดิม ขณะช้อนดวงตาคู่สวยขึ้นมองอัศวินหนุ่มผมเงิน น้ำเสียงนุ่มนวลชวนหลงใหลพลันดังออกจากริมฝีปากสีแดง “คิดจะทำอะไร?” อัศวินหนุ่มยิ้มมุมปาก ดวงตามองแพขนตาหนาขยับไหวเหมือนกับปีกผีเสื้อ ทั้งยังทำท่าสูดกลิ่นอายอันหอมหวานจากเรือนกายของจักรพรรดิ “กำลังขอรางวัลจากฝ่าบาทยังไงล่ะครับ” ว่าจบ ริมฝีปากของชายหนุ่มก็ประกบ

  • สามีของตัวร้าย น่ารักเหมือนกันนะ (ภาค 1-2)   (ภาค 2) บทที่ 73 บทส่งท้าย (2)

    (ภาค 2)บทที่ 73บทส่งท้าย (2) ชายหนุ่มพูดพร้อมกลืนกินของเหลวลงท้องทั้งหมด นิ้วที่อยู่ข้างในเพิ่มมาเป็นสามนิ้ว “อ๊ะ อ๊า!” ความร้อนหวนกลับมาอีกครั้ง ร่างบางบิดอย่างร้อนเร่าในขณะที่คาร์ริสขยายช่องทางเร้นลับต่อไป แต่แล้ว จู่ๆ คาร์ริสก็ดึงนิ้วทั้งสามออก “ขอโทษนะครับฟาฟา ข้าทนต่อไปไม่ไหวแล้วครับ” ฟาร์เลียสแยกแย้มเรียวขา สองมือยื่นมาข้างหน้า “...เช่นนั้น...ก็เข้ามา” อึก! คาร์ริสกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ นัยน์ตาสีฟ้าลึกล้ำหลุบมองช่องทางยับย่นที่แดงและบวมเล็กน้อย (อย่างกับดอกกุหลาบเลย) ฟาร์เลียสงดงามยวนใจไปเสียทุกส่วน สิ่งเหล่านั้นกระตุ้นอารมณ์ของคาร์ริสจนอดทนไม่ไหว มือหนึ่งแหวกน่องขาของคนใต้ร่าง มือหนึ่งจับส่วนแข็งขึงจดจ่อกับช่องทางเร้นลับ “ฮึก ฮ้า...” ความโอฬารแทรกเข้ามาในช่องทางคับแคบทีละนิด ร่างบางสั่นเทิ้มด้วยความซ่านเสียว น้ำตาคลอรื้นตรงหางตา ทั้งน่ารักทั้งน่าสงสาร แต่ว่า แม้จะเป็นเช่นนั้น หากผนังเนื้อด้านในก

  • สามีของตัวร้าย น่ารักเหมือนกันนะ (ภาค 1-2)   (ภาค 2) บทที่ 72 บทส่งท้าย (1)

    (ภาค 2)บทที่ 72บทส่งท้าย (1) เพราะเป็นครั้งแรกกับคนที่ชอบ คาร์ริสทั้งประหม่าและตื่นเต้น ถ้าเผลอรุนแรงเกินไปจนทำให้ฟาร์เลียสเจ็บจะทำยังไงดี แล้วหากว่าฟาร์เลียสไม่ชอบลีลาของคนที่เด็กกว่าล่ะ...ว่าตามจริงแล้ว คาร์ริสไม่เคยมีประสบการณ์ทั้งในโลกนี้และโลกก่อนเสียด้วย! ตอนนั้นเอง สองมือเรียวยื่นมาประคองใบหน้า คาร์ริสได้สติก่อนจะหลุบตามองเจ้าของมือเรียว “ไม่ต้องฝืนก็ได้” ไม่ได้ฝืนสักหน่อย แต่ว่า ฟาร์เลียสคงเข้าใจผิด คิดว่าเขากำลังฝืนตัวเองอยู่แน่ๆ เลยทำหน้าหม่นหมองแบบนั้น คาร์ริสรู้สึกไม่สบายใจที่ทำให้คนรักเข้าใจผิด จนอยากต่อว่าตัวเองแรงๆ สักหลายครั้ง ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาลังเล ตัวเองเป็นคนร้องขอเองแท้ๆ ยังจะมาทำให้อีกฝ่ายกังวลใจอีก “ขอโทษนะครับ ข้าเหม่อเพราะตื่นเต้น ก็ฟาฟาน่ารักขนาดนี้” ไม่เพียงพูดเปล่า คาร์ริสก้มหน้าลงจูบฟาร์เลียสทันที ลิ้นร้อนรุกล้ำเข้าไปในโพลงปาก เลาะตามแนวฟัน ดูดรัดกับลิ้นอ่อนนุ่มแสนหอมหวาน ร่างกายที่โหยหาคู่แห่งโชคชะตามานานแสนนาน พอถูกกระตุ้นนิดหน่อย

  • สามีของตัวร้าย น่ารักเหมือนกันนะ (ภาค 1-2)   (ภาค 2) บทที่ 71 ลงเอย

    (ภาค 2)บทที่ 71ลงเอย ระหว่างที่คาร์ริสกับเอลม่ารักษาตัวพร้อมกับวันหยุดยาว ภายในวังหลวงได้มีการไต่สวนลอร์ดเซเฟอร์โน่ พยานสำคัญชาวเมืองของเคานต์เออร์นอร์และนักเวทที่รอดชีวิตจากการระเบิดครั้งใหญ่ อย่างไรก็ตาม คดีของลอร์ดเซเฟอร์ปิดฉากลงอย่างรวดเร็ว โดยลอร์ดเซเฟอร์โน่สารภาพความผิดเพื่อแลกกับชีวิตของคนในตระกูล เหตุผลหลักของการก่อคดีครั้งนี้ นอกจากมีความโลภเป็นแรงจูงใจ ยังมีความคิดล้าสมัย อ้างว่าทนไม่ได้หากอำนาจของจักรวรรดิต้องตกอยู่ในมือของเจ้าชายฟาร์เลียสที่เป็นโอเมก้า เลยทำให้จักรวรรดิเกิดความวุ่นวาย แน่นอน ลอร์ดเซเฟอร์โน่ถูกตัดสินโทษประหาร เคานต์เออร์นอร์ได้รับการปลอบขวัญตามสมควร คาร์ริสกับเอลม่าได้รับรางวัลด้วยการเลื่อนยศ จากคดีของลอร์ดเซเฟอร์โน่ จักรพรรดิได้คิดทบทวนถึงความไม่ผิดพลาดของตนเอง หลังจากหาลือกับเหล่าขุนนางอยู่หลายวัน ในที่สุดก็มีประกาศแต่งตั้งฟาร์เลียสเป็นรัชทายาท และทันทีที่มีการประกาศออกไป บทบาทของเจ้าชายอเล็กซีสก็ถูกลดทอนลง ฤดูกาลเคลื่อนผ่านย่างเข้าสู่ปลายฤดูใบไม้ร่วง

  • สามีของตัวร้าย น่ารักเหมือนกันนะ (ภาค 1-2)   (ภาค 2) บทที่ 70 สารภาพ (2)

    (ภาค 2) บทที่ 70สารภาพ (2) ย้อนกลับไปตอนเกิดการระเบิดพลีชีพอันรุนแรง คาร์ริสได้กลิ่นคล้ายกำมะถัน บวกกับที่ตนได้รับการฝึกฝนมาอย่างหนักจากป้าเจซซี่ ประสาทสัมผัสจึงว่องไวเหมือนสัตว์ป่า คาร์ริสตะโกนเตือนทุกคนให้หนี แล้วคว้าเอลม่าพุ่งออกมา แต่ระเบิดนั้นไม่ได้เกิดจากเวทมนตร์เพียงอย่างเดียว ระเบิดรุนแรงพร้อมกับเปลวเพลิงโหมกระหน่ำ ป่านอกเมืองหนึ่งในสามส่วนถูกเผาไหม้จนวอด แรงอัดของระเบิดทำให้ทุกคนบาดเจ็บสาหัส โชคดีที่คาร์ริสพกน้ำศักดิ์สิทธิ์สำหรับรักษาบาดแผลและอาการป่วยที่ฟาร์เลียสเคยให้ไว้ ชายหนุ่มดื่มน้ำศักดิ์สิทธิ์รักษาตัวเอง ก่อนจะป้อนให้กับเอลม่าที่เจ็บหนักไม่ต่างกัน บาดแผลตามร่างกายแม้ไม่ได้หายสนิท หากน้ำศักดิ์สิทธิ์ก็ช่วยยื้อชีวิตไว้ได้ ยูเทซ บุตรชายของเคานต์เออร์นอร์รีบระดมทหารมาดับไฟ ทั้งยังเร่งหาแพทย์มาช่วยรักษาคนเจ็บ กระนั้นก็มีคนที่ช่วยไว้ไม่ทัน คาร์ริสกับเอลม่าพักรักษาตัวอยู่ที่คฤหาสน์เคานต์เออร์นอร์เพียงแค่สองวัน ก่อนจะออกเดินทางกลับเมืองหลวง ‘จะกลับทันทีเลยเหรอ พวกเจ้าควรอยู่ร

  • สามีของตัวร้าย น่ารักเหมือนกันนะ (ภาค 1-2)   (ภาค 2) บทที่ 69 สารภาพ (1)

    (ภาค 2) บทที่ 69สารภาพ (1) น่าจะราวๆ หนึ่งเดือน นับตั้งแต่คาร์ริสออกไปทำภารกิจสำคัญที่อาณาเขตของเคานต์เออร์นอร์ แม้ว่าหลังจากนั้น อุณหภูมิที่ลดต่ำผิดฤดูกาลจะสงบลงแล้ว แต่ยังไม่เห็นวี่แววของคาร์ริสและเอลม่า หนำซ้ำ ช่วงนี้ยังเหมือนว่าหน่วยอัศวินจะวุ่นวายกันน่าดู พอเป็นแบบนี้ ฟาร์เลียสรู้สึกหวั่นใจขึ้นมา ก่อนหน้านี้เคยให้มหาดเล็กประจำวังไปสอบถามที่หน่วยอัศวินอินทรีสีทอง ได้ความจากราฟาเอลว่า คาร์ริสกำลังทำหน้าที่ดาบแห่งราชา ไม่มีอะไรให้ต้องเป็นห่วง แต่ว่า หนึ่งเดือนแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมไม่มีข่าวอะไรบ้างเลย ระหว่างคิดด้วยความกังวล มหาดเล็กประจำวังก็ได้เข้ามารายงานกับฟาร์เลียส “เจ้าชายพ่ะย่ะค่ะ ท่านเอลม่าแห่งหน่วยอัศวินราชสีห์สีเงินกลับมาแล้ว แต่ดูจากสภาพเหมือนว่าจะบาดเจ็บหนักพ่ะย่ะค่” มหาดเล็กกล่าวจบก็ส่ายหน้า ท่าทางเช่นนั้นทำให้ฟาร์เลียสไม่สบายใจเป็นอย่างมาก “คาร์ริสล่ะ” ฟาร์เลียสโพลงถาม คาร์ริสกับเอลม่าออกไปทำภารกิจลับด้วยกัน หากว่าเอลม่ากลับมา คาร์ริสก็ต้องกลับมา

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status