พอหานตงเทียนพูดจบก็มีเสียงอือฮากันทั่วทั้งบริเวณลานบ้านของตากับยาย สายธารในร่างของอวี่หลิงมองหน้าของว่าที่สามีในอนาคต เขารูปร่างสูงใหญ่ผิวออกไปทางดำแดงเพราะตากแดดกลางแจ้งจะให้ขาวเหมือนบัณฑิตคงจะไม่ได้ หน้าซีกที่ไม่ปิดก็มีหนวดเคราแต่ฝั่งที่ปิดเอาไว้แค่ที่ดวงตามองไปเหมือนโจรสลัดในทะเลเลยสายธารคิดในใจเอาวะไหนๆเราก็ตายจนจากมาเข้าร่างคนอื่นแล้วคงมีคนอยากให้เรามาละนะ เธอคิดปลอบใจตัวเองหลังจากมองหน้าของวาที่สามีของตัวเองจนพอใจแล้ว ถึงแม้จะมีรอยแผลเป็นยาวลงมาข้างแก้มที่เด็กมองเห็นแล้วกลัว เพราะเขาไว้หนวดจึงทำให้แม้แต่สาวๆในหมู่บ้านยังมองนายพรานตาบอดด้วยความรังเกียจ เขาจึงไม่ค่อยเข้ามาในหมู่บ้านเท่าไรเวลาที่ไปขายสัตว์ป่าเขาก็ไปตั้งแต่ยามเหมาทุกคนจึงไม่ค่อยเห็นหน้าพรานหนุ่มแต่ถ้าเจอก็พากันวิ่งหนีเหมือนเขาจะมาเอาชีวิตใครไปเสียอย่างงั้น
หานตงเทียนก็มองสาวน้อยว่าที่ภรรยาที่มองหน้าเขาด้วยเช่นเดียวกัน สองสายตาสบกันใจของพรานหนุ่มเต้นรัวนี้เขาเป็นอะไรอยู่มาได้ยี่สิบสองหนาวไม่เคยสนใจผู้หญิงในหมู่บ้านเลยสักครั้ง แต่สบกับดวงตาที่ใสซื่อของนางแล้วใจของเขาสั่นไหวจนยกมือจับหน้าอกตัวเองหรือเราจะไม่สบายกัน หานตงเทียนคิดในใจและสังเกตุสีหน้าของว่าที่ภรรยาตัวเองเงียบๆ "เอาละในเมื่อได้ข้อยุติแล้วก็แยกย้ายกันกลับบ้านใครบ้านมันไปได้แล้ว" หัวหน้าหมู่บ้านบอกลูกบ้านที่ตามไปที่ลำธารในป่า ทุกคนจึงแยกย้ายกันเดินออกไปจากลานหน้าบ้านของตากับยาย แต่ยังพูดกันเสียงดังว่าน่าสงสารนังหนูอวี่หลิงที่แต่งให้กับสามีตาบอดที่ยากจนไม่รู้จะพากันไปอดตายเพิ่มอีกหรือเปล่า บางคนก็สงสารด้วยความจริงใจ บางคนก็ซ้ำเติมในความโชคร้ายของคนอื่น สายธารจึงส่ายหัวให้กับความคิดของคนที่นี้ก็แค่ตาบอดไม่ใช่โรคติดต่อเสียหน่อย ทำยังกับเขานำเชื่อโรคไปให้อย่างแหละเหอะสมองพิการกันทั้งหมู่บ้านไปแล้วคนพวกนี้ เห็นคนพิการไม่ได้ชอบคิดว่าสวรรค์ลงโทษและสาปแช่งให้เขาเป็นเช่นนี้ทุกคนจึงไม่อยากเข้าใกล้เพราะกลัวว่าตัวเองจะโชคร้ายไปด้วยนั้นเอง สายธารได้แต่ส่ายหัวในความคิดของคนพวกนี้ที่มองคนแค่รูปร่างภายนอก คนดีๆจึงต้องเสียใจที่ต้องมาเจอเรื่องน่าปวดหัวเช่นนี้ หานตงเทียนก็คงจะเสียใจมากเช่นเดียวกันที่คนในหมู่บ้านต่างก็รังเกียจครอบครัวของเขาจึงไม่ค่อยพาน้องเข้ามาในหมู่บ้านถ้าไม่จำเป็น เด็กในหมู่บ้านที่พอมองว่าพวกเขาเข้ามาต่างก็พากันวิ่งหนีเพราะกลัวจะโชคร้ายไปด้วยนั้นเอง "เอาละนังหนูปีนี้เองก็จะครบสิบแปดในไม่กี่วันในเมื่อนายพรานเขายอมรับแต่งเองนังหนูอวี่หลิงแล้วข้าก็จะมาในวันที่พวกเจ้าแต่งงานกันเจ้าจะว่าอย่างไร" ละหัวหน้าหมู่บ้านถามอวี่หลิงขึ้น เห้อะข้าจะไปว่าอะไรได้สายธารคิดในใจในเมื่อพวกท่านเจ้าจี้เจ้าการให้ข้าต้องแต่งเท่านั้นนี้นะยังจะมาถามหาความอะไรอีกเล่านางคิดแต่ในใจแต่ไม่พูดออกมา ก่อนจะเงยหน้ามองทุกคนที่ยืนอยู่ตรงหน้ามีตากับยายอาของนางภรรยาของท่านอาและลูกทั้งสองคนของท่านอา ที่ยืนจับมืออวี่หลิงในกำลังใจนางอยู่ข้างๆในความทรงจำครอบครัวของท่านอาดีกับนางทุกอย่างรวมทั้งตากับยายด้วยที่เสียทั้งลูกสาวและลูกเขยจากไข้ป่าไปพร้อมกันทิ้งหลานสาวเอาไว้ให้ดูต่างหน้า "ข้าไม่เป็นไรเจ้าค่ะข้าจะแต่งให้นายพรานหานตงเทียน ข้าต้องขอโทษด้วยเจ้าค่ะที่ทำให้ท่านนายพรานต้องเดือดร้อนที่ช่วยเหลือข้าจนต้องมารับผิดชอบด้วยการแต่งงานกับข้าขอโทษจริงๆเจ้าค่ะ" สายธารในร่างอวี่หลิงลุกขึ้นก้มขอโทษหานตงเทียนจากใจที่ต้องรับนางไปเป็นภรรยาด้วยความไม่เต็มใจ หานตงเทียนเองก็ตกใจที่นางยอมแต่งให้เขาโดยที่ไม่โวยวายที่ได้สามีตาบอดเช่นเขา ทั้งยังขอโทษเขาอีกที่ต้องมาเดือดร้อนไปกับนางด้วยเขาจึงตอบว่าที่ภรรยาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงหลายส่วน "ไม่เป็นไรถ้าเจ้าไม่รังเกียจครอบครัวของข้าที่ยากจนทั้งยังมีน้องทั้งสองคนที่ต้องดูแลอีก" หานตงเทียนตอบนางกับ "อ้อข้าไม่รังเกียจเลยเจ้าค่ะข้ายินดีแต่งให้ท่านด้วยความเต็มใจเงินทองเป็นของนอกกายข้าจะช่วยท่านหาเองเจ้าค่ะไม่ต้องกลัว" อวี่หลิงตอบคำถามของหานตงเทียนด้วยรอยยิ้ม หานตงเทียนมองหน้าของอวี่หลิงที่ยิ้มให้เขาจนตาหยี่จนตาพร่ามัวนางบอกไม่ได้รังเกียจครอบครัวของเขาเลยทั้งยังจะช่วยเขาหาตำลึงเพิ่มขึ้นมาอีกด้วย เขาจึงยกยิ้มที่มุมปากด้วยความพอใจก่อนจะวางหน้าเรียบเฉยไม่ให้ใครเห็นรอยยิ้มเมื่อสักครู่ของเขา ตากับยายจึงเดินเข้ามาหาหลานสาวถามด้วยความเป็นห่วง "เจ้าพูดจริงใช่ไหมหลิงเอ๋อร์ถ้ากลัวก็บอกตากับยายถึงเราจะยากจนข้าก็รักเจ้ามากไม่ต่างไปจากลูกของอาของเจ้าเลย" ยายบอกหลานสาวและกอดนางแนบอก สายธารกอดยายตอบที่ครอบครัวนี้รักหลานเท่าเทียมกันแม้จะยากจน นางคิดถึงตากับยายในภพเดิมที่แสนดีเช่นเดียวกันหรือนี้จะเป็นครอบครัวเก่าในภพเก่าและให้นางย้อนกาลเวลามาช่วยทุกคนจากความอดอยาก ไม่เป็นไรต่อไปนี้ข้าจะดูแลคนในครอบครัวของเจ้าเองอวี่หลิงสายธารพูดในใจอย่างหมายมั่น "ยายจ๋าอย่าห่วงข้าสบายดีและเต็มใจแต่งให้นายพรานเจ้าค่ะ พวกท่านสบายใจได้เลยข้าจะไปอยู่กับสามีที่บ้านเชิงเขาหลังจากแต่งงานแล้ว บ้านหลังนี้ให้อวี่ซิงอยู่ต่อถ้านางแต่งงาน "แค่ช่วยดูแลบ้านแทนข้าด้วยหรืออยากทำบ้านหลังไหม่ก็ได้ใกล้กันได้เลยข้ายินดีเจ้าค่ะตายาย" อวี่หลิงตอบทุกคนให้สบายใจ อวี่จางเฉิงถามหลานสาว "เจ้าแน่ใจแล้วอาก็ไม่ขัดถ้าหลานอยู่ที่บ้านของสามีไม่ได้บ้านหลังนี้ก็ยังเป็นของหลานอาจะดูแลเอาไว้ให้เจ้าเอง" "เจ้าค่ะท่านอาขอบพระคุณนะเจ้าคะที่ทุกคนดูแลข้ามาเป็นอย่างดีข้าจะตอบแทนคุณพวกท่านอย่างแน่นอน" จากนั้นอวี่ซิงก็มากอดญาติสาวเช่นเดียวกันเพราะทั้งคู่เกิดไล่เรี่ยกันอวี่หลิงห่างจากอวี่ซิงไม่กี่ปี "ทุกคนไม่ต้องห่วงข้าเต็มใจแต่งงานให้นายพรานหานตงเทียนเจ้าค่ะ" อวี่หลิงตอบเสียงชัดเจนจนหานตงเทียนมองนางด้วยความสนใจเช่นเดียวกันที่นางไม่กลัวเขาเหมือนคนในหมู่บ้านหรือในที่สุดอวี่หลิงนางก็เจ็บท้องคลอดลูกในตอนกลางคืนที่สามีเตรียมหมอตำแยเอาไว้สามคนเถ้าแก่ร้านทำเครื่องประดับหามาให้สำหรับทำคลอดกับอวี่หลิงโดยเฉพาะ ตอนดึกในห้องนอนในมิติกับสามีนางปวดท้องจนพาสามีออกมาจากในมิติมานอนในห้องที่เตรียมเอาไว้คลอด หานตงเทียนเรียกน้องสาวเสียงดังให้ต้มน้ำช่วยหมอตำแยเสียงดังตื่นเต้นทั้งร้อนรนไปหมดเสียงตีเกราะดังขึ้นคนงานในไร่รีบลุกไปที่บ้านของเจ้านายทันทีที่ตอนนี้นายหญิงคงกำลังเจ็บท้องจะคลอดนายน้อยหรือคุณหนูของไร่แล้ว ทุกคนจึงรีบมาช่วยกันต้มน้ำคอยรับใช้ว่าในห้องทำคลอดของนายหญิงต้องการอะไรบ้างเพราะทุกคนต่างก็รอคอยนายน้อยคุณหนูน้อยกันทุกคนหานตงเทียนเดินวนเวียนที่หน้าประตูห้าทำคลอดจนหานซูอิงตาลายไปหมดรวมทั้งหานตงเหวินด้วยที่ไปส่งข่าวบอกความให้คนที่บ้านของท่านตาอวี่เซี่ยท่านยายกับท่านอาของนางว่าพี่สะใภ้ใหญ่ปวดท้องจะคลอดลูกแล้วครอบครัวอวี่จึงรีบมาที่บ้านของนางกันทุกคนยกเว้นอวี่ซิงที่จะมาในตอนเช้าเพราะท้องของนางก็ใหญ่โตไม่แพ้กันกับอวี่หลิงเสียงกรีดร้องของเมียรักหานตงเทียนใจจะขาดเขาอยากเจ็บแทนนางทุกอย่างถ้าเลือกได้นางบอกว่าคนสมัยนี้คลอดลูกน่ากลัวเพราะไม่มีโรงหมอที่ใหญ่
หลังจากช่วยชาวบ้านและคนในเมืองนี้ก็ผ่านมาได้สองเดือนกว่าๆแล้ว แต่ข่าวการช่วยเหลือจากสองครอบครัวที่นายน้อยหลี่ออกหน้าให้แทน นายอำเภอแจ้งบอกกับชาวบ้านว่าที่ผ่านหน้าหนาวมาได้ในหนึ่งเดือนที่หนักสุดเพราะขาดจากการติดต่อจากเมืองหลวงและไม่มีเสบียงส่งมาได้เพราะพายุหิมะที่ตกหนัก ที่ทุกครอบครัวของชาวบ้านที่ได้ของแจกจ่ายมาจากสามครอบครัวคือเหลาอาหารของนายน้อยหลี่และครอบครัวตระกูลอวี่กับครอบครัวหานแห่งหมู่บ้านให่หนาน ชาวบ้านธรรมดาที่ยึดอาชีพทำสวนผักขายที่นำข้าวปลาอาหารมาแจกจ่ายในตอนที่หิมะตกหนักที่ผ่านมาสร้างชื่อเสียงให้กับสามครอบครัวในอำเภอนี้เป็นอย่างมาก จนนายอำเภอออกมาขอบคุณถึงที่บ้านเชิงเขาของสองครอบครัวตาหลานและได้รางวัลแห่งการทำดีที่นายอำเภอส่งไปที่เมืองหลวงเรื่องการบริจาคช่วยเหลือชาวบ้านตอนที่พายุหิมะถล่ม เป็นหน้าหนาวที่ยาวนานถึงหกเดือนตอนนี้ที่บ้านไร่พลิกหน้าดินและหว่านข้าวในที่ดินที่แบ่งเอาไว้ปลูกข้าวสามร้อยกว่าหมู่ ผักก็ทำการปลูกจนหมดทุกแปลงแล้วที่ผ่านมาทำตำลึงให้กับสองครอบครัวตาหลานมากมาย จนท่านยายร่ำให้ด้วยความดีใจที่ทุกวันนี้ไม่ต้องกลัวจะกับไปลำบากอีกต่อไปเพราะหลานสาวได้ทำอาชีพที่ยั่ง
"ตามที่จริงข้าก็ไม่ว่าอะไรหรอกเจ้าค่ะท่านลุงผู้ใหญ่บ้าน ข้ายินดีช่วยเหลือคนที่ตกทุกข์ได้ยากเช่นเดียวกันเอาเป็นว่าข้าจะจัดเตรียมเอาไว้ให้ทุกครอบครัวในหมู่บ้านของพวกเราเลย ท่านลุงก็ไปบอกให้พวกเขามารับที่หน้าบ้านของข้าได้เลยหรือท่านลุงจะรับไปแจกแทนข้าก็ได้เพราะบางครอบครัวพวกเขาต่างรังเกียจครอบครัวของสามีข้าคงไม่กล้ามารับด้วยตัวเองก็ได้" นางบอกให้หัวหน้าหมู่บ้านได้รับรู้"ถ้าพวกมันคิดเช่นนั้นก็พากันอดตายไปเถอะข้าจะไปประกาศให้รับรู้กันทั้งหมู่บ้าน ใครไม่มาก็ไม่ต้องเอาในเมื่อจิตใจแคบแคบต่อพวกเจ้าเองข้าก็คงไปช่วยเหลือพวกเขาไม่ได้แต่ที่วิ่งมาที่บ้านของข้าก็มีแต่พวกที่เคยรังเกียจหานตงเทียนนะส่วนใหญ่" หัวหน้าหมู่บ้านบอกกับอวี่หลิง"ข้าไม่เป็นอะไรหรอกขอรับท่านลุงข้าจะช่วยเท่าที่จะช่วยได้แต่อย่าเข้ามาล้ำเส้นข้าก็พอ" หานตงเทียนตอบกลับไป อวี่หลิงจึงถามท่านตาเรื่องนี้ด้วย"จะช่วยเหลือชาวเมืองร่วมกันกับข้าไหมเจ้าคะท่านตาท่านอา ข้าอยากช่วยคนที่ลำบากพวกเขาคงจะมีชีวิตไม่ต่างกับพวกเราเหมือนเมื่อก่อนข้าสงสารเด็กกับคนแก่เจ้าค่ะ ในเขตอำเภอข้าจะให้นายน้อยหลี่ออกหน้าให้เพราะข้าไม่ชอบความวุ่นวาย จะส่งของไปให้ห
หน้าหนาวนี้ยาวนานถึงหกเดือนข้าวของที่ชาวบ้านพากันซื้อมาตุนเอาไว้กำลังขาดแคลนเพราะว่าทุกปีจะหนาวแค่สามถึงสี่เดือน แต่ปีนี้เกิดพายุหิมะถล่มในหลายเมือง ดีที่ก่อนที่พายุจะถล่มหนักนายน้อยหลี่ได้ขนส่งผักผลไม้ส่งไปทุกเมืองเพียงพอต่อการทำอาหารและขายในหนึ่งเดือนตอนนี้จึงหยุดส่งมาได้หนึ่งอาทิตย์แล้วเพราะหิมะตกหนักมาก ทั้งยังมีพายุอีกเขาจึงเอาความปลอดภัยของคนงานและม้าเอาไว้ก่อนเพราะที่ส่งไปก็มากมายพอขายแล้วในตัวเมืองก็วุ่ยวายเพราะพายุหิมะถล่มคนก็ขาดแคลนเสบียงเพราะมันเข้าเดือนที่ห้าแล้วมีเพียงงานของอวี่หลิงกับท่านอาที่ไม่ขาดผักและอาหารต่อให้หนาวทั้งปีอวี่หลิงนางก็ยังอยู่ได้อย่างสบาย ตอนในหมู่บ้านคงกำลังวุ่นวายไหนจะพายุถล่มไหนจะขาดอาหารการกินทั้งกลัวว่าบ้านจะรับน้ำหนักไม่ไหวถล่มลงมาใส่คนในครอบครัวอีก"ท่านพี่หนาวนี้ทำไมยาวนานจังเลยละเจ้าคะ ข้าว่าคนในหมู่บ้านและตัวเมืองคงวุ่นวายน่าดูนี้ก็ห้าเดือนแล้วยังไม่มีวี่แววว่าหิมะจะหยุดตกเลย ข้าว่าอากาศมันแปรปวนยิ่งนักปีนี้ดีนะเจ้าคะที่ไร่ของเราไม่ขาดแคลนอาหารการกินข้าสงสารชาวบ้านที่ไม่มีตำลึงพอที่จะตุนเสบียงได้ยาวนานหลานเดือนทั้งคนไร้บ้านอีกเฮ้อ" นางถออนหา
ในที่สุดการเก็บผลชีกวาก็เสร็จไปเรียบร้อยอวี่หลิงนางจัดงานเลี้ยงให้กับรายได้ที่ขายทั้งผักรอบแรกกับแตงโมนางได้ตำลึงมาหลายแสน นางจึงฉลองให้กับทุกคน จนแทบจะคลานออกจากวงของงานเลี้ยงกันเลยทีเดียวและคนงานนางยังให้พิเศษกับครอบครัวของคนงานของนางครัวละหนึ่งร้อยตำลึงเงิน ให้เด็กน้อยทั้งสิบคนอีกคนละยี่สิบตำลึงเงินให้ทุกคนมีกำลึงใจทำงานให้นางกันทุกคนส่วนเด็กน้อยที่หัดปักผ้าสามสี่คนลูกของคนงานนางยังให้คนละห้าตำลึงเงินพวกเขาจะได้มีกำลังใจในการทำงานยิ่งๆขึ้นไป อีกทั้งยังทำตำลึงให้เลี้ยงดูตัวเองและครอบครัวอีกต่อไปในภายภาคหน้ามีเพียงครอบครัวของท่านตากับท่านอาของนางที่ไม่รับตำลึงจากหลานสาวแต่ให้ทำอาหารที่อร่อยให้กินก็พอแล้ว เพราะท่านอาได้ตำลึงเป็นแสนมาเช่นเดียวกันในตอนนี้ทั้งสองครอบครัวไม่ขาดตำลึงทั้งยังหามาได้ทุกวันจากการส่งปลาทุกวันอีกที่เหลาอาหารทั้งสองสาขาของนายน้อยหลี่เหลียงเฉิน และท่านก็ยังจ่ายค่าเหนื่อยให้กับคนงานทุกคนในไร่เช่นเดียวกันกับหลานสาวด้วยทั้งสองไร่เพราะใช้ระบบเดียวกันทุกอย่างและคนที่ได้กำไรมากสุดคือนายน้อยหลี่นั้นเอง แต่อวี่หลิงนางรับมาสามเด้งเลยทั้งค่าสูตรอาหารทั้งส่วนแบ่งหนึ่งส่วนจ
ในที่สุดผักที่บ้านของท่านอาของนางก็ตัดเสร็จใช้เวลาหนึ่งอาทิตย์เท่ากัน ตอนนี้กำลังไปเก็บชีกวาที่ไร่ของอวี่หลิงเกือบสามสิบหมู่รถม้าวิ่งเข้าออกที่บ้านไร่เชิงเขาทุกวัน ครอบครัวของท่านอาก็มาช่วยนางที่ไร่กันทุกคนเพราะแตงโมที่ไร่ของนางมีแต่ลูกใหญ่ๆเนื้อสีแดงหวานมากจนนายน้อยหลี่ต้องเหมารถม้ามาช่วยอีกจากต่างอำเภอใกล้เคียงที่มีสาขาของเหลาอาหารของเขา โดยผู้ดูแลเหลาหารถม้ามาให้ห้าสิบคันเลยจึงจะพอขนส่งแตงโมและผักส่งไปต่างเมืองแต่ก็แทบจะไม่พอขายสร้างกำไรให้นายน้อยหลี่จนยิ้มแก้มแทบจะแตกหลังจากวันที่เก็บผักวันสุดท้ายท่านอาได้เลี้ยงฉลองให้กับคนงานและคนที่มารับจ้างกันทุกคนรวมทั้งครอบครัวของอวี่หลิงด้วย นายน้อยหลี่ดื่มเหล้าของอวี่หลิงจนเมาได้ที่ก็สารภาพรักอวี่ซิงจนนางอายม้วนหลบหลังอวี่หลิงตลอดเวลา นางบอกกลัวว่าเขาจะรังเกียจที่นางเป็นคนบ้านป่าคงไม่สามารถไปเป็นฮูหยินของเขาได้ที่เมืองหลวงได้และนางจะอยู่ที่บ้านไร่ไม่จากไปไหนจากท่านพ่อท่ายแม่ตากับยายและอวี่หลิงญาติของนางเอง ซึ่งนายน้อยหลี่ก็บอกว่าเขาจะอยู่ที่นี้เพราะบิดายกเหลาอาหารให้สองสาขาที่หุ้นกันกับหลงจู๊ดูแลทั้งสองสาขา และคงต้องอยู่ที่นี้ตลอดไปจะกลับเ