แชร์

บทที่ 8

ผู้เขียน: ปลายฝนต้นหนาว
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-22 16:02:34

"พี่ใหญ่ท่านมามืดเลยนะขอรับวันนี้ไหนบอกว่าแค่ขึ้นไปวางกับดักอย่างไรเล่า" น้องชายถามพี่ชายด้วยความเป็นห่วงพวกเขามีกันแค่สามคนพี่น้องถ้าไม่มีพี่ชายใหญ่สองพี่น้องต้องตายตามพี่ชายไปอย่างแน่นอนเพราะคนในหมู่บ้านรังเกียจพวกเขาที่มีพี่ชายตาบอดจนไม่มีเพื่อนเล่นด้วยเลยสักคนพวกเขาจึงมีกันแค่สามคนเท่านั้น

"อ้อพอดีพี่เจอครอบครัวของว่าที่พี่สะใภ้ของพวกเจ้านางขึ้นไปหาของป่าจึงเจอ พวกนางโชคดีได้หมูป่าตัวใหญ่ลากกันลงมาถึงครึ่งทางที่พี่ลงเขามาพอดีจึงช่วยพวกเขาลากเข้าไปที่บ้านและช่วยชำแหละหมูป่าจนเสร็จได้เนื้อหมูมาเยอะแยะเลยในตระกร้าข้างหลังพี่ ยังมีในห่อผ้านี้ว่าที่พี่สะใภ้ใหญ่ของพวกเจ้านางบอกว่าเป็นอาหารใหม่ที่นางเจอในป่าจึงทำเผื่อพวกเราพร้อมกับครอบครัวของนางด้วย นี้ไงเจ้าเอาไปขึ้นโต๊ะอาหารเถิด" หานตงเทียนยกน้องห่อผ้าให้น้องสาวคนเล็กนำไปเปิดใส่ถ้วยกินมื้อค่ำกัน

"ข้าอยากเจอหน้าพี่สะใภ้ใหญ่ยิ่งนักเห็นพี่ชายรองบอกนางน่ารักมากพูดจาไพเราะมากๆเลยเจ้าค่ะ วันนี้พวกข้าก็ทำความสะอาดบ้านรอนางแล้วนะเจ้าคะ" นางบอกก่อนจะเดินยิ้มเข้าไปในบ้านพร้อมพี่ชายที่เดินตามหลังนางมาติดๆ

"เดี๋ยวก็ได้เจอ กินข้าวก่อนค่อยไปหมักหมูใส่ใหเอาไว้พรุ่งนี้ค่อยนำไปตากแดด" หานตงเทียนบอกกับน้องสาวคนเล็ก

"เจ้าค่ะพี่ใหญ่" นางตอบแล้วเดินไปเอาถ้วยในครัวออกมาใส่อาหารของพี่สะใภ้ใส่จานรอพี่ชายที่ไปอาบน้ำ ก่อนจะมาในที่โต๊ะกินข้าวนางมองไอ้ตัวสีส้มที่ย่างสุกแล้วไม่รู้ว่ามันกินได้หรือเปล่าสงสัยว่าที่บ้านพี่สะใภ้จะจนยิ่งกว่าพวกนางสามคนพี่น้องจึงจับไอ้ตัวน่าเกลียดนี้มากินช่างน่าสงสารจริงๆดูสิปลาก็ใส่เกลือมากจนนางปวดใจทั้งยังไหม้อีกต่อไปนางคงต้องสอนพี่สะใภ้ทำอาหารแล้วละมั่งหานซูอิงคิดในใจแต่นางไม่พูดคงนั่งรอพี่ชายอย่างใจเย็น

หานตงเทียนมาถึงนั่งลงและบอกให้น้องกินข้าวได้เลย ไอ้ตัวที่มีสีส้มเขาแกะเปลือกมันออกตามที่นางบอกเขาเอาไว้และจิ้มในน้ำจิ้มและบอกด้วยว่าถ้าไม่กินเผ็ดอย่าจิ้มเยอะเดี๋ยวปากจะพองนางบอกเขา หานตงเทียนแกะเสร็จจึงลองจิ้มน้ำจิ้มที่นางบอกเล็กน้อยโดยที่น้องทั้งสองนั่งลุ้นอยู่ที่โต๊ะว่ารสชาติจะออกมาเช่นไรพอเขากลั้นใจเคี้ยวในปากคำแรกดวงตาเบิกโพล่งด้วยความตื่นเต้นเนื้อของเจ้ากุ้งที่นางเรียกมันช่างหวานและนุ่มเด้งอร่อยยิ่งนักจนเขาแทบกัดลิ้นตัวเอง

"อร่อยมากพวกเจ้าแกะเปลือกมันออกอย่างนี้นะ" พี่ชายสอนก่อนและจิ้มน้ำจิ้มเพียงเล็กน้อยเพราะมันชาลิ้นและร้อน เขาบอกน้องทั้งสองคนก่อนจะจิ้มอีกตัวเข้าปากด้วยความอร่อยและซดข้าวต้มเข้าไปด้วยด้วยความอร่อยจึงยื่นมือไปลอกเอาหนังปลาออกให้เหลือเพียงเนื้อสีขาวเขาจึงหยิบเนื้อปลาสีขาวจิ้มลงน้ำจิ้มและเอาเข้าปาก ปลามันอร่อยและหวานมากจนแทบเผลอกัดลิ้นเลยพอได้กิน

อาหารของว่าที่พี่สะใภ้อร่อยมากทั้งสามกินจนแทบจะลืมหายใจแย่งกันกินจนหมดลงในเวลาอันรวดเร็ว กินเสร็จอิ่มมากจนยกมือลูบท้องป่องๆของตนเอง

"อร่อยมากขอรับพี่ใหญ่ฝีมือของว่าที่พี่สะใภ้ช่างร้ายกาจยิ่งนัก ข้าต้องขอให้นางสอนข้าทำอาหารอร่อยให้พวกท่านกินแล้วละเจ้าคะ ตอนแรกข้าคิดว่าครอบครัวพี่สะใภ้จนมากกว่าพวกเราจนต้องจับไอ้ตัวประหลาดมากินแต่ใครจะรู้ว่ามันอร่อยยิ่งนักข้าอยากไปจับมาทำอาหารแล้วสิพี่ใหญ่" น้องสาวคุยจ้อเลยทีนี้

"จริงอย่างอิงเอ๋อร์พูดขอรับพี่ใหญ่อร่อยมากจนข้าอิ่มจนท้องแทบแตก นางให้มาตั้งเยอะและปลาอีกตัวใหญ่มากด้วยนางช่างใส่ใจพวกเรายิ่งนัก" ถึงแม้ว่าจะยังไม่ได้แต่งเข้าบ้านเลยก็ตาม

"อือเมื่อนางเข้าบ้านมาพวกเจ้าก็ทำดีกับนางด้วยละ" เขาบอกน้องชายกับน้องสาว

"พรุ่งนี้นางบอกว่าจะตุ๋นเครื่องในหมูมาให้พวกเรากินด้วย" หานตงเทียนบอกน้องทั้งสองคน

"ขอรับ/เจ้าค่ะ" สองพี่น้องตอบพี่ชายด้วยรอยยิ้มที่จะได้ลิ้มลองอาหารแปลกใหม่ของว่าที่พี่สะใภ้ที่ไม่รังเกียจพวกเขาทั้งยังฝากความกับพี่ชายใหญ่ของพวกตนอีก หลังจากที่นั่งรับลมกันที่หน้าบ้านสามพี่น้องก็แยกย้ายกันเข้านอนห้องใครห้องมัน แต่วันนี้ใครสักคนคงต้องนอนไม่หลับเพราะคะนึงถึงรอยยิ้มสดใสของว่าที่ภรรยาของตัวเองทั้งคืนอย่างแน่นอน

และก็เป็นจริงหานตงเทียนกว่าจะนอนหลับในคืนนี้เขาคิดเห็นแต่รอยยิ้มที่นางส่งให้เขาและพูดคุยกับเขาโดยไม่เขินอายเลยสักนิดเดียว ทั้งยังตะโกนตามหลังบอกให้เขาเดินกลับบ้านดีๆนางเป็นห่วงเขานอนยิ้มอย่างโง่งมด้วยใจที่เต้นแรงจนเอามือจับหน้าอกของตัวเองเอาไว้ นี้เขาไม่สบายเหมือนเมื่อวานอีกแล้วหรือที่ว่าที่ภรรยาบอกว่าเต็มใจแต่งงานให้เขาและยิ้มให้ เขาก็ใจเต้นแรงแบบนี้หานตงเทียนคิดใจจนค่อนคืนเขาจึงหลับไปด้วยรอยยิ้มที่มีคนใส่ใจห่วงใยตัวเขา พรุ่งนี้จะรีบไปเก็บกับดักไปขายและนำตำลึงไปสู่ขอนางมาเป็นภรรยาให้เร็วที่สุดหานตงเทียนคิดก่อนที่จะหลับไป

ทางฝั่งบ้านครอบครัวของอวี่หลิงที่กินกุ้งย่างปลาเผากันจนท้องป่องกันไปถ้วนหน้า ทุกคนดีใจมากที่หลานสาวบอกว่าท่านเทพให้พรนางมามากมายตอนที่ตกลงไปในน้ำและขอให้เชื่อนางจะพาครอบครัวหลุดพ้นจากความยากจนเอง ถึงแม้นางจะแต่งออกไปที่บ้านของสามีก็ยังจะขึ้นเขาพาท่านอากับซิงเอ๋อร์ไปด้วยเช่นเดียวกัน ปลานางก็จะพาไปขายเองที่ตลาดหรือที่เหลาอาหารในเมือง ทุกคนก็เชื่อนางทุกอย่างดูของป่าที่นางพาเก็บมาที่บ้านสามารถกินได้ทุกอย่าง แต่ตอนนี้ทุกคนช่วยกันหมักหมูใส่ใหและอวี่หลิงก็ตุ๋นเครื่อในหมูหม้อใหญ่เอาไว้อีกกลิ่นหอมตลบอบอวนทั่วทั้งครัว นางบอกว่าเก็บสมุนไพรที่ป่าลงมาด้วยจึงจะทดลองทำให้ทุกคนกินพรุ่งนี้ทั้งยังทำซาลาเปาไส้หมูอีกจนเต็มเข่ง ต่อไปนางจะสอนให้อวี่ซิงเอาไว้ขายในเมืองเลี้ยงดูครอบครัว

หลังจากทำทุกอย่างเสร็จก็เข้าหองนอนอวี่หลิงนอนพูดคุยกับอวี่ซิง

"ถ้าใครเข้าหาเราด้วยเงินจงถอยออกมาข้าเห็นว่าคนในหมู่บ้านแห่งนี้ช่างดูถูกคนจนยิ่งนักทั้งที่พวกเขาก็ใช่ว่าจะร่ำรวยอะไรมากมายข้าขอบอกห้ามให้อวี่ซิงชอบคนในหมู่บ้านนี้เด็ดขาด ข้าเห็นทุกคนที่มองเราด้วยความรังเกียจเหมือนกับที่ครอบครัวของว่าที่สามีของข้าเจอมานั้นละ"

สองพี่น้องนอนปรึกษากันในห้องจนหลับไปด้วยความเหนื่อยหล้า

"ข้าเชื่อเจ้าหลิงเอ๋อร์" ญาติผู้น้องตอบก่อนจะหลับไปและนางก็ลืมผ่าหอยที่ขังเอาไว้ในครัวนั้นเอง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • สามีข้าคือนายพรานตาบอด   บทที่ 56

    ในที่สุดอวี่หลิงนางก็เจ็บท้องคลอดลูกในตอนกลางคืนที่สามีเตรียมหมอตำแยเอาไว้สามคนเถ้าแก่ร้านทำเครื่องประดับหามาให้สำหรับทำคลอดกับอวี่หลิงโดยเฉพาะ ตอนดึกในห้องนอนในมิติกับสามีนางปวดท้องจนพาสามีออกมาจากในมิติมานอนในห้องที่เตรียมเอาไว้คลอด หานตงเทียนเรียกน้องสาวเสียงดังให้ต้มน้ำช่วยหมอตำแยเสียงดังตื่นเต้นทั้งร้อนรนไปหมดเสียงตีเกราะดังขึ้นคนงานในไร่รีบลุกไปที่บ้านของเจ้านายทันทีที่ตอนนี้นายหญิงคงกำลังเจ็บท้องจะคลอดนายน้อยหรือคุณหนูของไร่แล้ว ทุกคนจึงรีบมาช่วยกันต้มน้ำคอยรับใช้ว่าในห้องทำคลอดของนายหญิงต้องการอะไรบ้างเพราะทุกคนต่างก็รอคอยนายน้อยคุณหนูน้อยกันทุกคนหานตงเทียนเดินวนเวียนที่หน้าประตูห้าทำคลอดจนหานซูอิงตาลายไปหมดรวมทั้งหานตงเหวินด้วยที่ไปส่งข่าวบอกความให้คนที่บ้านของท่านตาอวี่เซี่ยท่านยายกับท่านอาของนางว่าพี่สะใภ้ใหญ่ปวดท้องจะคลอดลูกแล้วครอบครัวอวี่จึงรีบมาที่บ้านของนางกันทุกคนยกเว้นอวี่ซิงที่จะมาในตอนเช้าเพราะท้องของนางก็ใหญ่โตไม่แพ้กันกับอวี่หลิงเสียงกรีดร้องของเมียรักหานตงเทียนใจจะขาดเขาอยากเจ็บแทนนางทุกอย่างถ้าเลือกได้นางบอกว่าคนสมัยนี้คลอดลูกน่ากลัวเพราะไม่มีโรงหมอที่ใหญ่

  • สามีข้าคือนายพรานตาบอด   บทที่ 55

    หลังจากช่วยชาวบ้านและคนในเมืองนี้ก็ผ่านมาได้สองเดือนกว่าๆแล้ว แต่ข่าวการช่วยเหลือจากสองครอบครัวที่นายน้อยหลี่ออกหน้าให้แทน นายอำเภอแจ้งบอกกับชาวบ้านว่าที่ผ่านหน้าหนาวมาได้ในหนึ่งเดือนที่หนักสุดเพราะขาดจากการติดต่อจากเมืองหลวงและไม่มีเสบียงส่งมาได้เพราะพายุหิมะที่ตกหนัก ที่ทุกครอบครัวของชาวบ้านที่ได้ของแจกจ่ายมาจากสามครอบครัวคือเหลาอาหารของนายน้อยหลี่และครอบครัวตระกูลอวี่กับครอบครัวหานแห่งหมู่บ้านให่หนาน ชาวบ้านธรรมดาที่ยึดอาชีพทำสวนผักขายที่นำข้าวปลาอาหารมาแจกจ่ายในตอนที่หิมะตกหนักที่ผ่านมาสร้างชื่อเสียงให้กับสามครอบครัวในอำเภอนี้เป็นอย่างมาก จนนายอำเภอออกมาขอบคุณถึงที่บ้านเชิงเขาของสองครอบครัวตาหลานและได้รางวัลแห่งการทำดีที่นายอำเภอส่งไปที่เมืองหลวงเรื่องการบริจาคช่วยเหลือชาวบ้านตอนที่พายุหิมะถล่ม เป็นหน้าหนาวที่ยาวนานถึงหกเดือนตอนนี้ที่บ้านไร่พลิกหน้าดินและหว่านข้าวในที่ดินที่แบ่งเอาไว้ปลูกข้าวสามร้อยกว่าหมู่ ผักก็ทำการปลูกจนหมดทุกแปลงแล้วที่ผ่านมาทำตำลึงให้กับสองครอบครัวตาหลานมากมาย จนท่านยายร่ำให้ด้วยความดีใจที่ทุกวันนี้ไม่ต้องกลัวจะกับไปลำบากอีกต่อไปเพราะหลานสาวได้ทำอาชีพที่ยั่ง

  • สามีข้าคือนายพรานตาบอด   บทที่ 54

    "ตามที่จริงข้าก็ไม่ว่าอะไรหรอกเจ้าค่ะท่านลุงผู้ใหญ่บ้าน ข้ายินดีช่วยเหลือคนที่ตกทุกข์ได้ยากเช่นเดียวกันเอาเป็นว่าข้าจะจัดเตรียมเอาไว้ให้ทุกครอบครัวในหมู่บ้านของพวกเราเลย ท่านลุงก็ไปบอกให้พวกเขามารับที่หน้าบ้านของข้าได้เลยหรือท่านลุงจะรับไปแจกแทนข้าก็ได้เพราะบางครอบครัวพวกเขาต่างรังเกียจครอบครัวของสามีข้าคงไม่กล้ามารับด้วยตัวเองก็ได้" นางบอกให้หัวหน้าหมู่บ้านได้รับรู้"ถ้าพวกมันคิดเช่นนั้นก็พากันอดตายไปเถอะข้าจะไปประกาศให้รับรู้กันทั้งหมู่บ้าน ใครไม่มาก็ไม่ต้องเอาในเมื่อจิตใจแคบแคบต่อพวกเจ้าเองข้าก็คงไปช่วยเหลือพวกเขาไม่ได้แต่ที่วิ่งมาที่บ้านของข้าก็มีแต่พวกที่เคยรังเกียจหานตงเทียนนะส่วนใหญ่" หัวหน้าหมู่บ้านบอกกับอวี่หลิง"ข้าไม่เป็นอะไรหรอกขอรับท่านลุงข้าจะช่วยเท่าที่จะช่วยได้แต่อย่าเข้ามาล้ำเส้นข้าก็พอ" หานตงเทียนตอบกลับไป อวี่หลิงจึงถามท่านตาเรื่องนี้ด้วย"จะช่วยเหลือชาวเมืองร่วมกันกับข้าไหมเจ้าคะท่านตาท่านอา ข้าอยากช่วยคนที่ลำบากพวกเขาคงจะมีชีวิตไม่ต่างกับพวกเราเหมือนเมื่อก่อนข้าสงสารเด็กกับคนแก่เจ้าค่ะ ในเขตอำเภอข้าจะให้นายน้อยหลี่ออกหน้าให้เพราะข้าไม่ชอบความวุ่นวาย จะส่งของไปให้ห

  • สามีข้าคือนายพรานตาบอด   บทที่ 53

    หน้าหนาวนี้ยาวนานถึงหกเดือนข้าวของที่ชาวบ้านพากันซื้อมาตุนเอาไว้กำลังขาดแคลนเพราะว่าทุกปีจะหนาวแค่สามถึงสี่เดือน แต่ปีนี้เกิดพายุหิมะถล่มในหลายเมือง ดีที่ก่อนที่พายุจะถล่มหนักนายน้อยหลี่ได้ขนส่งผักผลไม้ส่งไปทุกเมืองเพียงพอต่อการทำอาหารและขายในหนึ่งเดือนตอนนี้จึงหยุดส่งมาได้หนึ่งอาทิตย์แล้วเพราะหิมะตกหนักมาก ทั้งยังมีพายุอีกเขาจึงเอาความปลอดภัยของคนงานและม้าเอาไว้ก่อนเพราะที่ส่งไปก็มากมายพอขายแล้วในตัวเมืองก็วุ่ยวายเพราะพายุหิมะถล่มคนก็ขาดแคลนเสบียงเพราะมันเข้าเดือนที่ห้าแล้วมีเพียงงานของอวี่หลิงกับท่านอาที่ไม่ขาดผักและอาหารต่อให้หนาวทั้งปีอวี่หลิงนางก็ยังอยู่ได้อย่างสบาย ตอนในหมู่บ้านคงกำลังวุ่นวายไหนจะพายุถล่มไหนจะขาดอาหารการกินทั้งกลัวว่าบ้านจะรับน้ำหนักไม่ไหวถล่มลงมาใส่คนในครอบครัวอีก"ท่านพี่หนาวนี้ทำไมยาวนานจังเลยละเจ้าคะ ข้าว่าคนในหมู่บ้านและตัวเมืองคงวุ่นวายน่าดูนี้ก็ห้าเดือนแล้วยังไม่มีวี่แววว่าหิมะจะหยุดตกเลย ข้าว่าอากาศมันแปรปวนยิ่งนักปีนี้ดีนะเจ้าคะที่ไร่ของเราไม่ขาดแคลนอาหารการกินข้าสงสารชาวบ้านที่ไม่มีตำลึงพอที่จะตุนเสบียงได้ยาวนานหลานเดือนทั้งคนไร้บ้านอีกเฮ้อ" นางถออนหา

  • สามีข้าคือนายพรานตาบอด   บทที่ 52

    ในที่สุดการเก็บผลชีกวาก็เสร็จไปเรียบร้อยอวี่หลิงนางจัดงานเลี้ยงให้กับรายได้ที่ขายทั้งผักรอบแรกกับแตงโมนางได้ตำลึงมาหลายแสน นางจึงฉลองให้กับทุกคน จนแทบจะคลานออกจากวงของงานเลี้ยงกันเลยทีเดียวและคนงานนางยังให้พิเศษกับครอบครัวของคนงานของนางครัวละหนึ่งร้อยตำลึงเงิน ให้เด็กน้อยทั้งสิบคนอีกคนละยี่สิบตำลึงเงินให้ทุกคนมีกำลึงใจทำงานให้นางกันทุกคนส่วนเด็กน้อยที่หัดปักผ้าสามสี่คนลูกของคนงานนางยังให้คนละห้าตำลึงเงินพวกเขาจะได้มีกำลังใจในการทำงานยิ่งๆขึ้นไป อีกทั้งยังทำตำลึงให้เลี้ยงดูตัวเองและครอบครัวอีกต่อไปในภายภาคหน้ามีเพียงครอบครัวของท่านตากับท่านอาของนางที่ไม่รับตำลึงจากหลานสาวแต่ให้ทำอาหารที่อร่อยให้กินก็พอแล้ว เพราะท่านอาได้ตำลึงเป็นแสนมาเช่นเดียวกันในตอนนี้ทั้งสองครอบครัวไม่ขาดตำลึงทั้งยังหามาได้ทุกวันจากการส่งปลาทุกวันอีกที่เหลาอาหารทั้งสองสาขาของนายน้อยหลี่เหลียงเฉิน และท่านก็ยังจ่ายค่าเหนื่อยให้กับคนงานทุกคนในไร่เช่นเดียวกันกับหลานสาวด้วยทั้งสองไร่เพราะใช้ระบบเดียวกันทุกอย่างและคนที่ได้กำไรมากสุดคือนายน้อยหลี่นั้นเอง แต่อวี่หลิงนางรับมาสามเด้งเลยทั้งค่าสูตรอาหารทั้งส่วนแบ่งหนึ่งส่วนจ

  • สามีข้าคือนายพรานตาบอด   บทที่ 51

    ในที่สุดผักที่บ้านของท่านอาของนางก็ตัดเสร็จใช้เวลาหนึ่งอาทิตย์เท่ากัน ตอนนี้กำลังไปเก็บชีกวาที่ไร่ของอวี่หลิงเกือบสามสิบหมู่รถม้าวิ่งเข้าออกที่บ้านไร่เชิงเขาทุกวัน ครอบครัวของท่านอาก็มาช่วยนางที่ไร่กันทุกคนเพราะแตงโมที่ไร่ของนางมีแต่ลูกใหญ่ๆเนื้อสีแดงหวานมากจนนายน้อยหลี่ต้องเหมารถม้ามาช่วยอีกจากต่างอำเภอใกล้เคียงที่มีสาขาของเหลาอาหารของเขา โดยผู้ดูแลเหลาหารถม้ามาให้ห้าสิบคันเลยจึงจะพอขนส่งแตงโมและผักส่งไปต่างเมืองแต่ก็แทบจะไม่พอขายสร้างกำไรให้นายน้อยหลี่จนยิ้มแก้มแทบจะแตกหลังจากวันที่เก็บผักวันสุดท้ายท่านอาได้เลี้ยงฉลองให้กับคนงานและคนที่มารับจ้างกันทุกคนรวมทั้งครอบครัวของอวี่หลิงด้วย นายน้อยหลี่ดื่มเหล้าของอวี่หลิงจนเมาได้ที่ก็สารภาพรักอวี่ซิงจนนางอายม้วนหลบหลังอวี่หลิงตลอดเวลา นางบอกกลัวว่าเขาจะรังเกียจที่นางเป็นคนบ้านป่าคงไม่สามารถไปเป็นฮูหยินของเขาได้ที่เมืองหลวงได้และนางจะอยู่ที่บ้านไร่ไม่จากไปไหนจากท่านพ่อท่ายแม่ตากับยายและอวี่หลิงญาติของนางเอง ซึ่งนายน้อยหลี่ก็บอกว่าเขาจะอยู่ที่นี้เพราะบิดายกเหลาอาหารให้สองสาขาที่หุ้นกันกับหลงจู๊ดูแลทั้งสองสาขา และคงต้องอยู่ที่นี้ตลอดไปจะกลับเ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status