ยามเหมาสามคนอาหลานได้เวลาตื่นนอน อวี่หลิงเตรียมซาลาเปาไส้หมูใส่ห่อผ่าและเอากระบอกไม้ไผ่ใส่น้ำดื่มในมิติของนางสามกระบอกให้กับสองพ่อลูก นางแยกห่อซาลาเปาอีกห่อเอาไว้ให้กับว่าที่สามีที่นัดกันขึ้นเขาไปเก็บกับดักด้วยเช่นเดียวกันเพราะชายหนุ่มไปเขาฝั่งซ้ายนางกับท่านอาไปฝั่งขวา จึงนัดเจอกันที่ทางพบกันตรงทางแยกที่ไปเก็บกับดัก พอเตรียมของครบทั้งสามคนก็รีบออกจากบ้านทันที นางบอกอาสะใภ้ไว้แล้วว่าให้ดูหม้อตุ๋นหมูให้นางด้วยมันเปื่อยแล้วเพียงแต่ดูไฟให้อุ่นตลอดก็พอซาลาเปาในเข่งนางอุ่นเอาไว้สำหรับทุกคนแล้ว
ท่านอาของนางเดินนำหน้าถือคบไฟส่องนำทาง สองสาวเดินตามหลังอวี่หลิงรั้งท้ายนางอยากเอาไฟของนางออกมาใช้แต่คงทำไม่ได้เพราะความลับยังไม่อยากเปิดเผยทั้งกลัวว่าครอบครัวของร่างเดิมจะตกใจกลัวนางของให้มั่นใจเสียก่อนตอนนี้ตามน้ำไปก่อนช่วยให้พวกเขาหลุดพ้นจากความลำบากเสียก่อนเดินขึ้นเขามาครึ่งชั่วยามก็ถึงทางแยกที่จะเลี้ยวขวาหานตงเทียนยืนรออยู่ตรงทางแยกตามที่บอกเอาไว้ "อ้างตงเทียนมาถึงนานแล้วหรือ" อวี่จางเฉิงถามว่าที่หลานเขยพอมองเห็นว่าเขายืนรอทุกคนอยู่ก่อนแล้ว "ข้าพึ่งมาถึงสักครู่ขอรับท่าอวี่จาง" เขาตอบและมองไปข้างหลังเห็นว่าที่ภรรยาส่งยิ้มมาให้เขาจนตาหยี่ หานตงเทียนคันยุบยิบในหัวใจที่มองหน้าแล้วนางส่งยิ้มมาให้ "ดีแล้วเราแยกกันไปเก็บกับดักก่อนดีกว่าก่อนที่มันจะสายเอา ถ้าเจ้าเสร็จแล้วก็มารอตรงนี้ได้เลยนะหรือจะขึ้นไปหาพวกข้าก็ได้ตามรอยที่อวี่หลิงนางทำสัญลักษณ์เอาไว้" อวี่จางเฉิงบอกเพราะไม่ใช่ความลับอะไรคนในหมู่บ้านไม่ขึ้นมาสูงเหมือนพวกเขาชาวบ้านหาของป่าเพียงรอบนอกอีกฝั่งของหมู่บ้านทางนี้จึงไม่ค่อยมีคนกล้าขึ้นมาสักเท่าไร "ขอรับข้าจะรีบไปเก็บกับดักและไปช่วยพวกท่านขอรับ" หานตงเทียนตอบก่อนที่จะเดินเลี้ยวซ้ายไปทางที่เขาวางกับดักเอาไว้ "พี่ตงเทียนรอก่อนเจ้าค่ะข้าทำซาลาเปาใส้หมูสับเอาไว้เมื่อคืนเยอะมากจึงห่อมาฝากพี่ด้วยนี้เจ้าค่ะ" นางยื่นห่อซาลาเปาไปให้ชายหนุ่มพร้อมกระบอกน้ำของนางเองให้ว่าที่สามี "ขอบใจเจ้ามาหลิงเอ๋อร์" หานตงเทียนบอกว่าที่ภรรยาที่มีน้ำใจทำมาเผื่อเขาด้วยความอบอุ่นหวาบเข้าในใจที่มีคนห่วงใยความเป็นอยู่ของตัวเอง "ไม่เป็นไรข้าเต็มใจทำให้ท่านเจ้าค่ะ" นางตอบก่อนจะยกมือโบกไปมา "บ้ายๆบ๊ายๆแล้วเจอกันเจ้าค่ะ" นางบอกหานตงเทียนแต่ทว่าเขากลับตะลึงในท่าทางที่นางทำไม่มีใครเขาทำกันและเขาก็ยังงงๆนางก็เดินตามอาของนางไปแล้ว เขามองตามหลังของนางยกยิ้มที่มุมปากยกห่อผ้าขึ้นมาดมกลิ่มหอมของซาลาเปารวมทั้งกระบอกน้ำแล้วนางจะดื่มที่ไหนเอาให้เขาแล้ว เขาคิดว่าจะดื่มเพียงครึ่งเดียวและเอาไว้ให้นางอีกครึ่งหนึ่งตอนที่ตามไปหานางอีกครั้ง หานตงเทียนคิดแล้วรีบเดินขึ้นเขาไปเก็บกับดักของตัวเองก่อนที่จะรีบไปช่วยว่าที่ภรรยาของเขาด้วย เขาเดินไปยิ้มไปมีคนใส่ใจมันเป็นเช่นนี้เองหรือเขาต้องรีบแต่นางเข้าบ้านให้เร็วที่สุดอยากเห็นรอยยิ้มที่ส่งให้เขาคนเดียวตอนขึ้นเขาคงจะมีแรงหาของป่ามาให้นางที่รออยู่บ้านหานตงเทียนคิดไปเดินไปด้วยความสุข ทุกคนมาถึงที่น้ำตกก่อนเป็นอย่างแรกเพราะจะเอาปลาขึ้นจากน้ำก่อนจึงจะเดินลงไปเก็บกับดักและลงเขาเลย สิ่งที่เจอทำเอาสองพ่อลูกอ้าปากค้างไม่รู้จะพูดอะไรในที่ดักปลาสามอันที่ทำและใส่เอาไว้มันติดปลาตัวใหญ่นอนจนเต็มและยังมีชีวิตทุกตัว สามคนช่วยกันยกเอาปลาเทใส่ตระกร้าก่อนวันนี้เอาที่ปิดอย่างดีกันปลากระโดดออกและใส่ไว้ที่เดิมให้เหมือนเมื่อวาน เดินขึ้นไปดูที่หลุดมาอีกปลานอนที่ในหลุมจนเต็มอวี่จางเฉิงมองหน้าลูกกับหลานยิ้มด้วยความดีใจที่หาปลาได้เยอะขนาดนี้ วันนี้ต้องเหมาเกวียนลุงผู้ใหญ่บ้านเข้าเมืองไปขายที่ในเมืองคงได้หลายตำลึงมาเติมสินเดิมให้หลานสาวที่ช่ายบอกวิธีหาปลาและล่าสัตว์ พวกเรารีบเก็บปลาเถอะเจ้าค่ะท่านอาข้าว่าวันนี้ท่านต้องได้สัตว์ตัวใหญ่ไปขายอย่างแน่นอนเดี๋ยวมันจะสายเสียก่อน" นางรีบบอกท่านอาให้หายตกใจที่หาปลาได้มากมายจากนั้นทั้งสามคนรีบเอาปลาใส่ถังที่เตรียมมาจากบ้านด้วยรวมทั้งใส่ตระกร้าและพากันเดินไปที่วางกับดักและแยกกันไปดูกับดักของตัวเองที่วางเอาไว้ อวี่จางเฉิงเดินมาที่หลุมดักสัตว์ที่เขาขุดเอาไว้สามหลุมเมื่อวานก็ได้หมูตัวใหญ่กลับไปที่บ้าน วันนี้เขามองลงไปในหลุมจนเข่าอ่อนหมูป่าสามตัวนอนกองกันที่ก้นหลุมและอีกสองหลุมก็มีกวางป่าหนึ่งตัวที่ตกลงไป อีกหลุมหนึ่งเป็นกระต่ายป่าอีกหลายตัวที่ในก้นหลุม เกิดมาจนป่านนี้เขาพึ่งจะรู้ว่าหลานสาวมีวิธีดักสัตว์ได้ดีเยี่ยมแและนางยังบอกอีกว่าไม่อยากให้พวกมันตายจึงไม่ทำไม้แหลมที่ก้นหลุม มันสามารถนำไปเลี้ยงที่บ้านเพื่อขยายพันธุ์ได้อีกไม่ต้องล่าพวกเขาบ่อยๆมันบาป นางบอกเอาแค่พอกินและเลี้ยงเอาไว้ขายและกินในครอบครัวก็พอแล้ว แต่ว่าจะทำเช่นไรจึงจะขนลงไปหมดละนี้คือปัญหา สองสาวเก็บกับดักด้วยความดีใจ กับดักติดทุกอันนางจะให้พวกเขาเลี้ยงเอาไว้กินไข่และขยายพันธุ์เพราะบอกกับท่านตาให้ทำคอกรอเอาไว้แล้วนั้นเอง เสียงอวี่จางเฉิงลงมาเรียกหาลูกสาวกับหลานสาวให้มาช่วยเอาสัตว์ขึ้นจากหลุมก่อนตอนนี้เขามัดขากวางและกระต่ายกองเอาไว้รอทั้งสองคนแล้ว แต่หมูป่านี้สิจะทำเช่นไรพวกมันคงวิ่งในหลุมจนเหนื่อยและนอนหลับอยู่ในหลุมอวี่จางเฉิงไม่กล้าลงไปเอาขึ้นมาจากหลุมเพราะพวกมันดุร้ายมากหรือจะฆ่าให้ตายต้องรอหลานเขยมาช่วยอีกแรงและแบ่งให้หานตงเทียนไปสักตัวก็คงจะได้อวี่จางเฉิงยืนคิดไปมารอบหลุมดักสัตว์ สองสาวเดินมาถึงก็เจอเข้ากับกวางตัวใหญ่ที่โดนมัดจนแน่นหนานอนอยู่กับกระต่ายป่าอีกหลายตัว แต่มองหาอาท่านไม่พบคงจะอยู่อีกหลุม ทั้งสองวางของที่เก็ยมาด้วยกองไว้รวมกันและเดินไปที่ทางที่ขุดหลุมเอาไว้เมื่อวานอีกหลุม พอมาถึงจึงเจอเข้ากับอาที่ทำหน้าเคร่งเครียดยืนมองไปในหลุมอวี่ซิงก็ส่งเสียงเรียกบิดาถามว่า "ท่านพ่อมองอะไรหรือเจ้าคะ" นางจึงชะโงกหน้าลงไปดูก้นหลุมด้วยอีกทีและอ้าปากค้างทันทีที่เห็นหมูป่าตัวใหญ่นอนหลับในหลุมและหันมาหาอวี่หลิงด้วยความดีใจ "มีหมูอีกแล้วหลิงเอ๋อร์แต่มันทั้งสามตัวแล้วเราจะเอาขึ้นมาเช่นไรละ มิน่าละท่านพ่อจึงยืนมองและทำหน้าเคร่งเชียว" นางบอกญาติผู้พี่ในที่สุดอวี่หลิงนางก็เจ็บท้องคลอดลูกในตอนกลางคืนที่สามีเตรียมหมอตำแยเอาไว้สามคนเถ้าแก่ร้านทำเครื่องประดับหามาให้สำหรับทำคลอดกับอวี่หลิงโดยเฉพาะ ตอนดึกในห้องนอนในมิติกับสามีนางปวดท้องจนพาสามีออกมาจากในมิติมานอนในห้องที่เตรียมเอาไว้คลอด หานตงเทียนเรียกน้องสาวเสียงดังให้ต้มน้ำช่วยหมอตำแยเสียงดังตื่นเต้นทั้งร้อนรนไปหมดเสียงตีเกราะดังขึ้นคนงานในไร่รีบลุกไปที่บ้านของเจ้านายทันทีที่ตอนนี้นายหญิงคงกำลังเจ็บท้องจะคลอดนายน้อยหรือคุณหนูของไร่แล้ว ทุกคนจึงรีบมาช่วยกันต้มน้ำคอยรับใช้ว่าในห้องทำคลอดของนายหญิงต้องการอะไรบ้างเพราะทุกคนต่างก็รอคอยนายน้อยคุณหนูน้อยกันทุกคนหานตงเทียนเดินวนเวียนที่หน้าประตูห้าทำคลอดจนหานซูอิงตาลายไปหมดรวมทั้งหานตงเหวินด้วยที่ไปส่งข่าวบอกความให้คนที่บ้านของท่านตาอวี่เซี่ยท่านยายกับท่านอาของนางว่าพี่สะใภ้ใหญ่ปวดท้องจะคลอดลูกแล้วครอบครัวอวี่จึงรีบมาที่บ้านของนางกันทุกคนยกเว้นอวี่ซิงที่จะมาในตอนเช้าเพราะท้องของนางก็ใหญ่โตไม่แพ้กันกับอวี่หลิงเสียงกรีดร้องของเมียรักหานตงเทียนใจจะขาดเขาอยากเจ็บแทนนางทุกอย่างถ้าเลือกได้นางบอกว่าคนสมัยนี้คลอดลูกน่ากลัวเพราะไม่มีโรงหมอที่ใหญ่
หลังจากช่วยชาวบ้านและคนในเมืองนี้ก็ผ่านมาได้สองเดือนกว่าๆแล้ว แต่ข่าวการช่วยเหลือจากสองครอบครัวที่นายน้อยหลี่ออกหน้าให้แทน นายอำเภอแจ้งบอกกับชาวบ้านว่าที่ผ่านหน้าหนาวมาได้ในหนึ่งเดือนที่หนักสุดเพราะขาดจากการติดต่อจากเมืองหลวงและไม่มีเสบียงส่งมาได้เพราะพายุหิมะที่ตกหนัก ที่ทุกครอบครัวของชาวบ้านที่ได้ของแจกจ่ายมาจากสามครอบครัวคือเหลาอาหารของนายน้อยหลี่และครอบครัวตระกูลอวี่กับครอบครัวหานแห่งหมู่บ้านให่หนาน ชาวบ้านธรรมดาที่ยึดอาชีพทำสวนผักขายที่นำข้าวปลาอาหารมาแจกจ่ายในตอนที่หิมะตกหนักที่ผ่านมาสร้างชื่อเสียงให้กับสามครอบครัวในอำเภอนี้เป็นอย่างมาก จนนายอำเภอออกมาขอบคุณถึงที่บ้านเชิงเขาของสองครอบครัวตาหลานและได้รางวัลแห่งการทำดีที่นายอำเภอส่งไปที่เมืองหลวงเรื่องการบริจาคช่วยเหลือชาวบ้านตอนที่พายุหิมะถล่ม เป็นหน้าหนาวที่ยาวนานถึงหกเดือนตอนนี้ที่บ้านไร่พลิกหน้าดินและหว่านข้าวในที่ดินที่แบ่งเอาไว้ปลูกข้าวสามร้อยกว่าหมู่ ผักก็ทำการปลูกจนหมดทุกแปลงแล้วที่ผ่านมาทำตำลึงให้กับสองครอบครัวตาหลานมากมาย จนท่านยายร่ำให้ด้วยความดีใจที่ทุกวันนี้ไม่ต้องกลัวจะกับไปลำบากอีกต่อไปเพราะหลานสาวได้ทำอาชีพที่ยั่ง
"ตามที่จริงข้าก็ไม่ว่าอะไรหรอกเจ้าค่ะท่านลุงผู้ใหญ่บ้าน ข้ายินดีช่วยเหลือคนที่ตกทุกข์ได้ยากเช่นเดียวกันเอาเป็นว่าข้าจะจัดเตรียมเอาไว้ให้ทุกครอบครัวในหมู่บ้านของพวกเราเลย ท่านลุงก็ไปบอกให้พวกเขามารับที่หน้าบ้านของข้าได้เลยหรือท่านลุงจะรับไปแจกแทนข้าก็ได้เพราะบางครอบครัวพวกเขาต่างรังเกียจครอบครัวของสามีข้าคงไม่กล้ามารับด้วยตัวเองก็ได้" นางบอกให้หัวหน้าหมู่บ้านได้รับรู้"ถ้าพวกมันคิดเช่นนั้นก็พากันอดตายไปเถอะข้าจะไปประกาศให้รับรู้กันทั้งหมู่บ้าน ใครไม่มาก็ไม่ต้องเอาในเมื่อจิตใจแคบแคบต่อพวกเจ้าเองข้าก็คงไปช่วยเหลือพวกเขาไม่ได้แต่ที่วิ่งมาที่บ้านของข้าก็มีแต่พวกที่เคยรังเกียจหานตงเทียนนะส่วนใหญ่" หัวหน้าหมู่บ้านบอกกับอวี่หลิง"ข้าไม่เป็นอะไรหรอกขอรับท่านลุงข้าจะช่วยเท่าที่จะช่วยได้แต่อย่าเข้ามาล้ำเส้นข้าก็พอ" หานตงเทียนตอบกลับไป อวี่หลิงจึงถามท่านตาเรื่องนี้ด้วย"จะช่วยเหลือชาวเมืองร่วมกันกับข้าไหมเจ้าคะท่านตาท่านอา ข้าอยากช่วยคนที่ลำบากพวกเขาคงจะมีชีวิตไม่ต่างกับพวกเราเหมือนเมื่อก่อนข้าสงสารเด็กกับคนแก่เจ้าค่ะ ในเขตอำเภอข้าจะให้นายน้อยหลี่ออกหน้าให้เพราะข้าไม่ชอบความวุ่นวาย จะส่งของไปให้ห
หน้าหนาวนี้ยาวนานถึงหกเดือนข้าวของที่ชาวบ้านพากันซื้อมาตุนเอาไว้กำลังขาดแคลนเพราะว่าทุกปีจะหนาวแค่สามถึงสี่เดือน แต่ปีนี้เกิดพายุหิมะถล่มในหลายเมือง ดีที่ก่อนที่พายุจะถล่มหนักนายน้อยหลี่ได้ขนส่งผักผลไม้ส่งไปทุกเมืองเพียงพอต่อการทำอาหารและขายในหนึ่งเดือนตอนนี้จึงหยุดส่งมาได้หนึ่งอาทิตย์แล้วเพราะหิมะตกหนักมาก ทั้งยังมีพายุอีกเขาจึงเอาความปลอดภัยของคนงานและม้าเอาไว้ก่อนเพราะที่ส่งไปก็มากมายพอขายแล้วในตัวเมืองก็วุ่ยวายเพราะพายุหิมะถล่มคนก็ขาดแคลนเสบียงเพราะมันเข้าเดือนที่ห้าแล้วมีเพียงงานของอวี่หลิงกับท่านอาที่ไม่ขาดผักและอาหารต่อให้หนาวทั้งปีอวี่หลิงนางก็ยังอยู่ได้อย่างสบาย ตอนในหมู่บ้านคงกำลังวุ่นวายไหนจะพายุถล่มไหนจะขาดอาหารการกินทั้งกลัวว่าบ้านจะรับน้ำหนักไม่ไหวถล่มลงมาใส่คนในครอบครัวอีก"ท่านพี่หนาวนี้ทำไมยาวนานจังเลยละเจ้าคะ ข้าว่าคนในหมู่บ้านและตัวเมืองคงวุ่นวายน่าดูนี้ก็ห้าเดือนแล้วยังไม่มีวี่แววว่าหิมะจะหยุดตกเลย ข้าว่าอากาศมันแปรปวนยิ่งนักปีนี้ดีนะเจ้าคะที่ไร่ของเราไม่ขาดแคลนอาหารการกินข้าสงสารชาวบ้านที่ไม่มีตำลึงพอที่จะตุนเสบียงได้ยาวนานหลานเดือนทั้งคนไร้บ้านอีกเฮ้อ" นางถออนหา
ในที่สุดการเก็บผลชีกวาก็เสร็จไปเรียบร้อยอวี่หลิงนางจัดงานเลี้ยงให้กับรายได้ที่ขายทั้งผักรอบแรกกับแตงโมนางได้ตำลึงมาหลายแสน นางจึงฉลองให้กับทุกคน จนแทบจะคลานออกจากวงของงานเลี้ยงกันเลยทีเดียวและคนงานนางยังให้พิเศษกับครอบครัวของคนงานของนางครัวละหนึ่งร้อยตำลึงเงิน ให้เด็กน้อยทั้งสิบคนอีกคนละยี่สิบตำลึงเงินให้ทุกคนมีกำลึงใจทำงานให้นางกันทุกคนส่วนเด็กน้อยที่หัดปักผ้าสามสี่คนลูกของคนงานนางยังให้คนละห้าตำลึงเงินพวกเขาจะได้มีกำลังใจในการทำงานยิ่งๆขึ้นไป อีกทั้งยังทำตำลึงให้เลี้ยงดูตัวเองและครอบครัวอีกต่อไปในภายภาคหน้ามีเพียงครอบครัวของท่านตากับท่านอาของนางที่ไม่รับตำลึงจากหลานสาวแต่ให้ทำอาหารที่อร่อยให้กินก็พอแล้ว เพราะท่านอาได้ตำลึงเป็นแสนมาเช่นเดียวกันในตอนนี้ทั้งสองครอบครัวไม่ขาดตำลึงทั้งยังหามาได้ทุกวันจากการส่งปลาทุกวันอีกที่เหลาอาหารทั้งสองสาขาของนายน้อยหลี่เหลียงเฉิน และท่านก็ยังจ่ายค่าเหนื่อยให้กับคนงานทุกคนในไร่เช่นเดียวกันกับหลานสาวด้วยทั้งสองไร่เพราะใช้ระบบเดียวกันทุกอย่างและคนที่ได้กำไรมากสุดคือนายน้อยหลี่นั้นเอง แต่อวี่หลิงนางรับมาสามเด้งเลยทั้งค่าสูตรอาหารทั้งส่วนแบ่งหนึ่งส่วนจ
ในที่สุดผักที่บ้านของท่านอาของนางก็ตัดเสร็จใช้เวลาหนึ่งอาทิตย์เท่ากัน ตอนนี้กำลังไปเก็บชีกวาที่ไร่ของอวี่หลิงเกือบสามสิบหมู่รถม้าวิ่งเข้าออกที่บ้านไร่เชิงเขาทุกวัน ครอบครัวของท่านอาก็มาช่วยนางที่ไร่กันทุกคนเพราะแตงโมที่ไร่ของนางมีแต่ลูกใหญ่ๆเนื้อสีแดงหวานมากจนนายน้อยหลี่ต้องเหมารถม้ามาช่วยอีกจากต่างอำเภอใกล้เคียงที่มีสาขาของเหลาอาหารของเขา โดยผู้ดูแลเหลาหารถม้ามาให้ห้าสิบคันเลยจึงจะพอขนส่งแตงโมและผักส่งไปต่างเมืองแต่ก็แทบจะไม่พอขายสร้างกำไรให้นายน้อยหลี่จนยิ้มแก้มแทบจะแตกหลังจากวันที่เก็บผักวันสุดท้ายท่านอาได้เลี้ยงฉลองให้กับคนงานและคนที่มารับจ้างกันทุกคนรวมทั้งครอบครัวของอวี่หลิงด้วย นายน้อยหลี่ดื่มเหล้าของอวี่หลิงจนเมาได้ที่ก็สารภาพรักอวี่ซิงจนนางอายม้วนหลบหลังอวี่หลิงตลอดเวลา นางบอกกลัวว่าเขาจะรังเกียจที่นางเป็นคนบ้านป่าคงไม่สามารถไปเป็นฮูหยินของเขาได้ที่เมืองหลวงได้และนางจะอยู่ที่บ้านไร่ไม่จากไปไหนจากท่านพ่อท่ายแม่ตากับยายและอวี่หลิงญาติของนางเอง ซึ่งนายน้อยหลี่ก็บอกว่าเขาจะอยู่ที่นี้เพราะบิดายกเหลาอาหารให้สองสาขาที่หุ้นกันกับหลงจู๊ดูแลทั้งสองสาขา และคงต้องอยู่ที่นี้ตลอดไปจะกลับเ