Share

ตอนที่ 16

Author: Scince
last update Last Updated: 2025-05-14 12:13:02

ซ่งเวยหลงตัดสินใจไปส่งเซี่ยซูมี่ที่บ้านก่อน จากนั้นก็เดินไปตามอาจื่อพร้อมทั้งให้ภรรยาของอาจื่อมาอยู่เป็นเพื่อนเซี่ยซูมี่ เพราะเขาต้องไปเอาหมูป่าออกมา

          “เจ้ารอพี่ที่บ้านก่อนได้หรือไม่ ขอพี่เดินไปตามอาจื่อกับภรรยาของเขามาอยู่เป็นเพื่อนเจ้าก่อน” ซ่งเวยหลงพูดกับภรรยาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล พร้อมทั้งพยุงให้นางเข้าไปนั่งรอในห้อง

          “เจ้าค่ะ” เซี่ยซูมี่พยักหน้าเข้าใจ

          “ลงกลอนประตูให้เรียบร้อย พี่จะรีบไปรีบกลับมา” ซ่งเวยหลงลูบศีรษะภรรยาอย่างเอ็นดู ไม่ลืมที่จะกำชับให้ภรรยาลงกลอนประตูให้เรียบร้อย

จากนั้นไม่นานซ่งเวยหลงก็กลับมา เซี่ยซูมี่เปิดประตูบ้านให้สามี เมื่อออกไปข้างนอกพบว่ามีผู้มาใหม่ 2 คน นั่นก็คืออาจื่อ ส่วนอีกคนหนึ่งนั้นยังไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน

          “นี่เจียงรั่วซีภรรยาของอาจื่อ ส่วนนี่” ยังไม่ทันที่ซ่งเวยหลงจะแนะนำภรรยาเขาให้รู้จัก เจียงรั่วซีก็พูดชื่อภรรยาของเขาขึ้นมาก่อน

          “เซี่ยซูมี่ ข้ารู้จักนางเจ้าค่ะ เพราะซือมั่นพี่สาวของนางเป็นสหายของข้า” เจียงรั่วซีพูดขึ้น เนื่องจากว่านางเป็นสหายกับเซี่ยซือมั่น

          “อืม” ซ่งเวยหลงไม่ได้พูดอะไรต่อ เพราะไม่อยากจะพูดถึงหญิงผู้นั้น เขารู้ว่าคนที่ตนจะต้องแต่งงานด้วยเดิมทีนามว่าเซี่ยซือมั่น แต่ในวันงานกลับกลายเป็นเซี่ยซูมี่ไปได้ ซึ่งในตอนนั้นเขาเองไม่ได้คิดอะไร เพราะจะเป็นใครก็ไม่สำคัญ แต่วันนี้ตนได้รู้แล้วว่าช่างโชคดีมากเพียงใดที่ภรรยาคือเซี่ยซูมี่

          “รีบไปกันเถอะ” อาจื่อพูดขึ้น ในเมื่อทั้งคู่ต่างก็รู้จักกันจึงไม่จำเป็นต้องแนะนำอะไรกันมากมาย

          “ฝากด้วยนะรั่วซี” ซ่งเวยหลงหันไปพูดกับเจียงรั่วซี “พี่จะรีบไปรีบกลับ” จากนั้นก็หันไปพูดกับเซี่ยซูมี่ พร้อมทั้งมองด้วยสายตาเป็นห่วง

          “ไม่ต้องห่วงเจ้าค่ะ พวกท่านรีบไปกันเถอะ” เจียงรั่วซีพูดขึ้น ช่างโชคดียิ่งนักที่วันนี้อยู่บ้านเฉยๆ แล้วซ่งเวยหลงสหายของสามีเดินมาตามถึงบ้าน บอกว่าให้ไปช่วยขนหมูป่า พรานป่าผู้นี้ช่างเป็นลูกรักของเจ้าป่าเสียจริง เวลาเพียงไม่กี่วันเขากลับล่าหมูป่าได้ถึงสองตัวแล้ว

          “ข้าอยู่ได้เจ้าค่ะ” เซี่ยซูมี่พูดให้สามีมั่นใจว่าตนไม่เป็นไรแล้ว ไม่อยากจะให้เขาเป็นห่วง

          “อืม” เมื่อได้รับคำยืนยันจากภรรยา ซ่งเวยหลงก็เบาใจ จากนั้นจึงเดินออกจากบ้านเพื่อนำทางสหายไปขนย้ายหมูป่ากลับมา

ในระหว่างที่สองสาวอยู่ด้วยกัน เซี่ยซูมี่ทำเพียงยิ้มบางๆ ให้กับเจียงรั่วซีเท่านั้น เนื่องจากว่าจำหน้าของนางไม่ได้ ในเมื่อนางบอกว่าเป็นสหายของพี่สาว แล้วทำไมถึงนึกหน้าไม่ออก ไม่ว่าจะพยายามมากเท่าไหร่ก็ตาม

          “เจ้านี่ช่างโชคดีจริงๆ เลยนะ แต่งงานได้เพียงไม่นานสามีก็สร้างบ้านหลังใหญ่โตให้ วาสนาดีกว่าซือมั่นจริงๆ” เจียงลู่ซีพูดขึ้น เซี่ยซูมี่ที่นางรู้จักเป็นคนขี้อายไม่กล้าพูด ทำเพียงเก็บตัวอยู่แต่ในห้องเท่านั้นเพราะขี้โรค ไม่ได้ถูกใช้ให้ทำงานหนักเหมือนเช่นเซี่ยซือมั่น

 “ท่านต้องการพูดสิ่งใดหรือเจ้าคะ?” เซี่ยซูมี่ไม่ใช่ไก่อ่อนที่ไม่เข้าใจเนื้อความที่คนพูดต้องการจะเอ่ย

          “ข้าก็แค่สงสารวาสนาพี่สาวของเจ้าเท่านั้น หากว่านางเลือกที่จะแต่งกับพรานซ่งแทนการถูกขายเป็นทาสของเศรษฐี ป่านนี้นางก็คงจะสบายไปแล้วน่ะจ้ะ” เจียงรั่วซีพูดด้วยน้ำเสียงเรียบลื่น ไม่มีท่าทีอะไรพิเศษที่ต้องการแสดงออกมา เมื่อเห็นสภาพความเป็นอยู่ของน้องสาวสหายก็อดปวดใจแทนไม่ได้

          “แล้วท่านจะสงสารในวาสนาของพี่สาวข้าไปไยเล่า ในเมื่อตัวของพี่สาวข้าเองก็ไม่เห็นว่านางจะเป็นเดือดเป็นร้อนอันใด” เซี่ยซูมี่ทิ้งน้ำเสียงเรื่องที่พี่สาวไม่ได้เป็นเดือดเป็นร้อน เพราะดูเหมือนว่าหญิงสาวที่อยู่หน้าเสียมากกว่าที่รู้สึกเดือดร้อนแทน

          “ที่เจ้าพูดมาก็ถูก แต่เป็นเพราะเจ้าไม่รู้ว่านางต้องอยู่ในสภาพเช่นไร นางไม่พูดก็ไม่ได้หมายความว่านางไม่รู้สึกนี่ เจ้าว่าข้าพูดถูกหรือไม่?” เจียงรั่วซีไม่ยอมแพ้ และอดสงสัยไม่ได้ว่าเหตุใดเซี่ยซูมี่ในตอนนี้ถึงสู้คนยิ่งนัก

          “หากท่านไม่พูดข้าก็คงไม่รู้ว่าพี่สาวแท้ๆ ของข้าคิดเห็นเช่นไร เดิมทีข้าเพียงคิดว่านางตัดช่องน้อยแต่พอตัว เพียงเพราะไม่อยากแต่งงานกับพรานป่า จึงยอมขายตัวไปทำงานที่บ้านเศรษฐีในเมือง ต่างจากข้าที่นอนป่วยอยู่บนเตียง แต่กลับถูกยัดเยียดให้แต่งงานกับพรานป่า เมื่อเวลาผ่านไปสามีของข้าดูดีขึ้น ไม่ใช่พรานป่าอัปลักษณ์พวกท่านก็นึกเสียดายอย่างนั้นหรือ?” เซี่ยซูมี่พูดอย่างไม่อ่อนข้อให้เช่นกัน ในเมื่อจงใจที่จะไม่เป็นมิตรตั้งแต่แรก ก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องพูดดีด้วย

          “ตั้งแต่ที่มีสามีหนุนหลังดูเจ้ากล้าขึ้นนี่ แต่เจ้าอย่าลืมว่านิสัยพรานป่าก็ไม่ต่างอะไรกับสัตว์ป่าดุร้าย ระวังตัวไว้ให้ดีก็แล้วกัน หากวันใดที่ทำให้เขาไม่พอใจ เจ้าจะเป็นเหยื่อรายต่อไป” เจียงรั่วซีพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น

          เพราะความเป็นจริงแล้วนางตกหลุมรักซ่งเวยหลงตั้งแต่ครั้งแรกที่พบหน้า ตั้งแต่ที่เขายังไม่เป็นพรานป่ามีชื่อเสียง ในตอนนั้นชายหนุ่มเหมือนบัณฑิตมากกว่าชายบ้านป่า แต่แล้วจู่ๆ ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด เขาถึงปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้ดูสกปรก หนวดเครารุงรังดูน่าเกลียดน่ากลัว

          “ข้าคิดว่าเป็นท่านมากกว่าที่พอลับหลังสามีข้าดูท่านกล้าขึ้น ต่อหน้าสามีข้าไม่เห็นท่านจะเป็นเช่นนี้เลย หรือว่านี่คือนิสัยที่แท้จริงของท่าน” เซี่ยซูมี่พูดลอยหน้าลอยตาไม่รู้สึกกลัวหญิงตรงหน้าเลยสักนิด ดูก็รู้ว่านางน่าจะคิดไม่ซื่อกับสามีของตน

          “นี่เจ้า” เจียงรั่วซีไม่คิดว่าหญิงสาวตรงหน้าจะต่อปากต่อคำเช่นนี้ นางไม่เหมือนกับเซี่ยซูมี่ที่เคยรู้จักเลยสักนิด

          “ข้าไม่ใช่ไก่อ่อนที่จะยอมให้ท่านเชือดได้โดยง่าย ข้าจำได้ว่าไม่เคยไปทำเรื่องเดือดร้อนอันใดให้แก่ท่าน เพราะฉะนั้นข้าขอเตือนว่าต่างคนต่างอยู่จะเป็นการดีที่สุด เพราะหากว่าท่านยังไม่หยุด เห็นทีว่าเรื่องนี้คงต้องถึงหูสามีของท่านอย่างแน่นอน” เซี่ยซูมี่ไม่คิดจะเพียงแค่ขู่ แต่หากว่านางกล้าล้ำเส้นเข้ามาวุ่นวายกับคนในครอบครัว ตนก็พร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อรักษาครอบครัวของตัวเองเอาไว้

          คงปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวเองมีความรู้สึกดีๆ ให้กับสามีพรานป่า แต่มันไม่ใช่เพราะหน้าตาเขาอย่างแน่นอน ความรู้สึกนี้มันเกิดขึ้นก่อนที่จะเห็นตัวตนที่แท้จริงของเขาเสียด้วยซ้ำ ข้างในจิตใจของเขาต่างหากที่ทำให้เกิดความรู้สึกดีๆ ให้แก่กัน เซี่ยซูมี่ไม่สนใจเจียงรั่วซีอีกต่อไป นำอะโวคาโดที่ได้มาเก็บให้เป็นระเบียบเรียบร้อย จากนั้นก็ปอกหน่อไม้เพื่อต้มเอาน้ำขมออก เย็นนี้ตั้งใจจะทำน้ำแกงกระดูกหมูป่า

          เวลาผ่านไปสักพักซ่งเวยหลงก็กลับมา พร้อมทั้งหมูป่าตัวใหญ่น้ำหนักหลายร้อยชั่ง เจียงรั่วซีเข้าไปต้อนรับ พร้อมทั้งตักน้ำไปให้หนุ่มๆ ที่แบกหมูป่ากลับมา โดยนางยื่นให้กับซ่งเวยหลงก่อนแทนที่จะเป็นสามีของตัวเอง

          “เจ้าเอาไปให้อาจื่อเถอะ” ซ่งเวยหลงเดินผ่านเจียงรั่วซีที่ยื่นน้ำค้างไว้เช่นนั้น จากนั้นก็เดินไปรับน้ำจากภรรยาที่ยืนยิ้มหวานอยู่เบื้องหลัง

          “เหนื่อยหรือไม่เจ้าคะ” เซี่ยซูมี่ยิ้มสะใจ เห็นแบบนี้ก็รู้สึกวางใจ คิดว่าสามีคงไม่คิดที่จะสวมหมวกเขียวให้ตนเองอย่างแน่นอน

“อาหลงแล้วหมูป่านี่จะทำอย่างไรต่อไปดี หากเอาเข้าไปในเมืองข้าเกรงว่าจะไปไม่ทัน” อาจื่อถามขึ้น เพราะตอนนี้เป็นยามเซินแล้ว กว่าจะเดินทางไปถึงในเมืองเกรงว่าจะไม่ทันการ

          “ไม่ต้องเข้าไปถึงในเมืองหรอกเจ้าค่ะ ข้ามีวิธี” เซี่ยซูมี่พูดขึ้น ไม่เห็นจะต้องไปไกลถึงในเมือง ในเมื่อคนในหมู่บ้านนี้ก็มี

          “วิธีอันใดของเจ้าหรือ?” ซ่งเวยหลงใช้น้ำเสียงอบอุ่นถามออกไป

          “เราก็แค่ชำแหละขายให้กับคนในหมู่บ้านนี่แหละเจ้าค่ะ ถ้าเหลือข้าจะจัดการเอง” เซี่ยซูมี่พูดขึ้น

          “เฮอะ ขายในหมู่บ้านจะได้เงินสักกี่อีแปะกันเชียว ในเมื่อพวกเขาจ่ายค่าปรับคนละตำลึงไปแล้ว น้องซูมี่พี่ว่าความจำน้องน่าจะมีปัญหานะจ๊ะ” เจียงรั่วซีพูดขึ้น

          “หากความจำข้ามีปัญหา หูท่านพี่รั่วซีเองก็น่าจะมีปัญหา ข้าพูดไปแล้วว่าที่เหลือจะเป็นคนจัดการเอง หรือท่านไม่ได้ยินเจ้าคะ?” เซี่ยซูมี่ถามด้วยหน้าตาใสซื่อ ซ่งเวยหลงเห็นแล้วอดไม่ได้ที่จะใช้มือหนาลูบหัวนางแผ่วเบา

          “พี่แค่เกรงว่าจะทำให้พวกเราเสียเวลา สู้เรารีบเอาขึ้นเกวียนแล้วเข้าไปในเมืองเสียก็สิ้นเรื่อง ไปขอความช่วยเหลือจากพี่สาวเจ้าให้ท่านเศรษฐีที่นางทำงานอยู่รับซื้อก็ไม่น่าจะมีปัญหาอันใด” เจียงรั่วซีเน้นย้ำคำว่าพี่สาวให้เซี่ยซูมี่ได้ยิน

          “แค่หมูป่าตัวเดียวเหตุใดต้องไปขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น เอาตามที่น้องหญิงว่าข้าจะชำแหละเอง อาจื่อเจ้าไปถามว่ามีบ้านใดต้องการเนื้อหมูป่าบ้างขายชั่งละ 30 อีแปะ” ซ่งเวยหลงพูดขึ้นเสียงเข้ม รู้สึกไม่พอใจที่เอาชื่อพี่สาวของภรรยาเข้ามาเกี่ยวข้อง เนื่องจากว่าตนกับนางไม่มีสิ่งใดเกี่ยวข้องกันอีก

          “อาหลง ข้าก็แค่” เจียงรั่วซีเห็นว่าซ่งเวยหลงไม่พอใจจึงตั้งใจจะอธิบายให้ชายหนุ่มหายโกรธ

          “ไปเถอะ จะได้มาช่วยอาหลงชำแหละหมูป่า” อาจื่อดึงแขนภรรยาให้รีบไปจากที่นี่

จากนั้นซ่งเวยหลงก็ลงมือชำแหละหมูป่า แม้กระทั่งเถ้าแก่ที่สร้างบ้านเองก็ยังมาขอซื้อเพื่อเอาไปฝากลูกเมียที่บ้าน โชคดีที่เขาแวะเอาไม้มาให้คนงาน

          “ไอหยา โชคดีของข้ายิ่งนักที่ได้กินเนื้อหมูป่าสดๆ เช่นนี้” เถ้าแก่ยิ้มดีใจ

          “เพิ่งจะเอาออกจากป่ามาเองเจ้าค่ะ เนื้อยังอุ่นๆ อยู่เลย ไม่ทราบว่าเถ้าแก่ต้องการกี่ชั่งหรือเจ้าคะ” เซี่ยซูมี่สวมวิญญาณนักขายทันที

          “ข้าอยากได้ครึ่งตัว เจ้าจะขายให้ข้าได้หรือไม่เล่าแม่นาง” เถ้าแก่มีบ้านเล็กบ้านน้อยมากพอสมควร จึงจำเป็นต้องซื้อไปมากหน่อย

          “ย่อมได้เจ้าค่ะ” เซี่ยซูมี่ขยิบตาให้สามี เป็นเชิงว่าเห็นหรือยังว่าความคิดของนางนั้นดีเยี่ยมมากแค่ไหน

เถ้าแก่ซื้อหมู่ป่าครึ่งตัวน้ำหนักราว 100 ชั่ง จ่ายเงินไป 3 ตำลึง นอกจากนั้นเซี่ยซูมี่ยังแถมไส้ให้ไปอีกจำนวนหนึ่ง ทำให้เถ้าแก่ยิ้มออก หมูป่าที่ซ่งเวยหลงล่ามาได้น้ำหนักราวๆ 300 ชั่ง ส่วนทางด้านอาจื่อที่ไปเคาะตามบ้านเพื่อขายเนื้อหมูป่านั้นได้มาเพียง 50 ชั่งเท่านั้น ซึ่งถือว่าแค่นี้ก็มากพอสมควร ได้เงินมาทั้งหมด 1 ตำลึง 500 อีแปะ ดีกว่าที่สามีเอาไปขายให้กับหลงจู๊ในครั้งนั้นเป็นไหนๆ ที่ได้มาเพียง 800 อีแปะเท่านั้น รวมเงินที่ขายหมูป่าได้ทั้งหมด 4 ตำลึง 500 อีแปะ

เซี่ยซูมี่แบ่งเงินให้กับอาจื่อไป 500 อีแปะ เพราะเขาไม่ได้เสี่ยงอันตรายกับสามีเลยสักนิด นอกจากนั้นยังให้เนื้อหมูป่าไปอีกราวๆ 10 ชั่ง แค่นี้ก็น่าจะมากพอแล้ว

          “ข้าไม่เอาเงินหรอก เจ้าเก็บเอาไว้เถอะ ขอรับน้ำใจเป็นเนื้อพวกนี้ก็แล้วกันอาซ้อ” อาจื่อพูดขึ้น ทางด้านเซี่ยซูมี่หันหน้าไปมองสามีว่าเขามีความคิดเห็นเช่นไร เพราะที่ให้เขาเพียง 500 อีแปะก็รู้สึกอายอยู่ไม่น้อย

          “รับไปเถอะ ถือว่าเป็นน้ำใจจากอาซ้อของเจ้า” ซ่งเวยหลงบอกอาจื่อ

          “เช่นนั้นข้าก็จะไม่เกรงใจพวกท่าน ขอบคุณมากครับอาซ้อ” อาจื่อรับเงินมายิ้มๆ จากนั้นก็ยื่นให้กับภรรยา

          “ข้าต่างหากที่ต้องขอบใจเจ้าที่มาช่วยทุกครั้งที่ขอความช่วยเหลือ” ซ่งเวยหลงเอ่ยขึ้น รู้สึกซาบซึ้งใจสหายไม่น้อย เพราะตนมีอาจื่อเพียงคนเดียวที่เป็นสหายในวัยเด็ก จะมีเด็กที่ไหนบ้างกล้ามาเล่นกับลูกหลานพรานป่าดุร้าย

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สามีข้าคือพรานป่า   ตอนที่ 63

    “ท่านพี่เจ้าคะ ข้าเจ็บท้องเจ้าค่ะ” เซี่ยซูมี่ปลุกสามีในช่วงกลางดึกของคืนฝนตกหนักคืนหนึ่ง วันนี้กลับไม่โชคดีเหมือนครั้งที่คลอดซ่งอี้เทียน เพราะยังไม่ถึงกำหนดคลอดทุกคนจึงยังไม่มีการเตรียมการใดๆ “เจ็บอย่างไร ทนได้หรือไม่” ซ่งเวยหลงรีบลุกขึ้นเพื่อดูอาการของภรรยา ไม่หลงเหลือความง่วงเลยสักนิด “ไม่ไหวเจ้าค่ะ ให้คนไปตามหมอตำแยให้น้องทีเจ้าค่ะ” เซี่ยซูมี่เค้นเสียงออกมา แม้ว่าภายในใจจะไม่อยากพูดคุยอะไรไปมากกว่านี้เลยก็ตามทันทีที่ฟังภรรยาพูดจบ ซ่งเวยหลงก็ออกไปสั่งการสาวใช้ที่คอยรับใช้หน้าห้อง ให้ไปตามหมอตำแยมาโดยด่วน ฮูหยินซ่งกำลังจะคลอดลูกแล้ว สาวใช้ในเรือนรีบลุกเพื่อไปทำหน้าที่ของตนเองที่ได้รับมอบหมายอย่างไม่มีอิดออด แม้จะสงสัยอยู่บ้างว่ายังไม่ครบกำหนดจะคลอดได้อย่างไร แต่ก็มีเสียงแตกหลายเสียง เนื่องจากว่าครรภ์ของฮูหยินนั้นใหญ่ผิดปกติหลังจากนั้นราวๆ 2 ชั่วยาม เซี่ยซูมี่ก็ได้ให้กำเนิดทายาทสกุลซ่ง แต่ที่น่ายินดีไปมากกว่านั้นคือเป็นแฝดชาย แม้ว่าจะคลอดก่อนกำหนด แต่แฝดทั้งสองก็สมบูรณ์แข็งแรงดี เมื่อแฝดทั้งสองคลอดฟ้าฝนกลับหยุดลง จากนั้นก็มีแสงใหม่ของอีกวันโผล่ขึ้น คล้ายจะบอกเป็น

  • สามีข้าคือพรานป่า   ตอนที่ 62

    3 ปีผ่านไป ซ่งอี้เทียนเริ่มโตขึ้นมาก อีกทั้งยังเป็นเด็กที่รู้มากอีกด้วย เซี่ยซูมี่สอนลูกชายอ่านเขียนตั้งแต่ยังเด็ก ด้วยหวังว่าโตขึ้นไปในภายภาคหน้าเขาจะสามารถดูแลตัวเองได้ ส่วนกิจการของบ้านซ่งต้องบอกว่าขยายใหญ่โตมาก อีกทั้งยังสร้างโรงเตี๊ยมขึ้นมา เพื่อแข่งกับโรงเตี๊ยมเหอฟู่อีกด้วย โดยให้ชื่อโรงเตี๊ยมว่า หลงโถว เช่นเดียวกับร้านค้า ผู้คนในเมืองรวมไปถึงลูกค้าต่างเมือง ต่างรู้จักร้านหลงโถวนี้เป็นอย่างดีทางด้านคุณชายเหอได้ถูกทางการจับตัว เนื่องจากว่ามีคนมาร้องเรียนเรื่องที่ลูกสาวหายตัวไป หลังจากที่แต่งเข้าไปเป็นอนุ เมื่อมีคนมาร้องเรียนกับทางการ อีกหลายๆคนที่ได้ข่าวก็เริ่มมาร้องเรียนบ้าง เนื่องจากว่าเมื่อก่อนชาวบ้านต่างเกรงกลัวอำนาจและบารมีของสกุลเหอ อีกทั้งยังมีท่านเจ้าเมืองหนุนหลัง ทำให้ไม่มีใครแจ้งความเอาผิด แต่ตอนนี้ทุกอย่างได้เปลี่ยนไปแล้ว เมื่อมีท่านรองแม่ทัพหยางเข้ามาประจำการในเมืองนี้ ทำให้ชาวบ้านสามารถเข้าถึงทางการได้ง่ายขึ้น“มีชาวบ้านเข้ามารองเรียนเรื่องคนหายไม่เว้นวัน” ท่านเจ้าเมืองถอนหายใจ ไม่คิดเลยว่าสหายที่เติบโตด้วยกันมาจะเป็นคนเช่นนี้ เดิมทีเหอฟู่ผู้นี้เป็นคนจิตใจดีมีเมตตา

  • สามีข้าคือพรานป่า   ตอนที่ 61

    หลังจากที่ให้ลูกชายกินนม เซี่ยซูมี่จึงพาลูกชายออกมายังห้องโถง ซึ่งแม่บ้านเห่ยนำเตาขนาดเล็กมาวางไว้รอบๆ ห้อง เพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้กับภายในบ้าน ทำให้บ้านไม่หนาวเย็นอย่างที่ควรจะเป็น “มาแล้วหรือหลานชายของป้า มาให้ป้าอุ้มให้หายคิดหน่อยหน่อยเถิด” เซี่ยซือมั่นเงยหน้าจากผ้าที่กำลังปักอยู่ จากนั้นก็ยื่นงานปักให้สาวใช้คนสนิททำต่อ ส่วนนางนั้นเอื้อมมือเพื่อที่จะไปอุ้มหลายชายเข้าสู่อ้อมกอดซ่งอี้เทียนเหมือนจะสัมผัสได้ถึงความรักความเอ็นดูที่ท่านป้าหมาดๆของเขามีให้ ทารกน้อยอายุเพียง 1 เดือน จากตอนแรกที่อยู่ในอ้อมกอดมารดา จึงยอมให้ท่านป้าของเขาอุ้มเข้าไปกอดอย่างง่ายดายส่วนทางด้านท่านป้าที่เมื่อได้อุ้มหลานชายแล้วนั้น ก็รู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากว่าหลานชายไม่ได้ผอมแห้งดังเช่นที่ตนนั้นกังวล แต่เขากลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง ทารกน้อยมีน้ำหนักหากจะพูดแล้วนั้น น่าจะหนักกว่าเด็กทั่วๆ ไปเสียด้วยซ้ำ คิดไม่ถึงว่าทารกที่กินเพียงน้ำนมของผู้เป็นแม่เพียงอย่างเดียวจะอุดมสมบูรณ์ได้ “เป็นไรไปหรือเจ้าคะ?” เซี่ยซูมี่สังเกตเห็นสีหน้าฉงนของพี่สาวจึงอดที่จะเอ่ยถามออกไปไม่ได้ “เสี่

  • สามีข้าคือพรานป่า   ตอนที่ 60

    1 เดือนผ่านไปเซี่ยซูมี่ออกจากการอยู่ไฟแล้วเรียบร้อย อีกทั้งวันนี้ยังมีแขกมาเยี่ยม ซ่งอี้เทียน นั่นก็คือท่านป้าและท่านลุงหยางหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งก็คือท่านรองแม่ทัพหยางนั่นเองกล่าวถึงเซี่ยซือมั่นเมื่อเข้าไปทำงานยังจวนของท่านรองแม่ทัพ ก็ได้มีโอกาสศึกษาดูใจกับรองแม่ทัพหนุ่มมากขึ้น ทำให้ทั้งสองคนมีโอกาสได้ใกล้ชิดกัน อีกทั้งหญิงสาวยังรับหน้าที่ในการทำอาหารขึ้นโต๊ะให้แก่เขาเองอีกด้วย คุณสมบัติเพียบพร้อมเช่นนั้นจะหนีจากฮูหยินใหญ่ของเขาไปได้อย่างไรกัน“หลานชายของป้า น่าตีท่านพ่อกับท่านแม่ของเจ้ายิ่งนัก หลานชายคลอดทั้งที กลับไม่ส่งข่าวคราวให้ป้าบ้างเลย” เซี่ยซือมั่นทำทีเป็นบ่นกับหลานชาย ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วพ่อกับแม่ของเจ้าก้อนกลมนั้นก็นั่งอยู่ด้วย “หิมะตกหนัก อีกทั้งข้าเองก็เพิ่งจะออกจากการอยู่ไฟ ป้าเห่ยไม่ยอมให้ข้าเห็นเดือนเห็นตะวันเลยล่ะเจ้าค่ะ” เซี่ยซูมี่อดที่จะบ่นแม่บ้านของตัวเองไม่ได้ เพราะนางไม่ยอมให้ออกไปไหนเลยแม้ว่าจะอ้อนวอนมากเพียงใดก็ตาม เซี่ยซูมี่เป็นคนสะอาด จะยอมให้ผมตัวเองมันเยิ้มได้อย่างไรกัน นอกจากมันแล้วก็ยังรู้สึกคันหนังหัวแต่ไม่อยากสอดนิ้วมือเข้าไปเพราะหนังหัวช่

  • สามีข้าคือพรานป่า   ตอนที่ 59

    เซี่ยซูมี่ลืมตาตื่นในเช้าของอีกวัน คิดว่าตัวเองฝันไปหรือเป็นเรื่องจริง แต่เมื่อใช้มือคลำสัมผัสที่หน้าท้องกลับพบว่ามันยุบลง ไม่ป่องเหมือนเมื่อวาน นอกจากนั้นแล้วในยามที่ขยับตัวก็รู้สึกเจ็บ อีกทั้งยังเหมือนได้ยินเสียงร้องงอแงของเด็กอีกด้วย “อือ” คุณแม่มือใหม่ส่งเสียงในลำคอ “ลูกพ่อ แม่ของลูกตื่นแล้ว” ซ่งเวยหลงตอนนี้กำลังอุ้มลูกชายอยู่สืบเนื่องจากเมื่อคืนที่ได้บอกกับหมอตำแยเอาไว้ว่าจะให้ลูกกินนมของภรรยาเป็นคนแรกนั้นต้องหยุดลง เนื่องจากว่าลูกชายร้องไห้งอแงในยามเช้าแต่ภรรยาเขากลับยังไม่ได้สติ ตนจึงจำเป็นต้องให้แม่นมที่เตรียมไว้สำหรับลูกชายทำหน้าที่แทนทารกน้อยราวกับว่ารับรู้และเข้าใจในสิ่งที่บิดาพูด ทันทีที่พูดถึงมารดาเขากลับเงียบเสียงลง คล้ายกำลังฟังเสียงการเคลื่อนไหวของมารดา แต่เมื่อไม่ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยเหมือนตอนที่อยู่ในท้อง เขากลับเริ่มเบะปากเตรียมที่จะร้องไห้อีกครั้ง “ท่านพี่ นะ น้ำเจ้าค่ะ น้องขอน้ำ” เซี่ยซูมี่รู้สึกลำคอแห้งผาก แม้ว่าอยากจะลุกขึ้นไปอุ้มลูกชายมากเพียงใด แต่ตอนนี้ตนต้องได้กินน้ำเพื่อให้ร่างกายมีแรงขึ้นมาก่อน “ฮูหยิน น้ำเจ้าค่ะ”

  • สามีข้าคือพรานป่า   ตอนที่ 58

    หลังจากที่ไปส่งพี่สาวที่จวนของท่านรองแม่ทัพ เรียกได้ว่าหายห่วงไปได้มากทีเดียว เดิมทีเซี่ยซูมี่ตั้งใจจะพาพี่สาวไปซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ ให้สมกับตำแหน่งแม่บ้านใหญ่ของจวนท่านรองแม่ทัพ แต่กลับถูกเจ้าของจวนขัดขึ้นเสียก่อน เนื่องจากว่าเขาได้ให้คนงานจัดเตรียมทุกอย่างเอาไว้เรียบร้อยแล้ว เมื่อไปถึงจวนก็ไปดูที่พักของพี่สาว คงต้องบอกว่าไม่เหมือนกับที่พักพิงของคนงานเลยสักนิด แม้จะบอกว่าไม่ได้ให้เข้าทำงานมาเป็นทาส หรือแม้กระทั่งยกตำแหน่งแม่บ้านใหญ่ให้ ก็ยังดูไม่ใช่ที่พักของคนงานอยู่ดี แต่คล้ายว่าเป็นห้องนอนของแขกคนสำคัญมากกว่าเซี่ยซือมั่นได้แต่มองหน้าน้องสาวเพื่อขอความคิดเห็น แต่เซี่ยซูมี่กับเดินตัวติดกับสามี ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นสายตาที่พี่สาวพยายามจะส่งมาให้ ได้เห็นการต้อนรับที่อบอุ่นเช่นนี้แล้วเซี่ยซูมี่เองก็เบาใจ “ท่านว่าพี่ชายของท่านจะจริงจังกับพี่สาวของข้ามากน้อยเพียงใดเจ้าคะ?” ระหว่างที่กลับบ้านป่า เซี่ยซูมี่ก็ชวนสามีพูดคุยเพื่อให้ไม่เหงาปากมากจนเกินไป “ชู่ว หยุดพูดจาส่งเดช มีคนตามมาส่งเราด้วย” ซ่งเวยหลงทำเสียงเป็นเชิงบอกให้ภรรยาหยุดพากพิงถึงบุคคลอื่น เนื่องจากว่าพี่ชายได้

  • สามีข้าคือพรานป่า   ตอนที่ 57

    “คารวะท่ารองแม่ทัพเจ้าค่ะ” เซี่ยซูมี่และพี่สาวทำความเคารพรองแม่ทัพหนุ่มอีกครั้ง “ตามสบายเถิดน้องสะใภ้ ไม่ต้องมากพิธี” รองแม่ทัพกล่าวทักทายภรรยาของสหายอย่างเป็นกันเอง ทั้งๆที่ความเป็นจริงคือเขาเป็นคนที่ค่อนข้างระวังตัว ด้วยมีหน้าที่ที่ต้องถวายอารักขาความปลอดภัยให้แก่องค์ชายห้ามาตั้งแต่เด็กๆ “ท่านมาก็ดีแล้วขอรับ ข้าขอขอบคุณสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ด้วย” ซ่งเวยหลงเอ่ยขึ้น ช่วงที่ไปล่าสัตว์ด้วยกันเขาได้เรียนรู้หลายๆอย่างเกี่ยวกับวิชาป้องกันตัว รองแม่ทัพหนุ่มเองก็ได้เรียนรู้วิชาเอาตัวรอดเมื่ออยู่ในป่าเช่นกัน ทำให้ทั้งสองคนสนิทกันมาก “ไม่เป็นไร เรื่องของเจ้าก็เหมือนเรื่องขอข้า ที่ข้ามาในวันนี้ก็เพื่อจะมาทำเรื่องที่พูดเอาไว้ให้สำเร็จลุล่วง ซ่งเวยหลง เจ้าต้องการที่จะเป็นพี่น้องสาบานร่วมกับข้าหรือไม่?” รองแม่ทัพเอ่ยขึ้นพร้อมทั้งจ้องมองหน้าสหายที่ตนเอ็นดูเหมือนน้องชายแท้ๆ “ไมตรีที่ท่านมอบให้ ข้าซ่งเวยหลงไม่อาจที่จะปฏิเสธได้ อีกทั้งยังรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้เป็นพี่น้องกับท่าน” ซ่งเวยหลงไม่คิดปฏิเสธ เพราะเขาเองก็รับรู้ได้ถึงความเมตตาที่รองแม่

  • สามีข้าคือพรานป่า   ตอนที่ 56

    ทุกคนถูกจับตัวไปที่ศาลของท่านเจ้าเมืองเพื่อช่วยตัดสิน โดยท่านลุงไท่ร้องทุกข์แก่ท่านเจ้าเมืองทันทีที่ไปถึง รวมไปถึงเซี่ยซูมี่และซ่งเวยหลงเองก็ถูกควบคุมตัวมาในที่นี้ด้วย “จับตัวข้ามาด้วยเรื่องอันใดกัน ข้าจะกลับหมู่บ้านป่า” นางเซี่ยโวยวายในขณะที่ถูกจับกุมตัวมีเพียงซ่งเวยหลงและภรรยาเท่านั้นที่ไม่ถูกควบคุมตัวโดยทหาร หากจะบอกว่าทหารเหล่านั้นเกรงกลัวสายตาของซ่งเวยหลงที่จ้องมองในตอนที่กำลังจะไปคุมตัวคนท้องก็คงจะไปผิด ทหารผู้น้อยจึงทำได้เพียงผายมือเชิญทั้งสองคนไปยังศาล ซึ่งเซี่ยซูมี่ก็ไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด “หุบปาก ต่อหน้าท่านเจ้าเมืองห้ามเสียมารยาท” ลูกน้องคนสนิทของท่านเจ้าเมืองเอ่ยขึ้นน้ำเสียงน่าเกรงขาม ทำให้ชาวบ้านที่ตามมาดูคำตัดสินต่างเงียบไม่มีใครกล้าเอ่ยคำใดออกมา หลังจากที่ท่านเจ้าเมืองเข้ามานั่งประจำตำแหน่งก็เริ่มทำการสอบสวน ซึ่งเปิดโอกาสให้กับผู้ร้องทุกข์นั่นก็คือท่านลุงไท่เป็นคนพูดก่อน “เซี่ยซือมั่น สิ่งที่ไท่หานพูดเป็นความจริงหรือไม่” ท่านเจ้าเมืองเริ่มทำการสอบสวน “ข้าน้อยเซี่ยซือมั่นคารวะท่านเจ้าเมือง สิ่งที่ท่านลุงไท่พูดเป็นความจริ

  • สามีข้าคือพรานป่า   ตอนที่ 55

    เซี่ยซือมั่นถูกบิดาจับข้อมือเอาไว้ แต่แล้วก็ต้องตกใจเมื่อได้ยินสิ่งที่มารดาตะโกนออกมาจนสุดเสียง ท่านลุงไท่เองก็ตกใจเมื่ออยู่ดีๆ ก็ถูกกล่าวหาว่าคดโกง สมัยนี้เรื่องโกงต่างๆ ไม่ค่อยมีเกิดขึ้น ทุกคนอยู่ด้วยกันด้วยความซื่อสัตย์ รักเกียรติและศักดิ์ศรีของตนเองเป็นอย่างมาก “เจ้าพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร” ท่านลุงไท่มองตาเขียวรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก คนในเมืองรู้จักตนอยู่ไม่น้อย เพราะมีอาชีพรับของป่าจากหมู่บ้านต่างๆ มาขาย หากเรื่องนี้ถูกผู้คนเข้าใจผิด แล้วตนจะทำงานต่อไปอย่างไร “หมายความว่าที่ผ่านมาเจ้าคดโกงข้า วันนี้หากข้าไม่มารับเงินกับลูกสาวด้วยมือของข้าเอง ก็หารู้ไม่ว่าเจ้าโกงเงินข้าทุกเดือน เร่เข้ามา… มาดูคนหน้าด้านโกงได้แม้กระทั่งเงินอีแปะ” นางเซี่ยแผดเสียงออกไปเพื่อต้องการให้ทุกคนมามุงและสนใจ “นี่เจ้า….” ท่านลุงไท่ชี้หน้านางเซี่ยด้วยความโมโห จากนั้นก็หันไปสบตากับเซี่ยซือมั่น เพื่อต้องการให้นางพูดและอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น ตนไม่เคยคิดที่จะเปิดดูถุงผ้านั้นว่ามีเงินอยู่จำนวนเท่าใด เพราะความสงสารหญิงสาวที่จากบ้านมาทำงานไกลถึงในเมือง อยู่กินตัวคนเดียวเป็นสาวเป

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status