공유

ตอนที่ 19

작가: Scince
last update 최신 업데이트: 2025-05-14 12:13:17

“ช้าก่อนแม่นาง” เซี่ยซูมี่กำลังจะยืนขึ้นเก็บของที่เตรียมมาเสนอแก่หลงจู๊ แต่แล้วกลับมีเสียงของชายอีกคนพูดขึ้นมาเสียก่อน

          “นายท่าน” หลงจู๊ยืนขึ้นทำความเคารพ ทำให้ผู้คนที่อยู่บริเวณนั้นต้องทำความเคารพตามไปด้วย รวมไปถึงพวกของซ่งเวยหลงด้วยเช่นกัน

          “ตามสบาย ฮูหยินน้อยอย่าได้ถือสาหลงจู๊ ความคิดเขาอาจจะล้าหลังไปบ้าง แต่ทั้งหมดนี้ก็เพื่อผลประโยชน์ของทางโรงเตี๊ยมเรา” นายท่านคนเดิมกล่าวขอโทษแทนลูกน้องคนสนิท เซี่ยซูมี่ยิ้มบางเพราะไม่คิดเอามาเป็นอารมณ์ใดๆ ไม่คิดที่จะเอามาใส่ใจเลยด้วยซ้ำไป

          “คารวะคุณชายเหอ” ซ่งเวยหลงเคยพบหน้าคุณชายท่านนี้มาก่อน เขาคือเจ้าของโรงเตี๊ยมชื่อดังแห่งนี้ และยังเป็นที่หมายปองของหญิงสาวน้อยใหญ่ในเมืองนี้อีกด้วย

          “ตามสบายเถอะพรานซ่ง ทุกคนด้วย เชิญนั่งๆ” ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ หน้าตาเกลี้ยงเกลา แม้จะไม่ได้หล่อเหลามาก แต่ก็ดูดีสมฐานะคุณชาย ทั้งท่าทางการวางตัว รวมไปถึงเสื้อผ้าที่สวมใส่

          “คุณชาย บ่าวไม่รู้ว่าท่านจะมาถึงในครัว ขอโทษที่ไม่ได้เตรียมการต้อนรับ” หลงจู๊พูดขึ้นอย่างนอบน้อมและรู้สึกผิด ปกติแล้วนานๆ ครั้งคุณชายถึงจะมาตรวจดูกิจการที่โรงเตี๊ยมแห่งนี้ เพราะส่วนมากแล้วตนจะเป็นคนดูแลทั้งหมด

          “ไม่ต้องมากพิธี ข้าเพียงแค่ผ่านมาเท่านั้นจึงแวะมาดูความเรียบร้อย เมื่อครู่ได้ยินบทสนทนาของพวกท่านทั้งหมดแล้ว ฮูหยินน้อยหากท่านไม่รังเกียจก็ขอตักให้ข้าได้ลิ้มรสสักถ้วยเถิด” คุณชายเหอกล่าวด้วยน้ำเสียงเป็นกันเอง ทันทีที่ฮูหยินซ่งเทข้าวต้มลงถ้วยเขาก็ได้กลิ่นหอมอ่อนๆ โชยมา ไหนจะกลิ่นของผักดองนั่นอีก หน้าตารึก็ดูแปลกแตกต่างออกไปชวนให้น่าสนใจยิ่งนัก

          “เรียนคุณชาย เป็นเกียรติของข้าน้อยยิ่งนักเจ้าค่ะ” เซี่ยซูมี่ไม่รอช้า เทข้าวต้มในกระบอกไม้ไผ่ให้กับคุณชายเหอในทันที

          คงปฏิเสธไม่ได้ว่ากลิ่นของมันช่างหอมเย้ายวนยิ่งนัก ส่งผลให้คนที่ได้กลิ่นต่างก็ท้องร้องไปตามๆ กัน แม้ว่ามองๆ ดูแล้วมันจะเป็นเพียงข้าวต้มธรรมดาๆ ไม่ได้มีอะไรพิเศษก็ตาม

          “นี่เป็นข้าวต้มสูตรพิเศษที่ข้าทำขึ้นมาเอง และนี่ก็เป็นผักดองเค็มและเผ็ดแบบบ้านป่า ข้าใช้เวลาเกือบสัปดาห์กว่าที่จะได้ของพวกนี้มา ผักข้าก็ปลูกอย่างพิถีพิถันเก็บตามกำหนด ทำให้พวกมันมีขนาดที่เท่ากันทุกต้น อีกทั้งยังได้รสชาติที่เหมือนกันอีกด้วยเจ้าค่ะ” เซี่ยซูมี่เริ่มสร้างมูลค่าให้กับสินค้าของตนเองทันที แม้จะเป็นเพียงผักดองไม่ได้มีอะไรพิเศษมากมาย แต่ที่แตกต่างออกไปก็คือเรื่องเล่าและกรรมวิธีต่าง ๆ ของมันต่างหาก ที่หากใครได้ฟังก็ย่อมคิดว่ารสชาตินั้นคุ้มค่าแก่การรอคอย

          “อืม กลิ่นหอมยิ่งนัก” คุณชายเหอเพียงแค่สูดดมควันที่ลอยมาจากถ้วยข้าวต้ม เขาก็ได้กลิ่นหอมที่ไม่เคยได้กลิ่นจากข้าวต้มที่ไหนมาก่อน

          “นอกจากนั้นข้ายังมีขาหมูชั้นดีรมควันอยู่ 7 วัน 7 คืนด้วยไม้ป่าเนื้อพิเศษ ที่หาได้เฉพาะแถบชายป่าบ้านข้าเท่านั้น ทุกๆ 2 ชั่วยาม ข้าจะต้องรีบมาเปลี่ยนไม้เพื่อที่ว่ากลิ่นหอมของไม้ป่าจะได้ไม่จาง เชิญคุณชายลองชิมเจ้าค่ะ” เซี่ยซูมี่ผายมือเป็นเชิงอนุญาตให้คุณชายรวมไปถึงหลงจู๊ได้ลิ้มลองรสชาติ

คุณชายเหอไม่รอช้าชิมรสชาติของข้าวต้มก่อน ซึ่งต้องบอกว่ารสชาติไม่ได้แปลกไปจากข้าวต้มที่อื่นที่ตนเคยกินนัก เหมือนข้าวต้มเกลือธรรมดา แต่ที่ไม่ธรรมดาเห็นจะเป็นกลิ่นหอมของมัน นี่น่าจะเป็นกลิ่นหอมของไม้ป่าที่ฮูหยินน้อยเคยบอกไปแล้วข้างต้น

          คุณชายเหอและหลงจู๊ตั้งหน้าตั้งตากินอย่างไม่สนใจใคร ทั้งๆ ที่เป็นเพียงข้าวต้มเกลือและผักดองทั่วไป ที่จะแปลกออกไปก็น่าจะเป็นไชเท้าดองเผ็ดที่รสชาติจัดจ้านถึงใจ เมื่อกินกับข้าวต้มแล้วช่างเข้ากันได้เป็นอย่างดี เหมาะกับฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึงในอีก 1 เดือนข้างนี้ได้อย่างลงตัวเลยทีเดียว

          “ดี ดีเยี่ยม รสชาติถูกปากยากที่จะบรรยาย” คุณชายเหอวางตะเกียบ จากนั้นก็เอ่ยชมอย่างไม่ขาดปาก ทางด้านหลงจู๊ยังอยากจะกินต่อ แต่ในเมื่อเจ้านายอิ่มเขาเองก็จำต้องวางตะเกียบ แม้ภายในใจจะรู้สึกเสียดายเป็นอย่างมาก

          “คุณชายเหอกล่าวชมเกินไปแล้วค่ะ” เซี่ยซูมี่ถ่อมตัว

          “เชิญฮูหยินและพรานซ่งขึ้นไปคุยกับข้าด้านบนเถอะ” คุณชายซ่งต้องการที่จะตกลงเรื่องราคา แต่ต้องการเก็บเป็นความลับ จึงอนุญาตให้เพียงสองสามีภรรยาและหลงจู๊เท่านั้นที่ขึ้นไปห้องทำงานชั้นบนได้

          “ฮูหยินซ่ง ข้าดูก็รู้ว่าท่านเองก็มั่นใจในรสชาติอาหารของท่าน โดยเฉพาะผักดองที่ท่านนำมานี้ มันช่างแปลกใหม่สำหรับข้ายิ่งนัก ข้าตกลงที่จะซื้อขายกับท่าน เชิญแม่นางเรียกราคามาได้เลย” คุณชายเหอมีหัวการค้า เขาสามารถมองคนได้อย่างอ่านขาด เนื่องจากว่าพบปะทำการค้ากับผู้คนมาก็มากมายนัก

          “เรียนคุณชาย ผักดองนี้ข้าขายไหละ 500 อีแปะเจ้าค่ะ มีทั้งหมด 20 ไหเพียงเท่านั้น ไม่มีเพิ่มมากกว่านี้แล้วเจ้าค่ะ” เซี่ยซูมี่บอกราคา ทุกคนที่ได้ยินราคาต่างก็ตาโตไปตามๆ กัน เพราะโดยทั่วไปแล้วราคาผักดองไหหนึ่งจะอยู่ที่ 5-10 อีแปะเพียงเท่านั้น หากราคาสูงเพียงนี้ก็ซื้อเนื้อกินยังจะดีเสียกว่า

          “ฮูหยินน้อย ผักดองของท่านรสชาติแปลกใหม่ไม่เหมือนผู้ใดนั้นข้ายอมรับ แต่ท่านตั้งราคาเกินเอื้อมเพียงนี้ เกรงว่าแม้แต่บ้านของคหบดีก็คงต้องขอปฏิเสธท่าน” หลงจู๊นึกขำในราคาที่ฮูหยินน้อยนี้เสนอมา นางเป็นคนกล้าอันนี้เขาไม่อาจปฏิเสธได้ และต้องบอกว่าชื่นชอบในความกล้าของนางมาก แต่กล้าแบบไม่คิดหน้าคิดหลังเช่นนี้ก็ไม่คิดที่จะสนับสนุน

          “เรียนท่านหลงจู๊อย่างไม่ปิดบัง เนื่องจากว่าขั้นตอนในการทำผักดองของข้าน้อยนี้ ค่อนข้างที่จะยุ่งยากและมีความซับซ้อนยิ่งนัก จะต้องใช้ความเอาใจใส่เป็นอย่างดีในการทำ ทำให้เสียเวลาตรงนี้มากเป็นพิเศษ อีกอย่างผักที่ข้านำมาดอง หาใช่ผักเน่าเสียอย่างที่เคยทำกันมาช้านานไม่ เพราะฉะนั้นจะเอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้เจ้าค่ะ" เซี่ยซูมี่ไม่คิดว่าราคานี้จะขายไม่ได้ มั่นใจว่ามันต้องต่อยอดทำเงินได้มากกว่าราคาที่เสนอขายไปอย่างแน่นอน แต่มันก็ขึ้นอยู่กับคนที่ซื้อต่อไปด้วยว่าจะสามารถทำได้หรือไม่

          “ฮ่าๆ เจ้านี่ช่างกล้าเจรจายิ่งนัก แต่ราคาที่เจ้าเสนอมา มันสูงไปอย่างที่หลงจู๊ว่า เดิมทีผักดองขายราคาดีสุดก็เพียงแค่ 10 อีแปะเท่านั้น” คุณชายเหอกล่าวขึ้น แม้จะรู้สึกเสียดายมากเพียงใด แต่หากราคาสูงลิ่วถึงเพียงนั้นเขาก็ไม่คิดที่จะสู้

          “ข้าขายฝีมือ ไม่ได้ขายราคาตามท้องตลาด หากจะเอามาเทียบกันเกรงว่าจะไม่ถูกต้อง เมื่อครู่ข้าก็ได้บอกไปแล้วว่าขั้นตอนนั้นยุ่งยากซับซ้อน แต่ถึงอย่างไรท่านก็อย่าลืมว่าผักดอง 1 ไห สามารถทำเงินให้พวกท่านได้มากมายยิ่งนัก นำไปผัดคู่กับเนื้อก็รสชาติดีหาที่เปรียบไม่ได้เลยล่ะเจ้าค่ะ อีกอย่างท่านเองก็อย่าลืมว่าโรงเตี๊ยมท่านขายอาหารจานไม่ต่ำกว่า 100 อีแปะ ข้าพูดถูกหรือไม่เล่าเจ้าคะ?” เซี่ยซูมี่แอบขยิบตาให้สามี เพราะสังเกตเห็นว่าสีหน้าของสามีไม่ค่อยสู้ดีนัก

          “ฮ่าๆ ที่เจ้าพูดมามันก็ถูก ถ้าเช่นนั้นก็ตกลง ข้ารับซื้อผักดองของเจ้า เด็กๆ ไปขนไหผักดองเข้ามาเก็บ เอาวางไว้ในห้องเก็บของอย่างดี” คุณชายเหอสั่งเสียงเข้ม เมื่อนางพูดมาเช่นนี้แล้วเขาจะยอมเสียหน้าได้อย่างไร

          “ขาหมูชั้นดีของข้าเล่าเจ้าคะ ไม่ทราบว่าคุณชายสนใจด้วยหรือไม่ ร้านอาหารรสชาติดีอย่างเดียวไม่ได้หรอกนะเจ้าคะ จำเป็นต้องมีความต่างเพื่อเป็นจุดสนใจในการเรียกแขกด้วยเจ้าค่ะ” เซี่ยซูมี่หลอกล่อด้วยกลอุบาย เชื่อว่าไม่นานคุณชายเหอต้องหลงกลอย่างแน่นอน คนทำธุรกิจมักจะมองเหตุการณ์ล่วงหน้าไม่ใช่เหตุการณ์ปัจจุบัน

“ได้ ข้ารับซื้อหมด มีเท่าไหร่ขนมาให้หมด” คุณชายเหอไม่รอช้า เร่งสั่งให้ลูกน้องขนของที่มีในเกวียนพรานซ่งออกมาให้หมด หากตัดสินใจชักช้ามีหวังนางได้เสนอขายให้กับโรงเตี๊ยมคู่แข่งอย่างแน่นอน

เซี่ยซูมี่ขายเนื้อชั้นดีในราคาชั่งละ 500 อีแปะ ขาหมูป่ามีทั้งหมด 4 ขา แต่ละขาหนักราวๆ 50 ชั่ง น้ำหนักรวมทั้งหมดเป็น 200 ชั่ง เป็นเงิน 1 ตำลึงทอง นอกจากนั้นยังมีเนื้อสามชั้นชิ้นใหญ่อีก 4 ชิ้น ขายชั่งละ 1 ตำลึง มีทั้งหมด 100 ชั่ง เป็นเงิน 1 ตำลึงทอง และเงินค่าขายผักดองอีก 10 ตำลึง รวมเงินที่ได้จากการขายของทั้งสิ้น 2 ตำลึงทอง 10 ตำลึง

หลงจู๊ทำหน้าที่จ่ายเงินด้วยมืออันสั่นเทา เขาไม่เคยลงบัญชีซื้อของด้วยจำนวนเงินมหาศาลเพียงนี้มาก่อน ส่วนคุณชายเหอนั้นไม่มีท่าทีกังวลใดๆ เพราะมั่นใจว่าถึงอย่างไรก็ไม่ขาดทุนอย่างแน่นอน เผลอๆ อาจจะได้ทุนคืนตั้งแต่ผักดองไหแรกเลยก็เป็นได้ อีก 19 ไหที่เหลือคือกำไร โรงเตี๊ยมของเขารับรองแขกชั้นขุนนางเงินหนาทั้งนั้น พวกเขาไม่สนใจเรื่องราคา ขอเพียงอาหารรสชาติถูกปาก เรื่องเงินนั้นไม่เป็นปัญหาอยู่แล้ว

          ทางด้านเจียงรั่วซีนั่งรอที่เกวียนด้วยใบหน้าบูดบึ้ง ไม่คิดว่าเพียงแค่ผักดองธรรมดาๆ ก็จะสามารถขายได้ ไหนว่าโรงเตี๊ยมแห่งนี้รับรองเฉพาะลูกหลานขุนนาง แล้วเหตุใดถึงรับซื้อผักดองบ้านๆ เช่นนั้น น่าเจ็บใจตรงที่ไม่รู้ว่าซื้อขายกันในราคาเท่าไหร่ คงจะไม่ต่างจากท้องตลาดมากสักเท่าไหร่หรอก อย่างมากก็คงจะได้ไหละ 10 อีแปะเพียงเท่านั้น

สักพักเซี่ยซูมี่ก็เดินออกมาพร้อมกับรอยยิ้มที่ปิดไม่มิด มีซ่งเวยหลงเดินตามมาติดๆ นอกจากนั้นท่านหลงจู๊ก็ยังเดินมาสิ่งด้วยตัวเองอีกด้วย อีกทั้งหลงจู๊ยังไม่มีท่าทีไม่พอใจดังเช่นที่เคยแสดงออกไปเมื่อครึ่งชั่วยามก่อนจะได้ชิมรสชาติของผักดอง สองสามีภรรยาเดินตรงมายังที่เจียงรั่วซียืนอยู่

          “เรียบร้อยดีหรือไม่เจ้าคะ” เจียงรั่วซีถามซ่งเวยหลง

          “อืม” ซ่งเวยหลงกล่าว

          “ท่านพี่รั่วซียังไม่ไปอีกหรือเจ้าคะ ข้าคิดว่าท่านพี่ไปทำธุระกันแล้วเสียอีก” เซี่ยซูมี่ไม่คิดว่าลงมาแล้วจะยังพบสองสามีภรรยานี้อีก ไหนบอกว่ามาทำธุระในเมือง

          “ข้าบอกนางแล้วล่ะอาซ้อ แต่นางก็ยังดึงดันที่จะรอท่าน บอกว่าไหนๆ ก็จะไปซื้อของเข้าบ้านก็เลยรอไปพร้อมกัน” อาจื่อพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยใจ และรู้สึกเกรงใจสหายรวมไปถึงพี่สะใภ้ของเขาด้วย

          “ถ้าเช่นนั้นก็ไปกันเถอะเจ้าค่ะ” เซี่ยซูมี่ไม่ได้เซ้าซี้ ในเมื่อเต็มใจที่จะนั่งรอนางก็คงทำอะไรไม่ได้

          “ข้าบอกเจ้าแล้วว่าน้องซูมี่ไม่ว่าอะไร เพราะพวกเราตกลงกันระหว่างทางแล้ว หลังจากที่เลือกซื้อของเสร็จพวกเราจะไปเยี่ยมซือมั่นกัน ใช่หรือไม่ล่ะน้องซูมี่?” เจียงรั่วซีพูดขึ้นอย่างเป็นต่อ พร้อมทั้งยกยิ้มสะใจที่เห็นใบหน้าตกใจ แต่เพียงแค่แวบเดียวเท่านั้น ไม่นานเซี่ยซูมี่ก็กลับมาสีหน้าปกติดังเดิม

          “ข้าไม่เห็นจำได้ว่าเคยพูดเช่นนั้นกับท่าน อีกอย่างบ้านเศรษฐีใช่ว่าใครจะเข้าออกก็ทำได้ หากเข้าไปสุ่มสี่สุ่มห้ามีหวังพี่สาวข้าอาจถูกลงโทษได้” เซี่ยซูมี่พูดขึ้นบ้าง นึกอยากจะปล่อยหญิงไร้ยางอายผู้นี้ไว้กลางทางเสียจริง หล่อนว่างนักหรืออย่างไรกันถึงหาเรื่องให้ไม่เว้นวัน

          “แหม ข้าเองก็” ยังไม่ทันที่เจียงรั่วซีจะพูดจบ เซี่ยซูมี่ก็พูดขัดขึ้นมาก่อน

          “ท่านพี่เจ้าคะ จู่ๆ ข้าลืมกฎของหมู่บ้านข้อที่ 5 ไปเสียอย่างนั้น ท่านพี่ช่วยบอกข้าทีได้หรือไม่เจ้าคะ?” เซี่ยซูมี่เปลี่ยนเรื่องคุย อีกทั้งยังพูดถึงกฎของหมู่บ้านขึ้นมา ด้วยกฎข้อที่ 5 คือเรื่องผิดผัวเมียของผู้อื่น โทษคือโกนผมแห่ประจานทั้งหมู่บ้าน จากนั้นก็เผาทั้งเป็น

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • สามีข้าคือพรานป่า   ตอนที่ 63

    “ท่านพี่เจ้าคะ ข้าเจ็บท้องเจ้าค่ะ” เซี่ยซูมี่ปลุกสามีในช่วงกลางดึกของคืนฝนตกหนักคืนหนึ่ง วันนี้กลับไม่โชคดีเหมือนครั้งที่คลอดซ่งอี้เทียน เพราะยังไม่ถึงกำหนดคลอดทุกคนจึงยังไม่มีการเตรียมการใดๆ “เจ็บอย่างไร ทนได้หรือไม่” ซ่งเวยหลงรีบลุกขึ้นเพื่อดูอาการของภรรยา ไม่หลงเหลือความง่วงเลยสักนิด “ไม่ไหวเจ้าค่ะ ให้คนไปตามหมอตำแยให้น้องทีเจ้าค่ะ” เซี่ยซูมี่เค้นเสียงออกมา แม้ว่าภายในใจจะไม่อยากพูดคุยอะไรไปมากกว่านี้เลยก็ตามทันทีที่ฟังภรรยาพูดจบ ซ่งเวยหลงก็ออกไปสั่งการสาวใช้ที่คอยรับใช้หน้าห้อง ให้ไปตามหมอตำแยมาโดยด่วน ฮูหยินซ่งกำลังจะคลอดลูกแล้ว สาวใช้ในเรือนรีบลุกเพื่อไปทำหน้าที่ของตนเองที่ได้รับมอบหมายอย่างไม่มีอิดออด แม้จะสงสัยอยู่บ้างว่ายังไม่ครบกำหนดจะคลอดได้อย่างไร แต่ก็มีเสียงแตกหลายเสียง เนื่องจากว่าครรภ์ของฮูหยินนั้นใหญ่ผิดปกติหลังจากนั้นราวๆ 2 ชั่วยาม เซี่ยซูมี่ก็ได้ให้กำเนิดทายาทสกุลซ่ง แต่ที่น่ายินดีไปมากกว่านั้นคือเป็นแฝดชาย แม้ว่าจะคลอดก่อนกำหนด แต่แฝดทั้งสองก็สมบูรณ์แข็งแรงดี เมื่อแฝดทั้งสองคลอดฟ้าฝนกลับหยุดลง จากนั้นก็มีแสงใหม่ของอีกวันโผล่ขึ้น คล้ายจะบอกเป็น

  • สามีข้าคือพรานป่า   ตอนที่ 62

    3 ปีผ่านไป ซ่งอี้เทียนเริ่มโตขึ้นมาก อีกทั้งยังเป็นเด็กที่รู้มากอีกด้วย เซี่ยซูมี่สอนลูกชายอ่านเขียนตั้งแต่ยังเด็ก ด้วยหวังว่าโตขึ้นไปในภายภาคหน้าเขาจะสามารถดูแลตัวเองได้ ส่วนกิจการของบ้านซ่งต้องบอกว่าขยายใหญ่โตมาก อีกทั้งยังสร้างโรงเตี๊ยมขึ้นมา เพื่อแข่งกับโรงเตี๊ยมเหอฟู่อีกด้วย โดยให้ชื่อโรงเตี๊ยมว่า หลงโถว เช่นเดียวกับร้านค้า ผู้คนในเมืองรวมไปถึงลูกค้าต่างเมือง ต่างรู้จักร้านหลงโถวนี้เป็นอย่างดีทางด้านคุณชายเหอได้ถูกทางการจับตัว เนื่องจากว่ามีคนมาร้องเรียนเรื่องที่ลูกสาวหายตัวไป หลังจากที่แต่งเข้าไปเป็นอนุ เมื่อมีคนมาร้องเรียนกับทางการ อีกหลายๆคนที่ได้ข่าวก็เริ่มมาร้องเรียนบ้าง เนื่องจากว่าเมื่อก่อนชาวบ้านต่างเกรงกลัวอำนาจและบารมีของสกุลเหอ อีกทั้งยังมีท่านเจ้าเมืองหนุนหลัง ทำให้ไม่มีใครแจ้งความเอาผิด แต่ตอนนี้ทุกอย่างได้เปลี่ยนไปแล้ว เมื่อมีท่านรองแม่ทัพหยางเข้ามาประจำการในเมืองนี้ ทำให้ชาวบ้านสามารถเข้าถึงทางการได้ง่ายขึ้น“มีชาวบ้านเข้ามารองเรียนเรื่องคนหายไม่เว้นวัน” ท่านเจ้าเมืองถอนหายใจ ไม่คิดเลยว่าสหายที่เติบโตด้วยกันมาจะเป็นคนเช่นนี้ เดิมทีเหอฟู่ผู้นี้เป็นคนจิตใจดีมีเมตตา

  • สามีข้าคือพรานป่า   ตอนที่ 61

    หลังจากที่ให้ลูกชายกินนม เซี่ยซูมี่จึงพาลูกชายออกมายังห้องโถง ซึ่งแม่บ้านเห่ยนำเตาขนาดเล็กมาวางไว้รอบๆ ห้อง เพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้กับภายในบ้าน ทำให้บ้านไม่หนาวเย็นอย่างที่ควรจะเป็น “มาแล้วหรือหลานชายของป้า มาให้ป้าอุ้มให้หายคิดหน่อยหน่อยเถิด” เซี่ยซือมั่นเงยหน้าจากผ้าที่กำลังปักอยู่ จากนั้นก็ยื่นงานปักให้สาวใช้คนสนิททำต่อ ส่วนนางนั้นเอื้อมมือเพื่อที่จะไปอุ้มหลายชายเข้าสู่อ้อมกอดซ่งอี้เทียนเหมือนจะสัมผัสได้ถึงความรักความเอ็นดูที่ท่านป้าหมาดๆของเขามีให้ ทารกน้อยอายุเพียง 1 เดือน จากตอนแรกที่อยู่ในอ้อมกอดมารดา จึงยอมให้ท่านป้าของเขาอุ้มเข้าไปกอดอย่างง่ายดายส่วนทางด้านท่านป้าที่เมื่อได้อุ้มหลานชายแล้วนั้น ก็รู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากว่าหลานชายไม่ได้ผอมแห้งดังเช่นที่ตนนั้นกังวล แต่เขากลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง ทารกน้อยมีน้ำหนักหากจะพูดแล้วนั้น น่าจะหนักกว่าเด็กทั่วๆ ไปเสียด้วยซ้ำ คิดไม่ถึงว่าทารกที่กินเพียงน้ำนมของผู้เป็นแม่เพียงอย่างเดียวจะอุดมสมบูรณ์ได้ “เป็นไรไปหรือเจ้าคะ?” เซี่ยซูมี่สังเกตเห็นสีหน้าฉงนของพี่สาวจึงอดที่จะเอ่ยถามออกไปไม่ได้ “เสี่

  • สามีข้าคือพรานป่า   ตอนที่ 60

    1 เดือนผ่านไปเซี่ยซูมี่ออกจากการอยู่ไฟแล้วเรียบร้อย อีกทั้งวันนี้ยังมีแขกมาเยี่ยม ซ่งอี้เทียน นั่นก็คือท่านป้าและท่านลุงหยางหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งก็คือท่านรองแม่ทัพหยางนั่นเองกล่าวถึงเซี่ยซือมั่นเมื่อเข้าไปทำงานยังจวนของท่านรองแม่ทัพ ก็ได้มีโอกาสศึกษาดูใจกับรองแม่ทัพหนุ่มมากขึ้น ทำให้ทั้งสองคนมีโอกาสได้ใกล้ชิดกัน อีกทั้งหญิงสาวยังรับหน้าที่ในการทำอาหารขึ้นโต๊ะให้แก่เขาเองอีกด้วย คุณสมบัติเพียบพร้อมเช่นนั้นจะหนีจากฮูหยินใหญ่ของเขาไปได้อย่างไรกัน“หลานชายของป้า น่าตีท่านพ่อกับท่านแม่ของเจ้ายิ่งนัก หลานชายคลอดทั้งที กลับไม่ส่งข่าวคราวให้ป้าบ้างเลย” เซี่ยซือมั่นทำทีเป็นบ่นกับหลานชาย ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วพ่อกับแม่ของเจ้าก้อนกลมนั้นก็นั่งอยู่ด้วย “หิมะตกหนัก อีกทั้งข้าเองก็เพิ่งจะออกจากการอยู่ไฟ ป้าเห่ยไม่ยอมให้ข้าเห็นเดือนเห็นตะวันเลยล่ะเจ้าค่ะ” เซี่ยซูมี่อดที่จะบ่นแม่บ้านของตัวเองไม่ได้ เพราะนางไม่ยอมให้ออกไปไหนเลยแม้ว่าจะอ้อนวอนมากเพียงใดก็ตาม เซี่ยซูมี่เป็นคนสะอาด จะยอมให้ผมตัวเองมันเยิ้มได้อย่างไรกัน นอกจากมันแล้วก็ยังรู้สึกคันหนังหัวแต่ไม่อยากสอดนิ้วมือเข้าไปเพราะหนังหัวช่

  • สามีข้าคือพรานป่า   ตอนที่ 59

    เซี่ยซูมี่ลืมตาตื่นในเช้าของอีกวัน คิดว่าตัวเองฝันไปหรือเป็นเรื่องจริง แต่เมื่อใช้มือคลำสัมผัสที่หน้าท้องกลับพบว่ามันยุบลง ไม่ป่องเหมือนเมื่อวาน นอกจากนั้นแล้วในยามที่ขยับตัวก็รู้สึกเจ็บ อีกทั้งยังเหมือนได้ยินเสียงร้องงอแงของเด็กอีกด้วย “อือ” คุณแม่มือใหม่ส่งเสียงในลำคอ “ลูกพ่อ แม่ของลูกตื่นแล้ว” ซ่งเวยหลงตอนนี้กำลังอุ้มลูกชายอยู่สืบเนื่องจากเมื่อคืนที่ได้บอกกับหมอตำแยเอาไว้ว่าจะให้ลูกกินนมของภรรยาเป็นคนแรกนั้นต้องหยุดลง เนื่องจากว่าลูกชายร้องไห้งอแงในยามเช้าแต่ภรรยาเขากลับยังไม่ได้สติ ตนจึงจำเป็นต้องให้แม่นมที่เตรียมไว้สำหรับลูกชายทำหน้าที่แทนทารกน้อยราวกับว่ารับรู้และเข้าใจในสิ่งที่บิดาพูด ทันทีที่พูดถึงมารดาเขากลับเงียบเสียงลง คล้ายกำลังฟังเสียงการเคลื่อนไหวของมารดา แต่เมื่อไม่ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยเหมือนตอนที่อยู่ในท้อง เขากลับเริ่มเบะปากเตรียมที่จะร้องไห้อีกครั้ง “ท่านพี่ นะ น้ำเจ้าค่ะ น้องขอน้ำ” เซี่ยซูมี่รู้สึกลำคอแห้งผาก แม้ว่าอยากจะลุกขึ้นไปอุ้มลูกชายมากเพียงใด แต่ตอนนี้ตนต้องได้กินน้ำเพื่อให้ร่างกายมีแรงขึ้นมาก่อน “ฮูหยิน น้ำเจ้าค่ะ”

  • สามีข้าคือพรานป่า   ตอนที่ 58

    หลังจากที่ไปส่งพี่สาวที่จวนของท่านรองแม่ทัพ เรียกได้ว่าหายห่วงไปได้มากทีเดียว เดิมทีเซี่ยซูมี่ตั้งใจจะพาพี่สาวไปซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ ให้สมกับตำแหน่งแม่บ้านใหญ่ของจวนท่านรองแม่ทัพ แต่กลับถูกเจ้าของจวนขัดขึ้นเสียก่อน เนื่องจากว่าเขาได้ให้คนงานจัดเตรียมทุกอย่างเอาไว้เรียบร้อยแล้ว เมื่อไปถึงจวนก็ไปดูที่พักของพี่สาว คงต้องบอกว่าไม่เหมือนกับที่พักพิงของคนงานเลยสักนิด แม้จะบอกว่าไม่ได้ให้เข้าทำงานมาเป็นทาส หรือแม้กระทั่งยกตำแหน่งแม่บ้านใหญ่ให้ ก็ยังดูไม่ใช่ที่พักของคนงานอยู่ดี แต่คล้ายว่าเป็นห้องนอนของแขกคนสำคัญมากกว่าเซี่ยซือมั่นได้แต่มองหน้าน้องสาวเพื่อขอความคิดเห็น แต่เซี่ยซูมี่กับเดินตัวติดกับสามี ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นสายตาที่พี่สาวพยายามจะส่งมาให้ ได้เห็นการต้อนรับที่อบอุ่นเช่นนี้แล้วเซี่ยซูมี่เองก็เบาใจ “ท่านว่าพี่ชายของท่านจะจริงจังกับพี่สาวของข้ามากน้อยเพียงใดเจ้าคะ?” ระหว่างที่กลับบ้านป่า เซี่ยซูมี่ก็ชวนสามีพูดคุยเพื่อให้ไม่เหงาปากมากจนเกินไป “ชู่ว หยุดพูดจาส่งเดช มีคนตามมาส่งเราด้วย” ซ่งเวยหลงทำเสียงเป็นเชิงบอกให้ภรรยาหยุดพากพิงถึงบุคคลอื่น เนื่องจากว่าพี่ชายได้

  • สามีข้าคือพรานป่า   ตอนที่ 57

    “คารวะท่ารองแม่ทัพเจ้าค่ะ” เซี่ยซูมี่และพี่สาวทำความเคารพรองแม่ทัพหนุ่มอีกครั้ง “ตามสบายเถิดน้องสะใภ้ ไม่ต้องมากพิธี” รองแม่ทัพกล่าวทักทายภรรยาของสหายอย่างเป็นกันเอง ทั้งๆที่ความเป็นจริงคือเขาเป็นคนที่ค่อนข้างระวังตัว ด้วยมีหน้าที่ที่ต้องถวายอารักขาความปลอดภัยให้แก่องค์ชายห้ามาตั้งแต่เด็กๆ “ท่านมาก็ดีแล้วขอรับ ข้าขอขอบคุณสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ด้วย” ซ่งเวยหลงเอ่ยขึ้น ช่วงที่ไปล่าสัตว์ด้วยกันเขาได้เรียนรู้หลายๆอย่างเกี่ยวกับวิชาป้องกันตัว รองแม่ทัพหนุ่มเองก็ได้เรียนรู้วิชาเอาตัวรอดเมื่ออยู่ในป่าเช่นกัน ทำให้ทั้งสองคนสนิทกันมาก “ไม่เป็นไร เรื่องของเจ้าก็เหมือนเรื่องขอข้า ที่ข้ามาในวันนี้ก็เพื่อจะมาทำเรื่องที่พูดเอาไว้ให้สำเร็จลุล่วง ซ่งเวยหลง เจ้าต้องการที่จะเป็นพี่น้องสาบานร่วมกับข้าหรือไม่?” รองแม่ทัพเอ่ยขึ้นพร้อมทั้งจ้องมองหน้าสหายที่ตนเอ็นดูเหมือนน้องชายแท้ๆ “ไมตรีที่ท่านมอบให้ ข้าซ่งเวยหลงไม่อาจที่จะปฏิเสธได้ อีกทั้งยังรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้เป็นพี่น้องกับท่าน” ซ่งเวยหลงไม่คิดปฏิเสธ เพราะเขาเองก็รับรู้ได้ถึงความเมตตาที่รองแม่

  • สามีข้าคือพรานป่า   ตอนที่ 56

    ทุกคนถูกจับตัวไปที่ศาลของท่านเจ้าเมืองเพื่อช่วยตัดสิน โดยท่านลุงไท่ร้องทุกข์แก่ท่านเจ้าเมืองทันทีที่ไปถึง รวมไปถึงเซี่ยซูมี่และซ่งเวยหลงเองก็ถูกควบคุมตัวมาในที่นี้ด้วย “จับตัวข้ามาด้วยเรื่องอันใดกัน ข้าจะกลับหมู่บ้านป่า” นางเซี่ยโวยวายในขณะที่ถูกจับกุมตัวมีเพียงซ่งเวยหลงและภรรยาเท่านั้นที่ไม่ถูกควบคุมตัวโดยทหาร หากจะบอกว่าทหารเหล่านั้นเกรงกลัวสายตาของซ่งเวยหลงที่จ้องมองในตอนที่กำลังจะไปคุมตัวคนท้องก็คงจะไปผิด ทหารผู้น้อยจึงทำได้เพียงผายมือเชิญทั้งสองคนไปยังศาล ซึ่งเซี่ยซูมี่ก็ไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด “หุบปาก ต่อหน้าท่านเจ้าเมืองห้ามเสียมารยาท” ลูกน้องคนสนิทของท่านเจ้าเมืองเอ่ยขึ้นน้ำเสียงน่าเกรงขาม ทำให้ชาวบ้านที่ตามมาดูคำตัดสินต่างเงียบไม่มีใครกล้าเอ่ยคำใดออกมา หลังจากที่ท่านเจ้าเมืองเข้ามานั่งประจำตำแหน่งก็เริ่มทำการสอบสวน ซึ่งเปิดโอกาสให้กับผู้ร้องทุกข์นั่นก็คือท่านลุงไท่เป็นคนพูดก่อน “เซี่ยซือมั่น สิ่งที่ไท่หานพูดเป็นความจริงหรือไม่” ท่านเจ้าเมืองเริ่มทำการสอบสวน “ข้าน้อยเซี่ยซือมั่นคารวะท่านเจ้าเมือง สิ่งที่ท่านลุงไท่พูดเป็นความจริ

  • สามีข้าคือพรานป่า   ตอนที่ 55

    เซี่ยซือมั่นถูกบิดาจับข้อมือเอาไว้ แต่แล้วก็ต้องตกใจเมื่อได้ยินสิ่งที่มารดาตะโกนออกมาจนสุดเสียง ท่านลุงไท่เองก็ตกใจเมื่ออยู่ดีๆ ก็ถูกกล่าวหาว่าคดโกง สมัยนี้เรื่องโกงต่างๆ ไม่ค่อยมีเกิดขึ้น ทุกคนอยู่ด้วยกันด้วยความซื่อสัตย์ รักเกียรติและศักดิ์ศรีของตนเองเป็นอย่างมาก “เจ้าพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร” ท่านลุงไท่มองตาเขียวรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก คนในเมืองรู้จักตนอยู่ไม่น้อย เพราะมีอาชีพรับของป่าจากหมู่บ้านต่างๆ มาขาย หากเรื่องนี้ถูกผู้คนเข้าใจผิด แล้วตนจะทำงานต่อไปอย่างไร “หมายความว่าที่ผ่านมาเจ้าคดโกงข้า วันนี้หากข้าไม่มารับเงินกับลูกสาวด้วยมือของข้าเอง ก็หารู้ไม่ว่าเจ้าโกงเงินข้าทุกเดือน เร่เข้ามา… มาดูคนหน้าด้านโกงได้แม้กระทั่งเงินอีแปะ” นางเซี่ยแผดเสียงออกไปเพื่อต้องการให้ทุกคนมามุงและสนใจ “นี่เจ้า….” ท่านลุงไท่ชี้หน้านางเซี่ยด้วยความโมโห จากนั้นก็หันไปสบตากับเซี่ยซือมั่น เพื่อต้องการให้นางพูดและอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น ตนไม่เคยคิดที่จะเปิดดูถุงผ้านั้นว่ามีเงินอยู่จำนวนเท่าใด เพราะความสงสารหญิงสาวที่จากบ้านมาทำงานไกลถึงในเมือง อยู่กินตัวคนเดียวเป็นสาวเป

좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status