"ผิงผิงเด็กดีไหมเอ่ย ตื่นหรือยังน้อไม่ตื่นแม่จะหนีไปเที่ยวคนเดียวแล้วนะ" จูเหมยลี่จี้เอวเด็กน้อย นางตื่นแล้วแต่แกล้งหลับขนตากระพริบถี่เชียว
"คิกๆๆๆท่านแม่ฮ่าๆๆท่านแม่ข้าจั๊กจี้มากเลยเจ้าค่ะคิกๆๆ"
จูเหมยลี่มองตาเด็กน้อยก่อนจะก้มลงเป่าพุงนางเล่น เสียงหัวเราะคิกคักดังมาจากในบ้าน เซียวจ้านเป่ยยืนมองภาพตรงหน้าอย่างใจลอย ภาพนี้เหมือนตอนเขายังเด็กตอนที่เสด็จพ่อยังไม่แต่งสตรีคนนั้นเข้ามา เสด็จแม่รักใคร่เขานัก แต่ไม่นานนางก็จากไปหลักจากนั้นอีกสองปีเขาอายุสิบแปดไปไหว้หลุมศพมารดาขากลับก็ถูกตามฆ่า
จนต้องหนีมาอาศัยอยู่ที่นี่กับพ่อบ้านของเขาท่านปู่เซียวหลงเพื่อปกปิดร่องรอยจำต้องแต่งภรรยา ในที่สุดก็ถูกหงซิ่ววางยาจนมีผิงผิงออกมา เขายังถูกตามล่าจากชายารองที่ตอนนี้ขึ้นตำแหน่งชายาเอกแล้วกระมัง ถอนหายใจเสร็จก็เดินเข้าบ้าน
"ข้าจับปลาได้สามตัว จะไปซื้อเนื้อหมูที่ในเมืองมาให้ตอนเช้า ตอนนี้ตลาดคงวายหมดแล้ว ปลาต้องทำอย่างไร"
"ท่านขอดเกล็ดควักไส้ออกแล้วกัน อ้อติดเตาให้ด้วยข้าจะต้มน้ำให้ผิงผิงอาบก่อนเดี๋ยวฝนตก เก็บผ้าที่ข้าซักตากเข้ามาให้ด้วย"
เซียจ้านเป่ยสะอึกเขาซื้อนางมาหรือว่านางซื้อเขามากันแน่ใช้งานเขายิ่งกว่าบ่าวในเรือนเสียอีก แต่ก็หิ้วปลาไปขอดเกล็ด จากนั้นก็ก่อไฟ ไม่นานจูเหมยลี่ก็เข้ามาในครัว เปิดดูข้าวสารมีอยู่ครึ่งถัง แป้งสาลีมีเยอะพอควร แต่ไม่ทำกินไปจ้างคนอื่นตาแก่นี่ตลกดี
"เดี๋ยวข้าจะทำอาหารท่านพาลูกไปอาบน้ำเถอะ ฝนตั้งเค้ามาแล้วโชคดีที่ข้าให้ท่านตัดไม้ไผ่มาปูพื้นบ้านไม่งั้นได้ย่ำโคลนทุกวันแน่ๆ เฮ้ออยู่ได้อย่างไร มิน่าเมียหนี"
จูเหมยลี่บ่นจบก็เดินเข้าครัว เซียวจ้านเป่ยสะอึก ที่นางหนีเพราะเขาขี้เหร่ไงนางบอกว่าเขาอัปลักษณ์ ขนาดเจ้ายังเรียกข้าตาแก่เลยเด็กบ้า
จูเหมยลี่ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไร นางแร่เนื้อปลาบางๆค่อยๆเลาะก้างออกจนหมด ก้างปลาเอามาต้มทำน้ำแกงหุงข้าวสวยเอาไว้ พอน้ำแกงปลาข้นได้ที่ก็กรองเอาแต่น้ำ ปรุงรสด้วยเกลือ มีแต่เกลือจริงมองหาเครื่องปรุงอย่างอื่นไม่มีเลย กะกินเย็นวันนี้พรุ่งนี้เช้าฟอกไตหรือไงนะ หลักจากนั้นก็ค่อยๆใส่เนื้อปลาที่แร่ลงไป
ตอนซักผ้าเห็นมีต้นหอมป่าอยู่แถวๆลำธาร ไปเก็บสักหน่อย จึงลุกไปลงเดินออกไปนอกบ้าน ได้ต้นหอมป่ามาหลายต้น บังเอิญโชคดีตรงกองฟางที่เซียวจ้านเป่ยวางสุมทิ้งไว้ให้วัว มีเห็ดฟางงอกอยู่มากมายเลย
"โอ๊ย คิดถึงต้มยำที่เมืองไทยจัง ตัดคลิปไว้ยังไม่ทันได้ลงเลย ดันมาตายเสียก่อนบอกว่าไม่เอาแบบนี้ยังให้มาเกิดใหม่ในร่างคนอื่นอีกขอมิติปังๆบ้างได้ไหมนิยายโกหกทั้งเพ เก็บเห็ดไปดีกว่า รอพรุ่งนี้ดอกก็บานหมดแล้ว"
จูเหมยลี่ทำไข่ตุ๋นใส่เห็ดฟางกับน้ำแกงปลาหนึ่งชามโรยด้วยต้นหมอซอย เนื้อปลาอีกส่วนเคล้าเกลือเล็กน้อยคลุกแป้งสาลีชุบไข่คลุกแป้งอีกทีนำลงไปทอด
อาหารเสร็จแล้วสองพ่อลูกที่อยู่ในบ้านถึงกับกลืนน้ำลายทันที เซียวลี่ผิงวิ่งมากอดขาจูเหมยลี่อย่างเอาใจ
"ท่านแม่หอมจังเลยเจ้าค่ะ ท่านแม่ทำอะไรให้ลูกกินเจ้าคะ" จูเหมยลี่ลูบศรีษะน้อยๆก่อนจะสั่งให้ไปรอที่โต๊ะกินข้าว เดี๋ยวถูกน้ำแกงลวก
"เจ้าพานางไปเถอะ เดี๋ยวข้ายกอาหารไปเอง ผิงผิงลูกไปกับท่านแม่เดี๋ยวพ่อจะช่วยท่านแม่ยกกับข้าวไปนะ"
เซียวผิงผิงกางแขน จูเหมยลี่อุ้มเจ้าแมวลายจอมตะกละขึ้นมาพาไปยังห้องโถงเพื่อนั่งกินข้าว จางรั่วสุ่ยถือตระกร้ามาหาสหายรุ่นพี่ ไม่ทำอาหารได้อย่างไรแล้วสองพ่อลูกจะกินอะไร จางลู่เหลียนน้องสาวเขาบอกว่าจูเหมยลี่เป็นสตรีปากร้าย เขาต้องมาดูสักหน่อยเป็นห่วงเซียวจ้านเป่ยกับเซียวลี่ผิง แต่พอมาถึงก็ได้กลิ่นอาหารที่หอมจนท้องเขาร้องทั้งๆที่เพิ่งกินมา
"พี่จ้านเป่ย ข้าเองรั่วสุ่ยเอาสำรับมาให้ท่านน่ะขอรับ" เซียวจ้านเป่ยเปิดประตูออกมาเห็นสหายรุ่งน้องถือตระกร้าอยู่ก็พยักหน้าให้
"เข้ามาก่อนสิ เอ่อกินข้าวด้วยกันเถอะ เมียข้าทำอาหารเยอะแค่เพิ่มตะเกียบคู่เดียวเท่านั้น"
"เช่นนั้นรบกวนอาซ้อด้วยนะขอรับ" จูเหมยลี่พยักหน้าก่อนจะคีบไข่ตุ๋นป้อนเซียวลี่ผิง เหมือนมีแค่นางกับเด็กน้อยไม่สนใจบุรุษทั้งสอง จนจางรั่วสุ่ยเอ่ยขึ้นมา
"เอ่อ อาซ้อวันนี้ลู่เหลียนมาสร้างความรำคาญใจให้ท่านข้าเป็นพี่ต้องขออภัยด้วยนะขอรับ" เซียวจ้านเป่ยมองหน้านาง ดูท่าสหายคงมาทวงความเป็นธรรมให้น้องสาว
"ข้าไม่ถือโทษโกรธหรอก อีกอย่างที่เลิกจ้างเจ้าทำอาหารเพราะข้าทำเองได้ภรรยาเจ้าลูกเล็ก ส่วนน้องสาวเจ้ายังไม่แต่งงาน เช้าส่งข้าวเย็นส่งน้ำให้บุรุษที่มีภรรยาแล้ว หากเรื่องนี้แพร่ออกไปต่อไปนางจะแต่งงานอย่างไร อีกเรื่องเจ้าเห็นนางใส่เสื้อผ้าหรือไม่ ขาวตั้งแต่เส้นผมยันปลายเท้า ข้าคิดว่าบ้านเจ้ามีคนตายแล้วนางไว้ทุกข์เสียอีก ถ้านางไปบ้านญาติผู้ใหญ่แล้วแต่งตัวแบบนี้ พวกเขาคงพูดมากกว่าข้านัก"
"เป็นอาซ้อที่สั่งสอนถูกต้อง ข้าจะจำไปสอนนางขอรับ อืมอาหารที่ท่านทำวันนี้รสชาติอร่อยยิ่งนักนับว่าพี่จ้านเป่ยมีวาสนาแล้ว"
ต่างคนต่างนั่งกินไม่พูดอีก เซียวจ้านเป่ยขำนัก เขาไม่กล้าวิจารณ์การแต่งกายของจางลู่เหลียน นางรู้มาว่าเขาชอบสีขาวอยากเอาใจเขา แต่นางกลับแต่งกายเหมือนคนไว้ทุกข์จริงๆนั่นแหละ
เนื่องจากหนวดเคราที่ยาวจึงไม่มีใครเห็นรอยยิ้มของเขา หลังจากกินข้าวเสร็จจางรั่วสุ่ยก็กลับบ้านจูเหมยลี่นำไข่ตุ๋นชามเล็กใส่ตระกร้าให้เขาหนึ่งชาม
"บุตรชายเจ้ายังเด็กไข่ตุ๋นนิ่มๆเด็กกินได้ กลับดีๆไม่ส่งนะ"
จางรั่วสุ่ยสะอึก นี่คือจูเหมยลี่ที่ถูกป้าสะใภ้ใหญ่ข่มเหงมาสองปีตั้งแต่ปู่กับย่าจากไปจริงหรือ แต่ละคำพูดแต่ละการกระทำดูมีอำนาจเหลือเกิน คนไปแล้วจูเหมยลี่ก็เตรียมเข้านอน มีมือน้อยๆมาจับนางไว้
"ท่านแม่ผิงผิงจะนอนกับท่านแม่" จูเหมยลี่พยักหน้า เซียวจ้านเป่ยจึงต้องให้นางมานอนห้องเขาส่วนตัวเขาก็ไปนอนห้องนางแทน เพราะที่นอนจูเหมยลี่แข็งเกินไปบุตรสาวของเขาจะนอนไม่ได้
"แค่ประจบลูกนายได้ นายจะไปไหนรอดตาแก่โรคจิตเหอะ ไงล่ะอยากแกล้งฉันตอนนี้นายนั่นแหละที่ต้องไปนอนที่นอนแข็งๆเสียเองสมน้ำหน้า"
จูเหมยลี่แลบลิ้นให้เขา เซียวจ้านเป่ยยังไม่ลืมที่ถูกเตะวันนี้ฝากไว้ก่อนเถอะยัยเด็กบ้า
ผ่านไปจนเกือบถึงเทศกาลไหว้พระจันทร์ เซียวจ้านเป่ยที่ตอนนี้กำลังพาหลิวเหว่ยเดินเล่น บุตรชายวิ่งเตาะแตะๆ ไปมา หลิวเซียงสาวใช้อุ้มอยู่ หรงหรงตั้งครรภ์จึงทำได้เพียงเดินตามบรรดาซื่อจื่อกับท่านหญิง จูเหมยลี่ที่กำลังตั้งครรภ์บุตรคนที่สามมองไปยังลานบ้าน อ้ายลี่ผิงตอนนี้อายุแปดขวบแล้วยิ่งโตยิ่งงามมากนัก จูเหมยลี่ที่เห็นบุตรสาวก็ถอนหายใจ"เป็นอะไรไปหรือเมียข้าหืม""ผิงผิงยิ่งโตยิ่งงาม พระองค์ไม่หวงแต่หม่อมฉันหวงเพคะ หากลูกยังไม่สิบแปดไม่ให้ออกเรือนนะเพคะท่านอ๋อง""อีกสิบปีเชียวนะ เซี่ยตงชิงจะรอไหวหรือ""รอไม่ไหวก็ไปหาแต่งคุณหนูจวนอื่นโน่นเพคะ"จูเหมยลี่ยอมรับนางหวงบุตรสาวคนโตยิ่งนัก บุตรสาวนางงามเพียงนี้ไม่อยากให้ใครมามองเลย"พระชายา กระหม่อมรอได้พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่แต่งสตรีอื่นนอกจากผิงผิงเท่านั้น"เซียวจ้านเป่ยยิ้มให้กับจูเหมยลี่ เจ้าตัวน้อยที่ไม่รู้ว่าทุกคนพูดถึงนางก็วิ่งมา เห็นพี่ชายของนางมีเหงื่อเต็มไปหมดก็ปีนขึ้นเก้าอี้ให้ตัวพอดีกับเขาก่อนจะใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อให้"พี่ตงชิง ท่านเหนื่อยมากหรือไม่ ท่านน้าเสี่ยวอี้ทำน้ำหวานไว้ข้าไปเอามาให้นะเจ้าคะ"เซี่ยตงชิงสบสายตากลมโตของเด็กผู้หญิงตรง
จูยวี่ซานกอดภรรยาจากนั้นก็หอมหน้าผากของนาง ก่อนจะรับเอาห่อผ้าของจูเหวินบุตรชายมากอดแล้วก้มลงหอม"อย่าดื้อกับท่านแม่ พ่อไปไม่นานนักหรอกเด็กดี"ผิงผิงที่วิ่งออกมาจากในบ้านกอดเอวอ้ายเฉิงเอาไว้ก่อนจะเงยหน้าแล้วเอ่ยขึ้น"เสด็จปู่เพคะ เทศกาลไหว้พระจันทร์น้องชายจะได้สองขวบเสด็จพ่อกับเสด็จแม่จะพาหลานไปหาเสด็จปู่ที่เมืองหลวง ถึงแม้ว่าผิงผิงอยากให้เสด็จปู่อยู่ที่นี่มากกว่าก็ตาม""ผิงผิงของปูน่ารักที่สุด ตั้งใจเรียนวรยุทธกับท่านปู่ฝางให้ดีๆ เจอกันปีหน้าต้องเก่งขึ้นกว่าเดิมรู้หรือไม่""เพคะ ผิงผิงจะตั้งใจเรียนวรยุทธ และตั้งใจยิงธนูให้เก่งต่อไปผิงผิงจะเป็นเจ้าสาวของพี่ตงชิงเพคะ"จูเหมยลี่อมยิ้ม เด็กหนอเด็กยังไม่รู้อะไรเลย โตอีกหน่อยจะอายหากจำได้ว่าเคยพูดอะไรไว้ จากนั้นก็อุ้มอ้ายหลิวเหว่ยส่งให้กับพ่อสามี อ้ายเฉิงรับเอาหลานชายมาอุ้มก่อนจะเอ่ยกับจูเหมยลี่"ลี่เอ๋อร์ที่ผ่านมาพ่อยังมิได้ขอบใจเจ้า จ้านเอ๋อร์ต้องแบกรับหลายสิ่งหลายอย่าง เขาต้องทุกข์เพียงใด ยิ่งหลังจากที่ปู่หลงจากไปเขายิ่งโดดเดี่ยว การที่ มีเจ้าเข้ามาในชีวิตทำให้ความมืดมนในใจเขามลายหายไป ทุกอย่างเป็นเพราะเจ้า ขอบใจเจ้ามากนัก""เสด็จพ่อทรงก
จูเหมยลี่ไม่อยากฆ่าคน ไม่อยากเปิดเผยเรื่องของนางมากนักอยากใช้ชีวิตกับสามีและลูกอย่างเงียบๆ นางคว้าคันธนูที่ทหารกับลูกศรมา ส่งสายตาให้บุตรสาวว่านางขอโทษ อ้ายลี่ผิงพยักหน้าว่าไม่เป็นไร ก่อนจะหลับตาตามที่ท่านแม่สั่งส่งสารมาให้"ท่านอ๋อง เตรียมรับลูกกลับมานะเพคะ" จูเหมยลี่ยกคันธนูขึ้นลูกศรถูกทาบไปพร้อมปล่อยออก ก่อนจะเล็งที่ศีรษะนาง เพราะหงซิ่วจับอ้ายลี่ผิงยืนข้างหน้า มือกำอยู่รอบคอ เด็กน้อยสูงเพียงเอวของนางทำให้เปิดจังหวะการยิงมากนักหงซิ่วเห็นว่าจูเหมยลี่มีไอสังหารนางจะพลิกตัวเพื่อเหวี่ยงอ้ายลี่ผิงลงเหวแต่ไม่ทัน ลูกศรที่จูเหมยลี่ยิงออกไปนั้นเจาะกะโหลกนางพอดี หงซิ่วหงายหลังจะตกลงไป อ้ายลี่ผิงที่ถูกมือนางกำไว้ก็จะพลัดตกไปด้วย จ้านอ๋องจะไปรับบุตรสาว แต่เซี่ยตงชิงไวกว่า เขากระโดดที่เดียวก็คว้าอ้ายลี่ผิงไว้ในอ้อมกอด ก่อนจะกระแทกลงทำให้แผลที่ถูกฟันเลือดไหลไม่หยุด ก่อนจะถามอ้ายลี่ผิงนางว่าไม่เป็นไรใช่ไหม แล้วสลบไปจ้านอ๋องรีบให้คนอุ้มเซี่ยตงชิงกลับไปที่จวน ให้แจ้งแก่เซี่ยฮูหยินว่าคุณชายใหญ่จะอยู่ช่วยงานที่ตำหนักใหม่หลายวัน โจรเร่ร่อนที่รวมกันจับอ้ายลี่ผิงวันนี้จูเหมยล
เซียวจ้านเป่ยที่ตอนนี้กลับมาอยู่จิ่วโจวก็เตรียมหาทางสร้างอาชีพให้ชาวบ้าน เพราะเขาได้รับพระราชทานให้ดูแลทั้งสิบมณฑลจึงต้องดูแลราษฎร จูเหมยลี่ที่กำลังดูแลคนงานตากดอกเหมยกุ้ยอยู่ก็เดินมาหาสามีที่กำลังคุยงาน "ท่านอ๋อง ไม่ทรงพักผ่อนหรือเพคะนี่ก็บ่ายแล้วหม่อมฉันทำของว่างเอาไว้ เมื่อเช้าเสด็จพ่อแจ้งมาว่าจะเดินทางกลับเมืองหลวงพร้อมกับไท่จื่อ เลื่อนเวลาออกไปอีกครึ่งเดือนเพคะ""อืม เหนื่อยหรือไม่เด็กดี ผิงผิงเล่าไปไหนเสียแล้ว""ลูกไปหัดยิงธนูกับตงชิงเพคะ เสี่ยวเหว่ยท่านตาพาไปนั่งรถม้าเล่น พอดีซินซินอยากเข้าตำบลหาซื้อของใช้" สองสามีภรรยาพูดคุยกันไม่นานสาวใช้ก็นำขนมมา วันนี้จูเหมยลี่ทำขนมบัวลอยเนื่องจากขุดเผือกและมันได้มาก อีกทั้งฟักทองก็ให้ผลผลิตที่ดีนัก เนื้อทั้งเหนี่ยวแน่นยังมีน้ำบ๊วยที่หอมชื่นใจ ลำธารตรงหลังบ้านจะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่เย็นตลอดเวลา จูเหมยลี่นำไหเปล่าไปแช่ในนั้นก่อนจะมาบรรจุน้ำบ๊วย แล้วผนึกฝาไหนำลงแช่อีกที น้ำบ๊วยจึงทั้งเย็นทั้งหอมชื่นใจสาวใช้แจกจ่ายของว่างให้คนงาน หลังจากงานแต่งรัชทายาททุกคนจึงรู้ว่าสามีของจูเหมยลี่คือจ้านอ๋องทำเอาชาวบ้านทำตัวไม่ถูกกันเ
เซียวจ้านเป่ยที่ตอนนี้มาถึงจิ่วโจวได้หลายวันแล้ว บางวันก็ไปคุมการต่อเติมซ่อมแซมจวน อย่างเช่นวันนี้เขาพาจูเหมยลี่มาด้วย เนื่องจากอยากขุดสระบัวและทำบ่อเลี้ยงปลาที่เมียเคยบอกว่าอยากได้"ลี่เอ๋อร์ ตรงนี้มีบ่อน้ำพุร้อน จวนสกุลหลิวที่ยึดมาที่ดินกว้างมาถึงตรงนี้ พี่ให้คนสร้างห้องอาบน้ำไว้แล้ว เจ้าอยากล้างตัวหรือไม่""สายตาพระองค์ดูก็รู้ว่าไม่ได้อยากอาบน้ำพุ เซียวจ้านเป่ยคนเจ้าเล่ห์ท่านจับข้ากินทุกเวลาแบบนี้ท้องข้าจะว่างไหมเล่า""ลี่เอ๋อร์เด็กดี ไปอาบน้ำกันนะคนงามของพี่"จูเหมยลี่รู้ดีว่าไม่รอดอีกตามเคย ตั้งแต่มาถึงเขากักนางไว้บนเขาสี่วันสามคืน พอมาถึงบ้านก็ไม่สนใจจับนางกินตลอดเวลา บ่าวไพร่ต้องไปอยู่ไกลๆเรือน เนื่องจากบ้านของเซี่ยตงหยางสร้างเสร็จแล้ว ซูฟางหรานกลับไปบ้านตัวเองแล้วในบ่อน้ำพุ เซียวจ้านเป่ยยังคงช้อนสะโพกเมียรักขยับแก่นกายใส่นางไม่หยุด เขารักนางมากนางช่างหอมหวานเหลือเกิน "แน่นนัก เหตุใดยังแน่นเหมือนตอนรักเจ้าครั้งแรกเมียจ๋า รัดจนทำนบพี่จะแตกทันทีที่เข้ามา""ท่านอ๋องเร่งเถอะเพคะ เมียอยากสุขสมแล้ว อ๊ายย ท่านกินเก่งกินดุแบบนี้หม่อมฉันจะไหวไหม อื้อ เสียวเพคะ
เซียวจ้านเป่ยจุมพิตหน้าผากเล็กของเมียรัก ก่อนจะจูบซับเหงื่อที่ชื้นทั่วกรอบหน้าและซอกคออย่างไม่รังเกียจ พักได้ไม่นานก็อุ้มนางไปที่น้ำพุร้อนในถ้ำ รักนางในบ่อน้ำพุอีกหลายครั้ง จนจูเหมยลี่หมดแรงกอดคอเขาไว้"ไม่ไหวแล้ว เมียขาอ่อนแล้ว ยืนไม่ไหวพักนะเจ้าคะ ขอนอนพักก่อนเถอะท่านพี่"ยามอู่ของวันที่สามเขาจึงแต่งตัวให้นางแล้วอุ้มพาเดินออกมา เซียวจ้านเป่ยกักนางไว้ในถ้ำถึงสามคืน พอออกมาเจอแสงข้างนอกจูเหมยลี่ถึงกับตาหยีเลย"คนบ้า ไม่ให้ข้าเห็นเดือนเห็นตะวันเลย ป่านนี้เป็นห่วงกันทั้งเรือนแล้วกระมัง""พี่ยังไม่อิ่มนะ แต่เห็นเจ้าคิดถึงลูกพี่เลยพอแค่นี้ก่อน เดี๋ยวเข้าจวนอ๋องเมื่อไหร่จะไม่ให้ลงจากเตียงเลย จนกว่าจะมีน้องให้เสี่ยวเหว่ยกับผิงผิงอีกคน""ท่านมันคนหื่น" "หึๆ พี่ยังมีแรงรักเจ้าได้อีกนะคนงาม" เขาไม่รีบ เนื่องจากขบวนที่มารับพระชายาของเขามาถึงหมู่บ้านตั้งแต่สองวันก่อน ตอนนี้ทั้งบุตรชายบุตรสาวต่างมีสาวใช้และองครักษ์ดูแล เขาอ้อยอิ่งพานางเดินชมนกชมไม้จนกระทั่งมาถึงบ้านก็ยามเซินพอดี ทุกคนเข้าแถวรอรับทั้งคู่พร้อมคำสรรเสริญ"ถวายพระพรท่านอ๋อง""ถวายพระพรพระชายา"คังหยุนและอ้าย