จูเหมยลี่เติมฟืนก่อนจะต้มน้ำจากนั้นก็ลวกไก่ถอนขน นางทำทั้งห้าตัวเลย จะเอามาย่างและมาทอดด้วย เฮ้อไม่อยากจะว่าสหายของตาลุงนั่นหรอกนะ
แต่ดูเหมือนหนึ่งตำลึงนี่ บางบ้านอยู่ได้ครึ่งปี แต่นี่นอกจากซาลาเปาแข็งๆกับข้าวต้ม เซียวลี่ผิงแทบไม่ได้กินดีเลย ตาลุงนั้นมีแป้งมีข้าวเต็มถังแต่กลับปล่อยให้ลูกสาวผอมเชียว ถึงจะไม่อดก็ใช่ว่าจะได้กินดี
"ไปริมน้ำกับแม่ไหม แม่จะไปทำไก่ไม่อยากใช้น้ำในโอ่งเดี๋ยวท่านพ่อต้องหาบน้ำอีก"
เซียวลี่ผิงพยักหน้าจูเหมยลี่นำกะละมังไม้มาสองใบ นำชามใส่ขี้เถ้ามาหนึ่งใบ จากนั้นก็เอาไก่ป่าที่ลวกแล้วถอนขนเรียบร้อยใส่กะละมังไม้
ก่อนจะพากันเดินไปหลังบ้าน จูเหมยลี่ผ่าท้องควักเครื่องในออกมาจากนั้นก็ล้างด้วยขี้เถ้าจนสะอาด
"เฮ้อ อยากได้พริก ข่า ขิง กระเทียม พริกไทย ฮวาเจียวสักหน่อยที่นี่มีไหมนะ"
ปากก็บ่นไปเรื่อยเปื่อยแต่อยู่ๆจมูกก็ได้กลิ่น
"หืมได้กลิ่นขิง กลิ่นพริก เอ๋เดี๋ยวนะอยู่ๆได้กลิ่น มาจากไหนกัน ผิงผิงรอแม่ตรงนี้นะเดี๋ยวแม่มา แม่ไปดูตีนเขาตรงฝั่งนั้นก่อน"
เซียวลี่ผิงพยักหน้าจูเหมยลี่ข้ามลำธารไป เห็นต้นไม้ไม่สูงเท่าไหร่ มีลูกสีเขียวสีแดงเต็มไปหมด มีกอข่า ขิง
"อั๊ยย่ะ นี่มันสรรค์ประทานให้หรือโชคดีของเจ๊วะ กลับไปเอาเสียมเล็กแป็บเว้ย"
จูเหมยลี่ข้ามลำธารกลับมาก่อนจะพาลูกสาวกลับบ้าน
"เด็กดี รอแม่ที่นี่นะแม่ไปขุดขิงกับข่าแล้วก็เด็ดพริกมาทำมื้อเช้าก่อน สายๆค่อยตามแม่ไปนะตอนนี้ยังเช้าอยู่ อาจจะถุกยุงกัดได้"
"ท่านแม่ระวังตัวด้วยนะเจ้าคะ อย่าให้ลื่นตกน้ำแบบเมื่อวานอีก เดี๋ยวไม่สบาย"
จูเหมยลี่น้ำตาคลอ นี่คือความอบอุ่นที่นางไม่เคยได้รับ ปะป๊าทำแต่งาน ทุกวันใช้ชีวิตกับพี่เลี้ยง แม้จะรู้ดีว่าเขารักเธอแต่ก็โหยหาอ้อมกอดเสมอมา เด็กคนนี้มาเติมเต็มให้เธอจริงๆ
"ขอบใจมากลูกรัก อยู่ในบ้านเดี๋ยวจะได้กินของอร่อย"
หลังจากปิดประตูบ้านเรียบร้อยกลัวนางออกไปข้างนอก ก็คว้าตะกร้ากับเสียมออกไป ข้ามมาถึงก็เดินหาว่ามีอะไรอีกบ้าง ได้กุ่ยช่ายป่า ต้นกระเทียมป่า ข่า ขิง พริก อีกทั้งยังเจอเข้ากับฮวาเจียว
ก่อนจะกลับยังได้ฟักทองแก่มาอีกสองลูก เก็บจนเพลิน ขุดทั้งหน่อไม่ เจอทั้งเห็ดสนไม่รู้เลยว่า เซียวจ้านเป่ยกลับมาแล้วกำลังโมโหนางอยู่
เซียวจ้านเป่ยเห็นประตูบ้านปิดอยู่ เปิดมาเจอแต่บุตรสาว ภาพคนนี้เหมือนกับวันที่หงซิ่วทิ้งผิงผิงไปเลย ขังนางให้อยู่ในบ้าน หากเขามาช้าอีกวันบุตรสาวตายไปแล้ว
"นังงูพิษ บุตรสาวข้าอุตส่าห์ดีใจเจ้ากลับทำนางเสียใจ กล้าขังบุตรสาวข้าหรือ จูเหมยลี่หากหาเจ้าเจอข้าจะขายเจ้าทิ้งให้หอนางโลมเสีย แพศยานัก"
เซียวจ้านเป่ยกอดบุตรสาวแน่น จูเหมยลี่ที่เพิ่งมาถึงได้ยินพอดีก็ยกเท้าถีบประตูบ้านยืนจังก้าอยู่ บนหลังยังสะพายตะกร้าอยู่ โมโหจนหน้าอกกระเพื่อมขึ้นลง
" เซียว จ้าน เป่ย มาคุยกันหน่อย ข้ามีอารยะพอไม่อยากทะเลาะต่อหน้าเด็ก ตาแก่เจ้าปัญหา"
จูเหมยลี่เน้นชื่อเขาทีละคำ ก่อนจะปลดตะกร้าวางลงแล้วหันไปพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานกับเซียวลี่ผิง
"แม่มีเรื่องจะคุยกับท่านพ่อ ผิงผิงอยู่ในบ้านนะเดี๋ยวเสร็จแล้วแม่จะทำไก่อบให้กินดีไหม"
"มีเนื้อกินแล้ว ดีมากเลยเจ้าค่ะ ท่านพ่ออย่าดุท่านแม่นะเจ้าคะ"
เซียวลี่ผิงหันไปบอกบิดา เซียวจ้านเป่ยพยักหน้ายิ้มให้บุตรสาวก่อนจะสาวเท้าตามนางไปหลังบ้าน ดูท่าแม่ตัวดีอยากลงไม้ลงมือกับเขาแต่กลัวบุตรสาวเห็น อยากรู้นักเจ้ามีฝีมือแค่ไหน
"จะขายข้าหรือตาเฒ่า ท่านนี่มันแก่กะโหลกกะลาเสียจริงๆ ข้าไม่อยากมีเรื่องกับท่านเพราะผิงผิงแต่ท่านหาเรื่องเก่งเหลือเกินนะ จะเอายังไงเซียวจ้านเป่ยบอกมา ข้าเริ่มหมดความอดทนกับสติเลอะเลือนของท่านในแต่ละวันแล้วนะ"
"ใครจะรู้ล่ะ เจ้าเล่นขังผิงผิงไว้ในบ้านแล้วตัวไม่อยู่ นางเคยถูกทิ้งแบบนี้มาก่อน มารดานางบอกจะไปซื้อขนมแล้วก็ไม่กลับมาเลย แถมยังด่าว่าข้าเป็นยาจกไม่มีอนาคตอีก ตอนข้ากลับมานางหายใจรวยริน นางเกือบไม่รอด หากข้ามาช้าอีกวันนางคงตายไปแล้ว"
"แล้วมันเกี่ยวอะไรกับข้า นางก็คือนาง ข้าก็คือข้า เจ้าเอามาเหมารวมแบบนี้ได้หรือเซียวจ้านเป่ยอย่าให้มันมากนักข้ามีความอดทนไม่มากหรอกนะ อย่าทำลายขีดจำกัดข้าบ่อยเกินไป"
"หึ เจ้าทนไม่ได้ก็ไปหาเงินมาไถ่ตัวเองสิ ไม่งั้นก็ปรนนิบัติข้าดีๆ หากถูกใจบางทีข้าอาจจะใจอ่อนปล่อยเจ้าไป โอ๊ย จู เหมย ลี่ เจ้าทำเกินไปแล้วนะ"
จูเหมยลี่ไม่ฟังจนจบก็ยกเท้าถีบเข้าที่ยอดอกเซียวจ้านเป่ยทันที เขาย่างสามขุมมาหานาง ยายเด็กบ้านี่เมื่อวานเตะเขา วันนี้นางกล้าถีบเขาเชียวหรือ
"ข้าไม่ทำเกินไปหรือ ปรนนิบัติตาลุงปัญญาอ่อนอย่างเจ้าหรือ ฝันกลางวันหรือไง เจ้าไปทหารกลับมาเมื่อไหร่ข้าจะหย่า ทางที่ดีเจ้าควรตายในสนามรบซะ ข้าจะได้อยู่กับผิงผิงสองคน เจ้ามันคนแก่รกโลก อื้อๆๆ"
เซียวจ้านเป่ยกระชากนางเข้าหาก่อนจะบดขยี้ริมฝีปากนางอย่างแรง จูเหมยลี่เจ็บจนเลือดซิบทุบเขาจนมือเจ็บแต่เขาไม่สะท้านสักนิด มิหนำซ้ำยังแหวกสาบเสื้อนางออกดูดกลืนทรวงอกนางทันที
"เซียวจ้านเป่ย หากเจ้าข่มเหงข้าอีก ข้าสัญญาว่าจะทิ้งเจ้ากับผิงผิงไปทันทีคนสารเลว"
เซียวจ้านเป่ยได้สติจึงปล่อยนางทันที ก่อนจะเอ่ยเบาๆ
"ข้าขอโทษ เจ้าอย่าทิ้งผิงผิงไปเลยนะ นางไม่เอาใครเลยเจ้าเป็นคนแรกที่นางยอมให้เข้าใกล้ อีกทั้งนางยังอยากนอนกับเจ้า เหมยลี่อย่าร้องไห้ข้าสัญญาหากเจ้าไม่เต็มใจต่อไปข้าจะไม่ข่มเหงเจ้าอีก"
เซียวลี่ผิงคือสมบัติที่มีค่าที่สุดในชีวิตเขา นางหน้าตาคล้ายเสด็จแม่ของเขามาก เซียวจ้านเป่ยยอมแลกทุกอย่างขอเพียงนางปลอดภัย
เขาจึงเกลียดหงซิ่วมากที่ทิ้งนางไว้จนเกือบตาย เมื่อกี้พอกลับมาเจอบุตรสาวอยู่คนเดียวทำให้ภาพที่นางนอนหายใจรวยรินกลับเข้ามาอีก เซียวจ้านเป่ยหันหลังให้จูเหมยลี่ ต่างคนต่างมีความในใจจนได้ยินเสียงเด็กน้อยเรียกจึงได้สติ
"ท่านพ่อห้ามดุท่านแม่นะ ท่านแม่ข้าจะสั่งสอนท่านพ่อให้ดีท่านแม่อย่าทิ้งผิงผิงไปนะเจ้าคะ ฮือๆๆๆๆแงๆๆๆๆๆ"
จูเหมยลี่รีบวิ่งเข้าไปในบ้านอุ้มเด็กน้อยขึ้นมาลูบหลัง น้ำตานางร่วงทันทีความว้าเหว่นี้นางได้รับมาก่อน ในตอนนั้นเธอขอร้องคุณแม่ว่าอย่าทิ้งคุณพ่อกับเธอไป แต่คุณแม่ขึ้นรถไปไม่หันหลังกลับมา
ไม่มีแม้น้ำตาสักหยด ไม่มีความอาลัยอาวรณ์บุตรสาวเช่นเธอสักนิด
เวลาบินไปหาที่เมืองไทยก็ไม่มีเวลาให้ แต่ไปออกงานกับสามีใหม่ พาบุตรสาวบุตรชายไปเปิดตัวตามสื่อต่างๆ เป็นภาพครอบครัวอบอุ่น คุณยายกีดกันรังเกียจเธอไม่อยากให้ไปหา
จนกระทั่งเธอตายยังมีแค่คุณพ่อที่ร้องไห้กอดศพเธอ สำหรับคุณแม่เหมือนกับว่าเธอไม่ควรมาขัดขวางความสุขของครอบครัวใหม่
เซียวลี่ผิงเด็กคนนี้และเธอคือการเติมเต็มของกันและกัน ตอนนั้นเธออ้างว้างว้าเหว่ถูกทอดทิ้งให้เดียวดาย
จนกระทั่งยืนมองร่างตัวเองแต่ก็ไม่เห็นน้ำตาของมารดาสักหยด เหมือนอยากรีบเซ็นชื่อยินยอมให้ถอดเครื่องช่วยหายใจไวๆด้วยซ้ำ
"นี่คือชะตาลิขิตหรือคะ สวรรค์มีจริงหรือท่านเห็นใจที่หนูหว้าเหว่ถูกทอดทิ้งแต่เด็ก จึงให้หนูมาเจอคนที่โชคชะตาเดียวกันเพื่อเติมเต็มความรักหรือคะ ขอบคุณนะคะที่ให้มาเจอเด็กคนนี้ ขอบคุณจริง ฮือๆๆๆ"
จูเหมยลี่ขอบคุณโชคชะตาในใจ น้ำตาไหลออกมาเอง
ผ่านไปจนเกือบถึงเทศกาลไหว้พระจันทร์ เซียวจ้านเป่ยที่ตอนนี้กำลังพาหลิวเหว่ยเดินเล่น บุตรชายวิ่งเตาะแตะๆ ไปมา หลิวเซียงสาวใช้อุ้มอยู่ หรงหรงตั้งครรภ์จึงทำได้เพียงเดินตามบรรดาซื่อจื่อกับท่านหญิง จูเหมยลี่ที่กำลังตั้งครรภ์บุตรคนที่สามมองไปยังลานบ้าน อ้ายลี่ผิงตอนนี้อายุแปดขวบแล้วยิ่งโตยิ่งงามมากนัก จูเหมยลี่ที่เห็นบุตรสาวก็ถอนหายใจ"เป็นอะไรไปหรือเมียข้าหืม""ผิงผิงยิ่งโตยิ่งงาม พระองค์ไม่หวงแต่หม่อมฉันหวงเพคะ หากลูกยังไม่สิบแปดไม่ให้ออกเรือนนะเพคะท่านอ๋อง""อีกสิบปีเชียวนะ เซี่ยตงชิงจะรอไหวหรือ""รอไม่ไหวก็ไปหาแต่งคุณหนูจวนอื่นโน่นเพคะ"จูเหมยลี่ยอมรับนางหวงบุตรสาวคนโตยิ่งนัก บุตรสาวนางงามเพียงนี้ไม่อยากให้ใครมามองเลย"พระชายา กระหม่อมรอได้พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่แต่งสตรีอื่นนอกจากผิงผิงเท่านั้น"เซียวจ้านเป่ยยิ้มให้กับจูเหมยลี่ เจ้าตัวน้อยที่ไม่รู้ว่าทุกคนพูดถึงนางก็วิ่งมา เห็นพี่ชายของนางมีเหงื่อเต็มไปหมดก็ปีนขึ้นเก้าอี้ให้ตัวพอดีกับเขาก่อนจะใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อให้"พี่ตงชิง ท่านเหนื่อยมากหรือไม่ ท่านน้าเสี่ยวอี้ทำน้ำหวานไว้ข้าไปเอามาให้นะเจ้าคะ"เซี่ยตงชิงสบสายตากลมโตของเด็กผู้หญิงตรง
จูยวี่ซานกอดภรรยาจากนั้นก็หอมหน้าผากของนาง ก่อนจะรับเอาห่อผ้าของจูเหวินบุตรชายมากอดแล้วก้มลงหอม"อย่าดื้อกับท่านแม่ พ่อไปไม่นานนักหรอกเด็กดี"ผิงผิงที่วิ่งออกมาจากในบ้านกอดเอวอ้ายเฉิงเอาไว้ก่อนจะเงยหน้าแล้วเอ่ยขึ้น"เสด็จปู่เพคะ เทศกาลไหว้พระจันทร์น้องชายจะได้สองขวบเสด็จพ่อกับเสด็จแม่จะพาหลานไปหาเสด็จปู่ที่เมืองหลวง ถึงแม้ว่าผิงผิงอยากให้เสด็จปู่อยู่ที่นี่มากกว่าก็ตาม""ผิงผิงของปูน่ารักที่สุด ตั้งใจเรียนวรยุทธกับท่านปู่ฝางให้ดีๆ เจอกันปีหน้าต้องเก่งขึ้นกว่าเดิมรู้หรือไม่""เพคะ ผิงผิงจะตั้งใจเรียนวรยุทธ และตั้งใจยิงธนูให้เก่งต่อไปผิงผิงจะเป็นเจ้าสาวของพี่ตงชิงเพคะ"จูเหมยลี่อมยิ้ม เด็กหนอเด็กยังไม่รู้อะไรเลย โตอีกหน่อยจะอายหากจำได้ว่าเคยพูดอะไรไว้ จากนั้นก็อุ้มอ้ายหลิวเหว่ยส่งให้กับพ่อสามี อ้ายเฉิงรับเอาหลานชายมาอุ้มก่อนจะเอ่ยกับจูเหมยลี่"ลี่เอ๋อร์ที่ผ่านมาพ่อยังมิได้ขอบใจเจ้า จ้านเอ๋อร์ต้องแบกรับหลายสิ่งหลายอย่าง เขาต้องทุกข์เพียงใด ยิ่งหลังจากที่ปู่หลงจากไปเขายิ่งโดดเดี่ยว การที่ มีเจ้าเข้ามาในชีวิตทำให้ความมืดมนในใจเขามลายหายไป ทุกอย่างเป็นเพราะเจ้า ขอบใจเจ้ามากนัก""เสด็จพ่อทรงก
จูเหมยลี่ไม่อยากฆ่าคน ไม่อยากเปิดเผยเรื่องของนางมากนักอยากใช้ชีวิตกับสามีและลูกอย่างเงียบๆ นางคว้าคันธนูที่ทหารกับลูกศรมา ส่งสายตาให้บุตรสาวว่านางขอโทษ อ้ายลี่ผิงพยักหน้าว่าไม่เป็นไร ก่อนจะหลับตาตามที่ท่านแม่สั่งส่งสารมาให้"ท่านอ๋อง เตรียมรับลูกกลับมานะเพคะ" จูเหมยลี่ยกคันธนูขึ้นลูกศรถูกทาบไปพร้อมปล่อยออก ก่อนจะเล็งที่ศีรษะนาง เพราะหงซิ่วจับอ้ายลี่ผิงยืนข้างหน้า มือกำอยู่รอบคอ เด็กน้อยสูงเพียงเอวของนางทำให้เปิดจังหวะการยิงมากนักหงซิ่วเห็นว่าจูเหมยลี่มีไอสังหารนางจะพลิกตัวเพื่อเหวี่ยงอ้ายลี่ผิงลงเหวแต่ไม่ทัน ลูกศรที่จูเหมยลี่ยิงออกไปนั้นเจาะกะโหลกนางพอดี หงซิ่วหงายหลังจะตกลงไป อ้ายลี่ผิงที่ถูกมือนางกำไว้ก็จะพลัดตกไปด้วย จ้านอ๋องจะไปรับบุตรสาว แต่เซี่ยตงชิงไวกว่า เขากระโดดที่เดียวก็คว้าอ้ายลี่ผิงไว้ในอ้อมกอด ก่อนจะกระแทกลงทำให้แผลที่ถูกฟันเลือดไหลไม่หยุด ก่อนจะถามอ้ายลี่ผิงนางว่าไม่เป็นไรใช่ไหม แล้วสลบไปจ้านอ๋องรีบให้คนอุ้มเซี่ยตงชิงกลับไปที่จวน ให้แจ้งแก่เซี่ยฮูหยินว่าคุณชายใหญ่จะอยู่ช่วยงานที่ตำหนักใหม่หลายวัน โจรเร่ร่อนที่รวมกันจับอ้ายลี่ผิงวันนี้จูเหมยล
เซียวจ้านเป่ยที่ตอนนี้กลับมาอยู่จิ่วโจวก็เตรียมหาทางสร้างอาชีพให้ชาวบ้าน เพราะเขาได้รับพระราชทานให้ดูแลทั้งสิบมณฑลจึงต้องดูแลราษฎร จูเหมยลี่ที่กำลังดูแลคนงานตากดอกเหมยกุ้ยอยู่ก็เดินมาหาสามีที่กำลังคุยงาน "ท่านอ๋อง ไม่ทรงพักผ่อนหรือเพคะนี่ก็บ่ายแล้วหม่อมฉันทำของว่างเอาไว้ เมื่อเช้าเสด็จพ่อแจ้งมาว่าจะเดินทางกลับเมืองหลวงพร้อมกับไท่จื่อ เลื่อนเวลาออกไปอีกครึ่งเดือนเพคะ""อืม เหนื่อยหรือไม่เด็กดี ผิงผิงเล่าไปไหนเสียแล้ว""ลูกไปหัดยิงธนูกับตงชิงเพคะ เสี่ยวเหว่ยท่านตาพาไปนั่งรถม้าเล่น พอดีซินซินอยากเข้าตำบลหาซื้อของใช้" สองสามีภรรยาพูดคุยกันไม่นานสาวใช้ก็นำขนมมา วันนี้จูเหมยลี่ทำขนมบัวลอยเนื่องจากขุดเผือกและมันได้มาก อีกทั้งฟักทองก็ให้ผลผลิตที่ดีนัก เนื้อทั้งเหนี่ยวแน่นยังมีน้ำบ๊วยที่หอมชื่นใจ ลำธารตรงหลังบ้านจะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่เย็นตลอดเวลา จูเหมยลี่นำไหเปล่าไปแช่ในนั้นก่อนจะมาบรรจุน้ำบ๊วย แล้วผนึกฝาไหนำลงแช่อีกที น้ำบ๊วยจึงทั้งเย็นทั้งหอมชื่นใจสาวใช้แจกจ่ายของว่างให้คนงาน หลังจากงานแต่งรัชทายาททุกคนจึงรู้ว่าสามีของจูเหมยลี่คือจ้านอ๋องทำเอาชาวบ้านทำตัวไม่ถูกกันเ
เซียวจ้านเป่ยที่ตอนนี้มาถึงจิ่วโจวได้หลายวันแล้ว บางวันก็ไปคุมการต่อเติมซ่อมแซมจวน อย่างเช่นวันนี้เขาพาจูเหมยลี่มาด้วย เนื่องจากอยากขุดสระบัวและทำบ่อเลี้ยงปลาที่เมียเคยบอกว่าอยากได้"ลี่เอ๋อร์ ตรงนี้มีบ่อน้ำพุร้อน จวนสกุลหลิวที่ยึดมาที่ดินกว้างมาถึงตรงนี้ พี่ให้คนสร้างห้องอาบน้ำไว้แล้ว เจ้าอยากล้างตัวหรือไม่""สายตาพระองค์ดูก็รู้ว่าไม่ได้อยากอาบน้ำพุ เซียวจ้านเป่ยคนเจ้าเล่ห์ท่านจับข้ากินทุกเวลาแบบนี้ท้องข้าจะว่างไหมเล่า""ลี่เอ๋อร์เด็กดี ไปอาบน้ำกันนะคนงามของพี่"จูเหมยลี่รู้ดีว่าไม่รอดอีกตามเคย ตั้งแต่มาถึงเขากักนางไว้บนเขาสี่วันสามคืน พอมาถึงบ้านก็ไม่สนใจจับนางกินตลอดเวลา บ่าวไพร่ต้องไปอยู่ไกลๆเรือน เนื่องจากบ้านของเซี่ยตงหยางสร้างเสร็จแล้ว ซูฟางหรานกลับไปบ้านตัวเองแล้วในบ่อน้ำพุ เซียวจ้านเป่ยยังคงช้อนสะโพกเมียรักขยับแก่นกายใส่นางไม่หยุด เขารักนางมากนางช่างหอมหวานเหลือเกิน "แน่นนัก เหตุใดยังแน่นเหมือนตอนรักเจ้าครั้งแรกเมียจ๋า รัดจนทำนบพี่จะแตกทันทีที่เข้ามา""ท่านอ๋องเร่งเถอะเพคะ เมียอยากสุขสมแล้ว อ๊ายย ท่านกินเก่งกินดุแบบนี้หม่อมฉันจะไหวไหม อื้อ เสียวเพคะ
เซียวจ้านเป่ยจุมพิตหน้าผากเล็กของเมียรัก ก่อนจะจูบซับเหงื่อที่ชื้นทั่วกรอบหน้าและซอกคออย่างไม่รังเกียจ พักได้ไม่นานก็อุ้มนางไปที่น้ำพุร้อนในถ้ำ รักนางในบ่อน้ำพุอีกหลายครั้ง จนจูเหมยลี่หมดแรงกอดคอเขาไว้"ไม่ไหวแล้ว เมียขาอ่อนแล้ว ยืนไม่ไหวพักนะเจ้าคะ ขอนอนพักก่อนเถอะท่านพี่"ยามอู่ของวันที่สามเขาจึงแต่งตัวให้นางแล้วอุ้มพาเดินออกมา เซียวจ้านเป่ยกักนางไว้ในถ้ำถึงสามคืน พอออกมาเจอแสงข้างนอกจูเหมยลี่ถึงกับตาหยีเลย"คนบ้า ไม่ให้ข้าเห็นเดือนเห็นตะวันเลย ป่านนี้เป็นห่วงกันทั้งเรือนแล้วกระมัง""พี่ยังไม่อิ่มนะ แต่เห็นเจ้าคิดถึงลูกพี่เลยพอแค่นี้ก่อน เดี๋ยวเข้าจวนอ๋องเมื่อไหร่จะไม่ให้ลงจากเตียงเลย จนกว่าจะมีน้องให้เสี่ยวเหว่ยกับผิงผิงอีกคน""ท่านมันคนหื่น" "หึๆ พี่ยังมีแรงรักเจ้าได้อีกนะคนงาม" เขาไม่รีบ เนื่องจากขบวนที่มารับพระชายาของเขามาถึงหมู่บ้านตั้งแต่สองวันก่อน ตอนนี้ทั้งบุตรชายบุตรสาวต่างมีสาวใช้และองครักษ์ดูแล เขาอ้อยอิ่งพานางเดินชมนกชมไม้จนกระทั่งมาถึงบ้านก็ยามเซินพอดี ทุกคนเข้าแถวรอรับทั้งคู่พร้อมคำสรรเสริญ"ถวายพระพรท่านอ๋อง""ถวายพระพรพระชายา"คังหยุนและอ้าย