จูเหมยลี่ป้อนข้าวเซียวลี่ผิงเสร็จแล้วก็นั่งรอเซียวจ้านเป่ย สักพักเขาก็เดินกลับมาพร้อมกับผักกาดสองต้นและถั่วฝักยาวหนึ่งกำ ภรรยาของเซี่ยตงหยางเป็นคนขยัน มักปลูกผักเลี้ยงไก่ ลูกๆไม่อดอยาก
ส่วนภรรยาจางรั่วสุ่ย ไม่ใช่ว่าไม่ขยันแต่เป็นเพราะจางรั่วสุ่ยตามใจน้องสาวเกินไป เครื่องประดับเอย เสื้อผ้าเอย ไม่สนใจสักนิดว่าพี่สะใภ้ต้องเลี้ยงลูก ต้องทำงานบ้านยังบังคับให้นางตัดเย็บเสื้อผ้าให้อีก เซียวจ้านเป็นไม่ชอบสตรีหน้าขาวปากแดง
เซียวจ้านเป่ยมาถึงบ้านก็เห็นจูเหมยลี่นั่งรออยู่ นางยังไม่จับตะเกียบยังคงรอเขามากินด้วย เมียเขาช่างน่ารักเหลือเกิน ก่อนจะส่งตะกร้าที่ใส่ผักให้นาง
"เหมยลี่ นี่เป็นผักกาดกับถั่วฝักยาว พี่สะใภ้ให้มา เอ่อข้าแบ่งผักกาดให้รั่วสู่ยไปหนึ่งต้นกับถั่วหนึ่งกำเจ้าไม่ว่าอะไรใช่หรือไม่"
"ไม่ว่าอะไรนี่ ทั้งสองคนเป็นสหายท่าน ข้าเป็นคนนอกไม่อยากยุ่ง ว่าแต่ของที่ข้าจดให้เมื่อเช้าซื้อมาได้หรือเปล่า"
เซียวจ้านเป่ยถอนหายใจ นางสั่งให้เขาซื้อเครื่องปรุง ซื้อเมล็ดพันธุ์ ซื้อเครื่องมือเกษตรทำไร่ ไม่ใช่ว่าเขาซื้อไม่ได้ แต่เขาไม่มีเงินจริงๆ ต้องขึ้นเขาก่อนเฮ้อ
"เอ่อ ข้าได้แต่เครื่องปรุง เนื้อหมูแล้วก็เมล็ดพันธุ์พืชบางส่วนนะ รอข้าขึ้นเขาก่อนแล้วค่อยไปซื้อให้เจ้าอีกครั้งนะ"
"เฮ้อ ยากจนจริงๆถูกเมียทิ้ง ข้าไม่แปลกใจเลย หมูป่าสองตัวนั่นท่านไปชำแหละเถอะ ขายในหมู่บ้านนี่แหละ เข้าเมืองเสียเวลา ได้ตำลึงสองตำลึงก็ยังดี กินข้าวเถอะข้าหิวแล้ว"
เซียวจ้านเป่ยกินผัดเห็ดใส่ไข่ใส่ทั้งยังใส่พริกด้วย อร่อยมากแม้จะร้อนจนแทบปากพองแต่อร่อยจริงๆ นางไปสรรหาของเหล่านี้จากที่ไหนกันนะ
"เอ่อ บัวหิมะอะไรที่เจ้าว่าคือ ข้าสงสารผิงผิงเลยไปงมขึ้นมาเมื่อคืนก่อนฝนตก อยู่ในห้องข้าเดี๋ยวกินข้าวเสร็จไปเอามาให้นะ"
"อืม" จากนั้นก็ไม่มีเสียงตอบกลับ เซียวจ้านเป่ยรู้สึกเหมือนถูกเมินมองข้าม จากนั้นก็มีเสียงนางเอ่ยขึ้น
"หมู่ป่าขายอย่างไร ชั่งละเท่าไหร่ขายในหมู่บ้านนี่แหละท่านชำแหละมา แล้วสมุนไพรที่ให้ไปซื้อที่ร้านขายยาได้หรือเปล่า"
"บางอย่างไม่มี เจ้าจะเอามาทำอะไรเจ้าป่วยหรือ"
"เปล่าข้าจะเอามาทำเครื่องเทศ จริงสิผิงผิงวิ่งเล่นอยู่ตอนนี้เรามาตกลงกันหน่อย ท่านจะไปเป็นทหารสองปี ข้าอยู่ทางนี้จะดูแลนางให้ไม่ทิ้งไม่หนี สัญญาขายตัวท่านฉีกทิ้งไปเลย แต่ว่าเมื่อท่านกลับมาท่านต้องเขียนใบหย่าให้ข้า ท่านเองก็รังเกียจข้าส่วนข้าก็ไม่ชอบการบังคับใจกันตกลงไหม"
เซียวจ้านเป่ยรู้สึกโหวงในอก นางไม่อยากอยู่กับเขาหรือ
"แล้วผิงผิงเล่านางจะทำเช่นไรนางชอบเจ้ามาก เหมยลี่เจ้าไม่หย่าได้ไหม ข้าไม่อยากแต่งงานใหม่ข้าไม่อยากได้สตรีคนใหม่ ข้ากลัวได้แบบหงซิ่วอีก"
เซียวจ้านเป่ยวางชามลงเขารู้สึกอิ่มทันที จูเหมยลี่ดุเขา
"กินให้หมดอย่าเหลือทิ้งขว้าง คนไม่มีจะกินเยอะแยะ ท่านมีกินแต่กินทิ้งกินขว้างข้าไม่ชอบ"
"ข้ากินไม่ลง เหมยลี่ข้าคือ"
"ข้าไม่ทิ้งนางหรอกอย่าห่วงเลย จนกว่าท่านจะเจอสตรีถูกใจ จากนั้นท่านแค่หย่าให้ข้าช่วงเวลาที่ท่านไม่อยู่ข้าจะเลี้ยงดูผิงผิงรอท่านกลับมา"
จูเหมยลี่คีบอาหารเข้าปากทุกคำที่เอ่ยไม่ได้มองหน้าเขาสักนิด เซียวจ้านเป่ยถอนหายใจ
"อีกเพียงเดือนเดียวข้าต้องไปแล้ว เดี๋ยวข้าเอาหมูป่าไปขายเหลาอาหารดีกว่า เข้าเมืองใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วยามเท่านั้น ได้เงินมาจะได้ซื้อของที่เจ้าต้องการด้วย พรุ่งนี้จะขึ้นเขาเผื่อได้กวางหรือหมีสักตัว หาเงินให้เจ้าไว้ใช้จ่ายตอนข้าไม่อยู่ เบี้ยหวัดเดือนละสองตำลึงจะส่งมาให้"
จูเหมยลี่พยักหน้าจากนั้นนางก็กินข้าวต่อ เซียวจ้านเป่ยรู้สึกว่านี่เป็นอาหารที่อร่อยที่สุดเท่าที่เคยกินมา ขนาดตอนที่อยู่ที่ตำหนักเป็นคุณชายจวนอ๋อง มีพ่อครัววังหลวงมาทำให้ อาหารยังไม่อร่อยขนาดนี้ นางมีฝีมือจริงๆ
กินข้าวเรียบร้อยจูเหมยลี่ก็เก็บล้าง นางห่อเกี้ยวไว้เยอะ แบ่งไปบ้านของเซี่ยตงหยางแล้วยังเหลือกว่าห้าสิบตัว จึงคิดว่าไม่ต้องทำมื้อเย็น
"เซียวจ้านเป่ย ท่านจะเข้าเมืองอีกรอบขากลับบ้านมาอาจไม่เจอข้ากับลูก ข้าสัญญากับนางว่าจะพาขึ้นเขาไปเก็บผักป่า ไม่เห็นก็รอในบ้านดีๆอย่าปากเสียอีก ถึงขาจะตัวเล็กก็ทำเจ้าเจ็บได้นะ"
เซียวจ้านเป่ยขำแรงเจ้าเท่ากับมด หากไม่เพราะนางเล่นงานตอนเขาเผลอนางจะทำอะไรเขาได้หรือ หันไปเห็นบุตรสาวกำลังนั่งรอมารดาอยู่ คงอยากไปเที่ยวเต็มที
ยืนมองสองแม่ลูกเตรียมมีดพร้าใส่ตะกร้าก็ถอนหายใจ ที่นี่อยู่ไกลเมืองหลวงถึงหนึ่งพันห้าร้อยกว่าลี้ เขาไม่เคยพาเซียวลี่ผิงไปไหนเลย
บุตรสาวหน้าตาคล้ายเสด็จแม่มากนัก ตอนนั้นที่เขาถูกตามฆ่าเขาเป็นเพียงซื่อจื่อที่ร่ำเรียนหนังสือเพื่อปกครองตำหนักรอรับตำแหน่งต่อจากเสด็จพ่อ ปู่หลงแอบสอนวรยุทธให้ป้องกันตัวเขาจึงพอมีฝีมือ
เดิมทีเขาแซ่อ้ายซึ่งเป็นแซ่ของราชวงศ์ แต่หลังจากถูกตามฆ่าก็เปลี่ยนมาใช้แซ่มารดาคือแซ่เซียว
ฉู่หรานซินคือบุตรใต้เท้าฉู่ฉางชิงเจ้ากรมฝ่ายการคลัง แต่งเข้ามาเป็นชายารองหลังจากที่เขาได้หกขวบ ว่ากันว่านางคือสตรีที่เสด็จพ่อรัก อีกทั้งตั้งแต่แต่งนางเข้ามาเสด็จพ่อก็ไม่มาเยือนเรือนไผ่ของเสด็จแม่อีกเลย จนนางตรอมใจจากไป
ปู่เซียวหลงเป็นสินเดิมที่ติดตามมาจากสกุลเซียว ตั้งแต่พาเขาหนีรอดมาได้ก็ตั้งใจที่จะสอนวรยุทธเขาทุกอย่าง อีกทั้งยอมพาเขาไปหาอาจารย์ตนเองโขกศีรษะคุกเข่าอยู่แรมเดือนเพื่อให้เขาได้ร่ำเรียน
ในที่สุดเขาก็เก่งกาจมีฝีมือ เรื่องที่หงซิ่ววางยาเขานั้นคงเป็นปู่หลงนั่นแหละที่ทำ เพื่อให้เขามีบุตรและใช้กลบเกลื่อนร่องรอย เขาปล่อยตัวรุงรังเหมือนตาแก่
ถ้าไม่ใช่เพราะสินสอดห้าสิบตำลึง มารดาของหงซิ่วจะยอมยกนางให้หรือ เขายังจำตอนที่เขาเสร็จสมจากนางได้ดี เขาโมโหอยากบีบคอนางให้ตายคามือ แต่ปู่หลงมาห้ามและกลับบอกเขาว่า
""ซื่อจื่อ บ่าวรู้ว่าท่านรังเกียจสตรี แต่อย่างน้อยนางก็ไม่ขี้เหร่หากมีทายาทจะคุณหนูหรือคุณชายจะได้ดูรูปงาม บ่าวอายุมากแล้วอีกทั้งถูกพิษเรื้อรังมานาน ไม่รู้จะอยู่เป็นเพื่อนท่านได้นานแค่ไหน ข้าแอบให้นางดื่มยาบำรุงไปมากแล้ว หากครั้งนี้นางไม่ท้อง ครั้งหน้าท่านก็ฝืนใจอีกสักครั้งนะขอรับ"
นึกถึงคนที่จากไปแล้วเขาก็ถอนหายใจ เซียวหลงไม่อยู่ทันได้เห็นผิงผิงเกิดด้วยซ้ำ พิษกำเริบจนเขาจากไปก่อนหน้าเพียงเดือนเดียว
ผ่านไปจนเกือบถึงเทศกาลไหว้พระจันทร์ เซียวจ้านเป่ยที่ตอนนี้กำลังพาหลิวเหว่ยเดินเล่น บุตรชายวิ่งเตาะแตะๆ ไปมา หลิวเซียงสาวใช้อุ้มอยู่ หรงหรงตั้งครรภ์จึงทำได้เพียงเดินตามบรรดาซื่อจื่อกับท่านหญิง จูเหมยลี่ที่กำลังตั้งครรภ์บุตรคนที่สามมองไปยังลานบ้าน อ้ายลี่ผิงตอนนี้อายุแปดขวบแล้วยิ่งโตยิ่งงามมากนัก จูเหมยลี่ที่เห็นบุตรสาวก็ถอนหายใจ"เป็นอะไรไปหรือเมียข้าหืม""ผิงผิงยิ่งโตยิ่งงาม พระองค์ไม่หวงแต่หม่อมฉันหวงเพคะ หากลูกยังไม่สิบแปดไม่ให้ออกเรือนนะเพคะท่านอ๋อง""อีกสิบปีเชียวนะ เซี่ยตงชิงจะรอไหวหรือ""รอไม่ไหวก็ไปหาแต่งคุณหนูจวนอื่นโน่นเพคะ"จูเหมยลี่ยอมรับนางหวงบุตรสาวคนโตยิ่งนัก บุตรสาวนางงามเพียงนี้ไม่อยากให้ใครมามองเลย"พระชายา กระหม่อมรอได้พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่แต่งสตรีอื่นนอกจากผิงผิงเท่านั้น"เซียวจ้านเป่ยยิ้มให้กับจูเหมยลี่ เจ้าตัวน้อยที่ไม่รู้ว่าทุกคนพูดถึงนางก็วิ่งมา เห็นพี่ชายของนางมีเหงื่อเต็มไปหมดก็ปีนขึ้นเก้าอี้ให้ตัวพอดีกับเขาก่อนจะใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อให้"พี่ตงชิง ท่านเหนื่อยมากหรือไม่ ท่านน้าเสี่ยวอี้ทำน้ำหวานไว้ข้าไปเอามาให้นะเจ้าคะ"เซี่ยตงชิงสบสายตากลมโตของเด็กผู้หญิงตรง
จูยวี่ซานกอดภรรยาจากนั้นก็หอมหน้าผากของนาง ก่อนจะรับเอาห่อผ้าของจูเหวินบุตรชายมากอดแล้วก้มลงหอม"อย่าดื้อกับท่านแม่ พ่อไปไม่นานนักหรอกเด็กดี"ผิงผิงที่วิ่งออกมาจากในบ้านกอดเอวอ้ายเฉิงเอาไว้ก่อนจะเงยหน้าแล้วเอ่ยขึ้น"เสด็จปู่เพคะ เทศกาลไหว้พระจันทร์น้องชายจะได้สองขวบเสด็จพ่อกับเสด็จแม่จะพาหลานไปหาเสด็จปู่ที่เมืองหลวง ถึงแม้ว่าผิงผิงอยากให้เสด็จปู่อยู่ที่นี่มากกว่าก็ตาม""ผิงผิงของปูน่ารักที่สุด ตั้งใจเรียนวรยุทธกับท่านปู่ฝางให้ดีๆ เจอกันปีหน้าต้องเก่งขึ้นกว่าเดิมรู้หรือไม่""เพคะ ผิงผิงจะตั้งใจเรียนวรยุทธ และตั้งใจยิงธนูให้เก่งต่อไปผิงผิงจะเป็นเจ้าสาวของพี่ตงชิงเพคะ"จูเหมยลี่อมยิ้ม เด็กหนอเด็กยังไม่รู้อะไรเลย โตอีกหน่อยจะอายหากจำได้ว่าเคยพูดอะไรไว้ จากนั้นก็อุ้มอ้ายหลิวเหว่ยส่งให้กับพ่อสามี อ้ายเฉิงรับเอาหลานชายมาอุ้มก่อนจะเอ่ยกับจูเหมยลี่"ลี่เอ๋อร์ที่ผ่านมาพ่อยังมิได้ขอบใจเจ้า จ้านเอ๋อร์ต้องแบกรับหลายสิ่งหลายอย่าง เขาต้องทุกข์เพียงใด ยิ่งหลังจากที่ปู่หลงจากไปเขายิ่งโดดเดี่ยว การที่ มีเจ้าเข้ามาในชีวิตทำให้ความมืดมนในใจเขามลายหายไป ทุกอย่างเป็นเพราะเจ้า ขอบใจเจ้ามากนัก""เสด็จพ่อทรงก
จูเหมยลี่ไม่อยากฆ่าคน ไม่อยากเปิดเผยเรื่องของนางมากนักอยากใช้ชีวิตกับสามีและลูกอย่างเงียบๆ นางคว้าคันธนูที่ทหารกับลูกศรมา ส่งสายตาให้บุตรสาวว่านางขอโทษ อ้ายลี่ผิงพยักหน้าว่าไม่เป็นไร ก่อนจะหลับตาตามที่ท่านแม่สั่งส่งสารมาให้"ท่านอ๋อง เตรียมรับลูกกลับมานะเพคะ" จูเหมยลี่ยกคันธนูขึ้นลูกศรถูกทาบไปพร้อมปล่อยออก ก่อนจะเล็งที่ศีรษะนาง เพราะหงซิ่วจับอ้ายลี่ผิงยืนข้างหน้า มือกำอยู่รอบคอ เด็กน้อยสูงเพียงเอวของนางทำให้เปิดจังหวะการยิงมากนักหงซิ่วเห็นว่าจูเหมยลี่มีไอสังหารนางจะพลิกตัวเพื่อเหวี่ยงอ้ายลี่ผิงลงเหวแต่ไม่ทัน ลูกศรที่จูเหมยลี่ยิงออกไปนั้นเจาะกะโหลกนางพอดี หงซิ่วหงายหลังจะตกลงไป อ้ายลี่ผิงที่ถูกมือนางกำไว้ก็จะพลัดตกไปด้วย จ้านอ๋องจะไปรับบุตรสาว แต่เซี่ยตงชิงไวกว่า เขากระโดดที่เดียวก็คว้าอ้ายลี่ผิงไว้ในอ้อมกอด ก่อนจะกระแทกลงทำให้แผลที่ถูกฟันเลือดไหลไม่หยุด ก่อนจะถามอ้ายลี่ผิงนางว่าไม่เป็นไรใช่ไหม แล้วสลบไปจ้านอ๋องรีบให้คนอุ้มเซี่ยตงชิงกลับไปที่จวน ให้แจ้งแก่เซี่ยฮูหยินว่าคุณชายใหญ่จะอยู่ช่วยงานที่ตำหนักใหม่หลายวัน โจรเร่ร่อนที่รวมกันจับอ้ายลี่ผิงวันนี้จูเหมยล
เซียวจ้านเป่ยที่ตอนนี้กลับมาอยู่จิ่วโจวก็เตรียมหาทางสร้างอาชีพให้ชาวบ้าน เพราะเขาได้รับพระราชทานให้ดูแลทั้งสิบมณฑลจึงต้องดูแลราษฎร จูเหมยลี่ที่กำลังดูแลคนงานตากดอกเหมยกุ้ยอยู่ก็เดินมาหาสามีที่กำลังคุยงาน "ท่านอ๋อง ไม่ทรงพักผ่อนหรือเพคะนี่ก็บ่ายแล้วหม่อมฉันทำของว่างเอาไว้ เมื่อเช้าเสด็จพ่อแจ้งมาว่าจะเดินทางกลับเมืองหลวงพร้อมกับไท่จื่อ เลื่อนเวลาออกไปอีกครึ่งเดือนเพคะ""อืม เหนื่อยหรือไม่เด็กดี ผิงผิงเล่าไปไหนเสียแล้ว""ลูกไปหัดยิงธนูกับตงชิงเพคะ เสี่ยวเหว่ยท่านตาพาไปนั่งรถม้าเล่น พอดีซินซินอยากเข้าตำบลหาซื้อของใช้" สองสามีภรรยาพูดคุยกันไม่นานสาวใช้ก็นำขนมมา วันนี้จูเหมยลี่ทำขนมบัวลอยเนื่องจากขุดเผือกและมันได้มาก อีกทั้งฟักทองก็ให้ผลผลิตที่ดีนัก เนื้อทั้งเหนี่ยวแน่นยังมีน้ำบ๊วยที่หอมชื่นใจ ลำธารตรงหลังบ้านจะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่เย็นตลอดเวลา จูเหมยลี่นำไหเปล่าไปแช่ในนั้นก่อนจะมาบรรจุน้ำบ๊วย แล้วผนึกฝาไหนำลงแช่อีกที น้ำบ๊วยจึงทั้งเย็นทั้งหอมชื่นใจสาวใช้แจกจ่ายของว่างให้คนงาน หลังจากงานแต่งรัชทายาททุกคนจึงรู้ว่าสามีของจูเหมยลี่คือจ้านอ๋องทำเอาชาวบ้านทำตัวไม่ถูกกันเ
เซียวจ้านเป่ยที่ตอนนี้มาถึงจิ่วโจวได้หลายวันแล้ว บางวันก็ไปคุมการต่อเติมซ่อมแซมจวน อย่างเช่นวันนี้เขาพาจูเหมยลี่มาด้วย เนื่องจากอยากขุดสระบัวและทำบ่อเลี้ยงปลาที่เมียเคยบอกว่าอยากได้"ลี่เอ๋อร์ ตรงนี้มีบ่อน้ำพุร้อน จวนสกุลหลิวที่ยึดมาที่ดินกว้างมาถึงตรงนี้ พี่ให้คนสร้างห้องอาบน้ำไว้แล้ว เจ้าอยากล้างตัวหรือไม่""สายตาพระองค์ดูก็รู้ว่าไม่ได้อยากอาบน้ำพุ เซียวจ้านเป่ยคนเจ้าเล่ห์ท่านจับข้ากินทุกเวลาแบบนี้ท้องข้าจะว่างไหมเล่า""ลี่เอ๋อร์เด็กดี ไปอาบน้ำกันนะคนงามของพี่"จูเหมยลี่รู้ดีว่าไม่รอดอีกตามเคย ตั้งแต่มาถึงเขากักนางไว้บนเขาสี่วันสามคืน พอมาถึงบ้านก็ไม่สนใจจับนางกินตลอดเวลา บ่าวไพร่ต้องไปอยู่ไกลๆเรือน เนื่องจากบ้านของเซี่ยตงหยางสร้างเสร็จแล้ว ซูฟางหรานกลับไปบ้านตัวเองแล้วในบ่อน้ำพุ เซียวจ้านเป่ยยังคงช้อนสะโพกเมียรักขยับแก่นกายใส่นางไม่หยุด เขารักนางมากนางช่างหอมหวานเหลือเกิน "แน่นนัก เหตุใดยังแน่นเหมือนตอนรักเจ้าครั้งแรกเมียจ๋า รัดจนทำนบพี่จะแตกทันทีที่เข้ามา""ท่านอ๋องเร่งเถอะเพคะ เมียอยากสุขสมแล้ว อ๊ายย ท่านกินเก่งกินดุแบบนี้หม่อมฉันจะไหวไหม อื้อ เสียวเพคะ
เซียวจ้านเป่ยจุมพิตหน้าผากเล็กของเมียรัก ก่อนจะจูบซับเหงื่อที่ชื้นทั่วกรอบหน้าและซอกคออย่างไม่รังเกียจ พักได้ไม่นานก็อุ้มนางไปที่น้ำพุร้อนในถ้ำ รักนางในบ่อน้ำพุอีกหลายครั้ง จนจูเหมยลี่หมดแรงกอดคอเขาไว้"ไม่ไหวแล้ว เมียขาอ่อนแล้ว ยืนไม่ไหวพักนะเจ้าคะ ขอนอนพักก่อนเถอะท่านพี่"ยามอู่ของวันที่สามเขาจึงแต่งตัวให้นางแล้วอุ้มพาเดินออกมา เซียวจ้านเป่ยกักนางไว้ในถ้ำถึงสามคืน พอออกมาเจอแสงข้างนอกจูเหมยลี่ถึงกับตาหยีเลย"คนบ้า ไม่ให้ข้าเห็นเดือนเห็นตะวันเลย ป่านนี้เป็นห่วงกันทั้งเรือนแล้วกระมัง""พี่ยังไม่อิ่มนะ แต่เห็นเจ้าคิดถึงลูกพี่เลยพอแค่นี้ก่อน เดี๋ยวเข้าจวนอ๋องเมื่อไหร่จะไม่ให้ลงจากเตียงเลย จนกว่าจะมีน้องให้เสี่ยวเหว่ยกับผิงผิงอีกคน""ท่านมันคนหื่น" "หึๆ พี่ยังมีแรงรักเจ้าได้อีกนะคนงาม" เขาไม่รีบ เนื่องจากขบวนที่มารับพระชายาของเขามาถึงหมู่บ้านตั้งแต่สองวันก่อน ตอนนี้ทั้งบุตรชายบุตรสาวต่างมีสาวใช้และองครักษ์ดูแล เขาอ้อยอิ่งพานางเดินชมนกชมไม้จนกระทั่งมาถึงบ้านก็ยามเซินพอดี ทุกคนเข้าแถวรอรับทั้งคู่พร้อมคำสรรเสริญ"ถวายพระพรท่านอ๋อง""ถวายพระพรพระชายา"คังหยุนและอ้าย