เงินที่เสด็จแม่ฝากไว้เป็นชื่อเขามีมากมายนัก แต่เพราะไม่อยากเปิดเผยร่อยรอย จึงต้องใช้ชีวิตติดดิน มีทองแท่งเล็กๆอยู่หากขายคงได้แท่งละสักสิบตำลึงซึ่งไม่พอให้ใช้ชีวิตสองคนแม่ลูก
พรุ่งนี้ขึ้นเขาล่าเสือหรือหมีสักตัว หากขายได้ก็คงมากกว่าสามร้อยถึงห้าร้อยตำลึง จะฝากเป็นชื่อนางไว้ ป้าสะใภ้นางละโมบนักถ้าเขาไม่อยู่อาจมารังแกและแย่งชิงไปได้ เห็นจูเหมยลี่กำลังจะสะพายตะกร้าก็เรียกไว้ก่อน
"เหมยลี่ ข้ามีอยากให้ช่วยหาของสักหน่อย ผิงผิงนั่งรอท่านแม่อยู่ตรงนั้นก่อนนะ ลูกเป็นเด็กดีหรือเปล่า"
"ลูกจะไม่ดื้อเจ้าค่ะ ท่านแม่รีบไปช่วยท่านพ่อนะเจ้าคะผิงผิงจะรออยู่ตรงนี้"
จูเหมยลี่เดินตามเขาเข้าไปในบ้าน ดูท่าเขาคงรู้ว่าเงินที่ซ่อนไว้ถูกนางแคะไปจนหมดแล้ว จึงอยากหาเรื่อง เพราะตกลงกันแล้วว่าจะไม่ทะเลาะหรือเถียงกันต่อหน้าเด็ก จึงต้องทะเลาะกันลับตาเจ้าตัวน้อย
"นี่ท่านลุง ถ้าจะถามเรื่องเงินที่ท่านซ่อนเอาไว้ละก็เสียใจด้วย ตอนนี้เหลืออยู่สองร้อยกว่าอีแปะเท่านั้น ส่วนหนึ่งก็อยู่ในท้องท่าน อื้อๆๆ"
เซียวจ้านเป่ยโมโหเด็กบ้านี่เรียกเขาท่านลุงบ้างล่ะ ตาแก่บ้างล่ะ ตาเฒ่าบ้างละมันน่าโมโหนัก เขาจูบนางครั้งนี้นานกว่าทุกครั้ง
จนจูเหมยลี่ต้องทุบเขารัวๆเพื่อประท้วง เซียวจ้านเป่ยถอนริมฝีปากออกอย่าเสียดาย
"บอกว่าห้ามเรียกท่านลุงเจ้าดื้อเองนะ บอกแล้วนะเรียกครั้งหนึ่งจูบเจ้าทีหนึ่ง เอ...หรือว่าเจ้าชอบให้ข้าจูบเจ้ากันแน่หึ"
"คนบ้า ตาแก่ลามกใครชอบกัน หนวดท่านทิ่มตำจนข้าแสบผิวไปหมด ท่านมันโรคจิตถ้าไม่มีอะไรข้าไปแล้วนะผิงผิงรออยู่"
นางทำท่าจะก้าวเท้าออกนอกห้องไปเซียวจ้านเป่ยรวบเอวบางไว้เขานั่งลงบนเตียงแล้วจับนางนั่งตัก กระซิบข้าหู
"เจ้ามามีแค่เสื้อผ้าชุดเดียว ข้าจะซื้อให้สักสามชุดแต่ว่าข้ากะไม่ถูกเลยต้องพาเจ้ามาวัดตัว อืม เอวเจ้านี่มือข้างเดียวข้าเองนะ หืมหน้าอกเจ้าล้นมือข้านิดหน่อย เมื่อคืนตอนอาบน้ำในลำธาร ได้ยินเจ้าพูดว่าอยากได้ใหญ่กว่านี้ต้องนวดอีกหน่อย ก่อนจะไปเข้ากองทัพข้าจะช่วยนวดให้ทุกคืนเลยดีไหม"
เซียวจ้านเป่ยจับนางหันหน้ามาหา ไม่พูดเปล่ามือเขาแหวกสาบเสื้อนางออกก่อนจะก้มลงไปดูดดื่มยอดอกสีชมพูแสนหวานนั่น มืออีกข้างก็เคล้นคลึงนิ้วโป้งปาดเม็ดทับทิมไปมาจนจูเหมยลี่สะท้าน หนวดเขาทิ่มเนื้อนวลจนนางสยิว
" อื้อ เซียวจ้านเป่ยพอแล้วอย่าดูดแรงสิ พอเถอะนะ ลูกรออยู่อื้อ ท่านนี่นะใครเขานวดแบบนี้เล่าตาบ้า ท่านหลอกข้ามาหาเศษหาเรอหรือ"
มือน้อยๆทุบเขารัวๆ นางเสียวจะตายแล้วคนบ้านี่เล่นทั้งดูดทั้งเม้ม เกิดมาจะอายุสามสิบขนาดมือตัวเองยังไม่เคยเลย แต่ตาบ้านี่ทั้งดูดทั้งคลึง ในที่สุดเซียวจ้านเป่ยจำยอมละจากความหวานตรงหน้าอย่างเสียดายก่อนจะยิ้มล้อเลียนนาง
"ข้าพอมีความรู้เรื่องวิชาแพทย์นิดหน่อย นวดอย่างเดียวไม่โตนะ ต้องดูดต้องเม้มด้วยให้เลือดไหลเวียนขยายเส้นลมปราณ เด็กดื้อเจ้าหวานนักก่อนไปทัพอยากจับเจ้ากินเสียจริง หากไม่ใช่ครั้งนั้นข้าถูกวางยางเพียงครั้งเดียวแล้วมีผิงผิงละก็ไม่ปล่อยเจ้าแน่ๆ"
"ห๊า ท่านถูกสตรีวางยาแล้วขืนใจหรือ จุ๊ๆสตรีคนไหนสติไม่ดีชะตาขาดกันเนี่ย อื้ออย่าดูดพอแล้วเซียวจ้านเป่ยผิงผิงรอนานแล้วเดี๋ยวนางเข้ามา อื้อ"
"ปากดีนัก ถ้าไม่กลัวว่าเจ้าจะตั้งครรภ์ตอนข้าไม่อยู่ละก็จะทำให้เจ้าร้องขอชีวิตเชียว ข้าจะไปแล้วกลับมาจะให้เจ้าโกนหนวดโกนเคราให้ด้วย ไม่ใช่พอเห็นหน้าจริงๆของข้าที่หล่อเหลา เจ้าจะใจแตกเป็นฝ่ายปลุกปล้ำข้าเสียเองนะ ไปเถอะข้าวัดขนาดเสร็จแล้วรับรองข้าซื้อชุดให้เจ้าพอดีแน่ มือข้าแม่นนัก"
จากนั้นก็ปล่อยจูเหมยลี่ นางมองค้อนเขารีบใส่เสื้ออย่างไว ลนลานลงจากเตียง ผู้ชายคนนี้มีฝีมือจริงๆ เทียบกับนางแล้วนับว่านางเป็นเด็กอนุบาลเลย แบบนี้ไม่ไหวต้องวางแผนใหม่ ไม่งั้นถูกจับกินจริงๆแน่เขาแข็งขึงจนนางรู้สึกได้ตอนที่นั่งตักเขา
"ท่านแม่มาแล้ว ท่านพ่อของอะไรหายหรือเจ้าคะทำไมไปนานจัง สายแล้วเดี๋ยวแดดร้อนท่านพ่อจะป่วยนะเจ้าคะ"
เซียวลี่ผิงกอดคอบิดาที่ก้มลงอุ้มนางขึ้นมา
จูเหมยลี่เดินไปเอากระบอกน้ำกรอกน้ำ เซียวจ้านเป่ยจึงทำข้อตกลงกับบุตรสาว
"ผิงผิงพ่อมีเรื่องให้ช่วย เราต้องคุยกันเบาๆลูกอยากให้ท่านแม่อยู่กับเราไหม"
เซียวลี่ผิงพยักหน้าเขาจึงนั่งลงแล้วอุ้มบุตรสาวมานั่งตัก ตาก็มองในบ้านว่าจูเหมยลี่จะมาเมื่อไหร่
"ผิงผิง ลูกต้องออดอ้อนท่านแม่ดีๆ ตอนกลางคืนบอกว่าอยากนอนกับท่านแม่และท่านพ่อ เดือนหน้าพ่อต้องไปกองทัพลูกต้องดูแลท่านแม่ อย่าให้บุรุษอื่นเข้าใกล้นาง อย่างอแงงี่เง่า แต่ต้องรู้เวลาไหนควรมีน้ำตาเข้าใจไหม นี่เป็นข้อตกลงของเรา ห้ามให้ท่านแม่รู้หากเจ้าอยากให้นางอยู่กับพวกเราตลอดไป"
"ข้าทำได้เจ้าค่ะ แต่ว่าท่านพ่อจะนอนกับลูกกับท่านแม่หรือเจ้าคะ อืมดีเจ้าค่ะงั้นคืนนี้ข้าจะบอกท่านแม่ ท่านพ่อท่านแม่เดินมาแล้ว"
"จำไว้ รู้แค่เราสองคน ไม่งั้นท่านแม่หนีไปพ่อก็ช่วยเจ้าไม่ได้นะ"
สองพ่อลูกเกี่ยวก้อยกันก่อนจะสัญญาจากนั่นก็สบตากัน จูเหมยลี่เดินมาถึงก็เอากระบอกน้ำเต้าใส่ตะกร้าแล้วอุ้มเซียวลี่ผิงพาไปยังเชิงเขา ไม่มองหน้าเขาเลยตาบ้านี่หน้าหนานัก เซียวจ้านเป่ยรู้ดีบุตรสาวของเขารักษาคำพูดเสมอ เขาสอนนางตั้งแต่เริ่มพูดรู้เรื่องแล้วว่าคนเราต้องรักษาสัจจะ
เรื่องเมียเขาคนนี้มีแต่เซียวลี่ผิงแล้วที่ช่วยเขาได้ ไปตั้งสองปีต้องหาทางให้ผิงผิงยึดเหนี่ยวนางเอาไว้ให้ได้ จากนั้นก็อารมณ์ดีขับเกวียนเข้าเมืองอีกครั้ง
เซียวจ้านเป่ยไม่รู้หรอกว่าบุตรสาวต้องขับเขี้ยวขนาดไหนตอนที่เขาไม่อยู ท่านแม่มีแต่บุรุษมาขายขนมจีบขนมหวานแทบทุกวัน บางทีการมีเมียสวยเกินไปก็เป็นทุกข์อย่างนึง
ผ่านไปจนเกือบถึงเทศกาลไหว้พระจันทร์ เซียวจ้านเป่ยที่ตอนนี้กำลังพาหลิวเหว่ยเดินเล่น บุตรชายวิ่งเตาะแตะๆ ไปมา หลิวเซียงสาวใช้อุ้มอยู่ หรงหรงตั้งครรภ์จึงทำได้เพียงเดินตามบรรดาซื่อจื่อกับท่านหญิง จูเหมยลี่ที่กำลังตั้งครรภ์บุตรคนที่สามมองไปยังลานบ้าน อ้ายลี่ผิงตอนนี้อายุแปดขวบแล้วยิ่งโตยิ่งงามมากนัก จูเหมยลี่ที่เห็นบุตรสาวก็ถอนหายใจ"เป็นอะไรไปหรือเมียข้าหืม""ผิงผิงยิ่งโตยิ่งงาม พระองค์ไม่หวงแต่หม่อมฉันหวงเพคะ หากลูกยังไม่สิบแปดไม่ให้ออกเรือนนะเพคะท่านอ๋อง""อีกสิบปีเชียวนะ เซี่ยตงชิงจะรอไหวหรือ""รอไม่ไหวก็ไปหาแต่งคุณหนูจวนอื่นโน่นเพคะ"จูเหมยลี่ยอมรับนางหวงบุตรสาวคนโตยิ่งนัก บุตรสาวนางงามเพียงนี้ไม่อยากให้ใครมามองเลย"พระชายา กระหม่อมรอได้พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่แต่งสตรีอื่นนอกจากผิงผิงเท่านั้น"เซียวจ้านเป่ยยิ้มให้กับจูเหมยลี่ เจ้าตัวน้อยที่ไม่รู้ว่าทุกคนพูดถึงนางก็วิ่งมา เห็นพี่ชายของนางมีเหงื่อเต็มไปหมดก็ปีนขึ้นเก้าอี้ให้ตัวพอดีกับเขาก่อนจะใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อให้"พี่ตงชิง ท่านเหนื่อยมากหรือไม่ ท่านน้าเสี่ยวอี้ทำน้ำหวานไว้ข้าไปเอามาให้นะเจ้าคะ"เซี่ยตงชิงสบสายตากลมโตของเด็กผู้หญิงตรง
จูยวี่ซานกอดภรรยาจากนั้นก็หอมหน้าผากของนาง ก่อนจะรับเอาห่อผ้าของจูเหวินบุตรชายมากอดแล้วก้มลงหอม"อย่าดื้อกับท่านแม่ พ่อไปไม่นานนักหรอกเด็กดี"ผิงผิงที่วิ่งออกมาจากในบ้านกอดเอวอ้ายเฉิงเอาไว้ก่อนจะเงยหน้าแล้วเอ่ยขึ้น"เสด็จปู่เพคะ เทศกาลไหว้พระจันทร์น้องชายจะได้สองขวบเสด็จพ่อกับเสด็จแม่จะพาหลานไปหาเสด็จปู่ที่เมืองหลวง ถึงแม้ว่าผิงผิงอยากให้เสด็จปู่อยู่ที่นี่มากกว่าก็ตาม""ผิงผิงของปูน่ารักที่สุด ตั้งใจเรียนวรยุทธกับท่านปู่ฝางให้ดีๆ เจอกันปีหน้าต้องเก่งขึ้นกว่าเดิมรู้หรือไม่""เพคะ ผิงผิงจะตั้งใจเรียนวรยุทธ และตั้งใจยิงธนูให้เก่งต่อไปผิงผิงจะเป็นเจ้าสาวของพี่ตงชิงเพคะ"จูเหมยลี่อมยิ้ม เด็กหนอเด็กยังไม่รู้อะไรเลย โตอีกหน่อยจะอายหากจำได้ว่าเคยพูดอะไรไว้ จากนั้นก็อุ้มอ้ายหลิวเหว่ยส่งให้กับพ่อสามี อ้ายเฉิงรับเอาหลานชายมาอุ้มก่อนจะเอ่ยกับจูเหมยลี่"ลี่เอ๋อร์ที่ผ่านมาพ่อยังมิได้ขอบใจเจ้า จ้านเอ๋อร์ต้องแบกรับหลายสิ่งหลายอย่าง เขาต้องทุกข์เพียงใด ยิ่งหลังจากที่ปู่หลงจากไปเขายิ่งโดดเดี่ยว การที่ มีเจ้าเข้ามาในชีวิตทำให้ความมืดมนในใจเขามลายหายไป ทุกอย่างเป็นเพราะเจ้า ขอบใจเจ้ามากนัก""เสด็จพ่อทรงก
จูเหมยลี่ไม่อยากฆ่าคน ไม่อยากเปิดเผยเรื่องของนางมากนักอยากใช้ชีวิตกับสามีและลูกอย่างเงียบๆ นางคว้าคันธนูที่ทหารกับลูกศรมา ส่งสายตาให้บุตรสาวว่านางขอโทษ อ้ายลี่ผิงพยักหน้าว่าไม่เป็นไร ก่อนจะหลับตาตามที่ท่านแม่สั่งส่งสารมาให้"ท่านอ๋อง เตรียมรับลูกกลับมานะเพคะ" จูเหมยลี่ยกคันธนูขึ้นลูกศรถูกทาบไปพร้อมปล่อยออก ก่อนจะเล็งที่ศีรษะนาง เพราะหงซิ่วจับอ้ายลี่ผิงยืนข้างหน้า มือกำอยู่รอบคอ เด็กน้อยสูงเพียงเอวของนางทำให้เปิดจังหวะการยิงมากนักหงซิ่วเห็นว่าจูเหมยลี่มีไอสังหารนางจะพลิกตัวเพื่อเหวี่ยงอ้ายลี่ผิงลงเหวแต่ไม่ทัน ลูกศรที่จูเหมยลี่ยิงออกไปนั้นเจาะกะโหลกนางพอดี หงซิ่วหงายหลังจะตกลงไป อ้ายลี่ผิงที่ถูกมือนางกำไว้ก็จะพลัดตกไปด้วย จ้านอ๋องจะไปรับบุตรสาว แต่เซี่ยตงชิงไวกว่า เขากระโดดที่เดียวก็คว้าอ้ายลี่ผิงไว้ในอ้อมกอด ก่อนจะกระแทกลงทำให้แผลที่ถูกฟันเลือดไหลไม่หยุด ก่อนจะถามอ้ายลี่ผิงนางว่าไม่เป็นไรใช่ไหม แล้วสลบไปจ้านอ๋องรีบให้คนอุ้มเซี่ยตงชิงกลับไปที่จวน ให้แจ้งแก่เซี่ยฮูหยินว่าคุณชายใหญ่จะอยู่ช่วยงานที่ตำหนักใหม่หลายวัน โจรเร่ร่อนที่รวมกันจับอ้ายลี่ผิงวันนี้จูเหมยล
เซียวจ้านเป่ยที่ตอนนี้กลับมาอยู่จิ่วโจวก็เตรียมหาทางสร้างอาชีพให้ชาวบ้าน เพราะเขาได้รับพระราชทานให้ดูแลทั้งสิบมณฑลจึงต้องดูแลราษฎร จูเหมยลี่ที่กำลังดูแลคนงานตากดอกเหมยกุ้ยอยู่ก็เดินมาหาสามีที่กำลังคุยงาน "ท่านอ๋อง ไม่ทรงพักผ่อนหรือเพคะนี่ก็บ่ายแล้วหม่อมฉันทำของว่างเอาไว้ เมื่อเช้าเสด็จพ่อแจ้งมาว่าจะเดินทางกลับเมืองหลวงพร้อมกับไท่จื่อ เลื่อนเวลาออกไปอีกครึ่งเดือนเพคะ""อืม เหนื่อยหรือไม่เด็กดี ผิงผิงเล่าไปไหนเสียแล้ว""ลูกไปหัดยิงธนูกับตงชิงเพคะ เสี่ยวเหว่ยท่านตาพาไปนั่งรถม้าเล่น พอดีซินซินอยากเข้าตำบลหาซื้อของใช้" สองสามีภรรยาพูดคุยกันไม่นานสาวใช้ก็นำขนมมา วันนี้จูเหมยลี่ทำขนมบัวลอยเนื่องจากขุดเผือกและมันได้มาก อีกทั้งฟักทองก็ให้ผลผลิตที่ดีนัก เนื้อทั้งเหนี่ยวแน่นยังมีน้ำบ๊วยที่หอมชื่นใจ ลำธารตรงหลังบ้านจะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่เย็นตลอดเวลา จูเหมยลี่นำไหเปล่าไปแช่ในนั้นก่อนจะมาบรรจุน้ำบ๊วย แล้วผนึกฝาไหนำลงแช่อีกที น้ำบ๊วยจึงทั้งเย็นทั้งหอมชื่นใจสาวใช้แจกจ่ายของว่างให้คนงาน หลังจากงานแต่งรัชทายาททุกคนจึงรู้ว่าสามีของจูเหมยลี่คือจ้านอ๋องทำเอาชาวบ้านทำตัวไม่ถูกกันเ
เซียวจ้านเป่ยที่ตอนนี้มาถึงจิ่วโจวได้หลายวันแล้ว บางวันก็ไปคุมการต่อเติมซ่อมแซมจวน อย่างเช่นวันนี้เขาพาจูเหมยลี่มาด้วย เนื่องจากอยากขุดสระบัวและทำบ่อเลี้ยงปลาที่เมียเคยบอกว่าอยากได้"ลี่เอ๋อร์ ตรงนี้มีบ่อน้ำพุร้อน จวนสกุลหลิวที่ยึดมาที่ดินกว้างมาถึงตรงนี้ พี่ให้คนสร้างห้องอาบน้ำไว้แล้ว เจ้าอยากล้างตัวหรือไม่""สายตาพระองค์ดูก็รู้ว่าไม่ได้อยากอาบน้ำพุ เซียวจ้านเป่ยคนเจ้าเล่ห์ท่านจับข้ากินทุกเวลาแบบนี้ท้องข้าจะว่างไหมเล่า""ลี่เอ๋อร์เด็กดี ไปอาบน้ำกันนะคนงามของพี่"จูเหมยลี่รู้ดีว่าไม่รอดอีกตามเคย ตั้งแต่มาถึงเขากักนางไว้บนเขาสี่วันสามคืน พอมาถึงบ้านก็ไม่สนใจจับนางกินตลอดเวลา บ่าวไพร่ต้องไปอยู่ไกลๆเรือน เนื่องจากบ้านของเซี่ยตงหยางสร้างเสร็จแล้ว ซูฟางหรานกลับไปบ้านตัวเองแล้วในบ่อน้ำพุ เซียวจ้านเป่ยยังคงช้อนสะโพกเมียรักขยับแก่นกายใส่นางไม่หยุด เขารักนางมากนางช่างหอมหวานเหลือเกิน "แน่นนัก เหตุใดยังแน่นเหมือนตอนรักเจ้าครั้งแรกเมียจ๋า รัดจนทำนบพี่จะแตกทันทีที่เข้ามา""ท่านอ๋องเร่งเถอะเพคะ เมียอยากสุขสมแล้ว อ๊ายย ท่านกินเก่งกินดุแบบนี้หม่อมฉันจะไหวไหม อื้อ เสียวเพคะ
เซียวจ้านเป่ยจุมพิตหน้าผากเล็กของเมียรัก ก่อนจะจูบซับเหงื่อที่ชื้นทั่วกรอบหน้าและซอกคออย่างไม่รังเกียจ พักได้ไม่นานก็อุ้มนางไปที่น้ำพุร้อนในถ้ำ รักนางในบ่อน้ำพุอีกหลายครั้ง จนจูเหมยลี่หมดแรงกอดคอเขาไว้"ไม่ไหวแล้ว เมียขาอ่อนแล้ว ยืนไม่ไหวพักนะเจ้าคะ ขอนอนพักก่อนเถอะท่านพี่"ยามอู่ของวันที่สามเขาจึงแต่งตัวให้นางแล้วอุ้มพาเดินออกมา เซียวจ้านเป่ยกักนางไว้ในถ้ำถึงสามคืน พอออกมาเจอแสงข้างนอกจูเหมยลี่ถึงกับตาหยีเลย"คนบ้า ไม่ให้ข้าเห็นเดือนเห็นตะวันเลย ป่านนี้เป็นห่วงกันทั้งเรือนแล้วกระมัง""พี่ยังไม่อิ่มนะ แต่เห็นเจ้าคิดถึงลูกพี่เลยพอแค่นี้ก่อน เดี๋ยวเข้าจวนอ๋องเมื่อไหร่จะไม่ให้ลงจากเตียงเลย จนกว่าจะมีน้องให้เสี่ยวเหว่ยกับผิงผิงอีกคน""ท่านมันคนหื่น" "หึๆ พี่ยังมีแรงรักเจ้าได้อีกนะคนงาม" เขาไม่รีบ เนื่องจากขบวนที่มารับพระชายาของเขามาถึงหมู่บ้านตั้งแต่สองวันก่อน ตอนนี้ทั้งบุตรชายบุตรสาวต่างมีสาวใช้และองครักษ์ดูแล เขาอ้อยอิ่งพานางเดินชมนกชมไม้จนกระทั่งมาถึงบ้านก็ยามเซินพอดี ทุกคนเข้าแถวรอรับทั้งคู่พร้อมคำสรรเสริญ"ถวายพระพรท่านอ๋อง""ถวายพระพรพระชายา"คังหยุนและอ้าย