แชร์

บทที่ 3 ความก่อนหน้า

ผู้เขียน: องค์หญิงโนเนม
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-22 15:55:29

ตกค่ำมู่หรงซานก็ลืมตาตื่นขึ้นมา เขาจ้องมองไปรอบๆ ยามนี้ภายในเรือนจุดเทียนเพียงไม่กี่เล่มเท่านั้นเพื่อให้ความสว่าง เขารู้สึกปวดระบมไปทั้งตัว ก่อนจะนึกขึ้นมาได้

หลี่จื่อเวยนางทุบตีเขาอย่างหนักในช่วงสองสามวันมานี้

แม้เขาจะเสเพลเพียงใด แต่ก็ไม่เคยทุบตีภรรยา อีกทั้งนางก็ยังเป็นภรรยาสุดที่รักของเขา ใจของเขาย่อมรักใคร่ในตัวนางไม่น้อย

แต่ทว่าตั้งแต่ที่นางฟื้นขึ้นมาจากความตายก็คล้ายมีบางอย่างแปลกไป นางมีนิสัยที่ดุดันขึ้น เขาเพียงอ้าปากจะพูดนางก็ตบตีเขาเสียแล้ว หลายวันมานี้เขาไม่ได้ไปพบกับสหายรักที่โรงพนันและโรงสุราเลย

หิวสุราจัง!!!

มู่หรงซานเอ่ยพลางแลบลิ้นเลียริมฝีปากตนคราหนึ่ง ก่อนจะจ้องมองไปที่หลี่จื่อเวย ซึ่งยามนี้คล้ายว่านางกำลังวุ่นวายอยู่กับกองตำราบางอย่างตรงหน้า

เขาเป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลมู่หรง มีญาติผู้น้องนามว่ามู่หรงเฉินเพียงคนเดียว บ้านรองเองก็ค่อนข้างดีกับเขาไม่น้อย แม้ท่านอารองจะเป็นบุตรชายที่เกิดจากภรรยารอง แต่กลับรักใคร่และปรองดองกับท่านพ่อของเขาเป็นอย่างดี

เขาจำได้ว่าเมื่อสองปีก่อน เขาไปดื่มสุราจนเมา ก่อนจะพบกับหลี่จื่อเวยที่กำลังนำผ้าเช็ดหน้ามาขาย เขาตกหลุมรักนางในทันที จึงเข้าไปเกี้ยวพานางอย่างไร้ยางอาย ก่อนจะเร่งกลับจวนไปบังคับท่านพ่อท่านแม่ให้ไปสู่ขอนางเข้าจวนมาทันที สวรรค์ก็ช่างเป็นใจยิ่งนัก บิดาของเขารู้จักกับบิดาของหลี่จื่อเวยเข้าพอดี เมื่อเป็นเช่นนั้นทั้งสองตระกูลจึงตกลงหมั้นหมายและจัดพิธีแต่งงานอย่างรวดเร็ว

คืนวันแต่งงานนางร้องไห้อย่างน่าสงสาร  นางเอาแต่ร้องไห้จนไม่ยอมเข้าหอกับเขา เขาต้องพยายามหลอกล่อนางทุกทาง จนกระทั่งได้หลับนอนเป็นสามีภรรยากับนางหลังจากแต่งงานกันมาได้สามเดือน

เขาเป็นบุตรชายที่ท่านพ่อและท่านแม่รักมากที่สุด สิ่งใดที่ว่าดีท่านพ่อท่านแม่ก็หามาให้เขาทุกอย่าง ให้มากเสียจนบางครั้งท่านอารองยังต้องเอ่ยปราม แต่เขากลับไม่เข้าใจคิดว่าท่านพ่อท่านแม่ชอบบ่นเขา สั่งให้เขาเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ บางคราก็บอกว่าหากเขาทำตัวไม่ดี สวนผักสวนผลไม้ที่มี รวมถึงร้านรวงสมบัติก็จะไม่ให้เขาเด็ดขาด สู้เอาไปบริจาคให้คนยากไร้ยังดีเสียกว่า

มู่หรงซานถอนหายใจออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะดึงตนเองออกมาจากความคิดเหล่านั้น แล้วจ้องมองไปที่หลี่จื่อเวยซึ่งยามนี้กำลังนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดจ้องมองสมุดบัญชีตรงหน้า ก่อนจะทิ้งกายลงนอนเช่นเดิม

ด้านหลี่จื่อเวยนั้นรู้สึกโมโหไม่น้อย นางหันไปมองมู่หรงซานที่กำลังนอนหลับอยู่ ในใจนึกอยากจะเดินเข้าไปทุบตีเขาอีกสักยก 

วันนี้นางลองสอบถามเรื่องเก่าๆ จากเถาเถา เกี่ยวกับบ้านพ่อแม่สามีและตัวของมู่หรงซาน เถาเถาบอกว่าก่อนมู่หรงซานจะแต่งงานกับนาง บิดามารดาจ้างอาจารย์ที่มีความรู้มาสอนเขาที่จวน อีกทั้งยังคิดจะส่งเขาเข้าเรียนที่สำนักศึกษา แต่ทว่าเขากลับไม่เอาไหน เอาแต่เที่ยวเล่น สิ้นเปลืองเงินทองในจวนเป็นอย่างมาก หนักสุดคือไม่กลับจวนใช้ชีวิตอยู่ในโรงพนันเหมือนบ้านหลังที่สอง ลำบากบิดามารดาร้อนใจส่งคนไปลากตัวเขากลับมา

หลี่จื่อเวยถอนหายใจออกมาคราหนึ่ง ก่อนจะครุ่นคิด

อาจเป็นเพราะมู่หรงซานถูกเลี้ยงดูมาแบบผิดๆ พ่อแม่ตามใจจนเสียคน เขาคิดว่าเขามีเงินจะใช้ชีวิตเช่นไรก็ได้ อีกทั้งยังคบหาสหายที่มีนิสัยเหมือนกัน ทำให้เขามีนิสัยย่ำแย่เช่นนี้ ทั้งที่ความจริงแล้วเงินทองมันก็มีวันหมดไป อีกทั้งตระกูลมู่หรงก็ไม่ได้ร่ำรวยถึงขนาดี่จะพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินได้ถึงขนาดนั้น

หากจะดัดนิสัยมู่หรงซานในยามนี้ย่อมเป็นเรื่องยาก

แต่ก็ไม่นับว่าไร้หนทางเสียทีเดียว

บางคราหากตบตีเขาบ่อยๆ อาจจะดีขึ้นก็ได้

รุ่งเช้าวันต่อมา หลี่จื่อเวยเพิ่งรู้จากเถาเถาว่าวันนี้คือวันที่นางและมู่หรงซานจะต้องไปกินอาหารที่เรือนใหญ่ร่วมกับพ่อแม่สามีและบ้านรอง ในทุกๆ วันที่สิบห้าของทุกเดือน ลูกชายและลูกสะใภ้มักจะต้องไปกินอาหารหนึ่งมื้อร่วมกับบิดามารดาของสามี ส่วนวันอื่นๆ ก็กินอยู่ที่เรือนของตนเองไม่ต้องมากพิธีอะไร

หลี่จื่อเวยจ้องมองเสื้อผ้าของตนที่ยามนี้แลดูเก่ามากแล้ว ด้วยความรู้สึกที่อเนจอนาถใจไม่น้อย นางเลือกชุดสีเขียวอ่อนที่ดูกลางเก่ากลางใหม่ขึ้นมาสวม ก่อนจะหันไปมองมู่หรงซานที่ยามนี้ก็แต่งกายเสร็จเรียบร้อยแล้วเช่นเดียวกัน

เพราะระยะนี้ถูกภรรยายอดรักบังคับให้อยู่แต่ในจวน ทำให้มู่หรงซานที่ไม่ได้ดื่มสุราหลายวันหน้าตาดูผ่องใสขึ้นไม่น้อย หลี่จื่อเวยลอบซู้ดปากคราหนึ่งในความหล่อเหลาของมู่หรงซาน นางเล่นซีรีส์เจอพระเอกหล่อๆ มาหลายเรื่องยังไม่มีใครหล่อเท่ามู่หรงซานเลย

มู่หรงซานที่เห็นว่าภรรยาตนจ้องมองด้วยความชื่นชมก็ยกยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก ก่อนจะเอียงคอมองนาง

"มองสามีเช่นนี้ สามีเขินอายยิ่งนัก มิสู้เรามาทำกิจกรรมของสามีภรรยาสักรอบ โอ๊ย!!! เขวี้ยงถ้วยชาใส่ข้าทำไม!!!"

"มันใช่เวลามาหื่นหรือ นี่มู่หรงซาน วันนี้ตอนที่ไปกินอาหารที่เรือนใหญ่ ท่านจะต้องพูดจากับท่านพ่อท่านแม่ให้ดีๆ ยามนี้เรือนของเราไม่มีเงินทองแล้ว ข้าอยากจะได้เงินสักก้อนมาต่อยอดเพิ่ม เผื่อว่าท่านพ่อท่านแม่จะช่วยพวกเราได้"

มู่หรงซานที่ได้ยินเช่นนั้นก็ถอนหายใจออกมาทันที

“จือจือ เจ้ารอข้าสักสองวัน ข้าจะเข้าโรงพนันหาเงินมาให้เจ้าเอง เจ้าก็รู้ว่าข้าไม่อยากพึ่งพาพ่อแม่ พวกเขาเอาแต่บังคับข้าให้ทำนั่นทำนี่น่าเบื่อจะตาย”

“มู่หรงซาน ท่านอยากสลบอีกรอบหรือ?”

“ไม่อยากเลยจ้ะ”

 เขายิ้มตาหยี ก่อนจะเดินเข้ามารวบเอวบางของหลี่จื่อเวยไปกอดเอาไว้ หลี่จื่อเวยขืนกายเอาไว้ พยายามข่มใจไม่ให้ทุบตีมู่หรงซานอีกรอบ อย่างไรเสียนี่ก็คือสามีของนาง สามีที่นางไม่อยากจะยอมรับ แต่ถ้าหากนางปฏิเสธเขาอย่างตรงไปตรงมา เกรงว่าเขาจะสงสัยในตัวของนางเอาได้

แต่คนโง่เช่นมู่หรงซานคงไม่น่าสงสัยสิ่งใดกระมัง

"จือจือ หากพี่ซานทำสำเร็จ แล้วหาเงินจากโรงพนันมาให้เจ้าได้ เจ้าจะต้องมีรางวัลนะ"

"รางวัลอันใด"

"เราไม่ได้...กันมาสักพักแล้ว"

หลี่จื่อเวยที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มตาหยี ก่อนจะเอ่ย

"เป็นผู้เป็นคนให้ได้ก่อนแล้วค่อยมาพูดกับข้า เร็วเข้า!! เลยเวลาแล้ว"

"โธ่ จือจือ"

"มู่หรงซาน หากท่านยังชักช้า ข้าจะหาไม้มาทุบขาท่านจนหักเลยคอยดู"

"ไปแล้วๆ"

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • สามีอยากดื่มสุราต้องช่วยข้าทำสวน   ตอนพิเศษ

    หลี่จื่อเวยฟื้นกลับมา ทุกคนดีใจไม่น้อยเลย ด้านท่านหมอจ้าวและจ้าวจิ้นเองก็ไม่ได้ถามสิ่งใดให้มากความ คนฟื้นขึ้นมาแล้วก็นับว่าเป็นเรื่องดี จ้าวจิ้นนำยาบำรุงมามอบให้หลี่จื่อเวยหลายอย่าง บอกนางว่าขอเพียงตั้งใจบำรุงอย่างเต็มที่ย่อมหายดีในไม่ช้า หลี่จื่อเวยยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองบุตรชายฝาแฝดของตนที่ยามนี้กำลังนอนหลับอยู่มู่หรงซานกอดนางเอาไว้ ราวกับกลัวว่านางจะหายไปจากเขาอีกยี่สิบห้าปีต่อมา"นั่นแหละดี เจ้าเทระวังหน่อยสิ สุรานี้ซื้อมาแพงนัก!!!"เสียงเอะอะโวยวายดังออกมาจากศาลาริมสระน้ำ มู่หรงซานที่กำลังเดินออกมาหลังจากตรวจตราบัญชีสินค้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาปรายตามองไปยังศาลาริมน้ำ ก่อนจะถอนหายใจออกมาคราหนึ่งนับแต่วันนั้นหลี่จื่อเวยก็ไม่อาจตั้งครรภ์ได้อีก ร่างกายของนางอ่อนแอเกินไป แต่เขากลับไม่ใส่ใจ ยามนี้บุตรชายสองคนเติบโตแล้ว อายุก็ยี่สิบต้นๆ นามว่า มู่หรงเสวียน และมู่หรงชางมู่หรงเสวียนนั้นนับว่าเอาการเอางาน ชอบอ่านตำรา สนใจการค้าขาย ถอดแบบหลี่จื่อเวยมาไม่มีผิดเพี้ยน ต่างจากมู่หรงชางที่วันๆ เอาแต่ดื่มสุรา เที่ยวหอนางโลม เล่นการพนัน ถอดแบบเขามาราวกับจับวาง เขาเตือนเท่าใดมันก็เถีย

  • สามีอยากดื่มสุราต้องช่วยข้าทำสวน   บทที่ 30 ครองคู่และสร้างครอบครัวไปด้วยกัน (ตอนจบ)

    สองปีผ่านไป"ฮูหยินน้อย ออกแรงอีกหน่อยเถิดเจ้าค่ะ อีกหน่อย""อื้อ"เสียงร้องดังออกมาจากห้องเป็นระยะ สร้างความไม่สบายใจให้แก่ทุกคนเป็นอย่างมาก มู่หรงซานเดินวนเวียนไปมาหน้าห้องนอนอย่างไม่สบายใจ จนมู่หรงฮูหยินต้องเอ่ยปากเตือนขึ้นมา"ซานเอ๋อร์ เจ้าใจเย็นหน่อยเถิด สตรีคลอดบุตรก็เป็นเช่นนี้ เจ้าเดินวนไปเวียนมาข้าเวียนหัวหมดแล้ว""ท่านแม่ ข้าร้อนใจนี่ขอรับ นางเป็นเช่นไรบ้าง นี่ก็ข้ามวันข้ามคืนแล้วยังไม่คลอดอีก"เขาเอ่ยพร้อมกับขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะหันไปมองเฉินหลิ่น จ้าวจิ้นและหวังเจี้ยนที่กำลังเดินเข้ามา จ้าวจิ้นเอ่ยถามมู่หรงซานทันที"จือจือเล่าเป็นเช่นไรบ้าง ข้านำโสมอย่างดีติดมือมาด้วย เอาไว้ให้นางบำรุงร่างกาย""ขอบใจจ้าวมากนะอาจิ้น""อืม"ด้านเฉินหลิ่นก็เดินเข้ามาหามู่หรงซาน ก่อนจะเอ่ยเช่นเดียวกัน"ใจเย็นเถิด ยามที่ภรรยาข้าคลอดบุตรชายก็เป็นเช่นนี้"มู่หรงซานหันมาพยักหน้าให้เฉินหลิ่นคราหนึ่ง เฉินหลิ่นได้แต่งงานกับองค์หญิงจากในวังหลวง พวกเขาทั้งสองรักใคร่ทะนุถนอมกันเป็นอย่างดี อีกทั้งภรรยาของเฉินหลิ่นก็สนิทสนมกับหลี่จื่อเวยมาก เพราะสองจวนมักไปมาหาสู่กันอยู่บ่อยครั้ง เพราะพบเจอกันบ่อยครั้ง"ภรรย

  • สามีอยากดื่มสุราต้องช่วยข้าทำสวน   บทที่ 29 คนบ้านรอง

    หลายวันต่อมา หลี่จื่อเวยที่กำลังกลับมาจากภัตตาคารจื่อซานก็ได้พบกับคนบ้านรอง ท่านอาของมู่หรงซาน ก็คือมู่หรงหยางนั่นเอง มู่หรงหยางมาพร้อมกับอาสะใภ้รองอวี้ซิน และลูกชายลูกสะใภ้ สภาพของคนทั้งหมดดูไม่ได้เลยแม้แต่น้อย หลี่จื่อเวยปรายตามองพวกเขาคราหนึ่ง ในใจพลันนึกถึงเรื่องราวในปีนั้นได้ ยามที่เกิดสงครามใหม่ๆ บ้านรองมารีดไถเงินจากบ้านหลักไปมากมาย ทำเป็นเก่งกล้าสามารถ แต่ท้ายที่สุดกลับไปไม่รอดอย่างเช่นวันนี้มู่หรงฮูหยินเองไม่ได้เอ่ยสิ่งใด เพียงเชิญคนเข้ามาในจวนเพื่อถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกันตามมรรยาทมู่หรงหยางเล่าว่าหลังจากเดินทางไปที่บ้านเก่าของอวี้ซิน ฟางม่านม่านลูกสะใภ้ของเขาก็แท้งบุตร นับแต่นั้นก็ไม่อาจตั้งครรภ์ได้อีก บุตรชายก็ไม่เอาไหน ดื่มแต่สุราทั้งยังเที่ยวสตรีหอนางโลมไม่เว้นวัน สามีภรรยาทุบตีกันจนมู่หรงเฉินบุตรชายเขาแขนพิการ ฟางม่านม่านก็ขาหัก กลายเป็นคนพิการทั้งคู่ส่วนมู่หรงหยางและภรรยานั้นสิ้นเนื้อประดาตัว ถูกญาติพี่น้องฝั่งภรรยาคดโกงทรัพย์สินไปจนหมด จึงอดอยากจะมาหยิบยืมเงินจากคนบ้านหลัก เพราะรู้ว่ายามนี้คนบ้านหลักร่ำรวยมีเงินมากมายมู่หรงฮูหยินยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยกับน้องชา

  • สามีอยากดื่มสุราต้องช่วยข้าทำสวน   บทที่ 28 ต่างเป็นสหายที่ดีต่อกัน

    หลายวันต่อมามู่หรงซานและหลี่จื่อเวยก็เดินทางมาที่เมืองหลวงพร้อมกัน ระยะทางจากหมู่บ้านหลิงซีมาที่เมืองหลวงนั้นไม่ได้ไกลกันเท่าใดนัก ระยะเวลาการเดินทางจึงไม่ได้ล่าช้าอย่างที่คิด สองสามีภรรยามาถึงเมืองหลวงในช่วงสายๆ เมื่อหาโรงเตี๊ยมสำหรับนอนพักหนึ่งคืนเรียบร้อยแล้ว มู่หรงซานและหลี่จื่อเวยจึงรีบไปดูจวนแห่งนั้นทันทีการเดินทางครั้งนี้มีลุงกู้ติดตามมาด้วย ลุงกู้พาเจ้านายไปดูที่ดินและจวนนั้นในทันที เมื่อหลี่จื่อเวยได้เห็นก็รู้สึกชอบมากเหลือเกิน จวนหลังนี้ขนาดพอดี ที่ดินก็เป็นทำเลเหมาะเจาะ อีกทั้งยังมีบ่อน้ำด้วยเจ้าของที่ดินเก่าร้อนเงินและต้องการเดินทางไปอยู่กับลูกชายที่ต่างเมือง จึงตัดใจขายจวนหลังนี้ในราคาสองพันตำลึงราคาอาจจะสูงไปสักเล็กน้อย แต่หลี่จื่อเวยจำคำของเจ้าห่านตัวผู้นั้นได้ดี มันบอกว่าให้นางตัดใจซื้อเสียอย่าได้ลังเล เมื่อคิดได้เช่นนั้นหลี่่จื่อเวยจึงตกลงซื้อในทันที ใช้เวลาครึ่งค่อนวันทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อยดี เจ้าของเดินรับเงินไปอย่างยินดีปรีดามู่หรงซานที่เห็นเช่นนั้นก็หันมาเอ่ยถามภรรยาตนทันที"ราคาไม่ได้น้อยเลย เจ้าตัดใจซื้อได้ลงจริงๆ หรือ""ดีกว่าเอาให้ท่านไปเล่นพนันก็แล้วกัน

  • สามีอยากดื่มสุราต้องช่วยข้าทำสวน   บทที่ 27 กรรมตามสนอง

    เช้าวันนี้อากาศค่อนข้างแจ่มใส พืชผักที่ปลูกไว้ถูกเก็บเกี่ยวและนำไปขายจนหมดแล้ว ลุงกู้เองก็กลับมาพร้อมกับบอกว่าเขาขายผักได้หมด อีกทั้งยังขายได้ในราคาที่ดีมากอีกด้วย ตอนนี้เมืองหลวงคึกคักไม่น้อยเลย อีกทั้งยังได้ยินมาว่าในเมืองหลวงมีคนต้องการจะขายที่ดิน ซึ่งอยู่ติดกับตลาดพอดี หลี่จื่อเวยจึงตั้งใจว่าจะเดินทางไปดูที่ทางเสียหน่อยการตายของหลี่อินและจุดจบของสามแม่ลูกไม่ได้ส่งผลใดต่อคนตระกูลมู่หรงเลยแม้แต่น้อย บิดาของนางเองก็เสียใจอยู่เพียงไม่กี่วันก็ไม่ได้แสดงท่าทีใดอีก หลี่จื่อเวยกำลังล้างผักอยู่ในครัว วันนี้นางตั้งใจว่าจะทำข้าวเหนียวไก่ห่อใบบัวเสียหน่อย เมื่อจัดการเตรียมทุกอย่างพร้อมจึงได้เริ่มทำอาหาร ใช้เวลาอยู่ครึ่งค่อนวันทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อย หลี่จื่อเวยจึงนำอาหารมาให้ห่านสองตัวนั้นต่อทันทีเมื่อเข้ามาก็พบว่าเจ้าห่านสองตัวกำลังกอดก่ายกันอย่างรักใคร่กลมเกลียว หลี่จื่อเวยวางอาหารลงตรงหน้ามันก็กินอย่างไม่รีบไม่ร้อน เมื่อกินอิ่มแล้ว หลี่จื่อเวยจึงเอ่ยถามทันที"นี่เจ้าห่านตัวผู้ อีกไม่นานข้าคงต้องย้ายไปอยู่ที่เมืองหลวงแล้ว หากข้าอยากเปิดร้านอาหาร แล้วต้องการใช้บ่อน้ำวิเศษ แต่ไม่สามารถนำม

  • สามีอยากดื่มสุราต้องช่วยข้าทำสวน   บทที่ 26 วางแผนย้ายที่อยู่

    เมื่อสามแม่ลูกมหาประลัยย้ายออกจากบ้านสวนไปแล้ว ทุกคนต่างถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจไม่น้อย ด้านบิดาของหลี่จื่อเวยก็รู้สึกผิดไม่น้อย หลี่จื่อเวยเองก็ไม่ได้เอ่ยสิ่งใดอีก เรื่องที่แล้วก็ให้แล้วไปเถิด นางไม่่ได้ติดใจอยากจะเอาความใดมากไปกว่านี้เช้าวันต่อมาหลังจากกินมื้อเช้ากันเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลี่จื่อเวยและมู่หรงซานก็ตัดสินใจเล่าเรื่องที่เกี่ยวกับห่านสองตัวนั้นให้แม่สามีได้ฟัง เพราะตอนนี้สามแม่ลูกนั่นออกจากบ้านสวนไปแล้ว ย่อมไม่มีสิ่งใดน่าเป็นกังวลอีกแล้ว มู่หรงฮูหยินที่ได้ยินเช่นนั้นเดิมทีก็ไม่อยากจะเชื่อเท่าใดนัก แต่เมื่อได้เห็นตั๋วเงินมากมายที่เก็บเอาไว้ในห้องนอนของบุตรชายและสะใภ้ นางก็ถึงกับอ้าปากตาค้างเงินนี่มันมากมายเหลือเกินนางไม่ได้ถามว่าเพราะเหตุใดหลี่จื่อเวยจึงคิดมาบอกนางเอาป่านนี้ นางเองเข้าใจว่าทุกอย่างล้วนมีเหตุผลของมันหลี่จื่อเวยจับมือของมู่หรงฮูหยิน ก่อนจะเอ่ย"ข้าต้องขออภัยท่านแม่ที่ไม่ได้บอกกล่าวให้เร็วกว่านี้ เพราะข้าไม่ไว้ใจสามแม่ลูกนั้น ยามนี้พวกนางจากไปแล้ว ข้าจึงวางใจอยากบอกท่าน ท่านแม่เจ้าคะ ยามนี้เมืองหลวงเองก็เจริญมากแล้ว พวกเราไปหาที่ทางทำกินในเมืองหลวงกันดีห

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status