"หนึ่ง!" สิงห์ผละตัวออกจากคู่ขาแล้วตรงปรี่เข้าไปหาภรรยาสาว "มันไม่ใช่อย่างนั้นนะคะหนึ่ง"
"มันไม่ใช่อย่างนั้นแล้วมันเป็นอย่างไหนล่ะคะพี่สิงห์? หลักฐานก็เห็นอยู่ตําตาว่าพี่สิงห์ควงแม่นางแบบดาวยั่วคนนี้มาปรนเปรอถึงที่!" ชะเอมเหลืออดกับผู้ชายมักมากคนนี้แล้วจริงๆ "ไม่ใช่เรื่องของเธอ" สิงห์ชำเลืองตามองชะเอมอย่างเอาเรื่อง ก่อนที่จะหันกลับไปลูบศีรษะทุยของภรรยาสาวแล้วไล่ลงมาบริเวณใบหน้าขาวเนียนจากนั้นจึงเรือนร่างบอบบางเข้ามาโอบกอดเอาไว้ "มันไม่ใช่แบบนั้นจริงๆนะคะ น้ำหนึ่งต้องเชื่อใจพี่นะ" "ใช่ค่ะคุณน้ำหนึ่ง นิวกับคุณสิงห์เราสองคนไม่ได้มีอะไรเกินเลยจริงๆนะคะ" นิวพูดออกมาได้อย่างไรอย่างอายทำราวกับว่าเมื่อครู่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งสิ้น "คุณน้ำหนึ่งอย่าโกรธคุณสิงห์เลยนะคะ" "สาระแน!" ชะเอมก่นด่าลอยๆแต่แววตาของหล่อนกลับต้องเขม่นไปยังใบหน้าของนางแบบสาวรุ่นน้องด้วยความไม่พอใจ "จะให้หนึ่งเชื่อใจได้ยังไงคะ ได้ยินเต็มสองหูได้เห็นเต็มสองตาพี่กับผู้หญิงคนนี้สนิทสนมกันมากแค่ไหน" เธออ่อนแอมากเหลือเกิน ที่ผ่านมาตลอดระยะเวลาสองเดือนที่แต่งงานกันเธอพยายามปิดหูปิดตายอมอ่อนข้อให้เขาแล้วครึ่งหนึ่ง แต่ใครมันจะคิดว่าเขาจะกล้าพาผู้หญิงคนนี้มันเดินห้างให้คนอื่นเขาประณามว่าเธอเป็นอีหน้าโง่โดนผัวสวมเขา "หนึ่ง..." สิงห์ค่อยๆผละกอดออกจากเธอ "ฉันขอถามเธอหน่อยนะ" น้ำหนึ่งเดินเข้าไปประจันหน้ากับผู้หญิงหน้าด้านคนนั้น "เธอรู้หรือเปล่าว่าพี่สิงห์แต่งงานมีภรรยาแล้ว" "รู้ค่ะ" นิวตอบได้อย่างไรหน้าลอยตาไม่สะทกสะท้านกับคำถามของไฮโซน้ำหนึ่งเลยสักนิด "ตอนงานแต่งของคุณน้ำหนึ่งนิวก็ไปร่วมแสดงความยินดีด้วยนะคะ" "แต่เธอก็ยังมายุ่งกับสามีของคนอื่นทั้งๆที่รู้ว่าเขามีภรรยาอยู่แล้ว เขาให้เงินเธอดีเหรอ? เธอถึงไม่กล้าทำเรื่องผิดศีลธรรมแบบนี้ได้ลง" น้ำหนึ่งเลิกคิ้วถามผู้หญิงคนนี้ด้วยความสงสัย "ใช่ค่ะ" นิวพยักหน้า ในเมื่อภรรยาเขาจับได้สิงห์ก็คงจะเฉดหัวหล่อนทิ้งอย่างไม่แยแสและให้เงินตั้งตัวสักก้อนเพื่อเป็นผลรางวัลตอบแทน อย่างน้อยๆตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมาหล่อนก็กอบโกยจากผู้ชายคนนี้มามากพอสมควรที่สำคัญไปมากกว่านั้นนั่นก็คือตอนนี้หล่อนมีเป้าหมายใหม่ที่เงินหนักและน่าสนใจไม่แพ้ไปกับสิงห์ "คุณสิงห์ให้เงินนิวดีมาก สายเปย์ อยากได้อะไรก็ทุ่มไม่อั้น ทั้งคอนโด ทั้งเสื้อผ้าทั้งกระเป๋า แถมลีลาบนเตียงนี่ถึงใจ" "นิว!!!" สิงห์พุ่งตัวเข้าไปกระชากแขนคู่ขาอย่างแรงร่างกายบอบบางของหล่อนเซด้านหลังเล็กน้อย "หุบปาก!" "ไม่ต้อง! พูดออกมา" "ได้เลยค่ะคุณน้ำหนึ่ง นิวอยากจะขอเตือนคุณน้ำหนึ่งด้วยความหวังดีนะคะว่าเด็กๆในสต๊อกที่คุณสิงห์เลี้ยงเอาไว้ไม่ได้มีแค่นิวคนเดียว ยังมีเด็กๆเอ๊าะๆอีกเพียบเลยค่ะ อ้อ! และที่สำคัญนะคะ" นิวเดินเข้าไปประจันหน้ากับไฮโซน้ำหนึ่งจนอยู่ในระยะกระชั้นชิดห่างกันเพียงไม่ถึงปลายนิ้ว "เวลาที่คุณสิงห์เอานิวเนี้ย คุณสิงห์ก็มักจะพูดกับนิวว่าคุณน้ำหนึ่งจืดชืดนอนนิ่งเหมือนไม้กระดานหรือขอนไม้แก่ๆ น่าเบื่อ น่ารำคาญ ไม่เห็นจะน่าเร้าใจเลยสักนิด" "..." น้ำหนึ่งกลืนน้ำลายลงคอแล้วทอดมองใบหน้าของหญิงชั่วชายโฉดด้วยแววตาเย็นชาแฝงไปซึ่งความเจ็บปวดชอกช้ำระกำใจ ก่อนที่จะเดินหันหลังออกมาโดยไม่กล่าววาจาใดเลยสักคำเดียว "หนึ่ง!! หนึ่งคะ!!" ... ... ... "ถุ้ย!!! ทุเรศฉิบหาย" ไฮโซสาวสวยอย่างน้ำหนึ่งเหยียดขาเรียวบางขึ้นมาไขว้ห้างโชว์ความขาวเนียนผ่านเดรสรัดรูปสั้นขึ้นไปจนเกือบจะเห็นจีสตริงพร้อมทั้งปวดแผ่นหลังเรียบเนียนที่เว้าลึก ก่อนจะยกแก้วที่มีน้ำสีอำพันขึ้นมากระดกดื่มไอ้แก่ชีวิตอันบัดซบของตัวเอง หวนนึกถึงเรื่องเมื่อเดือนก่อนทีไรเธอก็เจ็บจี๊ดที่ขั้วหัวใจทั้งเกลียด ทั้งโกรธ ทั้งแค้นที่ไอ้ผัวตัวดีมันควงอีผู้หญิงแพศยาคนนั้นออกนอกหน้าโดยไม่ให้เกียรติเธอเลยสักนิด "แล้วทำไมมึงไม่หย่ากับพี่สิงห์ให้สิ้นเรื่องไปวะ" อันนา เพื่อนสนิทอีกคนหนึ่งที่คบหากันมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมเอ่ยถามด้วยความสงสัย นางคือหนึ่งในมือนักแปลงโฉมที่เนรมิตเซเลบสาวน้ำหนึ่งคนใหม่จนลืมชื่อไปทั้งวงการไฮโซ! จากสาวเฉิ่มไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจาไม่ค่อยพบสังคม ซ้ำยังจืดชืดแต่งตัวเชยใส่กระโปรงยาวถึงตาตุ่ม เอาอกเอาใจหรือดัดจริตแทบไม่เป็น กลับกลายเป็นเซเลบสาวที่ถูกพูดถึงและหมายตากันอยู่เป็นจำนวนมาก แค่เปลี่ยนวิธีการแต่งตัว การแต่งหน้า การใช้ชีวิตและคำพูดคำจาให้ดัดจริตใส่มารยาผู้หญิงเข้าไปเล็กๆน้อยๆแค่นี้ก็เลิศ! เพราะพื้นฐานเดิมนำหนึ่งเป็นคนสวยอยู่แล้วเพียงแค่ไม่รู้จักรักตัวก็เท่านั้นเอง "ใครมันจะหย่าให้โง่! หย่าให้อีพวกเด็กๆ พวกคู่นอนที่อยู่ในสต็อกผัวกูมาหัวเราะเยาะงั้นเหรอ สู้ให้พี่สิงห์มีพันธะแล้วตามราวีไม่ให้มีความสุขอยู่บนความทุกข์ของคนอื่นน่าจะดีกว่านะ ผู้ชายสันดานเลวๆแบบนี้ต้องโดนกำราบให้สิ้นซาก!" ทั้งความคิดทางการกระทำของน้ำหนึ่งเปลี่ยนไปเป็นคนละคนจริงๆ จะไม่ยอมโดนกดหัวอยู่ฝ่ายเดียว ชีวิตคนเราต้องลุกขึ้นสู้ สู้เพื่อเกียรติยศและกอบกู้ศักดิ์ศรีของตัวเองกลับมา! เธอจะทำให้ผู้ชายคนนั้นเสียดายที่ให้ค่าให้ความสำคัญกับนางตัวเล็กตัวน้อยที่เป็นเห็บเป็นหมัดมากกว่า "ระวังจะตกหลุมพรางตัวเองก็แล้วกัน! กูละไม่ไว้ใจผู้ชายอย่างพี่สิงห์จริงๆ เจ้าคารมคมคายหว่านล้อมจนผู้หญิงติดกับมานัดต่อนัดแล้ว" ชะเอมแสดงความคิดเห็น "เหอะ!" "ทำแบบนั้นมันจะดีเหรอ? เราว่าพูดคุยแล้วค่อยๆปรับความเข้าใจกันดีกว่านะ" ไลลาแม่พระที่สุดในกลุ่มเอ่ยพูดขึ้นก่อความเอือมระอาหมดอารมณ์ในการเที่ยวสังสรรค์ค่ำคืนนี้ของเหล่าผีเสื้อราตรีทั้งสามเป็นอย่างมาก ขนาดมาเที่ยวผับเที่ยวบาร์หล่อนยังแต่งตัวใส่เสื้อยืดโอเวอร์ไซส์กับกางเกงขายาวแล้วมัดผมกลางหัว พร้อมทั้งแต่งหน้าบางๆชนิดที่ว่ากลัวสิ้นเปลืองเงินซื้อเครื่องสำอาง "พอๆๆ" "แล้วนี่ผัวมึงจะกลับจากดูงานที่ต่างประเทศเมื่อไหร่? ธุรกิจอาหารหมาก็ขายดีเหมือนกันนะ" อันนาถาม ตั้งแต่ที่เจ้าสัวสุรเดชซึ่งเป็นคุณปู่ของไฮโซน้ำหนึ่งรู้เรื่องเมื่อเดือนก่อนเข้า ท่านก็จัดการยัดเยียดและส่งสิงห์ไปศึกษาดูงานที่ศูนย์การผลิตรายใหญ่แถบยุโรปเพื่อนำมาปรับปรุงสินค้าล็อตใหม่ล่าสุดที่กำลังจะออกเร็วๆนี้เป็นระยะเวลาหนึ่งก็ให้เขาห่างหายจากเด็กๆในสต๊อกและจัดการตัดไฟตั้งแต่ต้นลม! โดยท่านเองก็ไม่ได้ชะล่าใจส่งเลขารวมทั้งคนสนิทไปควบคุมความประพฤติไม่ให้ออกนอกลู่นอกทางแล้วคว้าแหม่มมารังควานใจหลานสาวอีก "ได้ข่าวว่าไฟท์บินวันนี้ น่าจะกลับมาแล้วแหละ" น้ำหนึ่งไหวไหล่ตอบ "แล้วนี่มึงไม่รอรับผัวมึงเหรอ" ชะเอมถาม "จำเป็นไปเหรอ เขาก็มีมือ มีตีน มีโทรศัพท์หาทางกลับบ้านเองได้นั่นแหละ" ส่วนของเธอนั้นได้เปิดโหมดการบินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว "เลิศ! เริ่ดมากค่ะลูกสาว" ว่าแล้วทั้งสามคนก็ออกไปเต้นวางลวดลายด้านหน้าเวทีจนได้รับเสียงโห่เสียงแซวมากมายชายหนุ่มเก็บร่างกายอันบอบช้ำและอ่อนแอเต็มทีประคองตัวขึ้นมาบนรถสปอร์ตคันหรูของตนเองในใบหน้าที่แปดเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตาซบลงบนพวงมาลัยอย่างหมดเรี่ยวแรง...ที่ผ่านมาเขามันโง่งมเอง...เขาทำร้ายผู้หญิงที่รักเขามากที่สุดในชีวิตมาโดยตลอด เธอคิดว่าเธอคือของตาย จะอย่างไรเสียหันกลับไปเมื่อไหร่ก็คงจะเจอ...แต่เปล่าเลยทุกคำพูดและทุกการให้อภัยที่เกิดขึ้นเปอร์เซ็นต์ความศรัทธาและเปอร์เซ็นต์ที่อยากจะอยู่ต่อมันค่อยๆ เลือนหายและลดหลั่นลงไปตามลำดับจนไม่หลงเหลืออยู่เลย...เพิ่งมารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ต้องสูญเสียแล้วไม่สามารถเรียกร้องกลับคืนมาได้อีกยิ่งได้รับรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังศึกษาดูใจกับผู้ชายคนใหม่…มันทำให้ความหวังที่เธอจะให้โอกาสเขาอีกครั้งหนึ่งเริ่มร่อยหรอและค่อยๆ ลดน้อยลงไปทุกทีทุกที“ฮึก!! หนึ่ง พะ...พี่ขอโทษ ขอโทษจริงๆ” สิงห์พูดอย่างติดๆ ขัดๆ พลางเสียงสะอื้นแทรกเข้ามาเป็นระยะๆ ท่าทีแสดงอาการเย็นชาและคำพูดเปิดตัวคนรู้ใจใหม่จากภรรยาสาวแปรเปลี่ยนเป็นอาวุธไร้รูปร่างเชือดเฉือนก้อนเนื้อหัวใจของเขาจนไม่เหลือชิ้นดีจบแล้วใช่ไหม...เจ็บปวดเหลือเกิน...หากขอพรจากฟ้าได้ข้อหนึ่ง...เขาไม่ต้องการเงินทองเป็นร้อยเป็นพั
ท่านเจ้าสัวสุรเดชจะไม่มีวันยอมให้หลานสาวของตัวเองกลับไปอยู่ในวงโคจรนรกแบบนั้นอีกแล้ว! หลานสาวของเขาจะต้องเจอคนที่ดีกว่านี้ เจอคนที่ไม่ทำให้แกต้องเสียใจ เจอคนที่สามารถดูแลและทะนุถนอมความรู้สึก ความรัก ความศรัทธาของแกจริงๆ!“ท่านเจ้าสัว ผมขอเจอหน้าน้ำหนึ่งจะได้ไหมครับ ผมมีเรื่องจะคุยกับน้ำหนึ่ง ผมขอเถอะนะครับท่านเจ้าสัว” สิงห์คุกเข่าลงตรงหน้าท่านเจ้าสัวสุรเดชเพื่อร้องขอความเห็นใจให้เขาเมตตาผู้ชายคนนี้สักนิด...ให้เขาได้มีโอกาสพูดคุยกับน้ำหนึ่งสักหน่อย“ฉันไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่าแกจริงๆ ไอ้สิงห์ แกทำให้หลานสาวฉันต้องเสียใจไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ฉันก็ยังออมมือไม่เอาเรื่องเอาราวเพราะน้ำหนึ่งขอเอาไว้! แต่นี่แกมันโง่ แกดันเล่นชู้กับเพื่อนสนิทของหลานสาวฉัน! ฉันไม่ทำให้ชีวิตแกพังก็บุญแค่ไหนล่ะ!! อันที่จริงถ้าฉันจะยึดบริษัทซื้อหุ้นส่วนทั้งหมดให้หลานสาวฉันเป็นคนดูแลบริหารก็ยังได้เลย! นี่ถือว่าฉันยังเห็นแก่คุณปู่ของแก ฉันเลยไว้หน้าอยู่บ้าง นับจากวินาทีนี้เป็นต้นไป ไสหัวไปซะ! อย่ามายุ่งวุ่นวายกับหลานสาวฉันอีกแล้วอย่าหาว่าฉันไม่เตือน” ท่านเจ้าสัวสุรเดชพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่ดูสุขุมนุ่มลึกน่าเก
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะคะ”“ก็ผมกลัวว่าผมจะล้ำเส้นน้ำหนึ่งมากเกินไป เราสองคนตอนนี้ก็ยังไม่ได้มีสถานะอะไรนอกจากกำลังคุยๆ คุยดูใจกันอยู่” เขาให้เกียรติน้ำหนึ่ง...เขาไม่อยากทำให้เธอเสื่อมเสียชื่อเสียงและถูกนำไปนินทาเสียๆ หายๆ“ก็ถ่ายในฐานะเพื่อนคนรู้จักหรือคนที่กำลังคุยกันอยู่ก็ได้” ในเมื่อคิดจะเปิดใจแล้วเธอก็ลุยเต็มที่!อย่างว่าเธอเป็นคนทุ่มเทกับความรัก! ตอนรักก็รักและให้ไปสุดใจอย่างไม่คิดจะเผื่อเปอร์เซ็นต์ไว้เจ็บปวด แต่ตอนเลิกเนี่ยสิทรมานจวนเจียนหมดลม!“ดูหัวเราะคิกคักมีความสุขกันมากเลยนะ” เสียงของแขกไม่ได้รับเชิญดังขึ้น “ดูหนึ่งแฮปปี้และเอ็นจอยมากเลยนะคะไม่เหมือนคนที่เพิ่งหย่ากับสามีไปหมาดๆ”แขกไม่ได้รับเชิญคนนั้นนั่นก็คืออดีตสามีห่วยแตก...แต่สภาพสิงห์แทบจะดูไม่เป็นผู้เป็นคนและดูไม่ได้เลยด้วยซ้ำ...ใบหน้าของเขาทรุดโทรมซูบเซียวคล้ายกับคนขาดสารอาหารพร้อมทั้งดวงตาอ่อนล้ารอบๆ หมองคล้ำอย่างกับอดหลับอดนอนมาเป็นระยะเวลาหลายคืน...“สวัสดีค่ะคุณสิงห์” น้ำหนึ่งยังคงให้เกียรติเขาเช่นเดิม“สวัสดีครับคุณสิงห์” นนทกานต์เองก็สวัสดีผู้ที่มีอาวุโสกว่าเขา เนื่องจากเขาอายุไล่เลี่ยกับน้ำหนึ่ง...ห่างกันเพียงแค่สอ
@สามเดือนผ่านไปในส่วนของสิงห์ได้รับผลกระทบจากการกระทำของตัวเองพอสมควร...นั่นก็คือถูกปลดออกจากตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริหารบริษัทยักษ์ใหญ่! เนื่องจากทำความเสื่อมเสียชื่อเสียงมาจนถึงบริษัทจนลูกค้าเกิดความไม่ไว้วางใจและขุ่นเคืองใจเป็นอย่างมากกับพฤติกรรมของเขาจึงมีคนยกเลิกออเดอร์กันไปเป็นขบวน สร้างความเสียหายหลายล้าน ทั้งยังถูกประนามจากสังคมผ่านโลกโซเชียลวิเคราะห์ถึงนิสัยใจคอที่ไม่สามารถรับได้ จะไปจะมาที่ไหนก็ล้วนมีแต่คนซุบซิบนินทา...แต่ก็ได้ข่าวว่าเขาชอบชีวิตอิสระของตัวเอง จะทำอะไร จะไปที่ไหนก็ไม่ต้องแคร์ใคร! สิงห์ที่คั่วผู้หญิงเป็นว่าเล่น เข้าผับทุกคืนซ้ำยังได้ผู้หญิงติดไม้ติดมือมาล้วนงานดีทั้งนั้น! นี่มันสวรรค์ที่เขาใฝ่หาชัดๆ! ข่าวลือหนาหูพาดหัวข่าวจากหนังสือพิมพ์และโลกโซเชียลกระหน่ำไม่เว้นวัน...บ้างก็ข่าวกับดาราคนนู้น บ้างก็ข่าวกับนางเอกคนนี้ บ้างก็เขากับไฮโซคนนั้น...ส่วนชะเอมเองก็ได้รับผลกระทบไม่แพ้กัน หล่อนถูกวิพากษ์วิจารณ์หนักมาก ถูกตัดช่องทางการทำมาหากินทุกอย่างจนแทบจะต้องมุดหัวอยู่ในกระดองเพราะไม่กล้าออกไปเผชิญหน้ากับสังคม เนื่องจากโดนด่า โดนว่าจนอับอายขายขี้หน้า บางวันก็เล่นใ
น้ำหนึ่งเหยียดยิ้มอย่างชั่วร้ายชำเลืองตามองเพื่อนสนิทที่พร้อมจะเหยียบย่ำเธอให้จมดินสลับกับอดีตสามีเฮงซวยซึ่งคิดทำร้ายทั้งจิตใจและความรู้สึกเธอสารพัด“หนึ่ง...” สิงห์ส่ายศีรษะเพื่อห้ามปรามให้เธอหยุดพูด เพราะในตอนนี้เขาแทบไม่เหลือศักดิ์ศรีให้ยืนหยัดในแท่นผู้บริหารได้อย่างมีเกียรติแล้วแต่มันกลับเปล่าประโยชน์...“หนึ่งจับได้ว่าพี่สิงห์มีผู้หญิงคนอื่นค่ะ” กล่าวประโยคนี้จบเสียงฮือฮาซุบซิบนินทาก็เริ่มหนาหูขึ้น ส่วนเพื่อนสนิทเธอนั้นเมื่อรู้ตัวว่าไฟใกล้จะลามมาถึงขาตนก็ทำทีท่าจะก้าวย่องออกไปอย่างเงียบๆ ทว่าอันนาไหวตัวทันก็เลยรั้งแขนหล่อนเอาไว้“จะไปไหนเหรอเพื่อนรัก?” คนอย่างชะเอมคบไม่ได้ ฉะนั้นอันนาก็ไม่มีเหตุผลจำเป็นอะไรที่ต้องเก็บเอาไว้ ต่อให้คบหารู้จักกันมานานตั้งแต่สมัยเรียนเรียน แต่นั่นมันก็เป็นเครื่องช่วยย้ำเตือนอีกอย่างหนึ่งว่าเวลาไม่ได้ช่วยขัดเกลาทำให้จิตใจคนสูงส่งขึ้นมาได้เลยหากวันหนึ่งหล่อนทำอะไรที่ไม่เข้าตาชะเอมเข้า ชะเอมก็คงจะใช้มูลเหตุนั้นชักจูงให้ตัวเองกระทำความผิดแล้วใส่ไม่ยั้งกับหล่อนเหมือนที่กระทำกับน้ำหนึ่งแน่นอน“โดยปกติแล้วคุณสิงห์ก็มีผู้หญิงคนอื่นอยู่เรื่อยไม่ใช่เหรอคะ?”
“หนึ่ง...”“พี่สิงห์รีบเซ็นเถอะค่ะ เราจะได้ไม่ต้องมาเสียเวลานั่งอยู่ตรงนี้นานมาก เพราะหนึ่งมีธุระต้องไปทำต่อ” น้ำหนึ่งเลื่อนเอกสารไปตรงหน้าของสิงห์ซ้ำยังใช้ประโยคบีบบังคับให้เขาลงลายมือชื่อโดยเร็ว“...” สิงห์ค่อนข้างลังเล ภายในหัวใจมันวูบวาบร้อนรุ่มอย่างบอกไม่ถูก ความรู้สึกหนึ่งก็อยากเซ็นให้จบๆ เพื่อคืนอิสรภาพให้แก่ตนเองหลังจากนี้จะได้คั่วผู้หญิงอย่างตามใจโดยไม่ต้องแคร์สายตาคนอื่น แต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกเสียดายเธออยู่ไม่ใช่น้อย...อยู่ด้วยกัน คุยกัน ทำความรู้จักกันมาตั้งนาน หากวันหนึ่งน้ำหนึ่งไปมีผู้ชายคนอื่นจริงๆ เขาจะต้องทำตัวอย่างไรนะ?น้ำหนึ่งทั้งสวย เพียบพร้อม ฉลาด มีคุณสมบัติครบด้านซะขนาดนี้เธอจะมีผู้ชายอีกสักกี่ร้อยกี่พันคนที่คัดเลือกเข้ามาอยู่ในวงโคจรก็ยังได้เลย...ของของเขา ของที่เขาเคยสัมผัสทุกกระเบียดนิ้วในเรือนร่างนี้ ในอีกไม่ช้ามันอาจจะต้องกลายเป็นคนอื่นมาซ้ำรอยแค่คิดก็จุกอก!!!เขาอยากให้น้ำหนึ่งเป็นของเขาเพียงแค่คนเดียว! แต่...เขาจะมีผู้หญิงอีกสักกี่คนก็ย่อมได้ นี่คงเป็นความคิดของคนที่เห็นแก่ตัวสินะ...แต่เขาไม่อยากเสียน้ำหนึ่งไปให้ใครจริงๆ น้ำหนึ่งเป็นของเขา เป็นผู้หญิงของส
“ฮือ” เธอเข้าไปกอดท่านเจ้าสัวสุรเดชซ้ำเป็นครั้งที่สอง “เจ็บ...เจ็บเหลือเกินค่ะคุณปู่ หนึ่งทั้งรัก ทั้งดูแลและจงรักภักดีต่อพี่สิงห์มาโดยตลอด มอบให้เขาเป็นโลกทั้งใบแต่เขากลับทำกับหนึ่งแบบนี้...ต่อให้เขามีพวกผู้หญิงคนอื่นอีกสักร้อยสักพันคนหนึ่งก็ไม่รู้สึกจุกอกเท่าที่เห็นเขากำลัง...อยู่กับเพื่อนหนึ่ง เขาทำแบบนี้กับหนึ่งได้ยังไงอ่ะ”มันเป็นความรู้สึกสูญเสียทั้งเพื่อนสนิทและคนรักในเวลาเดียวกัน...ทั้งสองคนคือคนที่เธอรัก คือคนที่เธอไว้ใจแต่กลับมาหักหลังทรยศแล้วเล่นกันเองเสียอย่างนั้น...“เพราะไอ้สาระเลวนั่นมันหน้าตัวเมียไง หนึ่งโชคดีแล้วหลานที่ออกมาได้ ต่อจากนี้ชีวิตของหลานจะมีแต่ความสุข ความสงบสุขและเจริญก้าวหน้าไปเรื่อยๆ หลานจะเจอคนที่เขารักหลานได้มากกว่านี้ หลานจะเจอคนที่เขาพร้อมพอในการดูแลหลาน ในการรักหลานและไม่ทำให้หลานเสียใจเหมือนผู้ชายคนนี้อีก หลานสาวของปู่ทั้งสวย ทั้งเก่งขนาดนี้ ผู้ชายดีๆ เพอร์เฟคยังมีอีกเยอะที่รอต่อแถวกดบัตรคิวกันเป็นขบวน” สิ่งที่ท่านเจ้าสัวสุรเดชกล่าวออกมานั้นล้วนเป็นความจริง...ตั้งแต่ที่ไฮโซน้ำหนึ่งเปลี่ยนโฉมปรับลุคการแต่งตัวก็มีชายหลายคนทั้งไฮโซ ทั้งเซเลบ ทั้งดารา
“โอ๊ย!!” เสียงโอดโอยของสิงห์ร้องดังขึ้นเมื่อเพื่อนสนิทอย่างกระทิงจิ้มจุ่มสำลีลงบนบาดแผลบริเวณมุมปากของเขาอย่างแรง “เจ็บนะเว้ยไอ้กระทิง”“สมน้ำหน้า!! ทำอะไรโง่ๆ นะมึงเนี้ย แล้วก็ลำบากกูกับไอ้เหยี่ยวต้องมานั่งเป็นเพื่อนมึงตีสองตีสามขนาดนี้” กระทิงล่ะเหลืออดกับเพื่อนคนนี้เสียจริง“ก็กูเดือดร้อนจริงๆ นี่!” เดือดร้อนจริงหรือเดือดร้อนเล่นๆ ก็ให้สังเกตจากใบหน้าอันหล่อเหลาที่เดิมทีเคยมีสง่าราศีของสิงห์ตัวพ่อคาสโนว่าระดับประเทศ แต่ทว่าตอนนี้มันถูกประดับประดาด้วยรอยจ้ำแดงๆ ที่มีเลือดสีแดงสดไหลซิบ ทั้งหัวคิ้ว กราม โหนกแก้มทั้งซ้ายขวา มุมปาก แล้วไหนจะรอยช้ำบริเวณแขนและขาหลายจุดอีกด้วย!ก็ไอ้รอยบ้าๆ พวกนี้เกิดขึ้นตอนที่เขาขับรถออกมาจากผับได้ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงหลังจากที่น้ำหนึ่งหายตัวไปนั่นแหละ...และมั่นคงจะเป็นฝีมือใครไปไม่ได้นอกเสีย...“ก็มึงเล่นไปทำกับหลานท่านเจ้าสัวซะขนาดนั้น นี่เขาไว้ชีวิตมึงก็บุญหัวแล้วไอ้สิงห์! เอาจริงมึงนี่ไม่น่าชื่อสิงห์เลยนะ ทั้งนิสัยทั้งสันดานเหี้ยชัดๆ” กระทิงกล่าวอย่างชัดถ้อยชัดคำไม่ได้แลดูเห็นอกเห็นใจเพื่อนสนิทเลยแม้แต่น้อย“ไอ้กระทิง!!”“ก็กูพูดความจริงนี่หว่า ที่ผ่านม
เรือนร่างบางระหงวิ่งลงมาจากชั้นล่างของผับด้วยสภาพใบหน้าแปดเปื้อนหยาดน้ำตาโดยได้ยินเสียงเรียกร้องของสิงห์ตามหลังมาติดๆตุ้บ!! น้ำหนึ่งชนเข้ากับใครสักคน สายตาเล็กค่อยๆ แหงนขึ้นไปมองหน้าเขาแล้วรีบกล่าวคำขอโทษ“ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ”“หนึ่ง!! หนึ่ง!!!”ผู้ชายรูปหล่อเหลา ใบหน้าคมเข้มราวกับเทพบุตรที่ถูกวาดโดยพู่กันแต่งแต้มสีสันลงบนกระดาษร้อยปอนด์ด้วยช่างฝีมือดีระดับโลก คิ้วเป็นคิ้ว ปลายจมูกสันโด่งรับกับริมฝีปากที่มีสีสันสดใสคล้ายกับได้รับการแต่งแต้มด้วยลิปสติก“!!” เขาไหวตัวทันรีบดึงตัวร่างบางมาหลบเอาไว้แนบประชิดแผงอกแกร่งกำยำ ชำเลืองมองดูว่าสิงห์ผ่านออกไปจนแลไม่เห็นแล้วจึงค่อยๆ ผละออก“คุณหนีผู้ชายคนนั้นเหรอครับ?”“คุณช่วยพาฉันออกไปจากที่นี่ทีจะได้ไหมคะ” เธอไม่อยากพบหน้าใครทั้งนั้นแม้กระทั่งคีรินหรืออันนา แต่จะให้ทำอย่างไรในเมื่อเธอวิ่งออกมาตัวเปล่าไม่ได้หยิบแม้กระทั่งกระเป๋าสะพายที่ถูกบรรจุกุญแจรถเอาไว้ติดไม้ติดมือด้วย“ครับ” เขาไม่ปฏิเสธ..@ทะเลทั้งสองแล่นรถออกมาไกลพอสมควรจนถึงชายหาดแถบพัทยาใกล้ๆ กับกรุงเทพฯ ร่างบางถอนหายใจเฮือกใหญ่ทิ้งตัวลงบนหาดทรายขาวทอดมองทะเลอันกว้างขวางในยามค่