Share

บทที่ 2

last update Last Updated: 2025-05-15 23:00:51

"หนึ่ง!" สิงห์ผละตัวออกจากคู่ขาแล้วตรงปรี่เข้าไปหาภรรยาสาว "มันไม่ใช่อย่างนั้นนะคะหนึ่ง"

"มันไม่ใช่อย่างนั้นแล้วมันเป็นอย่างไหนล่ะคะพี่สิงห์? หลักฐานก็เห็นอยู่ตําตาว่าพี่สิงห์ควงแม่นางแบบดาวยั่วคนนี้มาปรนเปรอถึงที่!" ชะเอมเหลืออดกับผู้ชายมักมากคนนี้แล้วจริงๆ

"ไม่ใช่เรื่องของเธอ" สิงห์ชำเลืองตามองชะเอมอย่างเอาเรื่อง ก่อนที่จะหันกลับไปลูบศีรษะทุยของภรรยาสาวแล้วไล่ลงมาบริเวณใบหน้าขาวเนียนจากนั้นจึงเรือนร่างบอบบางเข้ามาโอบกอดเอาไว้ "มันไม่ใช่แบบนั้นจริงๆนะคะ น้ำหนึ่งต้องเชื่อใจพี่นะ"

"ใช่ค่ะคุณน้ำหนึ่ง นิวกับคุณสิงห์เราสองคนไม่ได้มีอะไรเกินเลยจริงๆนะคะ" นิวพูดออกมาได้อย่างไรอย่างอายทำราวกับว่าเมื่อครู่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งสิ้น "คุณน้ำหนึ่งอย่าโกรธคุณสิงห์เลยนะคะ"

"สาระแน!" ชะเอมก่นด่าลอยๆแต่แววตาของหล่อนกลับต้องเขม่นไปยังใบหน้าของนางแบบสาวรุ่นน้องด้วยความไม่พอใจ

"จะให้หนึ่งเชื่อใจได้ยังไงคะ ได้ยินเต็มสองหูได้เห็นเต็มสองตาพี่กับผู้หญิงคนนี้สนิทสนมกันมากแค่ไหน" เธออ่อนแอมากเหลือเกิน ที่ผ่านมาตลอดระยะเวลาสองเดือนที่แต่งงานกันเธอพยายามปิดหูปิดตายอมอ่อนข้อให้เขาแล้วครึ่งหนึ่ง แต่ใครมันจะคิดว่าเขาจะกล้าพาผู้หญิงคนนี้มันเดินห้างให้คนอื่นเขาประณามว่าเธอเป็นอีหน้าโง่โดนผัวสวมเขา

"หนึ่ง..." สิงห์ค่อยๆผละกอดออกจากเธอ

"ฉันขอถามเธอหน่อยนะ" น้ำหนึ่งเดินเข้าไปประจันหน้ากับผู้หญิงหน้าด้านคนนั้น "เธอรู้หรือเปล่าว่าพี่สิงห์แต่งงานมีภรรยาแล้ว"

"รู้ค่ะ" นิวตอบได้อย่างไรหน้าลอยตาไม่สะทกสะท้านกับคำถามของไฮโซน้ำหนึ่งเลยสักนิด "ตอนงานแต่งของคุณน้ำหนึ่งนิวก็ไปร่วมแสดงความยินดีด้วยนะคะ"

"แต่เธอก็ยังมายุ่งกับสามีของคนอื่นทั้งๆที่รู้ว่าเขามีภรรยาอยู่แล้ว เขาให้เงินเธอดีเหรอ? เธอถึงไม่กล้าทำเรื่องผิดศีลธรรมแบบนี้ได้ลง" น้ำหนึ่งเลิกคิ้วถามผู้หญิงคนนี้ด้วยความสงสัย

"ใช่ค่ะ" นิวพยักหน้า ในเมื่อภรรยาเขาจับได้สิงห์ก็คงจะเฉดหัวหล่อนทิ้งอย่างไม่แยแสและให้เงินตั้งตัวสักก้อนเพื่อเป็นผลรางวัลตอบแทน อย่างน้อยๆตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมาหล่อนก็กอบโกยจากผู้ชายคนนี้มามากพอสมควรที่สำคัญไปมากกว่านั้นนั่นก็คือตอนนี้หล่อนมีเป้าหมายใหม่ที่เงินหนักและน่าสนใจไม่แพ้ไปกับสิงห์ "คุณสิงห์ให้เงินนิวดีมาก สายเปย์ อยากได้อะไรก็ทุ่มไม่อั้น ทั้งคอนโด ทั้งเสื้อผ้าทั้งกระเป๋า แถมลีลาบนเตียงนี่ถึงใจ"

"นิว!!!" สิงห์พุ่งตัวเข้าไปกระชากแขนคู่ขาอย่างแรงร่างกายบอบบางของหล่อนเซด้านหลังเล็กน้อย "หุบปาก!"

"ไม่ต้อง! พูดออกมา"

"ได้เลยค่ะคุณน้ำหนึ่ง นิวอยากจะขอเตือนคุณน้ำหนึ่งด้วยความหวังดีนะคะว่าเด็กๆในสต๊อกที่คุณสิงห์เลี้ยงเอาไว้ไม่ได้มีแค่นิวคนเดียว ยังมีเด็กๆเอ๊าะๆอีกเพียบเลยค่ะ อ้อ! และที่สำคัญนะคะ" นิวเดินเข้าไปประจันหน้ากับไฮโซน้ำหนึ่งจนอยู่ในระยะกระชั้นชิดห่างกันเพียงไม่ถึงปลายนิ้ว "เวลาที่คุณสิงห์เอานิวเนี้ย คุณสิงห์ก็มักจะพูดกับนิวว่าคุณน้ำหนึ่งจืดชืดนอนนิ่งเหมือนไม้กระดานหรือขอนไม้แก่ๆ น่าเบื่อ น่ารำคาญ ไม่เห็นจะน่าเร้าใจเลยสักนิด"

"..." น้ำหนึ่งกลืนน้ำลายลงคอแล้วทอดมองใบหน้าของหญิงชั่วชายโฉดด้วยแววตาเย็นชาแฝงไปซึ่งความเจ็บปวดชอกช้ำระกำใจ ก่อนที่จะเดินหันหลังออกมาโดยไม่กล่าววาจาใดเลยสักคำเดียว

"หนึ่ง!! หนึ่งคะ!!"

...

...

...

"ถุ้ย!!! ทุเรศฉิบหาย" ไฮโซสาวสวยอย่างน้ำหนึ่งเหยียดขาเรียวบางขึ้นมาไขว้ห้างโชว์ความขาวเนียนผ่านเดรสรัดรูปสั้นขึ้นไปจนเกือบจะเห็นจีสตริงพร้อมทั้งปวดแผ่นหลังเรียบเนียนที่เว้าลึก ก่อนจะยกแก้วที่มีน้ำสีอำพันขึ้นมากระดกดื่มไอ้แก่ชีวิตอันบัดซบของตัวเอง

หวนนึกถึงเรื่องเมื่อเดือนก่อนทีไรเธอก็เจ็บจี๊ดที่ขั้วหัวใจทั้งเกลียด ทั้งโกรธ ทั้งแค้นที่ไอ้ผัวตัวดีมันควงอีผู้หญิงแพศยาคนนั้นออกนอกหน้าโดยไม่ให้เกียรติเธอเลยสักนิด

"แล้วทำไมมึงไม่หย่ากับพี่สิงห์ให้สิ้นเรื่องไปวะ" อันนา เพื่อนสนิทอีกคนหนึ่งที่คบหากันมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมเอ่ยถามด้วยความสงสัย นางคือหนึ่งในมือนักแปลงโฉมที่เนรมิตเซเลบสาวน้ำหนึ่งคนใหม่จนลืมชื่อไปทั้งวงการไฮโซ!

จากสาวเฉิ่มไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจาไม่ค่อยพบสังคม ซ้ำยังจืดชืดแต่งตัวเชยใส่กระโปรงยาวถึงตาตุ่ม เอาอกเอาใจหรือดัดจริตแทบไม่เป็น กลับกลายเป็นเซเลบสาวที่ถูกพูดถึงและหมายตากันอยู่เป็นจำนวนมาก

แค่เปลี่ยนวิธีการแต่งตัว การแต่งหน้า การใช้ชีวิตและคำพูดคำจาให้ดัดจริตใส่มารยาผู้หญิงเข้าไปเล็กๆน้อยๆแค่นี้ก็เลิศ! เพราะพื้นฐานเดิมนำหนึ่งเป็นคนสวยอยู่แล้วเพียงแค่ไม่รู้จักรักตัวก็เท่านั้นเอง

"ใครมันจะหย่าให้โง่! หย่าให้อีพวกเด็กๆ พวกคู่นอนที่อยู่ในสต็อกผัวกูมาหัวเราะเยาะงั้นเหรอ สู้ให้พี่สิงห์มีพันธะแล้วตามราวีไม่ให้มีความสุขอยู่บนความทุกข์ของคนอื่นน่าจะดีกว่านะ ผู้ชายสันดานเลวๆแบบนี้ต้องโดนกำราบให้สิ้นซาก!" ทั้งความคิดทางการกระทำของน้ำหนึ่งเปลี่ยนไปเป็นคนละคนจริงๆ จะไม่ยอมโดนกดหัวอยู่ฝ่ายเดียว ชีวิตคนเราต้องลุกขึ้นสู้ สู้เพื่อเกียรติยศและกอบกู้ศักดิ์ศรีของตัวเองกลับมา!

เธอจะทำให้ผู้ชายคนนั้นเสียดายที่ให้ค่าให้ความสำคัญกับนางตัวเล็กตัวน้อยที่เป็นเห็บเป็นหมัดมากกว่า

"ระวังจะตกหลุมพรางตัวเองก็แล้วกัน! กูละไม่ไว้ใจผู้ชายอย่างพี่สิงห์จริงๆ เจ้าคารมคมคายหว่านล้อมจนผู้หญิงติดกับมานัดต่อนัดแล้ว" ชะเอมแสดงความคิดเห็น

"เหอะ!"

"ทำแบบนั้นมันจะดีเหรอ? เราว่าพูดคุยแล้วค่อยๆปรับความเข้าใจกันดีกว่านะ" ไลลาแม่พระที่สุดในกลุ่มเอ่ยพูดขึ้นก่อความเอือมระอาหมดอารมณ์ในการเที่ยวสังสรรค์ค่ำคืนนี้ของเหล่าผีเสื้อราตรีทั้งสามเป็นอย่างมาก

ขนาดมาเที่ยวผับเที่ยวบาร์หล่อนยังแต่งตัวใส่เสื้อยืดโอเวอร์ไซส์กับกางเกงขายาวแล้วมัดผมกลางหัว พร้อมทั้งแต่งหน้าบางๆชนิดที่ว่ากลัวสิ้นเปลืองเงินซื้อเครื่องสำอาง

"พอๆๆ"

"แล้วนี่ผัวมึงจะกลับจากดูงานที่ต่างประเทศเมื่อไหร่? ธุรกิจอาหารหมาก็ขายดีเหมือนกันนะ" อันนาถาม

ตั้งแต่ที่เจ้าสัวสุรเดชซึ่งเป็นคุณปู่ของไฮโซน้ำหนึ่งรู้เรื่องเมื่อเดือนก่อนเข้า ท่านก็จัดการยัดเยียดและส่งสิงห์ไปศึกษาดูงานที่ศูนย์การผลิตรายใหญ่แถบยุโรปเพื่อนำมาปรับปรุงสินค้าล็อตใหม่ล่าสุดที่กำลังจะออกเร็วๆนี้เป็นระยะเวลาหนึ่งก็ให้เขาห่างหายจากเด็กๆในสต๊อกและจัดการตัดไฟตั้งแต่ต้นลม! โดยท่านเองก็ไม่ได้ชะล่าใจส่งเลขารวมทั้งคนสนิทไปควบคุมความประพฤติไม่ให้ออกนอกลู่นอกทางแล้วคว้าแหม่มมารังควานใจหลานสาวอีก

"ได้ข่าวว่าไฟท์บินวันนี้ น่าจะกลับมาแล้วแหละ" น้ำหนึ่งไหวไหล่ตอบ

"แล้วนี่มึงไม่รอรับผัวมึงเหรอ" ชะเอมถาม

"จำเป็นไปเหรอ เขาก็มีมือ มีตีน มีโทรศัพท์หาทางกลับบ้านเองได้นั่นแหละ" ส่วนของเธอนั้นได้เปิดโหมดการบินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

"เลิศ! เริ่ดมากค่ะลูกสาว" ว่าแล้วทั้งสามคนก็ออกไปเต้นวางลวดลายด้านหน้าเวทีจนได้รับเสียงโห่เสียงแซวมากมาย

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สามีเฮงซวย   บทที่ 46

    “ไม่ใช่สักหน่อยครับ” นนทกานต์ค้อนเล็กน้อย “ดอกไม้พวกนี้ผมเป็นคนเลือก และคัดสรรเองกับมือเลยนะครับ แล้วน้ำหนึ่งรู้ความหมายของพวกมันหรือเปล่าครับ”“ไม่ทราบค่ะ” แต่ใจลึก ๆ แล้วก็รู้นั่นแหละแค่ไม่อยากหักหน้าเขาเฉย ๆ ไหน ๆ เขาก็อุตส่าห์เตรียมตัวมาซะดิบดีก็ยินยอมปล่อยให้พูดไปเพื่อดูความพยายามเสียหน่อย“ตรงนี้คือดอกทานตะวัน ดอกไม้สีเหลืองสดอร่ามที่เมื่อบาน และหันเข้าหาแสงจากดวงอาทิตย์ มันเป็นดอกไม้ที่สื่อถึงความเชื่อมั่น เชื่อมั่นในรักเดียวใจเดียว ความรักที่มั่นคงเสมอ...” เขาก็ใช้นิ้วชี้ดอกต่อไป “ส่วนนี่คือดอกลิลลี่สีชมพู มันเข้าทำนองแสดงถึงการค้นหาความรักแล้วพบว่านี่แหละคือที่สุดของหัวใจที่ผมตามหามาโดยตลอด”“แล้วดอกเล็ก ๆ นี่ล่ะคะ...ถ้าไม่สังเกตฉันมองไม่เห็นเลยนะเนี่ยว่ามีด้วย”“ผมดีใจนะครับที่น้ำหนึ่งสังเกตเห็น เพราะนี่...คือดอกคัตเตอร์ ดอกไม้สำหรับคนที่แอบรัก มักจะถูกเป็นดอกไม้ประดับแซมเพื่อความสวยงามมากกว่า มันก็มีความหมายคล้าย ๆ กับว่า ถึงแม้น้ำหนึ่งจะมองไม่เห็นผมก็ไม่เป็นไร เพราะยังไงเสียผมก็ยังอยู่ตรงนี้ และยังมีแค่น้ำหนึ่งเสมอ” ทุกคำที่เขาเอ่ยออกมารู้ได้เลยว่าถูกกลั่นจากหัวใจ...เขาใช้

  • สามีเฮงซวย   บทที่ 45

    @ภัตตาคารสุดหรู...ใจกลางเมืองขึ้นชื่อว่าเป็นร้านอาหารมือทอง วัตถุดิบทุกชนิดส่งตรงมาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์โดยเชฟผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านประสบการณ์ด้านการทำงานมานานหลายสิบปีจนได้รับโล่รางวัลเกียรติยศมากมายแน่นอนว่ากว่าจะมาที่นี่ได้ย่อมต้องผ่านการจองคิวล่วงหน้าเป็นระยะเวลาเกือบสองเดือนเลยทีเดียว แต่โชคดีที่เจ้าของร้านเป็นเพื่อนสนิทของนนทกานต์จึงใช้เส้นใช้สายลัดเลาะล็อกห้องวิวสวยที่สุดเอาไว้ได้ร่างบางระหงในชุดเดรสสีชมพูกระโปรงระบายยาวคลุมเข่าปักเป็นลายดอกไม้สลักสลวยอย่างประณีตจากดีไซเนอร์ระดับมืออาชีพ...ส่วนด้านบนนั้นคือสายเดี่ยวบ่าใหญ่เว้าหลังกว้านลงมาเล็กน้อยแลดูสวยหมดจด พร้อมทั้งปล่อยผมยาวสลวยถึงกลางหลัง แต่งหน้าอ่อน ๆ ริมฝีปากกระจับสีชมพูพีชนับได้ว่าองค์ประกอบครบถ้วนสามารถเรียกแรงดึงดูด และความสนใจจากเพศตรงข้ามเป็นอย่างดีส่วนร่างของชายฉกรรจ์กำยำสูงโปร่ง...วันนี้เขาเองก็สวมเครื่องแต่งกายครบเครื่อง มาในชุดสูทสุภาพสีเทา นับได้ว่าตอนปกติดูหล่อเหลาแล้ว...ตอนนี้คล้ายกับมีอะไรสักอย่างดลจิตดลใจทำให้เพิ่มลิมิตสูงขึ้นเป็นหลายเท่าทั้งสองคนนั่งมองหน้ากันท่ามกลางแสงเทียนสว่างไสว รอบ ๆ นั้นมีอาหารเม

  • สามีเฮงซวย   บทที่ 44

    เมื่อเป็นเช่นนี้ชายหนุ่มถึงกับปล่อยโฮร่ำไห้ออกมาน้ำมูกน้ำตาเปียกปอนชโลมอาบสองพวงแก้ม คล้ายกับว่าเสือ สิงห์ กระทิงป่ากำลังคำรามแผดเผาไฟอันร้อนรุ่มที่อยู่ภายในกายให้ค่อย ๆ ทุเลาลง“แม่ครับ ฮึก ฮื่อ”ตอนนี้ทำให้เขาได้รู้ว่า...ความจริงแล้วแม่เองก็รักเขาเหมือนกัน เพียงแค่ท่านไม่เคยแสดงออกมาให้ตนได้รับรู้ แต่เขาก็ดันตีโพยตีพายว่าเป็นลูกนอกคอกที่คนในครอบครัวไม่เคยสนใจไยดี“ร้องออกมาให้พอ” ยามเห็นลูกร้องไห้หัวใจคนเป็นแม่เจ็บเพิ่มทวีคูณขึ้นเป็นสิบเท่า “ฉันเข้าใจแกนะว่าแกเองก็เจ็บปวดที่เห็นของรักของแกกำลังจะไปอยู่ในอ้อมกอดของคนอื่น แต่แกก็ต้องเข้าใจหนูน้ำหนึ่งด้วย แกทำผิดต่อเธอมาเยอะ เธอให้โอกาสแกซ้ำแล้วซ้ำเล่า แกสัญญาว่าจะไม่ทำอีกทว่าแกก็ทำเหมือนเดิม...”“ผมผิดไปแล้วครับแม่...ผมขอน้ำหนึ่งคืนได้ไหมครับแม่ แม่ช่วยไปพูดกับน้ำหนึ่งให้น้ำหนึ่งยอมใจอ่อนให้โอกาสผมอีกสักครั้งได้ไหมครับแม่” น้ำเสียงเจือสะอึกสะอื้นขาดหายเข้าไปในลำคอเป็นช่วง ๆ อย่างติด ๆ ขัด ๆ เพราะการหายใจถี่ ๆ ที่ไม่ค่อยเป็นจังหวะสักเท่าไรนักเป็นผลพวงมาจากการบีบเค้นน้ำตาที่ค่อนข้างหนักหน่วงพอสมควร“โอกาสมันแทบไม่มีเหลืออยู่แล้ว...ทั้ง

  • สามีเฮงซวย   บทที่ 43

    “ผมทราบเรื่องนั้นดีครับท่านเจ้าสัว ซึ่งผม คุณพ่อ คุณแม่ และทางครอบครัวของเราไม่ได้ติดใจอะไรในตัวของน้ำหนึ่ง เพราะคิดว่าในชีวิตนี้ทุกคนล้วนจะต้องพบเจอกับความผิดพลาดด้วยกันทั้งสิ้นครับ” นนทกานต์ตอบไปตามความจริง“แน่ใจแล้วเหรอว่ารักหลานสาวฉันจริง ๆ ไม่ใช่เพียงแค่อารมณ์ชั่ววูบ หลงเป็นชั่วครั้งชั่วคราว แต่พอได้ดั่งใจหวังก็ออกลายเปลี่ยนเป็นคนละคน ไม่สนใจแยแสทำเหมือนหลานสาวฉันไม่มีตัวตนเช่นความรักครั้งที่ผ่านมา” ท่านเจ้าสัวสุรเดชคงทนไม่ได้หากหลานสาวที่ตัวเองเฝ้าฟูมฟักทะนุถนอมเลี้ยงดูมาตั้งแต่อ้อนแต่ออกต้องผิดหวังจากความรักเป็นครั้งที่สอง“ผมขอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ก็แล้วกันครับว่าผมจริงใจกับน้ำหนึ่งจริง ๆ” นนทกานต์ไม่ขอให้คำสัญญาเพราะรู้ดีว่ามันเป็นแค่เพียงลมปากที่ใคร ๆ ก็สามารถพูดได้ แต่สามารถทำตามสัจจะที่กล่าวไว้ได้หรือเปล่านั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง“อย่าทำให้ฉันผิดหวังก็แล้วกัน”“ครับท่านเจ้าสัว”“ฝากดูแลน้องด้วยนะพ่อนนท์ แล้วหลังจากนี้ก็เรียกฉันว่าคุณปู่เหมือนที่น้ำหนึ่งเรียกนั่นแหละ” ท่านเจ้าสัวสุรเดชเองก็ไม่ได้ปิดกั้นแต่ก็ใช่ว่าจะเปิดโอกาสให้มีช่องโหว่งมากจนเกินไป“ขอบคุณครับคุณปู่” นนทก

  • สามีเฮงซวย   บทที่ 42

    “พี่สิงห์ปลอดภัยแล้ว ถ้างั้นหนึ่งก็ขอตัวก่อนนะคะคุณพ่อคุณแม่ไว้พรุ่งนี้หนึ่งจะเข้ามาเยี่ยมใหม่” เธอไม่จำเป็นต้องทำตัวให้เป็นทาสรับใช้คอยอยู่ดูแลสิงห์ในยามเจ็บไข้ไม่สบายหรือพักฟื้นที่โรงพยาบาล เพราะนั่นมันมีไว้สำหรับภรรยา และคนในครอบครัวเท่านั้น“จะกลับแล้วเหรอ? แม่ว่าสิงห์น่าจะอยากให้หนูน้ำหนึ่งอยู่เป็นเพื่อนมากกว่านะจ๊ะ” หากลูกชายของตนตื่นขึ้นมาแล้วเจอหน้าผู้หญิงคนนี้เป็นคนแรกก็คงจะมีกำลังใจในการต่อสู้กับบาดแผล และรอยช้ำบริเวณร่างกายของตนไม่ใช่น้อย“อย่าดีกว่าค่ะ เดี๋ยวมันจะดูไม่ดี เพราะสถานะระหว่างหนึ่งกับพี่สิงห์ตอนนี้เป็นแค่สามี และภรรยาที่เพิ่งจะหย่าขาดกันไป ประเดี๋ยวหากพี่ ๆ นักข่าวหรือใครมาเห็นเข้าแล้วเอาไปโพสต์รูปลงโซเชียลคนอื่นจะเข้าใจผิดได้ว่าเราสองคนอาจมีแววกลับมารีเทิร์นกัน” น้ำหนึ่งตอบปฏิเสธด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลแต่ทว่าแฝงไปซึ่งความตั้งใจอันแน่วแน่“จ้ะ”และในจังหวะนั้นนนทกานต์ก็เดินกลับเข้ามาพร้อมกับชานมไข่มุกสองแก้ว“หนึ่งขอตัวนะคะคุณพ่อ คุณแม่ พี่เสือ พี่พรรุ้ง” น้ำหนึ่งยกมือขึ้นไหว้ตามกิริยามารยาทที่สมควรทำ ก่อนจะพยักพเยิดหน้ากับนนทกานต์เพื่อส่งซิกว่าเราสองคนควรกลับกันได

  • สามีเฮงซวย   บทที่ 41

    “เพราะเธองั้นเหรอที่ทำให้ลูกชายของฉันต้องเป็นแบบนี้?” คุณหญิงกนกนุชกดเสียงต่ำพร้อมกับใช้ปลายนิ้วชี้นิ้วเข้าหาเรือนร่างบอบบางของน้ำหนึ่ง “มันไม่ใช่ความผิดของเธอหรอกน้ำหนึ่ง เธอไม่จำเป็นต้องโทษตัวเองหรือรู้สึกแย่เลย ลูกชายของฉันมันทำตัวเองทั้งนั้น”ผิดคาด! เธอนึกว่าจะโดนด่า โดนว่าอย่างเช่นทุก ๆ ครั้งที่ผ่านมา แต่เปล่าเลย คุณหญิงกนกนุชดันกลับลำเข้าข้างเธอเสียดื้อ ๆ“ค่ะคุณแม่”“แม่ต้องขอโทษเธอสำหรับทุก ๆ อย่างที่เคยทำไม่ดีด้วย เคยพูดจาแย่ ๆ ใส่ อบรมสั่งสอนลูกชายแบบผิด ๆ จนเรื่องเรามันเลยเถิดบานปลายยากจะแก้ไข แต่...มันไม่มีโอกาสที่น้ำหนึ่งจะกลับมาคืนดีกับสิงห์จริง ๆ เหรอ แม่เคยไปนอนเรือนหอของเราสองคนมาสักระยะหนึ่ง ทุก ๆ วันเกือบเที่ยงคืนเจ้าสิงห์ก็จะเมาหัวราน้ำเดินโซซัดโซเซกลับเข้ามา กลิ่นเหล้านี่หึ่งคลุ้งทั่วบ้าน แล้วก็พร่ำเพ้อร่ำร้องเรียกหา เอาแต่พูดคำว่าขอโทษซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่กับรูปถ่ายพรีเวดดิ้งในงานแต่งงาน” คุณหญิงกนกนุชจำต้องลดศักดิ์ศรี และความเย่อหยิ่งยโสของตนเองลงเพราะรู้แล้วว่าลูกชายรักผู้หญิงคนนี้มากเพียงใด หากขาดเธอไปเขาคงขาดใจตายดวงตาสุกใสที่ฉายแววสับสนเล็กน้อยหลุบลงมองต่ำประ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status