Share

บทที่ 34

last update Last Updated: 2025-05-20 04:21:37

“ฮือ” เธอเข้าไปกอดท่านเจ้าสัวสุรเดชซ้ำเป็นครั้งที่สอง “เจ็บ...เจ็บเหลือเกินค่ะคุณปู่ หนึ่งทั้งรัก ทั้งดูแลและจงรักภักดีต่อพี่สิงห์มาโดยตลอด มอบให้เขาเป็นโลกทั้งใบแต่เขากลับทำกับหนึ่งแบบนี้...ต่อให้เขามีพวกผู้หญิงคนอื่นอีกสักร้อยสักพันคนหนึ่งก็ไม่รู้สึกจุกอกเท่าที่เห็นเขากำลัง...อยู่กับเพื่อนหนึ่ง เขาทำแบบนี้กับหนึ่งได้ยังไงอ่ะ”

มันเป็นความรู้สึกสูญเสียทั้งเพื่อนสนิทและคนรักในเวลาเดียวกัน...ทั้งสองคนคือคนที่เธอรัก คือคนที่เธอไว้ใจแต่กลับมาหักหลังทรยศแล้วเล่นกันเองเสียอย่างนั้น...

“เพราะไอ้สาระเลวนั่นมันหน้าตัวเมียไง หนึ่งโชคดีแล้วหลานที่ออกมาได้ ต่อจากนี้ชีวิตของหลานจะมีแต่ความสุข ความสงบสุขและเจริญก้าวหน้าไปเรื่อยๆ หลานจะเจอคนที่เขารักหลานได้มากกว่านี้ หลานจะเจอคนที่เขาพร้อมพอในการดูแลหลาน ในการรักหลานและไม่ทำให้หลานเสียใจเหมือนผู้ชายคนนี้อีก หลานสาวของปู่ทั้งสวย ทั้งเก่งขนาดนี้ ผู้ชายดีๆ เพอร์เฟคยังมีอีกเยอะที่รอต่อแถวกดบัตรคิวกันเป็นขบวน” สิ่งที่ท่านเจ้าสัวสุรเดชกล่าวออกมานั้นล้วนเป็นความจริง...ตั้งแต่ที่ไฮโซน้ำหนึ่งเปลี่ยนโฉมปรับลุคการแต่งตัวก็มีชายหลายคนทั้งไฮโซ ทั้งเซเลบ ทั้งดาราในวงการบันเทิงหมายตาเธออยู่...แต่เพียง เพราะว่าสถานะของเธอในตอนนั้นคือมีสามีจดทะเบียนสมรสเรียบร้อยแล้ว

“ผู้หญิงมีตำหนิอย่างหนึ่งไม่มีผู้ชายดีๆ ที่ไหนอยากจะมาคบหาสมาคมด้วยให้เสื่อมเสียชื่อเสียงวงศ์ตระกูลหรอกค่ะคุณปู่” เธอเป็นของมือสอง...เป็นของที่ผ่านการใช้งานแล้ว เธอไม่ได้บริสุทธิ์ผุดผ่องขาวสะอาดไร้เดียงสาเหมือนสาววัยเอ๊าะๆ

“ความเป็นคนเขาไม่ได้วัดกันที่ตรงนั้นหรอกนะหนึ่ง ถ้าผู้ชายคนนั้นรักเราจริงเขาจะยอมรับแล้วมองข้ามผ่านข้อนี้ไปได้อย่างแน่นอน สมัยนี้เขาไม่ใช่มานั่งซีเรียสว่าเธอต้องเป็นสาวบริสุทธิ์ เธอต้องไม่เคยผ่านการมีสามีมาก่อนหรอกนะ เพราะถ้าเราเลือกได้เราก็อยากให้ผู้ชายคนนั้นเป็นคนสุดท้ายของชีวิตใช่ไหมล่ะ แต่ในเมื่อนี่มันเลวเอง มันสำส่อนเองแล้วจะให้เราทำยังไง…นอกจากเดินออกมา” ท่านเจ้าสัวสุรเดชพูดตามความรู้สึกไม่อยากให้หลานสาวของตนด้อยค่าตัวเองเพียงเหตุผลนี้ ถ้าเป็นตอนสมัยเขาก็คงจะว่าไปอย่างแต่นี่ยุคสมัยและอะไรต่างๆ แปรเปลี่ยนให้ทันสากลมากขึ้นแล้ว

“ค่ะคุณปู่ หนึ่งรักคุณปู่นะคะ” ท่านเจ้าสัวสุรเดชเปรียบเสมือนทั้งพ่อทั้งแม่และเป็นคนในครอบครัวคนเดียวของน้ำหนึ่งที่คอยปลอบประโลมอ้าแขนรับในยามอ่อนล้า

“ปู่ก็รักหลานมากนะ ทุกอย่างที่เป็นความสุขของหลานปู่ทำได้เสมอ”

“ค่ะ”

“ว่าแต่ใครมาส่งหลานเหรอ?”

“คุณนนทกานต์น่ะค่ะ หนึ่งบังเอิญไปเดินชนเขาตอนที่กำลังวิ่งหนีพี่สิงห์ในผับ หนึ่งก็เลยขอให้เขาขับรถพาออกมาแล้วก็ขับมาเรื่อยๆ จนไปถึงทะเลแถวพัทยา ตอนนั้นมันดึกมากแล้ว หนึ่งก็เลยขอให้เขาพักที่รีสอร์ทแถวนั้นก่อนแต่พักคนละห้องนะคะ” น้ำหนึ่งตอบตามความจริงโดยไม่ปิดบังท่านเจ้าสัวสุรเดชเพราะรู้ดีว่าคุณปู่รักและเป็นห่วงเธอมากแค่ไหน ยิ่งเธอมีคดีโดนผู้ชายหน้าไหว้หลังหลอก หักหลังหลอกให้รักแล้วก็ชิ่งไปคบชู้สู่สมกับเพื่อนสนิท...การที่จะมีเพื่อนผู้ชายแปลกหน้าเพิ่มขึ้นมาอีกคนหนึ่งย่อมเป็นเรื่องให้ซักถามเนื่องจากต้องสแกนดูว่าเขาเป็นคนดี เป็นคนที่น่าไว้ใจได้จริงๆ หรือเปล่า

“นนทกานต์ไหน?”

“คุณนนท์ นนทกานต์ ลูกชายคนเดียวของคุณเกริกพลและคุณหญิงอำไพพรรณี รู้สึกว่าเขาจะเป็นรองประธานคณะกรรมการบริหารบริษัทเจเควายกรุ๊ป บริษัทส่งออกยานยนต์น่ะค่ะ” น้ำหนึ่งก็พอจะรู้คร่าวๆ เพียงแค่นี้ส่วนเรื่องรายละเอียดยิบย่อยอื่นๆ ก็ทราบดีว่าคุณปู่ของเธอน่าจะไปสืบเสาะหาข้อมูลตั้งแต่บรรพบุรุษยันสถานะได้อย่างแน่นอน

“นนทกานต์ นักธุรกิจหน้าใหม่ไฟแรง ที่เรียนจบปริญญาโทจากต่างประเทศ ปู่สนิทสนมและรู้จักกับคุณเกริกพลพ่อของเขาเป็นอย่างดีเลยล่ะ เวลาที่เจอกันก็มักจะบ่นให้ฟังว่าลูกชายคนเดียวของตัวเองเนี่ยไม่ยอมเป็นฝั่งเป็นฝาหรือพาผู้หญิงคนไหนมาให้รู้จักเลยสักคน จนพวกเขาแทบจะหมดหวังไปแล้วว่าชาตินี้น่าจะไม่ได้อุ้มหลานแน่นอน” แต่กลับผิดคาดท่านเจ้าสัวสุรเดชดันสนิทสนมกับครอบครัวของคุณนนทกานต์เสียอย่างนั้น แต่ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่นักเพราะคุณปู่ของเธอเป็นคนกว้างขวาง เป็นคนใหญ่คนโต เป็นคนมีอำนาจย่อมมีคนเข้าหาเป็นธรรมดา

“เขาก็เป็นคนนิสัยดีคนหนึ่งเลยนะคะคุณปู่”

“ปู่ก็ว่าอย่างนั้นแหละ”

“งั้นหนึ่งขอตัวไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะคะเดี๋ยวตอนเก้าโมง หนึ่งมีนัดเซ็นใบหย่าที่เขต” เธอเตรียมใจตั้งรับเอาไว้แล้วว่าสิ่งที่เธอต้องประสบพบเจอในวันนี้ไม่ใช่เพียงแค่ลงลายมือชื่อขีดเขียนฉะหวัดฉะเหวียนจากปลายปากกาเพียงอย่างเดียว แต่มันคงควบคู่มากับการที่เธอต้องตอบคำถามนักข่าวเป็นร้อยเป็นพันข้อถึงสาเหตุที่ต้องเลิกรากัน...

และคงมีคนอีกเป็นร้อยเป็นพันที่รอเหยียบย่ำซ้ำเติมโดยเฉพาะอดีตผู้หญิงของสิงห์... “หญิงสาวหน้าโง่หลานคนเดียวของท่านเจ้าสัวสุรเดชโดนสามีสวมเขาอย่างไม่แยแส” เจ็บชะมัดเลย

“ให้ปู่ไปเป็นเพื่อนไหม”

“ไม่เป็นไรค่ะ หนึ่งไปเองได้” น้ำหนึ่งยิ้มรับ

“ถ้าเกิดมีอะไรรีบโทรมาบอกปู่เลยนะ ปู่จะจัดการให้”

“ขอบคุณค่ะคุณปู่” ว่าจบน้ำหนึ่งก็ประคองร่างขึ้นไปด้านบนห้องนอน แล้วผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ยังคงหลงเหลืออยู่นอกจากการเก็บแล้วย้ายไปไว้ในเรือนหอของตนเองและสิงห์ให้เรียบร้อย...

.

.

@เขต

นี่เป็นเวลาอันสมควรแล้ว...ที่น้ำหนึ่ง อันนา และไลลามานั่งรอบนเก้าอี้บริเวณหน้าเขตเพื่อเป็นพยานในการเซ็นใบหย่าปลดปล่อยเพื่อนสนิทให้เป็นอิสระในครั้งนี้...

“ไอ้หน้าตัวเมียมาแล้ว”

“หนึ่งไม่คิดจะเปลี่ยนใจเหรอคะ?” นี่คือประโยคแรกที่เขาถาม ช่างเป็นคำที่เห็นแก่ตัวเสียจริง ทำกับเธอขนาดนี้และยังมีหน้ามาบอกให้เธอเปลี่ยนใจอีก

“ไม่ค่ะ เชิญคุณสิงห์ด้านในด้วยค่ะ ตอนนี้ดิฉันให้ทนายเตรียมเอกสารทุกอย่างพร้อมแล้วเหลือแค่เราสองคนไปเซ็นลายมือชื่อ” แน่นอนว่าสรรพนามแทนการเรียกชื่อและถ้อยทีห่างเหินของน้ำหนึ่งทำเอาหัวใจของสิงห์กระตุกวูบโอนเอนหวั่นไหวอย่างบอกไม่ถูก

“…”

“ไปกันเถอะหนึ่ง อย่าเสียเวลาเลยเดี๋ยวต้องเข้าไปเก็บเสื้อผ้าอีก” ไลลาเองเมื่อรู้เรื่องราวทั้งหมดก็เจ็บแค้นแทนเพื่อนสนิท ทั้งโกรธทั้งเกลียดชะเอมและชังน้ำหน้าสิงห์ยิ่งกว่าอะไรดี!

“อืม เชิญพี่กระทิงและพี่เหยี่ยวช่วยเข้าไปเป็นพยานด้วยนะคะ” น้ำหนึ่งบอกกับทั้งสองคนที่เพิ่งจะเดินตามหลังมา จากนั้นจึงสาวเท้านวยนาดเข้าไปในตัวเรือนขององค์กรเพื่อจัดการสะสางเรื่องในวันนี้ให้จบสิ้นโดยเร็วที่สุด

ทั้งสองคนมานั่งลงต่อหน้าพนักงานของเขตซึ่งจัดการเรื่องทำการหย่าให้ในวันนี้...กระดาษที่รอลงลายมือชื่อถูกวางลงตรงกลาง...

น้ำหนึ่งจับปากกาแล้วชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง มันไม่ยากเลยที่จะสลัดผู้ชายที่เธอรักมากออกไปจากชีวิต วันนั้นวันที่ได้จดทะเบียนสมรสเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายซึ่งเต็มเปี่ยมอบอวลไปด้วยไออุ่นแห่งรัก รอยยิ้มแห่งความดีใจเพิ่งจะผ่านพ้นไปหยกหยก...ช่วงเวลาความสุขนี่แสนสั้นเสียจริง

แต่แปลกมันเป็นเพียงเวลาสั้นๆ ที่ได้ใช้ชีวิตคู่ ทว่าอาจจะต้องใช้ระยะเวลายาวนานหลายปีในการลืมและรักษาแผลใจที่ถูกกรีดด้วยมีดจนเหวอะหวะ

“หนึ่งเปลี่ยนใจได้นะคะ พี่สัญญาว่าพี่จะเป็นคนใหม่ พี่จะไม่ทำให้หนึ่งเสียใจอีกแล้ว...” คงต้องขอบคุณคำพูดของเขาที่ทำให้น้ำหนึ่งคิดได้ว่าผู้ชายพรรค์นี้ไม่ควรเก็บเอามาใส่ใจและให้คุณค่ากับมัน เธอแทบจำไม่ได้เลยด้วยซ้ำว่าเธอให้อภัยเขาเป็นครั้งที่เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่แล้ว…คราวแรกก็สัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะแบบนี้แหละแต่พอได้รับโอกาสนั้นมาก็ออกลายกลับไปใช้นิสัยเดิม...ไม่เคยเปลี่ยนได้จริงๆ

“...” น้ำหนึ่งถอนหายใจเฮือกเล็กๆ หันไปยิ้มแย้มให้กับเขาด้วยใบหน้าเป็นมิตรแต่ทว่ากลับเชือดเฉือนด้วยการเซ็นลายมือชื่อลงบนเอกสารทางการแผ่นนั้น

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สามีเฮงซวย   บทที่ 40

    ชายหนุ่มเก็บร่างกายอันบอบช้ำและอ่อนแอเต็มทีประคองตัวขึ้นมาบนรถสปอร์ตคันหรูของตนเองในใบหน้าที่แปดเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตาซบลงบนพวงมาลัยอย่างหมดเรี่ยวแรง...ที่ผ่านมาเขามันโง่งมเอง...เขาทำร้ายผู้หญิงที่รักเขามากที่สุดในชีวิตมาโดยตลอด เธอคิดว่าเธอคือของตาย จะอย่างไรเสียหันกลับไปเมื่อไหร่ก็คงจะเจอ...แต่เปล่าเลยทุกคำพูดและทุกการให้อภัยที่เกิดขึ้นเปอร์เซ็นต์ความศรัทธาและเปอร์เซ็นต์ที่อยากจะอยู่ต่อมันค่อยๆ เลือนหายและลดหลั่นลงไปตามลำดับจนไม่หลงเหลืออยู่เลย...เพิ่งมารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ต้องสูญเสียแล้วไม่สามารถเรียกร้องกลับคืนมาได้อีกยิ่งได้รับรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังศึกษาดูใจกับผู้ชายคนใหม่…มันทำให้ความหวังที่เธอจะให้โอกาสเขาอีกครั้งหนึ่งเริ่มร่อยหรอและค่อยๆ ลดน้อยลงไปทุกทีทุกที“ฮึก!! หนึ่ง พะ...พี่ขอโทษ ขอโทษจริงๆ” สิงห์พูดอย่างติดๆ ขัดๆ พลางเสียงสะอื้นแทรกเข้ามาเป็นระยะๆ ท่าทีแสดงอาการเย็นชาและคำพูดเปิดตัวคนรู้ใจใหม่จากภรรยาสาวแปรเปลี่ยนเป็นอาวุธไร้รูปร่างเชือดเฉือนก้อนเนื้อหัวใจของเขาจนไม่เหลือชิ้นดีจบแล้วใช่ไหม...เจ็บปวดเหลือเกิน...หากขอพรจากฟ้าได้ข้อหนึ่ง...เขาไม่ต้องการเงินทองเป็นร้อยเป็นพั

  • สามีเฮงซวย   บทที่ 39

    ท่านเจ้าสัวสุรเดชจะไม่มีวันยอมให้หลานสาวของตัวเองกลับไปอยู่ในวงโคจรนรกแบบนั้นอีกแล้ว! หลานสาวของเขาจะต้องเจอคนที่ดีกว่านี้ เจอคนที่ไม่ทำให้แกต้องเสียใจ เจอคนที่สามารถดูแลและทะนุถนอมความรู้สึก ความรัก ความศรัทธาของแกจริงๆ!“ท่านเจ้าสัว ผมขอเจอหน้าน้ำหนึ่งจะได้ไหมครับ ผมมีเรื่องจะคุยกับน้ำหนึ่ง ผมขอเถอะนะครับท่านเจ้าสัว” สิงห์คุกเข่าลงตรงหน้าท่านเจ้าสัวสุรเดชเพื่อร้องขอความเห็นใจให้เขาเมตตาผู้ชายคนนี้สักนิด...ให้เขาได้มีโอกาสพูดคุยกับน้ำหนึ่งสักหน่อย“ฉันไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่าแกจริงๆ ไอ้สิงห์ แกทำให้หลานสาวฉันต้องเสียใจไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ฉันก็ยังออมมือไม่เอาเรื่องเอาราวเพราะน้ำหนึ่งขอเอาไว้! แต่นี่แกมันโง่ แกดันเล่นชู้กับเพื่อนสนิทของหลานสาวฉัน! ฉันไม่ทำให้ชีวิตแกพังก็บุญแค่ไหนล่ะ!! อันที่จริงถ้าฉันจะยึดบริษัทซื้อหุ้นส่วนทั้งหมดให้หลานสาวฉันเป็นคนดูแลบริหารก็ยังได้เลย! นี่ถือว่าฉันยังเห็นแก่คุณปู่ของแก ฉันเลยไว้หน้าอยู่บ้าง นับจากวินาทีนี้เป็นต้นไป ไสหัวไปซะ! อย่ามายุ่งวุ่นวายกับหลานสาวฉันอีกแล้วอย่าหาว่าฉันไม่เตือน” ท่านเจ้าสัวสุรเดชพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่ดูสุขุมนุ่มลึกน่าเก

  • สามีเฮงซวย   บทที่ 38

    “ทำไมจะไม่ได้ล่ะคะ”“ก็ผมกลัวว่าผมจะล้ำเส้นน้ำหนึ่งมากเกินไป เราสองคนตอนนี้ก็ยังไม่ได้มีสถานะอะไรนอกจากกำลังคุยๆ คุยดูใจกันอยู่” เขาให้เกียรติน้ำหนึ่ง...เขาไม่อยากทำให้เธอเสื่อมเสียชื่อเสียงและถูกนำไปนินทาเสียๆ หายๆ“ก็ถ่ายในฐานะเพื่อนคนรู้จักหรือคนที่กำลังคุยกันอยู่ก็ได้” ในเมื่อคิดจะเปิดใจแล้วเธอก็ลุยเต็มที่!อย่างว่าเธอเป็นคนทุ่มเทกับความรัก! ตอนรักก็รักและให้ไปสุดใจอย่างไม่คิดจะเผื่อเปอร์เซ็นต์ไว้เจ็บปวด แต่ตอนเลิกเนี่ยสิทรมานจวนเจียนหมดลม!“ดูหัวเราะคิกคักมีความสุขกันมากเลยนะ” เสียงของแขกไม่ได้รับเชิญดังขึ้น “ดูหนึ่งแฮปปี้และเอ็นจอยมากเลยนะคะไม่เหมือนคนที่เพิ่งหย่ากับสามีไปหมาดๆ”แขกไม่ได้รับเชิญคนนั้นนั่นก็คืออดีตสามีห่วยแตก...แต่สภาพสิงห์แทบจะดูไม่เป็นผู้เป็นคนและดูไม่ได้เลยด้วยซ้ำ...ใบหน้าของเขาทรุดโทรมซูบเซียวคล้ายกับคนขาดสารอาหารพร้อมทั้งดวงตาอ่อนล้ารอบๆ หมองคล้ำอย่างกับอดหลับอดนอนมาเป็นระยะเวลาหลายคืน...“สวัสดีค่ะคุณสิงห์” น้ำหนึ่งยังคงให้เกียรติเขาเช่นเดิม“สวัสดีครับคุณสิงห์” นนทกานต์เองก็สวัสดีผู้ที่มีอาวุโสกว่าเขา เนื่องจากเขาอายุไล่เลี่ยกับน้ำหนึ่ง...ห่างกันเพียงแค่สอ

  • สามีเฮงซวย   บทที่ 37

    @สามเดือนผ่านไปในส่วนของสิงห์ได้รับผลกระทบจากการกระทำของตัวเองพอสมควร...นั่นก็คือถูกปลดออกจากตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริหารบริษัทยักษ์ใหญ่! เนื่องจากทำความเสื่อมเสียชื่อเสียงมาจนถึงบริษัทจนลูกค้าเกิดความไม่ไว้วางใจและขุ่นเคืองใจเป็นอย่างมากกับพฤติกรรมของเขาจึงมีคนยกเลิกออเดอร์กันไปเป็นขบวน สร้างความเสียหายหลายล้าน ทั้งยังถูกประนามจากสังคมผ่านโลกโซเชียลวิเคราะห์ถึงนิสัยใจคอที่ไม่สามารถรับได้ จะไปจะมาที่ไหนก็ล้วนมีแต่คนซุบซิบนินทา...แต่ก็ได้ข่าวว่าเขาชอบชีวิตอิสระของตัวเอง จะทำอะไร จะไปที่ไหนก็ไม่ต้องแคร์ใคร! สิงห์ที่คั่วผู้หญิงเป็นว่าเล่น เข้าผับทุกคืนซ้ำยังได้ผู้หญิงติดไม้ติดมือมาล้วนงานดีทั้งนั้น! นี่มันสวรรค์ที่เขาใฝ่หาชัดๆ! ข่าวลือหนาหูพาดหัวข่าวจากหนังสือพิมพ์และโลกโซเชียลกระหน่ำไม่เว้นวัน...บ้างก็ข่าวกับดาราคนนู้น บ้างก็ข่าวกับนางเอกคนนี้ บ้างก็เขากับไฮโซคนนั้น...ส่วนชะเอมเองก็ได้รับผลกระทบไม่แพ้กัน หล่อนถูกวิพากษ์วิจารณ์หนักมาก ถูกตัดช่องทางการทำมาหากินทุกอย่างจนแทบจะต้องมุดหัวอยู่ในกระดองเพราะไม่กล้าออกไปเผชิญหน้ากับสังคม เนื่องจากโดนด่า โดนว่าจนอับอายขายขี้หน้า บางวันก็เล่นใ

  • สามีเฮงซวย   บทที่ 36

    น้ำหนึ่งเหยียดยิ้มอย่างชั่วร้ายชำเลืองตามองเพื่อนสนิทที่พร้อมจะเหยียบย่ำเธอให้จมดินสลับกับอดีตสามีเฮงซวยซึ่งคิดทำร้ายทั้งจิตใจและความรู้สึกเธอสารพัด“หนึ่ง...” สิงห์ส่ายศีรษะเพื่อห้ามปรามให้เธอหยุดพูด เพราะในตอนนี้เขาแทบไม่เหลือศักดิ์ศรีให้ยืนหยัดในแท่นผู้บริหารได้อย่างมีเกียรติแล้วแต่มันกลับเปล่าประโยชน์...“หนึ่งจับได้ว่าพี่สิงห์มีผู้หญิงคนอื่นค่ะ” กล่าวประโยคนี้จบเสียงฮือฮาซุบซิบนินทาก็เริ่มหนาหูขึ้น ส่วนเพื่อนสนิทเธอนั้นเมื่อรู้ตัวว่าไฟใกล้จะลามมาถึงขาตนก็ทำทีท่าจะก้าวย่องออกไปอย่างเงียบๆ ทว่าอันนาไหวตัวทันก็เลยรั้งแขนหล่อนเอาไว้“จะไปไหนเหรอเพื่อนรัก?” คนอย่างชะเอมคบไม่ได้ ฉะนั้นอันนาก็ไม่มีเหตุผลจำเป็นอะไรที่ต้องเก็บเอาไว้ ต่อให้คบหารู้จักกันมานานตั้งแต่สมัยเรียนเรียน แต่นั่นมันก็เป็นเครื่องช่วยย้ำเตือนอีกอย่างหนึ่งว่าเวลาไม่ได้ช่วยขัดเกลาทำให้จิตใจคนสูงส่งขึ้นมาได้เลยหากวันหนึ่งหล่อนทำอะไรที่ไม่เข้าตาชะเอมเข้า ชะเอมก็คงจะใช้มูลเหตุนั้นชักจูงให้ตัวเองกระทำความผิดแล้วใส่ไม่ยั้งกับหล่อนเหมือนที่กระทำกับน้ำหนึ่งแน่นอน“โดยปกติแล้วคุณสิงห์ก็มีผู้หญิงคนอื่นอยู่เรื่อยไม่ใช่เหรอคะ?”

  • สามีเฮงซวย   บทที่ 35

    “หนึ่ง...”“พี่สิงห์รีบเซ็นเถอะค่ะ เราจะได้ไม่ต้องมาเสียเวลานั่งอยู่ตรงนี้นานมาก เพราะหนึ่งมีธุระต้องไปทำต่อ” น้ำหนึ่งเลื่อนเอกสารไปตรงหน้าของสิงห์ซ้ำยังใช้ประโยคบีบบังคับให้เขาลงลายมือชื่อโดยเร็ว“...” สิงห์ค่อนข้างลังเล ภายในหัวใจมันวูบวาบร้อนรุ่มอย่างบอกไม่ถูก ความรู้สึกหนึ่งก็อยากเซ็นให้จบๆ เพื่อคืนอิสรภาพให้แก่ตนเองหลังจากนี้จะได้คั่วผู้หญิงอย่างตามใจโดยไม่ต้องแคร์สายตาคนอื่น แต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกเสียดายเธออยู่ไม่ใช่น้อย...อยู่ด้วยกัน คุยกัน ทำความรู้จักกันมาตั้งนาน หากวันหนึ่งน้ำหนึ่งไปมีผู้ชายคนอื่นจริงๆ เขาจะต้องทำตัวอย่างไรนะ?น้ำหนึ่งทั้งสวย เพียบพร้อม ฉลาด มีคุณสมบัติครบด้านซะขนาดนี้เธอจะมีผู้ชายอีกสักกี่ร้อยกี่พันคนที่คัดเลือกเข้ามาอยู่ในวงโคจรก็ยังได้เลย...ของของเขา ของที่เขาเคยสัมผัสทุกกระเบียดนิ้วในเรือนร่างนี้ ในอีกไม่ช้ามันอาจจะต้องกลายเป็นคนอื่นมาซ้ำรอยแค่คิดก็จุกอก!!!เขาอยากให้น้ำหนึ่งเป็นของเขาเพียงแค่คนเดียว! แต่...เขาจะมีผู้หญิงอีกสักกี่คนก็ย่อมได้ นี่คงเป็นความคิดของคนที่เห็นแก่ตัวสินะ...แต่เขาไม่อยากเสียน้ำหนึ่งไปให้ใครจริงๆ น้ำหนึ่งเป็นของเขา เป็นผู้หญิงของส

  • สามีเฮงซวย   บทที่ 34

    “ฮือ” เธอเข้าไปกอดท่านเจ้าสัวสุรเดชซ้ำเป็นครั้งที่สอง “เจ็บ...เจ็บเหลือเกินค่ะคุณปู่ หนึ่งทั้งรัก ทั้งดูแลและจงรักภักดีต่อพี่สิงห์มาโดยตลอด มอบให้เขาเป็นโลกทั้งใบแต่เขากลับทำกับหนึ่งแบบนี้...ต่อให้เขามีพวกผู้หญิงคนอื่นอีกสักร้อยสักพันคนหนึ่งก็ไม่รู้สึกจุกอกเท่าที่เห็นเขากำลัง...อยู่กับเพื่อนหนึ่ง เขาทำแบบนี้กับหนึ่งได้ยังไงอ่ะ”มันเป็นความรู้สึกสูญเสียทั้งเพื่อนสนิทและคนรักในเวลาเดียวกัน...ทั้งสองคนคือคนที่เธอรัก คือคนที่เธอไว้ใจแต่กลับมาหักหลังทรยศแล้วเล่นกันเองเสียอย่างนั้น...“เพราะไอ้สาระเลวนั่นมันหน้าตัวเมียไง หนึ่งโชคดีแล้วหลานที่ออกมาได้ ต่อจากนี้ชีวิตของหลานจะมีแต่ความสุข ความสงบสุขและเจริญก้าวหน้าไปเรื่อยๆ หลานจะเจอคนที่เขารักหลานได้มากกว่านี้ หลานจะเจอคนที่เขาพร้อมพอในการดูแลหลาน ในการรักหลานและไม่ทำให้หลานเสียใจเหมือนผู้ชายคนนี้อีก หลานสาวของปู่ทั้งสวย ทั้งเก่งขนาดนี้ ผู้ชายดีๆ เพอร์เฟคยังมีอีกเยอะที่รอต่อแถวกดบัตรคิวกันเป็นขบวน” สิ่งที่ท่านเจ้าสัวสุรเดชกล่าวออกมานั้นล้วนเป็นความจริง...ตั้งแต่ที่ไฮโซน้ำหนึ่งเปลี่ยนโฉมปรับลุคการแต่งตัวก็มีชายหลายคนทั้งไฮโซ ทั้งเซเลบ ทั้งดารา

  • สามีเฮงซวย   บทที่ 33

    “โอ๊ย!!” เสียงโอดโอยของสิงห์ร้องดังขึ้นเมื่อเพื่อนสนิทอย่างกระทิงจิ้มจุ่มสำลีลงบนบาดแผลบริเวณมุมปากของเขาอย่างแรง “เจ็บนะเว้ยไอ้กระทิง”“สมน้ำหน้า!! ทำอะไรโง่ๆ นะมึงเนี้ย แล้วก็ลำบากกูกับไอ้เหยี่ยวต้องมานั่งเป็นเพื่อนมึงตีสองตีสามขนาดนี้” กระทิงล่ะเหลืออดกับเพื่อนคนนี้เสียจริง“ก็กูเดือดร้อนจริงๆ นี่!” เดือดร้อนจริงหรือเดือดร้อนเล่นๆ ก็ให้สังเกตจากใบหน้าอันหล่อเหลาที่เดิมทีเคยมีสง่าราศีของสิงห์ตัวพ่อคาสโนว่าระดับประเทศ แต่ทว่าตอนนี้มันถูกประดับประดาด้วยรอยจ้ำแดงๆ ที่มีเลือดสีแดงสดไหลซิบ ทั้งหัวคิ้ว กราม โหนกแก้มทั้งซ้ายขวา มุมปาก แล้วไหนจะรอยช้ำบริเวณแขนและขาหลายจุดอีกด้วย!ก็ไอ้รอยบ้าๆ พวกนี้เกิดขึ้นตอนที่เขาขับรถออกมาจากผับได้ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงหลังจากที่น้ำหนึ่งหายตัวไปนั่นแหละ...และมั่นคงจะเป็นฝีมือใครไปไม่ได้นอกเสีย...“ก็มึงเล่นไปทำกับหลานท่านเจ้าสัวซะขนาดนั้น นี่เขาไว้ชีวิตมึงก็บุญหัวแล้วไอ้สิงห์! เอาจริงมึงนี่ไม่น่าชื่อสิงห์เลยนะ ทั้งนิสัยทั้งสันดานเหี้ยชัดๆ” กระทิงกล่าวอย่างชัดถ้อยชัดคำไม่ได้แลดูเห็นอกเห็นใจเพื่อนสนิทเลยแม้แต่น้อย“ไอ้กระทิง!!”“ก็กูพูดความจริงนี่หว่า ที่ผ่านม

  • สามีเฮงซวย   บทที่ 32

    เรือนร่างบางระหงวิ่งลงมาจากชั้นล่างของผับด้วยสภาพใบหน้าแปดเปื้อนหยาดน้ำตาโดยได้ยินเสียงเรียกร้องของสิงห์ตามหลังมาติดๆตุ้บ!! น้ำหนึ่งชนเข้ากับใครสักคน สายตาเล็กค่อยๆ แหงนขึ้นไปมองหน้าเขาแล้วรีบกล่าวคำขอโทษ“ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ”“หนึ่ง!! หนึ่ง!!!”ผู้ชายรูปหล่อเหลา ใบหน้าคมเข้มราวกับเทพบุตรที่ถูกวาดโดยพู่กันแต่งแต้มสีสันลงบนกระดาษร้อยปอนด์ด้วยช่างฝีมือดีระดับโลก คิ้วเป็นคิ้ว ปลายจมูกสันโด่งรับกับริมฝีปากที่มีสีสันสดใสคล้ายกับได้รับการแต่งแต้มด้วยลิปสติก“!!” เขาไหวตัวทันรีบดึงตัวร่างบางมาหลบเอาไว้แนบประชิดแผงอกแกร่งกำยำ ชำเลืองมองดูว่าสิงห์ผ่านออกไปจนแลไม่เห็นแล้วจึงค่อยๆ ผละออก“คุณหนีผู้ชายคนนั้นเหรอครับ?”“คุณช่วยพาฉันออกไปจากที่นี่ทีจะได้ไหมคะ” เธอไม่อยากพบหน้าใครทั้งนั้นแม้กระทั่งคีรินหรืออันนา แต่จะให้ทำอย่างไรในเมื่อเธอวิ่งออกมาตัวเปล่าไม่ได้หยิบแม้กระทั่งกระเป๋าสะพายที่ถูกบรรจุกุญแจรถเอาไว้ติดไม้ติดมือด้วย“ครับ” เขาไม่ปฏิเสธ..@ทะเลทั้งสองแล่นรถออกมาไกลพอสมควรจนถึงชายหาดแถบพัทยาใกล้ๆ กับกรุงเทพฯ ร่างบางถอนหายใจเฮือกใหญ่ทิ้งตัวลงบนหาดทรายขาวทอดมองทะเลอันกว้างขวางในยามค่

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status