เรือนร่างบางระหงวิ่งลงมาจากชั้นล่างของผับด้วยสภาพใบหน้าแปดเปื้อนหยาดน้ำตาโดยได้ยินเสียงเรียกร้องของสิงห์ตามหลังมาติดๆ
ตุ้บ!! น้ำหนึ่งชนเข้ากับใครสักคน สายตาเล็กค่อยๆ แหงนขึ้นไปมองหน้าเขาแล้วรีบกล่าวคำขอโทษ “ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ” “หนึ่ง!! หนึ่ง!!!” ผู้ชายรูปหล่อเหลา ใบหน้าคมเข้มราวกับเทพบุตรที่ถูกวาดโดยพู่กันแต่งแต้มสีสันลงบนกระดาษร้อยปอนด์ด้วยช่างฝีมือดีระดับโลก คิ้วเป็นคิ้ว ปลายจมูกสันโด่งรับกับริมฝีปากที่มีสีสันสดใสคล้ายกับได้รับการแต่งแต้มด้วยลิปสติก “!!” เขาไหวตัวทันรีบดึงตัวร่างบางมาหลบเอาไว้แนบประชิดแผงอกแกร่งกำยำ ชำเลืองมองดูว่าสิงห์ผ่านออกไปจนแลไม่เห็นแล้วจึงค่อยๆ ผละออก “คุณหนีผู้ชายคนนั้นเหรอครับ?” “คุณช่วยพาฉันออกไปจากที่นี่ทีจะได้ไหมคะ” เธอไม่อยากพบหน้าใครทั้งนั้นแม้กระทั่งคีรินหรืออันนา แต่จะให้ทำอย่างไรในเมื่อเธอวิ่งออกมาตัวเปล่าไม่ได้หยิบแม้กระทั่งกระเป๋าสะพายที่ถูกบรรจุกุญแจรถเอาไว้ติดไม้ติดมือด้วย “ครับ” เขาไม่ปฏิเสธ . . @ทะเล ทั้งสองแล่นรถออกมาไกลพอสมควรจนถึงชายหาดแถบพัทยาใกล้ๆ กับกรุงเทพฯ ร่างบางถอนหายใจเฮือกใหญ่ทิ้งตัวลงบนหาดทรายขาวทอดมองทะเลอันกว้างขวางในยามค่ำคืนที่ได้ยินเพียงเสียงคลื่นซัดเข้ามากระทบฝั่งดังครืนครืน “โง่ไม่มีใครเทียมทานจริงๆ เลย” ย้อนนึกกลับไปก็คิดสมเพชตัวเอง...ดูเหมือนเข้มแข็ง แกร่ง เปลี่ยนเป็นคนใหม่ แต่ความจริงแล้วก็ยังทนโง่ซ้ำโง่ซ้อนให้เขาหลอกอยู่ได้ตั้งนาน หากเป็นนางเอกในนิยายไรท์เตอร์คงโดนนักอ่านสาปแช่งและคิดจะมาเผาบ้านเสียแล้วกระมัง จะว่าไปชีวิตของเธอจะเป็นเหมือนในนิยายฮิตๆ แนวตลาดหรือเปล่านะที่ไม่ว่าผัวจะทำเลว ระยำ สำส่อนมากแค่ไหน ร้องนิดหน่อยสุดท้ายก็ต้องจบแบบแฮปปี้แอนด์ดิ้งกลับมาคืนดีกัน... “ร้องออกมาได้เลยนะครับ” น้ำหนึ่งหันไปมองบุคคลที่สองซึ่งกำลังหย่อนสะโพกลงนั่งใกล้ๆ “ร้องออกมาให้พอแต่พรุ่งนี้คุณต้องเข้มแข็งเราสู้กับมัน” ยิ่งได้ยินคำพูดเขาน้ำหนึ่งก็ปล่อยโฮออกมารอบใหญ่!! น้ำหูน้ำตามาเต็ม เสียงสะอึกสะอื้นแลดูน่าสงสาร มันเป็นครั้งที่เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่แล้วไม่รู้ที่เธอต้องมาเสียน้ำตาให้กับผู้ชายไม่รู้จักพอคนนี้! ผ่านไปประมาณเกือบสิบนาทีได้ มันรู้สึกเหมือนว่าตอนนี้แม่งไม่เหลือน้ำตาสักหยดให้ร้องออกมา...ทุกสิ่งทุกอย่างถูกกลืนกินด้วยความจุกอกที่ไม่สามารถระบายออกมาเป็นคำพูดได้ “ร้องเสร็จแล้วเหรอครับ” แต่ก็น่าแปลกที่ผู้ชายคนนี้นั่งฟังเธอร้องไห้ได้หลายนาทีโดยไม่มีบ่นซักคำ! “ไม่รู้จะร้องไห้อีกทำไมค่ะ ในเมื่อก็ไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขอะไรได้” น้ำหนึ่งตอบเสียงติดตลก “ฉันคงน่าโง่น่าสมเพชมากเลยสินะคะ ที่ยอมให้คนคนหนึ่งทำร้ายจิตใจไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแต่ก็ไม่เคยไปไหน” “นั่นเป็นเพราะว่าคุณรักเขาไงครับ แต่คุณก็รักเขาจนลืมหันกลับมารักตัวเอง ลืมไปเหมือนกันว่าตัวเองก็ยังมีความรู้สึกเจ็บเป็น” แต่มันกลับทำให้น้ำหนึ่งปล่อยโฮออกมาอีกรอบราวกับทำนบแตก เธอซบใบหน้าที่แปดเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตาลงบนหัวเข่าอย่างไม่อายคนข้างกายเลยสักนิด ก็เขาคือโลกทั้งใบของเธอไง!!! “ผ้าเช็ดหน้าครับ” “…” “ผมคิดว่าคุณน่าจะเหมาะกับรอยยิ้มมากกว่าร้องไห้นะครับ” ทั้งน้ำเสียงทั้งแววตาแลดูอบอุ่นอ่อนโยนอย่างบอกไม่ถูก “ขอบคุณค่ะ” น้ำหนึ่งรับผ้าเช็ดหน้าจากเขามาซับหยาดน้ำตาแล้วสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ! “ฉันไม่เข้าใจเลยค่ะว่าฉันไม่ดีหรือผิดพลาดตรงไหน ฉันไม่มีคุณค่าพอรึไงถึงจะรั้งให้เขาหยุดที่ฉันเพียงคนเดียวได้” เธอเอาแต่พร่ำถามตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า! “คุณทำดีที่สุดแล้วครับคุณน้ำหนึ่ง แต่ผู้ชายคนนั้นเขาไม่รู้จักพอเอง” เขารู้จักชื่อเธอ! “คุณรู้จักฉันด้วยเหรอคะ?” น้ำหนึ่งเลิกคิ้วถามด้วยความสงสัยไม่คิดว่าชายแปลกหน้าที่เพิ่งจะพบเจอกันได้ไม่ถึงสองชั่วโมงจะกลับกลายเป็นคนรู้จักเสียอย่างนั้น แต่อย่างว่าล่ะนะเธอเองก็ไม่รู้นึกบ้าบิ่นใจกล้ามาจากไหนถึงได้ร้องขอให้เขาขับรถพาออกมาตามลำพังสองต่อสองเช่นนี้ ไม่กลัวเขาจะเป็นพวกสิบแปดมงกุฎหรือพวกโจรที่จับผู้หญิงไปค้าประเวณีรึไง! “ใครจะไม่รู้จักไฮโซน้ำหนึ่งหลานสาวท่านเจ้าสัวสุรเดชเศรษฐีหมื่นล้านล่ะครับ” รอยยิ้มของเขายังคงอบอุ่นเช่นเดิม “งั้นคุณก็คงจะรู้...” เธอเม้มปากเข้าหากันเบาๆ “รู้ว่าคุณน้ำหนึ่งกำลังมีปัญหาอะไรอยู่งั้นเหรอครับ? ถ้าให้ผมเดาก็คงจะเป็นเรื่องของผู้ชายคนนั้น คุณสิงห์ เจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่ นักธุรกิจไฟแรงที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในตอนนี้” แน่นอนว่าผู้ชายคนนี้รู้จักตัวเธอดีกว่าที่คิดราวกับทำการบ้านมาอย่างเนี้ยบท่องจำเป๊ะทุกตัวอักษร “ขี้โกงชัดๆ เลย! คุณรู้จักฉันทุกอย่างแต่ฉันไม่รู้จักในกระทั่งชื่อของคุณ” “ผมชื่อนนท์ครับ นนทกานต์เป็นรองประธานบริหารบริษัทจีวายเคกรุ๊ปส่งออกยานยนต์” เขาแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ “ไฮโซนนทกานต์ นักธุรกิจหน้าใหม่ไฟแรงหรือเปล่าคะเนี่ย ถ้าจำไม่ผิดคุณนนทกานต์น่าจะเป็นลูกชายคนเดียวของคุณเกริกพลและคุณหญิงอำไพพรรณีใช่ไหมคะ?” น้ำหนึ่งถามย้ำเพื่อความมั่นใจว่าสิ่งที่เธอได้รับรู้มาไม่บิดเบือนไปจากความจริง ถ้าหากเป็นคนเดียวกันเธอพูดได้เต็มปากเลยว่าเขาน่ะฮอตสุดๆ! ร่ำรวยมหาศาลมีเงินใช้ไปจนถึงชาติหน้า แต่ยังไม่มีแฟนและไม่เคยมีข่าวเสียหายๆ กับผู้หญิงคนไหนมาก่อน “จะว่าไปคนหนึ่งก็รู้จักผมดีเหมือนกันนะครับเนี้ย แต่เรียกคุณนนทกานต์มันดูห่างเหินจนเกินไป เรียกนนท์เฉยๆ ก็ได้ครับ” ขอไม่ปฏิเสธเลยว่าเขาชอบผู้หญิงคนนี้ ชอบทั้งๆ ที่รู้ว่าน้ำหนึ่งมีสามีอยู่แล้ว...แต่เขาก็ไม่เคยทำอะไรเกินเหตุ ไม่ได้เข้าไปแทรกกลางระหว่างความสัมพันธ์ของใคร เขารู้ตัวดีว่าตอนนี้ตนเองกำลังอยู่ในจุดไหนและจะไม่มีวันล้ำขอบเขตที่คิดเอาไว้จนกว่าเธอจะไร้พันธะใดๆ โดยตามกฎหมาย “ใครจะไม่รู้จักไฮโซนนทกานต์ล่ะคะ” “ดูสดใสขึ้นมากเลยนะครับ” “ชีวิตต้องเดินไปข้างหน้าค่ะ! มันคงจะแบบเก็บสะสมมามากพอ จนทนไม่ไหวแล้วก็เลยระเบิดออกมา มันเกิดขึ้นบ่อยมากจนแทบจะกลายเป็นความชินชา มันมีแค่ความรู้สึกจุกอก ช้ำใจและก็ไม่เข้าใจว่าฉันทำอะไรผิด แต่ถ้าจะให้มันนั่งร้องไห้ฟูมฟายเหมือนหมาคงสมเพชตัวเองแย่เพราะคิดๆ ดูแล้วเขาไม่มีอะไรให้ฉันต้องเสียดายเลยสักนิดนอกจากเวลาที่เสียไป” แม้เขาคือโลกทั้งใบของเธอ แต่ในเมื่อมันมาถึงขนาดนี้แล้วเธอก็คงจะต้องทำใจยอมรับแล้วเดินต่อไปข้างหน้าใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ให้มีความสุขที่สุดและยืนด้วยลำแข้งของตัวเองให้เขาได้รู้ว่า ต่อให้ไม่มีเขาเธอก็อยู่ได้ “ความจริงฉันก็รู้สึกแปลกใจตัวเองอยู่เหมือนกันนะคะ ทำไมมันเข้าเจ็บแปล๊บๆ ในอกแค่แป๊บเดียวตอนที่รู้ว่าเขาหักหลัง…แต่มันไม่ได้ถึงกับทุรนทุรายเหมือนกับตอนที่คิดเอาไว้ว่าถ้าไม่มีเขาฉันจะไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ได้” “บางทีคุณน้ำหนึ่งน่าจะหมดรักผู้ชายคนนั้นไปเสียตั้งนานแล้วล่ะครับ แต่ที่อยู่ด้วยกันทุกวันนี้ก็ด้วยความผูกพันและคิดว่าเขาคือเซฟโซนไม่สามารถก้าวออกมาจากวงกลมวงนั้นได้เพราะกลัวการเริ่มต้นใหม่ สู้ๆ นะครับ” นนท์ยกฝ่ามือขึ้นมาชูสองนิ้วทั้งสองข้างแล้วเอียงศีรษะเล็กน้อยช่วยเรียกเสียงหัวเราะของน้ำหนึ่งได้ดีพอสมควรเลยทีเดียว เขาก็ไม่คิดเหมือนกันว่าตัวเองจะมาทำอะไรน่าอับอายขายขี้หน้าขนาดนี้ต่อ ‘ผู้หญิงในดวงใจ’ “ฮึบ!! ขอบคุณมากเลยนะคะที่อุตส่าห์ขับรถพาฉันเอาใจมาโยนทิ้งลงทะเล ค่าน้ำมันเท่าไหร่คะเดี๋ยวฉันจะจ่ายให้” “ไม่เป็นไรครับ ผมเองก็ไม่ได้มานั่งโง่ๆ อยู่ริมทะเลแบบนี้นานแล้วเหมือนกัน” ว่าแล้วก็เหยียดแขนแกร่งค้ำยันด้านหลังเอนตัวลงในลักษณะกึ่งนอนกึ่งนั่ง “ฉันนี่ไม่ต้องมานั่งโง่ๆ อยู่ริมทะเลหรอกค่ะเพราะไม่ว่าจะนั่งอยู่ตรงไหนก็โง่เหมือนกัน” ทั้งสองคนหันขวับสบสายตากันแล้วหัวเราะออกมาอย่างขบขัน “คุณน้ำหนึ่ง” “เห้อ!!” นี่สินะทะเลช่วยเยียวยาหัวใจที่กำลังบอบช้ำ...ชักจะไม่แน่ใจแล้วเหมือนกันว่าเป็นเพราะน้ำที่สาดเข้ามากระทบฝั่งหรือเป็นเพราะคนข้างกายกันแน่ที่ทำให้เธอสามารถยิ้มออก ยิ้มรับกับปัญหาหนักๆ ที่ถาโถมเข้ามาเล่นงานอย่างจังชายหนุ่มเก็บร่างกายอันบอบช้ำและอ่อนแอเต็มทีประคองตัวขึ้นมาบนรถสปอร์ตคันหรูของตนเองในใบหน้าที่แปดเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตาซบลงบนพวงมาลัยอย่างหมดเรี่ยวแรง...ที่ผ่านมาเขามันโง่งมเอง...เขาทำร้ายผู้หญิงที่รักเขามากที่สุดในชีวิตมาโดยตลอด เธอคิดว่าเธอคือของตาย จะอย่างไรเสียหันกลับไปเมื่อไหร่ก็คงจะเจอ...แต่เปล่าเลยทุกคำพูดและทุกการให้อภัยที่เกิดขึ้นเปอร์เซ็นต์ความศรัทธาและเปอร์เซ็นต์ที่อยากจะอยู่ต่อมันค่อยๆ เลือนหายและลดหลั่นลงไปตามลำดับจนไม่หลงเหลืออยู่เลย...เพิ่งมารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ต้องสูญเสียแล้วไม่สามารถเรียกร้องกลับคืนมาได้อีกยิ่งได้รับรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังศึกษาดูใจกับผู้ชายคนใหม่…มันทำให้ความหวังที่เธอจะให้โอกาสเขาอีกครั้งหนึ่งเริ่มร่อยหรอและค่อยๆ ลดน้อยลงไปทุกทีทุกที“ฮึก!! หนึ่ง พะ...พี่ขอโทษ ขอโทษจริงๆ” สิงห์พูดอย่างติดๆ ขัดๆ พลางเสียงสะอื้นแทรกเข้ามาเป็นระยะๆ ท่าทีแสดงอาการเย็นชาและคำพูดเปิดตัวคนรู้ใจใหม่จากภรรยาสาวแปรเปลี่ยนเป็นอาวุธไร้รูปร่างเชือดเฉือนก้อนเนื้อหัวใจของเขาจนไม่เหลือชิ้นดีจบแล้วใช่ไหม...เจ็บปวดเหลือเกิน...หากขอพรจากฟ้าได้ข้อหนึ่ง...เขาไม่ต้องการเงินทองเป็นร้อยเป็นพั
ท่านเจ้าสัวสุรเดชจะไม่มีวันยอมให้หลานสาวของตัวเองกลับไปอยู่ในวงโคจรนรกแบบนั้นอีกแล้ว! หลานสาวของเขาจะต้องเจอคนที่ดีกว่านี้ เจอคนที่ไม่ทำให้แกต้องเสียใจ เจอคนที่สามารถดูแลและทะนุถนอมความรู้สึก ความรัก ความศรัทธาของแกจริงๆ!“ท่านเจ้าสัว ผมขอเจอหน้าน้ำหนึ่งจะได้ไหมครับ ผมมีเรื่องจะคุยกับน้ำหนึ่ง ผมขอเถอะนะครับท่านเจ้าสัว” สิงห์คุกเข่าลงตรงหน้าท่านเจ้าสัวสุรเดชเพื่อร้องขอความเห็นใจให้เขาเมตตาผู้ชายคนนี้สักนิด...ให้เขาได้มีโอกาสพูดคุยกับน้ำหนึ่งสักหน่อย“ฉันไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่าแกจริงๆ ไอ้สิงห์ แกทำให้หลานสาวฉันต้องเสียใจไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ฉันก็ยังออมมือไม่เอาเรื่องเอาราวเพราะน้ำหนึ่งขอเอาไว้! แต่นี่แกมันโง่ แกดันเล่นชู้กับเพื่อนสนิทของหลานสาวฉัน! ฉันไม่ทำให้ชีวิตแกพังก็บุญแค่ไหนล่ะ!! อันที่จริงถ้าฉันจะยึดบริษัทซื้อหุ้นส่วนทั้งหมดให้หลานสาวฉันเป็นคนดูแลบริหารก็ยังได้เลย! นี่ถือว่าฉันยังเห็นแก่คุณปู่ของแก ฉันเลยไว้หน้าอยู่บ้าง นับจากวินาทีนี้เป็นต้นไป ไสหัวไปซะ! อย่ามายุ่งวุ่นวายกับหลานสาวฉันอีกแล้วอย่าหาว่าฉันไม่เตือน” ท่านเจ้าสัวสุรเดชพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่ดูสุขุมนุ่มลึกน่าเก
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะคะ”“ก็ผมกลัวว่าผมจะล้ำเส้นน้ำหนึ่งมากเกินไป เราสองคนตอนนี้ก็ยังไม่ได้มีสถานะอะไรนอกจากกำลังคุยๆ คุยดูใจกันอยู่” เขาให้เกียรติน้ำหนึ่ง...เขาไม่อยากทำให้เธอเสื่อมเสียชื่อเสียงและถูกนำไปนินทาเสียๆ หายๆ“ก็ถ่ายในฐานะเพื่อนคนรู้จักหรือคนที่กำลังคุยกันอยู่ก็ได้” ในเมื่อคิดจะเปิดใจแล้วเธอก็ลุยเต็มที่!อย่างว่าเธอเป็นคนทุ่มเทกับความรัก! ตอนรักก็รักและให้ไปสุดใจอย่างไม่คิดจะเผื่อเปอร์เซ็นต์ไว้เจ็บปวด แต่ตอนเลิกเนี่ยสิทรมานจวนเจียนหมดลม!“ดูหัวเราะคิกคักมีความสุขกันมากเลยนะ” เสียงของแขกไม่ได้รับเชิญดังขึ้น “ดูหนึ่งแฮปปี้และเอ็นจอยมากเลยนะคะไม่เหมือนคนที่เพิ่งหย่ากับสามีไปหมาดๆ”แขกไม่ได้รับเชิญคนนั้นนั่นก็คืออดีตสามีห่วยแตก...แต่สภาพสิงห์แทบจะดูไม่เป็นผู้เป็นคนและดูไม่ได้เลยด้วยซ้ำ...ใบหน้าของเขาทรุดโทรมซูบเซียวคล้ายกับคนขาดสารอาหารพร้อมทั้งดวงตาอ่อนล้ารอบๆ หมองคล้ำอย่างกับอดหลับอดนอนมาเป็นระยะเวลาหลายคืน...“สวัสดีค่ะคุณสิงห์” น้ำหนึ่งยังคงให้เกียรติเขาเช่นเดิม“สวัสดีครับคุณสิงห์” นนทกานต์เองก็สวัสดีผู้ที่มีอาวุโสกว่าเขา เนื่องจากเขาอายุไล่เลี่ยกับน้ำหนึ่ง...ห่างกันเพียงแค่สอ
@สามเดือนผ่านไปในส่วนของสิงห์ได้รับผลกระทบจากการกระทำของตัวเองพอสมควร...นั่นก็คือถูกปลดออกจากตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริหารบริษัทยักษ์ใหญ่! เนื่องจากทำความเสื่อมเสียชื่อเสียงมาจนถึงบริษัทจนลูกค้าเกิดความไม่ไว้วางใจและขุ่นเคืองใจเป็นอย่างมากกับพฤติกรรมของเขาจึงมีคนยกเลิกออเดอร์กันไปเป็นขบวน สร้างความเสียหายหลายล้าน ทั้งยังถูกประนามจากสังคมผ่านโลกโซเชียลวิเคราะห์ถึงนิสัยใจคอที่ไม่สามารถรับได้ จะไปจะมาที่ไหนก็ล้วนมีแต่คนซุบซิบนินทา...แต่ก็ได้ข่าวว่าเขาชอบชีวิตอิสระของตัวเอง จะทำอะไร จะไปที่ไหนก็ไม่ต้องแคร์ใคร! สิงห์ที่คั่วผู้หญิงเป็นว่าเล่น เข้าผับทุกคืนซ้ำยังได้ผู้หญิงติดไม้ติดมือมาล้วนงานดีทั้งนั้น! นี่มันสวรรค์ที่เขาใฝ่หาชัดๆ! ข่าวลือหนาหูพาดหัวข่าวจากหนังสือพิมพ์และโลกโซเชียลกระหน่ำไม่เว้นวัน...บ้างก็ข่าวกับดาราคนนู้น บ้างก็ข่าวกับนางเอกคนนี้ บ้างก็เขากับไฮโซคนนั้น...ส่วนชะเอมเองก็ได้รับผลกระทบไม่แพ้กัน หล่อนถูกวิพากษ์วิจารณ์หนักมาก ถูกตัดช่องทางการทำมาหากินทุกอย่างจนแทบจะต้องมุดหัวอยู่ในกระดองเพราะไม่กล้าออกไปเผชิญหน้ากับสังคม เนื่องจากโดนด่า โดนว่าจนอับอายขายขี้หน้า บางวันก็เล่นใ
น้ำหนึ่งเหยียดยิ้มอย่างชั่วร้ายชำเลืองตามองเพื่อนสนิทที่พร้อมจะเหยียบย่ำเธอให้จมดินสลับกับอดีตสามีเฮงซวยซึ่งคิดทำร้ายทั้งจิตใจและความรู้สึกเธอสารพัด“หนึ่ง...” สิงห์ส่ายศีรษะเพื่อห้ามปรามให้เธอหยุดพูด เพราะในตอนนี้เขาแทบไม่เหลือศักดิ์ศรีให้ยืนหยัดในแท่นผู้บริหารได้อย่างมีเกียรติแล้วแต่มันกลับเปล่าประโยชน์...“หนึ่งจับได้ว่าพี่สิงห์มีผู้หญิงคนอื่นค่ะ” กล่าวประโยคนี้จบเสียงฮือฮาซุบซิบนินทาก็เริ่มหนาหูขึ้น ส่วนเพื่อนสนิทเธอนั้นเมื่อรู้ตัวว่าไฟใกล้จะลามมาถึงขาตนก็ทำทีท่าจะก้าวย่องออกไปอย่างเงียบๆ ทว่าอันนาไหวตัวทันก็เลยรั้งแขนหล่อนเอาไว้“จะไปไหนเหรอเพื่อนรัก?” คนอย่างชะเอมคบไม่ได้ ฉะนั้นอันนาก็ไม่มีเหตุผลจำเป็นอะไรที่ต้องเก็บเอาไว้ ต่อให้คบหารู้จักกันมานานตั้งแต่สมัยเรียนเรียน แต่นั่นมันก็เป็นเครื่องช่วยย้ำเตือนอีกอย่างหนึ่งว่าเวลาไม่ได้ช่วยขัดเกลาทำให้จิตใจคนสูงส่งขึ้นมาได้เลยหากวันหนึ่งหล่อนทำอะไรที่ไม่เข้าตาชะเอมเข้า ชะเอมก็คงจะใช้มูลเหตุนั้นชักจูงให้ตัวเองกระทำความผิดแล้วใส่ไม่ยั้งกับหล่อนเหมือนที่กระทำกับน้ำหนึ่งแน่นอน“โดยปกติแล้วคุณสิงห์ก็มีผู้หญิงคนอื่นอยู่เรื่อยไม่ใช่เหรอคะ?”
“หนึ่ง...”“พี่สิงห์รีบเซ็นเถอะค่ะ เราจะได้ไม่ต้องมาเสียเวลานั่งอยู่ตรงนี้นานมาก เพราะหนึ่งมีธุระต้องไปทำต่อ” น้ำหนึ่งเลื่อนเอกสารไปตรงหน้าของสิงห์ซ้ำยังใช้ประโยคบีบบังคับให้เขาลงลายมือชื่อโดยเร็ว“...” สิงห์ค่อนข้างลังเล ภายในหัวใจมันวูบวาบร้อนรุ่มอย่างบอกไม่ถูก ความรู้สึกหนึ่งก็อยากเซ็นให้จบๆ เพื่อคืนอิสรภาพให้แก่ตนเองหลังจากนี้จะได้คั่วผู้หญิงอย่างตามใจโดยไม่ต้องแคร์สายตาคนอื่น แต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกเสียดายเธออยู่ไม่ใช่น้อย...อยู่ด้วยกัน คุยกัน ทำความรู้จักกันมาตั้งนาน หากวันหนึ่งน้ำหนึ่งไปมีผู้ชายคนอื่นจริงๆ เขาจะต้องทำตัวอย่างไรนะ?น้ำหนึ่งทั้งสวย เพียบพร้อม ฉลาด มีคุณสมบัติครบด้านซะขนาดนี้เธอจะมีผู้ชายอีกสักกี่ร้อยกี่พันคนที่คัดเลือกเข้ามาอยู่ในวงโคจรก็ยังได้เลย...ของของเขา ของที่เขาเคยสัมผัสทุกกระเบียดนิ้วในเรือนร่างนี้ ในอีกไม่ช้ามันอาจจะต้องกลายเป็นคนอื่นมาซ้ำรอยแค่คิดก็จุกอก!!!เขาอยากให้น้ำหนึ่งเป็นของเขาเพียงแค่คนเดียว! แต่...เขาจะมีผู้หญิงอีกสักกี่คนก็ย่อมได้ นี่คงเป็นความคิดของคนที่เห็นแก่ตัวสินะ...แต่เขาไม่อยากเสียน้ำหนึ่งไปให้ใครจริงๆ น้ำหนึ่งเป็นของเขา เป็นผู้หญิงของส
“ฮือ” เธอเข้าไปกอดท่านเจ้าสัวสุรเดชซ้ำเป็นครั้งที่สอง “เจ็บ...เจ็บเหลือเกินค่ะคุณปู่ หนึ่งทั้งรัก ทั้งดูแลและจงรักภักดีต่อพี่สิงห์มาโดยตลอด มอบให้เขาเป็นโลกทั้งใบแต่เขากลับทำกับหนึ่งแบบนี้...ต่อให้เขามีพวกผู้หญิงคนอื่นอีกสักร้อยสักพันคนหนึ่งก็ไม่รู้สึกจุกอกเท่าที่เห็นเขากำลัง...อยู่กับเพื่อนหนึ่ง เขาทำแบบนี้กับหนึ่งได้ยังไงอ่ะ”มันเป็นความรู้สึกสูญเสียทั้งเพื่อนสนิทและคนรักในเวลาเดียวกัน...ทั้งสองคนคือคนที่เธอรัก คือคนที่เธอไว้ใจแต่กลับมาหักหลังทรยศแล้วเล่นกันเองเสียอย่างนั้น...“เพราะไอ้สาระเลวนั่นมันหน้าตัวเมียไง หนึ่งโชคดีแล้วหลานที่ออกมาได้ ต่อจากนี้ชีวิตของหลานจะมีแต่ความสุข ความสงบสุขและเจริญก้าวหน้าไปเรื่อยๆ หลานจะเจอคนที่เขารักหลานได้มากกว่านี้ หลานจะเจอคนที่เขาพร้อมพอในการดูแลหลาน ในการรักหลานและไม่ทำให้หลานเสียใจเหมือนผู้ชายคนนี้อีก หลานสาวของปู่ทั้งสวย ทั้งเก่งขนาดนี้ ผู้ชายดีๆ เพอร์เฟคยังมีอีกเยอะที่รอต่อแถวกดบัตรคิวกันเป็นขบวน” สิ่งที่ท่านเจ้าสัวสุรเดชกล่าวออกมานั้นล้วนเป็นความจริง...ตั้งแต่ที่ไฮโซน้ำหนึ่งเปลี่ยนโฉมปรับลุคการแต่งตัวก็มีชายหลายคนทั้งไฮโซ ทั้งเซเลบ ทั้งดารา
“โอ๊ย!!” เสียงโอดโอยของสิงห์ร้องดังขึ้นเมื่อเพื่อนสนิทอย่างกระทิงจิ้มจุ่มสำลีลงบนบาดแผลบริเวณมุมปากของเขาอย่างแรง “เจ็บนะเว้ยไอ้กระทิง”“สมน้ำหน้า!! ทำอะไรโง่ๆ นะมึงเนี้ย แล้วก็ลำบากกูกับไอ้เหยี่ยวต้องมานั่งเป็นเพื่อนมึงตีสองตีสามขนาดนี้” กระทิงล่ะเหลืออดกับเพื่อนคนนี้เสียจริง“ก็กูเดือดร้อนจริงๆ นี่!” เดือดร้อนจริงหรือเดือดร้อนเล่นๆ ก็ให้สังเกตจากใบหน้าอันหล่อเหลาที่เดิมทีเคยมีสง่าราศีของสิงห์ตัวพ่อคาสโนว่าระดับประเทศ แต่ทว่าตอนนี้มันถูกประดับประดาด้วยรอยจ้ำแดงๆ ที่มีเลือดสีแดงสดไหลซิบ ทั้งหัวคิ้ว กราม โหนกแก้มทั้งซ้ายขวา มุมปาก แล้วไหนจะรอยช้ำบริเวณแขนและขาหลายจุดอีกด้วย!ก็ไอ้รอยบ้าๆ พวกนี้เกิดขึ้นตอนที่เขาขับรถออกมาจากผับได้ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงหลังจากที่น้ำหนึ่งหายตัวไปนั่นแหละ...และมั่นคงจะเป็นฝีมือใครไปไม่ได้นอกเสีย...“ก็มึงเล่นไปทำกับหลานท่านเจ้าสัวซะขนาดนั้น นี่เขาไว้ชีวิตมึงก็บุญหัวแล้วไอ้สิงห์! เอาจริงมึงนี่ไม่น่าชื่อสิงห์เลยนะ ทั้งนิสัยทั้งสันดานเหี้ยชัดๆ” กระทิงกล่าวอย่างชัดถ้อยชัดคำไม่ได้แลดูเห็นอกเห็นใจเพื่อนสนิทเลยแม้แต่น้อย“ไอ้กระทิง!!”“ก็กูพูดความจริงนี่หว่า ที่ผ่านม
เรือนร่างบางระหงวิ่งลงมาจากชั้นล่างของผับด้วยสภาพใบหน้าแปดเปื้อนหยาดน้ำตาโดยได้ยินเสียงเรียกร้องของสิงห์ตามหลังมาติดๆตุ้บ!! น้ำหนึ่งชนเข้ากับใครสักคน สายตาเล็กค่อยๆ แหงนขึ้นไปมองหน้าเขาแล้วรีบกล่าวคำขอโทษ“ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ”“หนึ่ง!! หนึ่ง!!!”ผู้ชายรูปหล่อเหลา ใบหน้าคมเข้มราวกับเทพบุตรที่ถูกวาดโดยพู่กันแต่งแต้มสีสันลงบนกระดาษร้อยปอนด์ด้วยช่างฝีมือดีระดับโลก คิ้วเป็นคิ้ว ปลายจมูกสันโด่งรับกับริมฝีปากที่มีสีสันสดใสคล้ายกับได้รับการแต่งแต้มด้วยลิปสติก“!!” เขาไหวตัวทันรีบดึงตัวร่างบางมาหลบเอาไว้แนบประชิดแผงอกแกร่งกำยำ ชำเลืองมองดูว่าสิงห์ผ่านออกไปจนแลไม่เห็นแล้วจึงค่อยๆ ผละออก“คุณหนีผู้ชายคนนั้นเหรอครับ?”“คุณช่วยพาฉันออกไปจากที่นี่ทีจะได้ไหมคะ” เธอไม่อยากพบหน้าใครทั้งนั้นแม้กระทั่งคีรินหรืออันนา แต่จะให้ทำอย่างไรในเมื่อเธอวิ่งออกมาตัวเปล่าไม่ได้หยิบแม้กระทั่งกระเป๋าสะพายที่ถูกบรรจุกุญแจรถเอาไว้ติดไม้ติดมือด้วย“ครับ” เขาไม่ปฏิเสธ..@ทะเลทั้งสองแล่นรถออกมาไกลพอสมควรจนถึงชายหาดแถบพัทยาใกล้ๆ กับกรุงเทพฯ ร่างบางถอนหายใจเฮือกใหญ่ทิ้งตัวลงบนหาดทรายขาวทอดมองทะเลอันกว้างขวางในยามค่