Share

7. เจ้าย่าแย่แล้ว

last update Последнее обновление: 2024-12-04 13:47:05

“ลูกสาวของอุ้มคุยกับใครไม่รู้ค่ะ เราไม่เห็นเขา” ภาณินีกล่าวกับหลวงพ่อเบา ๆ

หลวงพ่อรับฟังนิ่ง ๆ  “หลานน้อยมองเห็นเขาหรือเปล่า”

“เห็นค่ะ เราเจอกันแล้วสองครั้ง”

หลวงพ่อพยักหน้ารับรู้ตามนั้น

ÿ

แก้วเก้ากับเจ้าองค์อินทร์เอาถาดรองน้ำทองเหลืองไปเทรดน้ำใต้โคนไม้ใหญ่ ทั้งคู่เดินกลับเข้ามาพร้อม ๆ กัน  ได้ยินเสียงหลวงพ่ออุดมพูดถึงตอนสำคัญพอดี

“พ้นสงกรานต์ไปแล้ว อาตมาจะออกธุดงค์ขึ้นเหนือ ไปธรรมจาริก เป้าหมาย คือ พระธาตุหลวงเวียงไชย ให้แก้วเก้าเดินทางไปกับแม่ชีสิ โยมก็ไปด้วย”

ภาณินีหันไปหาอธิคม กวักมือเรียกแล้วกระซิบข้อความของหลวงพ่อ

“ยายเก้าจะต้องสอบวัดความรู้  อีกสามเดือนข้างหน้าครับ ช่วงนี้ต้องไปกวดวิชาเพิ่มเติม  ถ้าลูกสอบเสร็จไปแล้วก็น่าจะไปร่วมงานได้ครับ”

“อืม... แล้วอาตมาจะโทรไปบอก หรือโยมจะโทรมาถามเองก็ตามใจ”

ÿ

เจ้าขวัญหล้า หยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดซับน้ำตา  หลวงพ่อเห็นเข้าก็ทักขึ้นว่า “โยมมีเรื่องอะไรทุกข์หนักหนาล่ะนั่น”

หลวงพ่อยิ้มนิด ๆ แววตาอ่อนโยน

“ดิฉันไปอยู่ต่างประเทศหลายสิบปี ห่างไกลวัดวา พอได้ยินเสียงท่านนำสวดและให้พร ก็รู้สึกปลื้มใจค่ะ”

"ธรรมะอยู่กับเรานี่แหละโยม”

“อย่างไรคะ พระคุณเจ้า”

“ลมหายใจเข้าออกนี่ล่ะ ถ้าหายใจเข้าแล้วไม่ออกก็ตาย หายใจออกแล้วไม่เข้าก็ตายใช่มั้ย กายสังขารนี้จะยืนยาว หรือสั้นแค่ไหนก็อยู่ที่ตรงนี้แหละ ลมหายใจนี้สำคัญ แต่อย่าสำคัญว่ามันเป็นของ ๆ เรา มันก็แค่ทำอาการให้เห็นเป็นอย่างนั้น”

“ค่ะ พระคุณเจ้า” เจ้าขวัญหล้าก้มหน้าเช็ดน้ำตา     

 ภาณินียื่นกระดาษทิชชูส่งให้

“ทำใจดี ๆ ไว้ค่ะ นึกถึงหลานชายอีกแล้ว ใช่มั้ยคะ”

“ค่ะ อาจารย์” เจ้าขวัญหล้าตอบ

อลงกตพนมมือไหว้หลวงพ่อ “หลวงพ่อครับ หมอเนตร ภรรยาผม ไปรักษาอาการป่วยทางสมองให้หลานชายอีกคนของ

เจ้าขวัญหล้า ก็อาการทรง ๆ ทรุด ๆ มาตลอด  แล้วเมื่อครู่หมอเนตรโทรมาบอกกับว่าอาการเขาแย่ลงจนน่าเป็นห่วง”

หลวงพ่อมองเจ้าขวัญหล้าด้วยความเห็นใจ

“อายุเท่าไหร่”

“หลานชายดิฉันใช่มั้ยคะ”

“อืม”

“อายุ 25 ปีค่ะ”

“เบญจเพสนี่คนไทยถือกันนัก มันเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของวัยรุ่นกับผู้ใหญ่ บางคนก็ไม่ได้เชื่อถืออะไร แต่ส่วนใหญ่ก็เชื่อกันไว้ก่อน ก็จะไปทำพิธีสะเดาะเคราะห์ต่ออายุกันเรื่อยไป อาตมาเห็นอยู่ว่าการต่ออายุพระศาสนา สืบทอดหลักธรรมของพระพุทธเจ้า สำคัญกว่าการต่ออายุคน หากโยมอยากให้หลานมีอายุยืนยาวออกไปอีก ก็ให้ปวารณาตัวกับพระพุทธศาสนา  กุศลกรรมย่อมจะบังเกิดอย่างมหาศาล และถ้าลูกหลานของโยมได้ทำเช่นเดียวกัน  ทุกข์เข็ญที่บรรพชนของโยมทำไว้แก่ผู้คนจำนวนมาก ก็จะทุเลาเบาบางลงไป ความสุขในจิตในใจของโยมก็มีมากขึ้น ข้อธรรมที่อาตมาบอกไปนั้นให้เอาไปแนะนำหลานชายของโยมด้วย”

หลวงพ่ออุดมสบตาเจ้าขวัญหล้า เจ้าองค์อินทร์ และเจ้าเทพนรินทร์ทีละคน หลังจากนั้นก็หันหน้าไปพูดกับภาณินีและอธิคม

“เมื่อยี่สิบก่อน อาจารย์อธิคมและอาจารย์ภาณินีไปหาอาตมา ตอนนั้นอาตมารับราชการเป็นปีสุดท้าย พอรู้เรื่องว่าอาจารย์ค้นพบพระธาตุ  อาตมาก็ไปกับพวกเขา พร้อมลูกน้องหลายคน”

“ค่ะ หลวงพ่อ อุ้มกับพี่คมจำได้ดี ถ้าไม่เห็นว่าลูกตัวโตขนาดนี้ ก็ยังคิดว่าเรื่องนั้น เพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เอง”

หลวงพ่ออุดมสบตานิ่ง ๆ กับภาณินีและอธิคม “พระธาตุหลวงเวียงไชยที่โยมค้นพบนั้นทำให้อาตมาได้คิด และตัดสินใจออกบวชทันทีหลังเกษียณอายุราชการ อาตมาเป็นพระสงฆ์เมื่อตอนอายุหกสิบ มีเวลาเหลือน้อย แต่ก็มุ่งมั่นพากเพียรฝึกฝนไม่ให้อายพระหนุ่ม ๆ  มีอาจารย์สอนวิปัสสนากัมมัฏฐานรูปหนึ่ง  อาตมาฝึกฝนอบรมจิตมากับท่าน และนำมาปรับใช้ให้เหมาะกับจริตของตัวเอง พระรูปนั้นตอนนี้อายุท่านราวสี่สิบเศษ ๆ ท่านอยู่ที่วัดถ้ำผาเชียงม่อน เชียงราย ถ้าโยมไม่ติดขัดอะไรก็ไปกราบท่านขอให้ท่านแนะนำวิธีปฏิบัติที่ถูกที่ควร อานิสงส์ที่จะเกิดขึ้นย่อมมีอย่างแน่นอน“          

“วัดถ้ำผาเชียงม่อนหรือคะ”

“อืม ...และนี่ก็เป็นความตั้งใจหนึ่งที่อาตมาจะทำถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมจาริก ที่จะไปกัน ก็คัดเอาแต่ผู้สมัครใจและมีสุขภาพแข็งแรงพอที่จะเดินเท้าไกล ๆ  เอาล่ะนะ อาตมาจะต้องขึ้นหอฉันแล้ว โยมก็ขึ้นไปด้วย  หลานชายของโยมคนนั้น เขาชื่ออะไร นามสกุลอะไร”

“เลอสรวง ณ แมนรัตน์ สมิธ ค่ะ” เจ้าขวัญหล้าตอบ

“หลานน้อยจดให้หลวงปู่ที” หลวงพ่อใช้แก้วเก้าจดชื่อหลานชายของเจ้าขวัญหล้า “เป็นลูกครึ่งหรือ” ท่านถามต่อ

“ค่ะ พ่อของเขาเป็นชาวอังกฤษ เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ส่วนเลอสรวงที่นั่งรถคันนั้นไปกับพ่อของเขา ตัวเขาบาดเจ็บสาหัสกลายเป็นเจ้าชายนิทราค่ะ”

ÿ

เมื่อตอบหลวงพ่อแล้ว หัวใจของเจ้าขวัญหล้าเริ่มเกิดอาการทำงานผิดปกติ แต่เธอพยายามฝืนเอาไว้  เจ้าองค์อินทร์และเจ้าเทพนรินทร์เห็นหญิงชราหายใจติด ๆ ขัด ๆ ก็ขยับเข้าใกล้เจ้าย่าของเขาอย่างห่วงใย

“ไม่สบายหรือโยม อย่าเพิ่งเป็นอะไรไปล่ะ รอหลานชายหายก่อน” หลวงพ่อหัวร่อเบา ๆ

“ดิฉันจะอยู่ถึงวันนั้นแน่หรือคะ…”

เจ้าขวัญหล้ายกมือกุมหัวใจ แล้วตัวงอลงไปกองกับพื้น

“เจ้าย่า!”

เจ้าองค์อินทร์ถลันเข้าช้อนแขนประคองร่างหญิงชรา

“นรินทร์ ยาของเจ้าย่าในกระเป๋าช่องหน้าสุด เร็ว!”

เจ้าเทพนรินทร์ล้วงหายารักษาโรคหัวใจ แล้วป้อนให้เจ้าขวัญหล้ารับประทาน

“โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดอยู่ทางไหนครับ รบกวนช่วยนำทางไปที” เจ้าองค์อินทร์พูดกับอลงกต

หลวงพ่อโบกมือ “ไม่ต้องถึงโรงพยาบาลหรอกโยม ที่นี่มีห้องพยาบาลและมีหมอประจำอยู่” ท่านหันไปสั่งแก้วเก้า

“หลานน้อยนำทางโยมคนนี้ พาไปหาแม่ชีที่ห้องพยาบาลนะ” หลวงพ่อสั่งแก้วเก้า

“ค่ะ หลวงปู่ แต่ห้องพยาบาลไปทางไหนคะ เก้าไม่รู้”

“ใต้ถุนวิหารหลังโน้น เห็นมั้ยตึกข้างหน้านั่นน่ะ”

“อ๋อ...ค่ะ” 

แก้วเก้าคุกเข่า คลานออกไป เจ้าองค์อินทร์อุ้มร่างเจ้าย่า วิ่งตามหลังแก้วเก้าอย่างรวดเร็ว เจ้าเทพนรินทร์ถือกระเป๋าวิ่งตามไปอีกคน  

ÿ

เณรรูปหนึ่งหน้าตาสะอาดหมดจด รูปร่างอ้วนท้วนสมบูรณ์และมีทีท่าว่าจะกลายเป็นคนตัวสูงใหญ่ในอนาคต เดินเข้ามาใกล้แล้วนิมนต์หลวงพ่อไปรับภัตตาหารเพล

หลวงพ่ออุดมบอกกับภาณินี อธิคม อลงกต ว่า “รออาตมาฉันเพลเสร็จแล้วค่อยขึ้นไปคุยกันที่กุฏิต่อนะ”

“หลวงพ่อคะ เจ้าขวัญหล้าจะเป็นอะไรมากหรือเปล่า”

“ไม่เป็นอะไรหรอก เดี๋ยวก็ฟื้น แล้วก็จะหายเอง”

หลวงพ่อลุกขึ้นยืน จัดผ้าสบง จีวรให้เข้าที่เรียบร้อย  

“อืม...มีเวลาทั้งวันนี่โยม จะรีบร้อนไปไหนกัน ค่อย ๆ คุยกันไป” หลวงพ่อหันไปถามเณร  “พระ เณร มากันครบแล้วเหรอ”

“ครบแล้วครับ หลวงปู่” เณรสมชายตอบอย่างสำรวม

ÿ

เจ้าองค์อินทร์อุ้มเจ้าขวัญหล้ามาวางยาวอยู่บนที่นอนบาง ๆ ซึ่งปูราบบนเตียงไม้ แม่ชีใช้เครื่องมือแพทย์มาตรวจวัดความดัน และชีพจร สอบถามประวัติจากญาติของคนป่วย อย่างคล่องแคล่ว

เจ้าเทพนรินทร์ส่งซองยารักษาโรคหัวใจของเจ้าย่าให้แม่ชี

“คุณเป็นหมอด้วยหรือครับ”

ชายหนุ่มมองสตรีวัยไม่เกินหกสิบ ผิวพรรณ หน้าตาหมดจด ศีรษะโกนเกลี้ยงเกลาได้รูปสวยรับใบหน้าที่มีเค้าความสวยหวาน

“เป็นความรู้เก่าที่ติดตัวมาค่ะ”

“ทำไมหมอมาเป็นแม่ชีด้วยล่ะ” เจ้าเทพนรินทร์แปลกใจ แก้วเก้าและเจ้าองค์อินทร์ พลอยอยากรู้ความจริงไปด้วย

“ฉันเป็นหมอรักษาร่างกายคน  เรื่องของจิตใจ ฉันให้พระธรรมรักษา หายสงสัยหรือยัง ฉันจะได้รักษาโยมคนนี้ต่อ”

“ครับ” คนถามมีอาการเขินนิดหน่อย “ผมให้ท่านทานยาไปเมื่อครู่นี้ครับ”

“เชิญคุณสามคนขึ้นไปบนหอฉันเถิด ให้โยมนอนพัก  พอร่างกายและจิตใจผ่อนคลายก็จะดีขึ้นเอง”

แก้วเก้าคลานไปนั่งพับเพียบข้าง ๆ เจ้าขวัญหล้า 

“เก้าเฝ้าให้ค่ะ คุณเจ้าองค์อินทร์กับพี่นรินทร์ขึ้นไปทานข้าวเถอะ” 

“ถ้างั้น เดี๋ยวพี่จะรีบลงมานะ” เจ้าเทพนรินทร์บอก  ก่อนจะเดินตามหลังพี่ชายไปอย่างรวดเร็ว

แก้วเก้าชะเง้อมองแผ่นหลังของชายหนุ่มคนที่เดินไปไกล “จะขอบใจเราสักคำก็ไม่มีเลย ชิ!”

“ความดีที่เราทำให้เราสุขได้ ไม่ต้องหวังอะไรตอบแทนหรอก” แม่ชียิ้ม แล้วบอกแก้วเก้า 

“ไปตักอาหารที่โรงทาน กินเสียก่อน แล้วค่อยมาเฝ้า  แม่ชีก็ต้องขึ้นหอฉันด้วยเหมือนกัน”

“ค่ะ” แก้วเก้าลุกขึ้น เดินตามแม่ชี แต่แยกไปอีกทางหนึ่ง ซึ่งแม่ชีบอกว่าเป็นโรงทาน

ÿ

เจ้าขวัญหล้านอนอยู่ในห้องพยาบาลแต่เพียงผู้เดียว  แม่ชีวิชชุพรปิดประตู ป้องกันบุคคลภายนอกเข้าไปรบกวน

เจ้าขวัญหล้าเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างในห้องนั้น แต่เธอสื่อสารกับใครไม่ได้ และไม่สามารถเดินออกไปนอกห้องพยาบาลนั้นได้ ขณะเดียวกันบรรยากาศรอบ ๆ ตัวเริ่มมืดมนลงเรื่อย ๆ สองมือไขว่คว้าหาที่ยึดเกาะ

“ฉันอยู่ที่ไหนกัน ช่วยด้วย ช่วยด้วย องค์อินทร์ ช่วยย่าด้วย”

เจ้าขวัญหล้านึกถึงหลานชายคนโต แล้วต้องสะดุ้งสุดตัว เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะกึกก้อง เธอเริ่มมองเห็นร่างสูงใหญ่สองตน ในชุดเสื้อผ้ามันวาวสีเขียวและสีแดง ก้าวยาวย่างสามขุม    คนชุดแดงถือหลาวยาวปลายสีเงินคมกริบ  คนชุดเขียวถือกระบองใหญ่สีเหล็กมีหนามแหลมเล็ก ๆ ทั่วทั้งกระบอง

เจ้าขวัญหล้า มองเห็นดังนั้นก็ตื่น ลนลาน วิ่งหนี ล้มลุกคลุกคลาน แข้งขาถลอกปอกเปิก             

“องค์อินทร์ นรินทร์ ช่วยย่าด้วย ช่วยย่าด้วย” 

“เวลาของเจ้าบนโลกมนุษย์หมดสิ้นแล้ว” คนชุดแดง  ยกหลาวด้วยมือทั้งสองข้าง ปลายแหลมจ่อจดตรงกลางขม่อมของหญิงชรา เธอรู้สึกเย็นเยียบไปทั้งร่าง พนมมือขึ้นระหว่างอก ตัวสั่นงันงก

“ขอร้องเถิดค่ะ ไว้ชีวิตฉันด้วย…”

คนชุดเขียวก้าวมา ยื่นมือมาแตะข้อมือของคนชุดแดงให้ลดคมหลาวลง

“มนุษย์ก็มีแต่เรื่องแก้ตัว มีข้ออ้างทุกที” คนชุดแดงยั้งมือ

“ถ้าเขาอยากแก้ตัว เพราะกลับใจทำความดี เราก็ต้องให้โอกาสเขา มิเช่นนั้นจะมีมนุษย์คนใดอยากทำความดีอีกล่ะ”

ดวงไฟแสงสีทองเหนือศีรษะของเจ้าขวัญหล้า แต่พลังแสงนั้นกำลังริบหรี่ลง  

“กุศลกรรมของวิญญาณดวงนี้ยังมีผลอยู่ และอยู่ได้จนถึงเวลา 24 นาฬิกาของวันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายนปีนี้”

“แต่กรรมฆ่าคน ทำให้เวลาของมันหมดลงในเวลา 12 นาฬิกาของวันนี้แล้ว”  

"กว่าจะได้เกิดมาเป็นมนุษย์นั้นแสนยาก ข้าเห็นว่าหญิงคนนี้เป็นเนื้อนาบุญของพระพุทธศาสนา โทษกรรมความผิดในชาติก่อนยังรอไว้ได้ อีกอย่างคนที่นางลงมือฆ่านั้นก็ทำผิดต่อแผ่นดินเท่ากับนางคนนี้ช่วยคนหลาย ๆ คนให้พ้นจากความทุกข์ร้อน”

เจ้าขวัญหล้าก้มลงกราบที่เท้าของคนชุดเขียวและสังเกตเห็นว่า ขนาดเท้าของเขาใหญ่โตมาก   

“เจ้าเกิดเป็นมนุษย์ จงใช้สติปัญญาของเจ้าให้เกิดประโยชน์ เวลาที่เหลืออยู่อีก 6 เดือน 9 วัน”

“ค่ะท่าน…” หญิงชราลนลานก้มกราบหวาดกลัวจนกายสั่นระริก

เจ้าขวัญหล้าหมอบกราบคุดคู้อยู่กับพื้น แล้วค่อย ๆ เหยียดตัวยาว แผ่นหลังแนบกับพื้นเย็น จากนั้นค่อย ๆ ยันร่างลุกขึ้นอีกครั้ง เดินไปในโพรงลึก ตามทางที่เห็นชายสองคนหายไป เดินไปราวสิบก้าว ก็เห็นแสงสว่างสะบัดไปตามแรงส่งของเปลวเพลิง  ภาพข้างหน้าชวนสยดสยองพองขน ผู้คนเปลือยกายดิ้นรนร้องโหยหวนทุกข์ทรมานอยู่ในกระทะทองแดง  เหล่านิรยบาลใช้หอกแหลมทิ่มแทง ผู้ที่พยายามปีนหนีออกมา  หญิงสาวสองคนในกระทะนั้น พอเห็นเจ้าขวัญหล้าก็ร้องเรียกให้ช่วย

“แสนคำ! โอ แสนคำ ช่วยข้าด้วย ช่วยข้าที” น้ำเสียงโหยหวน สะท้านนรกภูมิ

หญิงชราเดินออกจากที่ตรงนั้น ถัดไปเป็นที่ทรมานพวกมักมากในกามคุณ ผิดลูกผิดเมียผู้อื่น ร่างกายเปลือยเปล่าท่อนเนื้อหลุดออกจากร่างเหวอะหวะ เหล่านิรยบาลเอาหอกแหลมไล่ทิ่มแทงชายหญิงปีนขึ้นต้นงิ้วเหล็ก ขึ้นไปแล้วผู้ควบคุมอยู่บนยอดก็ไล่แทงให้ไต่ลงมา เวียนวนอยู่เช่นนี้ ครั้งแล้วครั้งเล่า

“เจ้าศรีเวียงไชยะ” เจ้าขวัญหล้ารู้จักเขา “คำหล้า” เธอเรียกชื่อหญิงคนหนึ่ง กำลังไต่ลงจากต้นงิ้วอย่างทุลักทุเล หน้าตาบิดเบี้ยว ครวญครางเจ็บปวดเหลือแสน

“โอ...” เจ้าขวัญหล้าตัวส่ายโอนเอน  “อะไรกัน”

ยมบาลช้อนร่างของเจ้าขวัญหล้า แล้วอุ้มขึ้น เจ้าขวัญหล้ารู้สึกตัวลอยหวือเหมือนถูกเหวี่ยงขึ้นที่สูง ลอยคว้างกลางอากาศแล้วตกลง

ÿ

เสียงไอ คุก! คุก! ดังอยู่สองสามครั้ง แก้วเก้ารับประทานอาหารกลางวันแล้ว กลับเข้ามาดูแลเจ้าขวัญหล้า เธอเอื้อมมือไปแตะตัวหญิงชรา เมื่อเห็นว่าเจ้าขวัญหล้าได้สติแล้ว

“เป็นอย่างไรบ้างคะ”

เจ้าขวัญหล้าค่อย ๆ ปรือตาขึ้นมองไปรอบ ๆ “ที่ไหนกัน”

“ห้องพยาบาลของวัด เจ้าย่าเป็นลมแน่นิ่งไปค่ะ”

“แก้วเก้า ฉันรู้สึกว่าหลับไปนานมาก”

“ราวสองชั่วโมงได้ค่ะ” แก้วเก้าตอบสั้น ๆ “หลวงพ่อรออยู่ที่กุฏิแล้วค่ะ”

เจ้าขวัญหล้าค่อย ๆ  ลุกขึ้นนั่ง นัยน์ตาสว่างกระจ่างแจ้ง ไม่พร่าลางเลือนเหมือนก่อน

“ลองค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนสิคะ” แม่ชีวิชชุพรเข้ามาช่วยแก้วเก้าพยุงร่างของหญิงชราจากที่นอน  

“ไม่เป็นไรจริง ๆ ค่ะ แม่ชี ดิฉันหายแล้ว รู้สึกดีขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน”

“ถ้าอย่างนั้นก็ทานอาหารนี่เสียก่อนค่ะ” แม่ชีตักข้าวต้มหมูสับป้อนเจ้าขวัญหล้า แก้วเก้าเข้ามาช่วยดูแลป้อนข้าวต่อ

“เจ้าย่าครับ”เจ้าองค์อินทร์กับเจ้าเทพนรินทร์นั่งรอดูอาการของญาติผู้ใหญ่อยู่ด้านนอก 

“เป็นอย่างไรบ้างครับ ไปโรงพยาบาลเช็คสุขภาพอีกทีนะครับ” หลานชายคนเล็กชวนกลับ

เจ้าขวัญหล้าโบกมือข้างหนึ่ง “ไม่ไป... ย่ายังไม่ไปไหน ... พาย่าไปหาหลวงพ่อที ย่าอยากพบท่านอีก”

“ครับ พระท่านฉันเสร็จก็กลับเข้ากุฏิ พวกอาจารย์ภาณินี เข้าไปนั่งรออยู่ที่ห้องรับรองแขกที่กุฏิหลวงพ่อ”

“ดีสิ ไปกัน องค์อินทร์ พาย่าไปที” เจ้าขวัญหล้าฉวยข้อมือหลานชายคนโต

เจ้าองค์อินทร์รู้สึกว่าย่าเปลี่ยนไป กระฉับกระเฉงคล่องแคล่ว และใจร้อนขึ้น 

“ครับเจ้าย่า เชิญครับ กุฏิท่านอยู่ด้านโน้น” ชายหนุ่มชี้ไปอีกทาง

“ถ้าพวกเราจะกลับก่อนก็ไม่เป็นไรหรอกครับเจ้าย่า ไปหาหมอก่อน เพื่อความปลอดภัย”

เจ้าเทพนรินทร์ยังไม่เห็นด้วยที่จะอยู่ต่อ              

“เจ้าพี่ ไม่ห่วงเจ้าย่าหรือไงครับ ไปหาหมอก่อนดีกว่า ค่อยพามาคุยกับหลวงพ่อวันพรุ่งนี้ก็ได้”

“ย่าบอกเจ้าแล้วว่าไม่เป็นอะไร ถ้าอยากจะกลับก็กลับไปเถิด ย่ากลับแท็กซี่กับองค์อินทร์ได้”

“เจ้าย่า!” เจ้าเทพนรินทร์อึ้งชั่วขณะ พี่ชายตบไหล่เบา ๆ

“นรินทร์ตามใจเจ้าย่า  อะไรที่ทำให้ท่านสบายใจ พอใจ เราก็ควรจะทำไม่ใช่หรือ น้องเคยบอกพี่เองแท้ ๆ หึ หึ”

“ครับ เจ้าพี่” เจ้าเทพนรินทร์ยอมจำนน เขาเองเป็นฝ่ายรบเร้าให้เจ้าย่าพาเลอสรวงมารักษาตัวที่เมืองไทย         ทั้งสามคนเดินตามกันไปผ่านร่มไม้และหอฉัน เข้าเขตสังฆาวาส

 กุฏิของหลวงพ่ออุดม มีระเบียงกว้างปูเสื่อไว้รับรองแขก  ดอกเตอร์อลงกตและดอกเตอร์ภาณินีนั่งคุยกันสีหน้าเคร่งเครียด   

แก้วเก้าเดินเล่นอยู่ใต้ต้นลีลาวดี ตรงลานวัด  เจ้าองค์อินทร์ไม่เห็นดอกเตอร์อธิคม  เขามองเด็กสาวอย่างไม่ต้องเกรงกลัวสายตาผู้เป็นพ่อของเธอ นึกคิดอยู่ในใจว่า นิสัยของเธอคลับคล้ายกับนิสัยของเขา   

ÿ

ภาณินีและอลงกต มองเห็นหญิงชราเดินเข้ามาอย่างคล่องแคล่วก็อดแปลกใจไม่ได้

“เชิญค่ะเจ้าขวัญหล้า นั่งรอหลวงพ่ออีกสักหน่อยค่ะ ดีขึ้นแล้วเหรอคะ เจ้ารับประทานอาหารกลางวันหรือยังคะ” ภาณินีถามด้วยความห่วงใย

“แม่ชีท่านทำข้าวต้มร้อน  ๆ มาให้รับประทานแล้วค่ะ อาการของดิฉันดีขึ้นอย่างเหลือเชื่อเลยค่ะ ดิฉันไม่เหนื่อยหอบ หายใจคล่อง สมองปลอดโปร่ง ตั้งแต่...เอ้อ ฟื้นขึ้นมา” เจ้าขวัญหล้ายังไม่สะดวกที่จะบอกกล่าวสิ่งที่เธอเพิ่งพบเจอ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สายน้ำในความทรงจำ   59. สายน้ำกับความรัก

    เจ้าขวัญสรวง ดอกเตอร์อลงกต หมอเนตรดาว ภาณินี อธิคม เจ้าเทพนรินทร์และท้าวศรีโสภางค์ มาแสดงความยินดีกับเธอ เพื่อนทั้งชายและหญิงห้อมล้อมของถ่ายรูป สลับสับเปลี่ยนกันไปมาแก้วเก้าส่งปริญญาบัตรให้อธิคมและภาณินีชื่นชม ทั้งคู่เปิดออกอ่าน แล้วส่งต่อให้เจ้าองค์อินทร์ เขารับมาถือไว้กับตัว ภาณินีหรี่ตามองว่าที่ลูกเขย“เห็นมั้ยว่าพี่ส่งอะไรให้เจ้า”“ครับ” เจ้าองค์อินทร์ ถูกลูกศิษย์ภาคการละครดึงตัวไปถ่ายรูป พร้อม ๆ กับแก้วเก้า “อะไรนะครับอาจารย์”“หืม... จนป่านนี้ยังเรียกว่าพี่กับอาจารย์กันอยู่อีก” หมอเนตรดาวหัวเราะ ชวนทุกคนเข้าไปที่ห้องทำงานของอลงกตบนอาคารคณะศิลปกรรมอลงกตก็ถูกเชิญถ่ายรูปกับนิสิตเหมือนกัน จนทุกคนพอใจแล้ว อลงกตจับมือหลานสาวกลับมาที่ห้องทำงานของเขา เจ้าองค์อินทร์เดินตามมาด้วยกันเจ้าขวัญสรวงชราลงไปมาก แต่ก็คงความสดใส และมีความสุข เธอลุกขึ้นยืน เมื่อเห็นหลานชายเดินเข้ามา เจ้าองค์อินทร์กับแก้วเก้าต่างโผเข้าไปประคองและกอดด้วยความรักและคิดถึง&ldqu

  • สายน้ำในความทรงจำ   58. คู่หมั้นหายไป

    “นายปริญญายังมีไพ่ใบสุดท้ายอยู่กับตัวคือคุณวิชุดา หลวงพ่อยังไม่ปลอดภัยอยู่ดี”“คุณวิชุดาเป็นแม่ของพระองค์อินทร์ จะว่าไปเราก็เกี่ยวดองกับเธออยู่นะ”ภาณินีค้อนสามี“อุ้มกลัวผู้หญิงคนนี้นะคะ พูดถึงเรื่องหมั้นของลูกกับเจ้าองค์อินทร์ ของหมั้นไปอยู่กับหลวงพ่อเสียแล้ว หลวงพ่อบอกพี่คมหรือเปล่าว่าท่านเอาสร้อยไปทำไมคะ”“อืม ไม่ได้บอกอะไรเลย” อธิคมพับหนังสือพิมพ์สอดเก็บเข้าซอง“ท่านต้องมีเหตุผล แต่บอกเราไม่ได้”แก้วเก้าเลื่อนศีรษะที่หนุนหัวไหล่มารดาอยู่ เอาปากเข้าไปใกล้ ๆ กระซิบข้างหูของมารดาเบา ๆภาณินีพูดพึมพำตามที่ได้ยิน แก้วเก้ายกมือปิดปากมารดา เกรงว่ามารดาจะหลุดปากพูดให้ใครได้ยิน อธิคมเห็นภรรยาเบิกตาโพลง“เก้าบอกอะไรแม่ เก้ารู้ใช่มั้ยลูก..!”แก้วเก้าผงกศีรษะสองที แล้วหลับตาลงไปด้วยความอ่อนเพลีย ภาณินีกระซิบบอกต่อสามี“มณีแก้วเก้า คือ แก้วจุฬามณีบนพระนลาฎพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองเชียงรุ้งค่ะ”&ld

  • สายน้ำในความทรงจำ   57. สิ้นเจ้าแมนสรวง

    ปัง ! ปัง! ปัง!“ทางนั้น... เสียงมาจากทางนั้น…!” พระเทพนรินทร์ชี้มือไปข้างหน้า“ฟังดูดี ๆ เสียงปืนดังมาจากปืนคนละกระบอก แล้วก็เหมือนยิงขึ้นฟ้า มันลงมือขุดกันไปแล้วละมัง”เจ้าแมนสรวงผงกศีรษะ เขามองพระหนุ่มทั้ง 3 รูป“พวกเราไม่มีอาวุธเลย แล้วจะต่อสู้อย่างไร”“โยมน้า ไม่เคยได้ยินคำว่า ธรรมะชนะอธรรมเหรอครับ” พระเลอสรวงกล่าว ริมฝีปากเหยียดยิ้ม“น้าเคยได้ยิน เดินตามรอยเท้านั่นไป มันแบกลากอะไรเดินไปด้วย ดูสิ รอบ ๆ รถของมัน รอยเท้าของคนไม่เกิน 10 คนได้”“9 คนครับ หายไปคนหนึ่ง เพราะถูกตำรวจจับเมื่อเช้า” คำปันเดินตามมาส่ง จนพ้นแนวต้นไม้ หนา ๆ เห็นทางไปพระธาตุหลวงเวียงไชย “ตำรวจยึดปืนมันได้ มันยิงหลวงพ่ออุดมแล้ว แต่ปืนไม่ลั่น ผมคิดว่า พวกท่านก็ต้องปลอดภัยเหมือนกัน เพราะท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่ออุดม”“ไม่หรอกนะ คำปัน แต่ละคนก็มีกรรมเป็นของ ๆ ตน เอาล่ะ ส่งแค่นี้ โยมเข้าไปรออยู่ในรถ เราจะเข

  • สายน้ำในความทรงจำ   56. แก้วจุฬามณี

    บานประตูห้องด้านขวา ขยับเปิดออก พระองค์อินทร์ยกขาก้าวให้พ้นขอบประตูซึ่งยกขึ้นมาสูงระดับครึ่งหน้าแข้งของเขา แก้วเก้าเห็นเป็นพระองค์อินทร์ก็ก้มหน้าลงมองพื้นกระดาน“โยม... นี่ กุญแจห้องนั้น” “คะ” แก้วเก้ารู้สึกกลัวขึ้นมา “ทำไมเก้าต้องไปอยู่ที่นั่นคนเดียวด้วย”พระองค์อินทร์ยิ้มปลอบใจ“หลวงพี่ล่ะคะ หลวงพี่อยู่ที่ไหน”“อาตมาอยู่ที่นี่”“ห้ามสีกาเข้ามาข้างใน แล้วทำไมเก้าเข้ามาได้ล่ะคะ”“ห้องนี้ต่างหากที่โยมเข้ามาไม่ได้” หลวงปู่สิงห์ เจ้าอาวาสยืนประสานมือไขว้ สำรวมกายอยู่ด้านหลังของแก้วเก้า“ส่วนห้องนั้น เป็นที่ประทับของเจ้านางในคุ้มหลวง ยามที่ท่านมาปฏิบัติธรรม เป็นสมบัติตกทอดของเชียงรุ้ง อาตมาให้ยกมาจากห้องใต้ดิน ใต้ฐานองค์พระธาตุหลวงเวียงไชย”หลวงปู่สิงห์เดินไปเปิดห้องด้านซ้ายเอง ท่านมองแก้วเก้า แล้วเรียกให้เธอเข้าไปแก้วเก้าลุกขึ้น หลวงปู่สิงห์ถอยห

  • สายน้ำในความทรงจำ   55. นักล่าสมบัติ

    “ค่ะ” หมอเนตรดาว ฉวยกระเป๋าถือ พยักหน้าเรียกภาณินีให้ไปด้วยกันอธิคมยิ้มให้กำลังใจภรรยา “ไปก่อนเถอะจ้ะ เดี๋ยวพี่ตามไป ตอนเช้าจะได้พบลูกแล้วนะ”ภาณินียกมือโบกลา แล้วเดินตามพี่สะใภ้ไปขึ้นรถตู้อลงกต อธิคม และชัยยศ นั่งคุยกันต่อ พวกเขาชวนกันไป สำรวจตลาดบ้านแม่ปิน ใกล้ ๆ โมเต็ลที่คนพวกนั้นพักÿชายหนุ่มทั้ง 3 คน ออกไปเดินคุยกันข้างนอกบริเวณที่พัก “ผมกับภรรยาเคยมาทำงานวิจัยที่นี่เมื่อหลายสิบปีก่อน งานวิจัยของเรา อาจชักนำให้คนพวกนี้อยากมาขุดหาของโบราณของเก่า”อธิคมเริ่มเล่าเรื่องหลวงพ่ออุดม เถ้าแก่ซ้ง แซ่สุน อดีตเจ้าของโรงสี ปากน้ำโพธิ์ ให้ชัยยศฟังคร่าว ๆ เป็นข้อมูลว่าเรื่องนี้มีที่มาที่ไปและอาจเกี่ยวข้องกับคน 10 คนนั้น“พี่กต คุณชัยยศครับ เราต้องเข้าไปที่นั่นก่อนพวกมัน ถ้าไปทีหลัง อาจเตือนชาวบ้านไม่ทัน” อธิคมแสดงอาการวิตกกังวลมากขึ้น“ค่ำแล้ว ไปไม่ได้หรอก นอกจากจะไปเช้า แต่ถ้าเราเข้าไปข้างใน ก็จะไม่ได้เจอกับหลานตอนเช้า นอกจากแบ่งกัน แล้วใครจะอย

  • สายน้ำในความทรงจำ   54. เพื่อนเก่าปมแค้น

    “ฟังปะป๊านะ ปูเป้ ตั้งสติให้ดี ๆ เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เพิ่งเกิดเป็นครั้งแรกกับครอบครัวของเรา อากงก็เคยถูกตำรวจจับตัวออกจากบ้าน ทิ้งกิจการทั้งหมดอาม่าเป็นคนดูแลจนตกทอดมาอถึงปะป๊า คราวนี้ก็เหมือนกันถึงปะป๊าจะไม่อยู่ ปูเป้ต้องดูแลกิจการต่อไปและต้องเป็นผู้ใหญ่นะ ไม่งั้นจะบริหารกิจการและสั่งใช้คนในบ้านไม่ได้”“แล้วปะป๊าทำผิดจริง ๆ หรือเปล่า บอกหนูมาตรง ๆ สิคะ”“ป๊า เฮ้ย! อย่ารู้เลย”ปรินดาคิดหาทางช่วยเหลือบิดา “นรินทร์กับคุณป้าวิชุดาต้องช่วยปะป๊าได้ ”“ไม่ได้นะ” เสียงตวาด ทำเอาปรินดาตกใจ“ทำไมปะป๊าต้องทำเสียงดังอย่างนั้นด้วย ปูเป้เป็นห่วงปะป๊านะ” ปรินดาหน้าแดง รู้สึกโกรธและงอนบิดาระคนกัน “ลุงสมิธ เป็นลุงของนรินทร์กับอินดี้ แล้วปะป๊าไปเกี่ยวข้องกับเขายังไง ถึงกลายเป็นผู้ต้องสงสัยฆ่าเขาล่ะคะ”“มันเข้าใจผิดกันไปเอง” ปริญญาควักบุหรี่มาจุดแล้วสูบอัดควันเข้าปอดแรง ๆ แต่ลูกสาวปรี่เข้ามาคว้าแล้วขว้างทิ้ง “หมอสั่งห้ามแล้ว ปะป๊าย

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status