LOGINยามเช้าของวันใหม่มาถึง แสงอาทิตย์สาดส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาในห้องเล็ก ๆ ของขวัญอุษา ความอบอุ่นจากแสงแดดทำให้เธอตื่นขึ้นด้วยความรู้สึกสดชื่นกว่าทุกวัน วันนี้เป็นวันที่เธอรอคอยมานาน วันที่เธอจะได้ช่วยเหลือพ่อของเธออย่างแท้จริง
หลังจากจัดการกับงานประจำวันเล็กน้อย ขวัญอุษาก็รีบเก็บเงินที่ได้รับจากคุณหญิงธัญญาใส่ซองอย่างระมัดระวัง เธอรู้ว่านี่คือโอกาสที่สำคัญสำหรับพ่อของเธอ และเป็นการเริ่มต้นใหม่ของชีวิตที่ดีขึ้น
เด็กสาวเดินออกจากบ้านใหญ่ ตรงไปยังธนาคารในละแวกใกล้เคียง เพื่อส่งเงินจำนวนนี้กลับไปให้พ่อที่ต่างจังหวัด ระหว่างทางหัวใจของขวัญอุษาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความโล่งใจ ที่ในที่สุดเธอก็สามารถทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับพ่อได้ เธอรู้ดีว่าการช่วยพ่อปลดหนี้คือสิ่งที่เธอใฝ่ฝันมาตลอด
เมื่อเด็กสาวเดินมาถึงธนาคารที่เธอถามมาจากพี่สายใจ เธอเดินเข้าไปด้วยท่าทางมั่นใจ แม้ว่าจะมีความกังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับการทำธุรกรรม แต่ขวัญอุษาก็ก้าวไปข้างหน้าด้วยหัวใจที่แน่วแน่
“สวัสดีค่ะ หนูต้องการส่งเงินกลับไปต่างจังหวัด หนูต้องทำยังไงบ้างคะ” เด็กสาวบอกกับพนักงานด้วยน้ำเสียงที่สุภาพ และยื่นซองเงินพร้อมข้อมูลการส่งให้พนักงาน
พนักงานตรวจสอบข้อมูลอย่างรวดเร็ว ก่อนจะยิ้มและกล่าวกับขวัญอุษา “เรียบร้อยแล้วค่ะ หนูสนใจเปิดบัญชีกับทางธนาคารไหมคะ จะได้ไม่ต้องเดินทางมาเองทำธุรกรรมผ่านออนไลน์ได้เลย” พนักงานธนาคารแนะนำขวัญอุษาทำให้เด็กสาวเปิดบัญชีธนาคารและผูกกับโทรศัพท์เอาไว้เพื่อความสะดวกเพราะจะขอออกมาบ่อยๆ ก็เกรงใจคุณหญิงธัญญา เมื่อจัดการธุรกรรมต่างเสร็จขวัญอุษาก็รับใบเสร็จมาและยิ้มอย่างโล่งใจ
“ขอบคุณมากค่ะ” เธอกล่าวด้วยความสุภาพ ก่อนจะเดินออกจากธนาคารไปด้วยความรู้สึกเบาใจ
ขณะเดินกลับบ้านใหญ่ เด็กสามรู้สึกถึงความตื้นตันที่ได้ช่วยเหลือผู้เป็นพ่อ เธอรู้ว่าพ่อจะได้รับเงินนี้และสามารถปลดหนี้ได้ในเร็ววัน ความภาคภูมิใจและความตื้นตันในใจของเธอเอ่อล้น ทำให้เธอยิ้มไปตลอดทาง
เมื่อเธอกลับมาถึงบ้านใหญ่ คุณหญิงธัญญาที่นั่งอยู่ในห้องรับแขกก็เห็นเด็กสาวที่เธอเอ็นดูเดินเข้ามาพอดี คุณหญิงยิ้มให้เธออย่างอบอุ่น
“ไปส่งเงินให้พ่อเรียบร้อยแล้วใช่ไหมจ๊ะขวัญ”
ขวัญอุษาพยักหน้าและยิ้มอย่างสดใสไปให้คุณหญิงธัญญา “ค่ะคุณหญิงป้า หนูส่งเรียบร้อยแล้ว พ่อคงจะดีใจมาก ๆ เลยค่ะ ตอนนี้หนูรู้สึกภูมิใจที่ได้ช่วยพ่อ”
คุณหญิงธัญญาพยักหน้าอย่างพอใจ “ดีแล้วจ้ะ หนูทำสิ่งที่ถูกต้องแล้วนะขวัญ พ่อหนูต้องภูมิใจในตัวหนูมากแน่ ๆ”
เด็กสาวก้มหน้าลงเล็กน้อย ยิ้มอาย ๆ ก่อนจะพูดขึ้น “หนูต้องขอบพระคุณคุณหญิงป้ามากนะคะ ที่ช่วยเหลือหนู หนูจะทำงานให้ดีที่สุด เพื่อไม่ให้คุณหญิงป้าผิดหวังค่ะ”
คุณหญิงธัญญายิ้มและเดินเข้ามาแตะไหล่ขวัญอุษาเบา ๆ “ไม่ต้องขอบคุณฉันหรอกจ้ะ ขวัญเป็นเด็กที่ดีและกตัญญู ฉันก็แค่ทำสิ่งที่ถูกต้องไปเท่านั้น ขอให้หนูใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและอย่ากังวลอะไรอีกนะ”
ขวัญอุษาพยักหน้า น้ำตาเริ่มคลอที่ขอบตาด้วยความซาบซึ้งใจ ขวัญอุษารู้สึกว่าชีวิตของเธอเริ่มต้นใหม่อย่างแท้จริง แม้ว่าเส้นทางข้างหน้าจะยังยากลำบาก แต่เธอรู้ว่าเธอไม่ได้อยู่คนเดียว คุณหญิงธัญญาคือผู้ที่มอบโอกาสสำคัญให้เธอ และตอนนี้เธอก็พร้อมที่จะทำงานและใช้ชีวิตด้วยความมุ่งมั่นและความหวัง
หลังจากที่ขวัญอุษาได้ส่งเงินไปช่วยพ่อจนหนี้สินได้รับการจัดการแล้ว ความกังวลในใจของเธอเริ่มลดน้อยลง แต่แทนที่จะผ่อนคลายและดูแลตัวเอง เด็กสาวกลับมีความตั้งใจมากยิ่งขึ้นในการทำงาน เธอรู้สึกถึงความรับผิดชอบที่มากขึ้นจากการที่คุณหญิงธัญญาให้ความช่วยเหลืออย่างมากมาย ขวัญอุษาจึงตั้งใจทำงานทุกอย่างในบ้านอย่างสุดความสามารถและพยายามช่วยเหลือคนอื่นทุกครั้งที่มีโอกาส
ขวัญอุษาเริ่มต้นทุกเช้าด้วยการตื่นก่อนทุกคนในบ้านใหญ่เสมอ เธอจัดดอกไม้ ดูแลสวน และตรวจสอบความเรียบร้อยในห้องรับแขกก่อนที่คุณหญิงจะตื่น เพื่อให้ทุกอย่างพร้อมสำหรับวันใหม่
เช้าวันนี้ หลังจากที่ขวัญทำงานในสวนดอกไม้เสร็จเรียบร้อย เธอเห็นแป้ง สาวใช้คนสนิทในบ้านใหญ่ กำลังพยายามยกกล่องของหนักออกจากห้องเก็บของ ร่างผอมบางรีบเดินเข้าไปช่วยทันที
“แป้ง หนูต้องการให้พี่ช่วยไหม” ขวัญอุษาถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ ขณะที่เธอรีบยื่นมือไปจับกล่องด้วยท่าทางคล่องแคล่ว
แป้งมองขวัญด้วยความประหลาดใจและยิ้มอย่างดีใจ “ขอบคุณมากค่ะพี่ขวัญ หนูยกไม่ไหวเลยค่ะ ของหนักมาก”
เด็กสาวอย่างขวัญอุษาไม่รอช้า เธอช่วยแป้งยกกล่องและนำไปเก็บในที่ที่เหมาะสม ทั้งสองทำงานร่วมกันด้วยความรู้สึกเป็นกันเองและช่วยเหลือกันเหมือนพี่น้อง แป้งมองขวัญอุษาด้วยความชื่นชมในความขยันและจิตใจที่ดี
“พี่ขวัญนี่เก่งจริง ๆ นะคะ ไม่ว่าทำงานอะไร หนูก็เห็นพี่ตั้งใจและขยันตลอดเลย” แป้งพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงชื่นชม
คนเป็นพี่ยิ้มอย่างสุภาพและตอบเบา ๆ “พี่แค่ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดน่ะจ้ะ และถ้าเราช่วยกัน ทุกอย่างก็จะดีขึ้น”
หลังจากนั้นไม่นาน ขวัญอุษาก็ช่วยพี่สายใจทำความสะอาดครัว และยังช่วยลุงคำ คนสวนสูงวัย ดูแลต้นไม้ในสวน ทุกคนในบ้านใหญ่รู้สึกอบอุ่นใจและขอบคุณในความช่วยเหลือที่ขวัญมอบให้ แม้ว่าขวัญจะมีงานของตัวเอง แต่เธอก็ไม่เคยลังเลที่จะช่วยเหลือผู้อื่น ทุกคนในบ้านเริ่มเห็นว่าขวัญไม่เพียงแค่ขยัน แต่เธอยังมีน้ำใจและมองเห็นความสำคัญของคนรอบข้างเสมอ
คุณหญิงธัญญาสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงในบ้าน ทุกอย่างดูเป็นระเบียบเรียบร้อย และทุกคนในบ้านก็ดูเหมือนจะมีความสุขมากขึ้น คุณหญิงรู้สึกประทับใจในความทุ่มเทของขวัญ และอดไม่ได้ที่จะกล่าวชม
“ขวัญ หนูเป็นเด็กที่มีน้ำใจมากนะ ฉันเห็นหนูคอยช่วยเหลือทุกคนในบ้าน ไม่ใช่แค่ทำงานของตัวเองอย่างขยันขันแข็ง แต่ยังช่วยเหลือคนอื่นอย่างไม่เคยเกี่ยงงอน ไม่เหนื่อยหรือยังไงฮะ” คุณหญิงกล่าวขึ้นขณะนั่งมองขวัญอุษาจัดดอกไม้ที่เธอซื้อมา
เด็กสาวยิ้มเล็กน้อยและตอบด้วยความนอบน้อม “ขอบคุณค่ะคุณหญิงป้า หนูแค่คิดว่าถ้าเราช่วยเหลือกัน งานทุกอย่างก็จะเบาลง แล้วเราก็จะมีความสุขมากขึ้นค่ะ”
คุณหญิงธัญญาพยักหน้าด้วยความพอใจ "หนูคิดถูกแล้วจ้ะ ความสามัคคีและการช่วยเหลือกันเป็นสิ่งที่ทำให้บ้านหลังนี้อบอุ่น ฉันดีใจที่มีหนูเป็นส่วนหนึ่งของบ้านนี้"
ขวัญอุษารู้สึกภาคภูมิใจในตัวเองที่สามารถเป็นประโยชน์ต่อคนรอบข้างได้ เธอรู้ว่าการทำงานและการช่วยเหลือผู้อื่นไม่เพียงแค่สร้างความพึงพอใจให้กับคนอื่น ๆ แต่ยังทำให้ตัวเธอเองรู้สึกถึงคุณค่าของชีวิต
เธอเรียนรู้ว่านอกจากความพยายามและความขยัน ความเมตตาและการช่วยเหลือกันคือสิ่งที่ทำให้ชีวิตมีความหมายและทำให้เธอก้าวผ่านทุกอุปสรรคไปได้
หลายปีผ่านไปหลังจากวันที่ขวัญอุษาและปกรณ์ ตัดสินใจแต่งงานและสร้างครอบครัวร่วมกัน น้องกั้งลูกชายคนแรกของพวกเขาค่อย ๆ เติบโตขึ้นท่ามกลางความรักและการดูแลเอาใจใส่อย่างอบอุ่นจากทุกคนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นปกรณ์ที่ทุ่มเทเป็นพ่อที่ดี ขวัญอุษาที่คอยดูแลลูกอย่างใกล้ชิด หรือแม้แต่คุณหญิงและพ่อสาธิต ที่ยังคงรักและเห่อหลานอย่างไม่ลดละ บ้านที่เคยเต็มไปด้วยความวุ่นวายและความขัดแย้งในอดีต ตอนนี้กลายเป็นบ้านที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ ความรัก และความสงบสุขที่ทุกคนร่วมกันสร้างขึ้น วันหนึ่งในช่วงเย็น ขณะที่พระอาทิตย์ตกดิน ปกรณ์นั่งอยู่ในสวนหลังบ้านพร้อมกับลูกชายตัวน้อยที่ตอนนี้เริ่มโตและวิ่งเล่นไปมา ขวัญอุษาที่ท้องลูกคนที่สองนั่งอยู่ข้าง ๆ มองดูภาพครอบครัวที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น เธออดยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นปกรณ์วิ่งตามลูกชายด้วยท่าทางสนุกสนาน “พี่กรณ์ รู้ตัวไหมว่าพี่เปลี่ยนไปมาก พี่เป็นพ่อและเป็นที่ดีที่รักเมียรักลูกมากๆ เลยนะคะพี่กรณ์” ขวัญอุษาพูดขึ้นเบา ๆ ด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน ปกรณ์หันมายิ้มให้ภรรยา ก่อนจะนั่งลงข้าง ๆ เธอ “พี่ทำทุกอย่างก็เพื่อหนูและลูกไงครับ ทุกวันพี่รู้สึกว่าชีวิตของพี่มีความหมายมากขึ้
หลังจากที่ขวัญอุษาและปกรณ์ใช้ชีวิตแต่งงานร่วมกันได้ไม่นาน วันสำคัญอีกวันที่ทั้งสองรอคอยก็มาถึง วันที่ขวัญอุษาคลอดลูกน้อยของพวกเขา ปกรณ์ซึ่งตื่นเต้นมาตลอดตั้งแต่รู้ว่ากำลังจะเป็นพ่อ รอคอยวันนี้อย่างใจจดใจจ่อ แม้ว่าเขาจะทำตัวเป็นพ่อที่ดูเหมือนพร้อมแล้ว แต่เมื่อวันที่ขวัญอุษาเจ็บท้องต้องเข้าห้องคลอดมาถึง เขากลับรู้สึกทั้งตื่นเต้นทั้งประหม่าเหมือนเป็นครั้งแรกที่เผชิญหน้ากับเรื่องใหญ่ในชีวิตเมื่อเช้าขวัญอุษารู้สึกถึงอาการเจ็บท้องคลอดเริ่มต้นขึ้น เธอบอกปกรณ์ด้วยน้ำเสียงเบา ๆ “พี่กรณ์ ขวัญคิดว่าถึงเวลาแล้ว”ทันทีที่ปกรณ์ได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของเขาตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด “อะไรนะถึงเวลาแล้วเหรอ ถึงเวลาแล้วลูกจะคลอดแล้ว ไปโรงพยาบาล กระเป๋าคลอด กระเป๋าอยู่ไหน ขวัญอย่าเพิ่งนะ พี่ไปเอากระเป๋าก่อน” เขารีบวิ่งไปหยิบของเตรียมเข้าห้องคลอด แม้จะเตรียมของไว้แล้วเป็นสัปดาห์ แต่เขากลับดูรีบร้อนอย่างน่าขำ“พี่กรณ์ ใจเย็น ๆ หน่อย ขวัญยังไม่คลอดตอนนี้ ขวัญแคเจ็บท้องเตือน” คนท้องบอกพลางยิ้มเอ็นดูสามี เธอพยายามที่จะตั้งสติ แต่ก็อดหัวเราะไม่ได้เมื่อเห็นปกรณ์ทำท่าทางกระวนกระวายเหมือนจะลืมของสำคัญไปเมื่อถึงโรงพ
หลังจากที่ขวัญอุษาและปกรณ์ ตัดสินใจที่จะสร้างครอบครัวร่วมกัน ความรักและความเข้าใจระหว่างทั้งคู่ก็เริ่มเบ่งบาน วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งถึงวันสำคัญที่สุดในชีวิตของพวกเขาคือวันแต่งงาน ปกรณ์ได้จัดงานแต่งงานอย่างยิ่งใหญ่เพื่อเฉลิมฉลองความรักและการเริ่มต้นชีวิตใหม่ร่วมกัน งานแต่งจัดขึ้นในโรงแรมหรูที่เต็มไปด้วยดอกไม้สวยงาม บรรยากาศอบอุ่นและเต็มไปด้วยความสุข แขกเหรื่อที่มาร่วมงานต่างเป็นทั้งครอบครัวและเพื่อนสนิทรวมถึงพนักงานในบริษัท เมื่อถึงเวลาสำคัญ ขวัญอุษาที่งดงามในชุดเจ้าสาวท้องโตเล็กน้อยและปกรณ์สูทสีขาวยืนเคียงข้างกัน ท่ามกลางเสียงเพลงและการแสดงความยินดีจากทุกคน ขณะที่งานดำเนินไปอย่างราบรื่น กลุ่มเพื่อนสนิทของปกรณ์ก็เริ่มเข้ามาแซวเจ้าบ่าวกันอย่างสนุกสนาน โดยเฉพาะความปากหนักของปกรณ์ที่บอกไม่เคยชอบขวัญอุษาและไม่ยอมรับความรู้สึกของตัวเองในตอนแรก คุณานนท์เพื่อนสนิทของปกรณ์ที่มาร่วมงาน เดินเข้ามาใกล้เจ้าบ่าวพร้อมยกแก้วขึ้น “เอ้า ไอ้กรณ์ มึงมันเก่งจริง ๆ นะ ในที่สุดก็สอยน้องขวัญของกูไปแต่งงานกับมึงจนได้ ใครจะไปคิดว่าคนปากหนักอย่างมึงจะมีวันนี้ ยินดีด้วยนะมึง” เสียงหัวเราะดังขึ
หลังจากที่ขวัญอุษาตัดสินใจให้อภัยปกรณ์ และเริ่มเปิดใจให้เขาอีกครั้ง ชีวิตของทั้งสองก็ค่อย ๆ กลับมาเป็นปกติ ปกรณ์ดูแลขวัญอุษาอย่างใกล้ชิดทุกวัน ทั้งช่วยงานในสวนและเตรียมตัวสำหรับการเป็นพ่อที่ดี แม้จะมีอุปสรรคจากอดีต แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้ที่จะสร้างอนาคตใหม่ให้กับขวัญอุษาและลูก ช่วงเย็นขณะที่ขวัญกำลังนั่งเล่นอยู่ในสวนที่เธอโปรดปราน ปกรณ์ก็เดินเข้ามาหาพร้อมกับรอยยิ้มอบอุ่น หญิงสาวเงยหน้ามองเขายิ้มตอบอย่างอ่อนโยน “ขวัญ พี่มีเรื่องสำคัญอยากจะถามหนู” ปกรณ์พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ตาคมยังมองจ้องใบหน้าสวยอย่างรักใคร่ ขวัญอุษามองใบหน้าคมของปกรณ์ด้วยความสงสัย “เรื่องอะไรเหรอคะ” ปกรณ์สูดลมหายใจลึก ก่อนจะย่อตัวลงนั่งข้าง ๆ ร่างอวบ และหยิบกล่องเล็ก ๆ ออกมาจากกระเป๋าของเขา เปิดให้เห็นแหวนแต่งงานที่ซ่อนอยู่ภายใน ขวัญอุษาเบิกตากว้างด้วยความตกใจ น้ำเสียงของเธอสั่นเล็กน้อย “พี่กรณ์ นี่พี่” “ขวัญ พี่รู้ว่าพี่ทำผิดพลาดมามากมายในอดีต และทำให้ขวัญเจ็บปวด แต่ตอนนี้ พี่อยากขอโอกาสที่จะสร้างอนาคตใหม่กับขวัญ” ปกรณ์พูดอย่างช้าๆแสดงความจริงใจ
หลังจากที่ปกรณ์ยังคงพยายามพิสูจน์ตัวเองโดยช่วยงานในสวนผลไม้ทุกวันร่วมกับคุณสาธิต แม้ว่าเขาจะมีอาการแพ้ท้องแทนขวัญอุษาจนทานอาหารได้เพียงน้อยนิด เขาก็ไม่เคยหยุดหรือแสดงความอ่อนแอ เพราะเขาอยากแสดงให้ทุกคนเห็นว่าเขาพร้อมจะเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวและพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อขวัญอุษาและลูกแต่ในที่สุด การทานได้น้อยและอ่อนแรงจากอาการแพ้ท้องก็เริ่มส่งผลต่อร่างกายของปกรณ์อย่างรุนแรง จนทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้นเมื่อปกรณ์กำลังช่วยพ่อตาตัดแต่งกิ่งไม้บนต้นผลไม้สูง ซึ่งเป็นงานที่เขาทำเป็นประจำแม้จะเริ่มรู้สึกอ่อนล้า แต่ในวันนี้อาการแพ้ท้องที่เขาเผชิญมาเป็นเวลาหลายสัปดาห์เริ่มสะสม ร่างกายของเขาเริ่มอ่อนแอเพราะทานอาหารได้น้อยขณะที่ปกรณ์อยู่บนต้นไม้และกำลังใช้มีดตัดกิ่งไม้ เขารู้สึกเวียนหัวและตาพร่ามัว เขาพยายามกะพริบตาหลายครั้งเพื่อให้การมองเห็นกลับมาเป็นปกติ แต่ความเหนื่อยล้าจากการทานได้น้อยทำให้เขารู้สึกเหมือนร่างกายจะไม่ตอบสนองทันใดนั้นอาการเวียนหัวก็ถาโถมเข้ามาอย่างรวดเร็ว ร่างกายของปกรณ์ไม่สามารถทรงตัวอยู่บนกิ่งไม้ได้อีกต่อไป เขารู้สึกเหมือนร่างกายจะล้มลงก่อนที่เขาจะคว้ากิ่งไม้ไว้ได้“โ
ถึงแม้ว่าปกรณ์ยังตามง้อและช่วยพ่อสาธิตทำงานในสวน แต่ขวัญอุษายังคงใจแข็งและพยายามรักษาระยะห่างจากปกรณ์ เธอก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงเรื่องของคนรักของปกรณ์ที่เขาเคยพูดถึงก่อนหน้านี้ ในใจของขวัญอุษารู้สึกว่า ปกรณ์ทำทีมาง้อเธอที่นี่แต่อาจจะยังมีคนรักที่รออยู่ที่กรุงเทพ และสิ่งที่เขากำลังทำตอนนี้อาจเป็นเพียงแค่ความรู้สึกผิด หรือการพยายามชดใช้ความผิดพลาดของตัวเองเท่านั้นขณะที่ทั้งสองนั่งคุยกัน ขวัญอุษาตัดสินใจที่จะเผชิญหน้ากับความรู้สึกของตัวเองและบอกให้ปกรณ์กลับไปหาคนรักของเขา เธอไม่อยากให้ปกรณ์ต้องเสียสละหรือทิ้งชีวิตในกรุงเทพฯ เพื่อรับผิดชอบลูกในท้องของเธอ อีกทั้งไม่อยากให้คนรักของปกรณ์ต้องเสียใจขวัญอุษาหันมามองจ้องหน้าหล่อของปกรณ์ด้วยสายตาจริงจัง ก่อนจะพูดขึ้นกับเขา “คุณปกรณ์ คุณไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ก็ได้นะคะ คุณมีชีวิตของคุณ มีคนรักที่คุณต้องกลับไปดูแล ขวัญว่าคุณกลับไปอยู่ที่กรุงเทพก็ได้ค่ะ วันไหนที่คุณอยากจะมาหาลูกคุณค่อยมาก็ได้”ปกรณ์ชะงักไปทันทีเมื่อได้ยินคำพูดนั้น เขามองขวัญด้วยความแปลกใจ ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ “ขวัญ คุณกำลังพูดถึงใครเหรอ ที่บอกว่าคนรักของผม”ขวัญอุษามองหน้าเขาอย่างไม่ชอบ







