ยามเช้าของวันใหม่มาถึง แสงอาทิตย์สาดส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาในห้องเล็ก ๆ ของขวัญอุษา ความอบอุ่นจากแสงแดดทำให้เธอตื่นขึ้นด้วยความรู้สึกสดชื่นกว่าทุกวัน วันนี้เป็นวันที่เธอรอคอยมานาน วันที่เธอจะได้ช่วยเหลือพ่อของเธออย่างแท้จริง
หลังจากจัดการกับงานประจำวันเล็กน้อย ขวัญอุษาก็รีบเก็บเงินที่ได้รับจากคุณหญิงธัญญาใส่ซองอย่างระมัดระวัง เธอรู้ว่านี่คือโอกาสที่สำคัญสำหรับพ่อของเธอ และเป็นการเริ่มต้นใหม่ของชีวิตที่ดีขึ้น
เด็กสาวเดินออกจากบ้านใหญ่ ตรงไปยังธนาคารในละแวกใกล้เคียง เพื่อส่งเงินจำนวนนี้กลับไปให้พ่อที่ต่างจังหวัด ระหว่างทางหัวใจของขวัญอุษาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความโล่งใจ ที่ในที่สุดเธอก็สามารถทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับพ่อได้ เธอรู้ดีว่าการช่วยพ่อปลดหนี้คือสิ่งที่เธอใฝ่ฝันมาตลอด
เมื่อเด็กสาวเดินมาถึงธนาคารที่เธอถามมาจากพี่สายใจ เธอเดินเข้าไปด้วยท่าทางมั่นใจ แม้ว่าจะมีความกังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับการทำธุรกรรม แต่ขวัญอุษาก็ก้าวไปข้างหน้าด้วยหัวใจที่แน่วแน่
“สวัสดีค่ะ หนูต้องการส่งเงินกลับไปต่างจังหวัด หนูต้องทำยังไงบ้างคะ” เด็กสาวบอกกับพนักงานด้วยน้ำเสียงที่สุภาพ และยื่นซองเงินพร้อมข้อมูลการส่งให้พนักงาน
พนักงานตรวจสอบข้อมูลอย่างรวดเร็ว ก่อนจะยิ้มและกล่าวกับขวัญอุษา “เรียบร้อยแล้วค่ะ หนูสนใจเปิดบัญชีกับทางธนาคารไหมคะ จะได้ไม่ต้องเดินทางมาเองทำธุรกรรมผ่านออนไลน์ได้เลย” พนักงานธนาคารแนะนำขวัญอุษาทำให้เด็กสาวเปิดบัญชีธนาคารและผูกกับโทรศัพท์เอาไว้เพื่อความสะดวกเพราะจะขอออกมาบ่อยๆ ก็เกรงใจคุณหญิงธัญญา เมื่อจัดการธุรกรรมต่างเสร็จขวัญอุษาก็รับใบเสร็จมาและยิ้มอย่างโล่งใจ
“ขอบคุณมากค่ะ” เธอกล่าวด้วยความสุภาพ ก่อนจะเดินออกจากธนาคารไปด้วยความรู้สึกเบาใจ
ขณะเดินกลับบ้านใหญ่ เด็กสามรู้สึกถึงความตื้นตันที่ได้ช่วยเหลือผู้เป็นพ่อ เธอรู้ว่าพ่อจะได้รับเงินนี้และสามารถปลดหนี้ได้ในเร็ววัน ความภาคภูมิใจและความตื้นตันในใจของเธอเอ่อล้น ทำให้เธอยิ้มไปตลอดทาง
เมื่อเธอกลับมาถึงบ้านใหญ่ คุณหญิงธัญญาที่นั่งอยู่ในห้องรับแขกก็เห็นเด็กสาวที่เธอเอ็นดูเดินเข้ามาพอดี คุณหญิงยิ้มให้เธออย่างอบอุ่น
“ไปส่งเงินให้พ่อเรียบร้อยแล้วใช่ไหมจ๊ะขวัญ”
ขวัญอุษาพยักหน้าและยิ้มอย่างสดใสไปให้คุณหญิงธัญญา “ค่ะคุณหญิงป้า หนูส่งเรียบร้อยแล้ว พ่อคงจะดีใจมาก ๆ เลยค่ะ ตอนนี้หนูรู้สึกภูมิใจที่ได้ช่วยพ่อ”
คุณหญิงธัญญาพยักหน้าอย่างพอใจ “ดีแล้วจ้ะ หนูทำสิ่งที่ถูกต้องแล้วนะขวัญ พ่อหนูต้องภูมิใจในตัวหนูมากแน่ ๆ”
เด็กสาวก้มหน้าลงเล็กน้อย ยิ้มอาย ๆ ก่อนจะพูดขึ้น “หนูต้องขอบพระคุณคุณหญิงป้ามากนะคะ ที่ช่วยเหลือหนู หนูจะทำงานให้ดีที่สุด เพื่อไม่ให้คุณหญิงป้าผิดหวังค่ะ”
คุณหญิงธัญญายิ้มและเดินเข้ามาแตะไหล่ขวัญอุษาเบา ๆ “ไม่ต้องขอบคุณฉันหรอกจ้ะ ขวัญเป็นเด็กที่ดีและกตัญญู ฉันก็แค่ทำสิ่งที่ถูกต้องไปเท่านั้น ขอให้หนูใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและอย่ากังวลอะไรอีกนะ”
ขวัญอุษาพยักหน้า น้ำตาเริ่มคลอที่ขอบตาด้วยความซาบซึ้งใจ ขวัญอุษารู้สึกว่าชีวิตของเธอเริ่มต้นใหม่อย่างแท้จริง แม้ว่าเส้นทางข้างหน้าจะยังยากลำบาก แต่เธอรู้ว่าเธอไม่ได้อยู่คนเดียว คุณหญิงธัญญาคือผู้ที่มอบโอกาสสำคัญให้เธอ และตอนนี้เธอก็พร้อมที่จะทำงานและใช้ชีวิตด้วยความมุ่งมั่นและความหวัง
หลังจากที่ขวัญอุษาได้ส่งเงินไปช่วยพ่อจนหนี้สินได้รับการจัดการแล้ว ความกังวลในใจของเธอเริ่มลดน้อยลง แต่แทนที่จะผ่อนคลายและดูแลตัวเอง เด็กสาวกลับมีความตั้งใจมากยิ่งขึ้นในการทำงาน เธอรู้สึกถึงความรับผิดชอบที่มากขึ้นจากการที่คุณหญิงธัญญาให้ความช่วยเหลืออย่างมากมาย ขวัญอุษาจึงตั้งใจทำงานทุกอย่างในบ้านอย่างสุดความสามารถและพยายามช่วยเหลือคนอื่นทุกครั้งที่มีโอกาส
ขวัญอุษาเริ่มต้นทุกเช้าด้วยการตื่นก่อนทุกคนในบ้านใหญ่เสมอ เธอจัดดอกไม้ ดูแลสวน และตรวจสอบความเรียบร้อยในห้องรับแขกก่อนที่คุณหญิงจะตื่น เพื่อให้ทุกอย่างพร้อมสำหรับวันใหม่
เช้าวันนี้ หลังจากที่ขวัญทำงานในสวนดอกไม้เสร็จเรียบร้อย เธอเห็นแป้ง สาวใช้คนสนิทในบ้านใหญ่ กำลังพยายามยกกล่องของหนักออกจากห้องเก็บของ ร่างผอมบางรีบเดินเข้าไปช่วยทันที
“แป้ง หนูต้องการให้พี่ช่วยไหม” ขวัญอุษาถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ ขณะที่เธอรีบยื่นมือไปจับกล่องด้วยท่าทางคล่องแคล่ว
แป้งมองขวัญด้วยความประหลาดใจและยิ้มอย่างดีใจ “ขอบคุณมากค่ะพี่ขวัญ หนูยกไม่ไหวเลยค่ะ ของหนักมาก”
เด็กสาวอย่างขวัญอุษาไม่รอช้า เธอช่วยแป้งยกกล่องและนำไปเก็บในที่ที่เหมาะสม ทั้งสองทำงานร่วมกันด้วยความรู้สึกเป็นกันเองและช่วยเหลือกันเหมือนพี่น้อง แป้งมองขวัญอุษาด้วยความชื่นชมในความขยันและจิตใจที่ดี
“พี่ขวัญนี่เก่งจริง ๆ นะคะ ไม่ว่าทำงานอะไร หนูก็เห็นพี่ตั้งใจและขยันตลอดเลย” แป้งพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงชื่นชม
คนเป็นพี่ยิ้มอย่างสุภาพและตอบเบา ๆ “พี่แค่ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดน่ะจ้ะ และถ้าเราช่วยกัน ทุกอย่างก็จะดีขึ้น”
หลังจากนั้นไม่นาน ขวัญอุษาก็ช่วยพี่สายใจทำความสะอาดครัว และยังช่วยลุงคำ คนสวนสูงวัย ดูแลต้นไม้ในสวน ทุกคนในบ้านใหญ่รู้สึกอบอุ่นใจและขอบคุณในความช่วยเหลือที่ขวัญมอบให้ แม้ว่าขวัญจะมีงานของตัวเอง แต่เธอก็ไม่เคยลังเลที่จะช่วยเหลือผู้อื่น ทุกคนในบ้านเริ่มเห็นว่าขวัญไม่เพียงแค่ขยัน แต่เธอยังมีน้ำใจและมองเห็นความสำคัญของคนรอบข้างเสมอ
คุณหญิงธัญญาสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงในบ้าน ทุกอย่างดูเป็นระเบียบเรียบร้อย และทุกคนในบ้านก็ดูเหมือนจะมีความสุขมากขึ้น คุณหญิงรู้สึกประทับใจในความทุ่มเทของขวัญ และอดไม่ได้ที่จะกล่าวชม
“ขวัญ หนูเป็นเด็กที่มีน้ำใจมากนะ ฉันเห็นหนูคอยช่วยเหลือทุกคนในบ้าน ไม่ใช่แค่ทำงานของตัวเองอย่างขยันขันแข็ง แต่ยังช่วยเหลือคนอื่นอย่างไม่เคยเกี่ยงงอน ไม่เหนื่อยหรือยังไงฮะ” คุณหญิงกล่าวขึ้นขณะนั่งมองขวัญอุษาจัดดอกไม้ที่เธอซื้อมา
เด็กสาวยิ้มเล็กน้อยและตอบด้วยความนอบน้อม “ขอบคุณค่ะคุณหญิงป้า หนูแค่คิดว่าถ้าเราช่วยเหลือกัน งานทุกอย่างก็จะเบาลง แล้วเราก็จะมีความสุขมากขึ้นค่ะ”
คุณหญิงธัญญาพยักหน้าด้วยความพอใจ "หนูคิดถูกแล้วจ้ะ ความสามัคคีและการช่วยเหลือกันเป็นสิ่งที่ทำให้บ้านหลังนี้อบอุ่น ฉันดีใจที่มีหนูเป็นส่วนหนึ่งของบ้านนี้"
ขวัญอุษารู้สึกภาคภูมิใจในตัวเองที่สามารถเป็นประโยชน์ต่อคนรอบข้างได้ เธอรู้ว่าการทำงานและการช่วยเหลือผู้อื่นไม่เพียงแค่สร้างความพึงพอใจให้กับคนอื่น ๆ แต่ยังทำให้ตัวเธอเองรู้สึกถึงคุณค่าของชีวิต
เธอเรียนรู้ว่านอกจากความพยายามและความขยัน ความเมตตาและการช่วยเหลือกันคือสิ่งที่ทำให้ชีวิตมีความหมายและทำให้เธอก้าวผ่านทุกอุปสรรคไปได้
หลังจากเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้น ขวัญอุษายังคงอยู่ในสภาพจิตใจที่แตกสลาย น้ำตายังคงไหลลงมาอย่างเงียบ ๆ ทุกครั้งที่เธอคิดถึงสิ่งที่ปกรณ์ทำกับเธอ หัวใจของเธอเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและความเจ็บปวด หญิงสาวไม่รู้ว่าจะก้าวต่อไปอย่างไร เธอรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบได้พังทลายลง แต่เธอก็ไม่กล้าพูดหรือบอกใครถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในขณะที่ขวัญอุษาอยู่ในความทุกข์นั้น ปกรณ์กลับมีความรู้สึกที่สับสน เขารู้ว่าตัวเองทำสิ่งที่ผิดมหันต์มันไม่ควรที่จะจบลงด้วยการมีอะไรกับหญิงสาวซึ่งคืนนั้นมันไม่ต่างอะไรกับการขืนใจ ถึงแม้สุดท้ายแล้วมีจะมีความสุขสมเหลืออยู่ก็ตาม แต่ความโกรธ ความระแวง และความไม่ไว้ใจในตัวหญิงสาวที่ยังมีมากกว่ามันยังคงครอบงำจิตใจของฝ่ายไม่ดีของเขา แม้จะสำนึกผิดบางส่วน แต่เขาก็เลือกที่จะไม่แสดงความอ่อนแอออกมาเขาเลือกที่จะใช้ข้อมูลในด้านไม่ดีแทน เขากลับมองหาวิธีควบคุมขวัญให้ยอมอยู่ภายใต้กฎของเขา เพื่อไม่ให้เธอมีโอกาสทำลายครอบครัวของเขาในแบบที่เขาเชื่อไม่กี่วันหลังจากเหตุการณ์สุดรัญจวนใจในห้องนอนของหญิงสาวนั้น ปกรณ์เรียกขวัญอุษามาที่ห้องทำงานส่วนตัวของเขา ขวัญอุษาเดินเข้ามาอย่างเงียบๆ ใบหน้าของเธอซีดเผ
“ในเมื่อเธอไม่ยอมรับ ฉันก็จะจัดการเธอในแบบของฉันเอง มานี่เลย” ปกรณ์ใช้สองแขนแข็งแรงของเขากดแขนเรียวของขวัญอุษาให้ติดกับเตียง ใบหน้าคมของเขาซุกลงไปที่ซุกคอขาวของเธอ หญิงสาวเห็นสถานการณ์ไม่ดีเธอพยายามที่จะดิ้นรนให้พ้นจากคนใจร้ายคนนี้ แต่ถึงจะดิ้นรนยังไงเรี่ยวแรงอันน้อยนิดของเธอก็ไม่สามารถที่จะสู้แรงชายฉกรรจ์ที่เต็มไปด้วยโทสะและความเมาได้เลย เพียงไม่กี่อึดใจเสื้อนอนของเธอก็ถูกปกรณ์ดึงจนกระดุมขาด เผยให้เห็นเต้าอวบต่อสายตาของปกรณ์ “อย่าาาาา คุณปกรณ์อย่าทำ อ๊ะ” เสียงขวัญอุษาร้องห้ามเสียงดัง แต่อีกคนก็ไม่ได้ฟังเสียงมดเสียงแมงหวี่อย่างเธอ ตอนนี้ใบหน้าของเขาซบลงตรงเต้าอวบใหญ่ ลิ้นหยาบเลียรอบฐานเต้านม ก่อนที่จะใช้ปากอมดูดลอกเรียนแบบพฤติกรรมทารกดูดนมมารดา เพียงแต่เปลี่ยนจากเด็กทารกเป็นปกรณ์ที่โตเป็นหนุ่มและดูดนมของหญิงสาวที่ไม่ได้มีความเกี่ยวพันกันทางสายเลือด มืออีกข้างก็ไม่ปล่อยให้ว่างเปล่าเขาเอามาเคล้าคลึงเต้านมอีกข้างนวดเพื่อให้อีกคนได้เสียวกระสัน จะได้เลิกต่อต้านเขาเสียที พอดูดข้างนี้จนพอใจ ปกรณ์ก็ย้ายมาอีกข้างและทำแบบเดียวกัน “อ๊ะ อ๊าาาา อย่า อ๊าาาา อย่าทำขวัญ ได้โปรด ซี๊ดดดด คุณปกร
หลังจากการสนทนาที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดกับคุณหญิงธัญญาเกี่ยวกับเรื่องของขวัญอุษา ความโกรธและความไม่พอใจของปกรณ์ก็ยังคงไม่ลดน้อยลง เขายังคงไม่เชื่อว่าแม่ของเขาจะช่วยเหลือหญิงสาวที่ไม่มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดขนาดนี้ ทั้งสนับสนุนให้เรียนมหาวิทยาลัย แถมยังให้เข้ามาทำงานในบริษัทของครอบครัว ปกรณ์ไม่สามารถยอมรับได้ว่านี่เป็นเพียงเรื่องของความเมตตาธรรมดา เขายังคงเชื่อว่าขวัญอุษามีเจตนาแอบแฝง ปกรณ์มักจะออกไปพบปะสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนนักธุรกิจในช่วงเย็น โดยเฉพาะกับเฌอปรางค์ เพื่อนสนิทที่เป็นคนแรกที่เล่าเรื่องขวัญอุษาให้เขาฟัง ทั้งเฌอปรางค์และเพื่อนคนอื่น ๆ ต่างคุ้นเคยกับความไม่ไว้ใจและความระแวงของปกรณ์ในเรื่องคนรอบตัว ทำให้พวกเขาเริ่มยุแยงและทำให้ความโกรธของปกรณ์เพิ่มมากขึ้น ในเย็นวันหนึ่ง ขณะที่ปกรณ์นั่งจิบไวน์ในบาร์หรูแห่งหนึ่งกับกลุ่มเพื่อน เฌอปรางค์และคุณานนท์ เพื่อนสมัยเรียนอีกคนก็เริ่มหยิบยกเรื่องของขวัญอุษาขึ้นมาพูดคุย “กรณ์ กูได้ยินมาว่าผู้หญิงคนนั้น ขวัญอุษาอะไรนั่นน่ะ เธอเข้ามาอยู่บ้านของครอบครัวมึงใช่ไหม กูไปงานเลี้ยงกูเห็นแม่มึงแนะนำว่าเป็นหลานสาว” คุณนนท์ถามขึ้นด้วยน้ำเสี
แม้จะฟังคำอธิบายจากคุณหญิงธัญญาแล้ว แต่ปกรณ์ก็ยังไม่สบายใจเมื่อเห็นขวัญอุษาอาศัยอยู่ที่บ้านใหญ่ การที่หญิงสาวคนนี้ใกล้ชิดกับแม่ของเขาและมีบทบาทสำคัญในชีวิตของแม่ ทำให้ปกรณ์รู้สึกไม่ไว้ใจยิ่งกว่าเดิม แม้ว่าคุณหญิงจะบอกว่าขวัญอุษาเป็นคนคอยดูแลและทำให้เธอไม่เหงาในช่วงที่เขาอยู่ต่างประเทศ แต่ในสายตาของปกรณ์ เขามองว่าเป็นเรื่องที่มันไม่ชอบมาพากล ปกรณ์ตัดสินใจว่า เขาจะต้องรู้ให้ได้ว่าขวัญอุษาเป็นใครและมีเบื้องหลังอย่างไร เขาเริ่มสืบเรื่องของขวัญด้วยวิธีการของตัวเอง เขาไม่ยอมให้ใครก็ตามเข้ามาใกล้ชิดกับครอบครัวโดยไม่รู้เจตนาที่แท้จริง ในช่วงสองสามวันหลังจากนั้น ปกรณ์เริ่มสังเกตพฤติกรรมของขวัญอุษาทุกครั้งที่เขาอยู่บ้าน เขามองขวัญอุษาทำงานในบ้านใหญ่ ช่วยพี่สายใจจัดโต๊ะ จัดดอกไม้ ดูแลความเรียบร้อยทุกอย่าง แม้เธอดูเหมือนจะทำงานอย่างขยันขันแข็งและไม่มีท่าทีที่แสดงออกถึงเจตนาร้าย แต่ปกรณ์ยังคงไม่เชื่อใจ เขาคิดว่าเธออาจจะเสเเสร้งปิดบังบางอย่างอยู่ เมื่อสังเกตในบ้านแล้วไม่พบสิ่งผิดปกติ ปกรณ์จึงตัดสินใจตามสืบชีวิตของขวัญอุษาให้ลึกลงไปอีก เขาตรวจสอบประวัติของขวัญอุษาผ่านการติดต่อเพื่อนฝูงในวงการและใ
หลังจากที่ปกรณ์เดินออกจากห้องรับแขกโดยไม่พูดอะไรมากไปกว่านั้น ขวัญอุษารู้สึกตึงเครียดขึ้น เธอไม่เข้าใจว่าทำไมปกรณ์ถึงแสดงท่าทีเย็นชาต่อเธอ ทั้งที่เธอไม่เคยเจอกันเลย อีกทั้งเธอก็ไม่เคยมีเจตนาร้ายหรือคิดเข้าหาผลประโยชน์ใด ๆ จากครอบครัวของคุณหญิงธัญญา ขวัญอุษารู้ดีว่าคุณหญิงให้ความเมตตาเธอมากแค่ไหน และเธอก็พยายามทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดีที่สุดเสมอเพื่อที่จะตอบแทนผู้มีพระคุณ ขณะที่ขวัญอุษายังคงนั่งจัดดอกไม้อยู่ในห้องรับแขก เสียงฝีเท้าที่คุ้นเคยของคุณหญิงธัญญาดังขึ้นจากทางด้านหลัง คุณหญิงเดินเข้ามาในห้องด้วยรอยยิ้มสดใสที่ขวัญไม่ค่อยเห็นบ่อยนัก ดวงตาของคุณหญิงเปล่งประกายด้วยความตื่นเต้นและความดีใจอย่างเห็นได้ชัด “ขวัญจ๊ะ ลูกชายของฉันกลับมาแล้ว ตากรณ์ลูกชายของฉันกลับมาแล้ว” คุณหญิงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แฝงด้วยความสุข ขณะที่เดินตรงเข้ามาหาหญิงสาว ขวัญอุษายิ้มออกมาอย่างโล่งใจเมื่อเห็นคุณหญิงธัญญาดูมีความสุข “ค่ะคุณป้า หนูเพิ่งเจอคุณปกรณ์เมื่อกี้นี้เองค่ะ” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพและยิ้มให้คุณหญิง แม้ในใจจะยังคงรู้สึกไม่แน่ใจเกี่ยวกับท่าทีของปกรณ์ที่แสดงต่อเธอ แต่เธอก็ไม่กล้าท
หลังจากได้รับสายจากคุณปรางค์เกี่ยวกับหญิงสาวลึกลับที่คุณหญิงธัญญาแนะนำในฐานะ "หลานสาว" ปกรณ์ไม่อาจทนความสงสัยและความไม่สบายใจได้อีกต่อไป แม้เขาจะใช้ชีวิตในอเมริกาอย่างมั่นคง มีงานการที่รุ่งโรจน์และหรูหรา แต่เรื่องนี้กลับทำให้เขาตัดสินใจกลับเมืองไทยอย่างกะทันหัน โดยไม่บอกแม่หรือใครในครอบครัว ปกรณ์จองตั๋วเครื่องบินกลับประเทศไทยอย่างรวดเร็ว เขาไม่ได้วางแผนอะไรให้ยุ่งยาก เขาเพียงแค่ต้องการกลับไปตรวจสอบด้วยตัวเองว่า ขวัญอุษาเป็นใครกันแน่ และทำไมแม่ของเขาถึงแนะนำหญิงสาวคนนี้ให้คนอื่นรู้จักในฐานะ "หลานสาว" ซึ่งเป็นสิ่งที่ขัดกับความเป็นจริง เขาไม่เคยมีญาติที่ไหนมาก่อน ดังนั้นการที่มีใครสักคนมาแสดงตัวในฐานะ "หลานสาว" ของแม่ย่อมเป็นเรื่องที่เขารับไม่ได้ ณ สนามบินสุวรรณภูมิ ปกรณ์เดินออกจากสนามบินด้วยใบหน้าที่เคร่งเครียด แม้จะยังคงดูสุภาพและสง่างามในชุดสูท เขาขึ้นรถแท็กซี่ทันทีที่มีรถมาจอดตรงหน้า ให้ขับตรงไปยังบ้านของแม่ที่เขาจากไปตั้งแต่เด็ก โดยไม่ติดต่อหรือแจ้งใครแม้แต่คุณหญิงธัญญาเอง ระหว่างทางกลับบ้าน ความคิดของปกรณ์เต็มไปด้วยคำถาม เขารู้สึกไม่สบายใจในความสัมพันธ์ที่ดูไม่ชอบมาพากลระหว่า