공유

Chapter 5. ข้าควรกลัวเจ้าหรือ

last update 최신 업데이트: 2024-10-16 00:45:42

“ข้าควรกลัวเจ้าหรือ?” เขาหัวเราะในลำคอหันหลังให้นาง แต่กระนั้นประสาทหูรับรู้ว่านางกำลังสวมใส่อาภรณ์อยู่

“ข้าไม่น่ากลัวเลยหรือ?” นางถามกลับใส่เสื้อผ้าอย่างรวดเร็วเพราะความหิว นางสาวเท้าเร็วๆ เดินมาที่โต๊ะกลม มีอาหารหลายจานส่งกลิ่นหอมเย้ายวนชวนน้ำลายสอ

“ก็น่ากลัวอยู่” เขายิ้มขบขัน “นั่งเถิด”

“อื้ม” นางรีบนั่งลงและรับตะเกียบจากเขา ไม่รอให้เจ้าของบ้านเชื้อเชิญนางรีบกินข้าวอย่างหิวโหย แม้จะได้พลังชีวิตมาเติมเต็มแต่ร่างกายนางยังต้องการอาหารบำรุงตัวเองเหมือนมนุษย์ทั่วไปเช่นกัน

“ค่อยๆ กินไม่ต้องรีบ” เขาเตือนนางแล้วหยิบตะเกียบคอยคีบอาหารใส่ชามข้าวให้นาง นางผงกศีรษะเป็นเชิงขอบคุณและยังมีการบุ้ยปากบอกใบ้ให้เขาคีบเนื้อปลาให้นางอีก ชายหนุ่มทำให้อย่างไม่รู้สึกว่าตัวเองกำลังรับใช้นาง

“อิ่มหรือไม่ อยากกินอะไรเพิ่มอีกไหม” เขาถาม

หลิวเข่อซิงกินอิ่มท้องและยังได้พลังชีวิตจากเขาจึงมีสติคิดวิเคราะห์เรื่องที่เกิดขึ้น นางกวาดตามองชายหนุ่มแล้วเอียงคอมองอย่างสงสัย

“มีอะไรรึ”

“เจ้าเป็นใครกัน”

“ข้าแซ่หานชื่อหรงเหยา” เขายิ้มแล้วส่งน้ำให้นางดื่ม รอจนนางดื่มน้ำหมดจอกแล้วจึงยื่นผ้าเปียกให้ แต่นางทำหน้างุนงง เขาจึงจับมือนางมาเช็ดแต่ละนิ้วอย่างใจเย็น

“ข้าแซ่หลิวชื่อเข่อซิง” นางแนะนำตัวเองบ้าง “อันที่จริงพวกเรา เอ่อ ข้าหมายถึงบรรดาปีศาจจิ้งจอกแดงในหุบเขาต่างใช้แซ่เดียวกันหมดคือแซ่หลิวของท่านแม่ อันที่จริงข้าก็จำอะไรไม่ได้ ตั้งแต่จำความได้ก็อยู่ที่หุบเขาจื่อเซ่อมาตลอด มีท่านแม่และศิษย์พี่แบ่งปันพลังชีวิตของมนุษย์ให้กินเล็กน้อย”

“อ่อ...เป็นเช่นนี้เอง”

น้ำเสียงราบเรียบชวนให้ใจสงบของเขาทำให้ ปีศาจจิ้งจอกแดงผู้ไม่มีใครเคยใส่ใจ รู้สึกตื้นตันใจจนแทบหลั่งน้ำตา

“เจ้าเป็นคนดีเหลือเกิน เช่นนี้แล้วข้าจะกินเจ้าได้อย่างไร”

หานหรงเหยาเห็นจิ้งจอกสาวเบ้ปากจวนจะร้องไห้ เขาก็ตบหลังมือเรียวเล็กของนางเบาๆ เพื่อปลอบโยน

“ไม่ต้องกังวลไป ข้ามีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน ถ้าเจ้าอดทนรอได้ก็เอาดวงจิตของข้าไปเถิด”

“เอ๋?”  นางเบิกตากลมโตจ้องมองเขาแล้วเป็นฝ่ายจับมือใหญ่นั้นไว้  จิตสัมผัสกระแสธารชีวิตในกายของชายหนุ่มแล้วก็อ้าปากค้างด้วยความตกใจ

“หัวใจเจ้าไม่ปกตินี่” นางทำหน้าเศร้าราวกับป่วยเสียเอง

“ถูกต้อง” เขายังคงยิ้มไม่ได้ดึงมือตัวเองกลับ  ปล่อยให้นางจับไว้เช่นนั้น เขามองอย่างเอ็นดูเหมือนนางเป็นเพียงสัตว์เล็กๆหลงทางตัวหนึ่ง

“หัวใจของข้าไม่แข็งแรงตั้งแต่กำเนิด จะมีชีวิตอยู่ได้นานเพียงใดก็หารู้ไม่”

....

            จูอี้ซินถือเสื้อผ้าสตรีด้วยสีหน้าแย้มยิ้มแต่ข่มความไม่พอใจไว้ในอก นางได้ยินเสียงตอบรับจากหลังบานประตู จึงก้าวเท้าเข้ามาพร้อมท่าทีเจียมเนื้อเจียมตัว

            “ที่ปรึกษาหาน เสื้อผ้าสตรีที่ท่านสั่งไว้ได้แล้วเจ้าค่ะ”

            “ขอบใจมาก”  หานหรงเหยายื่นมือไปรับด้วยตนเอง แต่เห็นจูอี้ซินยังยืนนิ่งอยู่ เขาจึงเอ่ยปากให้นางออกไป

            “เอ่อ นายท่าน ข้าเป็นสตรีให้ข้าช่วยแม่นางดีหรือไม่”  จูอี้ซินยังแสร้งแสดงท่าทีห่วงใย แค่บรรดาบ่าวไพร่เล่าลือกันว่าคุณชายหานพาสตรีเข้ามาในจวนก็เป็นที่แตกตื่นกันแล้ว ในครัวส่งสำรับอาหารมาถึงที่ อย่างไรเสีย นางต้องเห็นโฉมหน้าให้ได้ว่า สตรีหน้าหนานางใดกล้าล่อลวงหานหรงเหยา

            หานหรงเหยาคิดตามที่จูอี้ซินเอ่ยแล้วก็เห็นคล้อยตาม เจ้าจิ้งจอกแดงตัวน้อยอาจต้องการคนช่วยเหลือ และเขาเป็นบุรุษจะช่วยนางคงไม่เหมาะนัก ทว่าอ้าปากยังไม่ทันส่งเสียง หญิงสาวที่อยู่หลังฉากกั้นก็ส่งเสียงออกมาก่อน

            “ไม่เป็นไร ข้าจัดการตัวเองได้” หลิวเข่อซิงกระโดดออกมา ใบหน้างดงามราวภาพวาด ดวงตากระจ่างใสจ้องมองพร้อมรอยยิ้มจริงใจ นางสวมเสื้อผ้าเรียบร้อยดี มีเพียงผมยาวสลวยที่ปล่อยสยายยังไม่ได้เกล้าขึ้นให้เรียบร้อย

            “เสื้อผ้าชุดนี้ ข้าขอยืมก่อน เอาไว้ข้าพบศิษย์พี่แล้วจะนำมาคืนเจ้า”

            “เจ้าค่ะ”  จูอี้ซินอึกอักไปครู่หนึ่ง สตรีเบื้องหน้าครอบครองความงามราวเทพธิดา ทว่าท่าทางไร้เดียงสาราวเด็กน้อย  แม้นางหมายมั่นปีนป่ายเตียงของซุนเจ้าเฟิง แต่ถ้าได้รับความเอ็นดูจากหานหรงเหยาก็ยินดีรับไว้ ทว่าบุรุษทั้งสองกลับไม่มีท่าทีตอบสนองกับนางสักนิด นางที่เคยมั่นใจรูปโฉมของตนต้องเสียความรู้สึกเพราะบุรุษทั้งสอง แต่ยามนี้หานหรงเหยากลับแสดงท่าทีใส่ใจสตรีขึ้นมา ความริษยาขุมหนึ่งผุดขึ้นในใจทันที

            หลิวเข่อซิงเป็นปีศาจเมื่อได้กลิ่นความริษยาก็ทำจมูกฟุดฟิดใกล้ๆ จูอี้ซิน

            “แม่นาง...ทำอะไรเจ้าคะ”

            “เหตุใดเจ้ามีกลิ่นริษยาเข้มข้นถึงเพียงนี้”  หลิวเข่อซิงเอียงคอมองอย่างสงสัย

            “ข้า...ข้าเปล่านะ!”  จูอี้ซินกินปูนร้อนท้องรีบปฏิเสธโดยเร็ว แต่

หานหรงเหยากลับหัวเราะในลำคอ ยิ่งทำให้จูอี้ซินเสียหน้า นางรีบขอตัว

แล้วก้าวเร็วๆ จนเกือบจะเป็นวิ่งออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว

            “นางเป็นอะไร” หลิวเข่อซิงมองอย่างงุนงง

            “เมื่อครู่เจ้าพูดว่าได้กลิ่นความริษยา?”  เขาถามด้วยความสนใจแล้วหยิบหวีหยกของตนมาแปรงผมให้นางด้วยตนเอง

            หลิวเข่อซิงนั่งนิ่งบนเก้าอี้อย่างผ่อนคลายและเคลิบเคลิ้มกับการถูกปรนนิบัติ  นานจนแทบจำไม่ได้แล้วว่า เคยถูกแปรงขนให้ครั้งล่าสุดเมื่อใดกัน 

            “อ่า...ดีจริง”

            “แม่นางหลิวหมายถึงเรื่องใด”  เขาเองก็ไม่ได้แปรงผมให้สตรีมานานมาก เมื่อครั้งยังเยาว์วัยเขาเคยปักปิ่นให้หลัวซู่เหมย หัวใจหวนคิดถึงวันวานเห็นภาพนางซ้อนทับหลิวเข่อซิงอย่างไม่ตั้งใจ

            “เรียกข้าเข่อซิงเถิด” นางพูดขึ้นทำลายความคิดคำนึงของเขา “เมื่อครู่ข้าหมายถึงที่เจ้าแปรงผมให้ข้า”

            “อย่างนั้นหรือ”  เขาเพียงรับคำเบาๆ พยายามอย่างสุดจิตสุดใจหักห้ามไม่ให้ตนเองคิดถึงหลัวซู่เหมยอีก

            “อ้อ! ข้าได้กลิ่นความริษยา”  นางพูดเหมือนเพิ่งนึกได้  “มันไม่เลวร้ายนักหรอก ผู้ใดก็มีความริษยากันได้ เพียงแค่ถ้าริษยามากหน่อย ข้าก็ได้กลิ่น ท่านแม่สอนว่าต้องระวังตัว คนพวกนี้หากมีความริษยามากเกินไปก็อาจทำร้ายผู้อื่นได้”

            “ท่านแม่ของเจ้าพูดถูกต้องแล้ว”  เขาเองก็พอรู้ความคิดของจูอี้ซิน แต่เพราะนางเองไม่ได้ทำให้เขากับสหายรำคาญนัก และพ่อบ้านจูดูแลจวนเป็นอย่างดี

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • สาวใช้ของนายท่านเป็นปีศาจสาวตนหนึ่ง    Chapter 51. ตอนพิเศษ

    ซุนเจ้าเฟิงยอมรับว่าผ่านอะไรมามาก แต่ไม่คิดว่าจะได้เจอเรื่องราวแปลกประหลาดเช่นนี้ เพื่อได้อยู่ดูแลคนรัก หานหรงเหยายอมแต่งเข้าสกุลหลิว ตระกูลวานิชที่มั่งคั่งในเมืองหลวง พิธีแต่งงานจัดใหญ่โตสมฐานะ แต่น้อยคนที่จะสังเกตว่าเจ้าสาวไม่ได้สติ ถูกประคองตลอดเวลา เขาพูดอะไรไม่ออก อยากถามย้ำการตัดสินใจครั้งนี้ แต่แววตาของหานหรงเหยาชัดเจนแล้วว่า ต้องการอยู่เคียงข้างหลิวเข่อซิง เขาทำได้เพียงแค่มองสหายรักเข้าพิธีแต่งงาน จนทั้งสองเดินทางออกจากเมืองหลวง เดิมทีเขาควรได้เดินทางกลับชายแดนก่อน แต่กลายเป็นว่าหานหรงเหยาออกเดินทางก่อนเขา และเป็นอีกครั้งที่เขาต้องนั่งฟังเสด็จพ่อเสด็จแม่ พยายามกล่อมให้เขาเลือกชายาเสียที “จะว่าไปลูกก็มีความดีความชอบไม่น้อย เหตุใดจึงไม่สามารถเลือกชายาของตนเองได้เล่า” ชายหนุ่มบ่นพึมพำแล้วยกน้ำชาขึ้นดื่ม “จะบ่ายเบี่ยงไปไย อย่างไรก็ต้องแต่งงาน” “ลูกแค่อยากเลือกคนที่จะมาเป็นชายาด้วยตนเอง” เขาเงยหน้าสบตากับบิดามารดาซึ่งเป็นฮ่องเต้และฮองเฮา “เสด็จพ่อเสด็จแม่จะกังวลเรื่องลูกไปทำไมกัน ในเมื่อพี่น้องคนอื่นล้วนแต

  • สาวใช้ของนายท่านเป็นปีศาจสาวตนหนึ่ง    Chapter 50. จบ

    เพราะนางหลับใหลไม่ได้สติ แม้สวมชุดเจ้าสาวสีแดงมงคล เขาก็ต้องคอยประคองนางอยู่ตลอดเวลา แต่เขาไม่รู้สึกเป็นภาระแต่อย่างใด ร่างเล็กเอียงซบต้นแขนของเขา มือใหญ่เกาะกุมมือเล็กไว้มั่น หลิวชิงเซียง คอยประคองยามที่ต้องคารวะให้กันและกัน เมื่อเสร็จพิธีทั้งหมด พวกเขาไม่ได้ส่งตัวบ่าวสาวเข้าห้องหอ แต่ขึ้นรถม้าที่ตระเตรียมไว้ออกนอกเมืองทันที “เจ้าติดค้างคืนเข้าหอของข้าอยู่นะ ซิงเอ๋อร์” เขาลูบใบหน้าน้อยที่หลับตาพริ้ม บางครั้งนางเหมือนอยู่ในห้วงฝัน แต่คงเป็นฝันดี เพราะนางยิ้มตลอดเวลา ราวครึ่งชั่วยามรถม้าก็หยุด หลิวชิงเซียงลงจากรถม้าแล้วส่งเสียงบอกหานหรงเหยาว่าถึงที่หมายแล้ว เขาเปิดผ่านประตูรถม้าก้าวลงมาก่อน กวาดตามองกระท่อมหลังเล็กที่มีดอกไม้นานาพรรณรายล้อม ไม่น่าเชื่อว่านี่คือสถานที่ที่ปีศาจอยู่ “ตำหนักของท่านแม่อยู่ห่างจากที่นี่ไม่ไกลนัก ท่านกับเข่อซิงพักที่นี่ หมอกสีม่วงที่ปกคลุมบริเวณนี้ไม่ทำอันตรายท่าน แต่ถ้าเป็นคนธรรมดาอาจถึงแก่ชีวิตได้” “ข้าทราบแล้ว” เขาเอ่ยอย่างนอบน้อม “ข้าต้องดูแลเข่อซิงอย่างไร” “ให้นางนอนหลับเช่นนี้ ห

  • สาวใช้ของนายท่านเป็นปีศาจสาวตนหนึ่ง    Chapter 49. นางเป็นภรรยาข้า ไม่ว่าอย่างไรข้าจะดูแลนางเอง

    “ท่านแม่ รีบช่วยเข่อซิงก่อนเถิดเจ้าค่ะ” หญิงงามในชุดสีม่วงหัวเราะในลำคอแล้วเดินไปทางหานหรงเหยาและหลิวเข่อซิง นางขยับปลายนิ้วเล็กน้อย โซ่ที่รัดรอบลำคอก็หลุดออก แม้ใบหน้าระบายยิ้มแต่ดวงตามีแววหวั่นวิตก “อุ้มนางลงมา” หานหรงเหยาไม่รอช้ารีบอุ้มร่างไร้เรี่ยวแรงของหลิวเข่อซิงลงจากเตียงหยกโลหิตแล้วประคองนางไว้ในอ้อมแขนอย่างทะนุถนอม “ท่าน...ท่านแม่...” “เด็กโง่ เหตุใดทำตัวเองเจ็บเช่นนี้” นางพูดด้วยสีหน้าเวทนา “นางจะดีขึ้นใช่ไหม” หานหรงเหยาเอ่ยถาม แต่คำตอบที่ได้ทำให้เขาหน้าซีดลงไปทันที “นางถูกหยกโลหิตดูดพลังชีวิตไปจนพร่องแล้ว เดิมทีนางก็เป็นเพียงจิ้งจอกแดงตัวน้อยที่ข้าชุบชีวิตให้กลายร่างเป็นมนุษย์ได้ และพลังชีวิตของนางก็ถ่ายเทไปที่ตัวเจ้าเสียครึ่งหนึ่งแล้ว” “อะไรนะ...เข่อซิง ทำไมเจ้าทำเช่นนี้” เขาก้มหน้ามองคนในอ้อมอกที่หายใจแผ่วเบา แต่นางยังคงฝืนยิ้มให้เขา “ข้า...ข้าอยู่มาหนึ่งร้อยสิบหกปีแล้ว แต่ท่านเพิ่งใช้ชีวิตได้แค่ยี่สิบปีเอง ข้าจึงแบ่งชีวิตครึ่งหนึ่งของข้าให้ท่าน”

  • สาวใช้ของนายท่านเป็นปีศาจสาวตนหนึ่ง    Chapter 48. ยอมตาย

    “ข้าไม่เป็นอะไร พวกท่านรีบไปเสีย” “พูดบ้าอะไร!” หลิวชิงเซียงที่ประมือกับนักพรตซีห่าวอยู่ตะคอกออกมา “เจ้าจะถูกหยกโลหิตดูดพลังชีวิตไปหมด เจ้าจะสลายกลายเป็นธุลี!” “อย่าห่วงไป ก่อนนางจะสลายไป ข้าจะควักหัวใจออกมาเช่นเดียวกับที่จะทำกับเจ้า” “ห้าสิบปีที่แล้วเจ้าทำไม่เสร็จ วันนี้เจ้าก็คิดว่าจะทำได้เรอะ!” นางสะแขนเสื้อขึ้นรับแส้หางม้าที่ฟาดลงมา ครั้งนี้เสื้อของนางฉีกขาดและเลือดสีสดกระเซ็นออกมา “เจ้าอยู่หอนางโลมแต่ไม่กินพลังหยางของบุรุษหรือไร เรี่ยวแรงจึงมีเพียงแค่นี้” นักพรตซีห่าวหัวเราะ “เจ้าอายุเท่าไหร่กัน ห้าร้อยปีใช่หรือไม่ ยังคงเชื่อใจว่ามนุษย์จะรักกับปีศาจอย่างเจ้าได้อยู่อีกเหรอ” เพราะถูกสะกิดแผลเก่า หลิวชิงเซียงพุ่งเข้าใส่อย่างไม่กลัวตาย ไม่สิ! นางไม่ยอมตายเพราะนักพรตชั่วที่เคยเปิดโปงร่างปีศาจของนางต่อหน้าชายคนรัก มันทำให้คนผู้นั้นทอดทิ้งนาง ทั้งที่นางเคยช่วยชีวิตเขา สิ่งที่นางไม่ยอมรับคือหลิวเข่อซิงเหมือนกับนางในอดีต แต่หลิวเข่อซิงไม่เหมือนนาง เพราะหานหรงเหยามีความจริงใจและมั่นรักอย่างแท้จริง แม้รู้ว่านางเป็น

  • สาวใช้ของนายท่านเป็นปีศาจสาวตนหนึ่ง    Chapter 47. หัวใจ(ปีศาจ)จิ้งจอกแดง

    ดวงตาคู่งามฉ่ำวาวด้วยหยาดน้ำตา หลิวเข่อซิงส่ายหน้าไปมา นางเป็นปีศาจจิ้งจอกแดงก็จริง แต่ไม่เคยทำร้ายมนุษย์ “ข้า...ข้าไม่เคยทำร้ายใคร...ท่าน ปะ...ปล่อยข้าไปเถิด” “ปีศาจอย่างพวกเจ้า หากไม่เสพพลังชีวิตจากมนุษย์จะอยู่ได้อย่างไร” เขายังคงใบหน้าแย้มยิ้ม “และหากไม่ได้เสพพลังหยางจากบุรุษจะมีพลังได้อย่างไร” หลิวเข่อซิงส่ายหน้าทั้งน้ำตา “ข้าไม่...” “เจ้าจะปฏิเสธไปไย ในเมื่อตัวเจ้าก็รู้ดีว่าตนเองมีปราณหยางไหลเวียนในกาย” เขาลดมือลงจากปลายคางของปีศาจสาว “ทำชั่วมามากแล้ว ข้าจะขอหัวใจของเจ้าเอาไว้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ก็แล้วกัน” “หัวใจของข้า...” นางยกมือกุมหัวใจตนเอง นางลืมไปได้อย่างไรว่าหัวใจของจิ้งจอกคือยาวิเศษชนิดหนึ่ง โดยเฉพาะปีศาจจิ้งจอกแดงที่กินพลังพลังวิญญาณของมนุษย์ และจะยิ่งดีขึ้นเมื่อปีศาจตนนั้นได้กินพลังหยางบริสุทธิ์ ไม่หรอก นางไม่ได้ลืม แต่ทำเป็นจำไม่ได้ เดิมนางเป็นจิ้งจอกแดงตัวน้อย แต่ถูก ‘ท่านแม่’ มอบปราณปิศาจให้กลายเป็นปีศาจที่สามารถกลายร่างเป็นมนุษย์ได้ เพื่อที่นางจะได้สะสมพลังหยาง ทว่านางขลาดกลัวจนเกินไป จึงเป

  • สาวใช้ของนายท่านเป็นปีศาจสาวตนหนึ่ง    Chapter 46. แต่ข้าทนเห็นท่านตายไม่ได้

    หลิวชิงเซียงไม่มีเวลาจะมาโต้เถียงกับซุนเจ้าเฟิง นางจึงหันไปพูดหานหรงเหยาที่ควบม้าขนาบข้าง“ดูแลสหายของเจ้าให้ดี หากได้เห็นอะไรที่ไม่ควรเห็น เจ้าก็รับผิดชอบเอาเองก็แล้วกัน” ซุนเจ้าเฟิงรู้สึกถ้อยคำของนางแปลกหู ไม่ใช่คำพูดนอบน้อมและยังบังอาจสั่งสหาของเขาอีก หานหรงเหยาสบตากับซุนเจ้าเฟิง เขาไม่มีเวลาอธิบายเรื่องทั้งหมด และไม่รู้ว่าสหายจะเข้าใจเรื่องเหล่านี้หรือไม่ ทั้งสามมาถึงอารามฝั่งตะวันตก มองผิวเผินด้านนอกดูสงบร่มรื่นแต่คนที่ผ่านสนามรบมาโชกโชนอย่างซุนเจ้าเฟิงย่อมรู้ดีว่า ที่นี่ไม่ใช่อารามธรรมดาอย่างแน่นอน เขาหันไปสบตากับหานหรงเหยาที่กระชับกระบี่ในมือ หลิวชิงเซียงไม่มีเวลาสนใจเรื่องใดอีก นางก้าวเท้าเข้าไปในอาราม ยังไม่ทันยกเท้าข้ามธรณีประตูก็สัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่พุ่งออกมาทำให้นางผงะถอยหลัง ยันต์กระดาษสีเหลืองมีอักขระสีแดงพุ่งเข้าใส่หญิงสาวราวลูกศร นางเบี่ยงตัวหลบแต่ยันต์แผ่นนั้นปาดแขนเสื้อของนางขาด “บัดซบ! เจ้านักพรตชั่วทำเสื้อข้าขาดเรอะ!” หลิวชิงเซียงกระทืบ เท้าอย่างไม่พอใจ “วันนั้นข้าไม่ควรปล่อยให้เจ้ารอดตายเลย” หญ

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status