Episode 06 ข้อเสนอ
ธีลินชะงักไปครู่หนึ่งเมื่อได้ฟังอาคิราสวนกลับมาแบบนั้น เธออยากจะเข้าไปขยุ้มหัวเขาให้รู้แล้วรู้รอดกันไปข้าง แต่จากสายตาของกายที่มองมาเหมือนพร้อมจะกำจัดเธออยู่ทุกเมื่อทำให้ไม่สามารถทำอย่างที่ใจคิดเอาไว้ได้
"งั้นฉันขอถอนคำพูดตอนนี้ทันไหมคะ"
"คิดว่าทันไหมล่ะ"
"ก็คิดว่าไม่ทันหรอกค่ะ แต่ก็ไม่คิดว่าจะต้องมาเป็นสาวใช้ให้มาเฟียจริงๆ คุณคิดว่าถ้าฉัน หรือคนอื่นๆ ที่มาทำงานก่อนหน้านี้รู้จะมีใครเต็มใจรับทำงานนี้จริงๆ งั้นเหรอคะ คิดว่าคนอื่นเขาไม่รักชีวิตตัวเองกันเหรอ ไม่คิดว่าเขาตั้งใจมาทำงานส่งเงินให้ที่บ้านบ้างเหรอ หรือคิดแค่ในมุมของตัวเองที่ไม่อยากให้ใครมารู้ความลับของคุณ แต่กลับพูดจาโจ่งแจ้งออกมาได้หน้าตาเฉยแบบนั้น" ธีลินพยายามควบคุมสติตัวเองอย่างสุดความสามารถเท่าที่จะทำได้ ทั้งกลัว ทั้งโกรธที่เขาเจตนาให้เธอได้ยินอย่างตั้งใจ
"ฉันมีข้อเสนอให้เธอเพื่อที่จะได้ไม่ต้องมีจุดจบเหมือนสาวใช้คนก่อนๆ"
"ฉันเลือกที่จะไม่รับข้อเสนอได้ไหม"
"ไม่รับก็ได้ แต่ฉันก็ไม่รับประกันว่าการเลือกที่จะปฏิเสธข้อเสนอของฉันจะมีจุดจบแบบไหน"
"แบบนั้นไม่เรียกข้อเสนอค่ะ เรียกข้อบังคับ" ธีลินตอบกลับด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวถึงแม้จะกลัวจนใจสั่น แต่ก็พยายามทำใจดีสู้มาเฟียเอาไว้
"เธอก็แค่ต้องทำงานของเธอให้ครบตามกำหนดสัญญาเดิมเท่านั้นเอง ไม่เห็นมีอะไรยากเลย" ธีลินคลี่ยิ้มบางๆ ออกมาถึงรู้ว่าอีกฝ่ายจะมองไม่เห็นก็ตาม
ไม่ยากแต่ไม่อยากทำแล้วนั่นคือประโยคแรกที่ผุดเข้ามาในหัวของเธอ แต่คิดว่าไม่พูดออกไปคงจะดีกว่า
"ถ้าครบสัญญาฉันจะได้กลับไปแบบมีชีวิตรอดออกไปใช่ไหมคะ"
"อืม"
"ได้เงินค่าจ้างเหมือนเดิมด้วยใช่ไหมคะ" ไหนๆ ก็ตกกระไดพลอยโจนมาขนาดนี้แล้วก็ขอเอาเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้องเป็นกำลังใจให้ทนทำงานที่นี่ต่อไปหน่อยแล้วกัน
"เพิ่มให้เป็นสองเท่า"
"ฮะ!" คนตัวเล็กตาโตด้วยความตกใจ อันนี้เขาเรียกเงินพิเศษค่าความเสี่ยงในการทำงานรึเปล่านะ "ฉันขอเซ็นสัญญาใหม่ด้วยนะคะ ฉันมีเงื่อนไขสองข้อ หนึ่งคือฉันต้องมีชีวิตรอดปลอดภัยร่างกายครบสามสิบสองตลอดระยะเวลาทำงาน รวมไปถึงหลังหมดสัญญาว่าจ้างแล้วด้วย สองเรื่องค่าจ้างที่เพิ่มเป็นสองเท่าเมื่อกี้ห้ามกลับคำทีหลังนะคะ จริงๆ ควรให้เป็นสามเท่าด้วยซ้ำการทำงานมีความเสี่ยงสูงขนาดนี้" ประโยคหลังธีลินแอบก้มหน้าพึมพำเบาๆ คนเดียว
"ตกลงเพิ่มค่าจ้างให้เป็นสามเท่า มึงไปจัดการร่างสัญญาใหม่มา" อาคิราตอบตกลง พร้อมกับเอ่ยบอกกายให้ไปดำเนินการเรื่องสัญญาการว่าจ้างใหม่ให้เรียบร้อย ถึงแม้กายจะไม่รู้ว่าเจ้านายของเขาคิดอะไรถึงได้ตัดสินใจทำแบบนี้ แต่เขาก็มีหน้าที่เพียงทำตามคำสั่งด้วยความภักดีเท่านั้น
"ครับนายน้อย"
ธีลินมองตามหลังกายที่เดินออกจากห้องไปด้วยความงุนงงว่าเรื่องทุกอย่างมันจะง่ายแค่นี้จริงๆ เหรอ อีกทั้งยังตาวาวกับจำนวนเงินค่าจ้างที่สูงเพิ่มขึ้นไปถึงสามเท่าตัว
"ง่ายๆ แค่นี้เลยเหรอคะ" ธีลินเอียงคอถามชายหนุ่มด้วยสายตาไม่ไว้วางใจ เพราะตอนนี้ความรู้สึกที่เธอมีต่อเขาเปลี่ยนไปจากเดิมสิ้นเชิง
"อืม"
"ไม่มีกฎเกี่ยวกับวงการมาเฟียที่ฉันควรรู้เอาไว้บ้างเหรอคะ" ธีลินที่ถูกเลื่อนขั้นจากสาวใช้คนพิการมาเป็นสาวใช้มาเฟียตาบอดถามเพื่อเตรียมตัวเองให้พร้อมกับตำแหน่งงานอันตรายของเธอ
"การไม่รู้อะไรนั่นแหละดีที่สุดแล้วสำหรับวงการนี้ ทำหน้าที่ของเธอไปก็พอ เรื่องอื่นไม่ใช่หน้าที่ของเธอ"
"ค่ะ"
ช่วงบ่ายวันเดียวกันกายเอาสัญญาฉบับใหม่มาให้ธีลินเซ็น เธออ่านรายละเอียดสัญญาอย่างละเอียดถี่ถ้วนกว่าฉบับแรกเสียอีก เพราะสัญญาฉบับนี้เป็นเหมือนตั๋วทองคุ้มกันภัยให้เธอมีชีวิตรอดกลับไป หลังจากสัญญาเป็นไปตามที่ตกลงกันเอาไว้เธอจึงยอมจรดปลายปากกาเซ็นชื่อตัวเองลงไปเป็นลายลักษณ์อักษร
"เรียบร้อยแล้วครับนายน้อย" กายบอก
"อืม"
กายนำเอกสารไปถือเอาไว้เพื่อนำไปจัดเก็บต่อไป ส่วนอาคิราก็ยืนขึ้นเตรียมตัวเดินไปไหนสักที่เขายื่นมือมาตรงหน้าโดยไม่พูดอะไร ธีลินลอบถอนหายใจเรียกขวัญกำลังใจให้ตัวเองก่อนจะเดินไปวางมือลงบนฝ่ามือหนาเพื่อนำทางให้เขา
"นายน้อยจะไปไหนคะ" ธีลินเอ่ยถามเพราะไม่รู้ว่าเขาจะให้เธอพาไปไหน
"ห้องใต้ดิน"
"แต่ว่าห้องใต้ดินมัน..." เธอชะงักไปเพราะห้องใต้ดินเป็นหนึ่งในพื้นที่หวงห้ามที่เขาไม่อนุญาตให้เธอเข้าไป
"ถ้ารู้เรื่องนั้นแล้ว ห้องใต้ดินก็ไม่ใช่ความลับสำหรับเธออีกต่อไปแล้วละ"
"แต่การรู้น้อยก็ดีกว่าไม่ใช่เหรอคะ ไม่ลงไปได้ไหมคะ" ธีลินพยายามต่อรอง แค่รู้เรื่องที่เขาเป็นมาเฟียยังเกือบขิตเอาชีวิตไม่รอด ถ้าไปรู้ว่ามาเฟียเขาทำอะไรกันคงไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่นัก
"สัญญาใหม่ไม่ได้มีข้อไหนที่ระบุว่าเธอสามารถขัดคำสั่งฉันได้นะ" ธีลินยู่หน้าใส่อีกฝ่ายด้วยความมันเขี้ยว ก่อนจะจำใจพาเขาไปยังห้องใต้ดิน
ตอนเป็นนายจ้างธรรมดาเธอก็แทบไม่มีปากมีเสียงอยู่แล้ว ตอนนี้นายจ้างของเธอยังเป็นมาเฟียฆ่าคนเป็นผักปลาจะให้เธอไปสู้อะไรเขาได้
หัวใจดวงน้อยเต้นกระหน่ำทุกย่างก้าวที่เดินลึกลงไปภายในห้องใต้ดินที่มีระบบรักษาความปลอดภัยแน่นหนาหากจะเข้าไปต้องใช้ทั้งรหัส และลายนิ้วมือของอาคิราเพื่อเปิดทาง
"ระวังนะคะมันมืดมากเลย"
"แล้วถ้าสว่างฉันจะมองเห็นใช่ไหม"
ธีลินหันมามองมาเฟียหนุ่มที่ตอบกลับมา เพราะความประหม่าเลยทำให้เธอลืมไปว่าเขามองไม่เห็น ด้านล่างมีกระบอกปืนอยู่จำนวนหนึ่งอีกทั้งยังมีสนามมวย และอุปกรณ์ในการใช้ต่อสู้อื่นๆ อีกมากมาย แต่กลับให้ความรู้สึกเหมือนห้องเชือดเสียมากกว่า
กลุ่มชายกำยำที่เดินตามลงมาจำนวนหนึ่งทำให้ธีลินตกใจเผลอออกแรงบีบมืออาคิราเอาไว้แน่น เธอมองแต่ละคนด้วยความหวาดกลัว ทว่าพวกเขากลับมีเพียงใบหน้าไร้อารมณ์ยามมองมาที่เธอเท่านั้น
ทั้งที่อยากถามว่าลงมาทำอะไรข้างล่างในสถานที่ที่ทั้งน่ากลัว และอึดอัดจนหายใจไม่ทั่วท้องแบบนี้ แต่เธอก็ไม่กล้าเอ่ยถามออกไป ไม่กล้าแม้กระทั่งจะเงยหน้ามองใครในห้องนี้เลยด้วยซ้ำ
อาคิราที่สัมผัสได้ถึงแรงบีบ และมือที่สั่นระริกของหญิงสาวรับรู้ได้ทันทีว่าตอนนี้เธอรู้สึกหวาดกลัวขนาดไหน
"ฉันอยู่ใครก็ทำอะไรเธอไม่ได้"
Episode 07 อีกด้านของมาเฟียถึงแม้ประโยคที่ฟังดูเหมือนจะคุ้มกันภัยเธอได้ แต่ธีลินกลับรู้สึกว่าเขาอันตรายที่สุดในบรรดาพวกผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงนี้แล้วธีลินปล่อยมือออกจากมือหนาส่วนเขาก็ค่อยๆ ก้าวเดินไปข้างหน้าเพียงลำพังอย่างใจเย็น โดยมีสายตาหลายสิบคู่จับจ้องมองมาที่อาคิราจนเธอที่มองเห็นสายตาพวกนั้นรู้สึกขนลุกแทนเขาชายคนหนึ่งเดินออกจากแถวตรงไปหาอาคิรา ขณะที่คนอื่นกระจายแถวออกล้อมเป็นวงกลมทำให้เธอเป็นหนึ่งในคนที่ติดอยู่ภายในด้วย เธอพยายามประเมินสถานการณ์ด้วยความระมัดระวัง ในสถานการณ์แบบนี้เธอจะไว้ใจคนตาบอดอย่างเขาได้จริงๆ งั้นเหรอ?"คุณคราม!!!" ธีลินกรีดร้องออกมาเสียงหลงเมื่อจู่ๆ ผู้ชายที่เดินนำเข้าไปคนแรกก็เหวี่ยงหมัดใส่อาคิราที่ยืนอยู่ แต่เขาก็เบี่ยงตัวหลบได้ทันเพียงเสี้ยววินาทีเธอยกมือขึ้นปิดปากเก็บเสียงของตัวเองเอาไว้มองดูอาคิราค่อยๆ เคลื่อนตัวไปตามเสียงฝีเท้าของอีกฝ่ายอย่างใจเย็น เขายื่นมือออกมาตรงหน้าเพื่อควานหาคู่ต่อสู้จังหวะนั้นเองที่อีกฝ่ายจับข้อมือของเขากระชากเข้ามาเตรียมปล่อยหมัดใส่ แต่อาคิรากลับจ
Episode 08 ไม่อยากเป็นนางบำเรอให้คุณธีลินเงยหน้ามองอาคิราโดยไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เพราะสุดท้ายคำตอบของเธอมันก็ขึ้นอยู่กับเขาอยู่ดี ถ้าเขาไม่ให้ไปผู้หญิงธรรมดาอย่างเธอจะหนีมาเฟียผู้ทรงอิทธิพลแบบเขาได้ยังไง"ฉันเอาของไปเก็บก่อนนะคะ" คนตัวเล็กที่นั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นตรงหน้าชายหนุ่มเตรียมลุกขึ้นยืนนำกล่องยาไปเก็บ"วางไว้นี่แหละให้แม่บ้านมาเก็บ ส่วนเธอก็ตอบคำถามฉันมา""คำตอบมันขึ้นอยู่กับนายน้อยนี่คะ ถ้าไม่ให้ไปฉันก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี ตอนนี้ได้แต่ภาวนาว่ามาเฟียอย่างคุณจะรักษาสัญญาที่ให้ไว้ปล่อยฉันไปเมื่อถึงกำหนด""อยากไปจากฉันขนาดนั้นเลย?" ประโยคคำถามที่แฝงไปด้วยความไม่ชอบใจของอาคิรา ทำให้ธีลินสัมผัสได้ และเลือกที่จะเลี่ยงการตอบคำถามเขาตรงๆ เหมือนที่ผ่านมา"แค่อยากกลับบ้านน่ะค่ะ…อื้อ!" ดวงตากลมโตเบิกโพลงด้วยความตกใจเมื่ออาคิรายื่นมือมาบีบแก้มของเธออย่างแรง"ฉันเกลียดคนโกหก จำเอาไว้ว่าที่เธอยังมีลมหายใจนั่งอยู่ตรงนี้เพราะความซื่อสัตย์ของเธอ อย่าให้ฉันจับได้ว่าเธอโกหก ไม่อย่างนั้นฉันไม่แน่ใจว่าจะฉี
Episode 09 หน้าที่ใหม่หลังจากทำกิจวัตรประจำวันช่วงเย็นเสร็จเรียบร้อยแล้วธีลินก็หยิบหนังสืออักษรเบรลล์เล่มโปรดที่อาคิราชอบอ่านก่อนนอนมาส่งให้เขาอย่างรู้ใจ"อ่านให้ฟังหน่อย""ให้ฉันอ่านให้ฟังเหรอคะ?" เธอเปิดหน้าหนังสือดูก็พบว่ามันไม่มีตัวอักษรใดๆ บนหน้ากระดาษเลยมีเพียงสัญลักษณ์อักษรเบรลล์เท่านั้นซึ่งเธออ่านมันไม่ออก "มันไม่มีตัวหนังสือค่ะ ฉันอ่านไม่ออก""งั้นเล่าเรื่องที่เธอชอบฟังแทนละกัน" รู้ทั้งรู้ว่าหนังสือเล่มนี้มีเฉพาะอักษรเบรลล์ แต่ก็ยังเจ้าเล่ห์แกล้งบอกให้คนตัวเล็กอ่านให้ฟังธีลินเงียบไปอยู่ครู่หนึ่งเธอพยายามคิดว่าตัวเองชอบเรื่องอะไร และควรจะเล่าอะไรให้เขาฟังดี"ฉันไม่รู้จะเล่าอะไรค่ะ""เล่าอะไรก็ได้เกี่ยวกับตัวเธอ"เป็นอีกครั้งที่คนตัวเล็กนิ่งเงียบไปเธอเดินไปหยิบครีมทามือมาจากโต๊ะเครื่องแป้งของอาคิรา ก่อนจะเดินกลับมานั่งลงข้างๆ เตียง เธอบีบครีมลงบนมือหนาทาให้เขา พร้อมกับออกแรงนวดเบาๆ ให้รู้สึกผ่อนคลาย"ฉันชอบทำขนมค่ะ แล้วก็ชอบกินขนมหวานมากด้วย ตอนเด็กๆ
Episode 10 มาเฟียรุกแรงธีลินตั้งใจตื่นมาทำงานวันที่สามของเธอให้เช้ากว่าเมื่อวานเพราะเกรงว่าอาคิราจะตื่นก่อนเธออีก มันคงดูไม่เหมาะเท่าไหร่ที่ลูกจ้างอย่างเธอจะตื่นสายกว่าเจ้านายตัวเอง"สวัสดีค่ะคุณกาย คุณครามตื่นรึยังคะ" ธีลินทักทายกายที่เดินสวนลงบันไดมา"ตื่นแล้วครับอยู่ห้องทำงาน""ขอบคุณค่ะ" ธีลินยิ้มให้กายด้วยรอยยิ้มแปลกๆ อาจจะเป็นเพราะเขาไม่ใช่แค่เลขาคนรวยอีกต่อไป แต่เป็นมือขวามาเฟียไปแล้ว เหมือนกับเธอที่จับพลัดจับผลูมาเป็นสาวใช้มาเฟีย"เหนื่อยหน่อยนะครับ" กายบอกธีลินอย่างเป็นมิตรทว่าอีกฝ่ายกลับนึกไปเองว่าเป็นคำขู่"หมายความว่าไงอะ มีเหนื่อยกว่านี้อีกเหรอ!" หญิงสาวตาโตหันไปมองตามแผ่นหลังกว้างของกายที่เดินลงบันไดไปธีลินเดินเข้าไปในห้องนอนของอาคิราเพื่อทำหน้าที่ของตัวเองโดยไม่ได้ขออนุญาตเนื่องจากคิดว่าเขาคงยังอยู่ในห้องทำงาน"เฮ้ย!" คนตัวเล็กกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจเมื่อเห็นอาคิรากำลังยืนทำธุระอยู่ในห้องน้ำ ขนาดของสงวนที่ไม่สงวนสำหรับเธออีกต่อไป เพราะเห็นไปเต็มตาเมื่อครู่ใ
Episode 11 พ่อเลี้ยงธีลินมองหน้าพ่อเลี้ยงด้วยสายตาไม่เป็นมิตรอย่างเปิดเผย ทว่าอีกฝ่ายกลับยิ้มเยาะไม่สะทกสะท้าน"บังเอิญจังไม่รู้ว่าลูกสาวผมก็ทำงานอยู่ที่นี่ด้วย""ฉันไม่ใช่ลูกแกอย่าสะเหล่อ" ธีลินบอกด้วยความเกลียดชัง โดยเฉพาะเวลาที่พ่อเลี้ยงของเธอทำเหมือนไม่เคยทำชั่วเอาไว้กับเธอ หากวันนั้นธามน้องชายของเธอไม่กลับมาจากทำงานพาร์ตไทม์ไว เธอคงไม่รอดมาถึงทุกวันนี้ หลังจากวันนั้นเธอก็ไม่เคยเฉียดเอาตัวเองเข้าไปใกล้เขาอีกเลย"พูดจาหยาบคายแบบนี้ต่อหน้าคนอื่นได้ยังไงกันลูกรัก"ธีลินกำหมัดแน่นด้วยความโกรธเคืองเกรงว่าพ่อเลี้ยงของเธอคงจะไม่ยอมหยุดรังควานเธอง่ายๆ หากไม่ยอมตามน้ำไปกับเขา เท้าเรียวถอยหลังออกโดยอัตโนมัติเมื่อพ่อเลี้ยงของเธอตั้งท่าจะเดินมาทางเธอ แต่ถูกบอดี้การ์ดของอาคิราขวางเอาไว้เสียก่อน"ผมแค่ขอทักทายลูกสาวผมแป๊บเดียวเอง พอดีเรามีเรื่องผิดใจกันนิดหน่อย" ยิ่งอีกฝ่ายหน้าหนาพยายามทำตัวเหมือนเป็นพ่อของเธอมากเท่าไหร่ความรู้สึกขุ่นมัวในใจของเธอก็ยิ่งเพิ่มขึ้นตามเท่านั้นส่วนอาคิราก็นั่งเป็นผู้ฟังอย่างมีมารยาท
Episode 12 แม่พ่อเลี้ยงของธีลินถูกส่งตัวกลับไปในสภาพยับเยินแทบจะทุกส่วนของร่างกาย ส่วนธีลินก็ทำงานต่อด้วยสภาพจิตใจที่เหม่อลอย"ทำแบบนั้นจะไม่เป็นไรจริงๆ เหรอคะ" ธีลินเอ่ยถามอาคิราด้วยความรู้สึกผิดที่เริ่มก่อตัวขึ้นในตอนหลัง"สบายใจเถอะมันสมควรได้รับแล้ว""ทำไมคุณต้องทำแบบนี้ด้วย ที่พ่อเลี้ยงมาทำงานเป็นคนสวนที่นี่ก็คงจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญใช่ไหม""แน่นอนว่าไม่ใช่" อาคิราตอบกลับหญิงสาวด้วยความมั่นใจ มันจะเป็นความบังเอิญไปได้ยังไงในเมื่อเขาเป็นคนสั่งงานทุกอย่างด้วยตัวเอง "ส่วนที่ทำไปก็ไม่มีเหตุผลอะไรฉันแค่ไม่ชอบพ่อเลี้ยงของเธอ"ทำร้ายคนอื่นปางตายเหตุผลแค่เพียงเพราะไม่ชอบ ความโหดร้ายที่สมกับเป็นมาเฟียของเขาทำให้ธีลินไม่กล้าคาดหวังอะไรจากเขาไปมากกว่านี้"คุณธีลินครับมีคนมาหาครับ""หาฉัน?" ธีลินหันไปตามเสียงเรียกของกายที่เดินเข้ามาบอก เธอเดาไม่ออกเลยว่าใครจะมาหาเธอที่นี่ได้"แม่กับน้องชายคุณครับ""ฉันขอออกไปพบพวกเขาได้ไหมคะ" ธีลินผ่อนลมหายใจออกมาเตรียมรับมือกับปัญหาที่กำลังตา
Episode 13 มาเฟียโหมดละมุนธามกวาดสายตามองรอบบ้านขนาดใหญ่โตหรูหรา พร้อมบอดี้การ์ดรายล้อมด้วยความสนใจ แต่กลับไม่ได้สงสัยอะไร เพราะคิดว่าการที่บ้านคนรวยจะมีลูกน้องหลายสิบคนไม่ใช่เรื่องแปลกนัก ที่แปลกคือเขายอมเอาเงินจำนวนมากมายขนาดนั้นให้แม่ของเขาไปทำไม?"พี่ลินทำไมเจ้านายพี่เปย์ขนาดนั้นอะ แบบนี้เราต้องใช้หนี้เขาไหม" ธามเอ่ยถามพี่สาวตัวเองขณะที่อยู่กันตามลำพัง เพราะอาคิราอนุญาตให้สองพี่น้องได้พูดคุยกันเป็นการส่วนตัว"ถามฉันฉันจะไปถามใครล่ะทีนี้ ก็รู้ๆ เท่ากับที่แกรู้เลย แต่ถ้าเป็นหนี้สามล้านสามเท่าก็เกือบๆ สิบล้านเลยนะสงสัยแกกับฉันน่าจะได้ใช้หนี้หัวโตแล้วแหละ""เกือบสิบล้านไม่น่าจะแค่หัวโตแล้วนะ หำโตก็ยังใช้หนี้ไม่หมด""ไอ้เด็กบ้านี่!" ธีลินตาโตมองซ้ายขวาด้วยท่าทางเลิ่กลั่กกับคำพูดกวนประสาทของน้องชาย "ว่าแต่เรื่องแม่จะเอาไงดี""ไม่ต้องเอาไง ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น ต่อไปนี้แม่เดียวที่นับถือคือพระแม่ลักษมีเท่านั้น" ธามแกล้งตอบติดตลกเพราะไม่อยากให้พี่สาวของเขาคิดมากจนเกินไป"หาสาระจากแกไม่เคยได้เลย
Episode 14 มาเฟียเจ้าแผนการธีลินยืนกอดอาคิราหวังให้ไออุ่นจากตัวเขาที่แผ่กระจายมาหาเธอช่วยเยียวยาความรู้สึกอ่อนไหวของเธอในตอนนี้ หลังจากยืนกอดเขาอยู่พักใหญ่จนจิตใจเริ่มกลับมาคงที่เธอก็ค่อยๆ ผละตัวออกยกมือขึ้นเช็ดคราบน้ำตาของตัวเอง"ขอโทษค่ะ ฉันจะพาไปส่งที่ห้องนะคะ" หญิงสาวรีบเบี่ยงประเด็นทันที ทว่ายังคงแอบเหลือบมองใบหน้าคมคายของเขาด้วยหัวใจที่เต้นแรง นับว่ายังโชคดีที่เขามองไม่เห็นไม่อย่างนั้นคงเห็นใบหน้าแดงระเรื่อของเธอไปแล้วธีลินจับมืออาคิรากลับมาบนห้องนอนของเขา พลางเหลือบมองดูเวลาว่าอีกครึ่งชั่วโมงนิดๆ ก็ใกล้จะถึงเวลาตามกฎที่เธอห้ามออกจากห้องแล้ว ทว่าแทนที่อีกฝ่ายจะรีบปล่อยให้เธอกลับไปเขากลับรั้งเธอไว้ด้วยการให้เธออ่านหนังสือให้เขาฟัง"อ่านหนังสือให้ฉันฟังหน่อยสิ""แต่ว่า…" ธีลินเหลือบมองดูนาฬิกาอีกครั้งด้วยความชั่งใจ แต่เพราะหนี้บุญคุณที่เขามีต่อเธออย่างล้นหลามในตอนนี้ทำให้เธอไม่กล้าที่จะปฏิเสธเขาเธอหยิบหนังสือที่วางอยู่ตรงหัวเตียงมาเปิดอ่าน ทว่าหนังสือเล่มนี้กลับไม่ใช
บทส่งท้ายมาเฟียหนุ่มที่เคยสุขุมเยือกเย็นตอนนี้กลับนั่งไม่ติดที่พร้อมกับอุ้มลูกสาววัยสองขวบกว่าเอาไว้ในอ้อมแขนรอภรรยาของเขาอยู่หน้าห้องทำคลอด เนื่องจากจู่ๆ ธีลินก็มีอาการเจ็บท้องคลอดขณะที่อายุครรภ์ได้สามสิบสี่สัปดาห์ซึ่งเป็นการคลอดก่อนกำหนดที่หมอได้นัดเอาไว้ ทำให้เขารีบพาธีลินมาหาหมอพร้อมกับคาร์ลินลูกสาวตัวน้อยด้วยความตื่นเต้น"ป๊ะป๋า~""ว่าไงคะคนสวยของป๊ะป๋า" อาคิราก้มหน้ามาหาคาร์ลินพร้อมกับพยายามควบคุมน้ำเสียงให้เป็นปกติถึงแม้จะซ่อนความตื่นเต้นเอาไว้ไม่มิดก็ตาม"มัมมี้ไปหนาย~""มันมี้กำลังไปรับน้องอยู่ค่ะ คาร์ลินรอกับป๊ะป๋าตรงนี้โอเคไหมคะ""โอเค~" น้ำเสียงเจื้อยแจ้วของลูกสาวยิ่งทำให้อาคิราตื่นเต้นที่จะได้พบกับสมาชิกใหม่ของครอบครัว และก็ภาวนาให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปอย่างราบรื่น"นายน้อยครับทางนายใหญ่กำลังเตรียมตัวบินมาประเทศไทยเพื่อรับขวัญหลานครับ อีกไม่นานคงถึง" กายเดินเข้ามารายงานพร้อมกับระบายยิ้มกว้างให้คาร์ลินที่เอื้อมมือมาหาเขา"อืม""กาย~ หากาย~" จากมือขวาสุดโหดของมาเฟียหนุ่มพักหลังที่ได
Episode 60 แพ้ท้องแทนเมียสามเดือนต่อมาท้องของธีลินก็เริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับอาการแพ้ท้องแทนเมียของอาคิราที่ไม่มีทีท่าว่าจะทุเลาลงเลยแม้แต่น้อย ทุกวันนี้นอกจากกลิ่นของธีลินเขาก็แทบจะดม หรือสัมผัสกับกลิ่นอะไรไม่ได้เลย ทำให้เขาไม่สามารถทานอาหารได้มากเท่าที่ควรร่างกายเลยดูซูบผอมลงไปบ้าง แต่ด้านสภาพจิตใจของเขากลับมีพลังเต็มเปี่ยมไม่ได้รู้สึกทรมานกับการแพ้ท้องแทนเมียในครั้งนี้เลย"เป็นไงบ้างคะ ดีขึ้นบ้างไหม" ธีลินเอ่ยถามอาคิราที่นั่งกอดหมอนอยู่ที่ห้องรับแขกด้วยท่าทางหมดสภาพ"ได้กลิ่นลินเดี๋ยวก็คงดีขึ้นแล้ว""ไม่คิดว่าจะเป็นนานขนาดนี้อดทนหน่อยนะคะ""ฉันไม่เป็นไรหรอกดีใจซะอีกที่ฉันเป็นคนแพ้ท้องไม่ใช่ลิน ถ้าลินแพ้ท้องจนกินอะไรไม่ได้แบบนี้ฉันคงช้ำใจแย่""เลิกพูดจาแปลกๆ แบบนี้สักทีได้ไหมคะ เป็นมาเฟียนะคะไม่คีปลุคหน่อยเหรอ""ฉันเป็นมาเฟียก็จริง แต่ฉันเป็นผัวลินนะ ทำไมต้องโหดกับเมียด้วยแบบนั้นสถาบันครอบครัวฉันก็สั่นคลอนหมดน่ะสิ"คำพูดติดตลกของมาเฟียหนุ่มทำให้ธีลินหลุดหัวเรา
Episode 59 เก็บหลักฐานว่าที่มาเฟียหนุ่มพ่อลูกสองเงยหน้ามองธีลินด้วยแววตาเป็นประกายหากเขาไม่ได้หูฝาดไปแสดงว่าธีลินกำลังให้โอกาสเขาอยู่ใช่หรือไม่ เขารีบกุมมือเรียวทั้งสองข้างเอาไว้ด้วยความตื่นเต้น“ตลอดชีวิตลินหมายความว่ายังไง ลินยอมให้โอกาสฉันแล้วใช่ไหม”“ลินแค่บอกให้คุณชดใช้ให้ลินกับลูกต่างหาก”“ฉันยินดีชดใช้ให้ลินกับลูกด้วยชีวิตฉันเลย” อาคิรารีบตอบกลับด้วยความตื่นเต้น ทว่านั่นกลับทำให้ใบหน้าหวานบึ้งตึงในทันที“ลินหมายความว่าให้คุณชดใช้อดีตของคุณด้วยลมหายใจของคุณที่เหลืออยู่ทำให้ลินกับลูกมีความสุข ไม่ได้หมายความว่าลินอยากได้ชีวิตของคุณ ลินไม่อนุญาตให้คุณตายไปจากลินอีกแล้วเข้าใจไหมคะ” น้ำเสียงเป็นกังวลที่สะท้อนถึงบาดแผลในใจลึกๆ ของธีลินที่คงไม่มีวันจางหายไปจากความรู้สึกของเธอทำให้อาคิรารีบโอบกอดร่างบางเอาไว้เพื่อปลอบโยนเธอ“ฉันอยู่นี่แล้วนะ ฉันจะไม่ไปไหนแล้วต่อให้ไล่ก็ไม่ไป” อาคิราตอบด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มพร้อมกับยกมือลู
Episode 58 ชดใช้ตลอดลมหายใจอาคิราที่แอบมองธีลินก่อนขึ้นไปแอบเดินมาถามแม่บ้านด้วยความสงสัยว่าธีลินมาขออะไรจากเธอ เพราะท่าทางของเธอดูมีพิรุธราวกับไม่อยากให้เขารับรู้บางสิ่งที่เธอกำลังปิดบังเอาไว้"ลินมาเอาอะไรเหรอ""เอ่อ…คือว่า…""ฉันถามก็แค่ตอบคงไม่อยากให้โมโหหรอกใช่ไหม" อาคิราเอ่ยถามเสียงเข้ม นอกจากธีลินแล้วเขาก็ไม่ชอบที่ต้องพูดจาซ้ำๆ เธอเป็นข้อยกเว้นเพียงหนึ่งเดียวสำหรับเขาที่ต่อให้พูดประโยคเดิมซ้ำๆ วนไปมาทั้งวันถ้าเธอต้องการเขาก็สามารถทำให้ได้ด้วยความเต็มใจ"นายหญิงน้อยมาขอให้คนออกไปซื้อชุดตรวจครรภ์ให้ค่ะ""ตรวจครรภ์? หมายความว่าลินกำลังท้องเหรอ!""ดิฉันไม่ทราบค่ะนายหญิงน้อยพึ่งเอาไปตรวจไม่ได้บอกอะไร""ที่ไหน""ห้องน้ำรับแขกปีกขวาค่ะ"คำตอบของแม่บ้านทำให้มาเฟียหนุ่มรู้สึกกระวนกระวายอยู่ไม่น้อยเขารีบสาวเท้ายาวตรงไปยังห้องน้ำชั้นล่างที่ธีลินแอบไปตรวจเพียงลำพัง เขายืนเดินวนไปมาอยู่หน้าประตูด้วยความตื่นเต้น มือหนากำประสานกันจนเหงื่อชุ่ม"ว้าย!" ธีลิน
Episode 57 อารมณ์อ่อนไหวประโยคสั้นๆ ที่อาคิราพูดออกมาทำให้หยดน้ำตาใสๆ ไหลรินออกมาโดยไม่รู้ตัว ธีลินจึงทำได้เพียงหัวเราะกลบเกลื่อน เพราะไม่อยากให้สถานการณ์อึดอัดเพราะการร้องไห้ของเธอ"ฮ่าๆๆ อยู่ดีๆ น้ำตาก็ไหลเฉยเลยค่ะ""ไม่เป็นไร อยากร้องก็ร้องเลยนะ""…""ฉันอยู่ตรงนี้ ฉันจะเป็นทิชชูให้ลินเอง" มาเฟียหนุ่มพ่อลูกอ่อนฉีกยิ้มกว้างส่งมอบความอบอุ่นผ่านไปยังฝ่ามือหนาที่ยกขึ้นมาเช็ดคราบน้ำตาให้เธอ เหมือนกับตอนที่เธอต้องโดดเดี่ยวเพราะเรื่องของแม่เมื่อก่อน ก็มีเขาที่ยื่นมือเข้ามาเช็ดน้ำตาให้เธอทำให้สุดท้ายเธอก็ร้องไห้ออกมาอยู่ดี แต่เป็นการร้องไห้พร้อมกับเสียงหัวเราะ ที่สุดท้ายคนที่สามารถเช็ดน้ำตาให้เธอได้อย่างอ่อนโยนคือคนเดียวกับคนที่เคยทำร้ายเธออย่างเลือดเย็นหลังจากจัดการอารมณ์อ่อนไหวของตัวเองอยู่พักใหญ่ธีลินก็สามารถกลับมาควบคุมอารมณ์ตัวเองได้เป็นปกติ จะมีก็แต่อาคิราที่เริ่มแสดงอาการแปลกๆ ออกมาระหว่างที่กำลังนั่งทานมื้อเย็นกัน"เป็นอะไรรึเปล่าคะ""ช่วงนี้กลิ่นแซลมอนมันเหม็นคาว
Episode 56 เหนื่อยใช่ไหมอาคิราสั่งอาหารเมนูเดียวกับที่เขาสั่งมาทานเมื่อครั้งก่อน ทว่ารสชาติอาหารครั้งนี้กลับแตกต่างออกไปจากเดิมมันไม่ได้อร่อยขึ้น แต่มันกลับทำให้เขามีความสุขเวลาที่กินมากขึ้นเพราะมีลูกเมียนั่งรวมโต๊ะด้วยในครั้งนี้ อาคิราพยายามใส่ใจทุกการเคลื่อนไหวของธีลินกับลูกใส่ใจจนถึงขั้นที่พนักงานต่างพากันไปซุบซิบนินทาด้วยความอิจฉากับความน่ารักของครอบครัวนี้"อร่อยไหม""ค่ะ""เอาอะไรเพิ่ม แล้วคาร์ลินกินอันนี้ได้รึเปล่า""พอแล้วค่ะคุณครามแค่นี้ก็กินกันไม่หมดแล้ว""ฉันอยากให้ลินกับลูกลองกินหลายๆ อย่าง นี่เป็นหนึ่งในร้านโปรดของฉันเลยนะ" อาคิราพยายามคะยั้นคะยอให้ธีลินสั่งอาหารอย่างอื่นมาทานอีก"วันหลังค่อยมากินกันใหม่ก็ได้ค่ะ"คำตอบของธีลินทำให้อาคิราชะงักไปครู่หนึ่ง เขาที่กำลังเช็ดปากให้คาร์ลินเงยหน้ามามองธีลินก่อนจะค่อยๆ คลี่ยิ้มบางๆ ออกมาด้วยความดีใจ"หมายความว่าเราจะได้มากินข้าวด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตาแบบนี้อีกบ่อยๆ ใช่ไหม""อืม" ธีลินพยักหน้าให้แทนคำตอบ พร้อมกับหลบส
Episode 55 Family dayอาคิราเดินขึ้นมาหาธีลินหลังจากที่ธามบอก ตอนนี้เขาสามารถเดินเข้าออกบ้านของธีลินได้ตามอัธยาศัยเนื่องจากตอนนี้ธีลินเปิดโอกาสให้เขาได้ทำหน้าที่พ่อของลูกได้อย่างเต็มที่ และเขาเองก็พยายามใช้โอกาสนี้อย่างสุดความสามารถ"ทำไมมาแต่เช้าเลยคะ" ธีลินเอ่ยถามทั้งที่ไม่ได้หันหลังมามอง เพราะได้ยินเสียงฝีเท้าของอาคิราตอนเดินเข้ามา"ธามบอกลินอาบน้ำให้ลูกอยู่น่ะฉันเลยขึ้นมาช่วย""ใกล้เสร็จแล้วค่ะ เหลือแต่งตัวเฉยๆ" ธีลินส่งลูกสาวที่ห่อตัวด้วยผ้าขนหนูให้อาคิราอุ้มเอาไว้ ส่วนเธอก็เดินไปเตรียมเสื้อผ้ามาให้ลูกสาวสวมใส่"ลูกกินข้าวเช้าแล้วใช่ไหม""กินแล้วค่ะ ทำไมเหรอ""เปล่าหรอกถามเฉยๆ ว่าแต่วันนี้เราออกไปข้างนอกกันไหม""ไปไหนคะ ไปทำไม" ธีลินเอ่ยถามด้วยความสงสัย เพราะตอนนี้เธอไม่ค่อยชอบเซอร์ไพรส์จากเขาเท่าไหร่นัก"ฉันแค่อยากใช้เวลากับลินกับลูกน่ะไม่มีอะไรหรอก จะได้ถือโอกาสพาคาร์ลินไปเที่ยวด้วยไง" อาคิราบ่ายเบี่ยงที่จะบอกถึงสถานที่ปลายทางที่ตั้งใจจะพาไป
Episode 54 อาคิราเปลี่ยนไปหนึ่งเดือนต่อมาเมื่อแผนการทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่น ทำให้เรื่องการแต่งงานของทั้งสองตระกูลจบลงด้วยดี ทั้งสองพี่น้องตัดสินใจอยู่เที่ยวต่อราวๆ หนึ่งอาทิตย์ และรีบกลับมาเปิดร้านเพราะไม่อยากให้ปิดนานจนเสียลูกค้าไป การกลับมาครั้งนี้ก็มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เปลี่ยนแปลงตามไปด้วย โดยเฉพาะความสงบสุขของสองพี่น้องที่อาจจะไม่มีให้เห็นอีกแล้ว เนื่องจากทั้งอาคิรา และฟูมิโกะต่างพากันบินตามพวกเขากลับมาที่ประเทศไทยด้วยเหตุผลของอาคิราไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่นัก เพราะลูกเมียอยู่ที่ไหนเขาก็ต้องอยู่ที่นั่นเป็นธรรมดา ทว่าฟูมิโกะกลับบินตามกลับมาด้วยเหตุผลเดียวกันคือคนรักอยู่ที่ไหนเธอก็จะอยู่ที่นั่นด้วย"เธอเป็นบ้ารึไงบินตามกลับมาทำไม""ถ้าฉันไม่บินตามกลับมาที่บ้านฉันก็จับโป๊ะได้น่ะสิว่าฉันกุเรื่องขึ้นมา""นั่นมันปัญหาของเธอไม่ใช่ปัญหาของฉัน""ปัญหาของพวกเราทุกคนต่างหาก เพียงแต่กรรมมาหนักที่นายกับฉันที่ต้องแสดงละครต่อไปอีกสักหน่อย" ฟูมิโกะที่มาหาธามที่ร้านแต่เช้ารีบตอบกลับถึงประเด็น
Episode 53 แผลเป็นขนมญี่ปุ่นมากมายที่วางขายทำให้ธีลิน และธาม คู่พี่น้องที่หลงใหลในของหวานตื่นเต้นอยากชิม และสัมผัสรสชาติเพื่อเรียนรู้นำไปปรับปรุงให้เข้ากับขนมที่ร้านของตัวเองทำให้สองพี่น้องลืมคนที่มาด้วยไปชั่วขณะทำให้ตอนนี้อาคิรา และฟูมิโกะทำได้เพียงเดินตามหลังสองพี่น้องด้วยความงุนงง ไม่คิดว่าทั้งสองคนจะตื่นเต้นถึงขนาดนี้"นี้ตื่นเต้นกันขนาดนั้นเลยเหรอ""พวกเราพึ่งเคยมาญี่ปุ่นครั้งแรกค่ะ แล้วนี่ก็จะเป็นครั้งแรกที่เราจะได้ชิมขนมญี่ปุ่นต้นตำรับด้วย พวกเราสองคนมีแพลนอยากทำขนมญี่ปุ่นขายที่ร้านพอดีค่ะ" ธีลินหันมาอธิบายให้ฟูมิโกะที่พึมพำอยู่ด้านหลังฟัง"แต่เราไม่ได้เอาเงินมานะ" ธามหันไปบอกธีลิน เพราะไม่ทันได้เตรียมตัวว่าจะได้มาสถานที่แบบนี้ เลยไม่ได้นำอะไรออกมาเลย"นั่นสิ อืม…" ธีลินหันไปมองหน้าอาคิราที่ยืนอมยิ้มอยู่ด้านหลังด้วยความชั่งใจว่าจะเอ่ยปากขอความช่วยเหลือจากเขาดีไหม"ขอก่อนสิ" อาคิรายืนบอกด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ทำให้ธีลินนึกย้อนไปถึงความทรงจำตอนที่เขาชอบใช้อำนาจบังคับให้เธอทำตามเขาต