Share

สืบแค้นฮ่องเต้แสนร้ายกาจ
สืบแค้นฮ่องเต้แสนร้ายกาจ
Author: เทียนสื่อ

บทที่ 1 กบฎตระกูลจ้าว

last update Last Updated: 2025-06-29 17:55:38

"ตระกูลจ้าวรับราชโองการ" 

เสียงขันทีประกาศก้องพร้อมกองทหารนับร้อยวิ่งกรูเข้ามาปิดล้อมเรือนสกุลจ้าว ขณะเดียวกันรถม้าคันหนึ่งก็เพิ่งเคลื่อนตัวออกจากจวนโดยมิทันสังเกตถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น ฮูหยินจ้าวหรือจ้าวหว่านถงพร้อมทั้งบุตรทั้งสองเร่งรุดออกมาหน้าลานกว้าง บ่าวไพร่วางงานในมือลงจ้าละหวั่น อกซ้ายของทุกคนต่างกระเพื่อมไหว เหงื่อเม็ดละเอียดผุดซึมขึ้นบนกรอบหน้า

ยามนี้แม่ทัพใหญ่จ้าวตงหยวนไม่อยู่เรือน เพราะบ้านเมืองเข้าสู่ช่วงเพลิงสงคราม เขาจึงเป็นทัพหน้ากรีธาเพื่อปกป้องแว่นแคว้น แล้วเหตุใดจู่ ๆ จึงมีราชโองการมาจ่อถึงหน้าประตูจวนได้กันเล่า 

หลังจากทุกคนมารวมตัวกันโดยพร้อมเพรียง ขันทีจึงเอ่ยถามด้วยสุ้มเสียงกึ่งเล็กแหลม "ฮูหยินเจ้า ไม่ทราบว่ามาครบทุกคนแล้วหรือไม่" 

จ้าวหว่านถงสัมผัสได้ถึงสังหรไม่ดี ความรู้สึกประหลาดใจเริ่มหนักหน่วงกลายเป็นหวาดระแวง จ้าวหว่านถงเป็นหญิงวัยกลางคนทว่าใบหน้ายังคงสะสวยเฉกเช่นดรุณีแรกแย้ม มิแปลกใจที่บุตรสาวทั้งสองจะหน้าตางดงามอนึ่งนางเซียนแดนสวรรค์

นางเหลียวมองบุตรีข้างกาย และบุตรชายคนโตแช่มช้า แววตากระจ่างใสดุจไข่มุกราตรีสะท้อนความเจ็บปวดดั่งล่วงรู้ว่ากำลังจะเกิดอันใดขึ้น จ้าวหว่านถงกล้ำกลืนก้อนสะอื้นซึ่งจุกในคอลงไปด้วยความลำบากยากยิ่ง พลางเบนหน้ากลับ เอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ 

"คะ...ครบแล้วเจ้าค่ะ" นางรู้สึกเสียขวัญจนหลั่งเหงื่อเย็นโซมกาย 

บ่าวไพร่มิได้เอะใจ ทว่าบุตรทั้งสองกลับมองหน้ากันด้วยความฉงน 

จ้าวหลิงหวินกระซิบแผ่ว "ท่านแม่ แล้วหลิงหลิงเล่าเจ้าคะ" 

จ้าวหว่านถงตวัดตามองด้วยใจโหมระทึก เดิมนางมีบุตรสามคน คือคุณชายใหญ่จ้าวเฉินหลิน ลูกสาวฝาแฝด จ้าวหลิงหวินและจ้าวหลิงหลิง ทว่ายามนี้แฝดผู้น้องไม่อยู่จวน เป็นนางที่จงใจส่งบุตรสาวคนเล็กออกไปข้างนอกก่อน เพราะยามนี้สามีไม่ส่งข่าวคราวกลับมาหลายเดือนแล้ว ไม่ทราบเป็นหรือตาย แม่ทัพใหญ่จ้าวตงหยวนมีศัตรูรอบด้าน มีหรือยามที่เขาล้มจะไม่โดนตลบหลังเหยียบซ้ำและถูกถอนรากถอนโคนจนหมดสิ้น 

จ้าวหลิงหวินสบประสานสายตาอันแข็งกร้าวของมารดา นางจึงหุบปากฉับพลัน พลางหลุบตามองต่ำเดี๋ยวนั้น 

ขันทีพยักหน้าเข้าใจ เขาไม่ทันได้ยินในสิ่งที่จ้าวหลิงหวินเอ่ย และมิได้ใส่ใจว่ามีจำนวนคนอาศัยอยู่ในจวนสกุลจ้าวเท่าใด จากนั้นถอนหายใจอย่างนึกสังเวชแล้วจึงประกาศก้องอีกหน 

"แม่ทัพใหญ่จ้าวตงหยวนมิเถรตรงต่อหน้าที่ คิดกบฏต่อบ้านเมือง จนศัตรูสามารถตีฝ่าด่านหน้าเข้ามา ส่งผลให้แว่นแคว้นได้รับความเสียหาย ประชากรล้มตายดุจทะเลโลหิต เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ฝ่าบาทจึงมีราชโองการสำเร็จโทษโดยการประหารริบจวนทั้งตระกูล" 

บ่าวไพร่ต่างแตกตื่นไม่กล้าขยับกาย เสียงอึงอลเริ่มดังขึ้นระเบ็งเซ็งแซ่ด้วยความตื่นตระหนก

"พะ...พวกเราเป็นบ่าวของที่นี่ก็ยังจะถูกลงทัณฑ์ด้วยเช่นนั้นหรือ" บ่าวรับใช้นายหนึ่งกล่าว ริมฝีปากอันซีดขาวพลางสั่นระริก ทุกคนต่างเห็นพ้องต้องกัน หัวใจระส่ำระสายแทบหยุดเต้น 

จ้าวหลิงหวิน และจ้าวเฉินหลินมองหน้ากันด้วยความหวาดกลัว ต่างเบิกตากว้างตะลึงพรึงเพริด กระทั่งลืมหายใจ ทั้งสองนัยน์ตาแดงก่ำเหลียวหน้ามองมารดาด้วยความเจ็บปวดระคนผิดหวัง 

จ้าวเฉินหลินเอ่ยเสียงสั่นเครือ กระบอกตาร้อนผ่าว "ทะ...ท่านแม่ ท่านทราบเรื่องนี้มาโดยตลอดเลยหรือ" 

ขณะที่สกุลจ้าวกำลังอยู่ในช่วงรุ่งโรจน์ที่สุดของแคว้นเฉินเป่ย จ้าวเฉินหลินเองเพิ่งสอบจอหงวนได้อันดับแรก ส่วนน้องสาวทั้งสองเพิ่งย่างเข้าวัยปักปิ่นได้ไม่นาน พวกนางยังไม่ทันได้ใช้ชีวิตดุจใจปรารถนาก็ต้องสิ้นชีพอย่างน่าเวทนาเช่นนี้หรือ ตระหนักถึงตรงนี้คิ้วเข้มพลันขมวดมุ่น เหตุใดจึงประจวบเหมาะกับวันที่จ้าวหลิงหลิงออกเดินทางกันเล่า  

จ้าวหว่านถงพยายามกล้ำกลืนความเจ็บปวดลงคอ เสียงร้องไห้ระงมของบ่าวไพร่ตอกย้ำความผิดบาปซึ่งกำลังถาโถมเข้ามาดุจระลอกคลื่นกระหน่ำซัดซ้ำแล้วซ้ำเล่า 

"หลินเอ๋อร์ หวินเอ๋อร์ โลกใบนี้หาได้งดงามเฉกเช่นพวกเจ้าเข้าใจ การอยู่จุดสูงสุดแม้จะนับเป็นเรื่องน่ายินดี ทว่ากลับมีคนเตรียมฉุดเจ้าลงมายังที่ต่ำสุดได้เช่นกัน อย่าได้น้อยเนื้อต่ำใจต่อโชคชะตา ชาตินี้ไร้วาสนา ชาติหน้าแม่ขอให้พวกเจ้าได้เกิดในตระกูลที่ดี และพบแต่ความสงบสุข" 

จ้าวหลิงหวินน้ำตาไหลพรากโผเข้ากอดผู้เป็นมารดา "ฮึก...ฮื่อ...ท่านแม่ ข้ากลัว ท่านพ่อไม่ได้ทำใช่ไหมเจ้าคะ ข้าไม่เชื่อว่าท่านพ่อจะกบฏ" 

จ้าวเฉินหลินค่อย ๆ กระถดกายเข้าใกล้มารดา ทั่วทั้งร่างสั่นกระเพื่อม มือเท้าอ่อนปวกเปียกไปหมด จ้าวเฉินหลินก่อเกิดคำถามในใจ มารดาของเขาไม่รักตนทั้งสองแล้วหรือ ทว่าเมื่อเขาประสานกับดวงตาซึ่งบ่งบอกถึงความรวดร้าวของจ้าวหว่านถง จ้าวเฉินหลินจึงเข้าใจความรู้สึกของผู้เป็นมารดาในบัดดล ไม่ว่านางเลือกทางใดก็ล้วนเจ็บปวดไม่ต่างกัน 

สามคนแม่ลูกกอดกันน้ำตานองหน้า นางไม่มีสิ่งใดจะอธิบายหรือแก้ต่างทั้งสิ้น ต่อให้ยืนกรานว่าสามีของตนไม่ผิด คนโฉดชั่วพวกนั้นก็ยังสามารถหาวิธีบิดเบือนความเป็นจริงเพื่อทำลายตระกูลจ้าวอยู่วันยังค่ำ

การประหัตประหารได้เริ่มต้นขึ้น บุรุษถูกกุดหัวทั้งหมด ส่วนสตรีดื่มยาพิษดิ้นทุรนทุราย เสียงสาปแช่งจากบ่าวรับใช้ยิ่งทำให้จ้าวหว่านถงรู้สึกรวดร้าว นางมิอาจปกป้องใครได้สักคน นางเฝ้าโทษตนเองในใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า เดิมทีนางไม่คิดว่าเรื่องมิคาดฝันจะเกิดขึ้นรวดเร็วปานนี้ นึกไม่ถึงว่าจ้าวหลิงหลิงออกไปเพียงเวลาฉิวเฉียดเท่านั้น 

ราชโองการมิอาจขัด บุตรชายเพียงคนเดียวกำลังจะถูกสะบั้นศีรษะ นัยน์ตาที่เคยเริงร่าเพ่งมองมารดาด้วยแววตาระทมทุกข์ น้ำสีใสเอ่อคลอเสียจนภาพเบื้องหน้าพร่าเบลอ "ท่านแม่ ต่อให้เกิดชาติหน้าข้าก็ยังอยากเป็นลูกของท่าน" 

ดาบคมกริบตวัดฉับ สะบั้นลำคอเสียจนศีรษะหล่นจากบ่า โลหิตสีแดงฉานเจิ่งนองสาดกระจาย จ้าวหว่านถงและจ้าวหลิงหวินต่างกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด นางกอดลูกสาวคนรองไว้ในอ้อมแขนรวดร้าวดั่งถูกเลาะเอ็นในกายออกมาบดขยี้ ไม่รู้ว่าตนทำผิดไปหรือไม่ เหตุใดจึงไม่ส่งลูก ๆ ออกไปพร้อมกันวันนี้ นางช่างเป็นมารดาที่ไม่ได้เรื่องเอาเสียเลย สวรรค์ก็โหดร้ายไร้เมตตานัก ให้นางมีความสุขชั่วประเดี๋ยว จากนั้นก็ฟาดทัณฑ์อสนีเคราะห์ลงมาอย่างแสนสาหัส 

สองแม่ลูกยกจอกสุราพิษขึ้นด้วยฝ่ามือสั่นเทา พลางหลั่งน้ำตาไม่หยุด จ้าวหว่านถงเอื้อมมือลูบไล้ใบหน้าเกลี้ยงเกลาที่เปียกแฉะของบุตรสาว "หวินเอ๋อร์ แม่ขอโทษ อย่าได้น้อยใจในโชคชะตา ไม่ว่าคนที่จากไปหรือคนที่ยังอยู่ล้วนเจ็บปวดด้วยกันทั้งสิ้น ดูเหมือนแม่และพ่อทำผิดต่อพวกเจ้าแล้ว" 

"ทะ...ท่านแม่ ฮื่อ..." จ้าวหลิงหวินโน้มกระซิบแนบอกมารดา นางส่ายหน้าพัลวัน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นนางไม่มีทางถือโทษหรือโกรธบิดามารดาเลย ถึงอย่างไรนางก็ช่วงชิงโชคชะตามาจากสวรรค์ คนร่างกายอ่อนแอเช่นนางมิควรมีลมหายใจตั้งแต่ทีแรก หากไม่เพราะจ้าวหลิงหลิงดันทุรังมอบเลือดในกายให้นางถึงสองส่วน นางคงตายไปตั้งแต่สามปีก่อนแล้ว  "หลิงหลิงล่ะเจ้าคะ ท่านแม่... น้องจะยัง ฮึก... จะยังรอดหรือไม่" 

จ้าวหว่านถงวางจอกสุราพิษลง จากนั้นลูบไล้เส้นผมนุ่มสลวยของบุตรสาวในอ้อมแขนด้วยความทะนุถนอม "น้องต้องรอดแน่นอน แม่จะไม่ยินยอมให้เราต้องจากไปอย่างอยุติธรรมเช่นนี้ วันนี้ไม่อาจหลีกหนีความอดสู หากแม้พ่อเจ้ามิได้ก่อกบฏจริง คนเหล่านั้นล้วนต้องได้รับผลกรรมอย่างสาสม เด็กดีหลับเถิดนะ เจ้าจะไม่เจ็บปวด ส่วนพี่ของเจ้าแม่จะไปหาเขาเอง..." 

มือขาวซีดยกจอกสุราพิษของบุตรสาวขึ้นแช่มช้า นัยน์ตายังคงเพ่งมองลานประหารที่มีร่างของบุตรชายนอนจมกองโลหิตด้วยความระทมทุกข์ จ้าวหลิงหวินหวาดกลัวจนแทบขาดใจ ทว่านางก็ยังกระดกดื่มสุราพิษลงคออย่างเชื่อฟัง อาการสั่นเทาค่อย ๆ สงบลงเนิบช้า ลมหายใจของนางขาดสะบั้นลงในที่สุด 

จ้าวหว่านถงร่ำไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือด นางตระกองกอดร่างบุตรสาวที่เริ่มเย็นลงทุกขณะไว้ในอ้อมแขน พลางร้องเพลงขับกล่อม เอนกายโยกเยกอนึ่งปลอบประโลมทารกน้อย จ้าวหว่านถงถอดกำไลหยกของตนและปิ่นปักผมของบุตรสาวกำไว้ในอุ้งมือ ลายเหมยกุ้ยฮวา [1] บนปิ่นบาดลึกเข้าไปในเนื้อนวล ของเหลวสีแดงสดไหลเยิ้มอาบย้อมจนน่าหวาดผวา นัยน์ตาดำขลับกวาดมองทั่วบริเวณ บ่าวไพร่ตายเกลื่อนกระทั่งลูกเล็กเด็กแดงก็ไม่เว้น บาปของนางหนนี้สาหัสสากรรจ์ยิ่งนัก 

จ้าวหว่านถงหัวเราะทั้งน้ำตาดุจคนเสียสติ พลันหยดโลหิตลงในสุราพิษเอ่ยสาปแช่งไม่ขาดปาก จู่ ๆ ฟากฟ้าก็ร้องกึกก้องกัมปนาท หยาดน้ำฝนหลั่งลงมาห่าใหญ่เฉกเช่นน้ำตาและสายเลือดที่รินไหลของผู้คนสกุลจ้าวในยามนี้ จ้าวหว่านถงมือสั่นระริก นางประคองสุราโลหิตด้วยพละกำลังอันแผ่วโผย จากนั้นจึงยกซดจนหมดถ้วย ร่างอรชรสองแม่ลูกกอดกันกลมล้มกลิ้งลงบนพื้นอย่างน่าอเนจอนาถใจ 

ขันทีมองภาพความอดสูเบื้องหน้าพลันถอนหายใจอย่างนึกเวทนา "กลับ..." 

.

.

"แม่นม ท่านว่าเหตุใดท่านแม่จึงต้องส่งข้าไปที่สำนักซูเซียวหรือ" จ้าวหลิงหลิงเอ่ยเสียงเจื้อยแจ้ว พลางหยิบขนมเข้าปากคำโต 

"คุณหนู เพราะท่านชอบเรื่องจับดาบง้างธนูเฉกเช่นบุรุษมิใช่หรือ เช่นนั้นการไปศึกษาที่สำนักซูเซียวท่านมิดีใจหรือเจ้าคะ" 

จ้าวหลิงหลิงยิ้มแฉ่ง "ดีใจสิ ข้าชอบมาก แต่เดิมข้าขอร้องท่านแม่แทบตายก็ยังไม่อนุญาต ข้าเลยแอบเรียนกับพี่ใหญ่ซะเลย เอ๊ะ!..." 

จ้าวหลิงหลิงคลำเปะปะบนศีรษะ "แม่นม  ๆ ข้าลืมของ" 

แม่นมเริ่นเหมยกะพริบตามอง "ลืมอันใดเจ้าคะ" 

"ปิ่นที่ท่านพ่อมอบให้ข้าอย่างไรเล่า ช่วยกลับไปเอาได้หรือไม่ หากไม่มีมันข้ามิอาจสงบใจได้เลย" จ้าวหลิงหลิงเว้าวอน 

หญิงวัยราวสี่สิบกว่าถอนหายใจแผ่ว "คุณหนูนี่นา นิสัยขี้หลงขี้ลืมแต่เด็ก ดูสิฝนฟ้าก็ตกลงมาแล้วเสียด้วย เอาเถอะเจ้าค่ะกลับสักครู่คงไม่เป็นไร" 

เริ่นเหมยเอื้อมมือบีบปลายจมูกเชิดรั้นอย่างนึกมันเขี้ยว 

"หยุดก่อน พาคุณหนูกลับไปเอาของที่จวนก่อน" 

รถม้าจึงค่อย ๆ ชะลอลง "ขอรับ" 

จ้าวหลิงหลิงยิ้มตาหยี "ข้ารู้ว่าแม่นมน่ารักที่สุด" 

ยามนี้ดรุณีน้อยกำลังคลี่ยิ้มด้วยความซุกซนตามนิสัยคุณหนูสามของตระกูลจ้าว ไหนเลยจะล่วงรู้ ขณะที่ตนกำลังเริงร่าเพราะจะได้ไปศึกษายังสำนักที่หวัง เรือนสกุลจ้าวกลับเจิ่งนองไปด้วยทะเลโลหิตเสียแล้ว...

เชิงอรรถ

^เหมยกุ้ยฮวา หมายถึง ดอกกุหลาบ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สืบแค้นฮ่องเต้แสนร้ายกาจ   บทที่ 22 บุรุษที่สามารถปกป้องพวกข้าได้ (ตอนพิเศษ)

    หลังจากล้างมลทินให้กับตระกูลจ้าว ธรรมเนียมของราชวงศ์ซึ่งอยู่ใต้การปกครองของเวินเยี่ยนเฉินยามนี้จึงถูกปรับเปลี่ยน เขาเป็นฮ่องเต้แล้วอย่างไรเหตุใดจำต้องมีสนมมากมายเช่นนั้น เขามิใช่บุรุษมักมากเวินเยี่ยนเฉินประกาศกร้าวไม่รับสนมใดอีก เขาจะเป็นฮ่องเต้คนแรกที่รักมั่นต่อฮองเฮาเพียงผู้เดียวนับจากวันที่จ้าวหลิงหลิงบั่นศีรษะฉู่เยว่เฉิน และฉู่เฉิงจิ้นด้วยสีหน้าเย็นชายิ่งกว่าเหมันตฤดูแม้เวลาล่วงเลยมาสักระยะแล้ว ทว่าพวกเขาล้วนมิเคยลืมเลือนความรู้สึกครั่นคร้ามและไอสังหารที่พวยพุ่งออกมาจากแววตาฮองเฮาเกรงว่าหากจักรพรรดิของพวกเขาทำสิ่งใดไม่ต้องใจนาง เวินเยี่ยนเฉินอาจดวงชะตาขาดแน่แท้ตระหนักไปแล้วขุนนางน้อยใหญ่ก็ต่างหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออกพวกเขาจึงหามีผู้ใดกล้าริอ่านคัดค้านอีก"ละ...หลิงหวิน" เสียงใสสั่นพร่า คำเรียกขานเมื่อครู่เจือก้อนสะอื้นซึ่งจุกอยู่กลางลำคอจ้าวหลิงหวินหมุนกายกลับ ริมฝีปากสีกุหลาบแย้มยิ้มละไม "หลิงหลิง"ร่างระหงของสตรีทั้งสองซึ่งมีใบหน้าละม้ายกันดุจพิมพ์เดียวยืนอยู่ใต้ต้นอิงฮวา

  • สืบแค้นฮ่องเต้แสนร้ายกาจ   บทที่ 21 คนเจ้าแผนการ (2/2) (จบ)

    เป็นเวลาสามวันแล้วที่เวินเยี่ยนเฉินไม่ได้สติ กระทั่งการป้อนยาก็เป็นไปอย่างลำบากยากยิ่ง หากเป็นเช่นนี้เขาต้องตายจริงแน่แท้"ฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ คือว่าฝ่าบาทมิยอมเสวยโอสถเลยพ่ะย่ะค่ะ" หร่านจิ้งเหยาถือถ้วยหยกพร้อมช้อนกระเบื้องเคลือบซึ่งมีน้ำสีขุ่นอยู่เกินกว่าครึ่ง"องครักษ์หร่าน ท่านไปพักผ่อนเถิด ทางนี้ข้าจัดการเอง""แต่...""ไปเถิด ข้าดูแลเขาได้ เจ้าเกรงว่าข้าจะทำร้ายฝ่าบาทอีกงั้นหรือ"หร่านจิ้งเหยาสะดุ้งโหยง ภาพที่อีกฝ่ายบั่นศีรษะกบฏยังติดตาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน หร่านจิ้งเหยาวางถ้วยในมือลงจากนั้นค้อมศีรษะและเร่งถลันกายออกไปด้วยท่าทางร้อนรนหร่านจิ้งเหยาระบายลมหายใจเบา"เกือบไปแล้วเชียว" จากนั้นองครักษ์หนุ่มจึงสลัดศีรษะเพื่อเรียกสติและเดินจากไป"เยี่ยนเฉิน หากท่านดื้อดึงไม่ทานยา ข้าจะแทงท่านอีกแผล" จ้าวหลิงหลิงเขม้นมองเพื่อจับพิรุธผู้บาดเจ็บ นางได้ยินเสียงลมหายใจของเขาที่ดูเหมือนกับฟื้นคืนสติแล้ว กระนั้นอีกฝ่ายกลับยังนอนนิ่งสนิทไม่ไหวติงคิ้วสวยเคลื่อนเข้าหากันแทบผูกเป็นปม "หรือข้าคิดมากไปเอง ช่างเถิด"ร่างระหงยอบกายลงนั

  • สืบแค้นฮ่องเต้แสนร้ายกาจ   บทที่ 21 คนเจ้าแผนการ (1/2)

    จ้าวหลิงหลิงตัวแข็งค้างประดุจดินปั้นไม้แกะสลัก นางเหลียวมองร่างบุรุษซึ่งนอนหายใจแผ่วโผยอยู่บนเตียงนอน ท่าทางของนางเหม่อลอยดวงตามีประกายบาง ๆ ริมฝีปากสีกุหลาบเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเทา "นะ...นี่ ราชโองการละเว้นโทษตายนี้ เป็นพระองค์ที่ถือไปในวันนั้นหรือ เยี่ยนเฉิน..."ร่างระหงอ่อนยวบลงบนพื้น สาสน์ในมือหลุดร่วงพร้อมเครื่องประดับสองชิ้น จ้าวหลิงหลิงเจ็บปวดเสียยิ่งกว่ามีดแทงเลาะหัวใจออกมาบดขยี้ นางกรีดร้องด้วยความทุกข์ระทม"ฮื่อ...เยี่ยนเฉิน คนโง่ ทำไมท่านไม่บอกข้าให้เร็วกว่านี้ ทำไมกัน ทำไม!!"นางพยายามลากเรียวขาแสนอ่อนเปลี้ยเข้าใกล้เจ้าของร่างสูงซึ่งนอนเหยียดยาวสลบไสลไร้สติอยู่เบื้องบน "ฮื่อ...คนโง่ คนงี่เง่า ก็ดี ทุกคนต่างตายกันหมด หนีจากข้าไปหมด เช่นนั้นข้าเองก็คงไม่จำเป็นต้องมีชีวิตอยู่แล้วเช่นเดียวกัน"มือเรียวคว้าปิ่นปักผมลายเหมยกุ้ยฮวาขึ้นแช่มช้า ปลายแหลมคมจ่ออย่างหมิ่นเหม่บริเวณต้นคอขาวผ่อง เปลือกตาบางหลับพริ้มประดุจปลดปลงต่อโลกใบนี้แล้ว"หลิงเอ๋อร์ หยุด!"มือแกร่งคว้าหมับได้ทันท่วงที โชคดีที่เขาดันทุรังฝ

  • สืบแค้นฮ่องเต้แสนร้ายกาจ   บทที่ 20 ข้าจำท่านได้มิเคยลืม (2/2)

    จ้าวหลิงหลิงหลับไปหลายชั่วยามแล้วหลังจากนางใช้ทั้งพลังกายและพลังใจไปทั้งวัน น้ำสีใสหลั่งรินตรงหางตาขณะที่ตารูปหงส์ยังคงหลับพริ้มอยู่เช่นนั้น "ท่านพ่อ ท่านแม่ พี่ใหญ่ หลิงหวิน ข้าทำสำเร็จแล้ว ท่านเห็นหรือไม่ พวกท่าน ฮื่อ...พวกท่านจะไปไหน รอข้าก่อนเจ้าค่ะ"มือเรียวควานไปมาท่ามกลางอากาศ เวินเยี่ยนเฉินซึ่งนั่งเฝ้าจ้าวหลิงหลิงอยู่ไม่ห่างพลันรวบมือทั้งสองเอาไว้เพื่อปลอบประโลม "หลิงเอ๋อร์ พวกเขาไปสบายแล้ว เจ้าวางใจ เจ้ายังมีข้า ข้าสัญญาจะปกป้องเจ้า จะมีเจ้าเพียงคนเดียว"จ้าวหลิงหลิงยังคงกู่ก้องร้องตะโกนเปะปะอย่างไร้สติ เวินเยี่ยนเฉินจึงยกร่างระหงขึ้นมาสวมกอด พลางตบเปาะแปะไปบนแผ่นหลังของอีกฝ่าย "หลิงหลิง ตื่นได้แล้ว"จ้าวหลิงหลิงเบิกตาโพลง นางหายใจหอบเหนื่อยเสียจนหน้าอกกระเพื่อมไหว เวินเยี่ยนเฉินผละกายออกห่าง "หลิงหลิง เจ้าฝัน ฝันเท่านั้น""ฝ่าบาท ข้า..." ริมฝีปากสีกุหลาบสั่นระริกเวินเยี่ยนเฉินคว้ากายเพรียวบางเข้ามาสวมกอดอีกครั้ง "บางทีคนเราไม่จำเป็นต้องเก็บงำความรู้สึกไว้ตลอดเวลา ทุกคนมีทั้งมุมที่แข็งแกร่งและอ่อนแอ เจ้าอยากร้องก็ร้องมาเถิด ทุกอย่างเป็นคว

  • สืบแค้นฮ่องเต้แสนร้ายกาจ   บทที่ 20 ข้าจำท่านได้มิเคยลืม (1/2)

    ณ ลานประหารราชวังหลวงสตรีร่างระหงสวมอาภรณ์สีชาด ยืนถือกระบี่อ่อนลายเหมยกุ้ยฮวา [1] นัยน์ตาหงส์คู่นั้นเย็นยะเยือกเสียจนน่าสะพรึง ชายวัยกลางคน และชายหนุ่มสวมเครื่องแต่งกายตัดเย็บด้วยผ้าดิบสีขาวบ่งบอกว่าคือนักโทษแดนประหารนั่งอยู่ท่ามกลางลานกว้าง ดวงตาเหม่อลอยหม่นแสง แม่ทัพฉู่เฉิงจิ้นถูกนำตัวกลับมารับโทษพร้อมทุกคนที่เกี่ยวข้องกับตระกูลฉู่ฝั่งตรงข้ามคือสตรีใบหน้าสะสวยทว่ายามนี้คงต้องเรียกว่าซีดขาวดุจไร้วิญญาณ ฉู่เยว่เฉินร้องไห้เสียจนน้ำตาแห้งขอดเหล่าอาณาประชาราษฎร์ต่างให้ความสนใจต่อลานประหารด้วยความจดจ่อ บางคนก็หวาดเกรงจนมิอาจทนดู เสียงวิจารณ์อึงอลเสียจนระเบ็งเซ็งแซ่น่าเห็นใจตระกูลจ้าว ถูกป้ายสีจนพินาศทั้งตระกูล คนอำมหิตเช่นนี้สมควรได้รับโทษตายก็ถูกต้องแล้วชาวบ้านที่ถือผักเหี่ยวเฉา ไข่เป็ด ไข่ไก่อันเน่าเหม็นต่างปาเข้ามายังลานด้านใน ฉู่เยว่เฉินร้องไห้อย่างหนักหน่วง ส่วนบุรุษทั้งสองเพียงถอนหายใจก้มหน้ารับชะตา ไข่กลิ่นคาวคลุ้งถูกปากระทบศีรษะ เยิ้มหยดลงใบหน้าเส

  • สืบแค้นฮ่องเต้แสนร้ายกาจ   บทที่ 19 ข้าจะเป็นฝ่ายลงทัณฑ์เอง (2/2)

    ขุนนางเหล่านั้นก็ตื่นตะลึงกันไปหมด ทั้งสาสน์ลับที่ถูกสับเปลี่ยน และความจริงจากปากขององครักษ์ก็เป็นหลักฐานยืนยันได้อย่างกระจ่างแจ้งมิใช่หรือ หนำซ้ำต่งรุ่ยเหวินยังสารภาพเรื่องราวเองทั้งหมด"นี่มันเหี้ยมโหดเกินไปแล้ว ข้าก็ว่าแม่ทัพจ้าวผลงานโดดเด่นและภักดีต่อแคว้นมาโดยตลอด ไหนเลยจะคิดก่อกบฏจนตัวตาย""พวกท่านเอ่ยตอนนี้มันเกิดประโยชน์ใดหรือ ขุนนางเก่าแก่เช่นท่าน ท่าน และท่าน..." นิ้วหยาบระคายชี้หน้าพวกเขาอย่างดุดัน พวกเขารับรู้ถึงความครั่นคร้ามจากโอรสแห่งสวรรค์ก็พลันก้มหน้างุดแทบหยุดหายใจ"พวกท่านมันมีแต่คนขี้ขลาด!! คิดว่าข้าต้องเกรงใจขุนนางละโมบไปถึงเมื่อใด ข้าจะบั่นศีรษะพวกท่านและเปลี่ยนขุนนางใหม่ทั้งหมดก็ยังได้!" ร่างสูงลุกยืนบันดาลโทสะขันทีตัวสั่นเทา "ฝ่าบาท โปรดระงับโทสะด้วย"เวินเยี่ยนเฉินตวัดตามองฉับ "ระงับโทสะ! เป็นเจ้ามิใช่หรือที่คอยรายงานความเคลื่อนไหวของข้าให้พวกเขารู้""หา...ฝ่าบาทเข้าพระทัยผิดแล้วพ่ะย่ะค่ะ""หนวกหู! ทหาร เอาตัวขันทีเปาไปลงทัณฑ์ให้หนัก"ขันทีเปาหยู่ซินเบิกตาโพลง แขนทั้งสองของเขาถูกนายทหารกายกำยำสองคนถลัน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status