Share

สุขที่ไม่อาจเอ่ย
สุขที่ไม่อาจเอ่ย
Author: ผ่าน

บทที่ 1

Author: ผ่าน
ฉันแต่งงานกับสามี ฮั่วเจ๋อซวี่ มาแปดปี

ตลอดเวลานั้น เขาพาผู้หญิงกลับบ้านทั้งหมดเก้าสิบเก้าคน

ฉันมองดูเด็กสาวคนที่หนึ่งร้อยตรงหน้า

เธอจ้องมองฉันอย่างท้าทาย แล้วหันไปถามเขาว่า

“คุณฮั่วคะ นี่คือภรรยาที่ไม่ได้เรื่องของคุณเหรอคะ?”

ฮั่วเจ๋อซวี่เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ตอบอย่างเกียจคร้านว่า ใช่

เด็กสาวคนนั้นเดินเข้ามาตบหน้าฉันเบา ๆ พร้อมหัวเราะแล้วพูดว่า

“คืนนี้ตั้งใจฟังให้ดีนะ ว่าผู้หญิงที่เก่งเขาเป็นยังไง!”

คืนนั้น ฉันถูกบังคับให้นั่งฟังเสียงครวญครางที่ห้องนั่งเล่นตลอดทั้งคืน

เช้าวันรุ่งขึ้น ฮั่วเจ๋อซวี่สั่งให้ฉันทำอาหารเช้าเหมือนเช่นเคย

แต่ฉันปฏิเสธ

ดูเหมือนเขาจะลืมไปว่า ฉันกับเขาแต่งงานกันด้วยข้อตกลง

และวันนี้คือวันที่สามก่อนที่ข้อตกลงจะสิ้นสุดลง

ฮั่วเจ๋อซวี่ดูประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำปฏิเสธของฉัน

ตลอดแปดปีที่ผ่านมา นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันปฏิเสธความต้องการของเขา

นั่นทำให้ฮั่วเจ๋อซวี่มองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างจับผิด

“สวีมู่หยู่ เมื่อคืนโดนกระตุ้นมากไปหน่อย? จนเพี้ยนไปแล้วเหรอ?”

ฉันไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่จ้องมองเขาเงียบ ๆ

ครู่ต่อมา ฮั่วเจ๋อซวี่ก็เริ่มรู้สึกอึดอัดเพราะสายตาของฉัน

เขาพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า

“ไม่ทำก็ไม่ต้องทำ จ้องฉันแบบนี้มันน่ารำคาญรู้ไหม!”

พูดจบ เขาก็โบกมือเรียกพ่อบ้านให้เตรียมอาหารเช้า

ขณะนั้นเอง เด็กสาวที่เขาพามาเมื่อวานก็เดินเข้ามาหาฉันพร้อมหัวเราะคิกคัก

“พี่สาว เมื่อคืนฟังเป็นไงบ้างคะ? เร้าใจดีไหม?”

เธอยังอยากจะพูดอะไรอีก แต่กลับถูกฮั่วเจ๋อซวี่คว้าตัวดึงกลับไป

“อย่าพูดมาก ไปล้างหน้าแปรงฟันแล้วมาทานอาหารเช้า”

เด็กสาวคนนั้นเลิกคิ้วใส่ฉันอย่างเย้ยหยัน ความรู้สึกสะใจในดวงตาของเธอแทบจะล้นทะลักออกมา

บนโต๊ะอาหาร ฮั่วเจ๋อซวี่กับเด็กสาวทานอาหารเช้าด้วยกันอย่างหวานชื่น

ฉันไม่เงยหน้าขึ้นมาเลย ในใจกำลังคิดว่าจะใช้ชีวิตในวันข้างหน้าอย่างไร

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน จู่ ๆ แขนของฉันก็ถูกตบเบา ๆ

เมื่อฉันเงยหน้าขึ้นมอง ก็เห็นฮั่วเจ๋อซวี่กำลังยืนอยู่ข้าง ๆ ด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง

“มีอะไรรึเปล่าคะ?”

ฉันมองเขาอย่างสงสัย

ฮั่วเจ๋อซวี่มองมาที่ฉันด้วยสีหน้าที่บอกไม่ถูก

“เธอกำลังคิดอะไรอยู่ ทำไมถึงได้เหม่อขนาดนั้น?”

ฉันนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนตอบตามความจริงว่า

“ฉันกำลังคิดว่าต่อไปจะทำอะไรดีค่ะ”

ฮั่วเจ๋อซวี่ได้ยินดังนั้นก็เปล่งเสียงจิ๊ปาก

“เธอจะทำอะไรได้? นอกจากทำความสะอาดทำอาหารแล้ว เธอทำอะไรเป็นอีก?”

ตอนที่เขาพูดคำดูถูกออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ ฉันเองก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรมากนัก

ดูเหมือนจะชินกับการพูดจาแบบนี้ของเขาแล้ว

แต่งงานกันมาแปดปี ฉันแทบจะละทิ้งเวลาส่วนตัวทั้งหมดเพื่อดูแลฮั่วเจ๋อซวี่ และหมุนอยู่รอบตัวเขาทุกวัน

ฉันเกือบจะลืมไปแล้วว่าตัวเองเคยมีความฝันมากมายเพียงใด

เมื่อแปดปีก่อน แม่ของฉันป่วยหนักและต้องการเงินก้อนหนึ่งอย่างเร่งด่วน

ในตอนที่ฉันหมดสิ้นหนทาง ฮั่วเจ๋อซวี่ก็ปรากฏตัวขึ้น

เขาบอกว่าเขาสามารถให้เงินฉันยี่สิบห้าล้านบาทได้

แต่มีเงื่อนไขว่าฉันต้องแต่งงานกับเขาตามข้อตกลง

เพื่อช่วยเขารับมือกับคนในตระกูลฮั่ว

เพื่อแม่ ฉันจึงตอบตกลง

ตลอดแปดปีที่ผ่านมา ฉันเห็นเขาพาผู้หญิงกลับบ้านไม่ซ้ำหน้า

ครั้งหนึ่งตอนที่ฮั่วเจ๋อซวี่เมามาก เขามองฉันอย่างจริงจังเป็นพิเศษพลางพูดว่า

“สวีมู่หยู่ เราอยู่คนละโลกกัน เธอห้ามคิดอะไรกับฉันเด็ดขาด”

ฉันคิดมาตลอดว่าฮั่วเจ๋อซวี่ไม่รู้วิธีที่จะรักใครสักคน

แต่ฉันเพิ่งมารู้เมื่อปีที่แล้วว่าเขามีรักแรกที่เสียชีวิตด้วยอาการป่วย

และเด็กสาวที่ฮั่วเจ๋อซวี่พามาเมื่อวานมีส่วนคล้ายกับรักแรกที่เสียชีวิตของเขาอย่างมาก

ดังนั้นการที่ฮั่วเจ๋อซวี่พาเด็กสาวคนนี้มานั่งทานอาหารเช้าด้วยกันในวันนี้ ฉันจึงไม่ประหลาดใจเลย

กระทั่งเริ่มคิดวางแผนว่าเมื่อไหร่จะเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะจากไป

ฮั่วเจ๋อซวี่เห็นฉันเงียบไป จึงเรียกชื่อฉันอย่างไม่สบอารมณ์

ฉันถึงได้สติกลับมา

“ฉันอยากออกไปหางานทำค่ะ” ฉันมองเขาอย่างใจเย็น
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สุขที่ไม่อาจเอ่ย   บทที่ 9

    “ตอนนี้ฉันเพิ่งจะรู้ว่าฉันชอบเธอมานานแล้ว เธอกลับไปกับฉันเถอะนะ”ฉันถามเขาด้วยความสงสัยว่า เรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับฉันด้วยเหรอ?ขณะที่ฮั่วเจ๋อซวี่กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ทันใดนั้นเสียงของชายหนุ่มก็ดังขึ้นจากทางด้านหลังฉัน“พี่มู่หยู่ ทำไมยังไม่กลับอีกครับ? เย็นนี้ไปทานข้าวด้วยกันไหม?”ฉู่เหวินเซวียนเดินเข้ามาหาฉัน “นี่คือใครครับ?”สายตาของฮั่วเจ๋อซวี่ที่มองฉันแฝงด้วยความคาดหวังเล็กน้อยฉันพูดอย่างใจเย็นว่า“คืออดีตสามีที่นอกใจไปมีผู้หญิงหลายคนของฉันน่ะ”ฉู่เหวินเซวียนเคยได้ยินเฉินเจียอิ่งเล่าเรื่องของฉันกับฮั่วเจ๋อซวี่มาบ้างแล้ว เขาจึงมองฮั่วเจ๋อซวี่ด้วยสายตาดูถูก“นี่สำนึกผิดแล้วมาขอคืนดีเหรอครับ?”ความรังเกียจในคำพูดของเขาชัดเจนเกินไป จนทำให้ฮั่วเจ๋อซวี่หน้าบึ้งตึง“เรื่องของฉันกับมู่หยู่ มันเกี่ยวอะไรกับนาย?”ฉันยิ้มเล็กน้อย แต่ไม่ได้สนใจเขาเพียงแต่หันกลับมองฉู่เหวินเซวียน“อยากไปทานข้าวที่ไหน? พอดีวันนี้เฉินเจียอิ่งไม่อยู่ด้วย”ฉู่เหวินเซวียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดอย่างไม่เกรงใจว่า“ผมอยากทานซาชิมิครับ”ฉันเลิกคิ้วให้เขา แล้วเดินนำไปก่อนฮั่วเจ๋อซวี่เรียกชื่อฉ

  • สุขที่ไม่อาจเอ่ย   บทที่ 8

    ต่อมเผือกชาวเน็ตต่างก็ถูกกระตุ้นขึ้นมาในทันทีต่างพากันเข้าไปคอมเม้นท์ใต้ข้อความนั้นเพื่อสอบถามรายละเอียดชาวเน็ตคนนั้นก็เล่าเรื่องราวของฉันกับฮั่วเจ๋อซวี่ออกมาทั้งหมดไม่นานเรื่องนี้ก็ติดเทรนด์อย่างรวดเร็วชาวเน็ตมากมายพากันไปรุมถามที่แอคเค้าท์ของโจวโม่โม่ว่าเธอเป็นเมียน้อยใช่ไหม!โจวโม่โม่ได้โพสต์วิดีโอในวันนั้นในวิดีโอ โจวโม่โม่ร้องไห้ตาแดงก่ำ ขอให้ฉันคืนฮั่วเจ๋อซวี่ให้เธอ และอย่ามาทำลายความสัมพันธ์ของพวกเขาเธอไม่ได้ตอบคำถามของชาวเน็ตโดยตรงแต่คำพูดของเธอทำให้ชาวเน็ตจำนวนไม่น้อยเชื่อว่าฉันต่างหากที่เป็นเมียน้อยในความสัมพันธ์ครั้งนี้ในขณะที่ฉันกำลังชื่นชมฝีปากของโจวโม่โม่อยู่นั้น ฮั่วเจ๋อซวี่ก็โพสต์วิดีโอผ่านบัญชีชื่อจริงของเขา ยอมรับว่าเขานอกใจจริงการกระทำนี้ของเขาเป็นการตอกย้ำว่าโจวโม่โม่เป็นเมียน้อยจริง ๆชาวเน็ตที่เพิ่งถูกหลอกต่างก็พากันกลับลำมารุมต่อว่าเธอทันที“รู้อยู่แล้วว่าเป็นเมียน้อย แต่ยังพูดจาได้มั่นหน้าขนาดนี้”“นักเรียนหัวกะทิไปเป็นเมียน้อย น่าขยะแขยงจริง ๆ!”โจวโม่โม่ไม่คาดคิดว่าฮั่วเจ๋อซวี่จะไม่เพียงแต่ยกเลิกงานแต่งงาน แต่ยังยอมรับเรื่องที่เขานอกใจต่

  • สุขที่ไม่อาจเอ่ย   บทที่ 7

    แต่เขาลืมไปว่า วันที่ฉันจากไปก็คือวันงานพิธีหมั้นของเขากับโจวโม่โม่อีกอย่าง การแต่งงานที่คงอยู่ได้ด้วยเพียงข้อตกลงแผ่นเดียว ฉันจะไปแคร์ได้ยังไงว่าเขาจะแต่งงานกับใครหลังจากวันนั้น ข่าวงานแต่งงานของฮั่วเจ๋อซวี่กับโจวโม่โม่ก็แพร่สะพัดบนโลกออนไลน์จนเป็นกระแสร้อนแรงและโจวโม่โม่ก็อาศัยกระแสนี้เปิดแอคเค้าท์โซเชียลมีเดียเพื่อถ่ายคอนเทนต์วิดีโอการเตรียมงานแต่งงานของเธอกับฮั่วเจ๋อซวี่ตอนที่เฉินเจียอิ่งเล่าเรื่องนี้ให้ฉันฟัง ฉันถึงกับวางเอกสารในมือลงแล้วถามเธออย่างสงสัยว่า“ช่วงนี้เธอว่างมากเหรอ?”เฉินเจียอิ่งหัวเราะคิกคักแล้วพูดว่า “ฉันเห็นเรื่องน่าสนใจก็เลยเอามาแบ่งปันกับเธอไง?”ฉันเหลือบมองวิดีโอบนโทรศัพท์ของเธอแวบหนึ่งแล้วก็เบือนหน้าหนี“ฮั่วเจ๋อซวี่ตามใจผู้หญิงคนนี้จริง ๆ”พอเห็นฉันไม่พูดอะไร เฉินเจียอิ่งก็ทำเสียงจิ๊ปากอย่างเบื่อหน่ายก่อนจากไป จู่ ๆ เธอก็ถามขึ้นมาทันทีว่า“เธอหย่ากับเขาหรือยัง?”ฉันหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วพูดอย่างจนใจว่า“ทนายเพิ่งบอกฉันว่า ฮั่วเจ๋อซวี่ไม่ยอมหย่า”“ฉันก็ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ เดี๋ยวฉันเคลียร์งานช่วงนี้เสร็จก่อน แล้วจะกลับไปจัดการ”เฉินเ

  • สุขที่ไม่อาจเอ่ย   บทที่ 6

    ฮั่วเจ๋อซวี่มองวันสิ้นสุดบนข้อตกลงนี้ แล้วเขาก็นึกถึงท่าทีที่เปลี่ยนไปของฉันในช่วงนั้นเขาไม่เชื่อว่าความดีและความเอาใจใส่อย่างพิถีพิถันที่ฉันมีให้เขามาตลอดแปดปีทั้งหมดเป็นเพราะข้อตกลงนี้“สวีมู่หยู่ อย่าคิดที่จะหนีไปจากฉันโดยไม่ได้รับอนุญาตจากฉัน”ฮั่วเจ๋อซวี่หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรหาผู้ช่วยแล้วสั่งให้เขาตามหาเบาะแสของฉันเรื่องที่ฮั่วเจ๋อซวี่สั่งคนตามหาฉันนั้น ฉันซึ่งอยู่ไกลถึงประเทศ M ไม่ได้รับรู้เลยแม้แต่น้อยตอนนี้ฉันกำลังปรึกษาเรื่องข้อมูลของผลิตภัณฑ์ใหม่กับฉู่เหวินเซวียนเพราะก่อนหน้านี้ฉันห่างเหินจากสังคมมาเป็นเวลานานในตอนแรกฉันยังไม่ค่อยคุ้นชินเท่าไหร่แต่ด้วยความวุ่นวายของงาน ทำให้ฉันมองข้ามความรู้สึกไม่สบายใจไปสองวันก่อน สตูดิโอได้รับงานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ดูแลผิวฉันกับฉู่เหวินเซวียนพาทีมงานทำโอทีทุกวันในขณะที่ฉันกับเขากำลังปรึกษาหารือจนได้ข้อสรุป โทรศัพท์มือถือของฉันก็ดังขึ้นซึ่งเป็นเบอร์ของคนรับใช้ในบ้านตระกูลฮั่วมีคนรู้เรื่องที่ฉันจากไปไม่มากนัก และเขาก็เป็นหนึ่งในนั้นเขาบอกว่าช่วงนี้ฮั่วเจ๋อซวี่กลับบ้านด้วยสีหน้าที่บึ้งตึงทุกวันคนรับใช้

  • สุขที่ไม่อาจเอ่ย   บทที่ 5

    เครื่องบินลงจอดที่ประเทศ M อันหนาวเหน็บฉันกระชับเสื้อแจ็คเก็ตผ้าฝ้ายแน่นขึ้น แล้วก็เห็นเฉินเจียอิ่งโบกมือทักทายฉันอย่างกระตือรือร้นในจังหวะที่ฉันเดินเข้าไปหา เธอก็โผเข้ามากอดฉันแน่น“ยินดีด้วยที่ได้บอกลาอดีตนะ”ฉันทุบไหล่เธอเบา ๆ หนึ่งทีแต่ในวินาทีต่อมา เฉินเจียอิ่งก็พลันเปลี่ยนสีหน้า“ไปกันเถอะ ที่สตูดิโอยังมีเรื่องให้จัดการอีกเยอะเลย”“อ้อ นี่คือฉู่เหวินเซวียน ผู้ช่วยที่ฉันรับสมัครให้เธอ”เธอพูดไปพลางแนะนำเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านหลังมาตลอดให้ฉันรู้จักฉันกับเขาทักทายทำความเคารพกัน จากนั้นฉันก็ถูกพาตรงไปที่สตูดิโอทันทีนับตั้งแต่พบกับเฉินเจียอิ่ง ฉันก็เข้าสู่สภาวะที่ยุ่งวุ่นวายวันนั้นกว่าจะได้กลับถึงห้องเช่าก็ปาเข้าไปห้าทุ่มกว่าเช้าวันรุ่งขึ้นก็ออกจากบ้านตั้งแต่แปดโมงเช้าหนึ่งสัปดาห์ผ่านไปกับชีวิตที่วนเวียนอยู่แค่สองจุดอย่างหนักหน่วงในที่สุดสตูดิโอก็ถือว่าเสร็จสมบูรณ์อย่างเป็นทางการในวันพิธีเปิด ร่างกายของฉันถึงได้รู้สึกเหนื่อยล้าแต่ความอิ่มเอมใจเป็นสิ่งที่ฉันไม่เคยสัมผัสมาก่อนเลยก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่บ้านตระกูลฮั่ว ฉันใช้เวลาทุกวันไปกับฮั่วเจ๋อซวี่ ไม่มีเวลาเ

  • สุขที่ไม่อาจเอ่ย   บทที่ 4

    เพราะเขาบอกว่าการมีกลิ่นหม้อไฟติดตัวเป็นการขายหน้าตาของตระกูลฮั่วนอกจากการกินหม้อไฟแล้ว ยังมีเรื่องที่น่าขายหน้าอีกมากมายอย่างเช่น ห้ามหัวเราะเสียงดัง ห้ามพูดเสียงดังในที่สาธารณะ...แปดปีมานี้ ฉันกลายเป็นเหมือนเครื่องมือที่ไร้อารมณ์ ไปแล้วตอนนี้ เมื่อฉันรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายแห่งอิสรภาพที่กำลังจะมาถึง น้ำตาของฉันก็เริ่มเอ่อคลอฉันกลับมาถึงบ้านตอนสี่ทุ่มหลังจากกินหม้อไฟเสร็จเมื่อผลักประตูบ้านเข้าไป ก็เห็นฮั่วเจ๋อซวี่นั่งหน้าบึ้งอยู่ในห้องนั่งเล่นวันนี้เขาโทรมาเป็นสิบสาย แต่ฉันไม่ได้รับเลยสักสาย“เธอไปไหนมา?”ฉันเปลี่ยนรองเท้า แล้วล้างมือจนสะอาด ก่อนจะพูดอย่างเย็นชาว่า “ไปทานข้าวกับเพื่อนมาค่ะ”ฮั่วเจ๋อซวี่เดินเข้ามาใกล้ฉัน เมื่อได้กลิ่นหม้อไฟบนตัวฉัน สีหน้าของเขาก็ยิ่งดูไม่พอใจ“ฉันบอกว่าอย่ากินหม้อไฟไม่ใช่เหรอ? กลิ่นแรงขนาดนี้”ฉันยิ้มให้เขาเล็กน้อย แล้วถามอย่างสงสัยว่า“ตอนที่โจวโม่โม่กินมันไม่ส่งผลกระทบเหรอคะ?”สีหน้าแสดงความรังเกียจของฮั่วเจ๋อซวี่ยิ่งชัดเจนขึ้น“เธอจะเทียบกับโจวโม่โม่ได้เหรอ? อีกอย่าง โจวโม่โม่ไม่ใช่คนในตระกูลฮั่วซะหน่อย”ฉันไม่ได้พูดอะไรตอนนี้ย

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status