Share

บทที่ 9

Author: ผ่าน
“ตอนนี้ฉันเพิ่งจะรู้ว่าฉันชอบเธอมานานแล้ว เธอกลับไปกับฉันเถอะนะ”

ฉันถามเขาด้วยความสงสัยว่า เรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับฉันด้วยเหรอ?

ขณะที่ฮั่วเจ๋อซวี่กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ทันใดนั้นเสียงของชายหนุ่มก็ดังขึ้นจากทางด้านหลังฉัน

“พี่มู่หยู่ ทำไมยังไม่กลับอีกครับ? เย็นนี้ไปทานข้าวด้วยกันไหม?”

ฉู่เหวินเซวียนเดินเข้ามาหาฉัน

“นี่คือใครครับ?”

สายตาของฮั่วเจ๋อซวี่ที่มองฉันแฝงด้วยความคาดหวังเล็กน้อย

ฉันพูดอย่างใจเย็นว่า

“คืออดีตสามีที่นอกใจไปมีผู้หญิงหลายคนของฉันน่ะ”

ฉู่เหวินเซวียนเคยได้ยินเฉินเจียอิ่งเล่าเรื่องของฉันกับฮั่วเจ๋อซวี่มาบ้างแล้ว เขาจึงมองฮั่วเจ๋อซวี่ด้วยสายตาดูถูก

“นี่สำนึกผิดแล้วมาขอคืนดีเหรอครับ?”

ความรังเกียจในคำพูดของเขาชัดเจนเกินไป จนทำให้ฮั่วเจ๋อซวี่หน้าบึ้งตึง

“เรื่องของฉันกับมู่หยู่ มันเกี่ยวอะไรกับนาย?”

ฉันยิ้มเล็กน้อย แต่ไม่ได้สนใจเขา

เพียงแต่หันกลับมองฉู่เหวินเซวียน

“อยากไปทานข้าวที่ไหน? พอดีวันนี้เฉินเจียอิ่งไม่อยู่ด้วย”

ฉู่เหวินเซวียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดอย่างไม่เกรงใจว่า

“ผมอยากทานซาชิมิครับ”

ฉันเลิกคิ้วให้เขา แล้วเดินนำไปก่อน

ฮั่วเจ๋อซวี่เรียกชื่อฉ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • สุขที่ไม่อาจเอ่ย   บทที่ 9

    “ตอนนี้ฉันเพิ่งจะรู้ว่าฉันชอบเธอมานานแล้ว เธอกลับไปกับฉันเถอะนะ”ฉันถามเขาด้วยความสงสัยว่า เรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับฉันด้วยเหรอ?ขณะที่ฮั่วเจ๋อซวี่กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ทันใดนั้นเสียงของชายหนุ่มก็ดังขึ้นจากทางด้านหลังฉัน“พี่มู่หยู่ ทำไมยังไม่กลับอีกครับ? เย็นนี้ไปทานข้าวด้วยกันไหม?”ฉู่เหวินเซวียนเดินเข้ามาหาฉัน “นี่คือใครครับ?”สายตาของฮั่วเจ๋อซวี่ที่มองฉันแฝงด้วยความคาดหวังเล็กน้อยฉันพูดอย่างใจเย็นว่า“คืออดีตสามีที่นอกใจไปมีผู้หญิงหลายคนของฉันน่ะ”ฉู่เหวินเซวียนเคยได้ยินเฉินเจียอิ่งเล่าเรื่องของฉันกับฮั่วเจ๋อซวี่มาบ้างแล้ว เขาจึงมองฮั่วเจ๋อซวี่ด้วยสายตาดูถูก“นี่สำนึกผิดแล้วมาขอคืนดีเหรอครับ?”ความรังเกียจในคำพูดของเขาชัดเจนเกินไป จนทำให้ฮั่วเจ๋อซวี่หน้าบึ้งตึง“เรื่องของฉันกับมู่หยู่ มันเกี่ยวอะไรกับนาย?”ฉันยิ้มเล็กน้อย แต่ไม่ได้สนใจเขาเพียงแต่หันกลับมองฉู่เหวินเซวียน“อยากไปทานข้าวที่ไหน? พอดีวันนี้เฉินเจียอิ่งไม่อยู่ด้วย”ฉู่เหวินเซวียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดอย่างไม่เกรงใจว่า“ผมอยากทานซาชิมิครับ”ฉันเลิกคิ้วให้เขา แล้วเดินนำไปก่อนฮั่วเจ๋อซวี่เรียกชื่อฉ

  • สุขที่ไม่อาจเอ่ย   บทที่ 8

    ต่อมเผือกชาวเน็ตต่างก็ถูกกระตุ้นขึ้นมาในทันทีต่างพากันเข้าไปคอมเม้นท์ใต้ข้อความนั้นเพื่อสอบถามรายละเอียดชาวเน็ตคนนั้นก็เล่าเรื่องราวของฉันกับฮั่วเจ๋อซวี่ออกมาทั้งหมดไม่นานเรื่องนี้ก็ติดเทรนด์อย่างรวดเร็วชาวเน็ตมากมายพากันไปรุมถามที่แอคเค้าท์ของโจวโม่โม่ว่าเธอเป็นเมียน้อยใช่ไหม!โจวโม่โม่ได้โพสต์วิดีโอในวันนั้นในวิดีโอ โจวโม่โม่ร้องไห้ตาแดงก่ำ ขอให้ฉันคืนฮั่วเจ๋อซวี่ให้เธอ และอย่ามาทำลายความสัมพันธ์ของพวกเขาเธอไม่ได้ตอบคำถามของชาวเน็ตโดยตรงแต่คำพูดของเธอทำให้ชาวเน็ตจำนวนไม่น้อยเชื่อว่าฉันต่างหากที่เป็นเมียน้อยในความสัมพันธ์ครั้งนี้ในขณะที่ฉันกำลังชื่นชมฝีปากของโจวโม่โม่อยู่นั้น ฮั่วเจ๋อซวี่ก็โพสต์วิดีโอผ่านบัญชีชื่อจริงของเขา ยอมรับว่าเขานอกใจจริงการกระทำนี้ของเขาเป็นการตอกย้ำว่าโจวโม่โม่เป็นเมียน้อยจริง ๆชาวเน็ตที่เพิ่งถูกหลอกต่างก็พากันกลับลำมารุมต่อว่าเธอทันที“รู้อยู่แล้วว่าเป็นเมียน้อย แต่ยังพูดจาได้มั่นหน้าขนาดนี้”“นักเรียนหัวกะทิไปเป็นเมียน้อย น่าขยะแขยงจริง ๆ!”โจวโม่โม่ไม่คาดคิดว่าฮั่วเจ๋อซวี่จะไม่เพียงแต่ยกเลิกงานแต่งงาน แต่ยังยอมรับเรื่องที่เขานอกใจต่

  • สุขที่ไม่อาจเอ่ย   บทที่ 7

    แต่เขาลืมไปว่า วันที่ฉันจากไปก็คือวันงานพิธีหมั้นของเขากับโจวโม่โม่อีกอย่าง การแต่งงานที่คงอยู่ได้ด้วยเพียงข้อตกลงแผ่นเดียว ฉันจะไปแคร์ได้ยังไงว่าเขาจะแต่งงานกับใครหลังจากวันนั้น ข่าวงานแต่งงานของฮั่วเจ๋อซวี่กับโจวโม่โม่ก็แพร่สะพัดบนโลกออนไลน์จนเป็นกระแสร้อนแรงและโจวโม่โม่ก็อาศัยกระแสนี้เปิดแอคเค้าท์โซเชียลมีเดียเพื่อถ่ายคอนเทนต์วิดีโอการเตรียมงานแต่งงานของเธอกับฮั่วเจ๋อซวี่ตอนที่เฉินเจียอิ่งเล่าเรื่องนี้ให้ฉันฟัง ฉันถึงกับวางเอกสารในมือลงแล้วถามเธออย่างสงสัยว่า“ช่วงนี้เธอว่างมากเหรอ?”เฉินเจียอิ่งหัวเราะคิกคักแล้วพูดว่า “ฉันเห็นเรื่องน่าสนใจก็เลยเอามาแบ่งปันกับเธอไง?”ฉันเหลือบมองวิดีโอบนโทรศัพท์ของเธอแวบหนึ่งแล้วก็เบือนหน้าหนี“ฮั่วเจ๋อซวี่ตามใจผู้หญิงคนนี้จริง ๆ”พอเห็นฉันไม่พูดอะไร เฉินเจียอิ่งก็ทำเสียงจิ๊ปากอย่างเบื่อหน่ายก่อนจากไป จู่ ๆ เธอก็ถามขึ้นมาทันทีว่า“เธอหย่ากับเขาหรือยัง?”ฉันหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วพูดอย่างจนใจว่า“ทนายเพิ่งบอกฉันว่า ฮั่วเจ๋อซวี่ไม่ยอมหย่า”“ฉันก็ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ เดี๋ยวฉันเคลียร์งานช่วงนี้เสร็จก่อน แล้วจะกลับไปจัดการ”เฉินเ

  • สุขที่ไม่อาจเอ่ย   บทที่ 6

    ฮั่วเจ๋อซวี่มองวันสิ้นสุดบนข้อตกลงนี้ แล้วเขาก็นึกถึงท่าทีที่เปลี่ยนไปของฉันในช่วงนั้นเขาไม่เชื่อว่าความดีและความเอาใจใส่อย่างพิถีพิถันที่ฉันมีให้เขามาตลอดแปดปีทั้งหมดเป็นเพราะข้อตกลงนี้“สวีมู่หยู่ อย่าคิดที่จะหนีไปจากฉันโดยไม่ได้รับอนุญาตจากฉัน”ฮั่วเจ๋อซวี่หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรหาผู้ช่วยแล้วสั่งให้เขาตามหาเบาะแสของฉันเรื่องที่ฮั่วเจ๋อซวี่สั่งคนตามหาฉันนั้น ฉันซึ่งอยู่ไกลถึงประเทศ M ไม่ได้รับรู้เลยแม้แต่น้อยตอนนี้ฉันกำลังปรึกษาเรื่องข้อมูลของผลิตภัณฑ์ใหม่กับฉู่เหวินเซวียนเพราะก่อนหน้านี้ฉันห่างเหินจากสังคมมาเป็นเวลานานในตอนแรกฉันยังไม่ค่อยคุ้นชินเท่าไหร่แต่ด้วยความวุ่นวายของงาน ทำให้ฉันมองข้ามความรู้สึกไม่สบายใจไปสองวันก่อน สตูดิโอได้รับงานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ดูแลผิวฉันกับฉู่เหวินเซวียนพาทีมงานทำโอทีทุกวันในขณะที่ฉันกับเขากำลังปรึกษาหารือจนได้ข้อสรุป โทรศัพท์มือถือของฉันก็ดังขึ้นซึ่งเป็นเบอร์ของคนรับใช้ในบ้านตระกูลฮั่วมีคนรู้เรื่องที่ฉันจากไปไม่มากนัก และเขาก็เป็นหนึ่งในนั้นเขาบอกว่าช่วงนี้ฮั่วเจ๋อซวี่กลับบ้านด้วยสีหน้าที่บึ้งตึงทุกวันคนรับใช้

  • สุขที่ไม่อาจเอ่ย   บทที่ 5

    เครื่องบินลงจอดที่ประเทศ M อันหนาวเหน็บฉันกระชับเสื้อแจ็คเก็ตผ้าฝ้ายแน่นขึ้น แล้วก็เห็นเฉินเจียอิ่งโบกมือทักทายฉันอย่างกระตือรือร้นในจังหวะที่ฉันเดินเข้าไปหา เธอก็โผเข้ามากอดฉันแน่น“ยินดีด้วยที่ได้บอกลาอดีตนะ”ฉันทุบไหล่เธอเบา ๆ หนึ่งทีแต่ในวินาทีต่อมา เฉินเจียอิ่งก็พลันเปลี่ยนสีหน้า“ไปกันเถอะ ที่สตูดิโอยังมีเรื่องให้จัดการอีกเยอะเลย”“อ้อ นี่คือฉู่เหวินเซวียน ผู้ช่วยที่ฉันรับสมัครให้เธอ”เธอพูดไปพลางแนะนำเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านหลังมาตลอดให้ฉันรู้จักฉันกับเขาทักทายทำความเคารพกัน จากนั้นฉันก็ถูกพาตรงไปที่สตูดิโอทันทีนับตั้งแต่พบกับเฉินเจียอิ่ง ฉันก็เข้าสู่สภาวะที่ยุ่งวุ่นวายวันนั้นกว่าจะได้กลับถึงห้องเช่าก็ปาเข้าไปห้าทุ่มกว่าเช้าวันรุ่งขึ้นก็ออกจากบ้านตั้งแต่แปดโมงเช้าหนึ่งสัปดาห์ผ่านไปกับชีวิตที่วนเวียนอยู่แค่สองจุดอย่างหนักหน่วงในที่สุดสตูดิโอก็ถือว่าเสร็จสมบูรณ์อย่างเป็นทางการในวันพิธีเปิด ร่างกายของฉันถึงได้รู้สึกเหนื่อยล้าแต่ความอิ่มเอมใจเป็นสิ่งที่ฉันไม่เคยสัมผัสมาก่อนเลยก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่บ้านตระกูลฮั่ว ฉันใช้เวลาทุกวันไปกับฮั่วเจ๋อซวี่ ไม่มีเวลาเ

  • สุขที่ไม่อาจเอ่ย   บทที่ 4

    เพราะเขาบอกว่าการมีกลิ่นหม้อไฟติดตัวเป็นการขายหน้าตาของตระกูลฮั่วนอกจากการกินหม้อไฟแล้ว ยังมีเรื่องที่น่าขายหน้าอีกมากมายอย่างเช่น ห้ามหัวเราะเสียงดัง ห้ามพูดเสียงดังในที่สาธารณะ...แปดปีมานี้ ฉันกลายเป็นเหมือนเครื่องมือที่ไร้อารมณ์ ไปแล้วตอนนี้ เมื่อฉันรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายแห่งอิสรภาพที่กำลังจะมาถึง น้ำตาของฉันก็เริ่มเอ่อคลอฉันกลับมาถึงบ้านตอนสี่ทุ่มหลังจากกินหม้อไฟเสร็จเมื่อผลักประตูบ้านเข้าไป ก็เห็นฮั่วเจ๋อซวี่นั่งหน้าบึ้งอยู่ในห้องนั่งเล่นวันนี้เขาโทรมาเป็นสิบสาย แต่ฉันไม่ได้รับเลยสักสาย“เธอไปไหนมา?”ฉันเปลี่ยนรองเท้า แล้วล้างมือจนสะอาด ก่อนจะพูดอย่างเย็นชาว่า “ไปทานข้าวกับเพื่อนมาค่ะ”ฮั่วเจ๋อซวี่เดินเข้ามาใกล้ฉัน เมื่อได้กลิ่นหม้อไฟบนตัวฉัน สีหน้าของเขาก็ยิ่งดูไม่พอใจ“ฉันบอกว่าอย่ากินหม้อไฟไม่ใช่เหรอ? กลิ่นแรงขนาดนี้”ฉันยิ้มให้เขาเล็กน้อย แล้วถามอย่างสงสัยว่า“ตอนที่โจวโม่โม่กินมันไม่ส่งผลกระทบเหรอคะ?”สีหน้าแสดงความรังเกียจของฮั่วเจ๋อซวี่ยิ่งชัดเจนขึ้น“เธอจะเทียบกับโจวโม่โม่ได้เหรอ? อีกอย่าง โจวโม่โม่ไม่ใช่คนในตระกูลฮั่วซะหน่อย”ฉันไม่ได้พูดอะไรตอนนี้ย

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status