共有

บทที่ 2

作者: ผ่าน
ฮั่วเจ๋อซวี่กลับหัวเราะเยาะ

“คนอย่างเธอเนี่ยนะ ไปทำความสะอาดที่บริษัทฮั่วกรุ๊ปก็ยังพอไหว เธอสู้แม้แต่พวกเด็กจบใหม่อย่างโจวโม่โม่ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ”

ในขณะที่ฉันกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง โจวโม่โม่ก็เดินออกมาจากห้องนอน

“พี่อาซวี่คะ ฉันใส่ชุดนี้สวยไหมคะ?”

ชุดที่เธอใส่อยู่เป็นชุดที่ฮั่วเจ๋อซวี่ซื้อให้รักแรกของเขาเป็นประจำทุกปี

ตอนที่ฉันทำความสะอาดครั้งล่าสุด ฉันแค่เผลอแตะไปโดนมันก็ทำให้ฮั่วเจ๋อซวี่ตบหน้าฉันไปฉาดหนึ่งเลย

แต่ตอนนี้เขากลับมองโจวโม่โม่ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความพึงพอใจและตั้งใจอยู่พักหนึ่ง

“สวยมาก เสื้อผ้าข้างในนั้นเธอเลือกใส่ได้ตามสบายเลยนะ”

โจวโม่โม่อวดตัวเองอย่างภูมิใจ และจงใจพูดกับฉันว่า

“พี่มู่หยู่คะ พี่ว่าฉันใส่สวยไหม?”

ฉันพยักหน้าให้เธออย่างจริงใจและกล่าวชมว่า

“สวยมาก! เหมาะกับเธอ!”

คำพูดของฉันทำให้เธอถึงกับอึ้งไปครู่หนึ่ง

แล้วฉันก็หันหลังกลับไปที่ห้องก่อนที่เธอจะทันได้ตอบสนอง

อีกสามวันฉันก็จะสามารถไปจากที่นี่ได้แล้ว ฉันควรจะเริ่มเก็บของได้แล้ว

ฉันเพิ่งจะล้มตัวลงนอนได้ไม่นาน ก็ได้รับโทรศัพท์จากฮั่วเจ๋อซวี่

“โจวโม่โม่ต้องกลับไปมหาลัย ไปส่งเธอหน่อย”

ฉันอดไม่ได้ที่ถามด้วยความสงสัยว่า

“ที่บ้านมีคนขับรถอยู่ไม่ใช่เหรอคะ?”

เนื่องจากฮั่วเจ๋อซวี่ถูกฉันปฏิเสธติดต่อกันถึงสองครั้ง ในน้ำเสียงของเขาจึงเริ่มแฝงไปด้วยความโกรธ

“ตอนนี้จะให้เธอทำอะไรสักอย่างมันยากเย็นขนาดนั้นเลยเหรอ?”

แต่แล้วฉันก็ตอบตกลงทันทีก่อนที่เขาจะอารมณ์เสียไปมากกว่านี้

จากนั้นฮั่วเจ๋อซวี่จึงพูดอย่างพอใจว่า

“ตอบตกลงแต่แรกก็จบแล้วไม่ใช่เหรอ?”

ตอนที่ฉันเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จและเดินออกจากห้อง ฮั่วเจ๋อซวี่กำลังพาโจวโม่โม่ไปยืนรอฉันอยู่ที่หน้าบ้าน

“เร็วเข้า! โจวโม่โม่ต้องไปสอบแล้ว อย่าทำให้เธอเสียเวลา”

โจวโม่โม่มองฉันด้วยรอยยิ้มร่าเริงพลางพูดว่า

“ขอบคุณนะคะพี่มู่หยู่”

โจวโม่โม่กับฮั่วเจ๋อซวี่จูบกันอย่างดูดดื่มที่หน้าบ้านก่อนจะแยกจากกัน

เมื่อโจวโม่โม่ขึ้นรถ เธอก็มองฉันอย่างยั่วยุ

“พี่มู่หยู่คะ ขอโทษนะคะ พี่อาซวี่เขาร้อนแรงไปหน่อย เขาเป็นแบบนี้กับพี่ไหมคะ?”

พอเห็นฉันไม่พูดอะไร โจวโม่โม่ก็หัวเราะอย่างสะใจ

“ผู้ชายแบบพี่อาซวี่จะสนใจคนอย่างพี่ได้ยังไงกัน”

“ผู้หญิงที่ทั้งแก่และน่าเบื่อ”

อาจเป็นเพราะฉันไม่ตอบโต้ เธอพูดคนเดียวเลยรู้สึกเบื่อ

โจวโม่โม่จึงเงียบไปอย่างรวดเร็ว

เมื่อใกล้จะถึงโรงเรียนของเธอ ทันใดนั้นก็มีรถเก๋งที่เสียการควบคุมคันหนึ่งพุ่งเข้ามาชนตรง ๆ

ฉันรีบหักพวงมาลัยเปลี่ยนทิศทาง

แม้ว่าฉันจะตอบสนองได้เร็วมากแล้ว แต่ก็ยังถูกชนจนได้

ฉันรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดรุนแรงที่ขาหลังจากที่รถถูกชนจนหยุดนิ่ง

ตามมาด้วยเสียงร้องครวญครางของโจวโม่โม่

เมื่อฉันหันกลับไปมองเธอ ก็เห็นเพียงแค่รอยขีดข่วนเล็กน้อยที่แขนของเธอ

ตอนนั้นฉันคิดในใจว่าเธออาจจะมีบาดแผลที่มองไม่เห็นก็ได้

เมื่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาถึงที่เกิดเหตุ พวกเขาก็ช่วยเราออกมาได้อย่างรวดเร็ว

ขาซ้ายของฉัน กระดูกหน้าแข้งหัก

ส่วนโจวโม่โม่แค่แขนมีรอยขีดข่วนเล็กน้อยจริง ๆ

หลังจากหมอทำแผลให้เธอเสร็จ ฮั่วเจ๋อซวี่ก็มาถึงที่เกิดเหตุ

เขาเร่งฝีเท้าเดินเข้าไปหาโจวโม่โม่ และถามเธออย่างกังวลว่าเป็นอะไรรึเปล่า

ส่วนโจวโม่โม่อ้อนเขาว่าเจ็บมือ

ฮั่วเจ๋อซวี่จึงรีบสั่งให้คนขับรถพาเธอไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกาย

เขาย่างผ่านฉันไปถึงสองครั้ง แต่สายตาของเขากลับไม่ได้หยุดที่ฉันเลยแม้แต่ครั้งเดียว

ฉันแสยะมุมปากขึ้นยิ้มอย่างไร้เสียง

ความเจ็บปวดที่ขาดูเหมือนจะถูกบดบังด้วยความเจ็บปวดในส่วนอื่นของร่างกายไปเสียแล้ว

หลังจากที่ฉันถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล ฉันได้ยินพยาบาลกำลังคุยกันว่า

“ฮั่วเจ๋อซวี่ดีกับแฟนสาวของเขามากเลยนะ แค่แขนเป็นรอยขีดข่วนนิดหน่อย ก็กังวลถึงขนาดจะเรียกผู้เชี่ยวชาญจากแผนกที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาประชุมเพื่อวินิจฉัยเลย”

“ผู้ชายที่รักคนอื่นเป็นแบบนี้ แถมยังรวยอีก จะไปหาที่ไหนได้ คนที่ได้แต่งงานกับเขาคงจะมีความสุขมากแน่ ๆ”
この本を無料で読み続ける
コードをスキャンしてアプリをダウンロード

最新チャプター

  • สุขที่ไม่อาจเอ่ย   บทที่ 9

    “ตอนนี้ฉันเพิ่งจะรู้ว่าฉันชอบเธอมานานแล้ว เธอกลับไปกับฉันเถอะนะ”ฉันถามเขาด้วยความสงสัยว่า เรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับฉันด้วยเหรอ?ขณะที่ฮั่วเจ๋อซวี่กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ทันใดนั้นเสียงของชายหนุ่มก็ดังขึ้นจากทางด้านหลังฉัน“พี่มู่หยู่ ทำไมยังไม่กลับอีกครับ? เย็นนี้ไปทานข้าวด้วยกันไหม?”ฉู่เหวินเซวียนเดินเข้ามาหาฉัน “นี่คือใครครับ?”สายตาของฮั่วเจ๋อซวี่ที่มองฉันแฝงด้วยความคาดหวังเล็กน้อยฉันพูดอย่างใจเย็นว่า“คืออดีตสามีที่นอกใจไปมีผู้หญิงหลายคนของฉันน่ะ”ฉู่เหวินเซวียนเคยได้ยินเฉินเจียอิ่งเล่าเรื่องของฉันกับฮั่วเจ๋อซวี่มาบ้างแล้ว เขาจึงมองฮั่วเจ๋อซวี่ด้วยสายตาดูถูก“นี่สำนึกผิดแล้วมาขอคืนดีเหรอครับ?”ความรังเกียจในคำพูดของเขาชัดเจนเกินไป จนทำให้ฮั่วเจ๋อซวี่หน้าบึ้งตึง“เรื่องของฉันกับมู่หยู่ มันเกี่ยวอะไรกับนาย?”ฉันยิ้มเล็กน้อย แต่ไม่ได้สนใจเขาเพียงแต่หันกลับมองฉู่เหวินเซวียน“อยากไปทานข้าวที่ไหน? พอดีวันนี้เฉินเจียอิ่งไม่อยู่ด้วย”ฉู่เหวินเซวียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดอย่างไม่เกรงใจว่า“ผมอยากทานซาชิมิครับ”ฉันเลิกคิ้วให้เขา แล้วเดินนำไปก่อนฮั่วเจ๋อซวี่เรียกชื่อฉ

  • สุขที่ไม่อาจเอ่ย   บทที่ 8

    ต่อมเผือกชาวเน็ตต่างก็ถูกกระตุ้นขึ้นมาในทันทีต่างพากันเข้าไปคอมเม้นท์ใต้ข้อความนั้นเพื่อสอบถามรายละเอียดชาวเน็ตคนนั้นก็เล่าเรื่องราวของฉันกับฮั่วเจ๋อซวี่ออกมาทั้งหมดไม่นานเรื่องนี้ก็ติดเทรนด์อย่างรวดเร็วชาวเน็ตมากมายพากันไปรุมถามที่แอคเค้าท์ของโจวโม่โม่ว่าเธอเป็นเมียน้อยใช่ไหม!โจวโม่โม่ได้โพสต์วิดีโอในวันนั้นในวิดีโอ โจวโม่โม่ร้องไห้ตาแดงก่ำ ขอให้ฉันคืนฮั่วเจ๋อซวี่ให้เธอ และอย่ามาทำลายความสัมพันธ์ของพวกเขาเธอไม่ได้ตอบคำถามของชาวเน็ตโดยตรงแต่คำพูดของเธอทำให้ชาวเน็ตจำนวนไม่น้อยเชื่อว่าฉันต่างหากที่เป็นเมียน้อยในความสัมพันธ์ครั้งนี้ในขณะที่ฉันกำลังชื่นชมฝีปากของโจวโม่โม่อยู่นั้น ฮั่วเจ๋อซวี่ก็โพสต์วิดีโอผ่านบัญชีชื่อจริงของเขา ยอมรับว่าเขานอกใจจริงการกระทำนี้ของเขาเป็นการตอกย้ำว่าโจวโม่โม่เป็นเมียน้อยจริง ๆชาวเน็ตที่เพิ่งถูกหลอกต่างก็พากันกลับลำมารุมต่อว่าเธอทันที“รู้อยู่แล้วว่าเป็นเมียน้อย แต่ยังพูดจาได้มั่นหน้าขนาดนี้”“นักเรียนหัวกะทิไปเป็นเมียน้อย น่าขยะแขยงจริง ๆ!”โจวโม่โม่ไม่คาดคิดว่าฮั่วเจ๋อซวี่จะไม่เพียงแต่ยกเลิกงานแต่งงาน แต่ยังยอมรับเรื่องที่เขานอกใจต่

  • สุขที่ไม่อาจเอ่ย   บทที่ 7

    แต่เขาลืมไปว่า วันที่ฉันจากไปก็คือวันงานพิธีหมั้นของเขากับโจวโม่โม่อีกอย่าง การแต่งงานที่คงอยู่ได้ด้วยเพียงข้อตกลงแผ่นเดียว ฉันจะไปแคร์ได้ยังไงว่าเขาจะแต่งงานกับใครหลังจากวันนั้น ข่าวงานแต่งงานของฮั่วเจ๋อซวี่กับโจวโม่โม่ก็แพร่สะพัดบนโลกออนไลน์จนเป็นกระแสร้อนแรงและโจวโม่โม่ก็อาศัยกระแสนี้เปิดแอคเค้าท์โซเชียลมีเดียเพื่อถ่ายคอนเทนต์วิดีโอการเตรียมงานแต่งงานของเธอกับฮั่วเจ๋อซวี่ตอนที่เฉินเจียอิ่งเล่าเรื่องนี้ให้ฉันฟัง ฉันถึงกับวางเอกสารในมือลงแล้วถามเธออย่างสงสัยว่า“ช่วงนี้เธอว่างมากเหรอ?”เฉินเจียอิ่งหัวเราะคิกคักแล้วพูดว่า “ฉันเห็นเรื่องน่าสนใจก็เลยเอามาแบ่งปันกับเธอไง?”ฉันเหลือบมองวิดีโอบนโทรศัพท์ของเธอแวบหนึ่งแล้วก็เบือนหน้าหนี“ฮั่วเจ๋อซวี่ตามใจผู้หญิงคนนี้จริง ๆ”พอเห็นฉันไม่พูดอะไร เฉินเจียอิ่งก็ทำเสียงจิ๊ปากอย่างเบื่อหน่ายก่อนจากไป จู่ ๆ เธอก็ถามขึ้นมาทันทีว่า“เธอหย่ากับเขาหรือยัง?”ฉันหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วพูดอย่างจนใจว่า“ทนายเพิ่งบอกฉันว่า ฮั่วเจ๋อซวี่ไม่ยอมหย่า”“ฉันก็ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ เดี๋ยวฉันเคลียร์งานช่วงนี้เสร็จก่อน แล้วจะกลับไปจัดการ”เฉินเ

  • สุขที่ไม่อาจเอ่ย   บทที่ 6

    ฮั่วเจ๋อซวี่มองวันสิ้นสุดบนข้อตกลงนี้ แล้วเขาก็นึกถึงท่าทีที่เปลี่ยนไปของฉันในช่วงนั้นเขาไม่เชื่อว่าความดีและความเอาใจใส่อย่างพิถีพิถันที่ฉันมีให้เขามาตลอดแปดปีทั้งหมดเป็นเพราะข้อตกลงนี้“สวีมู่หยู่ อย่าคิดที่จะหนีไปจากฉันโดยไม่ได้รับอนุญาตจากฉัน”ฮั่วเจ๋อซวี่หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรหาผู้ช่วยแล้วสั่งให้เขาตามหาเบาะแสของฉันเรื่องที่ฮั่วเจ๋อซวี่สั่งคนตามหาฉันนั้น ฉันซึ่งอยู่ไกลถึงประเทศ M ไม่ได้รับรู้เลยแม้แต่น้อยตอนนี้ฉันกำลังปรึกษาเรื่องข้อมูลของผลิตภัณฑ์ใหม่กับฉู่เหวินเซวียนเพราะก่อนหน้านี้ฉันห่างเหินจากสังคมมาเป็นเวลานานในตอนแรกฉันยังไม่ค่อยคุ้นชินเท่าไหร่แต่ด้วยความวุ่นวายของงาน ทำให้ฉันมองข้ามความรู้สึกไม่สบายใจไปสองวันก่อน สตูดิโอได้รับงานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ดูแลผิวฉันกับฉู่เหวินเซวียนพาทีมงานทำโอทีทุกวันในขณะที่ฉันกับเขากำลังปรึกษาหารือจนได้ข้อสรุป โทรศัพท์มือถือของฉันก็ดังขึ้นซึ่งเป็นเบอร์ของคนรับใช้ในบ้านตระกูลฮั่วมีคนรู้เรื่องที่ฉันจากไปไม่มากนัก และเขาก็เป็นหนึ่งในนั้นเขาบอกว่าช่วงนี้ฮั่วเจ๋อซวี่กลับบ้านด้วยสีหน้าที่บึ้งตึงทุกวันคนรับใช้

  • สุขที่ไม่อาจเอ่ย   บทที่ 5

    เครื่องบินลงจอดที่ประเทศ M อันหนาวเหน็บฉันกระชับเสื้อแจ็คเก็ตผ้าฝ้ายแน่นขึ้น แล้วก็เห็นเฉินเจียอิ่งโบกมือทักทายฉันอย่างกระตือรือร้นในจังหวะที่ฉันเดินเข้าไปหา เธอก็โผเข้ามากอดฉันแน่น“ยินดีด้วยที่ได้บอกลาอดีตนะ”ฉันทุบไหล่เธอเบา ๆ หนึ่งทีแต่ในวินาทีต่อมา เฉินเจียอิ่งก็พลันเปลี่ยนสีหน้า“ไปกันเถอะ ที่สตูดิโอยังมีเรื่องให้จัดการอีกเยอะเลย”“อ้อ นี่คือฉู่เหวินเซวียน ผู้ช่วยที่ฉันรับสมัครให้เธอ”เธอพูดไปพลางแนะนำเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านหลังมาตลอดให้ฉันรู้จักฉันกับเขาทักทายทำความเคารพกัน จากนั้นฉันก็ถูกพาตรงไปที่สตูดิโอทันทีนับตั้งแต่พบกับเฉินเจียอิ่ง ฉันก็เข้าสู่สภาวะที่ยุ่งวุ่นวายวันนั้นกว่าจะได้กลับถึงห้องเช่าก็ปาเข้าไปห้าทุ่มกว่าเช้าวันรุ่งขึ้นก็ออกจากบ้านตั้งแต่แปดโมงเช้าหนึ่งสัปดาห์ผ่านไปกับชีวิตที่วนเวียนอยู่แค่สองจุดอย่างหนักหน่วงในที่สุดสตูดิโอก็ถือว่าเสร็จสมบูรณ์อย่างเป็นทางการในวันพิธีเปิด ร่างกายของฉันถึงได้รู้สึกเหนื่อยล้าแต่ความอิ่มเอมใจเป็นสิ่งที่ฉันไม่เคยสัมผัสมาก่อนเลยก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่บ้านตระกูลฮั่ว ฉันใช้เวลาทุกวันไปกับฮั่วเจ๋อซวี่ ไม่มีเวลาเ

  • สุขที่ไม่อาจเอ่ย   บทที่ 4

    เพราะเขาบอกว่าการมีกลิ่นหม้อไฟติดตัวเป็นการขายหน้าตาของตระกูลฮั่วนอกจากการกินหม้อไฟแล้ว ยังมีเรื่องที่น่าขายหน้าอีกมากมายอย่างเช่น ห้ามหัวเราะเสียงดัง ห้ามพูดเสียงดังในที่สาธารณะ...แปดปีมานี้ ฉันกลายเป็นเหมือนเครื่องมือที่ไร้อารมณ์ ไปแล้วตอนนี้ เมื่อฉันรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายแห่งอิสรภาพที่กำลังจะมาถึง น้ำตาของฉันก็เริ่มเอ่อคลอฉันกลับมาถึงบ้านตอนสี่ทุ่มหลังจากกินหม้อไฟเสร็จเมื่อผลักประตูบ้านเข้าไป ก็เห็นฮั่วเจ๋อซวี่นั่งหน้าบึ้งอยู่ในห้องนั่งเล่นวันนี้เขาโทรมาเป็นสิบสาย แต่ฉันไม่ได้รับเลยสักสาย“เธอไปไหนมา?”ฉันเปลี่ยนรองเท้า แล้วล้างมือจนสะอาด ก่อนจะพูดอย่างเย็นชาว่า “ไปทานข้าวกับเพื่อนมาค่ะ”ฮั่วเจ๋อซวี่เดินเข้ามาใกล้ฉัน เมื่อได้กลิ่นหม้อไฟบนตัวฉัน สีหน้าของเขาก็ยิ่งดูไม่พอใจ“ฉันบอกว่าอย่ากินหม้อไฟไม่ใช่เหรอ? กลิ่นแรงขนาดนี้”ฉันยิ้มให้เขาเล็กน้อย แล้วถามอย่างสงสัยว่า“ตอนที่โจวโม่โม่กินมันไม่ส่งผลกระทบเหรอคะ?”สีหน้าแสดงความรังเกียจของฮั่วเจ๋อซวี่ยิ่งชัดเจนขึ้น“เธอจะเทียบกับโจวโม่โม่ได้เหรอ? อีกอย่าง โจวโม่โม่ไม่ใช่คนในตระกูลฮั่วซะหน่อย”ฉันไม่ได้พูดอะไรตอนนี้ย

続きを読む
無料で面白い小説を探して読んでみましょう
GoodNovel アプリで人気小説に無料で!お好きな本をダウンロードして、いつでもどこでも読みましょう!
アプリで無料で本を読む
コードをスキャンしてアプリで読む
DMCA.com Protection Status