ตอนที่ 2 อดีตของอาจารย์หนุ่ม
บริษัท “เช้าวันจันทร์ผ่านไป เมื่อไหร่จะถึงวันศุกร์สักที”เสียงของหนึ่งเดียวบ่นข้างๆจนแอบรำคาญเล็กน้อยแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะสิ่งที่มันพูดคือเรื่องจริง ผมเองก็รอวันศุกร์เพราะเป็นวันแห่งสุดสัปดาห์ที่ชอบที่สุด “ดาว มึงไปไหนต่อ” “กูน่าจะลับหอเลย”ผมตอบหนึ่งเดียวไป แต่ความจริงวันนี้ผมไม่มีแผนจะไปไหนหรอกครับอาจจะไม่มีที่ไปก็ว่าได้ “เออๆ อีก 20 นาทีก็เลิกงานละ งานมึงเสร็จแล้วใช่ไหม”หนึ่งดียวถามพร้อมจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ของผม “วันนี้พี่ออมลา กูเลยสบายหน่อยไม่มีงาน ไม่วุ่นวาย”การทำงานมันไม่ได้ยากหรอกหากเราเข้าใจจุดงานตนแต่สำหรับผมสิ่งที่มันยากคือหัวหน้านั่นแหละครับวุ่นวายรายวันจนผมรู้สึกปวดหัวและอยากถึงเวลาเลิกงานเร็วๆ “อือ กูคงไปโรงพยาบาล” “หือ ไปหาใคร”ผมเอียงคอถามเพื่อนสนิทเพราะสงสัยว่ามีใครป่วยหรือเปล่าแต่ก็ไม่ได้คำตอบเพราะหนึ่งเดียวมีสายเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือของมันก่อนและเดินออกไปจากโต๊ะทำงานผมทำเหมือนการพูดคุยเมื่อครู่มีผมเป็นอากาษเท่านั้น 17:00 น. มหาวิทยาลัย “เอาล่ะเด็กๆ ท้ายคาบตามสัญญาจะมีสอบเก็บคะแนน”สิ้นเสียงอาจารย์ประจำวิชานักศึกษาต่างพากันร้องอย่างคร่ำครวญเพราะไม่อยากสอบ “อาจารย์ครับบ สอบยากไหม”เด็กนักศึกษาผู้ชายหลังห้องตะโกนถาม “ไม่ยาก แต่ที่ยากคือพวกคุณหลับในคาบผมไงครับ ข้อสอบทุกอย่างก็อยู่ในสิ่งที่ผมสอนทั้งนั้น”อาจารย์น่านฟ้าพูดและทำให้นักศึกษาคนอื่นพากันออกเสียงขำเพื่อนคนนั้น “เอาล่ะๆๆ แจกข้อสอบนะ ห้ามลอกกันมา เพราะข้อสอบครั้งนี้ผมสุ่มข้อ ซึ่งพวกคุณจะได้ข้อสอบไม่เหมือนกัน”น่านฟ้าพูดก่อนจะให้เวลานักศึกษาทำข้อสอบท้ายคาบเป็นเวลา 30 นาที 30 นาทีผ่านไป “อาจารย์คะ หนูมาส่งข้อสอบค่ะ”นักศึกษาคนหนึ่งเดินมาส่งข้อสอบเป็นคนแรก น่านฟ้าก็ยื่นมือรับข้อสอบก่อนจะพยักหน้าให้นักศึกษาคนเดิม “โอเค ครับไปได้”น่านฟ้าพูดแต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อเงยใบหน้าขึ้นก็เจอสายตาแปลกๆจากนักศึกษาอีกคนที่นั่งด้านหน้าซึ่งใกล้กับตำแหน่งโต๊ะอาจารย์ “อาจารย์พูดกับใครเหรอคะ”นักศึกษาคนที่มองเขาด้วยสายตาแปลกใจได้เอ่ยปากถาม “นักศึกษาที่นั่งตรงนั้นไง เขาส่งข้อสอบแล้วก็เดินออกไปแล้ว” “อา…อาจารย์ ทำหนูตกใจนะคะ”เป็นอีกครั้งที่นักศึกษาสาวทำหน้าตกใจ “เป็นอะไรหรือเปล่า?” “เปล่าๆค่ะ หนูอาจจะไม่เห็นเพื่อนที่นั่งตรงนั้นเอง อันนี้ข้อสอบค่ะอาจารย์ หนูขอตัวก่อนนะคะ”เด็กนักศึกษารีบเดินมาส่งข้อสอบแล้วก็คว้ากระเป๋าเดินออกไปทันที ทิ้งไว้แต่อาจารย์หนุ่มที่มองตามหลังด้วยความงุนงงว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เขาก็ไม่ได้สนใจใดๆเพราะเริ่มมีนักศึกษาทยอยส่งข้อสอบจนหมดทุกคน เขาจึงเก็บเอกสารและสื่อการสอนทุกอย่างเพื่อเดินกลับห้องพักอาจารย์ “อาจารย์น่านฟ้า เย็นนี้มีแผนไปที่ไหนไหมครับ พวกเราจะชวนไปกินมื้อเย็นกัน”อาจารย์อีกท่านที่รุ่นราวคราวเดียวกันกับน่านฟ้าพูดชวน “ไม่ดีกว่าครับเย็นนี้ผมมีนัดแล้ว ไว้วันหลังนะ”น่านฟ้าพูดปฏิเสธเพราะเย็นนี้เขาตั้งใจจะไปคาเฟ่เผื่อได้พบเจอกับบุคคลที่แสนหยิ่งและเย็นชาเหลือเกิน ทั้งที่เขาเฝ้ามองและพยายามเข้าหาทำความรู้จักมานับหลายครั้งแต่ก็ไม่เคยได้มีโอกาสเลย เมื่อช่วงเวลาเย็นมาถึงน่านฟ้าไม่รอช้ารีบเก็บกระเป๋าทำงานก่อนจะขับรถมายังคาเฟ่ตรงสวนมหาลัยเพื่อรอใครบางคนและเป็นไปตามคาดเขาได้เจอกับคนร่างเล็กหรือนับดาวคนที่เขาอยากทำความรู้จักจริงจังสักที “ในที่สุดคุณก็มา นับดาว”น่านฟ้าเอ่ยปากทักทาย “ครับ รอผมเหรอ?”นับดาวชี้ไปที่ตัวเองพร้อมใบหน้างงๆ “ครับ จะว่าอย่างนั้นก็ได้”น่านฟ้าพูดความจริงออกไปเพราะเขาอยากทำความรู้จักกับคนตรงหน้าจริงๆ “อื้อ”นับดาวตอบสั้นๆก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ในสวนที่ทั้งสองพากันเดินเข้ามาและไม่ได้พูดอะไรกันเลยจนน่านฟ้าเป็นฝ่ายต้องชวนคุยเสียเอง “วันนี้งานเยอะไหมครับ” “ไม่ครับ”นับดาวตอบ “แต่หน้าคุณดูเหนื่อย มีอะไรระบายกับผมได้นะครับ” “ความในใจของผมไม่มีใครเข้าใจหรอกครับ” “ไม่ลองพูดจะรู้ได้ไงว่ามีคนไม่เข้าใจครับ ผมคนนึงจะเข้าใจคุณเอง”น่านฟ้าเริ่มรุกอีกคนกลับแต่ก็แอบใจห่อเหี่ยวเพราะดูเหมือนนับดาวไม่หลงกลแถมยังถอนหายใจใส่เขาเบาๆอีกด้วย “ปกติเวลาผมหยอดใครไม่เคยพลาดเลยนะ คุณเป็นคนแรกที่ทำผมใจหล่นถึงตาตุ่ม” “ผมผ่านเรื่องเสียใจมาเยอะแล้วครับ บางทีตายไปแล้วแต่ก็มีโอกาสฟื้นกลับอีก ผมเลยเฉยๆกับเรื่องพวกนี้ ขอโทษนะครับ”นับดาวตอบ “รักครั้งก่อนของคุณหนักมากเลยเหรอครับ” “ครับ เขาหายไปจากผม โดยไม่บอกไม่กล่าวใดๆเลยจนตอนนี้ผมเองก็ยังไม่รู้ว่าควรไปต่อเพื่อรอ หรือควรหยุดแล้วเริ่มใหม่”น่านฟ้าสังเกตเห็นสีหน้าของนับดาวที่มีแต่ความว่างเปล่าในนั้น “แต่ผมรู้สึกว่าคุณได้คำตอบนั้นแล้วนะ เราไม่ควรรอใครนานๆจนทำให้พลาดโอกาสดีๆไป” “หึหึ ผมไปดีกว่าจะค่ำแล้ว ขอตัวนะครับ” “เดี๋ยวสินับดาว จะกลับแล้วเหรอครับ ไปทานข้าวด้วยกันก่อนไหมหรือ ให้ผมไปส่งนะฝนจะตกแล้ว”น่านฟ้าหาสารพัดข้ออ้างเพื่อรั้งอีกคนให้อยู่กับเขานานๆ แต่ก็ไม่เป็นผลเพราะนับดาวโบกมือลาแล้วเดินจากไปอย่างรวดเร็ว “อะไรของเขากันนะ แล้วผมจะได้เจอคุณอีกเมื่อไหร่กัน”น่านฟ้าถอนหายใจอีกครั้งก่อนจะเดินกลับไปที่รถเพื่อขับกลับบ้านที่อยู่ย่านใจกลางเมือง “กลับมาแล้วเหรอลูก หิวข้าวไหม”เมื่อเดินเข้ามาในบ้านก็เจอคุณพ่อและคุณแม่นั่งรอลูกชายคนเดียวกลับมาจากทำงานตรงโซฟาในห้องรับแขก “ครับ ผมขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะครับเดี๋ยวมาทานกับข้าวอร่อยๆจากคุณคนสวยคนนี้”น่านฟ้าคว้าแก้มนุ่มของคนเป็นแม่มาหอมเบาๆเพื่อแสดงความรัก “อ้อนเก่งแบบนี้แม่จะปล่อยไปให้ลูกสะใภ้ในอนาคตได้ไงเนี่ย ทำใจยากจริงๆ” “ฮ่าๆ ให้ผมขายออกเถอะครับ” “ไปๆๆ อาบน้ำได้แล้ว พ่อเขารอทานข้าวอยู่”น่านฟ้าเดินขึ้นไปยังชั้นสองของบ้านเพื่อชำระกายและเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อหาเสื้อผ้าสบายๆใส่ //พรึ่บ// “หื้ม อะไร”น่านฟ้ามองกล่องเหล็กที่ล่วงหล่นลงมาสภาพภายนอกดูเก่าเหมือนเก็บมาหลายปีและตัดสินใจเปิดออกแต่ก็พบว่าภายในกล่องมีเพียงดอกไม้เหี่ยวเฉาหนึ่งดอก “โอ๊ย…ปวดหัวอีกแล้ว”มือหนากุมขมับทั้งสองข้างของตนเล็กน้อยเพราะอาการเก่ากำเริบอีกแล้ว //ฟ้า แม่เข้าไปได้ไหมลูก//เสียงคุณแม่เรียกอยู่หน้าห้องก่อนจะเปิดประตูเข้ามาเมื่อไม่ได้รับเสียงตอบรับจากลูกชายของเธอ “ฟ้า! เป็นอะไรลูก”คนเป็นแม่ตกใจเมื่อเห็นสีหน้าของน่านฟ้าไม่สู้ดีนัก “ไม่เป็นไรแล้วครับ ฟ้าแค่ปวดหัวเล็กน้อย”น่านฟ้าพยายามสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆเพื่อหวังไล่อาการปวดในตอนนี้ “อาการเดิมกำเริบแล้วใช่ไหม อาหมอเคยบอกแม่ไว้ถ้าปวดหัวหรือเจ็บตรงแผลเก่าให้กลับไปตรวจดูอาการอีกรอบ”แม่ของน่านฟ้าพูดด้วยความเป็นห่วง “ไม่เป็นไรครับ ฟ้าโอเคแล้ว” “ตั้งแต่ฟ้าประสบอุบัติเหตุในคราวนั้น แม่กับพ่อก็ใจไม่ดีเลยจริงๆ กลัวเสียฟ้าไป”คนเป็นแม่พูดพร้อมน้ำตาคลอเบ้าตาสวยเล็กน้อย เธอมีลูกชายเพียงคนเดียวซึ่งเป็นหัวแก้วหัวแหวนให้กับเธอ หลังจากเกิดเหตุเมื่อหลายเดือนก่อนทำให้เธอไม่สบายใจและเป็นห่วงลูกชายมาก “แม่ครับ กล่องนี้คืออะไรครับ ฟ้ามองแล้วก็ปวดหัวขึ้นมาแบบดื้อๆ”น่านฟ้ายื่นกล่องเหล็กให้แม่ของตนดู “แม่ผิดเองที่ปล่อยทิ้งไว้ กล่องใบนี้เป็นของคนรักเก่าลูกที่เขาให้มา” “คนรัก? ผมเคยมีเหรอครับ”น่านฟ้าถามด้วยความไม่เข้าใจ เพราะเขาจดจำเรื่องราวพวกนี้ไม่ได้เลย “ฟ้า ตอนนั้นที่ลูกหลับไปเพราะได้รับกระทบกระเทือนสมองอย่างรุนแรงทำให้ความทรงจำสูญหายไปช่วงสามปีที่ผ่านมาตอนนั้นลูกคบหากับเด็กคนนึงพอเขารู้ว่าลูกเกิดอุบัติเหตุเขาก็ทิ้งกล่องใบนี้ไว้ให้แม่แล้วก็เดินไปตามทางของตัวเองโดยไม่รอฟ้าแล้ว”น่านฟ้ารู้สึกเจ็บปวดตรงขมับทั้งสองข้างอีกครั้งเมื่อได้ฟังเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นจากคนเป็นแม่ “แล้วเขาไปอยู่ที่ไหนครับ” “แม่เองก็ไม่ทราบอะไรเลย เขาทิ้งฟ้าไปแล้ว ช่างมันเถอะลูก แม่ไม่อยากให้ฟ้าไปพบคนแบบนั้นอีก อยากให้ฟ้าเริ่มต้นใหม่กับชีวิตที่เคยผ่านความเป็นความตายมาแล้วครั้งหนึ่ง ทำเพื่อแม่ได้ไหม” “ผมขอโทษนะครับแม่ที่เคยทำให้แม่เป็นห่วงในตอนนั้น”น่าฟ้าเลือกทิ้งความสงสัยในตัวแฟนเก่าของตนเพราะตอนนี้เขากำลังจะเจอความรักครั้งใหม่ถึงแม้นับดาวจะเย็นชาใส่เขาไปบ้างก็ตาม “ไปทานข้าวกันเถอะลูก ส่วนกล่องแม่ทิ้งให้เองนะ” “ครับ”น่านฟ้าตอบพร้อมยื่นกล่องเหล็กให้คนเป็นแม่ไป วันอังคาร 09:00 น. “อาจารย์คะ วันนี้มีสอบท้ายคาบไหม”คลาสเรียนของเช้าวันใหม่ได้เริ่มต้นขึ้นแต่เต็มไปด้วยคำถามจากนักศึกษาที่กลัวการสอบเก็บคะแนนเป็นอย่างมาก “ข้อสอบของผมไม่ได้ยากเลยนะครับ”น่านฟ้าส่ายใบหน้าของตนเบาๆกับความกลัวของลูกศิษย์ตน “ไม่ยากของอาจารย์แต่ยากสำหรับพวกหนูนี่สิคะ” “เอาล่ะๆ กลับไปนั่งที่เตรียมเอกสารหรือสื่อการเรียนได้แล้วครับ วันนี้ผมให้เป็นคะแนนความขยันแทนแล้วกัน ใครมาเรียน ผมให้ 2 คะแนน มีเพื่อนเรียกเพื่อนมานะครับเช็คชื่อท้ายคาบ”เมื่ออาจรย์พูดจบเสียงนักศึกษาต่างพากันดีใจที่วันนี้ได้คะแนนมาอย่างง่ายดายจากอาจารย์หนุ่มสุดหล่อของพวกเธอ 17:00 น. ในวันทำงานความรู้สึกแต่ละวันช่างผ่านไปยากเย็นเหลือเกิน น่านฟ้าเองก็เป็นหนึ่งในนั้นถึงแม้ภายนอกเขาดูเป็นคนขยันในในความเป็นจริงก็ย่อมมีนิสัยเกียจคล้านกันอยู่แล้ว “ทำไมไม่สดชื่นเลยครับ”เพื่อนอาจารย์ด้วยกันสังเกตเห็นใบหน้าของอาจารย์น่านฟ้าจึงอดทักไม่ได้ “ไม่มีอะไรครับ ผมก็แค่คิดเรื่องสอนไปเรื่อยเปื่อย”น่านฟ้าพูดแต่ความจริงแล้วเขาไมได้คิดเรื่องงาน ภายในใจของน่านฟ้าตอนนี้กำลังคิดถึงใบหน้าหวานของนับดาวต่างหาก นี่ก็ผ่านมาสองวันแล้วที่เขาไม่เจอนับดาว ไม่ว่าจะไปดักรอตรงคาเฟ่หรือตรงเก้าอี้ในสวนที่พบเจอกันบ่อยครั้งแต่ก็ไร้วี่แววอีกคน น่านฟ้าพยายามคิดว่าคนที่เขาเฝ้ารอนั้นอาจจะยุ่งเรื่องงานจริงๆจนไม่มีเวลา พยายามปลอบใจตนเองว่าอีกคนไม่ได้รังเกียจหรือไม่อยากเจอเขา “นั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ”น่านฟ้าพูดก่อนจะเก็บของใส่กระเป๋าแล้วเดินออกจากห้องทำงานไป ภายในใจของน่านฟ้าตอนนี้กำลังคิดถึงใบหน้าสวยของนับดาวและเป็นใบหน้าที่เขารู้สึกคุ้นเคยนี่หรือเปล่าที่เรียกว่าพรหมลิขิต เมื่อคิดมาถึงตรงนี้น่านฟ้าก็อดที่จะยิ้มไม่ได้เลยจริงๆที่มีความคิดเหมือนเด็กวัยรุ่หัดรัก “คุณกำลังทำให้ผมเป็นบ้า นับดาว”เท้ายาวได้ก้าวเดินไปตามทางถนนเพื่อมุ่งตรงไปยังสวนที่เจอกับอีกคนบ่อยครั้งและได้แต่หวังว่าวันนี้ต้องได้เจอแต่เมื่อรอนานแล้วนานเล่าผู้คนก็เดินผ่านไปหลากหลายไม่มีวี่แววจะเห็นนับดาวเลย ความรู้สึกของน่านฟ้าในตอนนี้หน่วงเต็มหัวใจ “คุณไปที่ไหนนะนับดาว หรือผมต้องยอมแพ้”เสียงถอนหายใจดังขึ้นอีกครั้งก่อนจะตัดสินใจกลับบ้านไป วันนี้อากาศดีแล้วแท้ๆน่านฟ้าตั้งใจจะชวนนับดาวไปทานมื้อเย็นริมแม่น้ำเจ้าพระยาร้านชื่อดังที่เขารู้จัก แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะไม่เจออีกคนเลย… TBCตอนที่ 7 เรื่องราววุ่นวายของพนักงานบริษัท“นับดาว! เธอทำแบบนั้นในที่ประชุมทำไม รู้ไหมว่ามันฉีกหน้าพี่ที่เป็นหัวหน้าเธอ”เสียงของพี่ออมหัวหน้าแผนกที่กำลังต่อว่าผมเนื่องจากการประชุมที่ผ่านมานั้นเธอไม่ได้เตรียมข้อมูลรายงานไปและให้ลูกน้องอย่างผลเตรียมเร่งด่วนจึงมีบางส่วนที่เธอต้องด้นสดเองแต่ข้อมูลไม่ตรง ผมจึงอดไม่ได้ที่จะพูดช่วยแต่ไม่คิดว่าพี่ออมจะมองตีความหมายเป็นการฉีกหน้าเสียงั้น“ผมช่วยพี่ออมอยู่นะครับ บอสใหญ่เขาก็ไม่ได้พูดว่าอะไรสักหน่อย” หากการถอนหายใจของผมนับเป็นกีฬาคงได้เหรียญทองแล้วล่ะครับ เป็นอีกวันที่ผมเข้างานมาก็เบื่อหน่ายกับหัวหน้าแผนก ทั้งที่รู้ว่าวันจันทร์มีประชุมสรุปงานประจำสัปดาห์แต่เหตุใดหัวหน้าผมถึงไม่เตรียมรายงานข้อมูลหรือสั่งให้ผมทำไว้ตั้งแต่วันศุกร์ และมาสั่งหนึ่งชั่วโมงก่อนเข้าประชุมแบบนี้ผมสามารถร้องเรียนบอสใหญ่อีกทีได้ไหม“เธอเป็นลูกน้องฉัน เธอไม่มีสิทธิ์จะพูดแทนฉันในที่ประชุม จำเอาไว้ด้วย”ตรรกะแบบหัวหน้าเช่นนี้อีกกี่สิบปีผมก็คงไม่มีวันเข้าใจหรอกครับ“ครับ เข้าใจแล้วครับ” ผมได้แต่ตอบกลับไปเพราะไม่ว่ายังไงเขาก็คือหัวหน้า ผมที่เป็นลูกน้องไม่มีสิทธิ์ถกเถียงใดๆ อยู่แล้
ตอนที่ 6 เดทแรกของเราสอง (?)วันเสาร์ 09.00“รีบไปไหนน่ะลูก”เสียงคุณแม่เอ่ยปากทักลูกชายที่ดูรีบร้อนคล้ายจะออกไปด้านนอก“พอดีมีนัดน่ะครับ วันนี้ผมกลับช้านะ”น่านฟ้าพูดพร้อมยิ้มอย่างอารมณ์ดีก่อนจะเดินไปยังรถที่ถูกเตรียมเอาไว้โดยคนรับใช้พร้อมขับออกไป ปล่อยให้คุณพ่อและคุณแม่ยืนมองด้วยความงุนงงเช้าวันนี้คงเป็นวันที่สดใสมากกว่าที่ผ่านมาเพราะน่านฟ้าได้ไปตามนัดหมายคนสำคัญที่เฝ้ารอมานานนับเดือน กว่าจะมีวันนี้ได้เขาเองก็ทรมานไม่น้อย หลายคนอาจจะงงว่าทำไมน่านฟ้าไม่คิดจะตามหาคนรักเก่าและเลือกจะเชื่อคำพูดของแม่ น่านฟ้าเองก็อยากจะตามหาแต่ในเมื่อเขาเลือกจะทิ้งช่วงนอนป่วยติดเตียงเพื่อไปมีชีวิตที่สบายไม่ต้องมาดูแลเขาเหตุผลเท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่ทำให้น่านฟ้าไม่หันกลับไปมองรักเก่า และอีกอย่างชีวิตในตอนนี้เขาได้พบเจอความรักอย่างนับดาวจึงคิดว่าควรอยู่กับปัจจุบันดีกว่า หากวันหนึ่งเขาบังเอิญได้พบเจอกับคนเก่าก็คงได้แต่แสดงความยินดีที่ไปมีชีวิตใหม่และก็ขอบคุณที่ทิ้งกันไป ทำให้เขาได้เจอความรักครั้งใหม่อย่างนับดาว“รออยู่ตรงที่เดิมสินะ”น่านฟ้าสลัดความคิดในอดีตทิ้งก่อนจะพูดเบาๆ กับตนเองเมื่อเดินมาแล้วมาเจอนับดาวซ
ตอนที่ 5 แฟนเก่าที่หายตัวไปของนับดาววันศุกร์ 10:00วันนี้ยังคงเป็นอีกหนึ่งวันที่แสนน่าเบื่อสำหรับคนทำงานเพราะอากาศที่ไม่เป็นใจสายฝนเทลงมาตั้งแต่เช้าตรู่จนตอนนี้ไม่มีวี่แววว่าจะหยุดเลย น่านฟ้าต้องตื่นตั้งแต่เช้าเพราะเขามีคลาสสอนนักศึกษา ด้วยสภาพแวดล้อมฝนตกหนักแบบนี้ทำให้นักเรียนของตนหลายคนมาสายหรือเลือกจะลาหยุด เขาเข้าใจดีเพราะสมัยเขายังเป็นเด็กก็เคยทำเช่นนั้นมาก่อน“วันนี้ฝนตกผมไม่เช็คชื่อก็แล้วกัน แต่รอบหน้าต้องเข้าเรียนให้ครบกันด้วยนะครับ”น่านฟ้าเริ่มสอนและนักเรียนกลับชอบวิชานี้เป็นอย่างมากเพราะบางครั้งการใช้จิตวิทยาในการสื่อสารย่อมเป็นผลดีและอีกทั้งการเดาใจมนุษย์เป็นสิ่งที่ท้าทายในความสามารถมากจริงๆและมันก็ช่างแปลกเพราะน่านฟ้ามีทักษะการสื่อสารเป็นอย่างดีแต่ทำไมเวลาอยู่กับนับดาวถึงใช้ไม่ได้ผลกันนะ สงสัยเจอกันรอบหน้าต้องใช้หัวใจสื่อสารกันเสียแล้วแต่อีกคนจะยอมให้เขาเจอหรือเปล่านั่นก็อีกเรื่อง“อาจารย์คะ สไลด์สอนหมดแล้ว อาจารย์จะปล่อยเลยไหมคะ”นักศึกษาถาม“เหลือเวลาอีก 20 นาทีพวกคุณอยากรู้เรื่องไหนบ้างล่ะ หรือหิวข้าวอยากเลิกเร็ว?”“หิวข้าวครับ อาจารย์”และเสียงส่วนมากลงมติกันว่าขอเลิกเ
ตอนที่ 4 แฟนเก่าที่ทิ้งไปเช้าวันต่อมา8.30 น.เช้าวันนี้เป็นอีกวันที่แสนหนักหน่วงสำหรับนักศึกษาทุกคนเนื่องจากเป็นวันสอบปลายภาคก่อนจะปิดการศึกษา และน่านฟ้าต้องมาคุมสอบแต่ระหว่างทางที่เดินไปห้องสอบนั้นได้เจอกับนักศึกษาภาควิชาของตน“อาจารย์คะ ข้อสอบยากไหม”นักศึกษาคนหนึ่งเดินเข้ามาถามเพราะตอนนี้ยังคงเหลือเวลาก่อนจะเข้าห้องสอบ“ตามที่ผมสอนนอกจากพวกคุณหลับและแอบเล่นโทรศัพท์ในคาบผมจึงทำไม่ได้”“โหห จาร พวกผมนิสัยดีสุดแล้วคร้าบ”นักศึกษาผู้ชายอีกคนพูดขึ้น“อ้อ มึงๆ รู้หรือเปล่า รุ่นพี่ปี 4 คณะวิศวะ ที่มาเรียนกับพวกเราเขาเสียชีวิตแล้วนะ”เสียงนักศึกษาพูดกันทำให้น่านฟ้าสนใจเป็นอย่างมาก“คนไหนเหรอ”น่านฟ้าถาม“คนนั้นที่ชอบนั่งหลบมุมอ่ะค่ะอาจารย์ ที่เขามาเรียนได้สองคาบแล้วก็ถอนวิชานี้ไป”เพราะวิชาของน่านฟ้าเป็นวิชาทั่วไปสำหรับเก็บหน่วยกิตวิชาเสรีจึงมีนักศึกษาต่างคณะมาเรียนบ่อย“ครับ เข้าห้องสอบกันเถอะ ถึงเวลาแล้ว”น่านฟ้าพูด ก่อนจะถอนหายใจเล็กน้อยแล้วเดินเข้าไปทำหน้าที่ของตนเองต่อและพยายามไม่คิดมากกับสิ่งที่ได้ยิน จนเวลาผ่านไปหลายชั่วโมงนักศึกษาต่างก็ทยอยส่งข้อสอบเพราะหมดเวลาแล้ว อาจารย์หนุ่มเก็บข้อส
ตอนที่ 3 สายฝนกับการรอคอยวันศุกร์สุดสัปดาห์ของใครหลายมาถึงวันนี้ท้องฟ้าอากาศไม่เป็นใจสำหรับคนที่ออกไปทำกิจกรรมเท่าไหร่นักเพราะเมฆฝนกำลังก่อตัวขึ้นอีกแล้ว หลังจากสอนนักศึกษาในวิชาประจำของตนเสร็จเรียบร้อย น่านฟ้ารีบเดินกลับมายังห้องทำงานเพื่อเคลียร์งานที่ค้างคาเอาไว้ส่งกับภาควิชาที่สังกัดอยู่พร้อมจิตใจกำลังจดจ่อไปยังสวนและค่าเฟ่เพื่อหวังจะพบเจอกับคนตัวเล็กอีกครั้ง“เสร็จเรียบร้อย”น่านฟ้ามองผลงานของตนก่อนจะส่งอีเมล์ให้กับทางหัวหน้าภาควิชาพร้อมเก็บกระเป๋าเตรียมตัวเลิกงาน“อาจารย์น่านฟ้า รีบไปไหนครับเนี่ย เย็นนี้พวกผมไปร้านอาหารย่านบรรทัดทองกัน กะจะชวนอาจารย์ไปด้วย”เสียงของเพื่อนร่วมงานทัก“พอดีผมรีบไปทำธุระน่ะครับ ไว้วันหลังนะ”น่านฟ้าพูดพร้อมเดินออกไปจากห้องทำงานทิ้งไว้แต่เพื่อนร่วมงานที่มองมาอย่างงุนงง พักหลังมานี้ชวนไปไหนน่านฟ้าก็ไม่ได้ไปกับพวกเขาเลยแต่สำหรับน่านฟ้านั้นเขาไม่ได้สนใจว่าเพื่อนร่วมงานจะมองยังไงเพราะสุดท้ายคนสำคัญคงเป็นนับดาวคนที่เขาเฝ้าคิดถึงนานนับอาทิตย์และอยากถามไถ่อีกคนว่าหายไปไหน ทำงานเหนื่อยไหม ได้ตากฝนบ้างหรือเปล่าเมื่อมาถึงก็เจอคาเฟ่ที่กำลังจัดโปรโมชั่นเค้กสูตรพ
ตอนที่ 2 อดีตของอาจารย์หนุ่มบริษัท“เช้าวันจันทร์ผ่านไป เมื่อไหร่จะถึงวันศุกร์สักที”เสียงของหนึ่งเดียวบ่นข้างๆจนแอบรำคาญเล็กน้อยแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะสิ่งที่มันพูดคือเรื่องจริง ผมเองก็รอวันศุกร์เพราะเป็นวันแห่งสุดสัปดาห์ที่ชอบที่สุด “ดาว มึงไปไหนต่อ”“กูน่าจะลับหอเลย”ผมตอบหนึ่งเดียวไป แต่ความจริงวันนี้ผมไม่มีแผนจะไปไหนหรอกครับอาจจะไม่มีที่ไปก็ว่าได้“เออๆ อีก 20 นาทีก็เลิกงานละ งานมึงเสร็จแล้วใช่ไหม”หนึ่งดียวถามพร้อมจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ของผม“วันนี้พี่ออมลา กูเลยสบายหน่อยไม่มีงาน ไม่วุ่นวาย”การทำงานมันไม่ได้ยากหรอกหากเราเข้าใจจุดงานตนแต่สำหรับผมสิ่งที่มันยากคือหัวหน้านั่นแหละครับวุ่นวายรายวันจนผมรู้สึกปวดหัวและอยากถึงเวลาเลิกงานเร็วๆ“อือ กูคงไปโรงพยาบาล”“หือ ไปหาใคร”ผมเอียงคอถามเพื่อนสนิทเพราะสงสัยว่ามีใครป่วยหรือเปล่าแต่ก็ไม่ได้คำตอบเพราะหนึ่งเดียวมีสายเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือของมันก่อนและเดินออกไปจากโต๊ะทำงานผมทำเหมือนการพูดคุยเมื่อครู่มีผมเป็นอากาษเท่านั้น17:00 น.มหาวิทยาลัย“เอาล่ะเด็กๆ ท้ายคาบตามสัญญาจะมีสอบเก็บคะแนน”สิ้นเสียงอาจารย์ประจำวิชานักศึกษาต่างพากันร้องอย่างคร่ำคร