วันรุ่งขึ้น รถสองคันมาถึงทางเข้าของเมเปิล วิลล่า ก่อนเวลา 07.00 น. ภายในรถปอร์เช่สุดหรูมีผู้โดยสารสี่คน สปาร์ค แครอล โอลิเวีย และ มารายห์ แขนของสปาร์คยังไม่หายดี ดังนั้น แครอลจึงอาสาเป็นคนขับ ตามมาด้วยรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ข้างในนั้นคือโลงศพที่พวกเขาซื้อมาเมื่อคืนนี้ เมื่อคืนที่ผ่านมาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น สปาร์คแทบจะไม่ได้นอนเลยทั้งคืน และการอดนอนนั้นมันส่งผลทำให้ตาของเขาแดงก่ำ อย่างไรก็ตาม เขายังคงดูเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง เขานอนไม่หลับ เฝ้าคิดถึงการตายของอเล็กซ์ ตอนนี้เขากำลังจะส่งโลงศพไปที่บ้านของอเล็กซ์อีกด้วย และเขาก็จะสามารถดูถูกเยาะเย้ยบริตทานีได้เต็มที่ มันช่าง ตื่นเต้น เร้าใจ ยิ่งกว่าการได้นอนกับผู้หญิงคนไหน ๆ เสียอีก... แต่ทว่า นั่นทำให้เขานึกถึงบางสิ่งที่เลวร้ายขึ้นมาได้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้แอ้มกับนางแบบที่ตามจีบ สปาร์ครู้สึกราวกับว่ากำลังประสบปัญหาทางจิต เมื่อเร็ว ๆ นี้เขาไม่ได้แอ้มกับสาวไหนเลย โอลิเวียและมารายห์ที่นั่งด้านหลังเบาะของรถกำลังนั่งคุยกันอย่างออกรสชาติ “บริตทานีเคยเรียกตัวเองว่าสตรีเหล็กด้วย แถมคอยบงการพวกเราอยู่ตลอดเวลา ต๊าย
นักเลงทั้งสองคนจึงช่วยกันขนย้ายโลงศพไม้พะยูงออกจากรถบรรทุก เมื่อพวกเขาวางมันลงบนพื้น มันก่อให้เกิดเสียงดังและฝุ่นที่ฟุ้งกระจาย "อ๊ะ!" แม้แต่วอลทซ์ก็ยังอุทานออกมา และเมื่อเธอเห็นโลงศพ สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นดุดันขึ้นมาทันที ในวัฒนธรรมของพวกเขา การให้โลงศพเป็นของขวัญเป็นสิ่งต้องห้ามร้ายแรง ใบหน้าของบริตทานีซีดเผือดละตัวสั่นไปทั้งตัว สปาร์คหัวเราะอีกครั้งและพูดอย่างเสแสร้ง “เป็นไงบ้างครับ คุณป้า? คุณชอบของขวัญนี้ไหมครับ? ผมขอแจ้งให้ทราบเลยแล้วกันว่า โลงศพนี้ทำมาจากไม้พะยูงคุณภาพสูง น่าเสียดายที่อเล็กซ์ ลูกพี่ลูกน้องสุดที่รักต้องตายตั้งแต่อายุยังน้อยเช่นนี้!" “น่าเสียดายที่เขาต้องทนทำงานหนักเพื่อแอสเส็กซ์ตั้งนาน’ ภรรยาของเขาไม่ยอมให้นอนบนเตียงเดียวกันด้วยซ้ำ! ทั้งหมดที่เขาทำได้คือนอนอยู่ในห้องรก ๆ ดูแลสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันของผู้หญิงสามคนนั้น โดนด่าทุกวันด้วย! โอ้ ช่างน่าอายเสียนี่กระไร!” “ลูกพี่ลูกน้องของผมนั้นยากจนมาก ผมพนันได้เลยว่าเขาไม่มีปัญหาาซื้อโลงศพแบบนี้ได้หรอก นั่นคือเหตุผลที่ผมมาที่นี่พร้อมกับของขวัญชิ้นนี้! ผมเสียใจกับการสูญเสียของคุณป้าบริตทานี่จริง ๆ นะครั
อเล็กซ์เดินเข้าประตูมา ในมืของเขานั้นถือถุงบิสกิตอาหารเช้าอยู่ เขาออกไปฝึกซ้อมตั้งแต่เช้าตรู่และก็เลยหาอาหารเช้าทานก่อนที่จะกลับบ้าน เขาไม่คาดคิดว่ากลับมาแล้วจะพบเจอโลงศพสีแดงสดที่หน้าประตูบ้านตัวเอง รวมไปถึงพบกับสปาร์คและคนอื่น ๆ ด้วย น้ำเสียงของเขาสงบ แต่สายตาของเขากลับเยือกเย็นมาก 'ใครหน้าไหนส่งโลงศพมาที่หน้าประตูบ้านของคนอื่นทั้ง ๆ ที่ไม่มีใครเสียชีวิตที่บ้านหลังนี้?' "ลูกกกกก!" บริตทานีรีบวิ่งไปหาอเล็กซ์และกอดเขาแน่นทันทีที่ได้เห็น น้ำตาของเธอไหลอาบสองแก้ม และก็ไม่สามารถกลั้นมันไว้ได้อีกต่อไป ก่อนที่อเล็กซ์จะกลับมา เธอตกใจกับข่าวนี้มากและคิดว่ามันคือความจริง บริตทานีรู้สึกเปราะบางมาก ๆ เธอทนไม่ได้ถ้าจะต้องสูญเสียคนที่รักไปอีกคน “คุณแม่ เป็นอะไรไปครับ? ผมยืนอยู่ตรงนี้แล้ว ผมยังมีชีวิตอยู่ แล้วก็แข็งแรงมาก ๆ คุณแม่ไม่เห็นหรือไงครับ? ผมแค่กังวลว่าคุณแม่อาจจะเหนื่อยจากการทำอาหารเช้าทุกวัน ผมก็เลยออกไปหาอาหารเช้าสำหรับพวกเราในวันนี้ไง” อเล็กซ์ยิ้ม ในทางกลับกัน สปาร์คและคนอื่น ๆ แทบไม่เชื่อสายตาของพวกเขา ความสุขของพวกเขากลับกลายเป็นความสยดสยองทันที มีทั้งความไม่เชื่อผสมป
วอลทซ์ปัดฝุ่นออกจากมือของเธอ “พี่คะ เรียบร้อยแล้วค่ะ” อย่างไรก็ตาม บริตทานีรู้สึกตัวสั่นเบา ๆ ด้วยความหวาดกลัว “อเล็กซ์ พวกเขาจะหายใจออกไหมภายในนั้น? พวกเรายังคงเป็นญาติกัน และการลงโทษเพียงเล็กน้อยก็เพียงพอแล้ว หากมีสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้นกับพวกเขา เรื่องนี้ก็จะไม่จบไม่สิ้นเสียที” อเล็กซ์ตอบว่า “อย่ากังวลไปเลยครับคุณแม่ จะไม่มีอะไรเลวร้ายเกิดขึ้นกับพวกเขาแน่นอน” เขาใช้นิ้วชี้จิ้มไปที่โลงศพนั้นสองสามรูเพื่อให้แน่ใจว่าจะมีออกซิเจนเพียงพอสำหรับหายใจ “วอลทซ์ ดูแลคุณแม่ด้วยนะ ฉันจะไปส่งโลงศพนี้กลับพร้อมกับไอ้สารเลวพวกนี้” บริตทานีรู้ดีว่าถ้าปล่อยให้ลูกชายไปคนเดียว เขาอาจจะทำให้เรื่องแย่ลงได้ เธอรีบพูดทันทีว่า “อเล็กซ์ แม่จะไปกับลูกด้วย” วอลทซ์ก็อยากจะไปด้วยเหมือนกัน ดูเหมือนเธอจะตื่นเต้นมาก ๆ ด้วยเช่นกัน “ถ้าอย่างนั้น…ก็ได้! แต่ไปรับประทานข้าวเช้ากันก่อน ปล่อยพวกนี้ไว้แบบนี้สักพัก คงไม่เป็นอะไร" ไม่กี่นาทีต่อมา เมอร์เซเดสเบนซ์ก็ขับมาจอดหน้าคฤหาสน์ร็อคกี้เฟลเลอร์ โนอาห์และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนหนึ่งค่อย ๆ อุ้มคุณท่านบิลออกจากรถ ชายชราได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นอัมพฤกษ์ แล
การประชุมของจอห์นเพิ่งเสร็จสิ้น เขากลับไปที่ห้องทำงานของตน และกำลังคิดว่าครอบครัวของเขาส่งโลงศพให้บริตทานีเป็นอย่างไรบ้าง เขาเกลียดเธอมาก ๆ แม้ว่าเธอเป็นพี่สะใภ้ของเขาก็ตาม ย้อนกลับไปเมื่อสมัยวิลเลียมยังมีชีวิตอยู่ บริตทานีดำรงตำแหน่งรองผู้บริหารฝ่ายขายและการเงินของร็อคกี้เฟลเลอร์ กรุ๊ป มันยากมากที่จะกระทำหรือเล่นตุกติกลับหลังได้ เมื่ออยู่ภายใต้การบังคับบัญชาเธอ เธอดุเขาหลายครั้งในข้อหาปลอมแปลงเอกสารและนั่นมันทำให้เขาต้องอับอาย เขาเคยต้องการจ้างพวกอันธพาลมาลักพาตัวเธอไปและอยากที่จะทำให้เธอต้องอับอายมากกว่าเขาเป็นสองเท่าของที่เธอทำกับเขา อย่างไรก็ตามเนื่องจากการมีการประชุมที่สำคัญ ทำให้เขาต้องพลาดการแสดงที่ยอดเยี่ยมไปอย่างน่าเสียดาย เขารีบโทรหาลูกชายทันที แต่ทว่าสปาร์คกลับไม่รับสาย 'เจ้าเด็กนี่ กล้าดียังไงที่ไม่สนใจรับโทรศัพท์จากฉัน? มัวแต่หลงระเริงกับพวกผู้หญิงนางบำเรอมากจนเกินไปเหรอไง? ทำไมถึงไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดัง?' ทันใดนั้น เป็ปเปอร์ เลขาสาวสุดสวยของเขาก็เดินเข้ามาในสำนักงาน วันนี้เธอสวมชุดสีดำสง่างามพร้อมส้นสูง ในมือถือแก้วกาแฟที่ข้างในมีกาแฟสดจากประเทศบราซิลหนึ่
"คุณร็อคกี้เฟลเลอร์คะ อเล็กซ์เป็นนักสู้ และค่อนข้างมีฝีมือด้วย ตอนนี้เขาคงกำลังมีโมโห และมันอาจจะอันตรายที่จะพบเขาโดยไม่มีการเตรียมความพร้อม ฉันรู้จักผู้ชายคนหนึ่ง เขาเป็นนักสู้ที่มีทักษะพอสมควร มันจะดีกว่าถ้าฉันขอให้เขามาช่วยสนับสนุนพวกเรา” “ก็ดี!” เป็ปเปอร์รีบกดเบอร์โทรหาชายหัวโล้นทันที เธอเริ่มวางแผนในหัวทันที เนื่องจากอเล็กซ์ยังไม่ตาย จึงหมายความได้ว่าเขายังมียาอยู่กับตัว และเธออาจจะสามารถแย่งชิงยานั้นมาได้ เธอรู้ว่าไม่มีทักษะที่จะสามารถแย่งมันมาจากตระกูลโยเวลได้ อย่างไรก็ตาม หากเป็นเพียงแค่อเล็กซ์คนเดียวเท่านั้น เธอต้องรับมือได้ ทุกอย่างจะง่ายขึ้นมากเมื่อเทียบกับการแย่งชิงมันมาจากตระกูลโยเวลที่มีกองทัพเป็นโขยง ในเวลาเดียวกัน ฝูงชนได้เข้ามามุงรอบ ๆ โลงศพที่คฤหาสน์ ร็อคกี้เฟลเลอร์ เกือบทุกคนในคฤหาสน์ต่างก็พากันออกมาดู สาวใช้ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และแม้แต่เพจและสามีของเธอก็รีบออกมาทันทีที่ได้ยินเรื่องนี้ เพจกระทืบเท้าของเธอด้วยความโกรธ “แกกล้าดียังไง บริตทานี่? แกทำเกินไปแล้ว... แกมันล้ำเส้นมากจนเกินไปแล้ว! กล้าดียังไงมาขังพวกเขาไว้ในโลงศพแบบนี้? แกยังคงหลงเหลือค
'อะไร?' จอห์นจ้องไปที่วอลทซ์ เส้นเลือดของเขาปูดโปนเต็มหน้าผาก "แกคิดว่าแกเป็นใคร? แกไม่ได้มีค่าพอที่จะพูดกับฉัน หลีกไป!” จากมุมมองของเขา วอลทซ์ก็เหมือนกับผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่อาจดูดีกว่านิดหน่อย ถ้าเป็นเวลาปกติ เขาคงจะพยายามจีบสาวงามเช่นเธออย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันที่ทั้งภรรยาและลูกชายของเขายังถูกขังอยู่ภายในโลงศพ เขาไม่มีอารมณ์ที่จะทำเช่นนั้น จอห์นผลักฝาโลงอย่างแรงเพื่อที่จะเปิดมันออก อย่างไรก็ตาม มันไม่ขยับเลยแม้สักนิด มันถูกตอกปิดไว้ด้วยตะปู ความแข็งแรงของเขาเพียงคนเดียวไม่เพียงพอที่จะเปิดโลงศพนี้ได้ “บอดี้การ์ดอยู่ไหน? บอดี้การ์ด! มาช่วยฉันที! พวกแกทุกคนบ้าไปหมดแล้วเหรอ? ฉันไม่ได้จ่ายเงินจ้างให้พวกแกทำหน้าที่แค่ยืนอยู่ที่นั่นและไม่ทำอะไรเลยนะ!” จอห์นคำรามอย่างเกรี้ยวกราด บอดี้การ์ดต่างมองหน้ากันไปมา พวกเขาไม่กล้าเข้าไปช่วย พวกเขาได้เรียนรู้บทเรียนหลังจากที่พยายามต่อสู้กับวอลทซ์ จิ้งจอกสาวที่งดงามคนนี้เป็นคนที่น่ากลัวมาก เพราะมีพลังมหาศาลมากเสียจนพวกเขายากที่จะต้านทาน เมื่อเทียบกับเงินไม่กี่พันดอลลาร์ พวกเขาให้คุณค่ากับชีวิตของตัวเองมากกว่า
ชายหัวโล้นหยุดร้องโอดครวญจากความเจ็บปวดไม่ได้ หยาดเหงื่อไหลลงบนหน้าผากของเขา ตระกูลร็อคกี้เฟลเลอร์ทุกคนต่างก็ดูผิดหวังอย่างมาก ชายหัวโล้นเข้ามาด้วยความทะนงโอหังและอวดดี เขาดูถูกเหยียดหยามทุกคนด้วยท่าทีไม่สนโลก พวกเขาทั้งหมดต่างก็คิดว่าเขาเป็นนักสู้ในตำนาน แต่ทว่ามันก็เป็นแค่คำอวดอ้างของชายคนนี้ วอลทซ์หัวเราะคิกคัก "ฉันเป็นใครน่ะเหรอ? ฉันก็เป็นแค่ทาสรับใช้อย่างไรล่ะ ถ้าแค่สู้กับทาสรับใช้ยังไม่ได้ แกกล้าดียังไงมาคิดว่าจะอวดดีต่อหน้าคนอื่นล่ะ? ไอ้กระจอก!” วอลทซ์ที่ยิ้มหวานเมื่อครู่ก่อน จู่ ๆ รอยยิ้มของเธอก็กลายเป็นรอยยิ้มที่ดูโรคจิตขึ้นมาและตบไปที่ชายหัวโล้นอย่างแรงสองครั้ง แรงตบของเธอนั้นมันสามารถทำให้ฟันของชายหัวโล้นร่วงออกมาถึงสองซี่ ท่าทีของชายหัวโล้นเปลี่ยนไป และเขาก็เผยให้เห็นถึงความหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งปากของเขายังมีเลือดไหลออกมา เขาไม่กล้าพูดอะไรออกมาสักคำในขณะที่เหลือบมองไปที่เป็ปเปอร์อย่างหมดรูป สีหน้าของเขาดูไม่สู้ดีและเขาเตรียมที่จะถอยและหนีไปจากที่นี่ “ใครบอกให้แกไปกัน?” เสียงแผ่วเบาเอ่ยถามจากทางด้านหลังเขา ทุกคนต่างก็มองไปที่สระน้ำ อเล็กซ์ที่ยืนนิ่งจ้