"อะไรกัน? ไอ้ขยะคนนี้น่ะหรือ?“จะเป็นไปได้อย่างไร มันจะไปมีปัญญาทำเช่นนั้นได้อย่างไร?”พวกแอสเส็กซ์ไม่เชื่อกับสิ่งที่พวกเขาเพิ่งจะได้ยินอเล็กซ์ ดูนาฬิกาและพูดว่า “ห้านาทีผ่านไปแล้ว พวกคุณยังมีเวลาเหลืออีกสิบนาที... ที่ฉันทำเรื่องนี้ได้ แต่ว่าพวกแกทำไม่ได้ เป็นเพราะว่าชาร์ลส์ คาร์เตอร์ เขาเป็นหนี้บุญคุณฉัน”เอ็มม่า เริ่มโวยวายทันที "มันไม่มีทาง! หยุดหลอกลวงและโอ้อวดได้แล้ว! แกคิดว่าแกเป็นใครกัน? แกก็เป็นได้แค่ความเรื่องน่าอับอายของตระกูลร็อกกี้เฟลเลอร์ แถมพ่อแม่ของของแกยังทรยศต่อประเทศของเราอีกด้วย แกก็ไม่ได้ดีไปกว่าหนูสกปรกข้างถนนหรอก ถ้าแกไม่ได้เกาะชายกระโปรงของนังโดโรธี แม่ของแกก็คงตายไปนานแล้ว! และก็คงจะอดตายด้วยเหมือนกัน แล้วแกคิดว่าแกสำคัญอะไร หือ? ชาร์ลส์ คาร์เตอร์ หนี้บุญคุณแก แล้วจะทำไม! อย่าประเมินค่าตนเองสูงไปหน่อยเลย…”อเล็กซ์ จ้องเอ็มม่าด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะพุ่งเข้าหาเธอและกระชากผมของเธอ จากนั้นเขาก็กดหัวเธอลงบนโต๊ะฟันหน้าของเอ็มม่ากระแทกลงที่โต๊ะและจมูกของเธอก็เริ่มมีเลือดไหลออกมาก“ไม่มีใครหน้าไหนที่ได้รับอนุญาตให้มาดูถูกพ่อแม่ของฉัน ฉันจะตรวจสอบสิ่งที่เกิดขึ้น
หญิงชราพึมพำ “ไม่ต้องกังวลไป ย่ารู้ว่าย่ากำลังทำอะไรอยู่”เบนนีย์ อธิบาย “ท่านคาร์เตอร์ ประธานกรรมการบริหารของบริษัท เวย์ลอน อสังหาริมทรัพย์ ได้ยื่นมือช่วยเหลืออเล็กซ์ เพื่อช่วยให้โดโรธีได้สาขาทางตอนใต้ ซึ่งหมายความว่าพวกเขาค่อนข้างสนิทกัน หากว่าเป็นโดโรธีที่ไปติดต่อขอลงนามสัญญา เธออาจจะแค่ใช้ร่างกายและความสวยของเธอชักชวนเขา แต่ถ้าอเล็กซ์ทำอย่างนั้นได้ มันอาจจะเป็นเพราะเหตุผลอื่น อาจเป็นไปได้ว่าวิลเลียม ร็อกกี้เฟลเลอร์เคยร่วมงานกับชาร์ลส์ คาร์เตอร์เมื่อสมัยที่เขายังมีชีวิตอยู่ หากเราใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์ของพวกเขา ตระกูลแอสเส็กซ์จะสามารถทำงานร่วมกับบริษัท เวย์ลอน อสังหาริมทรัพย์ ได้ดีขึ้น”ในขณะเดียวกัน โดโรธี กับ อเล็กซ์ ก็เพิ่งขึ้นรถของพวกเขา “ทัศนคติที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันของคุณย่าน่าจะเกิดจากความสัมพันธ์ของคุณกับคุณคาร์เตอร์ พวกเขาต้องการทำงานร่วมกับคุณคาร์เตอร์เพื่อพัฒนาความเป็นหุ้นส่วนของพวกเขาอเล็กซ์หงุดหงิด “เขาคงได้แค่ฝันแหละ ตอนนี้คุณมีสิทธิ์ควบคุมสาขาทางตอนใต้ได้อย่างเต็มที่แล้ว คุณสามารถขยายธุรกิจนี้ให้เต็มศักยภาพได้เลย... ผมรู้ดีว่าไม่ควรตัดสัมพันธ์กับสาขาหลักในท
หลังจากที่ได้ยินเช่นนั้นดวงตาของอเล็กซ์ก็ฉายแววอาฆาตขึ้นมาทันที เขาดึงโดโรธีไปไว้ข้างหลัง เพื่อปกป้องเธอจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสามคนนี้"ระวังนะ!" โดโรธี รู้สึกประหม่าและเป็นกังวล เธอไม่รู้ว่าอเล็กซ์ไม่ได้อ่อนแอเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเหล่านี้เทียบเท่ากับเขาไม่ได้เลยในเพียงชั่วพริบตา เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ถูกเตะเข้าที่หน้าท้อง พวกเขาล้มลงไปที่พื้นอย่างรุนแรงและไม่สามารถลุกขึ้นมาได้อีกเลย“พวกแกทั้งสามถูกไล่ออก!” อเล็กซ์ พูดขณะเดินเข้าไปในบริษัทพร้อมกับจูงมือของโดโรธีพนักงานหลายคนที่นั่งอยู่ใกล้หน้าต่างเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด พวกเขาตกใจและอ้าปากค้าง ข่าวแพร่กระจายอย่างรวดเร็วไปทั่วทั้งบริษัท“คุณพระ ดูสิ! คุณแอสเส็กซ์กลับมาแล้ว! เธอยังพาผู้ชายคนหนึ่งมากับเธอด้วย และเขาก็เพิ่งจะชกต่อยกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยด้านหน้าตึก!”“เดี๋ยวนะ แอสเส็กซ์คนไหนล่ะ?”“นี่รูปของเธอ เธอเป็นผู้จัดการทั่วไปคนก่อนของเรา คุณโดโรธี แอสเส็กซ์”"ไหน? เธอพาใครมาด้วยเพื่อให้ได้ตำแหน่งของเธอกลับคืนมา? ฉันก็อยากได้เหมือนกันนะ พูดตามตรง”“ทำไมเธอถึงกล้าพูดแบบนั้นอ
เชอร์เมน สะอื้นและร้องไห้ออกมาอย่างควบคุมไม่อยู่ แต่ทว่าโดโรธีไม่อยากแม้แต่จะมองหน้าของเธอด้วยซ้ำ “แจ้งผู้บริหารระดับสูงทุกคนด้วย ให้เข้าประชุมด่วน ที่ห้องประชุมแรก” ข่าวดังกล่าวทำให้เกิดความโกลาหลขึ้นภายในบริษัท พนักงานหลายคนส่งเสียงเชียร์ดัง ๆ ด้วยความดีใจ ทุกคนไม่กล้าที่จะต่อต้านเอ็มม่าในตอนนั้น เพราะพวกเขาไม่ต้องการที่จะมีปัญหาใด ๆ แต่ว่าอย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะขี้ขลาด แต่พวกเขาก็ยังเข้าข้างโดโรธีอย่างเต็มจิตวิญญาณ ในทางกลับกัน อเล็กซ์ ไม่ได้ยื่นมือเข้าไปยุ่งกับเหตุการณ์นี้เลย ทันใดนั้น รถยนต์สุดหรูก็มาจอดที่หน้าบริษัท มีชายและหญิงสองคนลงจากรถคันนั้น ผู้ชายคนนั้นอยู่ในชุดสูทที่ดูดีมีสเน่ห์ และหญิงสาวคนนั้นก็คือเบียทริซ แอสเส็กซ์นั่นเอง ทำไมพวกเขาถึงมาที่นี่? ขอใครแต่งงานหรือไง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ทางเข้าอาคารได้รับข่าวว่าโดโรธีได้ตำแหน่งในบริษัทกลับคืนมาแล้ว ดังนั้นในฐานะน้องสาวของโดโรธี เบียทริซจึงสามารถเข้าไปในอาคารและเตรียมการสำหรับการขอแต่งงานครั้งนี้ได้ง่าย ๆ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของบริษัทต่างสงสัยในการปรากฏตัวของน้องสาวของโดโรธี พวกเขารีบเข้าไปห
ผู้หญิงคนนั้นคือมาญา ฮาวเวิร์ดซึ่งเป็นรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยของอเล็กซ์ เธอแก่กว่าเขา 1 ปีและเป็นผู้หญิงที่ดวงเด่นที่สุดคนหนึ่งในชั้นปี เธอทั้งฉลาดและแข็งแกร่ง เป็นอัญมณีของมหาวิทยาลัยอย่างแท้จริง เธอเป็นถึงประธานสภานักเรียนในชั้นปีสามและดำรงตำแหน่งจนกระทั่งจบการศึกษา เธอประสบความสำเร็จในการจัดกิจกรรมที่สำคัญต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัย เธอคือนิยามของคำว่าผีเสื้อสังคม และยังมีจิตใจที่เข้มแข็ง เธอได้รับการยกย่องจากทุกคนในมหาวิทยาลัยว่าเป็นผู้หญิงที่น่าทึ่งจริง ๆ หลังจากที่จบมหาวิทยาลัย อเล็กซ์ ได้ขอให้เธอช่วยโดโรธีก่อตั้งบริษัทสาขาทางตอนใต้นี้ และเธอก็ช่วยสร้างมันจนเป็นอย่างที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้ มาญา เธอเป็นผู้ช่วยที่ดีที่สุดของโดโรธีเลยก็ว่าได้ แต่อย่างไรก็ตาม มาญา ไม่ได้อยู่ที่บริษัทบ่อยนัก เธอมักจะต้องไปช่วยงานที่สาขาอื่นอยู่บ่อย ๆ อเล็กซ์ คาดไม่ถึงว่าจะได้เจอเธอในวันนี้ “อเล็กซ์ เกิดอะไรขึ้นระหว่างนายกับโดโรธี? “ชีวิตคู่ของนายกำลังย่ำแย่จริง ๆ หรือ? ทำไมน้องสะใภ้นายถึงได้ยื่นมือช่วยชายคนนั้นขอภรรยาของนายแต่งงานเสียล่ะ?” อเล็กซ์แสดงท่าทีเย็นชา “ก็เพราะว่าเธออยากตายยังไงล่ะ” มาญ
เบียทริซ รู้สึกถึงความสุขที่ท่วมท้น “ขอบคุณนะคะ พี่เฟลิกซ์!” เฟลิกซ์ จ้องไปที่ตึกสูงพรางยิ้มอย่างภาคภูมิใจ เขาไม่รู้ตัวเลยว่าพ่อของตัวเองกำลังเร่งรีบเพื่อที่จะมาหาเขาที่นี่ แม้ว่าจะมีเฝือกที่ขาข้างหนึ่งก็ตาม ในที่นั่งฝั่งคนขับมีเจย์ แซนเดอร์ส บอดี้การ์ดของเขากำลังขับรถอยู่ เจย์ อายุราว ๆ 30 ปี และค่อนข้างมีทักษะในการต่อสู้ เนื่องจากเขาเคยเป็นรองแชมป์ในรายการคิกบ็อกซิ่งที่เป็นรายการดังระดับประเทศมาก่อน เขาสับสนมากว่าทำไมเอ็ดการ์ถึงต้องรีบร้อนไปขอโทษใครบางคนทั้ง ๆ ที่ขาของเขาหักอยู่ เขาถามว่า “นายท่าน... เชฟเพิร์ด ท่านกำลังบาดเจ็บอยู่ แม้ว่าท่านจะต้องการที่จะขอโทษ แต่ท่านไม่สามารถรอจนกว่าแผลจะหายได้เชียวหรือครับ? สุขภาพของท่านก็เป็นสิ่งสำคัญนะครับ” เอ็ดการ์ กำลังตื่นตระหนก “นายจะไปรู้อะไร? ไอ้เฟลิกซ์ ไอ้ลูกไม่รักดี มันกำลังพยายามจะขุดหลุมฝังศพของเราอยู่! มันเสนอหน้าไปขอภรรยาของนายท่านร็อคกี้เฟลเลอร์แต่งงาน นายท่านเล็กซ์ กันเธอร์ต้องการให้ฉันไปที่นั่น ฉันจะไม่รีบไปได้อย่างไร?” เมื่อได้ยินดังนั้น เจย์ ถึงกับพูดไม่ออกและรีบเร่งเครื่องรถให้เร็วขึ้น ในเวลาเดียวกัน อเล็กซ์ และ มาญา
ทำไมเอ็ดการ์ถึงได้คุกเข่า และโยนศักดิ์ศรีของตัวเองทิ้งไปแบบนั้น? นั่นเป็นเพราะเขาหวาดกลัว เขารู้ว่านายท่านเล็กซ์ กันเธอร์สามารถทำอะไรได้บ้าง เพราะในท้ายที่สุด สถานะและอำนาจของนายท่านเล็กซ์ กันเธอร์ก็ยังสูงกว่าของเพกาซัส อินเตอร์แนชั่นนอลมาก ถ้าเขากล้าไปกระตุกหนวดเสือ เขาก็เตรียมตัวกลายเป็นศพได้เลยยิ่งไปกว่านั้น ครอบครัวของเขาอาจแตกแยก และบริษัททั้งหมดของเขาอาจถูกทำลายและถูกยึดครองทั้งหมดไปเอ็ดการ์กังวลว่าเรื่องทั้งหมดอาจจะเกิดขึ้นหลังจากนี้หลังจากคุกเข่าลง เขาก็ตบตัวเองอย่างแรงหลายครั้ง และไม่แม้แต่จะชายตามองดูลูกชายของตัวเอง เขาไม่ยอมให้เรื่องเหล่านั้นเกิดขึ้นแน่นอน ในขณะนั้นใบหน้าของเขาเริ่มบวมจากการตบเพียงแปดครั้ง ทุกคนในบริษัทต่างตกตะลึง รวมทั้งมาญาด้วย 'เกิดอะไรขึ้น?' ผู้ที่มีสายตาหลักแหลมสังเกตเห็นว่ารถของเอ็ดการ์ คือเบนท์ลีย์ซึ่งมูลค่า 500,000 ดอลลาร์ พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะจ้องมองไปที่มัน เบียทริซ ก็ตกตะลึงด้วยเช่นกัน เธอดึงสติของเธอกลับมาและจ้องไปที่อเล็กซ์ “นี่ ไอ้ขี้แพ้ หยุดนะ! แกจ้างมาใช่ไหม? แกคิดว่าแกจะดูเหนือกว่าพวกเราด้วยการจ้างวานชายที่นั่งรถหรูมา แล้วให
"ฉันจำได้แล้ว ชายวัยกลางคนคนนั้นคือเอ็ดการ์ เชฟเฟิร์ด เขาอยู่ในตำแหน่งประธานและผู้บริหารของเพกาซัส อินเตอร์แนชั่นนอล ส่วนคนที่ขอแต่งงานคือเฟลิกซ์ เชฟเพิร์ดที่คอยตามจีบคุณหนูโดโรธีมาระยะหนึ่งแล้ว เพราะอะไรกันนะ? พ่อของเฟลิกซ์ถึงได้กำลังคร่ำครวญต่อหน้าของอเล็กซ์?” “อเล็กซ์ทำให้ประธานบริหารของเพกาซัส อินเตอร์แนชั่นนอลคุกเข่าให้เขาได้อย่างไร?” นี่เป็นเรื่องที่ทุกคนต่างสงสัย และอยากคลี่คลายหาคำตอบสำหรับเรื่องนี้เหลือเกิน เอ็ดการ์สั่งให้เจย์ส่งเช็คที่เตรียมไว้ก่อนหน้านี้ให้เขาทันที เอ็ดการ์มอบมันให้กับอเล็กซ์ด้วยความเคารพ และกล่าวว่า “นายท่านอเล็กซ์ นี่เป็นเงินจำนวณยี่สิบล้านดอลลาร์ โปรดรับมันไว้ด้วยนะครับ! มันเป็นเพียงของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ ผมจะไม่ยอมลุกขึ้นจนกว่าคุณจะยอมรับสิ่งนี้!” มาญา ตกใจอีกครั้งและมองอเล็กซ์อย่างงุนงง อเล็กซ์ จ้องที่เช็คอย่างไร้อารมณ์ ทันใดนั้น โทรศัพท์ของอเล็กซ์ก็ดังขึ้น มันเป็นสายจากนายท่านเล็กซ์ กันเธอร์ อเล็กซ์ ชำเลืองมองไปทางเอ็ดการ์และหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอย่างใจเย็น “ว่าไง นายท่านเล็กซ์!” เมื่อได้ยินชื่อนั้น เม็ดเหงื่อก็ผุดขึ้นบนหน้าผากของเอ็ดการ์ เข