หนิงเจิ้งที่ยิ่งอยู่กับภรรยานานเข้าก็ยิ่งรู้ว่านางเป็นคนเช่นไร เขาไม่นำพาว่านางจะมีนิสัยอย่างไร เพียงแค่ไม่ทำให้ลูก ๆ ลำบากเขาก็พอใจแล้ว ขนาดว่าหนิงกวานเรียนเก่งกว่าพี่ ๆ นางยังไม่เคยจะคิดชมเชยลูกเลยสักนิด นางกลับเอาอกเอาใจแต่ลูกคนโตกับคนรองของเขา มีแค่เขาเท่านั้นที่คอยส่งเสริมลูกชายคนเล็กให้ขยันเรียนให้มาก และเรียนรู้เรื่องสมุนไพรกับเขาให้ดี เผื่อว่าในอนาคตเขาจะได้มีวิชาติดตัวไว้บ้าง
นับวันหลานจิวจะยิ่งแสดงออกถึงนิสัยที่แท้จริงของนางที่ทั้งตระหนี่ถี่เหนียว ไหนจะเอาแต่ด่าทอลูกคนเล็กให้เขาได้ยินบ่อย ๆ จนเขาต้องทะเลาะกับนางมาตลอดเรื่องนี้ หลานจิวเปรียบเทียบตนเองกับครอบครัวพี่ใหญ่ของหนิงเจิ้งมาตลอดว่าเขาไม่เอาไหน ไม่เหมือนพี่ชายที่เป็นขุนนางเลยแม้แต่น้อย เรื่องนี้ยิ่งทำให้หนิงเจิ้งไม่พอใจ เขาชอบที่จะใช้ชีวิตสงบๆ เหตุใดเขาจึงได้มีภรรยาเช่นนี้
ความจริงแล้วเขาอยากหย่ากับนางมานานแล้ว เพียงแต่ลูก ๆ ยังเล็กอยู่เขาจึงจำใจอดทน รอให้ลูก ๆ โตกว่านี้ก่อนแล้วเขาจึงจะหย่านาง อย่างไรนางก็คงไม่ต้องการลูกคนเล็กของเขาแน่ ๆ หากนางคิดว่าสามารถเลี้ยงดูลูกชายสองคนเองได้เขาก็จะไม่รั้งนางเอาไว้ เพราะเขาไม่อยากได้ยินเสียงบ่นด่าของนางที่มีกับหนิงกวานอีกแล้ว มันช่างน่ารำคาญและไม่มีเหตุผลใดเลย ถึงแม้หนิงกวานจะอยู่เฉย ๆ เขาก็ยังถูกนางด่าว่าเป็นประจำ ทำเอาหนิงเจิ้งได้แต่โมโหมากขึ้นทุกวัน
เป็นเพราะการทะเลาะกันของสองผัวเมียทำให้หนิงกวานได้แต่เสียใจที่เขาเป็นต้นเหตุให้พ่อกับแม่ทะเลาะกัน เพียงแต่เขายังเด็กนักจึงไม่เข้าใจว่าทำไมท่านแม่จึงจงเกลียดจงชังเขานัก หนิงกวานพยายามเป็นเด็กดีอย่างที่ท่านพ่อบอก เผื่อว่าท่านแม่จะรักและเอ็นดูเขาบ้าง แต่จนใจที่หลานจิวไม่มีเหตุผล นางยังคิดว่าหนิงกวานเป็นตัวซวยสำหรับนางมาตลอดตั้งแต่นางคลอดก่อนกำหนดจึงทำให้นางรังเกียจหนิงกวานมาก
เรื่องราวที่บ้านหนิงเจิ้งใช่ว่าผู้ใหญ่บ้านไม่รู้ เพียงแต่เขาเป็นคนนอกจึงช่วยสิ่งใดไม่ได้มากนัก แต่หากหนิงเจิ้งต้องการหย่าภรรยาเขาก็จะช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เขาเคยรับปากหนิงซวนหยวนเอาไว้ว่าจะช่วยหนิงเจิ้งหากเขามีเรื่องใดหนักใจ ตอนนี้เป็นเขาที่ไม่น่าเชื่อภรรยาตนเองหาคนเช่นนี้มาแต่งงานกับหนิงเจิ้งเลยจริง ๆ เขาแค่เห็นว่าภรรยาเขาเป็นญาติห่าง ๆ จึงได้เชื่อใจนาง แต่กลับได้สะใภ้เช่นนี้มาให้หนิงซวนหยวน ทำให้เขาได้แต่ละอายใจจนไม่กล้าไปบ้านหนิงเจิ้งบ่อย ๆ เหมือนเมื่อก่อน ยิ่งตอนนี้บ่าวไพร่ต่างแยกย้ายกันออกจากเรือนกันหมดแล้ว หนิงเจิ้งต้องอาศัยภรรยาเรื่องอาหารการกิน ถึงแม้จะไม่อร่อยเท่าเดิมแต่ก็พอกินได้เท่านั้น
หลานจิวยังชอบลงโทษหนิงกวานไม่ให้กินข้าวบ่อย ๆ ทำให้หนิงเจิ้งไม่พอใจมากจนขู่นางว่าเขาจะหย่านางเสียหากนางยังคงทำตัวเช่นนี้ เขาสามารถหาซื้อทาสหลวงมาเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องมีนางอยู่เขากับลูกก็อยู่กันได้
ทำเอาหลานจิวตกตะลึงที่สามีนางคิดจะหย่านางเพราะเจ้าลูกตัวซวย หลังจากวันที่หนิงเจิ้งขู่ว่าจะหย่านาง หลานจิวก็ทำตัวดีขึ้นไม่น้อย นางไม่ได้ด่าทอต่อว่าหนิงกวานอีก แต่ก็ไม่ได้ชมเชยเลยเช่นกัน
หนิงเจิ้งเห็นว่านางสงบลงมากก็ค่อยเบาใจ ความจริงเขาเองก็ไม่อยากหย่านางให้อับอายขายหน้าตนเอง อย่างไรนางก็ยังเป็นแม่ของลูกเขาอยู่ดี ถึงแม้เขาจะแยกห้องนอนกับนางนานมากแล้วตั้งแต่เห็นนิสัยที่แท้จริงของนาง
หนิงเจิ้งยังพาหนิงกวานมานอนเรือนเดียวกับเขาด้วยกลัวว่าหลานจิวจะแอบทำร้ายลูกชายคนนี้นั่นเอง เรื่องนี้ยิ่งทำให้หลานจิวไม่พอใจที่สามีไม่เชื่อใจนาง นางแค่ด่าว่าหนิงกวานเท่านั้นแต่ไม่เคยลงไม้ลงมือกับเขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว
หลังจากวันนั้นบ้านหนิงก็สงบลงมาก จนคนในหมู่บ้านคิดว่าพวกเขาคืนดีกันแล้วตามประสาผัวเมีย แต่กลับไม่มีใครรู้ว่าหนิงเจิ้งยิ่งเงียบขรึมลงเรื่อย ๆ เขาแทบไม่พูดคุยกับภรรยาด้วยซ้ำ ส่วนเงินค่าอาหารเขาก็ให้นางบริหารเอาเอง เขาจะไม่เข้าไปยุ่ง แต่นางต้องใช้ให้พอดีกับอาหารทุกมื้อและทุกเดือน ด้วยว่าเขาให้นางไม่น้อย อย่างไรเงินก็ยังเหลือหากนางไม่แอบเก็บเอาไว้เอง
จนใจที่นิสัยขี้ตระหนี่ของหลานจิวมันอยู่ในสายเลือดเสียแล้ว อาหารที่นางทำออกมากลับมีแต่ผักหญ้า เนื้อแม้แต่นิดเดียวก็ไม่มี ทำให้หนิงเจิ้งที่ทำสวนสมุนไพรอดรนทนไม่ไหวจนทะเลาะกันอีก เขาบอกว่าต่อไปจะไม่ให้นางใช้เงินอีก ส่วนวัตถุดิบทำอาหารเขาจะซื้อมาทำเอง แต่หลานจิวที่มีเงินแล้วไม่ยอมคืนเงินให้กับหนิงเจิ้ง
หนิงเจิ้งที่เห็นนิสัยละโมบโลภมากของนางได้แต่จนใจ เขาจึงไม่อยากยุ่งกับนางอีก เขาพาหนิงกวานออกไปหาซื้อทาสมาทำอาหารให้เขากับลูกชายคนเล็กกิน ส่วนลูกอีกสองคนนั้นเขาไม่สนใจเลย อย่างไรหลานจิวก็รักพวกเขามากกว่าอยู่แล้ว นางคงไม่ปล่อยให้ลูกนางอดตายหรอกกระมัง
หลานจิวที่เห็นสามีกับลูกคนเล็กออกจากเรือนไปก็ได้แต่ร้อนใจ นางเพียงแค่อยากเก็บเงินเอาไว้บ้างเท่านั้นเขากลับไม่ไว้หน้านางเลย หลานจิวรู้ดีว่าเขาไม่กล้าหย่ากับนางตอนนี้เป็นเพราะลูก ๆ ยังเล็กอยู่ หากในอนาคตเขาคงไม่รอให้นางทะเลาะกับเขาอีกแน่ เขาจะต้องหย่ากับนางแน่นอน
หลานจิวเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมสามีนางจึงได้รักแต่ลูกตัวซวยของนางนัก ส่วนลูก ๆ ทั้งสองของนางที่นางรักเขากลับไม่สนใจ ตอนนี้หลานจิวมีเงินค่าอาหารหนึ่งตำลึงที่สามีให้มาอยู่ในมือ นางอยากได้เสื้อผ้าดี ๆ อย่างที่พี่สะใภ้ใส่บ้างนางจึงยึดเงินเอาไว้กับตัวเช่นนี้ ทั้งที่หนิงเจิ้งก็มีเงินไม่น้อย เพียงแต่เขาถูกสั่งสอนมาให้เป็นชาวบ้านธรรมดา ๆ เขาจึงไม่เข้าใจว่าเหตุใดภรรยาคนนี้ของเขาจึงได้ชอบเปรียบเทียบตนเองกับพี่สะใภ้เขานัก ทั้งที่เขาบอกไปแล้วว่านางเป็นถึงลูกสาวคนเดียวของสำนักคุ้มภัย เหตุใดหลานจิวที่เป็นเพียงลูกชาวบ้านต้องการเปรียบเทียบกับนางด้วย
สองปีผ่านไป หนิงชิงตอนนี้ขยายสาขาเพิ่มอีกหนึ่งมณฑลแล้ว กิจการที่นั่นดำเนินไปได้ด้วยดี หนิงชิงแนะนำเทคนิคการวางขายสินค้าทั่วไปเสียก่อนที่จะวางขายสินค้าสั่งทำ เนื่องจากของใช้ทั่วไปคนธรรมดาเองก็สามารถซื้อได้ มันจะทำให้รายได้ของร้านคงที่ได้ระยะหนึ่งเลยทีเดียว ต้าเจียงเองก็ทำหน้าที่พ่อบ้านใหญ่ได้ดีสมกับที่หนิงชิงหวังเอาไว้เช่นเดียวกัน ไม่ว่างานที่จวนหรือที่ร้านเขาก็เป็นผู้ดูแลอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ตอนนี้ลูก ๆ ของหนิงชิงก็อายุครบสามขวบแล้ว ยิ่งโตพวกเขายิ่งผอมลง ไม่เหมือนตอนเด็กที่อ้วนท้วนกันใหญ่ ฮ่องเต้เองก็มักเรียกหาเหลน ๆ ทั้งสองเข้าวังไปเล่นด้วยอยู่บ่อย ๆ หลัง ๆ มานี้หนิงชิงก็ให้แม่นมพาทั้งสองไปหาเสด็จปู่ของพวกเขาแทนที่นางจะไปเอง เพราะหนิงชิงกลับไปดูงานที่ร้านอีกครั้งแล้ว เมื่อปีก่อนน้องสาวนางก็พาหล
วันนี้กว่าที่พ่อกับแม่ของหนิงชิงจะกลับก็เป็นตอนที่ลูกทั้งสองของนางเข้านอนตอนบ่ายแล้วนั่นเอง พวกท่านยังบอกให้นางดูแลหลานของพวกเขาให้ดี แล้วว่าง ๆ พวกเขาจะมาเยี่ยมใหม่ หลังจากร่ำลากันแล้ว พ่อแม่ของเจียงเฉิงและหนิงชิงก็ส่งพวกเขาขึ้นรถม้าแล้วออกจากจวนไป พ่อกับแม่ของเจียงเฉิงยังเยินยอพ่อแม่ของหนิงชิงเสียมากมายให้นางฟัง ก่อนที่พวกท่านจะไปพักผ่อนยามบ่ายกันตามปกติ ส่วนหนิงชิงที่วันนี้เหน็ดเหนื่อยกับการจับเจ้าลูกชายที่เพิ่งจะเดินได้มากขึ้นก็อยากกลับไปนอนพักผ่อนเช่นเดียวกัน แม่นมทั้งสองเองก็คอยดูแลคุณชายน้อยทั้งสองเป็นอย่างดี หนิงชิงจึงไม่ได้ห่วงอันใดพวกเขานัก สองวันต่อมา ต้าเจียงนำสมุดบัญชีมาให้หนิงชิงหลังจากที่ต้าเจินลูกชายของเขาเดินทางไปตรวจสอบบัญชีที่ร้านสาขาทั้งสองกลับมาเมื่อวานนี้ เขายังนำตั๋วแลกเงินจำนวนนับหลายหมื่นตำลึงกลับมาให้หนิงชิงด้วย ต
ข่าวที่หนิงชิงได้รับแต่งตั้งเป็นฮูหยินอันดับหนึ่งดังไปทั่วเมืองหลวงในเวลาไม่นาน มีบรรดาฮูหยินขุนนางมากหน้าหลายตาเข้ามาส่งของขวัญแสดงความยินดีกับหนิงชิงมากมายในช่วงเวลาเกือบสองสัปดาห์ที่นางต้องปั้นยิ้มรับของที่ไม่อยากได้เข้าจวน กระทั่งเหล่าฮูหยินมอบของขวัญครบทุกคนแล้วนั่นแหละ หนิงชิงจึงได้ถอนหายใจได้เสียที นางเบื่อการเข้าสังคมจอมปลอมเช่นนี้ที่สุด หากให้นางต้องไปนั่งดื่มชานินทาชาวบ้านล่ะก็นางคงทำไม่ได้ การได้รับความโปรดปรานใช่ว่าจะมีแต่ข้อดีเสียหน่อย ข้อเสียก็คือจะมีคนมารบกวนเรามากขึ้นเหมือนที่ผ่านมาอย่างไรเล่า อาหารเย็นวันนี้แม่ของเจียงเฉิงได้สอบถามหนิงชิงว่านางรู้สึกอย่างไรที่มีตำแหน่งสูงที่สุดในเหล่าฮูหยินขุนนางแล้ว หนิงชิงได้แต่ยิ้มแหยตอบกลับไป“ท่านแม่เจ้าคะ ข้าไม่เคยคิดหวังที่จะได้รับตำแหน่งนี้มาก่อน ทุกอย่างที่ข้าทำเพื่อเลี้ยงลูกก็เป็นจิตสำนึกของข้าเอง ข้ารู้ว่าฝ่าบ
สามวันต่อมา ราชโองการลงโทษจวนอดีตเสนาบดีกรมพิธีการสั่งการให้คนที่กระทำความผิดถูกประหารรวมทั้งบ่าวไพร่ที่ร่วมมือด้วยก็เช่นเดียวกัน ส่วนผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องให้เนรเทศไปชายแดนเหนือและห้ามเข้ารับราชการอีกตลอดชีวิต เสนาบดีกรมอาญาน้อมรับราชโองการและแจ้งวันประหารในอีกสามวันถัดไป เพราะพวกเขาต้องคัดคนที่จะถูกเนรเทศออกไปก่อนจึงต้องใช้เวลาสักหน่อยก่อนที่จะแยกออกได้ เจียงเฉิงที่ทำหน้าที่ของตนเองเสร็จแล้วก็กลับไปทำงานที่ค่ายทหารเช่นเคย หนิงชิงยังเคยบอกเจียงเฉิงว่าดีที่ตอนนี้ไม่มีศึกสงคราม ทำให้แคว้นพัฒนาไปได้มาก อีกทั้งนางยังไม่ต้องแยกจากสามีด้วยสี่เดือนต่อมา ฮ่องเต้ที่คิดถึงเหลนชายตัวอ้วนก็มีรับสั่งให้คนในจวนแม่ทัพเข้าเฝ้าเป็นกรณีพิเศษ วันนี้เจียงเฉิงพอได้รับข่าวก็รีบมาจากค่ายทหารแล้วพาทุกคนในครอบครัวเข้าไปในวัง แ
ไม่ถึงสามวัน คนที่เจียงเฉิงส่งไปสืบเรื่องราวก็รู้ว่าเป็นฮูหยินกับบุตรสาวของเสนาบดีกรมพิธีการที่ทำเรื่องเช่นนี้จริง ๆ เจียงเฉิงพอรู้ว่าเกี่ยวข้องกับเสนาบดีกรมพิธีการก็ยิ่งแค้นนัก เขาหรือก็ไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องราวที่เสนาบดีกรมพิธีการกระทำมาก่อน ตอนนี้เขากลับกล้ามาแตะเกล็ดย้อนของเขา คนพวกนี้ไม่รู้หรืออย่างไรว่าเขารักภรรยามากจึงได้ทำเช่นนี้ เจียงเฉิงนั่งคิดอยู่พักใหญ่ จากนั้นเขาจึงให้คนของเขาไปหาหลักฐานการทุจริตหรือการทำชั่วต่าง ๆ ที่คนในจวนเสนาบดีเคยทำมาให้หมด ในเมื่อเป็นเสนาบดีดีดีไม่ชอบ เจียงเฉิงก็จะให้เขากลายเป็นนักโทษไปเสียให้สิ้นเรื่องสิ้นราว ถือว่าเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู จะได้ไม่มีใครกล้ามาทำเช่นนี้อีก หลังรับคำสั่งแล้วคนของเจียงเฉิงมากกว่ายี่สิบคนก็แยกกันออกไปตามหาเบาะแสเรื่องของเสนาบดีกรมพิธีการทันที พวกเขารู้ดีว่านายน้อยใจร้อนมากเพียงใด หากพวกเขามัวแต่ชักช้า นายน้อยคงสั่งลงโท
คืนนี้หนิงชิงจึงได้นอนหลับอย่างสบายโดยที่สามีไม่ก่อกวนนางจริง ๆ เจียงเฉิงที่ได้แต่กอดภรรยานอน เขาอดหมั่นเขี้ยวคนตัวเล็กไม่ได้ จึงแอบหอมแก้มนางฟอดใหญ่ก่อนจะหลับไปพร้อมกับความอ่อนเพลียเช่นกัน จวนแม่ทัพเลี้ยงดูเด็ก ๆ ได้เกือบห้าเดือนแล้ว ช่วงนี้กลับมีข่าวลือว่าแม่ทัพใหญ่ไปติดพันลูกสาวเสนาบดีกรมพิธีการเสียได้ หนิงชิงไม่รู้ว่าข่าวนี้ใครเป็นคนปล่อย แต่สามีนางน่าจะรู้เรื่องนี้แล้วกระมัง ขนาดนางที่อยู่แต่ในจวนยังรู้เลย เขาที่ไปทำงานทุกวันจะไม่รู้ได้อย่างไร อีกทั้งข่าวลือยังบอกอีกว่าฮ่องเต้สนับสนุนให้แม่ทัพใหญ่มีฮูหยินรองเพื่อจะได้มีทายาทสืบทอดเพิ่มขึ้นอีก ทั้งสัปดาห์มีแต่ข่าวลือเรื่องนี้ ด้านเจียงเฉิงได้แต่โกรธแค้นว่าใครกันเป็นคนปล่อยข่าวบ้า ๆ นี่ออกมา เขาที่ทำงานที่ค่ายทหารงก ๆ จะเอาเวลาที่ไหนไปยุ่งกับหญิงอื่น อีกทั้งเขายังรักภรรยาคนเดียวด้วย จะมีหญิงใดที่เขาชายตามองในเมืองหลวงบ้างเ