공유

บทที่ 6

작가: Karawek House
last update 최신 업데이트: 2025-08-19 19:27:50

การลงทัณฑ์อันเร่าร้อนรุนแรง ปลุกเร้าความรู้สึกบางอย่างที่ซุกซ่อนในใจ ทำให้หนิงซินรู้สึกอัปยศอดสูถึงขีดสุด

ยามนี้นางทั้งรังเกียจชิงชังตนเอง ทั้งรู้สึกผิด ทั้งยังรู้สึกว่าตนเองแปดเปื้อน หมดคุณค่า จิตใจถูกทำให้บิดเบี้ยววิปลาสเกินเยียวยา หมดสิ้นความภาคภูมิใจในตนเอง เกียรติยศและความสง่างามในฐานะองค์หญิงศักดิ์สิทธิ์ผู้สูงศักดิ์ของแคว้นป๋ายล้วนถูกย่ำยีจนไม่เหลือซากภายในระยะเวลาเพียงครึ่งชั่วยาม

บุรุษต่ำช้าผู้นี้ราวกับหมาป่าอดอยากหิวโซคลุ้มคลั่งตัวหนึ่งก็ไม่ปาน นับตั้งแต่เริ่มลงมือกับนาง เขาก็ลงมืออย่างไม่ยั้งมือไว้ไมตรี กระทำย่ำยีกับนางเอาตามใจทั้งคว่ำและหงาย ใช้นางบำบัดความใคร่ บำเรอกาม ปฏิบัติต่อนางเสมือนหนึ่งหญิงคณิกา หลังจากเสร็จสิ้นสุขสม ก็ไม่ใส่ใจแม้แต่จะดึงผ้าสักชิ้นมาปกปิดร่างกายทั้งเขาและนาง ทั้งยังไม่สนใจว่าหลังจากเพิ่งผ่านพ้นเสร็จสิ้นกิจกามอันยาวนานกันไปหนหนึ่ง นางจะเจ็บปวดบอบช้ำถึงเพียงไหน กลับจับนางพลิกคว่ำซุกไซ้สูดดมซอกคอ สอดแทรกความเป็นชายที่ยังแข็งเกร็งเข้ามาจนสุดลำ กอดรั้งร่างนางที่ไร้แรงจะต้านทานขัดขืนไว้แน่น

หนที่สองนี้ เขาไม่ได้เคลื่อนไหวรุนแรงเหมือนหนแรก กลับสอดใส่ค้างคาไว้ กอดจูบซุกไซ้สูดดมไปทั่ว สองมือลูบไล้กอบโกยเค้นคลึงสองเต้าเต่งตึงของนางไม่หยุดเหมือนยิ่งกว่าลุ่มหลงเมามาย

หึ...ลุ่มหลงเมามายอะไรกัน? สำหรับคนผู้นี้แล้ว เห็นทีก็เพียงต้องการจะประกาศชัยชนะ ประกาศให้รู้ว่ายามนี้นาง องค์หญิงศักดิ์สิทธิ์แห่งแคว้นป๋าย ตกเป็นของเขาแล้วอย่างเต็มตัว จนสามารถใช้เรือนร่างของนางสำเร็จความใคร่สารพัดท่าสารพัดทางเอาตามใจเช่นนี้แล้วต่างหาก

แม่ทัพต่ำช้า...

ไม่ถูก คนผู้นี้อย่างดีก็เป็นได้แค่บุรุษต่ำช้า...

ไม่ นั่นก็ยังนับว่าเรียกได้ดีเกินไป...

คนเช่นนี้ต้องเรียกว่าโจรขืนใจต่ำช้าถึงจะถูก...

หยาดน้ำสีใสที่คลออยู่ในหน่วยนัยน์ตาไหลรินออกมาอีกระลอกจนได้

คนเลว...

แม้ไร้สิ้นเรี่ยวแรงจะผลักไส หนิงซินกลับยึดถือความชิงชังไว้แน่นหนัก

สำหรับนางแล้ว คนผู้นี้ก็คือคนต่ำทรามที่ไม่สนใจกระทั่งมารยาทธรรมเนียมทางการทูตและการสงครามใดใด เพียงสบโอกาสและมีข้ออ้างสักนิดก็ใช้กำลังบังคับขืนใจ สร้างตราบาปสร้างความอัปยศครั้งใหญ่ให้หญิงไร้ทางสู้อย่างโหดร้ายป่าเถื่อน เป็นคนเลวในหมู่คนเลวที่ชั่วชีวิตนี้นางจะไม่มีวันยอมให้อภัยเป็นอันขาด

นึกถึงตรงนี้ หนิงซินก็ฝืนทนนิ่งเฉยไม่ไหวอีกต่อไป นางขยับเนื้อตัวที่บอบช้ำ เต็มไปด้วยรอยจูบรอยขบกัดเป็นจ้ำๆ เบี่ยงหลบสัมผัสจากแม่ทัพทมิฬอย่างรังเกียจ เอ่ยเสียงเย็น

“ในเมื่อแม่ทัพใหญ่ได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว ใยไม่สู้เมตตาจัดเตรียมที่พักที่เหมาะสม ให้ทูตสงครามอย่างข้าองค์หญิงได้พักผ่อนอย่างสงบเสียที”

“สิ่งที่ข้าต้องการ?” แม่ทัพทมิฬรั้งร่างนางแนบสนิท ทำเอาส่วนที่แข็งเกร็งของเขาในกายนางยิ่งกดเข้าลึกยิ่งขึ้น ส่วนโคนก็ดุนดันจนเนินเนื้อติ่งไตที่ตึงร้อนของนาง...แม้จะเจ็บเล็กน้อย แต่กลับเสียวซ่านไปหมด

คนผู้นี้คิดว่าตนเองเป็นใคร?

นางจะไม่ยอมอดทนต่อการกระทำอันต่ำทรามไร้มารยาทนี้อีกต่อไปแล้ว!

นางไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว!

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • หนิงซินกงจู่ เชลยแค้นแสนรัก   บทที่ 114

    ตอนนั้นเอง หญิงหม้ายสกุลอวี๋ก็เปิดประตูเดินอุ้ยอ้ายออกมา นางทำท่าจะประสานมือคารวะ แต่ถูกอีเหิงขยับเข้าประคองห้ามไว้กลับเป็นหมอหลวงสวี่ที่ประสานมือค้อมศีรษะคารวะหญิงหม้ายเสียเอง แล้วเอ่ยถาม“อวี๋ฮูหยิน เป็นอย่างไรบ้าง มิใช่ว่าองค์หญิง—” หมอหลวงสวี่กำมือที่ชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อใต้ชายแขนเสื้อคลุมสีขาวตัวยาวไว้แน่นหญิงหม้ายคาดไม่ถึงว่าบุคคลที่จำได้เลาๆ ว่าเป็นถึงหมออาวุโสผู้หนึ่งของกองทัพ ได้รับการนับหน้าถือตาเป็นอย่างยิ่ง จะถึงกับทำความเคารพสามัญชนเช่นนาง ซ้ำยังออกปากถามความเห็น มิใช่ถามเพียงอาการเช่นนี้ ทว่าเมื่อคำนึงถึงเรื่องที่สตรีในห้องเป็นสตรีของท่านแม่ทัพ อีกทั้งอาการของนางในยามนี้ก็ทั้งชัดเจนและไม่ชัดเจนเป็นอย่างยิ่ง หญิงหม้ายก็ประสานมือคารวะกลับ ทว่าทำได้เพียงค้อมศีรษะเล็กน้อยเท่านั้นนางตอบหมอชราดูทรงภูมิและรองแม่ทัพผู้รั้งเมืองตรงหน้าอย่างใจเย็น “ท่านหมอและท่านรองแม่ทัพไม่ต้องเป็นห่วง แม่นางเพียงแต่อ่อนเพลียและมีอาการวิตกกังวลมากสักหน่อยเท่านั้น ข้าต้มยาสงบใจที่เหมาะสำหรับสตรีให้รับประทานแล้ว หลังจากได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ รั

  • หนิงซินกงจู่ เชลยแค้นแสนรัก   บทที่ 113

    หญิงหม้ายสกุลอวี๋มาถึงในชั่วอึดใจถัดมาอีเหิงมองร่างเล็กๆ เอวคอดกิ่วที่อุ้มครรภ์แก่ใกล้คลอดอุ้ยอ้ายเดินเข้ามาด้วยความช่วยเหลือของสาวใช้แล้วก็ให้ห่วงหน้าพะวงหลัง ทั้งเป็นห่วงคนป่วยบนเตียง ทั้งหวาดกลัวว่าเอวเล็กๆ ดูบอบบางของหญิงหม้ายจะเกิดหักลงมา ทว่าไม่กล้าทักท้วงที่นี่ไม่มีหมอหญิง และหมอหลวงสวี่ก็ยืนกรานว่าต้องให้หญิงหม้ายซึ่งรู้วิชาแพทย์และเชี่ยวชาญโรคสตรีมาช่วยตรวจอาการให้แน่ใจ หากมัวห่วงพะวงและรบกวนผู้ตรวจรักษาจนองค์หญิงรองเกิดเป็นอะไรลงไป ไม่ต้องรอจนผู้เป็นนายกลับมา เกรงแต่ว่าตัวเขาจะทนแบกรับความรู้สึกผิดไม่ไหว ซ้ำยังถูกเหล่าองครักษ์ที่ท่านแม่ทัพทิ้งไว้ให้คอยดูแลองค์หญิงรุมลงทัณฑ์องครักษ์เหล่านี้แม้ยามนี้นับเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพ แต่ขึ้นตรงต่อท่านแม่ทัพของเขาเพียงผู้เดียวเท่านั้น แม้แต่คำว่า ‘อ๋องผู้นั่งอยู่เหนือบัลลังก์เฮยเซ่อเย่ว์’ ก็ยังหาได้มีความสลักสำคัญอะไรต่อพวกเขาไม่องครักษ์เหล่านี้ต่างหาก ที่นับเป็นกองทัพทมิฬที่แท้จริงแท้จริงแล้ว ‘กองทัพทมิฬ’ คือชื่อเรียกที่ท่านอ๋องผู้ล่วงลับมอบให้แก่กองกำลังลับส่วนตนของท่าน

  • หนิงซินกงจู่ เชลยแค้นแสนรัก   บทที่ 112

    แม้หมอหลวงสวี่จะเป็นหนึ่งในผู้ที่รั้นจะตามมาในกองทัพใหญ่เฮยเซ่อเย่ว์ ด้วยเห็นว่าชีวิตของตนเองอยู่มาจนป่านนี้ก็ไม่มีเรื่องใดให้เสียดายอีกแล้ว ห่วงแต่ว่าจะไม่ได้ทำประโยชน์ให้แก่ท่านแม่ทัพที่ยืนกรานออกศึกด้วยตนเองหลายต่อหลายครั้ง ทว่าอยู่มาจนป่านนี้ กลับได้ข่าวว่าอนุที่เยาว์วัยที่สุดของตนเกิดตั้งครรภ์และเพิ่งจะคลอดบุตร นับๆ ดูแล้วก็มั่นใจว่าเป็นทายาทของตนเป็นแม่นมั่น แม้ใจหนึ่งอยากกลับไปรับขวัญบุตรชายที่ได้มาราวปาฏิหาริย์ แต่การศึกยังติดพัน จึงได้แต่ตั้งใจอบรมสอนสั่งหมอทหาร เพื่อให้แน่ใจได้มากขึ้นอย่างน้อยๆ ก็อีกสองส่วน ว่ากองทัพเฮยเซ่อเย่ว์ที่เกรียงไกรจะไม่สูญเสียกำลังทหารจนพลาดพลั้งแพ้พ่าย... มิใช่ว่าไม่เชื่อใจผู้นำทัพ ในฐานะผู้ที่ติดตามกองทัพมาทั้งที่ไร้วรยุทธป้องกันตัว สวี่ซีซวนก็เพียงแต่ต้องการเพิ่มความแน่นอนปลอดภัยให้ชีวิตของตนเองเท่านั้นก่อนออกศึก ท่านแม่ทัพมิได้ทิ้งผู้ชราที่จู่ๆ ก็เกิดหวงชีวิตขึ้นมาเช่นตนไว้ที่เลี่ยงจินอู่เพียงเพื่อให้คอยกำกับดูแลหมอคนอื่นๆ ที่ล้วนกำลังทุ่มเทความสามารถรักษาเยียวยาทหารที่ได้รับบาดเจ็บหนัก แต่ยังมอบหมายอีกหนึ่งหน้าที่สำคัญให้ด้วยเ

  • หนิงซินกงจู่ เชลยแค้นแสนรัก   บทที่ 111

    นับตั้งแต่วันที่หยางหยางนำทัพใหญ่ออกเดินทางไปยังเมืองหลวงแคว้นป๋าย หนิงซินก็รู้สึกเหมือนมีก้อนหินหนักอึ้งถ่วงอยู่ในอก ความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของเขาและสถานการณ์การรบ บีบรัดหัวใจจนนางแทบหายใจไม่ออก แม้จะพยายามฝืนกินอาหารตามเวลา แต่อาหารทั้งหมดกลับจืดชืดไร้รส ยามพยายามข่มตาหลับ ภาพเงาร่างสูงใหญ่ของบุรุษที่เคยโอบกอดหยอกเย้ารวมถึงปลอบโยนนางจนหลับไหลซึ่งกำลังต่อสู้กับศัตรูก็ปรากฏขึ้นในห้วงนิทรา ทำให้นางสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยความหวาดกลัวไม่รู้กี่คืนต่อกี่คืนวันแล้ววันเล่าผ่านไป หนิงซินได้แต่เฝ้ารอข่าวคราวจากสนามรบอย่างกระวนกระวาย จนกระทั่งข่าวที่ว่ากองทัพของหยางหยางบุกเข้าวังหลวงได้แล้วแพร่สะพัดไปทั่ว ทั่วทั้งจวนพลันเต็มไปด้วยความโกลาหล พร้อมๆ กับที่ผู้คนในเรือนหลักยิ่งพากันหน้าดำคร่ำเคร่ง พยายามระมัดระวังเอาใจใส่นาง ด้วยบ้างก็ยิ่งหวาดกลัวยำเกรงแม่ทัพใหญ่ บ้างก็อกสั่นขวัญผวาหวั่นเกรงว่าองค์หญิงรองที่ตนต้องดูแลปกป้องให้ปลอดภัยดีทุกอย่างจะคิดสั้นหรือล้มป่วยลงสำหรับหนิงซิน ข่าวนี้กลับทำให้หัวใจของนางเต้นรัวราวกับกลองศึก ความดีใจที่หยางหยางประสบชัยชนะ ปะปนกับความหวาดกลัวในอ

  • หนิงซินกงจู่ เชลยแค้นแสนรัก   บทที่ 110

    คำพูดของหยางหยางทำให้หนิงซินรู้สึกเจ็บปวดไปทั้งหัวใจนางรู้ดีว่าสงครามไม่มีผู้ชนะที่แท้จริง และทุกชีวิตที่ต้องสูญเสีย ล้วนนำมาซึ่งความโศกเศร้า“ข้าขอร้อง...”หนิงซินพยายามจะพูดอะไรบางอย่างอีกครั้ง เขารู้ว่านางจะพูดอะไร เขาเองก็ฟังมามากพอแล้วเช่นกันหยางหยางส่ายหน้าเบาๆ“ได้เวลาแล้ว” เขาพูดเสียงเรียบ “รอข้าอยู่ที่นี่”เมื่อสวมเกราะสุดท้ายเสร็จสิ้น แม่ทัพทมิฬก็เดินออกไปจากห้อง ทิ้งให้เงาร่างบอบบางยืนมองส่งเขาอย่างเดียวดายหนิงซินเม้มริมฝีปากแน่นก่อนตัดสินใจเดินตามไป ทว่าไม่ทันจะก้าวขาออกจากประตู เหล่าสาวใช้ที่รอปรนนิบัติดูแลนางอยู่ด้านนอกก็พากันคุกเข่าลง ใบหน้าเผือดสีหนิงซินเข้าใจในความหวาดกลัวของคนเหล่านี้ จึงไม่กล้าทำให้พวกนาง ทหารยาม และองครักษ์ทั้งหลายลำบากใจ ได้แต่เฝ้ามองเงาร่างของอีกฝ่ายหายลับไปจากประตูวงเดือนด้วยความรู้สึกผสมปนเปกันไปหมดนางได้พูดกับเขาแล้วรึยัง ว่านางเองก็อยากให้เขาดูแลตนเองให้ดี และปลอดภัยกลับมาเช่นกัน...แต่...คนผู้นั้นคือแม่ทัพใหญ่ฝ่ายศัตรู...

  • หนิงซินกงจู่ เชลยแค้นแสนรัก   บทที่ 109

    หยางหยางลูบผมของนางเบาๆ ก่อนปัดปอยปมที่ระใบหน้านางออกอย่างอ่อนโยนดีใจ...อย่างนั้นหรือ...?จริงก็ช่าง เท็จก็ช่าง...เขาไม่สนใจนางคือสตรีของเขา ทุกคำพูดมีไว้เพื่อเขา ทุกสายตา...ก็ควรมีไว้เพื่อเขาเช่นกันต่อให้นางยังไม่ตระหนักในตอนนี้ แต่สุดท้ายแล้วนางจะรู้...ชีวิตนี้นางไม่อาจถอยห่างจากเขาได้หยางหยางกระชับอ้อมแขนโอบรอบนางแน่นเข้าอย่างไม่รู้ตัว ดวงตาฉายแวววูบไหวลึกซึ้งเมื่อนึกถึงตอนที่นางกำลังจะเอื้อนเอ่ยว่าเขาเป็นคนสำคัญแต่เขาฟังไม่ได้ เขาไม่อาจทนฟังได้เพราะเขารู้ว่านางจะบอกว่าเขาคือคนสำคัญ นางจะต้องพูดเช่นนั้นเพื่อบ้านเมืองของนาง เพื่ออาณาประชาราษฎร์ของนาง เพื่อความถูกต้อง...ทว่าเขาไม่มีทางรู้เลยว่านางพูดด้วยความรู้สึกที่แท้จริงด้วยหรือไม่ หากใช่ เทียบกันแล้ว ระหว่างเขากับ ‘คนอื่น’ ค่าของเขาในใจนางแท้จริงแล้วนับว่ามีน้ำหนักน้อยมากเพียงใด จึงได้แต่ใช้การกระทำที่ตรงไปตรงมาที่สุดบีบให้นางแสดงความปรารถนาในส่วนลึกออกมาเท่านั้นอย่างน้อยเรื่องที่นางเป็นของเขาเพียงผู้เดียวก็เป็นเรื่องจริง

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status