ตอนที่ 9 มีเรื่องให้ตรวจสอบ
รุ่งเช้าวันต่อมา
อี้หานนอนไม่หลับทั้งคืนไม่ว่าจะข่มตานอนเพียงใดนางก็มักจะคิดถึงยามที่ริมฝีปากของหวังหมิงประทับลงที่ริมฝีปากของนาง หัวใจเต้นโครมครามทั้งคืน ซูซูเดินเข้ามาในห้องถึงกับตกใจเมื่อเห็นพระชายานั่งอยู่ที่เก้าอี้ในห้องมืดสลัว
“พระชายาทำหม่อมฉันตกใจหมดเลยเพคะ ปกติทุกเช้าหม่อมฉันจะเป็นคนมาปลุกท่านให้ลุกแต่งกายเหตุใดวันนี้ท่านถึงตื่นตั้งแต่เช้าตรู่เช่นนี้ ” ใบหน้าอิดโรยไม่ได้หลับได้นอนหันมามองซูซูยิ่งทำให้นางตกใจมากกว่าเดิมรอบดวงตาของอี้หานดำคล้ำคล้ายคนไม่ได้หลับได้นอน
“ข้าไม่ใช่ตื่นแต่เช้าตรู่แต่ข้าไม่ได้นอนเลยต่างหาก โอ๊ยตอนนี้ข้าปวดหัวจริง ๆ” อี้หานใช้มือทั้งสองข้างจับที่หัวของตนเอง ซูซูรีบเข้าไปนวดบ่าไหล่พร้อมเอ่ยถาม
“เหตุใดพระชายาถึงนอนไม่หลับเพคะ ให้ตามท่านหมอหลวงมาตรวจอาการดีหรือไม่ ? หรือว่ามื้อคืนนี้หม่อมฉันลืมจุดกำยานไว้ให้เช่นนั้นเช้านี้พระชายานอนพักสักนิดเถิดเพคะ หม่อมฉันจะจุดกำยามเพื่อให้ท่านผ่อนคลายเอง”
“จะเป็นอะไรได้ก็เพราะท่านชินอ๋องบ้านั่นผู้เดียวทำข้าไม่ได้หลับได้นอน ข้าเกลียดเขาจริง ๆ ”ซูซูเริ่มเข้าใจอาการของนายหญิงที่นอนไม่หลับพร้อมทั้งให้นางหาน้ำมาให้ล้างปาก ท่านชินอ๋องคงขโมยจูบแรกไปจากนายหญิงของตนแล้วแน่ ๆ
“เช่นนั้นพระชายาไปนอนพบเตียงเถิดเพคะพักสายตาสักนิดจะได้รู้สึกดีขึ้น”
“ไม่ได้! ข้านอนไม่หลับหรอก เช้านี้เราไปที่ห้องเครื่องกันเถอะ ข้ามีหลายสิ่งที่ต้องตรวจสอบ” อี้หานมีเรื่องคาใจอยากจะตรวจสอบไม่ว่าจะเป็นสิ่งของที่ซื้อเข้ามาในครัวในแต่ละวัน รายการจ่ายเงินที่ทางพ่อครัวนำมาให้จะตรงกับยอดที่ผ่าน ๆ มาหรือไม่?
“เช่นนั้นล้างหน้าล้างตาให้สดชื่นเปลี่ยนอาภรณ์ชุดใหม่ รอสาวใช้นำอาหารเช้ามาให้เราค่อยไปที่ห้องเครื่องกันนะเพคะ”
“ได้ ข้าจะต้องตรวจสอบให้น่าชัดหากเกิดเรื่องอะไรขึ้น ข้าจะไม่ต้องเป็นผู้รับผิด เพราะตัวเลขที่หายไป มันหายไปก่อนที่ข้าจะเข้ามา” อี้หานเริ่มเอะใจทำไมพระชายาเอกถึงนำบันทึกที่ไม่โปร่งใสมาให้นางตรวจสอบ ยิ่งนางคิดยิ่งแปลกใจเพราะเคยดูซีรี่ย์มาหลายเรื่อง นี่มันเหมือนฉากที่นางร้ายหาเรื่องใส่ร้ายเพื่อกำจัดนางเอกไม่ผิดเพี้ยน
‘พระชายาเอกต่อหน้าเหมือนดีกับข้า ไม่ได้วางตัวว่าตนเองเป็นพระชายาเอก แถมยังเรียกข้าเสมือนน้องสาวอีกด้วยหรือว่านางเสแสร้งทำไปเช่นนั้น แต่แท้ที่จริงต้องการกำจัดข้าสินะ ฮึ ฮึ ไม่มีทางเสียหรอก คิดว่าข้าเป็นบุตรสาวของใต้เท้าชั้นผู้น้อยไม่ได้ร่ำเรียนมาหรือไงกัน ตัวเลขแค่นี้เพียงมองรอบเดียวก็ดูออกว่ามีการยักยอกเงิน แต่ข้าจะแกล้งทำเป็นหัวอ่อนรอดูว่าพระชายาเอกจะทำเช่นไรต่อไป ’ อี้หานคิดในใจพรางลุกขึ้นไปล้างหน้าล้างตามที่สาวใช้ในตำหนักจัดเตรียมไว้ให้
ฝั่งด้านหวังหมิง เขาออกไปตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อหารือกับพวกใต้เท้าที่หอนางโลม ชาวบ้านต่างเห็นก็พากันเอือมระอาที่เขามาเที่ยวตั้งแต่ท้องฟ้าสว่าง
ในห้องที่นัดพบกันใต้เท้าเริ่มทยอยเดินทางกันมาหลายคนและเมื่อมากันพร้อมหน้าพร้อมตามใต้เท้าหวังเอ่ยถามเป็นคนแรก เพราะนาน ๆ ครั้งที่ชินอ๋องจะนัดพบเจอตั้งแต่เช้าตรู่เช่นนี้ปกติจะนัดพบยามวิกาล
“ท่านชินอ๋องเรียกพวกข้ามาเข้าพบตั้งแต่เช้าตรู่คงมีเรื่องเร่งด่วนหรือพะย่ะค่ะ ”
“ใช่แล้ว ที่ข้าเรียกทุกคนมาพบในวันนี้เพราะมีบางเรื่องต้องการคำชี้แนะจากพวกท่าน ในวันมงคลของข้าที่ข้าแต่งพระชายารองเข้าจวนคืนนั้นเกิดเรื่องราวขึ้นมีคนกลุ่มหนึ่งเคลื่อนไหวจะขโมยเสบียงอาหารของทหารที่อยู่ประจำหารอยู่นอกวัง และใส่ร้ายข้า โชคดีที่มีคนของข้าเข้าไปอยู่แฝงตัวอยู่ที่นั่นและส่งข่าวมาแจ้งก่อน ทำให้ข้าขัดขวางคนกลุ่มนั้นได้”
“เกิดเรื่องขึ้นจนได้สินะ ในเมื่อคนของท่านเข้าไปแฝงตัวอยู่ในกลุ่มนั้นก็น่าจะรู้ว่าผู้ใดคือคนบงการอยู่เบื้องหลัง”
“เดิมทีข้าคิดว่าจะพบเจอผู้บงการอยู่เบื้องหลังทว่าคนผู้นั้นกลับระวังตัวเป็นอย่างดี ไม่ได้มาสั่งการตัวตนเองทำให้ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าเป็นฝีมือของผู้ใด พวกท่านช่วยตรวจสอบและสืบหาผู้อยู่เบื้องหลังช่วยข้าด้วย ข้าเชื่อว่าต้องเป็นใต้เท้าฝั่งซ้ายเป็นแน่”
“หากเป็นใต้เท้าฝั่งซ้ายเช่นนั้นก็มีพ่อตาของท่านชินอ๋องที่ใหญ่ที่สุดคุมอำนาจทุกคน หากเป็นเขาเขาต้องการอะไรกันแน่ในเมื่อท่านคือราชบุตรเขยของเขา” ใต้เท้าท่านหนึ่งเอ่ยขึ้นด้วยความสงสัยครานั้นอี้หานนึกอะไรขึ้นมาได้ มีครั้งหนึ่งที่เขาได้นั่งดื่มสุราร่วมกับใต้เท้าจาง
“ชินอ๋องท่านไม่อยากขึ้นครองบัลลังก์หรือ ? อย่างท่านหากต้องการเป็นฮ่องเต้มิใช่หรือยาก หากเป็นเช่นนั้นไม่ว่าจะเป็นอำนาจชีวิตที่สุขสบายท่านบันดาลได้ทั้งนั้นตอนนี้เราเป็นฝ่ายเดียวกันแล้วไม่ว่าท่านจะทำอันใดข้าพร้อมอยู่ข้างท่านเสมอ”
“ท่านพ่อตา ข้าไม่ชอบเรื่องการเมืองที่ปวดหัววุ่นวาย ข้าชอบมัวเมาสุราเคล้านารี เท่าทุกวันนี้ข้ามีความสุขไม่ได้เดือดร้อนเงินทองหรืออำนาจ ตำแหน่งฮ่องเต้ข้าไม่เคยอยากคิด ท่านเอ่ยมาเช่นนี้ราวกับจะให้ข้าทำการกบฏเลยนะท่านพ่อตา”
“ฮ่า ฮ่า ข้าเพียงเอ่ยออกมาเพื่อลองใจท่านชินอ๋องเท่านั้นว่าท่านจะจงรักภักดีต่อราชวงศ์เพียงใด ได้ยินเช่นนี้ข้าก็เบาใจที่บุตรสาวของข้าเจอบุรุษที่ดีเช่นท่าน อย่างน้อยชีวิตของนางก็สุขสบาย” ใต้เท้าจางใบหน้าเจือน ๆ ซีดเซียว แถมยังดูไม่สบอารมณ์ยามนั้นเขาคิดว่าใต้เท้าจางเพียงแค่อยากลองใจเขาเท่านั้น แต่ตอนนี้เขาเริ่มเอะใจในคำพูดของใต้เท้าจางหรือว่าเขาคือคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เพียงเพราะเขาไม่อยากได้บัลลังก์ แต่ยังจะบีบบังคับเขาด้วยทางนี้หรือ?
“นั่นสินะใต้เท้าจางเป็นใต้เสนาบดีฝั่งซ้ายที่ถืออำนาจและมีตำแหน่งสูงกว่าผู้ใด แต่ถ้าเขาต้องการวางแผนใส่ร้ายข้าคงมีเรื่องเดียวคือการบีบบังคับให้ข้ายอมรับข้อเสนอของข้า”
“แล้วข้อเสนอที่ว่าคือเรื่องอันใดหรือพะย่ะค่ะ”
“เขาต้องการให้ข้าก่อกบฏแย่งชิงบัลลังก์จากฝ่าบาท แต่ข้าไม่ได้ตอบรับคำเชื้อเชิญของใต้เท้าจาง นั่นคงเป็นสิ่งที่เขากระทำอยู่ตอนนี้ ” ใต้เท้าทุกคนทำหน้าตกใจไม่คิดว่าจะมีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นแต่ก็เข้าใจเพราะใต้เท้าจางหวังสูงหลงมัวเมาในอำนาจ หากชินอ๋องหวังหมิงได้ขึ้นครองราชย์จริง ๆ อำนาจของใต้เท้าจางคงไม่มีผู้ใดกล้าแตะต้อง
“ใต้เท้าจางช่างโลภมากเช่นนั้นต่อจากนี้พวกเราจะเฝ้าจับตามองช่วยกัน ”
“ดีเลยไม่ว่าใต้เท้าจางเคลื่อนไหวอย่างไรข้าจะเรียกพวกท่านมาพบอีกครา ”
หลังจากหารือกันเสร็จทุกคนได้แยกย้ายไปคนละที่ หวังหมิงยังไม่ได้กลับเข้าจวนเขาเดินทางไปหาสายลับเพื่อพูดจาสั่งการอย่างลับ ๆ เพื่อให้หาตัวผู้ที่อยู่เบื้องหลังให้ได้โดยด่วน
ตอนที่ 13 ข้าเหนื่อยเหลือเกินฝั่งด้านหวังหมิงเขากลับห้องเปลี่ยนอาภรณ์เตรียมเดินทางเข้าวังหลวงเนื่องจากมีราชโองการให้เขาไปเข้าเฝ้า ระหว่างนั้นเจิงหลงเดินเข้ามาแจ้งเรื่องที่เขาให้ตามเฝ้าสังเกตการ“ท่านชินอ๋องข้าได้ตามเฝ้าพระชายาเสวี่ยหมิ่นตามที่ท่านบอก พระชายาไม่ได้เป็นคนออกไปนอกตำหนักด้วยตนเองทว่าให้เหม่ยหนิงออกไปยามวิกาล ข้าได้แอบตามออกไปเห็นว่านางออกไปพบกับชายฉกรรจ์เมื่อมองดี ๆ นั่นคือหลางอี้ลูกน้องของใต้เท้าจางขอรับ ”“เหม่ยหนิงนางออกไปแต่ไม่มีทหารที่เฝ้าหน้าจวนมาแจ้งข้าเลยอย่างนั้นหรือ คนพวกนี้เป็นคนของพระชายาหมดเลยหรืออย่างไร”“เอ่อ.. เรื่องนั้นข้าคิดว่าเหม่ยหนิงนางติดสินบนมากกว่าขอรับ ข้าเห็นนางยื่นถุงเบี้ยให้ทหารที่เฝ้าประตู ”“เจ้าได้ยินหรือไม่ว่าทั้งสองหารือเรื่องอันใดกัน”“ข้าอยู่ไกลเกินกว่าจะได้ยินขอรับ ”“เช่นนั้นก็จงตามต่อไป และข้ามีอีกเรื่องที่ให้เจ้าทำเจ้าจงไปตรวจสอบการยักยอกเงินจากคลังของข้า เวลาสองปีให้หลังเงินในคลังของข้าหายไปไม่น้อย อยากรู้เหลือเกินว่าเป็นฝีมือพ่อครัวหรือเป็นฝีมือของเสวี่ยหมิ่นกันแน่”“พะย่ะค่ะ” หลังจากแต่งกายเสร็จหวังหมิงเดินทางเข้าวังหลวง
ตอนที่ 12 เปลี่ยนไปทีละนิด“เฮ้อ! ไม่ว่าข้าจะวางแผนอันใดท่านจับได้เสมอสินะ คำพูดของท่านข้ายังไม่วางใจหรอกนะเพคะ ตอนนี้ช่วยปล่อยกายของข้าได้หรือไม่ข้าหายใจไม่ออกเพคะ” ใจของอี้หานเต้นแรงตึกตักเมื่อได้ยินคำพูดของหวังหมิงที่จริงจังและหนักแน่นราวกับว่าสิ่งที่เขาเอ่ยมาคือความจริง เขายอมทำตามที่นางกล่าวมาค่อย ๆ ปล่อยนางออกจากอ้อมแขน และเอ่ยถามเรื่องที่เขาได้สงสัยตั้งแต่ที่สาวรับใช้กล่าวบอกเขา“เจ้าออกไปที่ตลาดเพราะเรื่องอันใด เสวี่ยหมิ่นมอบหมายงานให้เจ้าทำหรือ ถึงกระนั้นก็ไม่เห็นต้องออกไปเดินตลาดด้วยตนเอง”“จะไม่ให้ข้าไปที่ตลาดด้วยตนเองเช่นไรเพคะ ในเมื่อท่านต้องการให้ข้าเลิกเล่นและจริงจังข้าเองก็มีเรื่องอยากจะหารือกับท่านเช่นเดียวกัน เพราะต่อจากนี้หน้าที่ของข้าคือการดูแลการเงินหลังจวน ข้ามิอยากจะให้เกิดเรื่องขึ้นทีหลัง” อี้หานหมดสิ้นหนทางหนีจึงนำเรื่องที่นางสงสัยและคาใจบอกพร้อมหารือกับชินอ๋องเลย นางไม่รู้ว่าเขารู้หรือยังเกี่ยวกับบันทึกการจ่ายเงิน อี้หานลุกขึ้นจากเตียงเดินไปที่โต๊ะหน้าห้องบรรทม หวังหมิงอดสงสัยไม่ได้รีบเดินตามนางมา เมื่อมาถึงโต๊ะเห็นบันทึกมากมายที่กองอยู่ และยังมีหมึกใหม่ที
ตอนที่ 11 อับอาย ยามโหย่ว(19.00) อี้หานนอนนิ่งอยู่บนเตียงร่างกายเต็มไปด้วยผื่นแดง ใจจดจ้องอยู่หน้าประตูว่าวันนี้หวังหมิงจะมาที่นี่หรือไม่ ไม่นานนักเสียงของสาวใช้หน้าตำหนักเดินมาแจ้งกับซูซูที่ยืนอยู่หน้าประตู“พระชายาเพคะ ยามนี้ท่านชินอ๋องกำลังเสด็จมาที่นี่แล้วเพคะ”“ดีเลยเจ้าไปบอกชินอ๋องว่าข้าไม่สบาย และเล่าเรื่องที่ได้ยินมาจากตลาดให้ชินอ๋องได้ทราบด้วยจะได้ไม่กล้าเข้ามาหาข้าในห้อง"“เพคะ” ซูซูเดินออกไปข้างนอกเพื่อรอต้อนรับชินอ๋องตามคำสั่งของอี้หาน เมื่อเขาเดินมาถึงนางรีบไปยืนขวางด้านหน้าทันที“ท่านชินอ๋องเพคะ วันนี้พระชายารองไม่สบายหม่อมฉันเกรงว่าน่าจะติดโรคจากด้านนอกเข้ามาเพคะ”“ติดโรค โรคอันใดกันในเมื่อพระชายาอยู่แต่ในตำหนัก หรือว่านางสร้างเรื่องไม่อยากให้ข้าเข้าไปด้านใน”“มิใช่เพคะ วันนี้พระชายาเดินทางไปตลาดพร้อมกับพ่อครัวเพื่อตรวจสอบค่าใช้จ่ายหลังจวน ไม่คิดว่าตอนนี้ที่หมู่บ้านใกล้ ๆ จะมีโรคระบาดเกิดขึ้น รู้อีกทีก็ได้ยินชาวบ้านพูดคุยกันอยู่เพคะ เมื่อกลับมาที่จวนพระชายามีอาการไม่ดี เริ่มจับไข้ปวดเนื่อปวดตัวร่างกายเต็มไปด้วยผื่นแดงราวกับอาการที่เขาลือกันที่ตลาดเพคะ พระชายากลัว
ตอนที่ 10 โรคระบาดฝั่งด้านอี้หานหลังจากที่นางกินข้าวเสร็จได้เดินทางมาที่ห้องเครื่องพร้อมสาวใช้สามสี่คนที่เดินตามมาคอยดูแลและมีซูซูที่ยืนถือร่มตามหลังนางมาติด ๆ เพราะยามนี้แสงแดดเริ่มร้อน“ว้าวนี่หรือห้องเครื่องช่างกว้างใหญ่จริง ๆ นี่ ” อี้หานตื่นเต้นกวาดสายตามองสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่ตรงหน้า สาวใช้ในห้องครับตกใจรีบพากกันออกมาต้อนรับแม้กระทั่งพ่อครัวใหญ่“พระชายารองมีเรื่องอันใดถึงมาเยือนที่ห้องเครื่องหรือพะย่ะค่ะ หรือว่าอาหารที่กระหม่อมทำไม่ถูกปาก”“มิใช่ มิใช่ท่านพ่อครัวมิต้องเป็นกังวลข้าแค่อยากมาเดินสำรวจดูในสิ่งที่ข้าต้องดูแลเท่านั้น พระชายาเสวี่ยหมิ่นมอบงานให้ข้าดูแลบันทึกการใช้จ่ายหลังจวน ข้าอยากรู้ว่าสิ่งของที่ซื้อในแต่ละครั้งต้องใช้เบี้ยอัฐเท่าไหร่ เท่านั้นเอง”“เป็นเช่นนั้นเองหรือพะย่ะค่ะ พอดีวันนี้เป็นวันที่ของใช้ในครัวเรือนหมดพอดีพระชายาอยากจะออกไปที่ตลาดกับพวกกระหม่อมหรือไม่จะได้รู้ว่าของที่ใช้มีอะไรบ้างราคาเท่าไหร่พะย่ะค่ะ”“ดีเลย ข้าเองก็อยากออกไปเปิดหูเปิดตา เช่นนั้นออกไปตลาดกันเถอะ” อี้หานกระปรี้กระเปร่าเมื่อได้ยินว่าจะได้ออกไปข้างนอกตั้งแต่ทะลุมิติมานางไม่เคยไปที่ใดเลยนอก
ตอนที่ 9 มีเรื่องให้ตรวจสอบ รุ่งเช้าวันต่อมา อี้หานนอนไม่หลับทั้งคืนไม่ว่าจะข่มตานอนเพียงใดนางก็มักจะคิดถึงยามที่ริมฝีปากของหวังหมิงประทับลงที่ริมฝีปากของนาง หัวใจเต้นโครมครามทั้งคืน ซูซูเดินเข้ามาในห้องถึงกับตกใจเมื่อเห็นพระชายานั่งอยู่ที่เก้าอี้ในห้องมืดสลัว“พระชายาทำหม่อมฉันตกใจหมดเลยเพคะ ปกติทุกเช้าหม่อมฉันจะเป็นคนมาปลุกท่านให้ลุกแต่งกายเหตุใดวันนี้ท่านถึงตื่นตั้งแต่เช้าตรู่เช่นนี้ ” ใบหน้าอิดโรยไม่ได้หลับได้นอนหันมามองซูซูยิ่งทำให้นางตกใจมากกว่าเดิมรอบดวงตาของอี้หานดำคล้ำคล้ายคนไม่ได้หลับได้นอน“ข้าไม่ใช่ตื่นแต่เช้าตรู่แต่ข้าไม่ได้นอนเลยต่างหาก โอ๊ยตอนนี้ข้าปวดหัวจริง ๆ” อี้หานใช้มือทั้งสองข้างจับที่หัวของตนเอง ซูซูรีบเข้าไปนวดบ่าไหล่พร้อมเอ่ยถาม“เหตุใดพระชายาถึงนอนไม่หลับเพคะ ให้ตามท่านหมอหลวงมาตรวจอาการดีหรือไม่ ? หรือว่ามื้อคืนนี้หม่อมฉันลืมจุดกำยานไว้ให้เช่นนั้นเช้านี้พระชายานอนพักสักนิดเถิดเพคะ หม่อมฉันจะจุดกำยามเพื่อให้ท่านผ่อนคลายเอง”“จะเป็นอะไรได้ก็เพราะท่านชินอ๋องบ้านั่นผู้เดียวทำข้าไม่ได้หลับได้นอน ข้าเกลียดเขาจริง ๆ ”ซูซูเริ่มเข้าใจอาการของนายหญิงที่นอนไม่หล
ตอนที่ 8 ค่าเสียเวลาเวลาผ่านไป 1 ชั่วยามอี้หานนอนตัวแข็งทื่อแทบไม่กล้าขยับไปทางใด ในห้องนอนยามนี้มีเพียงเสียงลมหายใจของทั้งสองและเสียงหัวใจเต้นแรงของอี้หาน'ทำไมถึงไม่ยอมกลับไปกันนะเป็นอย่างนี้ใครจะไปนอนหลับได้ ไม่น่าคิดแผนนี้เลยเพราะความโง่และสมองอันน้อยนิดของข้า โอ๊ย! แล้วอย่างนี้จะหาทางหนีเขาได้อย่างไรนะ' อี้หานคิดในใจพยายามขยับกายเล็กน้อยเพื่อคลายตัวออกจากแขนแกร่งของเขา"พระชายาเจ้ายังไม่หลับหรือ? หรือว่าไข้ขึ้นแต่ว่าร่างกายของเจ้าไม่ได้ร้อนแล้วนะ รู้สึกเหมือนมันจะเย็นราวกับคนปกติ ""เอ่อ..ที่ข้านอนไม่หลับเพราะไม่คุ้นชินที่ท่านชินอ๋องมานอนกอดเช่นนี้เพคะ อีกอย่างการเจ็บป่วยของข้ามักจะเป็นเช่นนี้ เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวเย็นทว่าข้างในยังคงร้อนระอุอยู่เพคะ""เป็นอย่างนี้นี่เอง ตั้งแต่ข้าเกิดมาพึ่งจะเคยได้ยินอาการป่วยของพระชายาช่างแปลกจริง ๆ ข้าอยากให้ร่างกายของเจ้ากลับมาแข็งแรงในเร็ววันเช่นนั้นคืนนี้ข้าจะกลับไปนอนที่ตำหนักของข้า " อี้หานใลหน้าพลันเปลี่ยนสีเมื่อได้ยินคำพูดของหวังหมิงคิดว่าคืนนี้จะไม่ได้หลับได้นอนต้องคอยระแวงเสียแล้ว“ข้าขออภัยด้วยนะเพคะที่ทำให้ท่านชินอ๋องต้องเสียเวลาอีกวัน”