ตอนที่ 8 ค่าเสียเวลา
เวลาผ่านไป 1 ชั่วยามอี้หานนอนตัวแข็งทื่อแทบไม่กล้าขยับไปทางใด ในห้องนอนยามนี้มีเพียงเสียงลมหายใจของทั้งสองและเสียงหัวใจเต้นแรงของอี้หาน
'ทำไมถึงไม่ยอมกลับไปกันนะเป็นอย่างนี้ใครจะไปนอนหลับได้ ไม่น่าคิดแผนนี้เลยเพราะความโง่และสมองอันน้อยนิดของข้า โอ๊ย! แล้วอย่างนี้จะหาทางหนีเขาได้อย่างไรนะ' อี้หานคิดในใจพยายามขยับกายเล็กน้อยเพื่อคลายตัวออกจากแขนแกร่งของเขา
"พระชายาเจ้ายังไม่หลับหรือ? หรือว่าไข้ขึ้นแต่ว่าร่างกายของเจ้าไม่ได้ร้อนแล้วนะ รู้สึกเหมือนมันจะเย็นราวกับคนปกติ "
"เอ่อ..ที่ข้านอนไม่หลับเพราะไม่คุ้นชินที่ท่านชินอ๋องมานอนกอดเช่นนี้เพคะ อีกอย่างการเจ็บป่วยของข้ามักจะเป็นเช่นนี้ เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวเย็นทว่าข้างในยังคงร้อนระอุอยู่เพคะ"
"เป็นอย่างนี้นี่เอง ตั้งแต่ข้าเกิดมาพึ่งจะเคยได้ยินอาการป่วยของพระชายาช่างแปลกจริง ๆ ข้าอยากให้ร่างกายของเจ้ากลับมาแข็งแรงในเร็ววันเช่นนั้นคืนนี้ข้าจะกลับไปนอนที่ตำหนักของข้า " อี้หานใลหน้าพลันเปลี่ยนสีเมื่อได้ยินคำพูดของหวังหมิงคิดว่าคืนนี้จะไม่ได้หลับได้นอนต้องคอยระแวงเสียแล้ว
“ข้าขออภัยด้วยนะเพคะที่ทำให้ท่านชินอ๋องต้องเสียเวลาอีกวัน” อี้หานยิ้มในใจทว่าผู้ใดจะคิดจู่ ๆ หวังหมิงกลับยกมือหนามาจับปลายคงมนของนางให้เผยอขึ้นเล็กน้อยประกบริมฝีปากลงที่ปากบางของนางอย่างนุ่มนวลจนร่างบางตกใจเบิกตาโพลงโต นี่ไม่เหมือนอย่างที่นางคิดเอาไว้เสียหน่อย อี้หานใช้มือยันอกแกร่งให้หยุดแต่เขากลับจูบนางดูดดื่มมากกว่าเดิม ลิ้นสากของเขาควานเข้าไปด้านในดูดดื่มความหอมหวานจากร่างเล็ก นางตกใจจนตัวแข็ง หัวใจเต้นแรงเหมือนจะหลุดออกมาจากอก สมองขาวโพลนร่างก่ายเริ่มวาบหวาม ลมหายใจของนางเริ่มติดขัดจนร่างใหญ่รู้สึกได้ค่อย ๆ ถอนริมฝีปากออกแม้ว่ายังอยากจะกลืนกินความหอมหวานจากร่างบางต่อ
“ตอนนี้ข้าไม่เสียเวลาแล้ว วันนี้ข้าพึงพอใจแล้วละ เจ้านอนพักเถิด”หวังหมิงเช็ดปากของตนเองด้วยความเสียดาย แต่ถ้าหากเขายังดึงดันที่จะจูบนางต่อจะเป็นเขาเองที่อดทนไม่ได้ เขาผละตัวออกจากนาง ลุกขึ้นจากเตียงนอนสวมใส่รองเท้าเดินออกไปจากห้องนอนอย่างเร่งรีบ ส่วนอี้หานยังคงอึ้งและงงงวยอยู่กับที่ ความรู้สึกเมื่อครู่นี่มันอะไรกัน ความวาบหวิวใจสั่นไหวร่างก่ายอ่อนระทวย รสชาติจูบที่ดูดดื่มและนุ่มนวลอย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน นางยกมือมาแตะริมฝีปากขอบตัวเองดวงตาเหม่อลอย
“นี่หรือจูบ... เกิดมาไม่เคยจูบกับใครสักครั้งนี่ข้าเสียจูบให้กับคนบ้ากามอย่างเขานะหรือ ทั้ง ๆ ที่รังเกียจขยะแขยงที่เขาทำตัวแบบนั้นทำไมถึงไม่ขัดขืนเขาล่ะ อ๊ากกก!! นี้ข้าไปรู้สึกดีกับจูบของเขาเนี้ยะนะ ตั้งสติ ๆ ในอนาคตเขาอาจจะเป็นโรคร้ายแถมเขาไม่ได้จูบแค่เพียงคนเดียว ไหนจะพระชายาเอกไหนนางคณิกาอีกมากมาย อี้.. แค่คิดก็ขนลุกแล้ว ต้องล้างปาก ใช่แล้วตอนนี้ฉันต้องล้างปาก ซูซูเข้ามาหาข้าที” อี้หานตั้งสติจากที่เมื่อครู่กำลังเคลิบเคลิ้มกับรสจูบของหวังหมิงจนลืมไปเลยว่าเขาคือผู้ชายมักมากในกามนอนกับสตรีไปทั่ว ไม่แน่วันนี้เขาอาจจะไปจูบกับสตรีอื่นมามากมายแล้วก็ได้เพียงแค่คิดขนแขนของนางลุกขึ้นซู่ ซูซูยืนเฝ้าอยู่หน้าห้องเห็นท่านชินอ๋องเดินออกมา นางคิดว่าแผนการของพระชายาคงสำเร็จไม่นานเสียงของนางก็ดังขึ้น ซูซูรีบเข้าไปด้านในทันที
“เกิดอันใดขึ้นหรือเพคะ”
“เจ้าไปเอาน้ำมาให้ข้าที เอามาเยอะ ๆ ยิ่งดี”
“เอามาทำอันใดหรือเพคะ ” คิ้วบนใบหน้าของซูซูขมวดเข้าหากันอย่างสงสัย
“ข้าจะเอามาล้างเชื้อโรคก่อนที่มันจะเข้าสู่ร่างกายของข้า” ซูซูงวยงงแต่ก็ยอมทำตามที่นายหญิงสั่งการ เมื่อได้น้ำมาอี้หานกลั้วปากบ้วนน้ำหลายรอบ จนตอนนี้นางพึงพอใจ
“เฮ้อ!! ทำไมชีวิตของข้าต้องมาพบเจออะไรเช่นนี้ด้วย เมื่อไหร่ข้าจะได้กลับไปมิติเดิมของตนเอง ซูอี้หานเจ้าอยู่ที่ใดรีบมาเอาร่างของเจ้าคืนเสียที” นางบ่นพึมพำพร้อมทิ้งตัวลงนอนบนฟูกหนานุ่มโดยมีซูซูยืนอยู่ใกล้ ๆ
“อย่าบอกนะเพคะว่าแผนการล่ม แล้วที่ท่านชินอ๋องอยู่ในห้องเป็นเวลานานหรือว่าทั้งสองได้นอนด้วยกันแล้ว” ซูซูสังเกตเห็นท่าทางของอี้หานคิดว่านายหญิงของตนได้ร่วมหลับนอนกับหวังหมิงจึงได้เอ่ยออกมา
“เฮอะ! ไม่มีทางเสียหรอก ข้าจะไม่ยอมนอนกับคนสกปรกเช่นนั้นเด็ดขาด ยามนี้ก็ดึกมากแล้วเจ้าไปพักเถอะรุ่งสางยังมีงานให้เจ้าทำอีกมากมาย”
“เพคะพระชายา” ซูซูไม่เข้าใจแต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามต่อเพราะนางเองก็เหน็ดเหนื่อยมาแล้วทั้งวันคิดถึงที่นอนจนตาล้าไปหมด
ฝั่งด้านหวังหมิงเขาเดินกึ่งวิ่งมาที่ห้องหัวใจเต้นแรงระรัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ยกมือมาแนบอกพรางเอ่ยออกมาเบา ๆ
“เพียงแค่จุมพิตเหตุใดหัวใจของข้าถึงเต้นแรงเช่นนี้ น่าแปลกเสียจริง”
“นั่นเพราะท่านจุมพิตกับสตรีที่ท่านชื่นชอบพะย่ะค่ะ หรือว่านี่อาจจะเป็นจุมพิตครั้งแรกของท่าน" เสียงคนสนิทเอ่ยขึ้นมาจากด้านหลัง หวังหมิงคลายมือลงจากอกไปไขว้ไว้ที่หลังใบหน้าพลันเข้มขรึมจริงจัง
"มิใช่เรื่องของเจ้า เป็นเช่นไรรู้หรือยังว่าผู้ใดคือหนอนในจวนของข้า"
"หากข้าเอ่ยออกไปยากนักที่ท่านจะเชื่อคำพูดของข้าแต่ว่าข้าต้องเอ่ยเรื่องที่ท่านให้ข้าไปทำนั่นมีผู้ที่สงสัยเพียงผู้เดียวพะย่ะค่ะ"
"เอ่ยมาเถิดเชื่อไม่เชื่ออย่างไรต้องหาหลักฐานอยู่ดี"
"สองวันมานี้ข้าสังเกตเห็นยามราตรีพระชายาเสวี่ยหมิ่นมักจะออกมายืนรับลม เป็นช่วงที่ทุกคนต้องเขาบรรทม และข้าเห็นพระชายาให้สาวรับใช้ข้างกายนางออกไปนอกจวนทุกคืนขอรับ"
"ออกไปข้างนอกอย่างนั้นหรือ? เมื่อก่อนข้าไม่เคยนึกเอะใจคิดว่านางเข้ามาเป็นพระชายาของเพียงเพราะต้องการอำนาจและตำแหน่ง ตอนนี้นางก็ได้อย่างที่นางต้องการแล้ว นางคิดจะทำร้ายข้าไปทำไมหรือว่าใต้เท้าจางจะอยู่เบื้องหลัง แต่เหตุใดกันหากข้าถูกใส่ร้ายฮ่องเต้สั่งลงโทษ นางก็ต้องโดนด้วยเช่นกัน เรื่องนี้เรายังปักใจเชื่อไม่ได้ว่าเป็นนางหรือไม่เจ้าจงไปสืบให้แน่ชัดอีก รุ่งสางไปบอกใต้เท้านัดเจอกันที่เดิม "
"ขอรับ"
ตอนที่ 13 ข้าเหนื่อยเหลือเกินฝั่งด้านหวังหมิงเขากลับห้องเปลี่ยนอาภรณ์เตรียมเดินทางเข้าวังหลวงเนื่องจากมีราชโองการให้เขาไปเข้าเฝ้า ระหว่างนั้นเจิงหลงเดินเข้ามาแจ้งเรื่องที่เขาให้ตามเฝ้าสังเกตการ“ท่านชินอ๋องข้าได้ตามเฝ้าพระชายาเสวี่ยหมิ่นตามที่ท่านบอก พระชายาไม่ได้เป็นคนออกไปนอกตำหนักด้วยตนเองทว่าให้เหม่ยหนิงออกไปยามวิกาล ข้าได้แอบตามออกไปเห็นว่านางออกไปพบกับชายฉกรรจ์เมื่อมองดี ๆ นั่นคือหลางอี้ลูกน้องของใต้เท้าจางขอรับ ”“เหม่ยหนิงนางออกไปแต่ไม่มีทหารที่เฝ้าหน้าจวนมาแจ้งข้าเลยอย่างนั้นหรือ คนพวกนี้เป็นคนของพระชายาหมดเลยหรืออย่างไร”“เอ่อ.. เรื่องนั้นข้าคิดว่าเหม่ยหนิงนางติดสินบนมากกว่าขอรับ ข้าเห็นนางยื่นถุงเบี้ยให้ทหารที่เฝ้าประตู ”“เจ้าได้ยินหรือไม่ว่าทั้งสองหารือเรื่องอันใดกัน”“ข้าอยู่ไกลเกินกว่าจะได้ยินขอรับ ”“เช่นนั้นก็จงตามต่อไป และข้ามีอีกเรื่องที่ให้เจ้าทำเจ้าจงไปตรวจสอบการยักยอกเงินจากคลังของข้า เวลาสองปีให้หลังเงินในคลังของข้าหายไปไม่น้อย อยากรู้เหลือเกินว่าเป็นฝีมือพ่อครัวหรือเป็นฝีมือของเสวี่ยหมิ่นกันแน่”“พะย่ะค่ะ” หลังจากแต่งกายเสร็จหวังหมิงเดินทางเข้าวังหลวง
ตอนที่ 12 เปลี่ยนไปทีละนิด“เฮ้อ! ไม่ว่าข้าจะวางแผนอันใดท่านจับได้เสมอสินะ คำพูดของท่านข้ายังไม่วางใจหรอกนะเพคะ ตอนนี้ช่วยปล่อยกายของข้าได้หรือไม่ข้าหายใจไม่ออกเพคะ” ใจของอี้หานเต้นแรงตึกตักเมื่อได้ยินคำพูดของหวังหมิงที่จริงจังและหนักแน่นราวกับว่าสิ่งที่เขาเอ่ยมาคือความจริง เขายอมทำตามที่นางกล่าวมาค่อย ๆ ปล่อยนางออกจากอ้อมแขน และเอ่ยถามเรื่องที่เขาได้สงสัยตั้งแต่ที่สาวรับใช้กล่าวบอกเขา“เจ้าออกไปที่ตลาดเพราะเรื่องอันใด เสวี่ยหมิ่นมอบหมายงานให้เจ้าทำหรือ ถึงกระนั้นก็ไม่เห็นต้องออกไปเดินตลาดด้วยตนเอง”“จะไม่ให้ข้าไปที่ตลาดด้วยตนเองเช่นไรเพคะ ในเมื่อท่านต้องการให้ข้าเลิกเล่นและจริงจังข้าเองก็มีเรื่องอยากจะหารือกับท่านเช่นเดียวกัน เพราะต่อจากนี้หน้าที่ของข้าคือการดูแลการเงินหลังจวน ข้ามิอยากจะให้เกิดเรื่องขึ้นทีหลัง” อี้หานหมดสิ้นหนทางหนีจึงนำเรื่องที่นางสงสัยและคาใจบอกพร้อมหารือกับชินอ๋องเลย นางไม่รู้ว่าเขารู้หรือยังเกี่ยวกับบันทึกการจ่ายเงิน อี้หานลุกขึ้นจากเตียงเดินไปที่โต๊ะหน้าห้องบรรทม หวังหมิงอดสงสัยไม่ได้รีบเดินตามนางมา เมื่อมาถึงโต๊ะเห็นบันทึกมากมายที่กองอยู่ และยังมีหมึกใหม่ที
ตอนที่ 11 อับอาย ยามโหย่ว(19.00) อี้หานนอนนิ่งอยู่บนเตียงร่างกายเต็มไปด้วยผื่นแดง ใจจดจ้องอยู่หน้าประตูว่าวันนี้หวังหมิงจะมาที่นี่หรือไม่ ไม่นานนักเสียงของสาวใช้หน้าตำหนักเดินมาแจ้งกับซูซูที่ยืนอยู่หน้าประตู“พระชายาเพคะ ยามนี้ท่านชินอ๋องกำลังเสด็จมาที่นี่แล้วเพคะ”“ดีเลยเจ้าไปบอกชินอ๋องว่าข้าไม่สบาย และเล่าเรื่องที่ได้ยินมาจากตลาดให้ชินอ๋องได้ทราบด้วยจะได้ไม่กล้าเข้ามาหาข้าในห้อง"“เพคะ” ซูซูเดินออกไปข้างนอกเพื่อรอต้อนรับชินอ๋องตามคำสั่งของอี้หาน เมื่อเขาเดินมาถึงนางรีบไปยืนขวางด้านหน้าทันที“ท่านชินอ๋องเพคะ วันนี้พระชายารองไม่สบายหม่อมฉันเกรงว่าน่าจะติดโรคจากด้านนอกเข้ามาเพคะ”“ติดโรค โรคอันใดกันในเมื่อพระชายาอยู่แต่ในตำหนัก หรือว่านางสร้างเรื่องไม่อยากให้ข้าเข้าไปด้านใน”“มิใช่เพคะ วันนี้พระชายาเดินทางไปตลาดพร้อมกับพ่อครัวเพื่อตรวจสอบค่าใช้จ่ายหลังจวน ไม่คิดว่าตอนนี้ที่หมู่บ้านใกล้ ๆ จะมีโรคระบาดเกิดขึ้น รู้อีกทีก็ได้ยินชาวบ้านพูดคุยกันอยู่เพคะ เมื่อกลับมาที่จวนพระชายามีอาการไม่ดี เริ่มจับไข้ปวดเนื่อปวดตัวร่างกายเต็มไปด้วยผื่นแดงราวกับอาการที่เขาลือกันที่ตลาดเพคะ พระชายากลัว
ตอนที่ 10 โรคระบาดฝั่งด้านอี้หานหลังจากที่นางกินข้าวเสร็จได้เดินทางมาที่ห้องเครื่องพร้อมสาวใช้สามสี่คนที่เดินตามมาคอยดูแลและมีซูซูที่ยืนถือร่มตามหลังนางมาติด ๆ เพราะยามนี้แสงแดดเริ่มร้อน“ว้าวนี่หรือห้องเครื่องช่างกว้างใหญ่จริง ๆ นี่ ” อี้หานตื่นเต้นกวาดสายตามองสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่ตรงหน้า สาวใช้ในห้องครับตกใจรีบพากกันออกมาต้อนรับแม้กระทั่งพ่อครัวใหญ่“พระชายารองมีเรื่องอันใดถึงมาเยือนที่ห้องเครื่องหรือพะย่ะค่ะ หรือว่าอาหารที่กระหม่อมทำไม่ถูกปาก”“มิใช่ มิใช่ท่านพ่อครัวมิต้องเป็นกังวลข้าแค่อยากมาเดินสำรวจดูในสิ่งที่ข้าต้องดูแลเท่านั้น พระชายาเสวี่ยหมิ่นมอบงานให้ข้าดูแลบันทึกการใช้จ่ายหลังจวน ข้าอยากรู้ว่าสิ่งของที่ซื้อในแต่ละครั้งต้องใช้เบี้ยอัฐเท่าไหร่ เท่านั้นเอง”“เป็นเช่นนั้นเองหรือพะย่ะค่ะ พอดีวันนี้เป็นวันที่ของใช้ในครัวเรือนหมดพอดีพระชายาอยากจะออกไปที่ตลาดกับพวกกระหม่อมหรือไม่จะได้รู้ว่าของที่ใช้มีอะไรบ้างราคาเท่าไหร่พะย่ะค่ะ”“ดีเลย ข้าเองก็อยากออกไปเปิดหูเปิดตา เช่นนั้นออกไปตลาดกันเถอะ” อี้หานกระปรี้กระเปร่าเมื่อได้ยินว่าจะได้ออกไปข้างนอกตั้งแต่ทะลุมิติมานางไม่เคยไปที่ใดเลยนอก
ตอนที่ 9 มีเรื่องให้ตรวจสอบ รุ่งเช้าวันต่อมา อี้หานนอนไม่หลับทั้งคืนไม่ว่าจะข่มตานอนเพียงใดนางก็มักจะคิดถึงยามที่ริมฝีปากของหวังหมิงประทับลงที่ริมฝีปากของนาง หัวใจเต้นโครมครามทั้งคืน ซูซูเดินเข้ามาในห้องถึงกับตกใจเมื่อเห็นพระชายานั่งอยู่ที่เก้าอี้ในห้องมืดสลัว“พระชายาทำหม่อมฉันตกใจหมดเลยเพคะ ปกติทุกเช้าหม่อมฉันจะเป็นคนมาปลุกท่านให้ลุกแต่งกายเหตุใดวันนี้ท่านถึงตื่นตั้งแต่เช้าตรู่เช่นนี้ ” ใบหน้าอิดโรยไม่ได้หลับได้นอนหันมามองซูซูยิ่งทำให้นางตกใจมากกว่าเดิมรอบดวงตาของอี้หานดำคล้ำคล้ายคนไม่ได้หลับได้นอน“ข้าไม่ใช่ตื่นแต่เช้าตรู่แต่ข้าไม่ได้นอนเลยต่างหาก โอ๊ยตอนนี้ข้าปวดหัวจริง ๆ” อี้หานใช้มือทั้งสองข้างจับที่หัวของตนเอง ซูซูรีบเข้าไปนวดบ่าไหล่พร้อมเอ่ยถาม“เหตุใดพระชายาถึงนอนไม่หลับเพคะ ให้ตามท่านหมอหลวงมาตรวจอาการดีหรือไม่ ? หรือว่ามื้อคืนนี้หม่อมฉันลืมจุดกำยานไว้ให้เช่นนั้นเช้านี้พระชายานอนพักสักนิดเถิดเพคะ หม่อมฉันจะจุดกำยามเพื่อให้ท่านผ่อนคลายเอง”“จะเป็นอะไรได้ก็เพราะท่านชินอ๋องบ้านั่นผู้เดียวทำข้าไม่ได้หลับได้นอน ข้าเกลียดเขาจริง ๆ ”ซูซูเริ่มเข้าใจอาการของนายหญิงที่นอนไม่หล
ตอนที่ 8 ค่าเสียเวลาเวลาผ่านไป 1 ชั่วยามอี้หานนอนตัวแข็งทื่อแทบไม่กล้าขยับไปทางใด ในห้องนอนยามนี้มีเพียงเสียงลมหายใจของทั้งสองและเสียงหัวใจเต้นแรงของอี้หาน'ทำไมถึงไม่ยอมกลับไปกันนะเป็นอย่างนี้ใครจะไปนอนหลับได้ ไม่น่าคิดแผนนี้เลยเพราะความโง่และสมองอันน้อยนิดของข้า โอ๊ย! แล้วอย่างนี้จะหาทางหนีเขาได้อย่างไรนะ' อี้หานคิดในใจพยายามขยับกายเล็กน้อยเพื่อคลายตัวออกจากแขนแกร่งของเขา"พระชายาเจ้ายังไม่หลับหรือ? หรือว่าไข้ขึ้นแต่ว่าร่างกายของเจ้าไม่ได้ร้อนแล้วนะ รู้สึกเหมือนมันจะเย็นราวกับคนปกติ ""เอ่อ..ที่ข้านอนไม่หลับเพราะไม่คุ้นชินที่ท่านชินอ๋องมานอนกอดเช่นนี้เพคะ อีกอย่างการเจ็บป่วยของข้ามักจะเป็นเช่นนี้ เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวเย็นทว่าข้างในยังคงร้อนระอุอยู่เพคะ""เป็นอย่างนี้นี่เอง ตั้งแต่ข้าเกิดมาพึ่งจะเคยได้ยินอาการป่วยของพระชายาช่างแปลกจริง ๆ ข้าอยากให้ร่างกายของเจ้ากลับมาแข็งแรงในเร็ววันเช่นนั้นคืนนี้ข้าจะกลับไปนอนที่ตำหนักของข้า " อี้หานใลหน้าพลันเปลี่ยนสีเมื่อได้ยินคำพูดของหวังหมิงคิดว่าคืนนี้จะไม่ได้หลับได้นอนต้องคอยระแวงเสียแล้ว“ข้าขออภัยด้วยนะเพคะที่ทำให้ท่านชินอ๋องต้องเสียเวลาอีกวัน”