หนึ่งฤทัยนอนลืมตาอยู่บนเตียงนอน ภาพความวาบหวามจากความใกล้ชิดระหว่างเธอกับเขาลอยเข้ามาในหัว เธอไม่ได้รังเกียจเขา หลายครั้งที่เผลอไปกับรสสัมผัสของเขา ถ้าเป็นแบบนี้เธอต้องเสียท่าให้เขาสักวัน แต่จะไปกลัวอะไรเพราะเขาคือสามีของเธอ ก่อนหน้าที่เธอจะจำอะไรไม่ได้ เธอก็มีความสัมพันธ์กับเขา
“หนึ่งนะหนึ่ง เมื่อไรแกจะจำได้สักที” พูดกับตัวเองแล้วพลิกตัวไปมา ศิลากับสายพิณบอกให้เธอพักผ่อนเยอะ ๆ ความจำจะได้กลับมาเร็ว ๆ กินแล้วก็นอนทำแบบนี้มาจะเป็นเดือนแล้ว ยังไม่เห็นมีทีท่าว่าจะจำอะไรได้สักที
ศิลาเข้ามาตรวจงานในไร่หลังจากที่ไม่ได้เข้ามาดูนานแล้ว ตาคู่คมมองไปรอบ ๆ ก่อนจะสะดุดกับกุหลาบแปลงที่มีต้นสูงท่วมศีรษะ ออกดอกสีขาวส่งกลิ่นหอมไปทั่วบริเวณ กุหลาบพันธุ์นี้เขาพึ่งสั่งมาทดลองปลูก นอกจากความสวยแลกลิ่นหอมแล้ว ชื่อบนป้ายก็สะดุดตาไม่น้อย
“หนึ่งฤทัย ใครตั้งชื่อนี้ให้ดอกไม้กู” พูดกับตัวเอง แล้วหันไปถามคนงานที่กำลังพรวนดินอยู่ตรงนั้น
“ใครตั้งชื่อให้กุหลาบแปลงนี้”
“คุณมนตรีครับ คุณมนตรีบอกว่านายตั้งชื่อนี้ครับ” ฟังจากน้ำเสียงและสำเนียงก็รู้ว่า คนงานตนนี้มาจากประเทศเพื่อนบ้านที่เขตติดต่อกัน
“มนตรีอยู่ไหน เก็บป้ายชื่อออกให้หมด กูไม่ชอบชื่อนี้!” สั่งคนงานแล้วเดินไปยังสถานที่ที่คนงานบอก มนตรีบอกว่าเขาเป็นคนตั้งชื่อนี้ให้กุหลาบ เขาเนี่ยนะจะเรียกดอกไม้ที่ตัวเองรักว่าหนึ่งฤทัย ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้มีความสำคัญกับเขาเลยสักนิด ชื่อก็น่าเกลียดใครจะอยากให้ดอกไม้สวย ๆ ชื่อเหมือนเธอกัน
“มานี่เลยไอ้ตัวดี มานี่เลย” ศิลาพุ่งเข้าใส่มนตรีที่กำลังยืนดูคนงานใส่ปุ๋ยกุหลาบ กำคอเสื้อแล้วลากมนตรีออกมา
“อะไรครับนาย ใจเย็น ๆ ครับ” มนตรีร้องบอกเจ้านายมาตลอดทาง คนงานที่เห็นเหตุการณ์ต่างพากันหัวเราะชอบใจ เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ศิลากับมนตรีทะเลาะกัน
“อะไรครับนาย โอ้ย ๆ เบาครับเบา” ถึงจะร้องโวยวายไปตลอดทาง แต่มนตรีก็ไม่ขัดขืน ยอมให้ศิลาลากไปแต่โดยดี
“ไปดูผลงานของมึงไง!”
“ผลงานอะไรครับ ผมทำอะไรผิด”
“ใครใช้ให้มึงเอาชื่อยายนั่นมาตั้งให้ดอกไม้กู!”
“ชื่อ...อ่อ ก็คุณหินบอกผมเองนี่ครับ” มนตรีงงในตอนแรก แต่พอถูกลากมาถึงแปลงกุหลาบก็นึกออกทันที
“กูเนี่ยนะสั่ง มึงบ้าหรือเปล่า ไอ้เบียร์!” ศิลาตวาดลั่น
“ใช่ครับ วันนั้นผมถามคุณหิน คุณหินบอกผมว่า ‘หนึ่งฤทัย’”
“มึงน่าจะเข้าใจผิด” ศิลาบอกกับมนตรี
“ไม่นะครับ ผมได้ยินว่า หนึ่งฤทัยจริง ๆ” มนตรียืนยันคำเดิม ถ้านายไม่สั่งเขาจะกล้าหรือ
“เออ ๆ รีบจัดการเปลี่ยนให้เรียบร้อยก็แล้วกัน” พูดจบศิลาก็เดินไปอีกทาง
“แต่ผมว่าชื่อหนึ่งฤทัยเหมาะกับกุหลาบแปลงนั้นนะครับ สวยหวาน หอม สะอาด จนจับต้องไม่ได้”
“ไอ้เบียร์ ถ้ามึงพูดอีกคำ กูจะไล่มึงออก” ศิลาหันมาตวาดแล้วจากไป
“ครับ ๆ ๆ” มนตรีรับคำ แล้วหัวเราะกับตัวเอง
“ผมเห็นนะครับ” เรื่องที่เกิดในออฟฟิศมีหรือจะรอดสายตาสอดรู้สอดเห็นของเขาไปได้
ศิลาเดินเข้าห้องนอนในตอนดึก หนึ่งฤทัยหลับไปแล้ว ร่างสูงยืนดูเธออยู่ที่ปลายเตียง เดินอ้อมไปหยิบผ้าห่มคลุมตัวให้เธอ หนึ่งฤทัยรู้สึกตัวตื่น เพราะที่นอนฝั่งตรงข้ามยุบตัวลง กลิ่นแอลกอฮอล์คละคลุ้งไปทั่วห้อง ไม่ทันได้ตั้งตัวร่างสูงใหญ่ก็เบียดทับลงมา ฝ่ามือใหญ่ผสานลงกับฝ่ามือเล็ก ริมฝีปากร้อนบดขยี้ลงมาอย่างเร่าร้อนและรุนแรง จนร่างบางแทบหมดอากาศหายใจ
“หนึ่ง” เสียงที่เรียกชื่อเธอแหบพร่า แบบคนกำลังทรมาน ริมฝีปากร้อนยังคงซุกไซ้ไปทั่ว เสื้อนอนตัวสวยขาดจากแรงกระชากของมือแกร่ง หนึ่งฤทัยตกใจดวงตากลมโตเบิกกว้างเธอไม่ดิ้นรนขัดขืนนอนนิ่งอยู่อย่างนั้น “คุณหิน” เรียกชื่อเขาเพื่อให้ได้สติ เพราะศิลาเริ่มหนักมือกับเธอขึ้นเรื่อย ๆ ใบหน้าหล่อเหลาซุกไซ้ไปตามอกอวบอิ่ม ริมฝีปากร้อนครอบครองยอดอก มืออีกข้างบีบขยำอย่างแรง ปากร้อนขบเม้มไปตามอกอวบ และเนื้อตัวของเธอ เจ็บและกลัวว่าเขาจะเผลอทำอะไรรุนแรง เพราะเธอยังไม่คุ้นเคยกับเขา
“หนึ่งนอนนิ่ง ๆ แค่แป๊บเดียว ผมสัญญา”
“คุณหิน คุณเบามือกับฉันด้วยนะคะ” หนึ่งฤทัยบอกกับเขา เพราะรู้ว่าคนร่างสูงต้องการอะไร
“ไม่ต้องกลัวนะ” ศิลาปลอบเมื่อเห็นแววกังวลในดวงตาคู่สวย
“ไว้ใจผม” พูดพร้อมกับดึงกางเกงชั้นในออกไปให้พ้นทาง ตามด้วยชั้นในสีหวาน ร่างสูงเบียดเข้าไปหาร่างเปลือยเปล่าหนึ่งฤทัยไม่มีอาการขัดขืน เกร็งบ้างในช่วง ศิลาแสดงความรักกับเธออย่างอ่อนโยน หนึ่งฤทัยปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่หัวใจเรียกร้อง ได้ยินเสียงเขาหอบหายใจแรง ๆ ไม่นานใบหน้าหล่อเหลาก็ซบลงมาบนซอกคอขาวเนียน แล้วทอดร่างสูงตามลงมา กอดเธอไว้ในอ้อมแขน จมูกโด่งเป็นสันไล้ไปตามซอกคอหอมกรุ่นจูบหนัก ๆ บนแก้มขาวเนียน หนึ่งฤทัยดึงผ้าห่มมาพันร่างเอาไว้กระเถิบถอยหนีออกจากอ้อมแขนของเขา
“จะไปไหน” ศิลาถามเมื่อเธอแกะมือเขาออกจากเอว
“อาบน้ำคะ” หนึ่งฤทัยตอบไม่มองสบตาคม ที่มองมาอย่างล้อเลียนของเขา
“ไม่เอา ขอกอดก่อนนะ” ศิลาบอกพร้อมขยับแขนกอดรัดแน่นขึ้นกว่าเดิม
“อึดอัดคะ” หนึ่งฤทัยบอก เมื่อเขารัดเธอแน่นเกินไป ศิลาคลายวงแขนออก แต่ยังกอดเธออยู่อย่างนั้น หนึ่งฤทัยเลยต้องนอนนิ่งอยู่ในอ้อมแขนของเขา ใบหน้าสวยเห่อแดงเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา เขาอ่อนโยนเอาใจและทะนุถนอม เธอปล่อยให้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร ไม่เสียใจที่ปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ ดวงตากลมโตมองใบหน้าของคนที่นอนหลับอยู่ใกล้ ๆ รู้สึกอบอุ่นที่ได้นอนอยู่ในอ้อมกอดเขา นิ้วเรียวสวยลูบไปบนใบหน้าหล่อเหลาของคนหลับอย่างเบามือ เธออยู่กับเขาในฐานะสามมีภรรยา หลังจากวันนี้ เรื่องราวของเขาและเธอจะเป็นยังไงต่อ เมื่อคิดมาถึงตรงนี้หัวใจเธอก็ปวดร้าว เธอปล่อยให้เขาเข้ามาในหัวใจตอนไหนกันนะ ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกับร่างกาย ทำให้หนึ่งฤทัยสงสัยไม่น้อย แต่ความวาบหวามที่เกิดขึ้นทำให้เธอมองข้ามเรื่องความเจ็บปวดไป เธอเป็นภรรยาของเขา แต่ทำไมเจ็บราวกับว่าเป็นครั้งแรกของเธอ
หนึ่งฤทัยไม่อยากคิดอะไรมากไปกว่านี้ เธอมีความสุขที่ได้อยู่ในอ้อมแขนเขา ไม่คาดหวังอะไร ขอแค่มีเขาอยู่ข้าง ๆ ก็พอ หนึ่งฤทัยนอนคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย
จนเผลอหลับไปในอ้อมกอดของเขาหนึ่งฤทัยรู้สึกตัวในเวลาต่อมา ตากลมโตมองฝ้าเพดานหลัง ก่อนจะหลับตาลงแล้วคิดทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมา เมื่อแน่ใจว่าเธออยู่ที่โรงพยาบาล “ฟื้นแล้วเหรอลูก เป็นยังไงบ้าง เดี๋ยวพ่อตามหมอให้นะ” ภากรถามแล้วเดินมายืนข้างเตียงที่ลูกสาวนอนพักฟื้นอยู่ “คุณพ่อคะ คุณหินล่ะคะ คุณหินไปไหนคะ” ภากรขมวดคิ้วเข้าหากัน ที่ได้ยินลูกถามหาศิลาทันทีที่ลืมตาขึ้นมา “ศิลาพายายแก้วตาไปตั้งแต่เช้า ยังไม่พายายแก้วมาส่งเลย” คำพูดนี้ภากรหวังผลให้หนึ่งฤทัยโกรธ แต่หนึ่งฤทัยกลับเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “หนึ่งมาอยู่โรงพยาบาลได้ยังไงคะ คุณพ่อบอกคุณหินด้วยนะคะว่าหนึ่งฟื้นแล้ว หนึ่งอยากกลับบ้านค่ะ หนึ่งคิดถึงคุณหิน หนึ่งคิดถึงลูก” “หนึ่งว่าอะไรนะ หนึ่งคิดถึงใครนะลูก” ภากรถามเพื่อความแน่ใจว่าเขาฟังไม่ผิด “หนึ่งคิดถึงคุณหินกับลูกค่ะ” หนึ่งฤทัยตอบด้วยน้ำเสียงชัดเจน “พ่อว่า พ่อเรียกหมอมาดูอาการหนึ่งดีกว่า” พูดจบภากรก็กดกริ่งเรียกหมอ ต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ ๆเพราะหนึ่งฤทัยจะคิดถึงศิลาได้อย่างไร เพราะคนที่ทำให้หนึ่งฤทัยตกอยู่ในสภาพนี้ก็คือศิลา แถมศิลา
ศิลาพาหญิงสาวพามาโรงพยาบาล ภากรและเลขาตามมาในเวลาต่อมา “ยายหนึ่งเป็นยังไงบ้างคุณหิน” ภากรถามเมื่อพาตัวเองมายืนหน้าห้องฉุกเฉิน แววตาเจ้าเล่ห์หลบแววตาคมดุที่มองมาที่เขาเขม็ง “ทำไมคุณมองผมแบบนี้ล่ะหิน แล้วยายแก้วอยู่ที่ไหน คุณเอาหลานผมไว้ไหน" “ไม่ต้องห่วงแก้ตาอยู่ในที่ที่ปลอดภัยแล้ว ทันที่ที่หนึ่งฤทัยฟื้น ผมจะพาเธอไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัยด้วยเช่นกัน” “หมายความว่ายังไงหิน เรื่องนี้ให้ยายหนึ่งเป็นคนตัดสินใจเองดีกว่านะ คืนหลานให้ผมเถอะ เราจะตัดสินใจกันเอง” ภากรบอกกับคนหนุ่ม สิ้นเสียงภากรศิลาก็ยืนขึ้นเต็มความสูง “คุณยังไม่ได้ตัดสินใจอีกหรือคุณภีม ผมนึกว่าคุณตัดสินใจเรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อสามปีก่อนแล้วซีก” “พูดอะไรของคุณ” ภากรถามพร้อมกับหลบตา “ที่คุณคืนทุกอย่างให้ผม ก็เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เหรอคุณภีม คุณรู้ว่าถึงยังไงผมก็ต้องรับผิดชอบหนึ่งฤทัยกับลูก มันก็เป็นไปตามแผนของคุณแล้วไง ยังต้องการอะไรอีก” “หมายความว่ายังไง” “หมายความว่าผมรู้ทันแผนการของคุณไงครับ ต่อไปนี้เรื่องของผมกับหนึ่งฤทัย คุณไม่ต
หนึ่งฤทัยตื่นขึ้นมาทำอาหารเช้าให้ลูก เมื่อตัดสินใจอยู่ที่บ้านแล้วก็ต้องเดินหน้าต่อไป การเผชิญหน้าระหว่างเธอกับเขาต้องเกิดขึ้นอีกแน่ ๆ แต่เธอจะมีสติให้มากกว่านี้ เธอจะไม่หวาดกลัว และจะไม่หนีเขาอีกแล้ว ศิลาก็แค่ผู้ชายธรรมดาเท่านั้น คนที่ร้ายที่สุดคือพ่อของเธอต่างหาก ความเสียใจตีตื้นเข้ามาในหัวใจ นอกจากลูกแล้ว พ่อเป็นอีกคนที่เธอรักมากที่สุด ไม่คิดเลยว่าพ่อจะทำแบบนี้กับเธอ “คุณศิลามาขอพบค่ะ” คำพูดของแม่บ้านทำให้คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน “คุณศิลาขอพบหนึ่งเหรอคะ” ถามเพื่อความแน่ใจ เพราะไม่รู้ว่าคนที่เขาต้องการพบคือเธอหรือพ่อกันแน่ “ใช่ค่ะ คุณศิลาบอกว่าต้องการพบคุณหนึ่ง” แม่บ้านเน้นย้ำคำพูดของศิลาให้เธอฟัง “คุณศิลาอยู่ที่ไหน” “อยู่ในห้องรับแขกค่ะ” “ไปบอกเขานะคะว่าเดี๋ยวหนึ่งลงไป” แม่บ้านออกไปแล้ว หนึ่งฤทัยถอนหายใจออกมา ตากลมโตมองไปที่ลูกที่ยังนอนหลับสนิทอยู่บนเตียง “คุณต้องการพบฉันเหรอคะ” หนึ่งฤทัยถามเมื่อเดินเข้ามาเผชิญหน้าเขาในห้องรับแขก “แก้วตาอยู่ไหน” ศิลาถามเมื่อไม่เห็นคนตัวเล็กลงมาก
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้ มีผลกับหัวใจของศิลาไม่น้อย เพราะภาพใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของหนูแก้ตายังติดอยู่ในหัวของเขา สลัดยังไงก็ไม่ออก หนึ่งฤทัยตกใจมากที่เจอเขา เขาเองก็ตกใจมากเช่นกัน หลายปีมานี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขายังนึกถึงเธอ ถึงแม้จะพยายามลืม แต่ก็ลืมเธอไม่ได้สักครั้ง หนึ่งฤทัยยังคงอยู่ในความทรงจำของเขา การเจอกันครั้งนี้ทำให้ศิลาทำตัวไม่ถูก ความรู้สึกในหัวตีกันจนวุ่นวายไปหมด โดยเฉพาะตอนที่ตาของเขาสบเข้ากับตากลมโตคู่เล็กโลกของเขาก็แทบจะหยุดหมุน เมื่อคิดไม่ตกศิลาก็พาตัวเอง ออกไปยังที่ที่เขามักจะไปซ่อนตัวอยู่ในนั้น บ้านท้ายไร่เป็นที่ที่เขาจะมาอยู่เป็นประจำ บางครั้งก็นอนค้างที่นี่ ที่นี่ยังเป็นเหมือนเดิม มืดและเงียบเหงา ครั้งหนึ่งเขาเคยใช้มันเป็นคุกกักขังและทำร้ายเธอ หนึ่งฤทัยยังคงเหมือนเดิมมีเพียงสายตาเท่านั้นที่เปลี่ยนไป ในความตกใจและสับสนมันมีความว่างเปล่าอยู่ในนั้น ว่างเปล่าซะจนเขาคิดว่าเธอมองเขาเป็นแค่อากาศเท่านั้น เด็กคนนั้นชื่อแก้วตา ภากรบอกว่าแก้วตาฉลาดเกินวัย อายุแค่สามขวบกว่า ๆ แต่รู้เรื่องทุกอย่าง พูดคุยตอบโต้ได้ทุกอย่าง ตอนแรกเขาก็ไม่เชื่อจนได้มาเห็นกับตา ลูกเขาฉลาดเกิ
สามปีต่อมา“หนึ่งจะกลับเมืองไทยพร้อมอาหรือเปล่าลูก” อรนภาถามคนที่นอนตะแคงป้อนนมลูกอยู่บนเตียงนอน “หนึ่งยังไม่พร้อมค่ะคุณอา หนึ่งกลัว” หนึ่งฤทัยบอกกับคนที่เดินมาหย่อนสะโพกลงบนเตียงนอนของเธอ “หนึ่งไม่ได้ทำอะไรผิด จะกลัวทำไมลูก” อรนภาบอกกับหญิงสาว พร้อมกับเอื้อมมือมาลูบศีรษะเจ้าตัวเล็กที่หลับพริ้มอยู่กับหน้าอกของแม่ “หนึ่งกลัวผู้ชายคนนั้นจะมาวุ่นวายกับหนูแก้วตานะคะ” หนึ่งฤทัยบอกอรนภาไปตามตรง ตั้งแต่พ่อกับแม่หย่าร้างกัน เธอก็ถูกส่งตัวมาอยู่กับอาที่ต่างประเทศ อรนภาจึงเป็นเหมือนแม่คนที่สองของเธอ “เขาเป็นคนบอกเองว่าไม่ต้องการลูก หนึ่งจะเก็บเอาไว้หรือเอาลูกออกก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเขา ไม่ต้องกลัวนะลูกอาจะอยู่ข้าง ๆ หนึ่งเสมอ” “ขอบคุณค่ะอาอร” หนึ่งฤทัยพูดพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมา “เป็นอะไรลูก ร้องไห้ทำไม” อรนภาถามด้วยความตกใจ “หนึ่งดีใจนะคะ ที่หนึ่งมีอาเป็นแม่ของหนึ่งอีกคน ถ้าวันนั้นหนึ่งไม่มีคุณอา หนึ่งคงไม่ได้เก็บหนูแก้วตาเอาไว้ หนึ่งขอบคุณอาอรนะคะ ที่ดูแลหนึ่งกับลูกมาตลอด” “ไม่ต้องคิดมากนะลูก อะไรที่ม
ศิลาเดินทางมากรุงเทพฯ อีกครั้ง ปลายทางของการเดินทางครั้งนี้คือบ้านของภากร “ผมคิดไว้แล้วว่าคุณต้องมา” ภากรพูดขึ้น เมื่อศิลาเดินเข้ามาในห้องโถงของบ้าน “หนึ่งฤทัยอยู่ไหน” ศิลาถาม “คิดถึงยายหนึ่งเหรอหิน” ภากรไม่ตอบคำถาม แต่ถามคำถามกลับมา “ผมถามว่าหนึ่งฤทัยอยู่ไหน เรียกเธอลงมาพบผมเดียวนี้ เรามีเรื่องต้องคุยกัน” “ยายหนึ่งไม่ได้อยู่ที่นี่หรอก กลับฝรั่งเศสตั้งแต่วันที่กลับมาจากเชียงรายเลย ผมเองก็ยังไม่ได้เจอหน้าลูกเหมือนกัน” “ไม่จริง!” “ไม่มีเหตุผลที่ผมต้องโกหกคุณ ยายหนึ่งกลับฝรั่งเศสไปแล้ว ไม่เชื่อก็ตามไปสิ” “ไม่! ผมไม่ไปไหนทั้งนั้น” เขาไม่ได้อยากเจอเธอถึงขนาดจะต้องบินข้ามฟ้าไปหาขนาดนั้น “เดี๋ยวก่อนหิน” ภากรเรียกชายหนุ่มเอาไว้ เมื่อเขาจะก้าวเท้าออกจากบ้าน “อะไร” ศิลาถาม ตาคู่คมจ้องมองซองสีน้ำตาลในมือภากรเขม็ง “เอกสาร...” ภากรตอบเสียงราบเรียบ “อย่าคิดว่าจะให้ผมรับผิดชอบอะไร เรื่องที่เกิดขึ้นกับหนึ่งฤทัยมันก็แค่ความใคร่” คำพูดของศิลาทำให้หัวใจของคนเป็น