"ได้ค่ะ เป็นสองชิ้นนะคะ"
"เท่าไหร่คะ"
เมื่อเธอได้ของที่ต้องการ จัดการจ่ายเงินเรียบร้อยก็เดินออกจากร้านขายยาทันที เธอเดินมาเรื่อยเรื่อยจนมาถึงสวนสาธารณะที่ไม่ห่างจากคอนโดมากนัก เธอนั่งลงบนเก้าอี้ มองดูผู้คนมากมายเดินไปมาอย่างเหม่อลอย มือเล็ก ๆ กำถุงยาในมือแน่น
เธอกลับมาที่ห้องก็พบว่าราชันย์ยังไม่ได้กลับมา เธอเดินเข้าไปในห้องน้ำ หยิบถุงที่ตรวจครรภ์ออกมายืนมองอย่างคนเหม่อลอย ในใจคิดฟุ้งซ่านว่าถ้าหากผลที่ออกมาว่าเธอท้องเธอจะทำยังไง ในเมื่อราชันย์แสดงเจตจำนงชัดเจนว่าสถานะของพวกเราคืออะไร
เธอยืนคิดด้วยความฟุ้งซ่านสักพัก ก็หยิบที่ตรวจครรภ์ทั้งสองอันออกมาเดิมทีเธอจะเอาไว้ตรวจตอนเช้า แต่ในใจกลับฟุ้งซ่านอย่างบอกไม่ถูก ทำให้เธอตัดสินใจที่จะตรวจตอนนี้ทั้งสองอันพร้อมกันทันที เธอจัดการธุระส่วนตัวเรียบร้อย ก่อนจะนั่งนิ่ง ๆ รอดูผลบนแผ่นที่เธอวางไว้อย่างใจจดใจจ่อ ขีดแรกที่ขึ้นมาทำเอาเธอหายใจไม่ทั่วท้อง แต่เธอกลับต้องลืมหายใจทันทีเมื่อมีขีดที่สองจาง ๆ โผล่มาให้เธอเห็น
เธอหน้าชาราวกับว่ามีมือนับพันตบมาที่ใบหน้าของเธอแรง ๆ ที่เห็นขีดจาง ๆ นั่น เธอรีบหันไปดูอีกอันที่เธอวางทิ้งไว้ ก็พบว่าขึ้นสองขีดจาง ๆ เหมือนกัน เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี ความตื่นเต้นที่ลุ้นว่าสิ่งที่คิดมันจะไม่เป็นจริง พังทลายลงมาราวกับกระจกที่ถูกทุบจนแตกละเอียดพังทลายลงมาอย่างรวดเร็ว สิ่งที่เธอกลัวมากที่สุดกำลังเกิดขึ้นกับเธอ
ยิ่งเธอนึกถึงภาพของราชันย์ยิ่งทำให้เธอจินตนาการว่า ถ้าหากราชันย์รู้ว่าเธอท้องเขาจะต้องให้เธอไปเอาออกแน่ ๆ ยิ่งทำให้เธอรู้สึกกลัวเข้าไปอีก และตัดสินใจว่าจะไม่บอกเรื่องนี้กับราชันย์แน่ ๆ
"อดทนหน่อยนะกอหญ้า อีกแค่เดือนกว่า ๆ อดทนไว้ เธอไม่เป็นไรหรอก"
เธอสะบัดความคิดทั้งหมดออกจากหัว ลุกขึ้นจัดการอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปทำงานที่กาสิโน ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้เธอจะไม่เคยชอบเลยก็ตาม แต่เมื่อทำงานไปเรื่อยเรื่อยเธอกลับรู้สึกว่าที่นี่ก็น่าสนุกดีเหมือนกัน เป็นสถานที่ที่ทำให้เธอได้เปิดโลกใหม่หากไม่มีเรื่องของพ่อเข้ามาเกี่ยวข้องเธอคงไม่รู้ว่าบนโลกใบนี้มีสถานที่หลายสถานที่ที่เธอไม่เคยได้ไป
"กอหญ้าไม่ได้มาหลายวันมีลูกค้าถามถึงเยอะเลย"
"ขอโทษด้วยนะขอโทษด้วยนะคะที่ไม่ได้มาช่วยงานพี่กันต์เลย"
"ไม่เป็นไรเลย เดี๋ยววันนี้พี่ไปส่งนะ พี่ไม่อยากให้นั่งTaxyกลับมันอันตรายพี่เป็นห่วง"
"ไม่เป็นไรดีกว่าค่ะ กอหญ้าเกรงใจ"
"ไม่ต้องเกรงใจพี่เลย ถ้าเป็นไปได้พี่ก็อยากจะดูแลกอหญ้าให้มากกว่านี้ด้วยซ้ำ"
"หมายความว่าไงคะ"
"หมายความว่าพี่ชอบกอหญ้าไงครับ อยากดูแลให้มากกว่านี้ ถ้ามีโอกาส"
"คือ.."
"กอหญ้าอย่าเพิ่งรีบปฏิเสธพี่เลยนะ พี่จริงจังมาก"
"กอหญ้าขอโทษด้วยนะคะพี่กันต์ ขอบคุณมาก ๆ สำหรับความรู้สึกดี ๆ แต่กอหญ้ามีแฟนแล้วค่ะ"
"กอหญ้ามีแล้วจริง ๆ หรอ ถ้ามีแฟนจริง ๆ แฟนคงไม่ให้กอหญ้าที่ทั้งสวยทั้งน่ารักแบบนี้มาเดินทางไปกลับด้วยTaxyทุกวันหรอก"
"พี่กันต์ไม่เชื่อไม่เป็นไร แต่กอหญ้าอยากบอกว่ามีแฟนแล้วจริง ๆ ค่ะ"
"อย่าโกหกพี่เลย พี่ไม่ใช่สเปกกอหญ้าหรอ ถึงรีบปฏิเสธพี่แบบนี้"
"ไม่ใช่แบบนั้นนะคะ คือว่า.."
"ถ้าอย่างนั้น ให้โอกาสพี่ได้ไหม"
"พี่กันต์อย่าทำให้กอหญ้าลำบากใจเลยนะคะ"
"แค่ลอง พี่ก็ยังไม่มีโอกาสนั้นหรอ"
พี่กันต์ที่กำลังทำหน้าหงอย ทำให้เธอรู้สึกไม่ดีเอามาก ๆ เธอไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าพี่กันต์นั้นดีกับเธอมากขนาดไหน ถึงแม้ตอนรู้จักกันแรก ๆ เธอจะรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้เจ้าชู้มากก็เถอะ แต่เมื่ออยู่ด้วยกันไปนาน ๆ เธอกลับรู้ว่าผู้ชายคนนี้นั้นก็เป็นคนดีคนหนึ่งเลยก็ว่าได้
"กอหญ้า.."
"ทำไมมาอยู่ที่นี่ละปอร์เช่"
"เราต้องถามเธอมากกว่า มาทำอะไรที่นี่"
กอหญ้าที่เห็นปอร์เช่นั้น ก็นึกแผนดี ๆ เพื่อที่จะตัดไฟพี่กันต์ออก ไม่ใช่ว่าเธอนั้นไม่ชอบพี่กันต์ แต่เธอไม่อยากให้เขาต้องมามีส่วนพัวพันกับเรื่องของเธอ เธอเองไม่ได้ใสสะอาดเหมือนที่เขาเห็น
"คนนี้คือใครหรอ กอหญ้า"
"พี่กันต์ .. คนนี้แฟนกอหญ้าเองค่ะ"
"แฟน!"
"แฟน!"
กอหญ้าคลานขึ้นมาบนเตียงที่มีราชันย์นอนหน้ามุ่ยคอหักดั่งปลาทูแม่กลอง ก่อนจะมุดเข้าไปในผ้านวมผืนหนา มือเล็กลูบไล้ขาแกร่งของราชันย์อย่างเบามือ รับรู้ได้ว่าราชันย์เองก็เกร็งขาเป็นระยะ แต่ยังทำท่าทีไม่สนใจเมียเหมือนเดิมมือเล็กของกอหญ้าเลื่อนไปปลดเข็มขัดของเขาออก ปลดกระดุมกางเกงช้า ๆ รูดซิปออกก่อนจะดึงกางเกงของผู้ชายใต้ร่างของเธอออกอย่างง่ายดาย เหลือเพียงกางเกงในสีขาวแบรนด์ดังที่บัดนี้ปิดเจ้าโลกไว้ไม่มิดด้วยซ้ำ ราชันย์น้อยที่หัวเห็ดขนาดใหญ่โผล่พ้นออกมาจากขอบกางเกงใน ผงกหัวราวกับกำลังเชิญชวนให้เธอมาทำมิดีมิร้าย แต่เจ้าตัวกลับยังทำหน้ามุ่ยไม่สนใจ เพียงแค่ปลายนิ้วชี้ของเธอกระตุกทั้งกางเกงนอกกางเกงในของราชันย์ก็ถูกถอดออกโยนไปกองที่พื้นโดยที่ได้รับการช่วยเหลืออย่างไม่ขัดแม้แต่น้อยของเขามือเล็กของเธอกำเข้ากับเจ้าโลกที่ขยายเต็มที่ หัวเห็ดบานยั่วเย้าเหล่าแมลงมีน้ำหวานผุดออกมาจากปลายหัวเห็ดให้นิ้วชี้ของกอหญ้าได้ไล้วน สร้างความเสียวซ่านกระตุกถี่ กอหญ้าใช้ลิ้นอุ่น ๆ ไล้เลียไปที่หัวเห็ดบานจนทั่วยิ่งเธอวนรอบหัวมากเท่าไหร่ น้ำหวานที่ไหลเยิ้มก็ยิ่งผลิตออกมามากเท่านั้น ไล้เลียรอบหัวจนพอใจลิ้นของเธอก็ค่อย
“ค่ะเฮีย หญ้าได้ยินแล้ว เฮียดีใจเสียงดังไปแล้วค่ะ”“คุณแม่ฝากครรภ์เลยไหมคะ”“ฝากเลยค่ะ”“ได้เลยค่ะ”คนที่ดูจะตื่นเต้นสุดเหมือนจะเป็นผู้ชายข้าง ๆ มากกว่าเธอเสียอีก กอหญ้าที่เห็นราชันย์ดีใจมากก็ทำให้เธอยิ้มออกมาอย่างดีใจ เธอเองก็ไม่เคยคิดมาก่อน ว่าเด็กผู้หญิงที่ครอบครัวล้มละลาย จะได้มีครอบครัวที่มีความสุขขนาดนี้ ผู้ชายที่ครั้งหนึ่งเธอเคยคิดแต่จะรีบให้หมดเวลาสัญญา ผู้ชายที่ครั้งหนึ่งเธอตกหลุมรักเขาโดยที่รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่แม้แต่จะชายตามอง ผู้ชายที่เธอไม่คิดว่าวันหนึ่งจะมายืนเคียงข้างเธอเป็นครอบครัวของเธอจริง ๆ“เฮีย”“ว่าไงจ๊ะเมียจ๋า”“หญ้ารักเฮียนะ”“เฮียก็รักหญ้า รักมาก ๆ รักที่สุดเลย”“แต่หญ้าเหม็นหน้าเฮียมากนะ”“…”“หญ้าว่าจนกว่าจะคลอด อยากให้เฮียอยู่ห่าง ๆ หญ้าหน่อยจะได้ไหมคะ”“แต่เฮียอะ..อยากอยู่กับหญ้าตลอดเวลาเลยจริง ๆ นะ”“อะแห่ม! เดี๋ยวเรื่องนั้นยังไงค่อยกลับไปตกลงกันเนอะ แต่ตอนนี้เรามาทำประวัติฝากครรภ์กันก่อนดีกว่าน๊า”ถึงแม้คุณหมอจะพูดแบบนั้น แต่แก้มหมอกลับยิ้มไม่หุบเมื่อเห็นความมุ้งมิ้งของสองสามีภรรยานี้ ยิ่งทำให้หมอยิ้มแก้มแทบปริ กอหญ้าเองก็ลืมตัวว่ายังอยู่ที่โรงพยาบาล ทำ
กอหญ้าไม่ได้พูดเล่น แต่เธอรู้สึกว่าราชันย์นั้นมีกลิ่นตัวที่ผิดจากปกติ เป็นกลิ่นที่เตะจมูกแบบแปลกกว่าที่ผ่านมา ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็ยังคงใช้แชมพูกลิ่นเดิม ครีมอาบน้ำกลิ่นเดิม และน้ำหอมก็ยังคงกลิ่นเดิม แต่สองสามวันมานี้เวลาเจอราชันย์กลับมีกลิ่นที่แปลกไป แต่เธอไม่กล้าพอที่จะบอกกับเขา กลัวว่าผู้เป็นสามีของตนจะน้อยใจแต่พอยิ่งเห็นเขา อาการเหม็นกลิ่นตัวเขาก็ยิ่งจุกในอกมากขึ้นจนบางครั้ง ก็อยากที่จะเดินหนีเขาให้พ้น ๆ ต่างกันกับราชันย์ที่มีความต้องการที่อยากจะคลอเคลียนัวเนียกับผู้เป็นภรรยาตลอดเวลา อยากอยู่ใกล้อยากเห็นหน้าตลอดเวลา อยากจะไปไหนมาไหนทำอะไรด้วย เขารู้สึกว่ากลิ่นกายของกอหญ้าหอมเป็นพิเศษ และเป็นสิ่งเดียวที่เขาไม่รู้สึกคลื่นไส้เวลาพบเจอและเพียงแค่เขาออดอ้อนเมียได้ไม่นานนัก ความมวนท้องก็กลับมาอีกครั้งพร้อมกับความรู้สึกเหมือนมีอะไรมาจุกที่คอ ยังไม่ทันที่จะได้เดินออกจากหน้าห้องน้ำ ราชันย์ก็หันหลังตรงดิ่งเจ้าไปกอดคอชักโครกสุดที่รักเช่นเดิม กอหญ้าเองถึงแม้จะเห็นความทรมานของราชันย์ก็เถอะ แต่พอเธอจะก้าวขาเข้าไปลูบหลังก็ต้องชะงัก เพราะเมื่อเห็นหน้าราชันย์เธอเองกลับรู้สึกคลื่นไส้มาเสียอย่างนั้น
พิเศษ ตอนที่ 3...“หม่ำ หม่ำ”เสียงเจื้อยแจ้วของเด็กน้อยวัยหนึ่งขวบเศษ ที่กำลังนั่งเก้าอี้รอกินข้าวอย่างใจจดใจจ่อ โดยที่เก้าอี้ข้างกันนั้นยังมีเด็กชายพี่น้องฝาแฝดที่ทำหน้านิ่งมองหน้าอลิซที มองหน้าผู้เป็นพ่อที และเด็กน้อยก็รอเพียงไม่นานผู้เป็นแม่อย่างกอหญ้าก็เดินมาพร้อมกับอาหารสีสันสดใสน่ารับประทานนำมาวางไว้ที่เก้าอี้ ส่งผลให้เด็กน้อยอารมณ์ดีอย่างอลิซปรบมือดีใจยกใหญ่“หม่ำ หม่ำ”“โอเค ข้าวมาแล้วลูกสาวป๊าจะได้กินข้าวแล้ว”“อาร์เดนหิวข้าวมั้ยลูก”“…”ไม่มีเสียงตอบรับจากลูกชายของเธอมีเพียงตาตาที่ดุราวกับเสือร้ายที่จดจ้องมองไปที่จานข้าวอย่างไม่ละสายตา ดูท่าทางแล้วเขาจะได้ลูกชายที่ค่อนข้างเงียบมากมาคนหนึ่งแน่นอน กอหญ้าไม่ลีลาให้ลูกต้องรอนาน เธอส่งสัญญาณให้ราชันย์เริ่มป้อนข้าวลูกได้ ถึงแม้อาร์เดนจะมีท่าทีไม่เป็นมิตรสักเท่าไหร่ แต่พอเธอป้อนข้าวให้ก็ไม่มีท่าทีว่าจะไม่ทาน ผ่านไปเพียงไม่นานข้าวผัดสีสันสดใสก็หมดเกลี้ยงจานทั้งคู่ สร้างความพึงพอใจให้กับผู้เป็นแม่เป็นอย่างมาก“หม่ำ”และยังคงเป็นเช่นนี้ อาร์เดนจะส่งเสียงร้องขอก็ต่อเมื่อเห็นจานผลไม้เท่านั้น ครั้งนี้ก็เช่นกัน ลูกชายของเขาแลดูจะชอบผลไม
“ยังเลย”“ทำไมเธอดูตื่นเต้นขนาดนี้”“ทำอย่างกับนายไม่ตื่นเต้น”“ก็ไม่ตื่นเต้นเท่าไหร่นะ”เพียงไม่นานประตูห้องคลอดก็ถูกเปิดออกโดยมีกลุ่มคุณหมอเดินออกมาสามสี่คน ทั้งคู่รีบวิ่งเข้าไปหาคุณหมอทันที“คุณหมอคะ คนไข้ที่เพิ่งเข้าไปเป็นยังไงบ้างคะ คลอดหรือยังคะ”“คุณแม่ยังไม่คลอดนะคะ ปากมดลูกยังไม่เปิด”“เธอเป็นยังไงบ้างคะ”“ตอนนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วค่ะ แต่เบื้องต้นอายุครรภ์ยังไม่ถึงกำหนด คลอดออกมาเด็ก ๆ อาจจะต้องเข้าตู้อบก่อนนะคะ”“ขอบคุณมากค่ะ”เวลาผ่านไปเกือบสามชั่วโมงก็ไม่มีท่าทีว่าเธอจะคลอด ทั้งธันวาและเว่ยเอินเองก็สลับกันลุกนั่ง วนอยู่หน้าห้องคลอด และไม่มีท่าทีจะคลอดง่าย ๆ ยิ่งทำให้เว่ยอินและธันวารู้สึกกังวลเพิ่มขึ้น“ไอ้ธัน”“มาสักที”“กอหญ้าเป็นไงบ้าง นานแล้วนะยังไม่คลอดอีกหรอ”“ยังเลย”“คุณเป็นใครคะ”“อ่อ..คนนี้เว่ยเอินที่เคยเล่าให้ฟัง..ส่วนนี่ราชันย์”“สวัสดีครับ”ยังไม่ทันที่ทั้งคู่จะได้ทำความรู้จักกัน ก็มีกลุ่มคุณหมอสามสี่คนรีบวิ่งมาที่หน้าห้องคลอด ทำให้ราชันย์เองก็ตกใจไปด้วยเขาคว้าข้อมือของหมอผู้ชายคนหนึ่งเอาไว้“เกิดอะไรขึ้นครับ”“คุณแม่มีภาวะครรภ์เป็นพิษครับ หมอขอตัวก่อนนะคร
เขาอุ้มกอหญ้าและเดินช้าๆ ให้เข้าไปนั่งรอในรถ ทางด้านเว่ยเอินเองเธอก็รีบวิ่งมาหอบหิ้วข้าวของอย่างพะรุงพะรังเข้าไปยัดไว้ในรถเช่นเดียวกัน ก่อนที่เธอกระโดดขึ้นรถด้วยความเร็วแสง เคาะเบาะรถเบา ๆ ให้ธันวานั้นขับรถออกไปอย่างรวดเร็วปลายทางคือโรงพยาบาล ถึงแม้โรงพยาบาลจะอยู่ไม่ไกลมากนักแต่ช่วงเวลานี้ รถบนท้องถนนย่อมมีมากกว่าปกติเพราะเป็นช่วงเวลาทำงานพอดีนั่นจึงทำให้รถของเขาที่กำลังจะมุ่งหน้าสู่โรงพยาบาลนั้นเกิดการล่าช้าอย่างช่วยไม่ได้ ธันวาที่พยายามเหยียบคันเร่งรถอย่างเต็มที่เพื่อให้ไปถึงโรงพยาบาลอย่างเร็วที่สุด ก็ต้องฟันฝ่ากับอุปสรรคบนท้องถนน คนข้างๆ เขาเองก็ต้องฝ่าอุปสรรคความเจ็บปวดที่รู้สึกได้เลยว่ามดลูกกำลังบีบตัวลง และเวลาต่อมาก็ยิ่งทำให้เธอตกใจเข้าไปอีก เมื่อเธอรู้สึกว่าเบาะที่เธอนั่งนั้นตอนนี้เปียกชุ่มไปด้วยน้ำที่เธอเองก็ไม่รู้ว่ามาจากไหน จะบอกว่าเธอฉี่แตกก็ไม่น่าจะใช่ เธอไม่รู้สึกเลยว่ามันไหลออกมาตอนไหน เมื่อรู้ตัวอีกทีมันก็เปียกชุ่มไปหมดแล้ว"น้ำเปียกเบาะหมดแล้ว""ห๊ะ! เดี๋ยวนะอย่าเพิ่งคลอดนะ บนรถอันตราย""คุณธันวาขับเร็วกว่านี้ได้ไหม เห็นไหมพี่หญ้าหน้าซีดหมดแล้ว""ฉันก็กำลังรีบอยู่"ใ