คำพูดของคิณณ์ที่ว่า "ผมกำลังตามหาบางสิ่งบางอย่าง... ที่น่าสนใจอยู่ในชีวิตของคุณ" ดังก้องอยู่ในหัวของอิงฟ้าตลอดทั้งคืน เธอแทบไม่ได้นอน สมองของเธอเต็มไปด้วยคำถามมากมายที่ไร้คำตอบ ความรู้สึกไม่ไว้วางใจในตัวเจ้านายหนุ่มเพิ่มพูนขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขากำลังเล่นเกมอะไรอยู่? และเธอควรจะทำอย่างไรกับสถานการณ์นี้?
เช้าวันรุ่งขึ้น อิงฟ้ามาถึงบริษัทด้วยใบหน้าที่อิดโรย ดวงตาคล้ำเล็กน้อยจากการนอนไม่พอ เธอพยายามทำตัวให้ปกติที่สุด แต่สายตาของเธอก็อดไม่ได้ที่จะชายตามองไปยังห้องทำงานของคิณณ์ และทุกครั้งที่ประตูห้องนั้นเปิดออก หัวใจของเธอก็จะเต้นผิดจังหวะ วันนี้เป็นวันสำคัญของแผนกบัญชี เพราะมีเอกสารสำคัญจากฝ่ายกฎหมายและฝ่ายสินเชื่อที่ต้องนำมาประมวลผลเป็นรายงานฉบับสมบูรณ์สำหรับที่ประชุมผู้บริหาร อิงฟ้าได้รับมอบหมายให้รวบรวมเอกสารทั้งหมดจากหลายๆ ฝ่าย เธอเดินไปมาระหว่างแผนกต่างๆ อย่างเร่งรีบ "พี่อิงฟ้า แฟ้มนี้จากฝ่ายกฎหมายค่ะ" น้องเมย์ยื่นแฟ้มสีน้ำเงินเข้มให้ "ขอบใจจ้ะเมย์" อิงฟ้าตอบรับ พลางรับแฟ้มมาถือไว้ในมือข้างหนึ่ง อีกข้างหนึ่งก็ยังคงมีแฟ้มเอกสารจากฝ่ายสินเชื่อที่เพิ่งได้รับมา เธอกลับมาที่โต๊ะทำงาน รวบรวมเอกสารทั้งหมด และกำลังจะนำไปวางไว้บนโต๊ะหัวหน้าแผนกเพื่อรอการตรวจสอบขั้นสุดท้าย แต่แล้วในจังหวะที่เธอกำลังก้าวเดินไปนั้นเอง หัวใจของเธอก็พลันหล่นวูบ เมื่อร่างสูงใหญ่ของ คิณณ์ ก้าวออกมาจากมุมทางเดินด้านหน้าอย่างกะทันหัน อิงฟ้าพยายามจะเบี่ยงตัวหลบ แต่ก็ไม่ทัน ร่างของเธอชนเข้ากับแผงอกแกร่งของคิณณ์อย่างจัง แฟ้มเอกสารในมือเธอหลุดร่วงลงพื้น กระดาษบางส่วนกระจายเกลื่อน "โอ๊ย!" อิงฟ้าอุทานเบาๆ ด้วยความตกใจและเจ็บเล็กน้อย คิณณ์เองก็ดูจะตกใจเล็กน้อย แต่ก็ทรงตัวได้อย่างรวดเร็ว เขาจ้องมองมาที่อิงฟ้าด้วยแววตาตำหนิปนประหลาดใจ "คุณนี่ซุ่มซ่ามจริงๆ" คิณณ์พูดเสียงเรียบ แต่ก็รีบก้มตัวลงช่วยเก็บเอกสารให้เธอทันที อิงฟ้ารีบก้มตัวลงช่วยเก็บเอกสารเช่นกัน ความประหม่าเข้าครอบงำ เธอพยายามเก็บกระดาษทุกแผ่นอย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้คิณณ์เห็นเนื้อหาข้างใน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเอกสารจากฝ่ายกฎหมายที่มีความละเอียดอ่อน แต่ในขณะที่มือของเธอกำลังรวบรวมเอกสารที่กระจัดกระจายอยู่นั้น สายตาของเธอก็พลันเหลือบไปเห็นกระดาษแผ่นหนึ่งที่อยู่ใต้รองเท้าหนังมันวาวของคิณณ์ มันเป็นเอกสารสัญญาจำนองบ้านที่เธอเซ็นไปเมื่อหลายวันก่อน! หัวใจของอิงฟ้าเต้นโครมครามอย่างควบคุมไม่ได้ เธออยากจะรีบคว้ามันขึ้นมาเก็บ แต่ก็กลัวว่าคิณณ์จะสังเกตเห็น และที่สำคัญ... เขาเองก็กำลังก้มตัวลงเก็บเอกสาร และมือของเขาก็อยู่ห่างจากกระดาษแผ่นนั้นเพียงไม่กี่เซนติเมตร คิณณ์เอื้อมมือไปหยิบกระดาษแผ่นนั้นขึ้นมา ก่อนที่อิงฟ้าจะทันได้คว้ามันมาเก็บได้ เขากวาดสายตาอ่านเนื้อหาบนกระดาษอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของเขาเรียบเฉย แต่แววตาคมกริบของเขากลับปรากฏแววบางอย่างที่อิงฟ้าอ่านไม่ออก ไม่ว่าจะเป็นความประหลาดใจ ความเข้าใจ หรือความผิดหวัง... เธอไม่รู้ "นี่มันเอกสารอะไรครับคุณอิงฟ้า?" คิณณ์ถามด้วยน้ำเสียงที่นิ่งเฉยจนน่ากลัว แต่ดวงตาของเขากลับจ้องตรงมาที่เธอราวกับจะเจาะทะลุหัวใจ อิงฟ้าหน้าซีดเผือด ตัวแข็งทื่อไปหมด เธอพยายามหาคำโกหกที่จะบอกปัด แต่คำพูดก็ติดอยู่ที่ลำคอ "คือ... คือเอกสาร... ที่ดิฉันต้องนำไปให้หัวหน้าแผนกตรวจสอบค่ะท่านประธาน" อิงฟ้าตอบเสียงสั่นๆ พลางพยายามยื่นมือไปรับเอกสารคืน คิณณ์ไม่ยอมปล่อย เขายังคงถือเอกสารแผ่นนั้นไว้ในมือ และจ้องมองเธอด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยคำถาม "ทำไมเอกสารส่วนตัวของคุณถึงมาอยู่ในแฟ้มงานของบริษัทได้?" คิณณ์ถามเสียงเข้มขึ้น อิงฟ้าพยายามที่จะอธิบาย "ไม่ใช่ค่ะท่านประธาน มันเป็นความผิดพลาด ดิฉันแค่..." "หรือว่านี่คือเหตุผลที่คุณมาทำงานล่วงเวลาบ่อยๆ และทำไมถึงได้ดูเหนื่อยล้าขนาดนี้" คิณณ์ถามต่อ โดยไม่รอให้เธอตอบคำถามแรก แววตาของเขาดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความผิดหวัง อิงฟ้าเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างไม่เข้าใจ "ดิฉันไม่เข้าใจว่าท่านประธานหมายความว่ายังไงคะ" คิณณ์ถอนหายใจออกมาเล็กน้อย เขายื่นกระดาษแผ่นนั้นคืนให้เธอ "ไม่ว่าเอกสารฉบับนี้จะหลุดมาได้อย่างไร มันเป็นเรื่องส่วนตัวของคุณ และไม่ควรอยู่ในพื้นที่ทำงานของบริษัท" คำพูดของเขาเน้นย้ำถึงความเป็นมืออาชีพ แต่ในใจของอิงฟ้ากลับรู้สึกว่าเขากำลังตำหนิเธอ "ขอโทษค่ะท่านประธาน ดิฉันจะระมัดระวังให้มากกว่านี้" อิงฟ้าตอบเสียงเบา พลางรับกระดาษคืนมาเก็บไว้อย่างรวดเร็ว เธอรู้สึกเหมือนโดนจับได้คาหนังคาเขา ทั้งที่จริงๆ แล้วมันเป็นแค่ความบังเอิญ คิณณ์กวาดสายตาไปรอบๆ ดูเหมือนจะตรวจสอบว่ามีใครได้ยินบทสนทนาของพวกเขาหรือไม่ ก่อนจะก้มตัวลงเก็บเอกสารที่เหลือจนหมดและส่งคืนให้อิงฟ้า "คราวหน้าก็ระมัดระวังให้มากกว่านี้นะครับ คุณอิงฟ้า" คิณณ์พูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเป็นปกติขึ้น แต่ในความรู้สึกของอิงฟ้า มันกลับแฝงไว้ด้วยความหมายอื่น "ค่ะท่านประธาน" อิงฟ้าตอบรับอย่างว่าง่าย และกำลังจะเดินหนีไปอีกครั้ง แต่แล้วคิณณ์ก็ยังคงยืนอยู่ตรงนั้น ไม่ได้เดินจากไปไหน "คุณมีอะไรจะปรึกษาผมไหม?" คิณณ์ถามขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้เธอชะงักอีกครั้ง อิงฟ้าเงยหน้ามองเขาอีกครั้ง ด้วยความรู้สึกสับสนระคนประหลาดใจ "ปรึกษาเรื่องอะไรคะท่านประธาน?" คิณณ์สบตาเธอตรงๆ นัยน์ตาคมกริบของเขาเจาะลึกเข้ามาในดวงตาของเธอ ราวกับกำลังพยายามอ่านใจเธอ "เรื่องอะไรก็ได้ที่คุณไม่สบายใจ หรือเรื่องที่คุณคิดว่าผมจะช่วยได้" คำพูดของเขาดูเหมือนจะเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ มันกลับยิ่งทำให้อิงฟ้ากังวล เขาเป็นเจ้าหนี้ของเธอ และตอนนี้เขาก็เห็นเอกสารการจำนองบ้านของเธอแล้ว เขากำลังเล่นเกมอะไรอยู่? "ไม่มีค่ะท่านประธาน ดิฉันไม่มีอะไรจะปรึกษา" อิงฟ้าตอบปฏิเสธเสียงแข็ง เธอไม่อยากให้เขาเข้ามาวุ่นวายกับชีวิตเธอมากไปกว่านี้แล้ว คิณณ์มองเธออยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย "ถ้าอย่างนั้นก็กลับไปทำงานได้" อิงฟ้าถอนหายใจอย่างโล่งอก และรีบเดินหนีออกมาจากตรงนั้นทันที เธอเดินกลับมาที่โต๊ะทำงานด้วยความรู้สึกที่ปั่นป่วน เธอไม่อาจปฏิเสธได้ว่าคิณณ์ได้เห็นเอกสารการจำนองบ้านของเธอแล้ว และเขาก็คงจะรู้แล้วว่าบ้านของเธอเป็นบ้านเดียวกับที่เขาเป็นนายทุนรับจำนองไว้ ความลับที่เธอพยายามปกปิดมาตลอดกำลังจะถูกเปิดเผย ตลอดบ่ายวันนั้น อิงฟ้าพยายามจดจ่ออยู่กับงาน แต่สมาธิของเธอหลุดลอยไปไกล เธอรู้สึกเหมือนมีดวงตาคู่หนึ่งกำลังจ้องมองเธออยู่ตลอดเวลา แม้จะไม่ได้เห็นคิณณ์เดินผ่าน หรือได้ยินเสียงของเขา แต่ความรู้สึกนั้นก็ยังคงตามหลอกหลอน ตกเย็น อิงฟ้าตัดสินใจไม่ทำงานล่วงเวลา เธอรู้สึกไม่ปลอดภัยที่จะอยู่กับคิณณ์ตามลำพังในที่ทำงานอีกต่อไป เธอรีบเก็บของและเดินตรงไปยังลิฟต์ทันที ขณะที่เธอกำลังรอลิฟต์ สายตาของเธอก็พลันเหลือบไปเห็นคิณณ์เดินออกมาจากห้องทำงานของเขา เขากำลังเดินตรงมาทางเธอ อิงฟ้าแทบหยุดหายใจ เธอภาวนาให้ลิฟต์มาถึงเร็วๆ แต่แล้วคิณณ์ก็เดินมาหยุดอยู่ข้างเธอ สายตาของเขาจ้องมองเธอด้วยแววตาที่ยากจะคาดเดาเช่นเคย "คุณจะกลับแล้วเหรอครับ" คิณณ์ถาม "ค่ะท่านประธาน" อิงฟ้าตอบสั้นๆ พยายามไม่สบตาเขา "วันนี้คุณดูไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่นะ" คิณณ์พูดต่อ อิงฟ้าเลือกที่จะเงียบ เธอไม่อยากตอบคำถามใดๆ เกี่ยวกับความรู้สึกของเธอให้เขาได้รับรู้ "ถ้าคุณมีอะไรที่อยากจะคุยกับผมจริงๆ อย่าลังเลที่จะบอกนะครับ" คิณณ์พูดเสียงเรียบ แต่แววตาของเขากลับดูอ่อนโยนลงเล็กน้อย คำพูดนั้นทำให้หัวใจของอิงฟ้าสั่นไหว เธอรู้สึกเหมือนกำลังยืนอยู่ตรงทางแยก ระหว่างความไม่ไว้วางใจกับความรู้สึกประหลาดบางอย่างที่ก่อตัวขึ้นในใจ คิณณ์กำลังทำอะไรอยู่กันแน่? เขาเป็นคนดีที่เข้ามาช่วยเหลือเธอ หรือเขากำลังวางแผนบางอย่างเพื่อควบคุมชีวิตของเธอ?หลายเดือนผ่านไป ความสัมพันธ์ระหว่างอิงฟ้ากับคิณณ์ค่อย ๆ ก่อร่างสร้างตัวขึ้นอย่างมั่นคงและลึกซึ้ง อิงฟ้าได้เห็นคิณณ์ในมุมที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เขาไม่ใช่แค่เจ้านายผู้เย็นชา แต่เป็นผู้ชายที่อบอุ่น อ่อนโยน และใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เสมอ เขามักจะสังเกตเห็นเมื่อเธอเหนื่อยล้า และหาทางมาทำให้เธอผ่อนคลายอย่างแนบเนียน ไม่ว่าจะเป็นการสั่งกาแฟแก้วโปรดมาให้ หรือแค่เดินผ่านมาทักทายด้วยรอยยิ้มที่ทำให้ใจเธอสั่นไหวส่วนคิณณ์เองก็ตกหลุมรักอิงฟ้ามากขึ้นทุกวัน เขารู้สึกทึ่งกับความเข้มแข็ง ความอดทน และความสดใสที่เธอมี แม้จะเผชิญกับปัญหามากมายเพียงใด เธอก็ยังคงยิ้มและเดินหน้าต่อไปได้เสมอ เขามั่นใจแล้วว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่เขาตามหามาตลอดชีวิตความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่ใช่ความลับในที่ทำงานอีกต่อไป แม้จะไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ แต่การกระทำของคิณณ์ที่แสดงออกถึงความใส่ใจต่ออิงฟ้าอย่างเห็นได้ชัด ก็ทำให้เพื่อนร่วมงานต่างเข้าใจตรงกันว่าความสัมพันธ์ของพวกเขากำลังก้าวไปไกลกว่าแค่เจ้านายกับลูกน้อง"พี่อิงฟ้าคะ เมื่อไหร่จะมีข่าวดีคะเนี่ย ท่านประธานดูรักพี่อิงฟ้าจะแย่แล้วนะ" น้องเมย์แซวพลางยิ้มกว้
กุญแจบ้านที่คิณณ์คืนให้ยังคงอยู่ในมือของอิงฟ้า เอกสารสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ที่ไร้ดอกเบี้ยก็วางอยู่บนโต๊ะ ใบหน้าของคิณณ์ที่เต็มไปด้วยความจริงใจและความหวังผุดขึ้นในห้วงความคิด เธอใช้เวลาครุ่นคิดตลอดคืนเกี่ยวกับคำพูดของเขา ทุกคำพูดของเขา แม้จะเริ่มต้นจากความลับและการปิดบัง แต่ก็ดูเหมือนจะซ่อนความปรารถนาดีและความรู้สึกที่จริงใจเอาไว้"หนูจะลองดูค่ะแม่" อิงฟ้าพูดกับแม่ในเช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เธอกำลังจัดเตรียมอาหารเช้า "หนูจะลองให้โอกาสคุณคิณณ์"แม่มองหน้าอิงฟ้าด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความโล่งใจและกังวลในคราวเดียวกัน "อิงฟ้ามั่นใจแล้วเหรอลูก?""หนูไม่รู้ว่าหนูมั่นใจแค่ไหนค่ะแม่" อิงฟ้าสารภาพ "แต่หนูเชื่อว่าเขาไม่ได้มีเจตนาร้ายกับเราจริงๆ แล้วหนูก็อยากรู้ว่าเขาต้องการอะไรจากหนูจริงๆ"พ่อเดินเข้ามาร่วมวงสนทนา "ถ้าลูกตัดสินใจแล้ว พ่อกับแม่ก็อยู่ข้างลูกเสมอนะ" พ่อพูดพลางตบไหล่ลูกสาวเบาๆ "แต่ถ้ามันไม่ดีอย่างที่คิด ลูกต้องรีบบอกพ่อกับแม่นะ เราจะช่วยกันหาทางออก""ค่ะพ่อ" อิงฟ้ายิ้มให้กับพ่อและแม่ คำพูดของท่านทำให้เธอรู้สึกเข้มแข็งขึ้นเมื่อมาถึงบริษัท อิงฟ้าเดินตรงไปยังห้องทำงานของคิณณ์ด้วยหัวใจที่เ
กุญแจบ้านในมือของอิงฟ้าเย็นเฉียบ แต่กลับร้อนรุ่มราวกับเปลวไฟในใจของเธอ คำสารภาพรักและการเสนอจะยกเลิกสัญญาจำนองของคิณณ์ยังคงดังก้องอยู่ในโสตประสาท มันทั้งเป็นความหวังที่ริบหรี่และกับดักที่เธอไม่อาจเข้าใจ เธอเดินออกมาจากห้องทำงานของคิณณ์ด้วยความรู้สึกที่ปั่นป่วน เธอต้องการเวลาเพื่อลำดับความคิดและทำความเข้าใจกับสถานการณ์ที่ซับซ้อนเกินกว่าจินตนาการตลอดทางเดินกลับบ้าน ภาพของคิณณ์ปรากฏขึ้นในหัวเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งในมุมของนักธุรกิจที่เย็นชา เจ้าระเบียบ นายทุนลึกลับ และผู้ชายที่คุกเข่าสารภาพรักอย่างจริงจัง เธอจะเชื่อคำพูดของเขาได้มากแค่ไหน? หรือนี่เป็นเพียงกลลวงอันแยบยลของนักธุรกิจที่ช่ำชอง?เมื่อกลับถึงบ้าน พ่อกับแม่ก็รีบเดินเข้ามาหาด้วยสีหน้ากังวล"เป็นยังไงบ้างอิงฟ้า? คุณคิณณ์ว่ายังไงบ้าง?" แม่ถามด้วยน้ำเสียงร้อนรนอิงฟ้าเงียบไปครู่หนึ่ง เธอหยิบกุญแจบ้านออกมาจากกระเป๋าและวางลงบนฝ่ามือของแม่"เขา... เขายกเลิกสัญญาจำนองแล้วค่ะแม่" อิงฟ้าตอบเสียงเบา ใบหน้าของเธอไร้อารมณ์พ่อกับแม่มองหน้ากันด้วยความตกใจและไม่เชื่อหู"จริงเหรออิงฟ้า! ยกเลิกจริงเหรอ! แล้วเราจะเอาเงินที่ไหนไปจ่ายเขา!" พ่อถามเส
มือของคิณณ์ที่จับมือของอิงฟ้าไว้แน่นยังคงอุ่นซ่านไปทั่วสรรพางค์กาย คำสารภาพที่ว่า "ผมต้องการคุณจริงๆ คุณอิงฟ้า ผมไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อน" และการที่เขาเอากุญแจบ้านมาคืน มันทำให้โลกทั้งใบของอิงฟ้าหมุนคว้าง เธอไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกอย่างไรดี ระหว่างความโกรธที่ยังคงคุกรุ่น กับความรู้สึกประหลาดที่เริ่มก่อตัวขึ้นในใจ"ท่านประธาน... พูดอะไรคะ" อิงฟ้าถามเสียงสั่น ร่างกายยังคงแข็งทื่อคิณณ์กระชับมือเธอแน่นขึ้นเล็กน้อย ดวงตาคมกริบของเขาจ้องมองเธอด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความจริงใจและความรู้สึกผิดที่ยากจะปิดซ่อน"ผมรู้ว่ามันอาจจะยากที่จะเชื่อ" คิณณ์พูดเสียงทุ้มต่ำ "แต่ผมพูดความจริงทุกอย่าง" เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ "ผมขอเริ่มต้นอธิบายทุกอย่างให้คุณฟังอย่างละเอียดอีกครั้งได้ไหมครับ"อิงฟ้าเงียบไป เธอสับสนเกินกว่าจะปฏิเสธได้ในตอนนี้ เธอแค่พยักหน้ารับช้าๆ คิณณ์จึงค่อยๆ ปล่อยมือของเธอออก และเดินกลับไปนั่งลงบนเก้าอี้ทำงานของเขา พลางผายมือเชิญให้อิงฟ้าไปนั่งที่เก้าอี้รับรองฝั่งตรงข้าม"ผมเข้าใจว่าคุณคงรู้สึกโกรธและผิดหวังในตัวผมมาก" คิณณ์เริ่มต้นด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงกว่าปกติ "ผมไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังความจ
คำสารภาพของ คิณณ์ ที่ว่า "ผมต้องการคุณจริงๆ คุณอิงฟ้า ผมไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อน" ยังคงดังก้องอยู่ในหัวใจของอิงฟ้า เธอแทบไม่เชื่อหูตัวเอง ความรู้สึกหลากหลายตีกันมั่วไปหมด ทั้งโกรธที่ถูกหลอก เจ็บปวดที่โดนปิดบัง และประหลาดใจกับคำพูดที่เขาเอ่ยออกมา สถานการณ์นี้มันซับซ้อนเกินกว่าที่เธอจะรับไหวจริงๆอิงฟ้ามองหน้าคิณณ์ ใบหน้าของเขาจริงจัง แต่แววตากลับฉายแววปรารถนาและอ่อนโยนที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน"ท่านประธานกำลังพูดเรื่องอะไรคะ! นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน! ท่านประธานเป็นเจ้าหนี้ของดิฉัน! ท่านประธานหลอกให้ดิฉันจำนองบ้านกับบริษัทของท่านประธานเอง! แล้วท่านประธานจะมาพูดว่าต้องการดิฉันได้ยังไงคะ!" อิงฟ้าพูดเสียงสั่นเครือ น้ำตาเริ่มไหลอาบแก้ม เธอรู้สึกเหมือนโดนเล่นตลกกับชีวิตคิณณ์ยื่นมือออกไปราวกับจะแตะใบหน้าของเธอ แต่อิงฟ้าก็สะบัดหน้าหนีอย่างรวดเร็ว"ผมรู้ว่าผมทำผิดที่ไม่ได้บอกความจริงกับคุณตั้งแต่แรก" คิณณ์พูดเสียงเรียบ แต่แววตาของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด "แต่ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายคุณเลยแม้แต่น้อย""ไม่ทำร้ายเหรอคะ! การที่ดิฉันต้องมานั่งกินไม่ได้นอนไม่หลับ กังวลเรื่องบ้านแทบตาย โดยที่ท่านปร
คำสารภาพของคิณณ์ที่ว่า "ผมคิดว่าผม... สนใจในตัวคุณ คุณอิงฟ้า" ยังคงดังก้องอยู่ในโสตประสาทของอิงฟ้า เธอแทบไม่เชื่อหูตัวเอง ความรู้สึกหลากหลายตีกันมั่วไปหมด ทั้งตกใจ สับสน และประหลาดใจ ยิ่งเขาบอกว่า "ผมคิดว่าคุณคือคนที่ผมตามหามาตลอด" ก็ยิ่งทำให้เธอรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังหลุดเข้าไปในโลกอีกใบที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน"ท่านประธาน... คือ... ดิฉันไม่เข้าใจค่ะ" อิงฟ้าตอบเสียงแผ่ว ใบหน้าร้อนผ่าว เธอไม่รู้ว่าจะต้องตอบสนองต่อสถานการณ์นี้อย่างไรคิณณ์ยิ้มบางๆ ที่มุมปาก ดวงตาคมกริบของเขายังคงจ้องมองเธอด้วยความรู้สึกที่ยากจะคาดเดา "คุณไม่จำเป็นต้องเข้าใจในตอนนี้หรอกครับ แค่รู้ไว้ว่าผมไม่ได้ตั้งใจจะเอาเปรียบคุณ" เขาพูด พลางลดมือลงจากไหล่ของเธอ "และที่สำคัญ ผมหวังว่าการช่วยเหลือในครั้งนี้จะทำให้คุณมองผมในแง่ดีขึ้นบ้าง"อิงฟ้ายังคงยืนนิ่ง เธอรู้สึกเหมือนโดนดึงเข้าไปในเกมที่เธอไม่รู้จักกฎ คิณณ์เดินกลับไปนั่งที่เก้าอี้ทำงานของเขา ราวกับว่าบทสนทนาอันแสนประหลาดเมื่อครู่เป็นเพียงเรื่องปกติทั่วไป"เอาล่ะ... กลับไปทำงานได้แล้ว" คิณณ์พูดเสียงเรียบ แต่แววตาของเขากลับดูมีนัยยะบางอย่างที่อิงฟ้าอ่านไม่ออกอิงฟ้าเด