Share

บทที่ 3

Author: บุปผาเดือนเพ็ญ
ความห่วงใยอย่างจริงใจของท่านโหวกับฮูหยิน ทำให้ใจข้ารู้สึกขมปร่า

หลังจากที่บิดามารดาสิ้นชีพในสงคราม ข้าก็กลายเป็นเด็กกำพร้า ท่านโหวและฮูหยินเลี้ยงดูข้าจนเติบใหญ่ มอบความรักและทุกสิ่งทุกอย่างให้แก่ข้า

ข้าเชื่อฟังมาโดยตลอด แต่ครั้งนี้ ข้ากลับต้องขัดใจพวกท่านแล้ว

ข้ามองพวกท่าน แล้วกล่าวอย่างหนักแน่นว่า “ท่านโหว ฮูหยิน ข้าจะไม่แต่งงานกับซื่อจื่อแล้วเจ้าค่ะ”

“วันพรุ่งนี้ข้าจะลงใต้ไปยังเจียงหนาน หลังจากนี้ข้าจะไม่ได้ปรนนิบัติท่านทั้งสองอยู่ข้างกายแล้ว ท่านทั้งสองต้องดูแลตัวเองให้ดีนะเจ้าคะ”

ฮูหยินชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วก็ร้อนใจขึ้นมาทันที “พ่อแม่ของเจ้าตายในสนามรบ เจ้าเติบโตต่อหน้าพวกเรามาตั้งแต่เล็ก จวนโหวต่างหากที่เป็นบ้านของเจ้า หากตอนนี้เจ้าจะไป แล้วจะไปที่ไหนได้”

“หรือว่าเป็นเพราะวั่งโจวรังแกเจ้าเพื่อสตรีแซ่กู้นางนั้น เจ้าถึงได้ไม่คิดจะแต่งงานกับเขาแล้ว?”

“เจ้าอย่าได้คิดเช่นนั้นเด็ดขาด ในใจของเขามีเจ้าอยู่ มิฉะนั้นคงไม่เสี่ยงชีวิตช่วยเจ้าไว้ถึงสองครั้ง ทุกครั้งที่ถึงวันเกิดเจ้า เขาจะเสาะหาของล้ำค่าต่าง ๆ นานาล่วงหน้าไว้นานมาก ข้ารู้ว่าเจ้าเองก็ชอบวั่งโจว เจ้าเรียนทำอาหารเพื่อเขา นวดกดจุดบรรเทาอาการปวดมือให้เขาทุกวัน หากพวกเจ้าได้แต่งงานกัน จะต้องมีความสุขสมหวังแน่นอน!”

“อีกอย่างสตรีแซ่กู้นางนั้นเป็นสตรีไม่ดี พวกเราจะปล่อยให้นางสมหวังไม่ได้ เจ้าอย่าได้ประชดด้วยการจากไปเด็ดขาดนะ!”

ชาติก่อน พวกท่านก็เกลี้ยกล่อมข้าเช่นนี้

สุดท้ายข้าสูญเสียสามี พวกท่านสูญเสียบุตรชาย ทุกคนต่างเสียใจไปชั่วชีวิต

ข้าเช็ดน้ำตาที่หางตาของฮูหยินเบา ๆ แล้วปลอบโยนด้วยเสียงแผ่วเบา

“ฮูหยินเจ้าคะ ฝืนใจคนย่อมไม่มีความสุข นางในดวงใจของพี่วั่งโจวไม่ใช่ข้า จริง ๆ ข้าไม่ควรบังคับให้เขาแต่งงานกับข้า”

“เมื่อคืนข้าฝันไปเจ้าค่ะ ฝันว่าเขาแต่งงานกับข้าแล้ว แต่เขาไม่ยอมพบหน้าข้า ทุกวันเอาแต่โหมทำงานราชการจนร่างกายทรุดโทรม ข้าวต้มที่ข้าทำไปให้เขาก็ไม่ยอมกิน ป่วยไข้ก็ไม่ยอมให้ข้าดูแล เขาบอกว่าข้ามอบความเจ็บปวดให้เขามากกว่าความสุข กระทั่งเพื่อช่วยข้า เขาจึงตายตอนอายุสามสิบ”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ หัวใจของข้าก็เจ็บปวดจนหายใจแทบไม่ออก

ฮูหยินอึ้งไป “นี่... แต่นี่ก็เป็นแค่ความฝันนะ นานนาน วั่งโจวไม่มีทางเป็นแบบนั้นหรอก”

ข้าสูดจมูก พยายามฝืนยิ้มออกมา

“ท่านโหว ฮูหยิน ความฝันคือลางบอกเหตุ ข้าคิดว่าเขาไม่ต้องแต่งงานกับข้าก็ได้ พวกเราไม่จำเป็นต้องเป็นสามีภรรยากัน แต่ข้าอยากให้เขามีอายุยืนยาวร้อยปี”

“อีกทั้งแม้ว่าฐานะของเขาสูงส่ง แต่ก็มีเรื่องมากมายที่ตนเองตัดสินใจไม่ได้ แต่ข้าคิดว่าอย่างน้อยเรื่องการแต่งงาน ก็ควรให้เขาได้เลือกด้วยตนเองเจ้าค่ะ”

ข้าคุกเข่าลง โขกศีรษะคำนับสามครั้งหนัก ๆ

“ข้าได้รับหนังสืออนุญาตออกนอกเมืองมาแล้ว ขอท่านโหวกับฮูหยินโปรดเมตตาอนุเคราะห์ให้ข้าเถิด บุญคุณที่พวกท่านเลี้ยงดู จือเสวี่ยจะไม่ลืมไปชั่วชีวิต และจะขอตอบแทนให้จงได้”

ท่านโหวเม้มปาก ก่อนจะพยุงข้าให้ลุกขึ้น

ฮูหยินปาดน้ำตา พลางหยิบตั๋วเงินจำนวนมากยัดใส่มือข้า

“ในเมื่อเป็นเรื่องที่นานนานตัดสินใจดีแล้ว ข้าก็จะตามใจเจ้า แต่เจ้าจงจำไว้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จวนหย่งหนิงโหวจะเป็นบ้านของเจ้าเสมอ”

น้ำตาของข้าพลันร่วงหล่นลงมา โผเข้ากอดฮูหยิน “ขอบคุณฮูหยินเจ้าค่ะ”

ขอเพียงข้าตัดขาดวาสนากับเจียงวั่งโจว โศกนาฏกรรมในชาติก่อนก็จะไม่เกิดขึ้นอีก เขาจะมีอายุยืนยาวร้อยปี ท่านโหวและฮูหยินจะไม่เสียใจจนแทบขาดใจ และไม่เกลียดข้าเข้ากระดูกดำ

ในชาตินี้ ทุกคนจะสมหวัง

ความเสียใจประการที่สองในบันทึกของเจียงวั่งโจว ก็น่าจะถือว่าสำเร็จแล้วสินะ

ข้าต้องทำความเสียใจสามประการของเขาให้สำเร็จภายในสิบสองชั่วยาม ยังเหลือความเสียใจสุดท้ายที่ต้องทำให้สำเร็จ จะราบรื่นหรือไม่นะ?

ตอนกลางคืน ข้าไปยังหอเด็ดดารา

ทุกหนทุกแห่งเต็มไปด้วยคู่สามีภรรยาที่มาขอพรให้ได้ครองคู่กันไปชั่วนิรันดร์

“ซ่งจือเสวี่ย” ทันใดนั้นก็มีเสียงที่คุ้นเคยดังเข้ามาในหู ข้าพลันหันกลับไปมองด้วยความดีใจ ทว่าเห็นเพียงสีหน้าบึ้งตึงของเจียงวั่งโจว

เขาคว้าข้อมือของข้าไว้ หางตาแดงก่ำด้วยความโกรธเกรี้ยว

“เจ้ารู้อยู่แก่ใจว่าข้าเกลียดคนประเภทใช้อำนาจรังแกผู้อื่นที่สุด ข้าแค่ไม่ได้กลับจวนเป็นเพื่อนเจ้า เจ้าก็ไปยุยงต่อหน้าพ่อแม่ของข้า ให้พวกท่านไปเหยียดหยามหว่านเหอ ตอนนี้นางคิดสั้นดื่มยาพิษฆ่าตัวตายแล้ว เจ้าพอใจแล้วหรือยัง?”

ข้อมือของข้าเจ็บปวดราวกับจะถูกเขาบีบจนหัก ใบหน้าพลันซีดเผือดทันที
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หนึ่งฝันหวนคืน ครองคู่กับท่าน   บทที่ 9

    “บางทีตอนนี้ท่านอาจจะยังมองไม่เห็นความรู้สึกในใจที่มีต่อข้าอย่างชัดเจน ท่านดีเช่นนี้อาจเป็นเพราะรู้สึกผิดต่อข้าในเรื่องนั้น บางทีท่านอาจจะแค่รู้สึกว่าท่านโหวและฮูหยินชอบข้า ข้าจึงเหมาะสมที่จะเป็นพระชายาซื่อจื่อ แต่ข้าไม่ต้องการความรู้สึกผิดนี้”“พี่วั่งโจว ไม่ต้องมาตามหาข้าอีกแล้ว”ข้าผลักร่มกระดาษน้ำมันของเจียงวั่งโจวออกไป หันหลังแล้ววิ่งเข้าไปในสายฝนข้ากลัวว่าในชั่วอึดใจต่อมา จะอดไม่ได้ที่จะโผเข้าไปในอ้อมกอดของเจียงวั่งโจวแล้วร้องไห้ออกมาแต่ในชาตินี้ ข้าจะเห็นแก่ตัวอีกไม่ได้แล้วหลังจากนั้น เจียงวั่งโจวก็ไม่ได้มาตามหาข้าอีก เพียงแต่ที่หน้าประตูบ้านมักจะมีของที่ข้าเคยชอบปรากฏขึ้นเป็นครั้งคราวเจียงวั่งโจวราวกับอยากจะตามหาตัวข้าในอดีตกลับคืนมา บางครั้งก็ส่งขนมที่ข้าชอบกินตอนอยู่ที่จวนโหวมาให้ บางครั้งก็ส่งของเล่นชิ้นเล็ก ๆ ที่ข้าเคยอ้อนวอนให้เขาทำให้ตอนเด็ก ๆข้าไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า เจียงวั่งโจวจะจำได้ทั้งหมดวันนี้ ข้ามาส่งนักเรียนในสำนักศึกษาเพื่อเดินทางไปเมืองหลวงเข้าสอบ ที่ท่าเรือออกเมือง รอบข้างพลันเกิดความโกลาหลขึ้น มีชายชุดดำสวมหน้ากากจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งออกมาจากในน้ำ

  • หนึ่งฝันหวนคืน ครองคู่กับท่าน   บทที่ 8

    กู้หว่านเหอถูกลากตัวออกไปแต่เสียงหัวเราะของนางราวกับคมมีดที่ทิ่มแทงเข้าไปในหัวใจของเจียงวั่งโจวอย่างแรง จนเขาเจ็บปวดแทบหายใจไม่ออกคนที่ใช้คำพูดร้ายกาจทำร้ายซ่งจือเสวี่ยคือเขา คนที่ต้องการเอาเลือดหัวใจของซ่งจือเสวี่ยก็คือเขาเช่นกันความโศกเศร้าอย่างใหญ่หลวงถาโถมเข้ามา จนเขาแทบจะยืนไม่อยู่หลังจากออกจากเมืองหลวง ข้าไม่ได้ไปที่เจียงหนานข้าอยากไปดูสถานที่ที่บิดามารดาเคยสู้รบมาตลอดชีวิต เดินทางอยู่ระยะหนึ่ง ก็มาถึงหลิ่งหนานที่นี่ไม่มั่งคั่งร่ำรวยเหมือนเมืองหลวง แต่ผู้คนก็เรียบง่ายและซื่อตรงชาวประมงที่พายเรือยิ้มแล้วกล่าว“ที่หลิ่งหนานมีศัตรูจากภายนอกมารุกรานบ่อย ๆ ดูจากการแต่งกายของแม่นางแล้วไม่ใช่คนร่ำรวยก็สูงศักดิ์ เหตุใดถึงมาที่นี่หรือ?”ข้าไม่ได้เอ่ยคำใดบิดามารดาปกป้องที่นี่มาตลอดชีวิต ข้าก็อยากทำให้สถานที่ที่บิดามารดาเคยปกป้องดีขึ้นอีกสักหน่อยข้าเปิดสำนักศึกษาเอกชนแห่งหนึ่งที่นี่ และใช้เงินที่หามาได้ก่อตั้งสำนักศึกษาอันจี้ขึ้น และรับอุปการะเด็กที่ไร้บ้านจากภัยสงครามพวกเขาจะไม่ถูกคนอื่นรังแกเหมือนข้าในตอนนั้นอีกอยู่ที่นี่ พวกเขาก็สามารถแข็งแกร่งขึ้นได้ด้วยตนเองวั

  • หนึ่งฝันหวนคืน ครองคู่กับท่าน   บทที่ 7

    ท่านโหวชะงักไปครู่หนึ่ง แววตาหม่นลงฮูหยินจวนโหวที่เงียบมาตลอดกลับหัวเราะอย่างขมขื่นออกมา“วั่งโจว เจ้ากล้าพูดหรือไม่ว่าเจ้าไม่รักนานนาน?”“หากเจ้าไม่รักนาง เหตุใดถึงต้องเสี่ยงชีวิตครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อช่วยนาง?”ริมฝีปากของเจียงวั่งโจวอ้าค้าง ไม่สามารถเปล่งเสียงใด ๆ ออกมาได้อีกเขารัก รักจนสามารถแลกด้วยชีวิตได้เพียงแต่ พวกเขาบีบคั้นหนักเกินไป เขาแค่ไม่ต้องการจะรักตามความปรารถนาของพวกเขา เขาอยากมีสิทธิ์ตัดสินใจด้วยตนเองเขาจึงได้ละเลยไป ว่าตนเองรักซ่งจือเสวี่ยมากเพียงใดฮูหยินจวนโหวกล่าวต่อ“เมื่อวานนานนานมาเพื่อบอกลาพวกเรา เด็กผู้มีจิตใจอ่อนโยนและน่าสงสารผู้นี้ ก่อนที่นางจะจากไป ความปรารถนาเพียงหนึ่งเดียวของนางก็คือขอให้เจ้าอายุยืนยาวร้อยปี มีความสุขสงบทุกปี”เจียงวั่งโจวพลันนึกถึงคำอำลาที่ซ่งจือเสวี่ยกล่าวเมื่อวาน สีหน้าแข็งทื่อไป นิ่งงันไปครู่หนึ่งถึงได้เปล่งเสียงออกมา“แต่ถ้านางมาเพื่อกล่าวอำลาจริง ๆ เหตุใดถึงต้องทูลขอราชโองการพระราชทานสมรสกับข้าด้วย”ฮูหยินจวนโหวถอนหายใจยาว กล่าวด้วยน้ำเสียงเสียดาย“เจ้าดูให้ดี ๆ สิว่าบนราชโองการนั่นเขียนว่าอะไรกันแน่?”ในหัวของเจี

  • หนึ่งฝันหวนคืน ครองคู่กับท่าน   บทที่ 6

    เจียงวั่งโจวตกใจอย่างยิ่ง แต่ก็ดึงสติกลับมาได้อย่างรวดเร็ว เขาขมวดคิ้ว“คงเป็นแค่คนชื่อแซ่เดียวกันกระมัง ราชโองการพระราชทานสมรสก็ลงมาแล้ว พวกเราจะไปเจียงหนานกันในอีกห้าวันข้างหน้า นางจะออกนอกเมืองในเวลานี้ได้อย่างไร”ท่านหมอเข้ามารายงาน“ซื่อจื่อ ก่อนที่นางจะจากไป แม่นางซ่งให้ข้านำคำพูดมาเรียนท่านขอรับ”“นางได้เดินทางไปเจียงหนานที่ห่างออกไปพันลี้แล้ว ขอให้ต่างคนต่างมีความสุข หวังว่าท่านจะไม่คิดถึง”เสียงของหมอที่ดังเข้ามาในหูของเจียงวั่งโจว ราวกับอสนีบาตที่ฟาดลงมาอย่างรุนแรงเจียงวั่งโจวผู้ไม่เคยเสียกิริยามาก่อน ในยามนี้กลับโซซัดโซเซจนแทบจะทรงตัวไม่อยู่ที่แท้คำพูดที่ซ่งจือเสวี่ยกล่าวในตอนนั้นว่าสมดังปรารถนา อายุยืนยาวร้อยปีคือการกล่าวอำลาเขานั่นเองชั้นบางสีแดงเรื่อเอ่อขึ้นมาราวสายน้ำ แผ่ซ่านขึ้นมาจนถึงกรอบดวงตา ริมฝีปากของเจียงวั่งโจวสั่นเทาพยายามข่มกลั้นอย่างสุดกำลัง“เป็นไปไม่ได้!”ซ่งจือเสวี่ยที่เขาเกือบต้องเสี่ยงชีวิตช่วยกลับมาหลายต่อหลายครั้ง จะมาตายจากไปง่าย ๆ เช่นนี้ได้อย่างไร?องครักษ์กล่าวด้วยน้ำเสียงปวดใจ“คนที่มารายงานกล่าวว่าเห็นรถม้าของแม่นางซ่งมุ่งหน้าไปทา

  • หนึ่งฝันหวนคืน ครองคู่กับท่าน   บทที่ 5

    ข้าพยักหน้า “เจ้าค่ะ”อาจเป็นเพราะเห็นว่าใบหน้าข้าซีดเผือด คิ้วของเขาจึงขมวดมุ่นอยู่ตลอดเวลา “เมื่อวานข้าอาจพูดแรงไปบ้าง เจ้าอย่าได้เก็บไปใส่ใจเลย แต่หว่านเหอเป็นผู้บริสุทธิ์ เรื่องระหว่างเราสองคน ไม่ควรดึงนางเข้ามาเกี่ยวข้อง ต่อไปอย่าไปฟ้องอีก”เมื่อได้ยินคำพูดของเขา ในใจข้าก็เจ็บแปลบขึ้นมาเล็กน้อยอีกคราแต่ข้าก็ไม่ได้เอ่ยคำอธิบายอย่างน้อยเนื้อต่ำใจเหมือนชาติก่อน เพียงคลี่ยิ้มบางที่มุมปาก“อืม จะไม่มีครั้งต่อไปอีกแล้ว”เจียงวั่งโจวจัดผ้าห่มให้ข้า“เมื่อคืนข้าไม่ได้อยู่ชมดาวตกเป็นเพื่อนเจ้า หลังแต่งงานข้าจะกลับบ้านเดิมเป็นเพื่อนเจ้าก็แล้วกัน ข้าจำได้ว่าเจ้าชอบเจียงหนาน พอถึงบ้านเดิมแล้ว เราไปเที่ยวที่นั่นกัน”ข้าชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยด้วยรอยยิ้มบางเบา “ไม่ต้องแล้วเจ้าค่ะ”“ท่านไม่ต้องชดเชยเรื่องเมื่อคืนให้ข้าหรอก เป็นข้าที่เต็มใจช่วยแม่นางกู้เอง”เจียงวั่งโจวนิ่งไปครู่หนึ่ง ในแววตาของเขาฉายแววสับสน“ข้าเตรียมรถม้าที่จะออกนอกเมืองไว้ให้อีกห้าวันข้างหน้า รอให้เจ้าพักฟื้นจนดีขึ้น เราค่อยออกเดินทางกัน”ข้าจ้องมองเจียงวั่งโจวอย่างไม่วางตา ไม่ได้เอ่ยคำใดอีกเขาถือถ้วยไว้ในมื

  • หนึ่งฝันหวนคืน ครองคู่กับท่าน   บทที่ 4

    ชาติก่อนเพราะข้าแต่งงานกับเจียงวั่งโจว กู้หว่านเหอจึงคิดสั้น หนึ่งเดือนให้หลังนางจึงดื่มพิษกู่ฆ่าตัวตาย เจียงวั่งโจวหาโลหิตที่เข้ากันมาถอนพิษให้นางไม่ได้ ทำได้เพียงมองดูนางสิ้นใจไปต่อหน้าต่อตาด้วยเหตุนี้เขาจึงเกลียดข้าเข้ากระดูกดำ จนวินาทีที่เขาตายก็ยังคงเกลียดข้าแต่ในชาตินี้ ข้าไม่ได้แต่งงานกับเขา เหตุใดกู้หว่านเหอถึงยังฆ่าตัวตายอีกเล่าเดิมทีข้ายังคงคิดอยู่ว่าจะทำความปรารถนาข้อที่สามของเขาให้สำเร็จได้อย่างไรตอนนี้ กลับมีคนส่งมาให้ถึงที่แล้วข้ามองเขา “เช่นนั้น ท่านมาหาข้าเพื่อเอาโลหิตไปถอนพิษกู่ใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจียงวั่งโจวก็ตกตะลึงไป ดูเหมือนคาดไม่ถึงว่าข้าจะพูดเช่นนี้ ทั้งยังปากด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ“เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้ารึ เจ้าทำให้หว่านเหอต้องอัปยศจนดื่มยาพิษ ก็สมควรชดใช้โทษบาปอยู่แล้ว”เขาจับข้าไปยังจวนของกู้หว่านเหอกู้หว่านเหอนอนหายใจรวยรินอยู่บนเตียง ท่านหมอหยิบกริชออกมา กรีดลงบนแขนของข้าหนึ่งครั้ง ความเจ็บปวดแล่นปราดขึ้นมาตามแขน ข้าส่งเสียงครางต่ำเบา ๆท่านหมอกล่าวอย่างยินดี “พิษกู่มีปฏิกิริยา โลหิตของแม่นางเข้ากันได้จริง ๆ”“แต่การช่วยคนจำเป็นต้

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status