แชร์

บทที่ 5

ผู้เขียน: บุปผาเดือนเพ็ญ
ข้าพยักหน้า “เจ้าค่ะ”

อาจเป็นเพราะเห็นว่าใบหน้าข้าซีดเผือด คิ้วของเขาจึงขมวดมุ่นอยู่ตลอดเวลา “เมื่อวานข้าอาจพูดแรงไปบ้าง เจ้าอย่าได้เก็บไปใส่ใจเลย แต่หว่านเหอเป็นผู้บริสุทธิ์ เรื่องระหว่างเราสองคน ไม่ควรดึงนางเข้ามาเกี่ยวข้อง ต่อไปอย่าไปฟ้องอีก”

เมื่อได้ยินคำพูดของเขา ในใจข้าก็เจ็บแปลบขึ้นมาเล็กน้อยอีกครา

แต่ข้าก็ไม่ได้เอ่ยคำอธิบายอย่างน้อยเนื้อต่ำใจเหมือนชาติก่อน เพียงคลี่ยิ้มบางที่มุมปาก

“อืม จะไม่มีครั้งต่อไปอีกแล้ว”

เจียงวั่งโจวจัดผ้าห่มให้ข้า

“เมื่อคืนข้าไม่ได้อยู่ชมดาวตกเป็นเพื่อนเจ้า หลังแต่งงานข้าจะกลับบ้านเดิมเป็นเพื่อนเจ้าก็แล้วกัน ข้าจำได้ว่าเจ้าชอบเจียงหนาน พอถึงบ้านเดิมแล้ว เราไปเที่ยวที่นั่นกัน”

ข้าชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยด้วยรอยยิ้มบางเบา “ไม่ต้องแล้วเจ้าค่ะ”

“ท่านไม่ต้องชดเชยเรื่องเมื่อคืนให้ข้าหรอก เป็นข้าที่เต็มใจช่วยแม่นางกู้เอง”

เจียงวั่งโจวนิ่งไปครู่หนึ่ง ในแววตาของเขาฉายแววสับสน

“ข้าเตรียมรถม้าที่จะออกนอกเมืองไว้ให้อีกห้าวันข้างหน้า รอให้เจ้าพักฟื้นจนดีขึ้น เราค่อยออกเดินทางกัน”

ข้าจ้องมองเจียงวั่งโจวอย่างไม่วางตา ไม่ได้เอ่ยคำใดอีก

เขาถือถ้วยไว้ในมือ มือของเขาเหมือนจะสั่นเทาอย่างหนัก

มือของเขาเคยบาดเจ็บจนเส้นเอ็นเสียหายอย่างหนัก ทุกครั้งที่ฝนตกฟ้าครึ้มก็จะปวด

ก็เหมือนเช่นตอนนี้ เพียงแค่ถือถาดอาหาร ก็ยังลำบากถึงเพียงนี้

ปลายจมูกพลันรู้สึกแสบร้อน ข้าเอ่ยถามด้วยความปวดใจ “ท่านเสียใจหรือไม่ที่ช่วยข้าจนต้องกลายเป็นเช่นนี้?”

สีหน้าแววตาของเจียงวั่งโจวสงบนิ่ง

“ไม่มีสิ่งใดให้ต้องเสียใจ หากเป็นผู้อื่น ข้าก็จะช่วยเช่นกัน”

ประกายในดวงตาของข้าพลันมอดดับลง น้ำเสียงเบาลงเรื่อย ๆ

“ครั้งนั้นที่ข้าติดโรคระบาด ท่านปีนหน้าผาสูงชันเพื่อเก็บบัวหิมะ หากเป็นผู้อื่นท่านก็จะทำเช่นนั้นหรือ?”

“อืม”

ไม่มีสิ่งใดเป็นพิเศษดังคาด

ในดวงตาของข้ามีน้ำเอ่อคลอ แต่ก็ยังพยายามเค้นรอยยิ้มออกมา

“พี่วั่งโจว ขอบคุณท่านที่ช่วยข้าครั้งแล้วครั้งเล่า”

“ข้าไร้บิดามารดามาแต่เล็ก ปรารถนาที่จะมีบ้านเหลือเกิน จึงได้บีบบังคับท่านให้แต่งงานกับข้า”

“ความเอาแต่ใจของข้า คงทำให้ท่านลำบากและต้องทนทุกข์ทรมานมากสินะ?”

แต่ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จะไม่เป็นเช่นนี้อีกแล้ว

เขาไม่จำเป็นต้องทอดทิ้งนางในดวงใจ แล้วถูกบีบบังคับให้แต่งงานกับข้า

และจะไม่ต้องทรมานซึ่งกันและกันนับสิบปี ยิ่งไปกว่านั้น จะไม่ต้องตายตอนอายุสามสิบปีเพราะข้า

ในชาตินี้ เขาจะมีชีวิตที่ดี

ข้าคล้ายจะเห็นแววตื่นตระหนกในดวงตาของเจียงวั่งโจวเล็กน้อย เขาอ้าปากทำท่าจะพูดอะไรบางอย่าง กลับถูกสาวใช้ที่วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาขัดจังหวะ

“ซื่อจื่อ คุณหนูของบ่าวฟื้นแล้วเจ้าค่ะ! นางร้อนใจตามหาท่าน ไม่ยอมกินอะไรเลย ท่านรีบไปดูหน่อยเถิดเจ้าค่ะ!”

รอยยิ้มบางเบาปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาของเจียงวั่งโจว เขามองข้าแวบหนึ่งแล้วลุกขึ้นเตรียมจะไป

“รอข้ากลับมา”

“พี่วั่งโจว” ข้าเรียกเขาไว้ บนใบหน้าปรากฏรอยยิ้มที่สดใสที่สุด “ขอโทษนะเจ้าคะ และขอให้ชีวิตของท่านหลังจากนี้ราบรื่น มีอายุยืนยาวถึงร้อยปี”

เจียงวั่งโจวประหลาดใจยิ่งนัก รู้สึกกระวนกระวายอย่างไม่มีสาเหตุ “อยู่ดี ๆ ก็พูดเช่นนี้ทำไม ข้าแค่ไปดูหว่านเหอ เดี๋ยวก็กลับมาแล้ว เจ้าว่าง่ายกินอาหาร รอข้ากลับมา ข้ามีเรื่องจะพูดกับเจ้า”

พูดจบ เขาก็หันหลังเดินจากไป

อีกไม่นานก็จะถึงยามซื่อแล้ว ข้าฝืนกายลุกขึ้นลงจากเตียง

ท่านหมอมาตรวจชีพจรให้ข้า และยังสั่งยาบำรุงไว้ให้

ข้ายิ้มอย่างรู้สึกขอบคุณ “ข้าจะกินยาให้ดี ขอบคุณท่านหมอมาก และรบกวนท่านช่วยบอกซื่อจื่อด้วยว่า ข้าเดินทางไปเจียงหนานแล้ว ขอให้เขาดูแลตัวเองให้ดี ไม่ต้องเป็นห่วง”

หลังจากเจียงวั่งโจวพบกู้หว่านเหอเสร็จ ก็รีบรุดกลับมายังห้องปีก

แต่ในห้องกลับว่างเปล่า เขาเรียกคนมาถาม “แม่นางซ่งล่ะ? นางยังบาดเจ็บอยู่ ไปไหนแล้ว?”

คนรับใช้ยังไม่ทันได้ตอบ องครักษ์ก็วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา

“ซื่อจื่อ แย่แล้วขอรับ! ระหว่างทางออกนอกเมืองมีโจรภูเขาปล้นชิง ชาวบ้านที่ประสบเหตุถูกฟันบาดเจ็บแต่ยังรอดชีวิต มีเพียงแม่นางซ่งที่เพิ่งเสียโลหิตหัวใจไป...เสียเลือดมากเกินไปจนสิ้นชีวิตแล้ว!”
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • หนึ่งฝันหวนคืน ครองคู่กับท่าน   บทที่ 9

    “บางทีตอนนี้ท่านอาจจะยังมองไม่เห็นความรู้สึกในใจที่มีต่อข้าอย่างชัดเจน ท่านดีเช่นนี้อาจเป็นเพราะรู้สึกผิดต่อข้าในเรื่องนั้น บางทีท่านอาจจะแค่รู้สึกว่าท่านโหวและฮูหยินชอบข้า ข้าจึงเหมาะสมที่จะเป็นพระชายาซื่อจื่อ แต่ข้าไม่ต้องการความรู้สึกผิดนี้”“พี่วั่งโจว ไม่ต้องมาตามหาข้าอีกแล้ว”ข้าผลักร่มกระดาษน้ำมันของเจียงวั่งโจวออกไป หันหลังแล้ววิ่งเข้าไปในสายฝนข้ากลัวว่าในชั่วอึดใจต่อมา จะอดไม่ได้ที่จะโผเข้าไปในอ้อมกอดของเจียงวั่งโจวแล้วร้องไห้ออกมาแต่ในชาตินี้ ข้าจะเห็นแก่ตัวอีกไม่ได้แล้วหลังจากนั้น เจียงวั่งโจวก็ไม่ได้มาตามหาข้าอีก เพียงแต่ที่หน้าประตูบ้านมักจะมีของที่ข้าเคยชอบปรากฏขึ้นเป็นครั้งคราวเจียงวั่งโจวราวกับอยากจะตามหาตัวข้าในอดีตกลับคืนมา บางครั้งก็ส่งขนมที่ข้าชอบกินตอนอยู่ที่จวนโหวมาให้ บางครั้งก็ส่งของเล่นชิ้นเล็ก ๆ ที่ข้าเคยอ้อนวอนให้เขาทำให้ตอนเด็ก ๆข้าไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า เจียงวั่งโจวจะจำได้ทั้งหมดวันนี้ ข้ามาส่งนักเรียนในสำนักศึกษาเพื่อเดินทางไปเมืองหลวงเข้าสอบ ที่ท่าเรือออกเมือง รอบข้างพลันเกิดความโกลาหลขึ้น มีชายชุดดำสวมหน้ากากจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งออกมาจากในน้ำ

  • หนึ่งฝันหวนคืน ครองคู่กับท่าน   บทที่ 8

    กู้หว่านเหอถูกลากตัวออกไปแต่เสียงหัวเราะของนางราวกับคมมีดที่ทิ่มแทงเข้าไปในหัวใจของเจียงวั่งโจวอย่างแรง จนเขาเจ็บปวดแทบหายใจไม่ออกคนที่ใช้คำพูดร้ายกาจทำร้ายซ่งจือเสวี่ยคือเขา คนที่ต้องการเอาเลือดหัวใจของซ่งจือเสวี่ยก็คือเขาเช่นกันความโศกเศร้าอย่างใหญ่หลวงถาโถมเข้ามา จนเขาแทบจะยืนไม่อยู่หลังจากออกจากเมืองหลวง ข้าไม่ได้ไปที่เจียงหนานข้าอยากไปดูสถานที่ที่บิดามารดาเคยสู้รบมาตลอดชีวิต เดินทางอยู่ระยะหนึ่ง ก็มาถึงหลิ่งหนานที่นี่ไม่มั่งคั่งร่ำรวยเหมือนเมืองหลวง แต่ผู้คนก็เรียบง่ายและซื่อตรงชาวประมงที่พายเรือยิ้มแล้วกล่าว“ที่หลิ่งหนานมีศัตรูจากภายนอกมารุกรานบ่อย ๆ ดูจากการแต่งกายของแม่นางแล้วไม่ใช่คนร่ำรวยก็สูงศักดิ์ เหตุใดถึงมาที่นี่หรือ?”ข้าไม่ได้เอ่ยคำใดบิดามารดาปกป้องที่นี่มาตลอดชีวิต ข้าก็อยากทำให้สถานที่ที่บิดามารดาเคยปกป้องดีขึ้นอีกสักหน่อยข้าเปิดสำนักศึกษาเอกชนแห่งหนึ่งที่นี่ และใช้เงินที่หามาได้ก่อตั้งสำนักศึกษาอันจี้ขึ้น และรับอุปการะเด็กที่ไร้บ้านจากภัยสงครามพวกเขาจะไม่ถูกคนอื่นรังแกเหมือนข้าในตอนนั้นอีกอยู่ที่นี่ พวกเขาก็สามารถแข็งแกร่งขึ้นได้ด้วยตนเองวั

  • หนึ่งฝันหวนคืน ครองคู่กับท่าน   บทที่ 7

    ท่านโหวชะงักไปครู่หนึ่ง แววตาหม่นลงฮูหยินจวนโหวที่เงียบมาตลอดกลับหัวเราะอย่างขมขื่นออกมา“วั่งโจว เจ้ากล้าพูดหรือไม่ว่าเจ้าไม่รักนานนาน?”“หากเจ้าไม่รักนาง เหตุใดถึงต้องเสี่ยงชีวิตครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อช่วยนาง?”ริมฝีปากของเจียงวั่งโจวอ้าค้าง ไม่สามารถเปล่งเสียงใด ๆ ออกมาได้อีกเขารัก รักจนสามารถแลกด้วยชีวิตได้เพียงแต่ พวกเขาบีบคั้นหนักเกินไป เขาแค่ไม่ต้องการจะรักตามความปรารถนาของพวกเขา เขาอยากมีสิทธิ์ตัดสินใจด้วยตนเองเขาจึงได้ละเลยไป ว่าตนเองรักซ่งจือเสวี่ยมากเพียงใดฮูหยินจวนโหวกล่าวต่อ“เมื่อวานนานนานมาเพื่อบอกลาพวกเรา เด็กผู้มีจิตใจอ่อนโยนและน่าสงสารผู้นี้ ก่อนที่นางจะจากไป ความปรารถนาเพียงหนึ่งเดียวของนางก็คือขอให้เจ้าอายุยืนยาวร้อยปี มีความสุขสงบทุกปี”เจียงวั่งโจวพลันนึกถึงคำอำลาที่ซ่งจือเสวี่ยกล่าวเมื่อวาน สีหน้าแข็งทื่อไป นิ่งงันไปครู่หนึ่งถึงได้เปล่งเสียงออกมา“แต่ถ้านางมาเพื่อกล่าวอำลาจริง ๆ เหตุใดถึงต้องทูลขอราชโองการพระราชทานสมรสกับข้าด้วย”ฮูหยินจวนโหวถอนหายใจยาว กล่าวด้วยน้ำเสียงเสียดาย“เจ้าดูให้ดี ๆ สิว่าบนราชโองการนั่นเขียนว่าอะไรกันแน่?”ในหัวของเจี

  • หนึ่งฝันหวนคืน ครองคู่กับท่าน   บทที่ 6

    เจียงวั่งโจวตกใจอย่างยิ่ง แต่ก็ดึงสติกลับมาได้อย่างรวดเร็ว เขาขมวดคิ้ว“คงเป็นแค่คนชื่อแซ่เดียวกันกระมัง ราชโองการพระราชทานสมรสก็ลงมาแล้ว พวกเราจะไปเจียงหนานกันในอีกห้าวันข้างหน้า นางจะออกนอกเมืองในเวลานี้ได้อย่างไร”ท่านหมอเข้ามารายงาน“ซื่อจื่อ ก่อนที่นางจะจากไป แม่นางซ่งให้ข้านำคำพูดมาเรียนท่านขอรับ”“นางได้เดินทางไปเจียงหนานที่ห่างออกไปพันลี้แล้ว ขอให้ต่างคนต่างมีความสุข หวังว่าท่านจะไม่คิดถึง”เสียงของหมอที่ดังเข้ามาในหูของเจียงวั่งโจว ราวกับอสนีบาตที่ฟาดลงมาอย่างรุนแรงเจียงวั่งโจวผู้ไม่เคยเสียกิริยามาก่อน ในยามนี้กลับโซซัดโซเซจนแทบจะทรงตัวไม่อยู่ที่แท้คำพูดที่ซ่งจือเสวี่ยกล่าวในตอนนั้นว่าสมดังปรารถนา อายุยืนยาวร้อยปีคือการกล่าวอำลาเขานั่นเองชั้นบางสีแดงเรื่อเอ่อขึ้นมาราวสายน้ำ แผ่ซ่านขึ้นมาจนถึงกรอบดวงตา ริมฝีปากของเจียงวั่งโจวสั่นเทาพยายามข่มกลั้นอย่างสุดกำลัง“เป็นไปไม่ได้!”ซ่งจือเสวี่ยที่เขาเกือบต้องเสี่ยงชีวิตช่วยกลับมาหลายต่อหลายครั้ง จะมาตายจากไปง่าย ๆ เช่นนี้ได้อย่างไร?องครักษ์กล่าวด้วยน้ำเสียงปวดใจ“คนที่มารายงานกล่าวว่าเห็นรถม้าของแม่นางซ่งมุ่งหน้าไปทา

  • หนึ่งฝันหวนคืน ครองคู่กับท่าน   บทที่ 5

    ข้าพยักหน้า “เจ้าค่ะ”อาจเป็นเพราะเห็นว่าใบหน้าข้าซีดเผือด คิ้วของเขาจึงขมวดมุ่นอยู่ตลอดเวลา “เมื่อวานข้าอาจพูดแรงไปบ้าง เจ้าอย่าได้เก็บไปใส่ใจเลย แต่หว่านเหอเป็นผู้บริสุทธิ์ เรื่องระหว่างเราสองคน ไม่ควรดึงนางเข้ามาเกี่ยวข้อง ต่อไปอย่าไปฟ้องอีก”เมื่อได้ยินคำพูดของเขา ในใจข้าก็เจ็บแปลบขึ้นมาเล็กน้อยอีกคราแต่ข้าก็ไม่ได้เอ่ยคำอธิบายอย่างน้อยเนื้อต่ำใจเหมือนชาติก่อน เพียงคลี่ยิ้มบางที่มุมปาก“อืม จะไม่มีครั้งต่อไปอีกแล้ว”เจียงวั่งโจวจัดผ้าห่มให้ข้า“เมื่อคืนข้าไม่ได้อยู่ชมดาวตกเป็นเพื่อนเจ้า หลังแต่งงานข้าจะกลับบ้านเดิมเป็นเพื่อนเจ้าก็แล้วกัน ข้าจำได้ว่าเจ้าชอบเจียงหนาน พอถึงบ้านเดิมแล้ว เราไปเที่ยวที่นั่นกัน”ข้าชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยด้วยรอยยิ้มบางเบา “ไม่ต้องแล้วเจ้าค่ะ”“ท่านไม่ต้องชดเชยเรื่องเมื่อคืนให้ข้าหรอก เป็นข้าที่เต็มใจช่วยแม่นางกู้เอง”เจียงวั่งโจวนิ่งไปครู่หนึ่ง ในแววตาของเขาฉายแววสับสน“ข้าเตรียมรถม้าที่จะออกนอกเมืองไว้ให้อีกห้าวันข้างหน้า รอให้เจ้าพักฟื้นจนดีขึ้น เราค่อยออกเดินทางกัน”ข้าจ้องมองเจียงวั่งโจวอย่างไม่วางตา ไม่ได้เอ่ยคำใดอีกเขาถือถ้วยไว้ในมื

  • หนึ่งฝันหวนคืน ครองคู่กับท่าน   บทที่ 4

    ชาติก่อนเพราะข้าแต่งงานกับเจียงวั่งโจว กู้หว่านเหอจึงคิดสั้น หนึ่งเดือนให้หลังนางจึงดื่มพิษกู่ฆ่าตัวตาย เจียงวั่งโจวหาโลหิตที่เข้ากันมาถอนพิษให้นางไม่ได้ ทำได้เพียงมองดูนางสิ้นใจไปต่อหน้าต่อตาด้วยเหตุนี้เขาจึงเกลียดข้าเข้ากระดูกดำ จนวินาทีที่เขาตายก็ยังคงเกลียดข้าแต่ในชาตินี้ ข้าไม่ได้แต่งงานกับเขา เหตุใดกู้หว่านเหอถึงยังฆ่าตัวตายอีกเล่าเดิมทีข้ายังคงคิดอยู่ว่าจะทำความปรารถนาข้อที่สามของเขาให้สำเร็จได้อย่างไรตอนนี้ กลับมีคนส่งมาให้ถึงที่แล้วข้ามองเขา “เช่นนั้น ท่านมาหาข้าเพื่อเอาโลหิตไปถอนพิษกู่ใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจียงวั่งโจวก็ตกตะลึงไป ดูเหมือนคาดไม่ถึงว่าข้าจะพูดเช่นนี้ ทั้งยังปากด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ“เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้ารึ เจ้าทำให้หว่านเหอต้องอัปยศจนดื่มยาพิษ ก็สมควรชดใช้โทษบาปอยู่แล้ว”เขาจับข้าไปยังจวนของกู้หว่านเหอกู้หว่านเหอนอนหายใจรวยรินอยู่บนเตียง ท่านหมอหยิบกริชออกมา กรีดลงบนแขนของข้าหนึ่งครั้ง ความเจ็บปวดแล่นปราดขึ้นมาตามแขน ข้าส่งเสียงครางต่ำเบา ๆท่านหมอกล่าวอย่างยินดี “พิษกู่มีปฏิกิริยา โลหิตของแม่นางเข้ากันได้จริง ๆ”“แต่การช่วยคนจำเป็นต้

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status