Share

บทที่ 4

Penulis: บุปผาเดือนเพ็ญ
ชาติก่อนเพราะข้าแต่งงานกับเจียงวั่งโจว กู้หว่านเหอจึงคิดสั้น หนึ่งเดือนให้หลังนางจึงดื่มพิษกู่ฆ่าตัวตาย เจียงวั่งโจวหาโลหิตที่เข้ากันมาถอนพิษให้นางไม่ได้ ทำได้เพียงมองดูนางสิ้นใจไปต่อหน้าต่อตา

ด้วยเหตุนี้เขาจึงเกลียดข้าเข้ากระดูกดำ จนวินาทีที่เขาตายก็ยังคงเกลียดข้า

แต่ในชาตินี้ ข้าไม่ได้แต่งงานกับเขา เหตุใดกู้หว่านเหอถึงยังฆ่าตัวตายอีกเล่า

เดิมทีข้ายังคงคิดอยู่ว่าจะทำความปรารถนาข้อที่สามของเขาให้สำเร็จได้อย่างไร

ตอนนี้ กลับมีคนส่งมาให้ถึงที่แล้ว

ข้ามองเขา “เช่นนั้น ท่านมาหาข้าเพื่อเอาโลหิตไปถอนพิษกู่ใช่หรือไม่?”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจียงวั่งโจวก็ตกตะลึงไป ดูเหมือนคาดไม่ถึงว่าข้าจะพูดเช่นนี้ ทั้งยังปากด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ

“เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้ารึ เจ้าทำให้หว่านเหอต้องอัปยศจนดื่มยาพิษ ก็สมควรชดใช้โทษบาปอยู่แล้ว”

เขาจับข้าไปยังจวนของกู้หว่านเหอ

กู้หว่านเหอนอนหายใจรวยรินอยู่บนเตียง ท่านหมอหยิบกริชออกมา กรีดลงบนแขนของข้าหนึ่งครั้ง ความเจ็บปวดแล่นปราดขึ้นมาตามแขน ข้าส่งเสียงครางต่ำเบา ๆ

ท่านหมอกล่าวอย่างยินดี “พิษกู่มีปฏิกิริยา โลหิตของแม่นางเข้ากันได้จริง ๆ”

“แต่การช่วยคนจำเป็นต้องใช้เลือดหัวใจของแม่นาง ไม่ทราบว่าร่างกายของแม่นางจะทนไหวหรือไม่?”

“ไม่ได้!” สีหน้าของเจียงวั่งโจวเปลี่ยนไปทันที คิ้วขมวดมุ่น “คนที่ถูกเอาเลือดหัวใจไปก็เหมือนเสียชีวิตไปครึ่งหนึ่ง นางทนไม่ไหวหรอก ใช้เลือดส่วนอื่นไม่ได้หรือ?”

ท่านหมอลำบากใจอย่างยิ่ง “เลือดส่วนอื่นให้ผลไม่มากนัก หากซื่อจื่อไม่ยินยอม เช่นนั้นก็คงต้องเตรียมใจไว้แล้ว”

“แม่นางที่ให้เลือดหัวใจไปจะไม่ตาย แต่สตรีที่ถูกพิษกู่ จะต้องตายอย่างแน่นอน”

เจียงวั่งโจวเม้มริมฝีปากแน่น สายตาทอดมองไปยังร่างของกู้หว่านเหอ

ข้ามองเห็นความเจ็บปวดใจของเขา จึงหันไปกล่าวกับท่านหมอว่า “ข้ายินดีช่วยนาง ท่านเอาไปเถอะ”

ท่านหมอมองไปยังเจียงวั่งโจว “แต่ว่า จะทำให้สูญเสียพลังชีวิตอย่างหนักนะขอรับ”

ข้ากลับยิ้มออกมา “ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ บำรุงหน่อยก็ดีขึ้นแล้ว ช่วยคนสำคัญกว่า”

เจียงวั่งโจวจ้องจ้องข้าตาเขม็ง สุดท้ายเขาขมวดคิ้ว ฉีกชายเสื้อคลุมสีขาวของตนเอง แล้วนำมาปิดตาของข้าไว้

“ถือว่าข้าติดค้างน้ำใจเจ้า ข้าจะต้องตอบแทนให้แน่นอน”

หลังจากเขาจากไป ท่านหมอก็เริ่มเอาโลหิตของข้า

คมมีดกรีดลงบนผิวเนื้อ ทุกครั้งที่กรีดลึกลงไปความเจ็บปวดก็ยิ่งชัดเจนขึ้น ข้าพลันนึกถึงเรื่องราวในอดีตกับเจียงวั่งโจว

ข้าอายุแปดขวบก็สูญเสียบิดามารดา ถูกเหล่าลูกหลานตระกูลใหญ่รังแก พวกเขากล่าวว่าข้าไม่มีพ่อไม่มีแม่ ไม่มีใครคอยหนุนหลัง

เจียงวั่งโจวช่วยข้าไล่พวกเขาไปจนหมด แล้วลูบศีรษะของข้า

“ไม่ต้องกลัว ข้าจะปกป้องเจ้าเอง”

เขาทำอย่างที่พูดจริง ๆ

กระทั่งก่อนสิ้นใจ เขาก็ยังคงปกป้องข้าเสมอ

ข้าไม่มีทางที่จะไม่รักเขาได้

แต่ข้ารู้ ตั้งแต่ที่ได้เกิดใหม่ ข้าจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อตัดขาดวาสนากับเขาให้ได้

เลือดหัวใจถูกเอาออกไป โลหิตอุ่น ๆ ก็ไหลทะลักออกมาจากมุมปากไม่หยุด ข้าเจ็บปวดจนหมดสติไปกับพื้น ได้ยินประโยคสุดท้ายที่เขาพูดในชาติก่อนแว่วมา

“ซ่งจือเสวี่ย หากชาตินี้ไม่ได้พบเจ้า จะดีสักแค่ไหน...”

น้ำตาของข้าไหลทะลักออกมา ยิ้มอย่างอ่อนแรง “พี่วั่งโจว ชาตินี้ ข้าจะไม่พัวพันกับท่านแล้ว”

เมื่อฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง ท้องฟ้าก็สว่างแล้ว ข้าถูกจัดให้อยู่ในห้องพักข้าง ๆ

ความเจ็บปวดรุนแรงแล่นมาจากบริเวณหัวใจ รอบกายไม่มีผู้ใด ข้าอ่อนแรงไปทั้งตัว ขยับไม่ได้เลย

ข้ามองออกไปนอกหน้าต่าง ใกล้จะถึงยามซื่อแล้ว ข้าควรไปแล้ว

นอกหน้าต่างมีเสียงสาวใช้คุยกันจอแจ

“เมื่อคืนเป็นดาวตกที่ร้อยปีมีหน พวกเจ้าเห็นกันหรือไม่?”

“เห็นสิ งดงามจริง ๆ ได้ยินว่าหากคู่รักได้ดูด้วยกัน จะสามารถอยู่ครองคู่กันไปจนแก่เฒ่าได้ด้วยนะ!”

เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่เปี่ยมสุขของพวกนาง ข้าก็อดที่จะเสียดายไม่ได้

น่าเสียดายจริง ๆ ดาวตกที่งดงามเช่นนั้น ก็ยังพลาดไปอยู่ดี

ไม่นานนัก เจียงวั่งโจวก็ยกถ้วยอาหารเข้ามาในห้อง

เป็นของที่ข้าชอบกินที่สุดในวัยเด็ก พระกระโดดกำแพงที่ห้องเครื่องทำ

เหม่อลอยไปชั่วขณะหนึ่ง ข้าคาดไม่ถึงว่าเขายังจำได้

เจียงวั่งโจวจ้องมองข้า น้ำเสียงอ่อนโยนอย่างที่ไม่เคยเป็นมานาน

“ยังเจ็บที่หัวใจอยู่หรือไม่? ให้ข้าไปเชิญหมอหลวงมาดูหน่อยดีหรือไม่ นางไม่มีอันตรายถึงชีวิตแล้ว ต้องขอบคุณเจ้ามาก”
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • หนึ่งฝันหวนคืน ครองคู่กับท่าน   บทที่ 9

    “บางทีตอนนี้ท่านอาจจะยังมองไม่เห็นความรู้สึกในใจที่มีต่อข้าอย่างชัดเจน ท่านดีเช่นนี้อาจเป็นเพราะรู้สึกผิดต่อข้าในเรื่องนั้น บางทีท่านอาจจะแค่รู้สึกว่าท่านโหวและฮูหยินชอบข้า ข้าจึงเหมาะสมที่จะเป็นพระชายาซื่อจื่อ แต่ข้าไม่ต้องการความรู้สึกผิดนี้”“พี่วั่งโจว ไม่ต้องมาตามหาข้าอีกแล้ว”ข้าผลักร่มกระดาษน้ำมันของเจียงวั่งโจวออกไป หันหลังแล้ววิ่งเข้าไปในสายฝนข้ากลัวว่าในชั่วอึดใจต่อมา จะอดไม่ได้ที่จะโผเข้าไปในอ้อมกอดของเจียงวั่งโจวแล้วร้องไห้ออกมาแต่ในชาตินี้ ข้าจะเห็นแก่ตัวอีกไม่ได้แล้วหลังจากนั้น เจียงวั่งโจวก็ไม่ได้มาตามหาข้าอีก เพียงแต่ที่หน้าประตูบ้านมักจะมีของที่ข้าเคยชอบปรากฏขึ้นเป็นครั้งคราวเจียงวั่งโจวราวกับอยากจะตามหาตัวข้าในอดีตกลับคืนมา บางครั้งก็ส่งขนมที่ข้าชอบกินตอนอยู่ที่จวนโหวมาให้ บางครั้งก็ส่งของเล่นชิ้นเล็ก ๆ ที่ข้าเคยอ้อนวอนให้เขาทำให้ตอนเด็ก ๆข้าไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า เจียงวั่งโจวจะจำได้ทั้งหมดวันนี้ ข้ามาส่งนักเรียนในสำนักศึกษาเพื่อเดินทางไปเมืองหลวงเข้าสอบ ที่ท่าเรือออกเมือง รอบข้างพลันเกิดความโกลาหลขึ้น มีชายชุดดำสวมหน้ากากจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งออกมาจากในน้ำ

  • หนึ่งฝันหวนคืน ครองคู่กับท่าน   บทที่ 8

    กู้หว่านเหอถูกลากตัวออกไปแต่เสียงหัวเราะของนางราวกับคมมีดที่ทิ่มแทงเข้าไปในหัวใจของเจียงวั่งโจวอย่างแรง จนเขาเจ็บปวดแทบหายใจไม่ออกคนที่ใช้คำพูดร้ายกาจทำร้ายซ่งจือเสวี่ยคือเขา คนที่ต้องการเอาเลือดหัวใจของซ่งจือเสวี่ยก็คือเขาเช่นกันความโศกเศร้าอย่างใหญ่หลวงถาโถมเข้ามา จนเขาแทบจะยืนไม่อยู่หลังจากออกจากเมืองหลวง ข้าไม่ได้ไปที่เจียงหนานข้าอยากไปดูสถานที่ที่บิดามารดาเคยสู้รบมาตลอดชีวิต เดินทางอยู่ระยะหนึ่ง ก็มาถึงหลิ่งหนานที่นี่ไม่มั่งคั่งร่ำรวยเหมือนเมืองหลวง แต่ผู้คนก็เรียบง่ายและซื่อตรงชาวประมงที่พายเรือยิ้มแล้วกล่าว“ที่หลิ่งหนานมีศัตรูจากภายนอกมารุกรานบ่อย ๆ ดูจากการแต่งกายของแม่นางแล้วไม่ใช่คนร่ำรวยก็สูงศักดิ์ เหตุใดถึงมาที่นี่หรือ?”ข้าไม่ได้เอ่ยคำใดบิดามารดาปกป้องที่นี่มาตลอดชีวิต ข้าก็อยากทำให้สถานที่ที่บิดามารดาเคยปกป้องดีขึ้นอีกสักหน่อยข้าเปิดสำนักศึกษาเอกชนแห่งหนึ่งที่นี่ และใช้เงินที่หามาได้ก่อตั้งสำนักศึกษาอันจี้ขึ้น และรับอุปการะเด็กที่ไร้บ้านจากภัยสงครามพวกเขาจะไม่ถูกคนอื่นรังแกเหมือนข้าในตอนนั้นอีกอยู่ที่นี่ พวกเขาก็สามารถแข็งแกร่งขึ้นได้ด้วยตนเองวั

  • หนึ่งฝันหวนคืน ครองคู่กับท่าน   บทที่ 7

    ท่านโหวชะงักไปครู่หนึ่ง แววตาหม่นลงฮูหยินจวนโหวที่เงียบมาตลอดกลับหัวเราะอย่างขมขื่นออกมา“วั่งโจว เจ้ากล้าพูดหรือไม่ว่าเจ้าไม่รักนานนาน?”“หากเจ้าไม่รักนาง เหตุใดถึงต้องเสี่ยงชีวิตครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อช่วยนาง?”ริมฝีปากของเจียงวั่งโจวอ้าค้าง ไม่สามารถเปล่งเสียงใด ๆ ออกมาได้อีกเขารัก รักจนสามารถแลกด้วยชีวิตได้เพียงแต่ พวกเขาบีบคั้นหนักเกินไป เขาแค่ไม่ต้องการจะรักตามความปรารถนาของพวกเขา เขาอยากมีสิทธิ์ตัดสินใจด้วยตนเองเขาจึงได้ละเลยไป ว่าตนเองรักซ่งจือเสวี่ยมากเพียงใดฮูหยินจวนโหวกล่าวต่อ“เมื่อวานนานนานมาเพื่อบอกลาพวกเรา เด็กผู้มีจิตใจอ่อนโยนและน่าสงสารผู้นี้ ก่อนที่นางจะจากไป ความปรารถนาเพียงหนึ่งเดียวของนางก็คือขอให้เจ้าอายุยืนยาวร้อยปี มีความสุขสงบทุกปี”เจียงวั่งโจวพลันนึกถึงคำอำลาที่ซ่งจือเสวี่ยกล่าวเมื่อวาน สีหน้าแข็งทื่อไป นิ่งงันไปครู่หนึ่งถึงได้เปล่งเสียงออกมา“แต่ถ้านางมาเพื่อกล่าวอำลาจริง ๆ เหตุใดถึงต้องทูลขอราชโองการพระราชทานสมรสกับข้าด้วย”ฮูหยินจวนโหวถอนหายใจยาว กล่าวด้วยน้ำเสียงเสียดาย“เจ้าดูให้ดี ๆ สิว่าบนราชโองการนั่นเขียนว่าอะไรกันแน่?”ในหัวของเจี

  • หนึ่งฝันหวนคืน ครองคู่กับท่าน   บทที่ 6

    เจียงวั่งโจวตกใจอย่างยิ่ง แต่ก็ดึงสติกลับมาได้อย่างรวดเร็ว เขาขมวดคิ้ว“คงเป็นแค่คนชื่อแซ่เดียวกันกระมัง ราชโองการพระราชทานสมรสก็ลงมาแล้ว พวกเราจะไปเจียงหนานกันในอีกห้าวันข้างหน้า นางจะออกนอกเมืองในเวลานี้ได้อย่างไร”ท่านหมอเข้ามารายงาน“ซื่อจื่อ ก่อนที่นางจะจากไป แม่นางซ่งให้ข้านำคำพูดมาเรียนท่านขอรับ”“นางได้เดินทางไปเจียงหนานที่ห่างออกไปพันลี้แล้ว ขอให้ต่างคนต่างมีความสุข หวังว่าท่านจะไม่คิดถึง”เสียงของหมอที่ดังเข้ามาในหูของเจียงวั่งโจว ราวกับอสนีบาตที่ฟาดลงมาอย่างรุนแรงเจียงวั่งโจวผู้ไม่เคยเสียกิริยามาก่อน ในยามนี้กลับโซซัดโซเซจนแทบจะทรงตัวไม่อยู่ที่แท้คำพูดที่ซ่งจือเสวี่ยกล่าวในตอนนั้นว่าสมดังปรารถนา อายุยืนยาวร้อยปีคือการกล่าวอำลาเขานั่นเองชั้นบางสีแดงเรื่อเอ่อขึ้นมาราวสายน้ำ แผ่ซ่านขึ้นมาจนถึงกรอบดวงตา ริมฝีปากของเจียงวั่งโจวสั่นเทาพยายามข่มกลั้นอย่างสุดกำลัง“เป็นไปไม่ได้!”ซ่งจือเสวี่ยที่เขาเกือบต้องเสี่ยงชีวิตช่วยกลับมาหลายต่อหลายครั้ง จะมาตายจากไปง่าย ๆ เช่นนี้ได้อย่างไร?องครักษ์กล่าวด้วยน้ำเสียงปวดใจ“คนที่มารายงานกล่าวว่าเห็นรถม้าของแม่นางซ่งมุ่งหน้าไปทา

  • หนึ่งฝันหวนคืน ครองคู่กับท่าน   บทที่ 5

    ข้าพยักหน้า “เจ้าค่ะ”อาจเป็นเพราะเห็นว่าใบหน้าข้าซีดเผือด คิ้วของเขาจึงขมวดมุ่นอยู่ตลอดเวลา “เมื่อวานข้าอาจพูดแรงไปบ้าง เจ้าอย่าได้เก็บไปใส่ใจเลย แต่หว่านเหอเป็นผู้บริสุทธิ์ เรื่องระหว่างเราสองคน ไม่ควรดึงนางเข้ามาเกี่ยวข้อง ต่อไปอย่าไปฟ้องอีก”เมื่อได้ยินคำพูดของเขา ในใจข้าก็เจ็บแปลบขึ้นมาเล็กน้อยอีกคราแต่ข้าก็ไม่ได้เอ่ยคำอธิบายอย่างน้อยเนื้อต่ำใจเหมือนชาติก่อน เพียงคลี่ยิ้มบางที่มุมปาก“อืม จะไม่มีครั้งต่อไปอีกแล้ว”เจียงวั่งโจวจัดผ้าห่มให้ข้า“เมื่อคืนข้าไม่ได้อยู่ชมดาวตกเป็นเพื่อนเจ้า หลังแต่งงานข้าจะกลับบ้านเดิมเป็นเพื่อนเจ้าก็แล้วกัน ข้าจำได้ว่าเจ้าชอบเจียงหนาน พอถึงบ้านเดิมแล้ว เราไปเที่ยวที่นั่นกัน”ข้าชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยด้วยรอยยิ้มบางเบา “ไม่ต้องแล้วเจ้าค่ะ”“ท่านไม่ต้องชดเชยเรื่องเมื่อคืนให้ข้าหรอก เป็นข้าที่เต็มใจช่วยแม่นางกู้เอง”เจียงวั่งโจวนิ่งไปครู่หนึ่ง ในแววตาของเขาฉายแววสับสน“ข้าเตรียมรถม้าที่จะออกนอกเมืองไว้ให้อีกห้าวันข้างหน้า รอให้เจ้าพักฟื้นจนดีขึ้น เราค่อยออกเดินทางกัน”ข้าจ้องมองเจียงวั่งโจวอย่างไม่วางตา ไม่ได้เอ่ยคำใดอีกเขาถือถ้วยไว้ในมื

  • หนึ่งฝันหวนคืน ครองคู่กับท่าน   บทที่ 4

    ชาติก่อนเพราะข้าแต่งงานกับเจียงวั่งโจว กู้หว่านเหอจึงคิดสั้น หนึ่งเดือนให้หลังนางจึงดื่มพิษกู่ฆ่าตัวตาย เจียงวั่งโจวหาโลหิตที่เข้ากันมาถอนพิษให้นางไม่ได้ ทำได้เพียงมองดูนางสิ้นใจไปต่อหน้าต่อตาด้วยเหตุนี้เขาจึงเกลียดข้าเข้ากระดูกดำ จนวินาทีที่เขาตายก็ยังคงเกลียดข้าแต่ในชาตินี้ ข้าไม่ได้แต่งงานกับเขา เหตุใดกู้หว่านเหอถึงยังฆ่าตัวตายอีกเล่าเดิมทีข้ายังคงคิดอยู่ว่าจะทำความปรารถนาข้อที่สามของเขาให้สำเร็จได้อย่างไรตอนนี้ กลับมีคนส่งมาให้ถึงที่แล้วข้ามองเขา “เช่นนั้น ท่านมาหาข้าเพื่อเอาโลหิตไปถอนพิษกู่ใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจียงวั่งโจวก็ตกตะลึงไป ดูเหมือนคาดไม่ถึงว่าข้าจะพูดเช่นนี้ ทั้งยังปากด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ“เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้ารึ เจ้าทำให้หว่านเหอต้องอัปยศจนดื่มยาพิษ ก็สมควรชดใช้โทษบาปอยู่แล้ว”เขาจับข้าไปยังจวนของกู้หว่านเหอกู้หว่านเหอนอนหายใจรวยรินอยู่บนเตียง ท่านหมอหยิบกริชออกมา กรีดลงบนแขนของข้าหนึ่งครั้ง ความเจ็บปวดแล่นปราดขึ้นมาตามแขน ข้าส่งเสียงครางต่ำเบา ๆท่านหมอกล่าวอย่างยินดี “พิษกู่มีปฏิกิริยา โลหิตของแม่นางเข้ากันได้จริง ๆ”“แต่การช่วยคนจำเป็นต้

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status