LOGINเสียงปืนใหญ่ยังคงคำรามก้องไปทั่วสมรภูมิทางเหนือ เลือดสีแดงฉานเจิ่งนองพื้นดิน ทหารของต้าเหลียงและแคว้นอริปะทะกันอย่างดุเดือดราวกับสัตว์ร้ายที่กระหายเลือด หลี่เหวินเจี๋ย แม่ทัพใหญ่ผู้เจนศึก นำทัพต่อสู้อย่างไม่คิดชีวิต ใบหน้าคมคายของเขาเต็มไปด้วยคราบเขม่าดินและโลหิต แต่ดวงตาคู่คมกริบยังคงฉายแววความมุ่งมั่นที่จะปกป้องแผ่นดินนี้ไว้ให้ได้
แต่บัดนี้ กองทัพของต้าเหลียงกำลังเพลี่ยงพล้ำอย่างหนัก กำลังเสริมของศัตรูที่มาถึง ทำให้พวกเขาต้องเผชิญกับการโจมตีจากสองด้าน ทหารล้มตายเป็นจำนวนมาก และหลี่เหวินเจี๋ยเองก็ได้รับบาดเจ็บหลายแห่ง แต่เขาก็ยังคงยืนหยัด ไม่ยอมถอย
“ท่านแม่ทัพ! เราจะต้องถอยแล้วขอรับ!” หลิวหรง รองแม่ทัพคนสนิท ร้องบอกด้วยน้ำเสียงร้อนรน ใบหน้าของเขาซีดเผือดด้วยความสิ้นหวัง “หากเรายังคงต้านทานไว้เช่นนี้ กองทัพของเราจะต้องพ่ายแพ้ทั้งหมดนะขอรับ!”
หลี่เหวินเจี๋ยกัดฟันแน่น เขามองไปยังทัพศัตรูที่โหมกระหน่ำเข้ามาไม่หยุดหย่อน เขารู้ดีว่าหลิวหรงพูดถูก แต่เขาก็ไม่อาจยอมรับความพ่ายแพ้ได้ง่ายๆ
“เราจะต้องถ่วงเวลาพวกมันไว้ให
เสียงกลองศึกที่เคยดังกึกก้องบัดนี้เงียบสงัดลง เหลือเพียงเสียงลมที่พัดพาความเงียบงันและกลิ่นคาวเลือดไปทั่วสมรภูมิ ร่างของ หลี่เหวินเจี๋ย แม่ทัพใหญ่ผู้เจนศึก นอนหายใจรวยรินอยู่บนพื้นดิน ดวงตาคู่คมกริบเบิกกว้างด้วยความหวาดกลัวและเจ็บปวดอย่างที่สุด ภาพของ ซูหนิงหนิง ที่ถูกคมดาบฟันเข้าที่แผ่นหลังและร่างที่ถูกกลืนหายไปในกลุ่มควัน ยังคงติดตรึงในห้วงความคิดของเขา เขาพยายามจะลุกขึ้นวิ่งตามไปช่วยนาง แต่ร่างกายของเขาไม่อำนวย บาดแผลจากพิษและคมดาบที่ได้รับมาจากการต่อสู้ ทำให้เขาอ่อนแรงจนไม่อาจขยับได้ เขาทำได้เพียงนอนมองไปในทิศทางที่นางหายไป ด้วยหัวใจที่ปวดร้าวแทบขาดใจ“ซูหนิงหนิง! ไม่นะซูหนิงหนิง!” หลี่เหวินเจี๋ยตะโกนสุดเสียง น้ำตาไหลรินลงมาอย่างเงียบๆ นี่คือชัยชนะที่แลกมาด้วยความสูญเสียที่ไม่อาจประเมินค่าได้ ชัยชนะที่ไร้ซึ่งความหมายหากไม่มีนางอยู่เคียงข้างในขณะที่หลี่เหวินเจี๋ยกำลังจมอยู่กับความเจ็บปวด หลิวหรง รองแม่ทัพคนสนิทรีบรุดเข้ามาหาเขาด้วยใบหน้าตื่นตระหนก “ท่านแม่ทัพ! ท่านเป็นอะไรมากหรือไม่ขอรับ!”
เสียงกลองศึกที่ดังกึกก้องยังคงกัมปนาทไปทั่วสมรภูมิทางเหนือ เลือดสีแดงฉานเจิ่งนองพื้นดินดุจสายน้ำ หลี่เหวินเจี๋ย แม่ทัพใหญ่ผู้เจนศึก นอนหายใจรวยรินอยู่บนพื้นดิน พิษร้ายจากลูกธนูและคมดาบกัดกินร่าง แผลที่ต้นขาและแผ่นหลังยังคงมีเลือดซึมออกมาไม่หยุดหย่อน ใบหน้าคมคายของเขาซีดเผือดราวกับคนตาย แต่ดวงตาคู่คมกริบยังคงฉายแววความมุ่งมั่นที่จะปกป้องแผ่นดินต้าเหลียงไว้ให้ได้ซูหนิงหนิง นั่งอยู่ข้างกายเขา มือเรียวสวยกำลังประคบสมุนไพรและใช้เข็มเงินปักลงไปที่จุดชีพจรต่างๆ อย่างเร่งรีบ ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยคราบน้ำตาและเหงื่อ แต่ดวงตายังคงฉายแววความมุ่งมั่นที่จะช่วยชีวิตเขาให้ได้ นางรู้ดีว่าอาการของเขาหนักหนาสาหัสเพียงใด แต่หัวใจของนางปฏิเสธที่จะยอมแพ้“ท่านแม่ทัพ! ท่านต้องอดทนนะเจ้าคะ!” ซูหนิงหนิงกล่าว น้ำเสียงของนางสั่นเครือ “พิษร้ายแรงนัก ข้าต้องรีบนำพิษออกจากร่างกายของท่านให้หมด!”หลี่เหวินเจี๋ยกัดฟันแน่น เขามองนางด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรักและความเชื่อใจ เขาเอื้อมมือที่สั่นเทาไปกุมมือของนางอย่างแผ่วเบา สัมผัสที่อบอุ
ท้องพระโรงหลวงสว่างไสวด้วยแสงตะวันยามเช้า บรรยากาศยังคงอบอวลไปด้วยความยินดีจากการประกาศอภิเษกสมรสระหว่างแม่ทัพใหญ่ หลี่เหวินเจี๋ย กับ ซูหนิงหนิง บุตรีหมอหลวงผู้กล้าหาญ คำสาบานที่หลี่เหวินเจี๋ยกล่าวต่อหน้า องค์ฮ่องเต้ ยังคงดังก้องอยู่ในหัวใจของทุกคน เป็นดั่งพยานรักที่ยิ่งใหญ่แห่งยุคสมัยหลังจากการประชุมราชสำนักสิ้นสุดลง หลี่เหวินเจี๋ยเดินออกมาจากท้องพระโรงพร้อมกับซูหนิงหนิง มือของคนทั้งคู่ยังคงจับกันแน่น ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขที่มิอาจปิดบังได้“ท่านแม่ทัพ…ท่านทำเช่นนี้ได้อย่างไรเจ้าคะ” ซูหนิงหนิงเอ่ยถามเสียงแผ่ว ใบหน้ายังคงแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย “ท่านกล้าประกาศเช่นนั้นต่อหน้าองค์ฮ่องเต้และเหล่าขุนนางทั้งหมด”หลี่เหวินเจี๋ยหันมามองนาง ดวงตาคู่คมกริบของเขาเต็มไปด้วยความรักที่ลึกซึ้ง “ข้าเคยบอกเจ้าแล้วซูหนิงหนิง…ว่าเจ้าคือหัวใจของข้า…และข้าจะไม่ยอมให้ใครมาพรากเจ้าไปจากข้าได้”คำพูดของเขาทำให้หัวใจของซูหนิงหนิงเต้นรัวอย่างบ้าคลั่ง
ควันไฟจากสมรภูมิยังคงปกคลุมผืนฟ้าเหนือชายแดนทางเหนือ บ่งบอกถึงความเหนื่อยล้าจากการต่อสู้ที่ยืดเยื้อ ทัพของแคว้นอริถอยร่นไปแล้ว ทิ้งไว้เพียงซากศพและกลิ่นคาวเลือดที่คละคลุ้งไปทั่ว ผืนดินต้าเหลียงยังคงปลอดภัยจากการรุกราน แต่ชัยชนะครั้งนี้แลกมาด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส หลี่เหวินเจี๋ย แม่ทัพใหญ่ผู้เจนศึก ถูกนำตัวกลับมายังเมืองหลวงด้วยอาการสาหัสจากพิษร้ายและคมดาบ เขาถูกช่วยขึ้นมาจากหลุมพรางได้อย่างหวุดหวิด ด้วยความช่วยเหลือของ ซูหนิงหนิง ที่บุกไปถึงสนามรบด้วยหัวใจที่มุ่งมั่น และ มู่หลัน กับ กงซุนหมิง ที่คอยช่วยเหลืออยู่ไม่ห่างภายในกระโจมพยาบาลชั่วคราวในเมืองหลวง แสงเทียนสลัวๆ ส่องต้องใบหน้าซีดเซียวของหลี่เหวินเจี๋ยที่นอนหมดสติอยู่บนเตียงไม้ บาดแผลที่ต้นขาและแผ่นหลังของเขายังคงมีเลือดซึมออกมาเล็กน้อย ซูหนิงหนิง นั่งอยู่ข้างกายเขา มือเรียวสวยกำลังประคบสมุนไพรและใช้เข็มเงินปักลงไปที่จุดชีพจรต่างๆ อย่างระมัดระวัง ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยคราบน้ำตาและเหงื่อจากการดูแลเขาตลอดทั้งคืน“ท่านแม่ทัพ&h
เสียงกลองศึกที่ดังกึกก้องยังคงสั่นสะเทือนไปทั่วสมรภูมิทางเหนือ เลือดสีแดงฉานเจิ่งนองพื้นดินดุจสายธาร กองทัพของ หลี่เหวินเจี๋ย และแคว้นอริปะทะกันอย่างบ้าคลั่งหลี่เหวินเจี๋ย แม่ทัพใหญ่ผู้เจนศึก แม้จะบาดเจ็บสาหัสจากพิษธนูและคมดาบ แต่จิตใจของเขากลับมุ่งมั่นกว่าครั้งใดๆ เพราะเขารู้ดีว่าบัดนี้เขาไม่ได้สู้เพียงลำพัง หากแต่ยังมีคนข้างกาย ซูหนิงหนิง ยืนหยัดเคียงข้างเขาในสนามรบแห่งนี้หลังจากการปรากฏตัวของหลี่เหวินเจี๋ยที่ฟื้นคืนสติขึ้นมาอย่างปาฏิหาริย์และเข้ามาช่วยชีวิตซูหนิงหนิงจากอันตราย ขวัญกำลังใจของทหารต้าเหลียงก็พลันฮึกเหิมขึ้นอีกครั้ง พวกเขารวมพลังกันต่อสู้กับศัตรูอย่างกล้าหาญยิ่งกว่าเดิม พยายามผลักดันทัพของแคว้นอริให้ถอยร่นไป“ท่านแม่ทัพ! ท่านยังบาดเจ็บอยู่เลยนะเจ้าคะ!” ซูหนิงหนิงร้องบอกด้วยความเป็นห่วง นางพยายามจะเข้าไปปฐมพยาบาลเขาหลี่เหวินเจี๋ยส่ายหน้าเล็กน้อย ใบหน้าของเขาซีดเผือด แต่ดวงตาคู่คมกริบกลับฉายแววความเด็ดขาด “ไม่มีเวลาแล้วซูหนิงหนิง! เจ้าไปดูแลทหารที่บาดเจ็บเถิด!”
เสียงปืนใหญ่ที่คำรามกึกก้องผสานกับเสียงโห่ร้องของทหารยังคงดังก้องไปทั่วสมรภูมิทางเหนือ เลือดสีแดงฉานเจิ่งนองพื้นดินดุจสายน้ำ หลี่เหวินเจี๋ย แม่ทัพใหญ่ผู้เจนศึก นอนหายใจรวยรินอยู่ภายในกระโจมบัญชาการชั่วคราว พิษร้ายจากลูกธนูยังคงกัดกินร่าง แผลที่ต้นขายังคงมีเลือดซึมออกมาไม่หยุดหย่อน ใบหน้าคมคายของเขาซีดเผือดราวกับกระดาษ แต่ดวงตาคู่คมกริบยังคงฉายแววความมุ่งมั่นที่จะปกป้องแผ่นดินต้าเหลียงไว้ให้ได้ซูหนิงหนิง นั่งอยู่ข้างกายเขา มือเรียวสวยกำลังประคบสมุนไพรและใช้เข็มเงินปักลงไปที่จุดชีพจรต่างๆ อย่างเร่งรีบ ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยคราบน้ำตาและเหงื่อ แต่ดวงตายังคงฉายแววความมุ่งมั่นที่จะช่วยชีวิตเขาให้ได้ นางรู้ดีว่าอาการของเขาหนักหนาสาหัสเพียงใด แต่หัวใจของนางปฏิเสธที่จะยอมแพ้“ท่านแม่ทัพ! ท่านต้องอดทนนะเจ้าคะ!” ซูหนิงหนิงกล่าว น้ำเสียงของนางสั่นเครือ “พิษร้ายแรงนัก ข้าต้องรีบนำพิษออกจากร่างกายของท่านให้หมด!”หลี่เหวินเจี๋ยกัดฟันแน่น เขามองนางด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรักและความเชื่อใจ เขาเอื้อมมือที่สั่นเทาไปกุมมื







