“เรียกพี่อิฐสิครับ”
“อื้อ...พี่อิฐ...พี่อิฐ...กะทิ...จะไม่ไหวแล้ว อือ...” เกวลินหยัดสะโพกขึ้นรับนิ้วร้ายกาจที่พาให้เธอไปถึงจุดสุดยอด ความเสียวซ่านแล่นไปทั่วร่าง สองมือยกขึ้นกอดร่างเขาไว้ แนบใบหน้ากับซอกคอของชายหนุ่มแล้วปล่อยเสียงครางหวานสุดเสียง
อิทธิพลรับรู้ได้ถึงแรงขมิบรัดที่ปลายนิ้ว เขาถอนนิ้วออกแล้วจูบขมับหญิงสาว “คราวนี้ขอพี่นะครับ”
เกวลินเพิ่งได้สติ ยกมือดันแผงอกของเขาไว้ก่อน เขาเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม เธอกัดริมฝีปากครู่หนึ่งข่มความเขินอายแล้วพูดเสียงแผ่วเบา
“หมอ...เอ่อ...พี่...พี่อิฐ...มะ...มี...มี...มีถุงยาง...ใช่ไหมคะ”
“ครับ” เขายิ้มรับ “อยากได้แบบไหนเป็นพิเศษไหม”
ดวงตาคู่สวยกะพริบอย่างงุนงง เธอไม่เชี่ยวชาญเรื่องนี้จะรู้ได้ไง ในวินาทีนาทีต่อมาก็ได้ยินเสียงเขาหัวเราะในลำคอ ขยับตัวขึ้นไปหยิบอะไรบางอย่างที่ลิ้นชักโต๊ะข้างเตียงนอน
“แบบผิวเรียบ แบบบางเฉียบ แบบผิวไม่เรียบ แบบปุ่ม อ้อ! มีกลิ่นกลิ่นสตรอเบอรี่ กับกลิ่นวนิลา แบบสีก็มีนะ คุณแพ้แบบไหนหรือเปล่า”
เธอกะพริบตาปริบๆ จะบอกว่าขอถุงยางสำหรับผู้หญิงที่ยังเวอร์จิ้นได้ไหม
“ถ้างั้นผมเลือกให้แล้วกันนะ” เขายิ้มขำ จูบมุมปากแล้วขยับมาที่ริมฝีปากสวย
จูบของเขาปล้นสติของเธอไปหมดสิ้น มอบความเร่าร้อนให้ร่างกายร้อนรุ่มขึ้นมาอีกระลอก เรียวขาโอบรัดเอวสอบขณะที่ปลายนิ้วของเขาขยี้ปลายถันส่วนอีกมือก็ลูบไล้ไปทั่วร่างจนเธอผ่อนคลายลง ดอกไม้สาวหลั่งน้ำหวานออกมาอีกครั้งทำให้ชายหนุ่มค่อยๆ กดแก่นกายแทรกลงไปในร่องรัก คิ้วงามขมวดแน่น ความอึดอัดทำให้เธอหายใจติดขัด
“พี่อิฐ” เธอครางเรียกชื่อเขาเมื่อท่อนเอ็นใหญ่ยาวนั้นถูกกดเข้ามาในตัวเธอ
“อา...” ความคับแน่นที่บีบรัดทำให้อิทธิพลถึงกับถอนจูบแล้วครางเสียงต่ำ แต่ไม่คิดถอนตัวตนออกมาและไม่มีวันถอยหลังกลับอีกแล้ว
“อ๊า!” หญิงสาวจับบ่าเขาแน่น เล็บที่ตัดสั้นสะอาดแต่ยังจิกเนื้อเขาอย่างไม่รู้ตัว ราวกับสิ่งนั้นของเขาร้อนรุ่มและเหยียดขยายใหญ่ เขาค่อยๆ ขยับสะโพสอบเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้า แต่ทำให้เธอเสียวซ่านทำได้เพียงแค่ครางพร้อมหอบหายใจแรง เสียงหายใจเริ่มถี่กระชั้นขึ้นเมื่อการขยับเคลื่อนไหวของเขาเร็วขึ้น ที่ทุกครั้งที่เขาบดเบียดนำพาความรู้สึกวาบหวามยากจะทนไหว เธอยกสะโพกขึ้นรับการขยับตัวของเขา อยากให้เขาเข้ามาลึกกว่านี้ แนบแน่นกว่านี้ หลอมรวมเป็นเนื้อกายเดียวกัน
การตอบสนองแสนซื่อสัตย์ของหญิงสาวเกินกว่าที่อิทธิพลจะรับไหว เขาขยับเอวอย่างดุดันแทบกดร่างเล็กจมเตียง ส่งตัวตนเข้าไปจนสุดรับรู้ถึงแรงบีบรัดและร่างกายที่เกร็งกระตุกไปอีกรอบของเธอ แต่เขายังไม่หยุดเคลื่อนไหว
“ไม่ไหว...ไม่ไหวแล้วนะคะ” เกวลินร้องบอกเสียงสั่นพร่า ร่างสั่นไหวไปตามแรงกระแทกกระทั้น เขาจับเอวเธอไว้มั่นแล้วขยับเอวดุเดือด
“อีกนิดนะครับ”
เสียงเขาก็แหบพร่าไม่แพ้กัน ความอ่อนนุ่มที่โอบรัดแก่นกายแน่นทำเอาแทบคลั่ง เขาขยับเอวทั้งเร็วทั้งแรง เสียงลมหายใจหอบถี่จนแยกไม่ออกว่าเป็นเสียงของใคร จนความอดกลั้นพังทลายเขาส่งแก่นกายเข้าไปจนสุดแล้วปลดปล่อยความเสียวซ่านในกายสาวพร้อมกับหญิงสาวที่หวีดร้องเพราะถึงจุดสุดยอดอีกครั้ง
เขาถอนแก่นกายออกช้าๆ ถึงจะไม่มีคราบเลือดแต่เขาก็คาดเดาได้ไม่ยากว่านี่เป็นครั้งแรกของเธอ หรือถ้าไม่ใช่...เธอก็คงไม่ได้มีอะไรกับใครมานานมากๆนั้นแหละ แต่เรื่องพวกนี้เขาไม่ได้ใส่ใจเท่ากับท่าทางน่ารักน่าเอ็นดู ราวลูกแมวตัวน้อยที่เล่นซนหมดฤทธิ์จนผล็อยหลับไปแบบนี้ เขาดึงคนตัวเล็กเข้ามากอด แต่เหมือนว่าเขาจะทำพลาดไป เพราะร่างกายท่อนล่างมันกลับแข็งขันขึ้นมาอีกครั้ง
อะไรที่มันดุนดันอยู่ ทำให้เกวลินปรือตาขึ้นมองแล้วค่อยหลุบมองเจ้าต้นเรื่องที่มันทิ่มหน้าท้องของเธออยู่
“เจ็บหรือเปล่า”
เกวลินกัดริมฝีปากแล้วส่ายหน้าไปมา
“ถ้างั้น...ขออีกรอบได้ไหม”
ดวงตากลมเบิกกว้าง เมื่อกี้ก็เหนื่อยยิ่งกว่าวิ่งรอบสนามฟุตบอล นี่...เขาจะไม่พักเลยเหรอ
“พี่ยังไม่อิ่ม ขออีกรอบนะครับ” เขาอ้อนอย่างไม่เคยทำมาก่อน เพราะคนตรงหน้าเด็กกว่าหรือไง เขาถึงทำตัวเป็นเด็กไม่รู้จักควบคุมตัวเองแบบนี้
“ถ้าไม่ให้ล่ะคะ” เธอถามแต่ก็อดสงสารคนหิวไม่ได้ “มันก็จะเป็นแบบนี้เหรอ”
“อืม...” เขาครางเสียงต่ำเมื่อมือนุ่มลูบไล้แก่นกายเบาๆ เขาจับมือเล็กที่เกาะกุมสาวลำเอ็นเป็นจังหวะพลางส่งเสียงครางอย่างพอใจ แน่ล่ะ เขาอยากได้มากกว่านี้ อยากอยู่ในตัวเธอที่อ่อนนุ่มและรัดแน่นจนแทบคลั่ง อิทธิพลดึงเธอมาจูบและเคล้นทรวงอกคู่สวย หญิงสาวขยับตัวเข้าหาอย่างเต็มใจในขณะที่มือยังช่วยกำรูดแก่นกายจนมันขยายใหญ่และร้อนระอุขึ้น สีหน้าและแววตาที่บอกความต้องการเต็มเปี่ยม ดูเซ็กซี่ยั่วยวนจนกายสาวเปียกแฉะขึ้นมาอีกครั้ง
“ใส่เลยได้ไหม รอไม่ไหวแล้ว” เขาถามแต่ไม่รอคำถาม คว้าซองถุงยางอนามัยมาฉีกออกแล้วสวมทันที เขาตัวขึ้นเหนือร่างอวบอิ่ม จับเรียวขาเพรียวขึ้นพาดบ่าใช้นิ้วสำรวจร่องรักอีกครั้งเพื่อความมั่นใจว่าเธอพร้อมสำหรับแล้ว แต่การใช้นิ้วเบิกทางนั้นทำให้หญิงสาวบิดกายเร่าและครางออกมา
“อื้อ...พี่อิฐ...เสียวนะคะ”
“เดี๋ยวจะเสียวกว่านี้”
เขายิ้มมองใบหน้าสวยแดงจัดแล้วกดแก่นกายเข้าไปในร่องรักสีหวานและส่งครางอย่างสุขสมเมื่อส่งตัวตนเข้าไปจนสุด สะโพกกลมกลึงลอยเหนือที่นอน เขากระแทกเข้ามาทีเดียวมิดลำ เสียงหวีดร้องครางหวานก่อนกลายเป็นเสียงครางกระเส่า ท่วงท่านี้ทำให้แก่นกายเข้าไปลึกกว่าที่เคย มันกระแทกจุดเสียวกระสันจนร่างกายเธอสั่นสะท้าน ได้แต่หอบหายใจแรง เขามองทรวงอกที่ไหวกระเพื่อมตามแรงกระแทก เขาเอื้อมมือไปเขี่ยจุดอ่อนไหวเพิ่มความเสียวซ่าน เกวลินได้แต่หอบหายใจแรงเป็นเสียงครางกระเส่า เธอถูกเร่งเร้าจนช่องท้องหวิวเหมือนจะขาดใจ และกรีดร้องเมื่อถูกส่งไปจนถึงจุดสุดยอด แรงตอดรัดที่โอบรัดแน่นทำให้เขาคำรามออกมา จับสองขาของเธอลงจากบ่าลงมาแล้วแยกออกจนสุด โน้มตัวลงมาดูดกลืนปลายถันจนเปียกชุ่มสลับขบเม้มอย่างมันเขี้ยวก่อนส่งเข้าโพรงปากแล้วตวัดลิ้นหยอกปลายถัน
ไม่รู้ทำไม จู่ๆ น้ำตาก็ไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว เธอที่เฝ้ามองเขาอยู่ไกลๆ ค่อยติดตามข่าวของเขาเสมอ แม้มีโอกาสได้ใกล้ชิดก็ไม่เคยแสดงความรู้สึกข้างในออกไป จนวันนี้...เขาอยู่ตรงหน้าและบอกรักเธอ “คนดี ร้องไห้ทำไมครับ” เขายิ้มแล้วจูบซับหยดน้ำตาให้ “ไม่รู้ค่ะ สงสัยไม่สบายแน่เลย” คราวนี้เกวลินหัวเราะทั้งน้ำตา จริงสินะ เวลาแบบนี้ต้องยิ้มดีใจต่างหากล่ะ “อื้ม...ไม่สบายเหรอ งั้นหมอตรวจให้นะครับ” เขายิ้มกรุ้มกริ่ม มือไม้เริ่มลูบไล้ไปตามเรือนร่างที่โหยหาย “พี่อิฐ! คนกำลังซึ้ง” เธอตีมือเขาแต่กลับหัวเราะร่วนจนกระทั่งเขาอุ้มเธอมาที่เตียงเล็กของเธอเอง “ก็กะทิไม่สบาย พี่จะทำให้สบายตัวไงครับ” ปลายลิ้นร้อนตวัดเลียติ่งหูทำให้หญิงสาวหลุดเสียงครางออกมา มือเรียวยกขึ้นคล้องคอเขาแล้วกระซิบเสียงหวาน “กะทิรักพี่อิฐค่ะ” ชายหนุ่มตอบกลับด้วยภาษากาย เขาขยับเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้าและนุ่มนวลจนคนใต้ร่างได้แต่ครวญครางเรียกร้องให้เขาเติมเต็มความปรารถนาที่เอ่อล้น สองร่างแนบชิดกลายเป็นหนึ่งผสานเสียงลมหายใจและหัวใจสองดวงเต้นไปพร
“อยู่บ้านคนเดียวล็อกบ้านดีๆ ล่ะ” การันต์ย้ำกับน้องสาว “ทำเหมือนจะไปหลายวัน” เกวลินแลบลิ้นใส่ “ไปเถอะค่ะ ปล่อยให้ผู้ใหญ่รอไม่ดีนะคะ” การันต์พยักหน้าแล้วเดินไปที่รถพร้อมวายุ เกวลินรอจนรถออกไปแล้วจึงเดินเข้ามาในบ้าน เกวลินเดินไปหยิบน้ำผลไม้ในตู้เย็นรินใส่แก้ว ยังไม่ทันยกขึ้นดื่มก็ได้ยินเสียงกดออดที่หน้าบ้าน เธอวางแก้วลงแล้วเดินมาที่ประตู “ลืมอะไรหรือคะพี่ตะโก้” เธอถามทันทีที่เปิดประตูออก ทว่าคนตรงหน้ากลับไม่ใช่พี่ชายที่เธอเข้าใจผิดคิดว่าคงลืมของจึงกลับมา “ทำไมไม่ดูให้ดีก่อนเปิดประตู ถ้าเป็นโจรขึ้นมาจะทำยังไง” คนตัวสูงดุแล้วเดินเข้าไปราวกับเป็นบ้านของตัวเองเสียงล็อกประตูทำให้เกวลินได้สติ เธอไม่คิดว่าเขาจะมายืนตรงหน้าอย่างนี้ “พี่...พี่อิฐ” “ก็พี่ไง หรือรอใครอยู่” อิทธิพลขมวดคิ้วแล้วกวาดตามอง “ตะโก้กับวายุไม่อยู่เหรอ” “ค่ะ...ออกไปข้างนอก...” “ดี...พี่มีเรื่องจะคุยด้วย” “เดี๋ยวนะคะ ขอกะทิทำใจก่อน” “ทำใจอะไร” อิทธิพลขมวดคิ้ว “พี่อิฐมาบอกเลิกกะท
เกวลินโผล่หน้ามาดู แค่พี่ชายพยักหน้าให้เธอก็ผลุบกลับเข้าไปในครัว รินน้ำดื่มสองแก้วแล้วเดินกลับเข้ามาอีกครั้ง แต่เธอคิดว่าคงไม่เหมาะจะนั่งฟังด้วยจึงหลบไปด้านหลัง ได้แต่ส่งยิ้มให้กำลังวายุที่ยืนหน้าซีดอยู่ และเป็นการันต์ที่กระตุกมือให้วายุนั่งลงข้างเขา “ลูก...ดูสบายดีนะ” คนเป็นแม่เอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “ผมสบายดี” วายุตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งแต่สองมือบีบกันแน่น การได้พบแม่ไม่ได้ทำให้เขากังวลได้เท่ากับเห็นพ่อมาอยู่ตรงหน้าด้วย เขากลัวว่าพ่อจะทำร้ายคนที่บ้านนี้ ซึ่งเขาไม่ยอมให้มีเรื่องเลวร้ายอะไรเกิดขึ้นเด็ดขาด “พ่อรู้ได้ยังไงว่าผมอยู่ที่นี่” “วันนี้พ่อเห็นแกไปออกบูธก็เลยให้คนตามดู” คนเป็นพ่อเอ่ยเสียงอ่อนล้า “ทำไมครับ อยากเห็นว่าผมจะใช้ชีวิตเหลวแหลกอย่างที่พ่อประณามไว้หรือเปล่านะเหรอ” น้ำเสียงวายุก็ปวดร้าวไม่แพ้กัน “เปล่าๆ....พ่อ...พ่ออยากให้แกกลับบ้าน” ถ้อยคำที่ไม่คิดว่าจะได้ยินจากปากของคนตรงหน้าทำให้วายุนิ่งงันไป เขาย้ายสายตาไปมองมารดาที่หยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นซับน้ำตา “กลับบ้านเ
‘ใครเป็นฝ่ายทักกันก่อนเล่า’ เกวลินขมวดคิ้วแล้วฉีกยิ้มทักทาย “ว่าไง”“ว่าไง?” เอมอรแอบเบ้ปากในใจ “ก็ไม่มีอะไร แค่จำได้ว่าเธอออกจากโรงเรียนกลางเทอมนี่ ได้ยินว่าท้องเลยหนีตามผู้ชายไป แล้วเป็นไงบ้างล่ะ ป่านนี้ลูกคนโตแล้วสินะ มีอะไรให้เพื่อนอย่างฉันช่วยก็บอกมาได้เลยนะ”แม้เอมอรไม่ได้ใช้น้ำเสียงดังอะไรนัก แต่ถ้อยคำของเธอทำให้คนที่ได้ยินถึงกับนิ่งไป นั้นหมายถึงคุณเกริกและคุณลาวัลย์ที่อดปรายตามองทางเกวลินไม่ได้ หญิงสาวสูดลมหายใจลึกอ้าปากจะโต้เถียงแต่กลับเป็นการันต์ที่ทนไม่ไหวชิงพูดออกไปก่อน“ท้องอะไร หนีตามผู้ชายอะไร” การันต์พูดเสียงดังอย่าไม่อายใครและไม่มีอะไรให้อายด้วย “ยัยกะทิออกจากโรงเรียนตอนม.5ก็จริง แต่เพราะมาดูแลแม่ที่ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย แต่ก็ไปสอบกศน.จนได้วุฒิม.ปลายไง รู้จักไหม การศึกษานอกโรงเรียนนะ แล้วถ้ายัยกะทิเรียนไม่จบม.ปลายมันจะเอาวุฒิที่ไหนไปเรียนมหาวิทยาลัยจนได้เกียรตินิยมอันดับสองเล่า! คิดจะปั้นเรื่องใส่ความคนอื่นก็ช่วยให้มันใกล้เคียงกับความจริงหน่อยเซ่!”“ตะโก้!ใจเย็นๆ” วายุรั้งแขนการันต์ไว้เพราะกลัวว่าคนรักจะเข้าไปตบตีอีกฝ่าย ถึงยังไงคู่กรณีก็เป็นผู้หญิง ทำอะไรไปก็
การันต์สบตากับวายุแล้วปลดหน้ากากอนามัยออก ทั้งที่เขาบอกกับวายุไม่ต้องมาช่วยก็ได้ แต่อีกฝ่ายก็เป็นห่วงน้องสาวของเขาที่ยังเจ็บขาอยู่จึงมาช่วยงาน ทำให้เขารู้สึกว่าตนเองคิดไม่ผิดที่พาวายุเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว วายุดึงปลดหน้ากากอนามัยออกแล้วเอียงตัวไปทางการันต์เล็กน้อย มองผิวเผินเหมือนเพื่อนถ่ายรูปคู่กัน มีเพียงแววตาที่มองกันนั้นแตกต่างจากคำว่า ‘เพื่อน’โอ๊ย! พี่ชายเธอตัวใหญ่ยักษ์แต่พี่วายุก็ไม่ได้ตัวเล็กแต่เพราะสูงโปร่งเลยดูบอบบางไปเลย เกวลินกดบันทึกภาพรัวๆ นานๆ จะมีรูปถ่ายคู่กันนอกบ้านที แอบดีใจที่พี่ชายได้เจอคนรู้ใจที่เข้าอกเข้าใจกันดี ชีวิตคนเราจะต้องการอะไรไปมากกว่านี้ หญิงสาวแอบถอนหายใจ บางทีเธอก็คิดว่าตัวเองฝันไปที่ได้คบกับอิทธิพล เขาดูสมบูรณ์แบบไปเสียทุกอย่าง จนบางทีเธอก็คิดว่าตัวเองไม่เหมาะที่จะยืนเคียงข้าง แต่เพราะเห็นรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของเขายามที่อยู่ด้วยกัน ทำให้เธอคิดได้ว่า...ขอแค่ทำให้เขามีความสุขแค่นี้ก็พอแล้ว“หนูกะทิอยู่นี่เอง”เสียงทักจากด้านหลังทำให้เกวลินหันไปส่งยิ้มพร้อมยกมือไหว้ทันที “สวัสดีค่ะคุณลาวัลย์ คุณเกริก”“เรียกเสียห่างเหินเชียว” คุณเกริกหัวเร
“จะดีเหรอคะ นานๆ เลี้ยงทีก็ได้ค่ะ ไม่ต้องเลี้ยงบ่อยนักหรอก เดี๋ยวกะทินิสัยเสียเอาแต่ใจตัวเองขึ้นมา พี่อิฐจะลำบากเอานะ” ตั้งแต่เคยมีแฟนมาก็มีคนนี้ที่บ่นว่าเขาเลี้ยงเธอบ่อยเกินไป อิทธิพลไม่รู้จะทำยังไงดี บางทีทำตัวก็เป็นเด็ก แต่บางครั้งก็เป็นคนมีเหตุผล “ก็ไม่เห็นเป็นอะไรนี่ พี่ชายกะทิบอกให้พี่ไปกินข้าวเย็นที่ร้านได้ กะทิจะได้ไม่ต้องออกมาส่งข้าวให้พี่กิน นี่พี่ก็ประหยัดมื้อเย็นไปอีกหนึ่งมื้อเชียวนะ” เกวลินคิดตามแล้วก็พยักหน้ารับ แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่รู้ผิดว่าตัวเองเอาเปรียบเขามากไป “พี่ถามอะไรหน่อยสิ” “ค่ะ” หญิงสาวพยักหน้ารับพลางยกน้ำขึ้นดื่ม “พี่เห็นที่บ้านมีผู้ชายอีกคน ...คนนั้นใครเหรอ” “อ้อ!พี่วายุค่ะ” “แล้ว?” “เอ่อ...” เกวลินชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง ใจหนึ่งก็กลัวว่าเขาจะรังเกียจที่พี่ชายเธอเป็นเกย์ แต่อีกใจก็ไม่รู้ว่าจะปิดบังทำไม พูดไปตรงๆ ดีกว่า “พี่วายุ...เป็นแฟนของพี่ตะโก้ค่ะ” “แฟน?” “อื้ม... ก็แฟนแบบเราสองคนนี้ไง”