กรัณย์กรเดินวนอยู่หน้าห้องตรวจฉุกเฉินจนถึงเวลาสิบเจ็ดนาฬิกาก็เห็นปิ่นปินัทธ์เดินมากับเด็กชายออมสิน
“สวัสดีครับคุณหมอ” เด็กชายออมสินรีบยกมือไหว้คุณหมอคนที่เย็บแผลให้กับตนเองเมื่อวาน
“เป็นไงบ้างครับออมสิน เจ็บแผลอยู่ไหม”
“เจ็บนิดหน่อยครับ”
“สวัสดีครับครูปิ่น”
“สวัสดีค่ะหมอ” ปิ่นปินัทธ์ยกมือไหว้ทำให้เขารีบยกมือรับไหว้แทบไม่ทัน
“ครูไม่ต้องไหวผมหรอกครับผมยังไม่อยากแก่”
“ค่ะ ปิ่นขอตัวพาออมสินไปทำแผลก่อนนะคะ”
“ผมก็จะเข้าไปดูเหมือนกันอยากรู้ว่าแผลที่เย็บไปเมื่อวานเป็นยังไงบ้าง”
“ค่ะหมอ”
หญิงสาวส่งบัตรนัดทำแผลให้กับผู้ช่วยพยาบาลจากนั้นก็พอออมสินไปนอนบนเตียงให้พยาบาลล้างแผล
“แผลติดดีนะคะหมอ พี่ว่าไม่ต้องมาล้างทุกวันก็ได้มั้งคะ”
“ถ้างั้นล้างพรุ่งนี้อีกวันก็ได้ครับแล้วก็มาอีกทีวันตัดไหมเลย”
“จะไม่เป็นไรใช่ไหมคะ” ปิ่นปินัทธ์ถามเพราะเธอไม่ค่อยมีความรู้เรื่องนี้
“ไม่หรอกหรอกครับ แต่ถ้าระหว่างนี้มีไข้หรือเลือดซึมก็ต้องพามาครับ”
“เจ็บไหม” กรัณย์กรถามเด็กชายที่วันนี้นั่งนอนนิ่งให้พยาบาลทำแผลไม่ได้งอแงอย่างเมื่อวาน
“ไม่เจ็บครับ”
“ตั้งแต่กลับไปบ้านเมื่อวานล่ะเจ็บไหม”
“เมื่อคืนเจ็บครับ” เด็กชายนึกอยู่นานก่อนจะตอบ
“แล้วได้กินยาหรือเปล่า” คุณหมอถามอย่างใจเย็น
“แม่ให้กินยาครับ แต่ผมไม่รู้ว่าตอนกี่โมงแต่รู้ว่ามันดึกมาก”
“แล้วทั้งวันวันนี้ออมสินกินยาหรือเปล่า”
“กินครับ”
คุณหมอมองหน้าปิ่นปินัทธ์ด้วยความสงสัยเพราะเด็กบอกไม่เจ็บแต่ทำไมเธอถึงให้เด็กกินยา
“วันนี้ทั้งวันออมสินกินแค่ยาแก้อักเสบที่คุณหมอให้ไปค่ะ ส่วนยาพาราไม่ได้กิน” หญิงสาวอธิบายให้คุณหมอหนุ่มฟังเพราะเขาทำหน้างงตอนที่ออมสินบอกว่าวันนี้ก็ทานยาทั้งที่เด็กชายบอกว่าไม่ได้ปวดแผลแล้ว
“แผลไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะ เดี๋ยวให้พี่พยาบาลปิดแผลและออมสินก็กลับบ้านได้เลยครับ”
“ขอบคุณครับคุณหมอ”
“ขอบคุณค่ะหมอ ขอบคุณค่ะคุณพยาบาล” ปิ่นปินัทธ์ขอบคุณพยาบาลที่ทำแผลให้และไม่ลืมที่จะขอบคุณหมอเจ้าของไข้อีกครั้ง
ทำแผลเสร็จเธอก็พาออมสินเดินมาที่รถโดยมีคุณหมอเดินตามมาด้วย
“ปกติคุณต้องพาเขามาทำแผลแบบนี้ทุกวันเลยเหรอ”
“ผู้ปกครองเขาไม่ค่อยสะดวกค่ะ แล้วอีกอย่างเวลาปิ่นกลับบ้านก็จะต้องผ่านบ้านออมสินอยู่แล้วก็เลยรับมาทำแผลทีเดียวเลย ค่ะ ถ้ายังไงปิ่นขอตัวก่อนนะคะ เดี๋ยวจะพาออมสินกลับไปส่งที่บ้านกลับค่ำคุณยายของออมสินจะเป็นห่วง” หญิงสาวเปิดประตูให้ออมสินเขาไปนั่งจากนั้นตนเองก็วนมาด้านฝั่งคนขับ
“คืนนี้ผมขอโทรหาคุณได้ไหม”
“คุณหมอมีธุระอะไรกับปิ่นหรือเปล่าคะ”
“เปล่า ก็แค่อยากโทรไปหาได้ไหมล่ะ”
“ถ้าปิ่นว่างก็จะรับนะคะ แต่ถ้าไม่รับก็แสดงว่าหลับไปแล้ว”
“ผมให้ผมคงไม่โทรดึกเหมือนเมื่อคืนหรอก แต่ยังไงก็ต้องขอโทษอีกครั้งนะที่ทำให้คุณต้องตื่นกลางดึก”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คนเรามันก็ผิดพลาดกันได้ปิ่นไปก่อนนะคะ ขอบคุณมากนะคะ” หญิงสาวกล่าวขอบคุณเขาอีกครั้ง จากนั้นก็ขับรถออกจากหน้าโรงพยาบาลไป
หมอกรัณย์กรมองไปจนสุดสายตาจากนั้นเขาก็เดินกลับมาบ้านพักของตัวเองที่อยู่ด้านหลังโรงพยาบาล
ไม่รู้เพราะอะไรเขาถึงอยากจะคุยกับคุณครูคนนี้มากคุณพิเศษไม่ใช่ว่าไม่เคยเจอผู้หญิงสวย แต่ปิ่นปินัทธ์เป็นผู้หญิงที่สวยหวาน ดูจิตใจอ่อนโยนเอามากๆ การที่เธอพาลูกศิษย์มาทำแผลทั้งที่ไม่ใช่ธุระของตัวเองเลยก็เป็นข้อพิสูจน์อย่างหนึ่งแล้วว่าหญิงสาวเป็นคนที่จะจิตใจดีมากๆ คนหนึ่ง
มันทำให้เขารู้สึกสนใจและอยากรู้จักผู้หญิงคนนี้ให้มากขึ้น เขาอยากไปทานอาหารกับเธอตามที่คุยกันไว้แต่ แต่ก็คงต้องรอให้ลูกศิษย์ของเธอตัดใหม่เสร็จเรียบร้อยก่อน
กรัณย์กรทำธุระส่วนตัวของตัวเองเสร็จจากนั้นเขาก็โทรศัพท์ไปคุยกับมารดาซึ่งชายหนุ่มจะโทรไปหาท่านอยู่เป็นประจำ ถ้าหากวันไหนตนเองไม่ได้ขึ้นเวร
เมื่อคุยกับมารดาเสร็จแล้วก็โทรศัพท์ไปหาปิ่นปินัทธ์ตามที่บอกกับเธอไว้
“สวัสดีค่ะหมอ”
“สวัสดีครับครูปิ่น ครับผมโทรมารบกวนครูปิ่นหรือเปล่า”
“ไม่หรอกค่ะ หมอไม่ต้องเรียกปิ่นว่าครูก็ได้นะคะ”
“ครับ ผมอยากถามปิ่นลืมอะไรไปหรือเปล่า”
“ลืมอะไรคะ” หญิงสาวนึกไม่ออกว่าตนเองลืมอะไรเพราะวันนี้ก็พาลูกศิษย์ไปทำแผลตามนัดแล้ว
“ปิ่นสัญญาว่าจะเลี้ยงข้าวผมไงล่ะครับ” เขารีบทวงสัญญา
“อ๋อ...เรื่องนั้นปิ่นไม่ลืมหรอกค่ะ แต่ช่วงนี้ปิดไม่ว่างเลยตอนเย็นยังต้องไปออมสินไปล้างแผลรอให้ออมสินหายดีก่อนได้ไหมคะ”
“ได้ครับไม่มีปัญหา ตอนนี้ปิ่นกำลังทำอะไรอยู่ครับ”
“กำลังทำใบงานให้เด็กๆ อยู่ค่ะ”
“ใบงานนี้มันคล้ายๆ แบบฝึกหัดหรือเปล่าครับ”
“ก็ประมาณนั้นค่ะ”
“ปิ่นสอนนักเรียนชั้นอะไรครับ”
“ปิ่นสอนคณิตศาสตร์ค่ะ ป.1 ถึง ป.3 ค่ะ”
“สอนทั้งสามชั้นเลยเหรอครับ แบบนี้คงสับสนแย่”
“แรกๆ ก็มีสับสนอยู่บ้างค่ะ แต่ปิ่นสอนนักเรียนมาสามปีแล้วก็เริ่มจะชินค่ะ แล้วหมอรัณย์มาตรวจที่โรงพยาบาลนี้นานหรือยังคะ ปิ่นเคยพานักเรียนไปหาหมออยู่หลายครั้งไม่เคยเจอหมอเลย”
“ผมมาประจำที่นี่ได้สองปีกว่าแล้วครับ แปลกมากที่เราไม่เคยเจอกัน”
“หมอประจำอยู่ห้องฉุกเฉินเหรอคะ”
“ผมวนไปตามแผนกต่างๆ ครับ โชคดีจังนะครับที่เราได้เจอกัน”
“ปิ่นว่าเจอกันแบบนี้เขาไม่เรียกโชคดีหรอกค่ะ โชคร้ายมากกว่า”
“ปิ่นหมายถึงการเจอผมเหรอครับที่โชคร้าย”
“ไม่ได้หมายความอย่างนั้นค่ะ ปิ่นหมายความว่าการเจอกันในสถานการณ์แบบนี้มันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะถ้าลูกศิษย์ของปิ่นเป็นอะไรไปมากกว่านี้ปิ่นก็คงแย่”
วันนี้เป็นวันครบรอบการจากไปของคุณยายละมัยหนึ่งปี กรัณย์กรพาปิ่นปินัทธ์มาทำบุญให้คุณยายที่วัดกับญาติคนอื่นๆตอนนี้สถานะของทั้งสองคนคือคนที่กำลังศึกษากันอยู่ปิ่นปินัทธ์ไม่ใช้คำว่าแฟนหรือคนรักกับกรัณย์กรเพราะเธอกลัวว่าเหตุการณ์แบบเดิมจะกลับมาอีก แต่ชายหนุ่มก็พยายามจะพิสูจน์ให้เธอเห็นว่าตอนนี้เขาสามารถบาลานซ์เรื่องงานและเรื่องการใช้ชีวิตได้อย่างลงตัวตลอดเวลาที่ยายของหญิงสาวป่วยและรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียูเกือบหนึ่งเดือน กรัณย์กรคอยดูแลเธออีกทั้งยังคอยช่วยดูแลคุณยายจนคุณลุงกับคุณป้าเห็นใจชายหนุ่มมากๆ และบอกให้ปิ่นปินัทธ์เปิดใจเพราะรู้สึกว่ากรัณย์กรจะจริงใจกับหลานสาวของตนเองมากหลังจากทำบุญให้กับคุณยายแล้วทุกคนก็มาทานข้าวกันที่บ้านของป้าก่อนจะแยกย้ายกันกลับ ส่วนกรัณย์และปิ่นปินัทธ์ยังอยู่ต่อเพราะป้าสาขอคุยกับชายหนุ่มเป็นการส่วนตัวส่วน“ป้าสามีอะไรกับผมครับ”“ป้าอยากจะถามว่าหมอรัณย์จริงใจกับปิ่นมากใช่ไหม”“ใช่ครับ ความรักครั้งนี้ผมจริงจังมาก ก่อนหน้านี้ผมยอมรับว่าตัวเองแบ่งเวลาไม่ดีทำให้ปิ่นต้องเสียใจ ผมทำให้เป็นรอนานถึงห้าปีแล้วถึงตอนนี้ถ้าปิ่นจะให้ผมรอนานแบบนั้นมั่งมันก็ไม่มีปัญหาเลย”“ป้า
ตลอดทั้งคืนปิ่นปินัทธ์นั่งสัปหงกอยู่บนเก้าอี้หน้าห้องไอซียูโดยมีกรัณย์กรนั่งอยู่ข้างๆกรัณย์กรเดินเข้าไปดูคุณยายเกือบจะทุกชั่วโมงอาการของท่านยังคงที่แต่ดูแล้วไม่ค่อยดีเท่าไหร่เขาไม่รู้จะพูดกับปิ่นปินัทธ์ไงว่าอาการของคุณยายเธอมันค่อนข้างหนักการจะให้คุณยายกลับมาหายดีมันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก ชายหนุ่มเดินเข้าออกห้องไอซียูอยู่หลายรอบจนกระทั่งเผลอหลับในเวลาตีสี่และตกใจตื่นในเวลาเกือบจะหกโมงเช้า“ผมว่าปิ่นกลับไปอาบน้ำล้างหน้าล้างตาก่อนดีกว่าไหม ไม่ต้องห่วงทางนี้หรอก”“อาการของคุณยายเป็นยังไงบ้างคะ” หญิงสาวรู้ว่าเขาเดินเข้าออกอยู่หลายหลายครั้ง“ก็ยังคงที่ครับวันนี้อาจจะต้องตรวจหลายหลายอย่างเพิ่ม ผมไม่ได้เป็นหมอที่ดูแลเคสของยายหรอกนะครับ ผมให้รุ่นพี่อีกท่านเป็นคนช่วยดูให้”“ทำไมละคะ”“เมื่อวานเป็นเวรของเขาครับ อีกอย่างการรักษาคนรู้จักหรือคนใกล้ชิดมันจะค่อนข้างกดดันเพราะเราจะเอาอารมณ์เข้าไปมีส่วนร่วมด้วย มันจะทำให้การตัดสินใจบางอย่างคลาดเคลื่อนได้ อีกอย่างผมก็อยากจะช่วยประสานงานให้มากกว่า”“ขอบคุณนะคะ ถ้าเมื่อคืนไม่ได้คุณคงแย่”“ไม่หรอกครับ หมอและพยาบาลรวมถึงเจ้าหน้าที่คนอื่นทำงานกันอย่างเต
“เกิดอะไรขึ้นเหรอปิ่น” กรัณย์กรถามหลังจากเธอวางสายและดูท่าทางรีบร้อน“ป้าสาโทรมาบอกว่าคุณยายเหนื่อยมากและเหมือนจะหายใจไม่ค่อยออกเลยกำลังพาไปโรงพยาบาลค่ะ”“โรงพยาบาลที่ทำงานใช่ไหม ปิ่นไปกับผมนะน่าจะไวกว่า”นาทีนี้หญิงสาวไม่ได้คิดอะไรอีกแล้วเพราะอยากจะรีบไปหายายให้เร็วที่สุด“ทำใจดีๆ ไว้นะปิ่นไม่น่าจะเป็นอะไรมากหรอก เมื่อตอนกลางวันผมคุยกับคุณยายท่านก็ดูปกติดี แต่ระหว่างทางเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาขอถามอะไรหน่อยได้ไหม”“หมอจะถามอะไรคะ”“ผมจะถามว่าช่วงนี้ยายมีอาการผิดปกติอะไรหรือเปล่า หรือมีโรคประจำตัวอะไรไหม”“ไม่มีค่ะยายแข็งแรงดี”“แล้วในครอบครัวล่ะมีเป็นโรคอะไรไหม เช่นเบาหวาน ความดันหัวใจหรือโรคมะเร็ง”“ปิ่นรู้แค่ป้าสาเป็นความดันโลหิตสูงค่ะ ส่วนเบาหวานไม่เคยได้ยินว่าใครเป็น”“ปิ่นลองนึกหน่อยนะว่าช่วงนี้ยายร่างกายเป็นยังไงบ้าง มีอะไรผิดปกติไหม เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็ได้” กรัณย์กรไม่อยากเสียเวลาไปซักประวัติคุณยายที่โรงพยาบาล“ยายเป็นหวัดค่ะ”“แล้วได้กินยาอะไรไหม”“ไม่ค่ะ ยายแค่ไอแห้งๆ ปิ่นจะพาไปหาหมอยายก็บอกว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่จิบน้ำอุ่นก็น่าจะหาย”“แล้วมีอย่างอื่นไหม มีไข้หรือเปล่า”“
“เปิดประตูให้ผมเข้าไปหน่อยสิปิ่น”“เป็นเราคุยกันแล้วนี่คะ ว่าหมอจะมาเฉพาะเวลาราชการเท่านั้นนี่มันค่ำแล้วนะ ที่บ้านก็ไม่มีใครอยู่หมอกลับไปก่อนเถอะค่ะถ้าอยากจะมาหาคุณยายค่อยมาเวลากลางวัน”“แต่ผมอยากคุยกับปิ่นจริงๆ นะผมคุยกับคุณยายแล้วคุณยายอนุญาตให้ผมมาหาคุณได้”“หมายความว่ายังไงคะ”“ขอเข้าไปคุยกันข้างในได้มั้ย ยืนคุยอยู่แบบนี้คนอื่นมาเห็นคงไม่ดีเท่าไหร่”“มันไม่ดีทั้งแต่หมอเข้าออกบ้านของปิ่นห้าปีก่อนแล้วล่ะค่ะ”“ปิ่นอย่าพึ่งโมโหสิ ถ้าปิ่นไม่ให้ผมเข้าไปผมก็จะยืนอยู่แบบนี้แหละแล้วผมจะบีบแต่รถให้ชาวบ้านเขาออกมาดูด้วย”“ทำไมหมอเป็นคนเข้าใจอะไรจะยากแบบนี้นะ”“ผมเข้าใจยากที่ไหน ปิ่นต่างหากที่เข้าใจยาก เปิดประตูให้ผมเข้าไปหน่อยนะปิ่น”เพราะกลัวว่าเขาจะทำอย่างที่พูดจริงๆปิ่นปินัทธ์เลยยอมเปิดประตูให้จากนั้นหญิงสาวเดินนำเขามายังห้องรับแขก“เอาล่ะคะจะพูดอะไรก็พูดปิ่นมีเวลาให้คุณไม่มากหรอกนะปิ่นยังต้องทำใบงานอีกเยอะ”“ให้ผมช่วยทำไหมล่ะ”“ปิ่นไม่รบกวนเวลาคุณหมอขนาดนั้นหรอกค่ะ เวลาทุกนาทีของหมอมันมีค่าอย่าเสียเวลามาทำใบงานเล็กๆ น้อยๆ เลย”“ปิ่นอย่าพึ่งประชดได้ไหม”“หมอจะพูดอะไรก็พูดสิคะ”“ผมอยากขอโอ
หลังจากไปเยี่ยมคุณยายของปิ่นปินัทธ์ที่บ้านแล้วกรัณย์กรก็รู้สึกว่าแปลกๆ เพราะที่บ้านของหญิงสาวไม่มีของเล่นเด็กเลยแม้แต่ชิ้นเดียว ถ้าเด็กชายที่เขาเห็นเมื่อวันก่อนเป็นลูกของหญิงสาวจริงๆในบ้านหลังนั้นก็น่าจะต้องมีของเล่นสักชิ้นหนึ่งและดูเหมือนยายละมัยก็ไม่ได้บอกเขาว่าปิ่นปินัทธ์แต่งงานแล้วความจริงข้อนี้กรัณย์กรต้องหาทางพิสูจน์เพราะเขารู้ใจตัวเองแล้วว่ายังมีความรู้สึกดีๆ ให้กับปิ่นปินัทธ์และจะต้องพยายามเอาชนะใจของเธออีกครั้งครั้งนี้เขาจะเดินหน้าอย่างเต็มกำลังเพราะรักเธอมาก การห่างกันไปนานหลายปีไม่ได้ทำให้ความรักที่เขามีให้กับปิ่นปินัทธ์ลดน้อยลงเลย และตอนนี้เขาอยากขอโทษเธอที่ตนเองเห็นแก่ตัวเห็นงานสำคัญกว่าความรู้สึกของหญิงสาว แต่ตอนนี้เขาคิดว่าตัวเองจะมีเวลาให้เธอมากขึ้นกรัณย์กรอยากจะกลับมาคบกันปิ่นปินัทธ์อีกครั้งหนึ่ง เขาจะชดเชยเวลาทั้งหมดให้กับหญิงสาว การมาทำงานที่โรงพยาบาลนี้กรัณย์กรไม่ต้องอยู่เวรตลอด 24 ชั่วโมงเขาออกตรวจภายแผนกโอพีดี ราวน์คนไข้ และจะมีนัดคนไข้มาผ่าตัดหรือสวนหัวใจและทุกอย่างก็จะลงเวลานัดหมายเพราะการผ่าตัดประเภทนี้ต้องใช้เจ้าหน้าที่หลายแผนก อีกทั้งห้องผ่าตัดและห้องสวนห
ปิ่นปินัทธ์ไม่ได้บอกยายของตนเองว่าเจอกับกรัณย์กรเพราะกลัวว่าคุณยายจะไม่สบายใจและหญิงสาวก็คิดว่าเขาไม่มีมีทางจะมาหาคุณยายอย่างที่บอกกับเธอแน่ๆแต่ดูเหมือนว่าเธอจะคิดผิดเพราะเย็นวันหนึ่งหลังจากเธอกลับมาจากโรงเรียนก็เห็นบริเวณห้องรับแขกมีกระเช้าผลไม้และนมสำหรับผู้สูงอายุวางอยู่“คุณยายไปซื้อของพวกนี้มาเหรอคะ”“เปล่าหรอกลูกวันนี้มีคนแวะมาเยี่ยมยาย”“ใช่พี่ทศกับพี่แพรหรือเปล่าคะ พี่ทศบอกว่าก่อนจะกรุงเทพจะแวะมาหาคุณยายอีกครั้งหนึ่ง”“ทศเขาแวะมาจริงๆ นั่นแหละแต่ของพวกนี้ไม่ใช่ของทศหรอกนะลูก”“อ้าว....แล้วของใครล่ะคะคุณยาย”“ปิ่นลองเดาดูสิว่าวันนี้มีใครมาหายาย”“ปิ่นเดาไม่ถูกหรอกค่ะยายบอกปิ่นมาเถอะค่ะ”“วันนี้หมอรัณย์เขามาหายายที่นี่”“อะไรนะคะ เขามาหายายจริงๆ เหรอคะ”“ปิ่นรู้ใช่ไหมว่าเขาจะมาหายาย”“ค่ะยาย ปิ่นบังเอิญเจอเขาเมื่ออาทิตย์ก่อน แล้วเขาบอกว่าจะแวะมาหาคุณยายแต่ปิ่นไม่ได้บอกยายเพราะคิดว่ายังไงเขาก็คงไม่มาเวลาทำงานแน่ๆ”“เขามาหายายตอนเที่ยงจ้ะ”“ยายคุยอะไรกับเขาบ้างบอกเรื่องปิ่นไปหรือเปล่า”“ก็คุยเรื่องทั่วไป ยายไม่ได้บอกเรื่องอบปิ่นหรอกนะ ยายรู้ว่าปิ่นอยากให้เรื่องนี้มันเป็นความลับ”