เมื่อไหร่จะถึงคอนโดสักที อยากจะหลุดพ้นจากความอึดอัดนี้เต็มทน เพราะตอนนี้เหลือแค่ฉันกับรุ่นพี่เวลล์เท่านั้น น้องวีขอตัวลงระหว่างทางไปก่อน แถมเขาก็ขับรถมองซ้ายขวาราวกับสงสัยบางอย่าง
“เลี้ยวซ้ายด้านหน้าเลยค่ะ คอนโดตึกสูงๆ นั่นค่ะ” ฉันเอ่ยบอก
เมื่อรถมาถึงคอนโด เขาขับไปยังลานจอดรถด้านในซึ่งเป็นที่จอดสำหรับวีไอพีเท่านั้นแต่คนนอกอย่างพี่เวลล์มาจอดได้ไง
“พี่จอดตรงนี้ไม่ได้นะของวีไอพีคอนโด”
“เพื่อนพี่ให้บัตรจอดมา” เขาเดินลงออกจากรถแล้วมาเปิดประตูให้ฉัน ฉิบหายตอนนี้ฉันอืดอาดมากจนทำอะไรช้าไปหมด เขาจะว่าฉันสำออยไหม (ถึงจะมีหน่อยก็เถอะ แล้วดันเป็นกับคนหล่อคนนี้ซะด้วยสิ)
“ขอบคุณค่ะ รุ่นพี่กลับเถอะ ฉันเกรงใจ”
“....”
“ฉันขึ้นไปเองได้ค่ะ พี่เวลล์”
“....” ไม่รู้คิดไปเองไหม เขาไม่พูด ทำหูทวนลม คว้ากระเป๋าฉันเดินนำทันที ก่อนจะหยุดชะงักหันมองมาเหมือนเร่งให้ฉันเดิน ให้ตายเถอะทำไมพี่เขาพูดด้วยยากขนาดนี้ ดูท่าจะหัวรั้นสุดๆ จนฉันถอนหายใจ
“แล้วแต่ล่ะกัน ตามมาค่ะ”
ฉันเร่งเท้าก้าวนำเขา ในขณะที่เขาก็เดินตามถือกระเป๋าเงียบๆ จนมาถึงชั้นหก หน้าห้องตัวเอง
“ถึงแล้วค่ะ รุ่นพี่วางกระเป๋าไว้ได้เลย ฉันจะเข้าห้องไปพักผ่อนแล้ว”
“ครับ” ตอบมาสั้นๆ ตามสไตล์เขา แต่ไม่ทันที่ฉันจะหันหลังเข้าห้อง เขาเอามือคว้าไหล่ฉันไว้
“คะ”
“ขอยืมมือถือ”
“เอาไปทำไมอ่ะพี่”
“....” ไม่พูดอะไรตามเคยแต่จ้องเขม็ง
“นี่ค่ะ”
“ปลดรหัสด้วย”
“ปลดแล้ว” เขารับมือถือฉันก่อนจะกดอะไรยุกยิกไม่นาน แล้วก็คืนมือถือให้ฉัน จากนั้นก็หันหลังเดินจากไปปล่อยให้ฉันงงเป็นไก่ตาแตก ผู้ชายอะไรวะเนี่ย หล่อแต่เขาแปลก คิดไปก็ปวดหัว จากนี้คงไม่ได้เจอกันแล้วล่ะ (มั้ง)
สองวันต่อมา
ฉันสลบไสลไปนานมากพอดู พอตื่นขึ้นมาท้องไส้ก็หิวกิ่วสุดๆ ตอนนี้แขนของฉันพอขยับได้บ้าง แต่มันยังมีอาการหน่วง ๆ ช่วงต้นแขนนิดหน่อย ฉันหยุดเรียนไปร่วมสามวันแล้ว ดีนะที่ไอ้นัทส่งเลคเชอร์มาให้ว่าเรียนอะไรกันไปบ้าง ดีว่ายังเป็นคนที่ฉลาด เพียงแค่อ่านเลคเชอร์ก็สามารถเข้าใจถึงสิ่งที่เรียนได้และหาเพิ่มเติมเอาเอง
กลิ่นหอมๆ ลอยโชยลอดผ่านเข้ามาทางบานประตูห้องที่แง้มเล็กๆ แน่นอนว่าฉันไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ยัยมีนต้องกำลังเตรียมอาหารมือเย็นแน่ ๆ จึงเดินออกไปทั้งที่ยังสวมเสื้อสายเดี่ยวตัวบางกางเกงนอนขาสั้นกุดแสนย้วย
“ทำอะไรอ่า หอมมากมึง” ฉันหลับตาพริ้มเดินไปตามกลิ่นที่หอมอบอวลคลุ้งไปทั่วห้อง เข้าไปสวมกอดเอวยัยมีนด้านหลัง แต่เอ๊ะ พอจับเอวนางดีๆ แล้วมันแน่นปึกมาก หรือมันแอบไปออกกำลังกายมา จับไปจับมาอยู่นานเริ่มรู้สึกว่าไม่ใช่บอดี้ผู้หญิงแล้ว ฉันจึงเงยหน้าเพ่งมองเจ้าของหุ่นนี้
“เหี๊ย......มาได้ไง” ฉันอุทานออกมาสุดเสียง สถบหยาบอย่างไม่ได้ตั้งใจคลายมือที่เกาะเอวเขาแน่น ฉันขยี้ตามองอีกครั้งเผื่อว่าฝันไป แต่ไม่เลยความจริงล้วน ๆ
“พี่เวลล์ พี่เข้ามาได้ไง”
“....” เขาหันมามองหน้าฉันไม่ตอบอะไร ก่อนจะกลับไปสนใจอาหารบนเตาต่อ
“ฉันถามพี่อยู่นะคะ ไม่งั้นฉันจะแจ้ง รปภ. ว่าพี่บุกรุกห้องฉัน” ฉันจ้องตาเขาเขม็ง แต่ไอ้พี่บ้านี่ไม่สนใจฉันเลยสักนิด
“มาแล้วจ้า อ่าวตื่นแล้วเหรอมึง” ยัยแจนที่เปิดประตูเข้ามาพร้อมพี่แม็กหอบของพะรุงพะรังเต็มไม้เต็มมือ
“มีน มึง ทำอะไรลงไป” ฉันจ้องตาแข็งไปหาเพื่อนรูมเมท
“ใจเย็นๆ กูกำลังจะอธิบาย”
“ตามกูมาที่ห้องกูเลย มึง” ฉันกวักมือเรียกยัยมีน ก่อนจะมองหน้าพวกรุ่นพี่อย่างหาเรื่อง เดินเข้าห้องของตัวเอง ส่วนยัยมีนก็เดินตามมาติดๆ พร้อมปิดประตู ฉันนั่งลงบนปลายเตียงนอนส่วนยัยมีนก็นั่งเก้าอี้โต๊ะเครื่องแป้งเราสองคนหันหน้าเข้าหากัน ด้วยความเงียบ
“ว่ามา”
“คืองี้มีง มึงก็รู้ว่ากูกำลังคุยกับพี่แม็กไง ก็แค่ชวนมาทานข้าวเอง”
“แต่กูเคยบอกมึงใช่ไหมว่า ห้องเราห้ามเอาผู้เข้ามา”
“กฎนั้นกฎห้องมึงคนเดียวเกี่ยวไรกับกูอะ พี่แม็ก กับพี่เวลล์ก็ไม่ได้เข้ามาห้องมึงซะหน่อยค่ะ”
“กูหมายถึงทั้งหมด”
“เกินไปป่ะ กูก็จ่ายค่าห้องนะคะ ถ้ากูมีแฟนกูก็มีสิทธิ์พาเขามาห้องกูค่ะเพื่อนสาว อ่อ หรือจริงๆ กลัวพี่เวลล์”
“เหอะ คนอย่างกูจะกลัวเขาทำไม”
“กูนึกว่ามึง มองหน้าพี่เขาไม่ติดเพราะเรื่องคืนนั้น”
“ทำไมต้องมองไม่ติดเรื่องแค่นี้เอง”
“แค่นั้นเหรอ อ่อ”
“มีนมึงเปลี่ยนเรื่องป่ะ กูคุยกับมึงเรื่องเอาผู้มาคอนโดเรานะ”
“ทำไม หรือมึงอยากให้กูไปนอนที่อื่นว่ะแจน กูไปได้นะ” มีนกอดอกหันหลังให้ฉัน คนหัวร้อนต้องเป็นฉันไม่ใช่เหรอ
“กูก็ไม่ได้....เฮ้อเอาเถอะ แล้วแต่มึงเลยแล้วกัน กูไม่พูดล่ะ”
“ถือเป็นอันตกลงตามนี้ แจนมึงไม่เอาผู้มาแล้วแต่มึงเลย แต่ถ้ากูมีแฟนกูอยากพาเขามาห้องกูดีกว่าไปมั่วสุมข้างนอก อีกอย่างนะ..”
“อะไร”
“พวกรุ่นพี่เขาอยู่คอนโดเดียวกับเรานี่แหละค่า พึ่งมาอยู่ได้ไม่นาน มึงว่าพวกพี่เขาดวงสมพงศ์กับพวกเราไหมล่ะ ฮ่า..ออกไปทานข้าวกันเถอะ อย่าคิดมาก ถือว่าทำความรู้จักเพื่อนบ้าน พี่เขาอุตส่าห์ทำกับข้าวเลยนะ วาสนาปากเราแท้”
“....” ยัยมีนปลีกตัวออกจากห้องไปก่อน อย่างอารมณ์ดี ส่วนฉันใส่ชุดคลุมก่อนจะเดินตามออกมา คราวนี้อาหารก็ถูกจัดวางเต็มโต๊ะ ยัยมีนที่นั่งอยู่ข้างพี่แม็กก็ดี๊ด๊าสุดๆ ส่วนฉันนั่งลงเก้าอี้ข้างๆ พี่เวลล์ที่เอาแต่นั่งทานอาหารเงียบๆ
ฉันเองก็นั่งทานอาหารเงียบๆ เช่นกัน ไม่ได้สนใจสามคนร่วมโต๊ะอาหารเท่าไหร่ เมื่อทานอิ่มจะลุกเอาจานไปล้างที่ซิงค์ และเดินดิ่งจะเข้าห้องนอนทันที
“ทานยาก่อนไปนอนครับ” เสียงพี่เวลล์เอ่ยด้วยใบหน้าเรียบเฉย แต่ฉันสิที่กำลังเดินกลับเข้าห้องกับต้องชะงักแข็งทื่อเหลียวหันไปมองคนต้นเสียง
“คะ อ่อลืมทานนี่เอง” ฉันจัดการคว้ายาบนโต๊ะที่มันดูเหมือนจะมีคนหยิบออกมาวางให้ กรอกยาลงปากดื่มน้ำตาม
“ทานแล้วขอตัวนะคะ ยัยมีนออกไปกันเสร็จล็อคประตูห้องด้วยนะ”
“อือ ไปนอนเถอะ”
ตั้งแต่วันนั้น โลกก็เหวี่ยงให้เจอกันเรื่อย ๆ เลยสินะ
แสงแดดยามเย็นเริ่มทอแสงสาดส่องเข้ามา ฉันกับพี่เวลล์กำลังนั่งทานอาหารว่างกันอยู่ริมทะเล บรรยากาศดีสุด ๆ“ทานแตงโมหน่อยไหมครับ”“ค่ะ” ฉันยิ้มตอบเขา“ม่ะ...พี่ป้อน” เขาจิ้มแตงโมที่หวานฉ่ำนั้นป้อนให้ ฉันโน้มตัวเข้าไปกินอย่างมีความสุข “อร่อยไหมครับ”“อร่อยค่ะ แจนชอบแตงโม”“แล้วพี่ล่ะ แจนชอบไหม”“เอ๊ะ มันวกมาเวนี้ได้ยังไงกันคะพี่ ไม่ชอบค่ะ แต่รักเลย ฮี่...” เอ่ยจบเขายื่นมือมาบีบแก้มฉันด้วยความหมั่นเขี้ยว จากนั้นเขาก็ยังเอาแต่ป้อนผลไม้ให้ฉันทาน ถามว่าฉันกินไหม ก็กินสิผู้ชายหล่อป้อนทั้งที“แจนครับพอดีพี่มีประชุมด่วนของโรงพยาบาล พี่ขอตัววิดิโอคอลที่ประชุมสักครู่นะครับ”“ได้สิคะ งั้นแจนขอลงไปเล่นน้ำหน่อยนะคะ อยากเอาตัวจุ่มน้ำแล้ว”“ระวังด้วยนะครับ อย่างลงไปเล่นน้ำลึกมากล่ะ”“ค่ะพี่ แจนจะอยู่ใกล้ๆ นี่แหละค่ะ” เขาสวมผ้าคลุมที่เตรียมไว้พร้อมหยิบไอแพดปลีกตัวไปนั่งเก้าอี้ชายหาดใส่หูฟังพร้อมประชุม สีหน้าเปลี่ยนเป็นจริงจังและตึงเครียดมากขึ้นก็จริงล่ะนะ ถึงแม้เราจะมาพักผ่อน แต่งานก็ต้องดำเนินต่อไป จริงๆ แล้วฉันก็มีงานที่ต้องสะสาง แต่เพราะมีพ่อ มีพี่ทิม มีแฟรงค์ จึงสามารถวางใจได้ แต่พี่เวลล์เขาเป็นหมอ
ณ.ห้องครัวพี่เวลล์เข้าครัวทำกับข้าวให้ฉันตามที่ฉันร้องขอว่าอยากกิน กลิ่นผัดกะเพราไข่เยี่ยวม้าหอมฉุนไปทั่วบ้านพัก ทำเอาฉันสูดฟึดฟัด เพราะกลิ่นมันหอมจนอดไม่ไหว“หอมมาก อยากทานแล้วค่ะ” ฉันเดินเข้าไปสวมกอดเขาจากด้านหลัง ในขณะที่เขากำลังจัดเตรียมอาหารเหล่านั้นวางบนโต๊ะอาหาร"งั้นก็รอทานให้อร่อยนะพี่ตั้งใจทำให้แจนเป็นพิเศษเลยนะครับ"“ค่ะ..^^”ฉันนั่งรอที่โต๊ะอาหาร พร้อมแล้วกับการทานข้าวมื้อพิเศษที่เขามอบให้ อาหารง่ายๆ อย่างโจ๊กและผัดกะเพราไข่เยี่ยวม้า แบบพิเศษใส่ใจ“เสร็จแล้วครับ”“อื้อหื้อ น่าทานมาก ๆ ค่ะ จะทานแล้วนะคะ” ฉันที่ตั้งท่าจะทานแล้วนั้น ดันโดนพี่เวลล์ห้ามไว้ก่อน“เดี๋ยวสิครับ ล้างมือรึยัง ก่อนทานล้างมือก่อนครับ”“ก็ได้ค่ะ” ฉันทำหน้ามุ่ย แต่ก็ลุกไปล้างมือแต่โดยดี พอล้างเสร็จก็กลับมานั่งที่เดิม โดยที่พี่เวลล์เองก็เข้ามานั่งร่วมโต๊ะอาหารแล้ว“ทานเยอะๆ นะครับ” เขาไม่ใช่แค่พูด แต่ตักอาหารมาใส่จานให้ฉันด้วย ทั้งการกระทำและคำพูดเขาอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก นอกจากพ่อ ก็เขานี่แหละที่ทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่นหัวใจได้จริงๆ“พี่เองก็ทานเยอะๆ นะคะ”“ครับ” ฉันยิ้มให้เขา เขาก็ยิ้มให้ฉัน เราต่างก็ทานอาหา
12.00 น.ฉันตื่นขึ้นมาด้วยความปวดเมื่อยไปทั้งร่างกายอยู่บนเตียงฟูกนุ่มแล้ว และกำลังนอนกอดกันตัวเป็นเกลียวกับคนข้างๆ ที่ฉันรักมาก ร่างกายเรายังเปลือยเปล่าล่อนจ้อน เพราะกว่าจะได้นอนก็เกือบเช้า จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเสพสุขกันไปกี่ยก แต่ที่แน่ ๆ ระเบียงนั่น ฉันวนไปทุกมุม ขนมาทุกท่า แถมพี่เวลล์ตัวดีดันแข็งแรงทั้งร่างกายและน้องชายเขาก็ตื่นไม่พัก จึงต้องเป็นฉันที่ทนรับอยู่ร่ำในคืนที่ผ่านมาอย่างหนักหน่วงเขายังนอนหลับสนิท สองมือเขากอดฉันแน่น ส่วนใบหน้าฉันก็แนบชิดกับแผงอกของเขา ฉันเงยหน้ามองเขา ดูสิตอนนอนก็ยังหล่อเลย ขนตายาวงอน ริมฝีปากได้รูป จมูกโด่งสันทัดผิวขาวเปล่งปลั่ง สันกรามที่บาดคม เฮ้อหล่อจนร้องขอชีวิตนั่นและ เป็นบุญของฉันที่ได้มีโอกาสมารักเขาจริง ๆดวงตาเขาค่อย ๆ เปิดออกหลุบมองฉัน เขาค่อย ๆ ฉีกยิ้มก่อนจะออกแรงแขนรัดฉันแน่นขึ้น“แจนทำให้พี่เวลล์ตื่นเหรอคะ”“ป่าวหรอกครับ ความรักต่างหากที่ทำให้พี่ตื่น”“ดีนะ แจนยังไม่ได้ทานข้าวไม่งั้นมีอ้วกแน่ๆค่ะ” สิ้นคำฉัน เขายิ้มมองฉันก่อนจะลูบหัวเบาๆ ก้มหอมฟอดใหญ่ๆ บนหัวฉัน“ทนนะ หลังจากนี้จะได้ยินแบบนี้บ่อยขึ้น เพราะพี่คลั่งรักแจนไม่ไหว”“กลัวแล้ววววววว
“ขี้โกงจังนะครับ ทำไมเสร็จไปก่อนพี่แล้วล่ะ” เขากอดฉันแน่นอีกครั้ง“ก็เป็นเพราะใครล่ะ โดนขนาดนี้ใครจะทนไหวคะ”“พี่ยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะครับ” ฉันเอียงคอแหงนมองคนด้านหลังก่อนจะทำหน้ามุ่ยใส่ เขายิ้มมุมปากยักคิ้วให้ฉัน พลางก้มหน้าลงมาจุ๊บฉันหนึ่งที“ให้ตายเถอะ บอกอย่าเล่นกับระบบ พี่ก็เหมือนกันนั่นแหละ แจนไม่ยอมโดนกระทำอยู่ฝ่ายเดียวหรอก” ฉันลุกขึ้นหันหน้าไปเผชิญกับเขาที่นั่งอยู่ ผลักไหล่เขาให้ลงนอนราบบนโซฟาใหญ่นี้ พลางมองต่ำตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะคว่ำนั่งบนลำตัวของเขา ก็รู้แหละว่าตรงนั้นของเขามันแข็งขื่นขนาดไหนเพราะระหว่างขาฉันที่กำลังทับมันอยู่สัมผัสได้ ทำเอาตื่นเต้นชะมัดเป็นฉันบ้างที่เลียริมฝีปาก ทอดสายมองเขาอย่างยิ้มร้าย โน้มตัวลงเอาหน้าเกยไหล่เขาสองมือซุกซนสอดเข้าใต้เสื้อเพื่อสัมผัสผิวเขา มันแน่นมือถนัด ซิกแพคเป็นลอนที่จับก็รับรู้ได้ความแข็งแกร่งของหน้าท้องนั่น ทำเอาอยากเห็นด้วยตาเปล่าเสียตอนนี้“อื้ม...” เสียงครางเล็กๆ เมื่อมือฉันสัมผัสเข้ากับหัวนมของเขา มะ...ไม่ไหวแล้ว เสียงกับร่างกายของเขานี่มันทำเอาฉันคลั่งแทบบ้าเหมือนกันฉันทนไม่ไหวอีกต่อไป ถกเสื้อเขาไปกองไว้เหนืออก เผยให้เห็นแผง
เขายังคงวุ่นอยู่กับการจูบฉันอยู่แบบนั้นไม่มีท่าทีว่าจะคลายจูบเสียที ลมหายใจเขารดถี่ขึ้น ร้อนขึ้น พอๆ กับสัมผัสริมฝีปากของเขาที่พยายามบดเบียดรุกเข้ามาในโพรงปากฉัน ฉันก็ไม่ได้ขัดขืนอะไรปล่อยให้เขาทำตามใจ“อึก...โอ๊ย!!” พี่เวลล์กับฉันกำลังพรมจูบกันเข้าด้ายเข้าเข็ม แต่จู่ ๆ เป็นฉันเองที่ต้องผลักเขาออก“เป็นอะไรไปครับ” พี่เวลล์ประคองใบหน้าฉันมองหน้าด้วยความตกใจ“ขะ...ขาฉันค่ะ”“ขาเป็นอะไรครับ”“พี่ทับขาฉันค่ะ ฉันเจ็บ” สิ้นคำ เขาเหลือบไปมองดูแล้วก็เป็นให้เขาเห็น ก็ขาแกร่งของเขาทับขาเรียวเล็กของฉันจริง ๆ ไม่เจ็บได้ไง โซฟามันเล็กนิดเดียวนะเขาลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะยกขาฉันก่ายตักเขามานวดให้ฉัน อย่างแผ่วเบา“พี่ขอโทษครับพี่ไม่ได้ตั้งใจ”“ไม่เป็นไรค่ะ โซฟามันแคบ” ฉันยิ้มให้ก่อนจะลุกขึ้นนั่งแล้วยกขาที่ก่ายตักเขาออกวางลงปกติ“นั่นสิเนอะ ถ้าเป็นที่โล่งๆ คงจะดีกว่าใช่ไหมครับ”“ใช่ค่ะ...แต่เอ๊ะ ที่โล่งๆ ว๊าย!!!” พี่เวลล์ยกฉันพาดบ่าโดยที่ฉันไม่ทันตั้งตัวเลยสักนิด“พะ...พี่จะยกแจนไปไหนเนี่ยตกใจหมดเลย”“ก็ไปหาที่โล่งๆ ต่อไงล่ะ”“หมายถึงห้องนอนเหรอคะ”“ก็ใช่ แต่...หึ” เพราะฉันถูกพาดบ่าไว้ ทำให้มองไม่เห็นใบหน
เรากลับมาถึงบ้านพักของเรา เมื่อกำลังจะเดินเข้าบ้านฉันกลับหยุดเดินและฉุดรั้งเขาไว้ ฉันหันหน้ามองออกไปยังผืนทะเลตรงหน้าบ้านที่กำลังทอประกายด้วยแสงจันทร์ค่ำคืนนี้ พลางสูดอากาศเข้าไปเต็มปอดก่อนจะหันไปมองเขา“เป็นอะไรไปรึเปล่าครับ”“พี่คะ พี่รู้สึกยังไงบ้าง พี่อึดอัดใจรึเปล่าที่พี่เห็นฉันเป็นแบบนี้ ฉันรู้ว่าพี่เกลียดมาเฟีย ตอนนี้พี่กำลังข่มใจไว้ใช่ไหมคะ พี่ฝืนอยู่ใช่ไหม พี่กำลัง.......” ฉันพล่ามสาธยายไม่รู้จบ ฉันแค่รู้สึกกลัว กลัวว่าเขาจะไม่โอเค กับสิ่งที่ฉันเป็น และสิ่งที่ฉันกระทำ ฉันพะวงมันมาตลอด แต่ฉันก็อดไม่ได้เพราะฉันเป็นคนแบบนี้ มันแบบกระวนกระวายใจจนแทบบ้า อดีตมันยังคอยย้ำเตือนเสมอเขาไม่ปล่อยให้ฉันพูดจบ แต่เดินเข้าสวมกอดฉันแน่น จับศีรษะฉันแนบกับอกของเขาไว้ ลูบอย่างแผ่วเบา“พี่ไม่เป็นอะไรเลย สิ่งที่พี่เห็นยิ่งทำให้เข้าใจมุมแจนมากขึ้น เป็นพี่ที่คิดมากไปเอง พี่ผิดที่เอาอดีตที่เจอมาตัดสินจนทำให้รักของเราเคยล่มไปแบบนั้น”“พี่ไม่เกลียดฉันแล้วใช่ไหมคะ ที่ฉันเป็นมาเฟีย”“ไม่เลยครับ แล้วแจนล่ะครับ ยังโกรธพี่อยู่ไหม” เขาดันฉันออกจับไหล่ฉันทั้งสองข้าง สายตาก้มมองฉันด้วยความอ่อนโยน ฉันมองเขาด้ว