เมื่อไหร่จะถึงคอนโดสักที อยากจะหลุดพ้นจากความอึดอัดนี้เต็มทน เพราะตอนนี้เหลือแค่ฉันกับรุ่นพี่เวลล์เท่านั้น น้องวีขอตัวลงระหว่างทางไปก่อน แถมเขาก็ขับรถมองซ้ายขวาราวกับสงสัยบางอย่าง
“เลี้ยวซ้ายด้านหน้าเลยค่ะ คอนโดตึกสูงๆ นั่นค่ะ” ฉันเอ่ยบอก
เมื่อรถมาถึงคอนโด เขาขับไปยังลานจอดรถด้านในซึ่งเป็นที่จอดสำหรับวีไอพีเท่านั้นแต่คนนอกอย่างพี่เวลล์มาจอดได้ไง
“พี่จอดตรงนี้ไม่ได้นะของวีไอพีคอนโด”
“เพื่อนพี่ให้บัตรจอดมา” เขาเดินลงออกจากรถแล้วมาเปิดประตูให้ฉัน ฉิบหายตอนนี้ฉันอืดอาดมากจนทำอะไรช้าไปหมด เขาจะว่าฉันสำออยไหม (ถึงจะมีหน่อยก็เถอะ แล้วดันเป็นกับคนหล่อคนนี้ซะด้วยสิ)
“ขอบคุณค่ะ รุ่นพี่กลับเถอะ ฉันเกรงใจ”
“....”
“ฉันขึ้นไปเองได้ค่ะ พี่เวลล์”
“....” ไม่รู้คิดไปเองไหม เขาไม่พูด ทำหูทวนลม คว้ากระเป๋าฉันเดินนำทันที ก่อนจะหยุดชะงักหันมองมาเหมือนเร่งให้ฉันเดิน ให้ตายเถอะทำไมพี่เขาพูดด้วยยากขนาดนี้ ดูท่าจะหัวรั้นสุดๆ จนฉันถอนหายใจ
“แล้วแต่ล่ะกัน ตามมาค่ะ”
ฉันเร่งเท้าก้าวนำเขา ในขณะที่เขาก็เดินตามถือกระเป๋าเงียบๆ จนมาถึงชั้นหก หน้าห้องตัวเอง
“ถึงแล้วค่ะ รุ่นพี่วางกระเป๋าไว้ได้เลย ฉันจะเข้าห้องไปพักผ่อนแล้ว”
“ครับ” ตอบมาสั้นๆ ตามสไตล์เขา แต่ไม่ทันที่ฉันจะหันหลังเข้าห้อง เขาเอามือคว้าไหล่ฉันไว้
“คะ”
“ขอยืมมือถือ”
“เอาไปทำไมอ่ะพี่”
“....” ไม่พูดอะไรตามเคยแต่จ้องเขม็ง
“นี่ค่ะ”
“ปลดรหัสด้วย”
“ปลดแล้ว” เขารับมือถือฉันก่อนจะกดอะไรยุกยิกไม่นาน แล้วก็คืนมือถือให้ฉัน จากนั้นก็หันหลังเดินจากไปปล่อยให้ฉันงงเป็นไก่ตาแตก ผู้ชายอะไรวะเนี่ย หล่อแต่เขาแปลก คิดไปก็ปวดหัว จากนี้คงไม่ได้เจอกันแล้วล่ะ (มั้ง)
สองวันต่อมา
ฉันสลบไสลไปนานมากพอดู พอตื่นขึ้นมาท้องไส้ก็หิวกิ่วสุดๆ ตอนนี้แขนของฉันพอขยับได้บ้าง แต่มันยังมีอาการหน่วง ๆ ช่วงต้นแขนนิดหน่อย ฉันหยุดเรียนไปร่วมสามวันแล้ว ดีนะที่ไอ้นัทส่งเลคเชอร์มาให้ว่าเรียนอะไรกันไปบ้าง ดีว่ายังเป็นคนที่ฉลาด เพียงแค่อ่านเลคเชอร์ก็สามารถเข้าใจถึงสิ่งที่เรียนได้และหาเพิ่มเติมเอาเอง
กลิ่นหอมๆ ลอยโชยลอดผ่านเข้ามาทางบานประตูห้องที่แง้มเล็กๆ แน่นอนว่าฉันไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ยัยมีนต้องกำลังเตรียมอาหารมือเย็นแน่ ๆ จึงเดินออกไปทั้งที่ยังสวมเสื้อสายเดี่ยวตัวบางกางเกงนอนขาสั้นกุดแสนย้วย
“ทำอะไรอ่า หอมมากมึง” ฉันหลับตาพริ้มเดินไปตามกลิ่นที่หอมอบอวลคลุ้งไปทั่วห้อง เข้าไปสวมกอดเอวยัยมีนด้านหลัง แต่เอ๊ะ พอจับเอวนางดีๆ แล้วมันแน่นปึกมาก หรือมันแอบไปออกกำลังกายมา จับไปจับมาอยู่นานเริ่มรู้สึกว่าไม่ใช่บอดี้ผู้หญิงแล้ว ฉันจึงเงยหน้าเพ่งมองเจ้าของหุ่นนี้
“เหี๊ย......มาได้ไง” ฉันอุทานออกมาสุดเสียง สถบหยาบอย่างไม่ได้ตั้งใจคลายมือที่เกาะเอวเขาแน่น ฉันขยี้ตามองอีกครั้งเผื่อว่าฝันไป แต่ไม่เลยความจริงล้วน ๆ
“พี่เวลล์ พี่เข้ามาได้ไง”
“....” เขาหันมามองหน้าฉันไม่ตอบอะไร ก่อนจะกลับไปสนใจอาหารบนเตาต่อ
“ฉันถามพี่อยู่นะคะ ไม่งั้นฉันจะแจ้ง รปภ. ว่าพี่บุกรุกห้องฉัน” ฉันจ้องตาเขาเขม็ง แต่ไอ้พี่บ้านี่ไม่สนใจฉันเลยสักนิด
“มาแล้วจ้า อ่าวตื่นแล้วเหรอมึง” ยัยแจนที่เปิดประตูเข้ามาพร้อมพี่แม็กหอบของพะรุงพะรังเต็มไม้เต็มมือ
“มีน มึง ทำอะไรลงไป” ฉันจ้องตาแข็งไปหาเพื่อนรูมเมท
“ใจเย็นๆ กูกำลังจะอธิบาย”
“ตามกูมาที่ห้องกูเลย มึง” ฉันกวักมือเรียกยัยมีน ก่อนจะมองหน้าพวกรุ่นพี่อย่างหาเรื่อง เดินเข้าห้องของตัวเอง ส่วนยัยมีนก็เดินตามมาติดๆ พร้อมปิดประตู ฉันนั่งลงบนปลายเตียงนอนส่วนยัยมีนก็นั่งเก้าอี้โต๊ะเครื่องแป้งเราสองคนหันหน้าเข้าหากัน ด้วยความเงียบ
“ว่ามา”
“คืองี้มีง มึงก็รู้ว่ากูกำลังคุยกับพี่แม็กไง ก็แค่ชวนมาทานข้าวเอง”
“แต่กูเคยบอกมึงใช่ไหมว่า ห้องเราห้ามเอาผู้เข้ามา”
“กฎนั้นกฎห้องมึงคนเดียวเกี่ยวไรกับกูอะ พี่แม็ก กับพี่เวลล์ก็ไม่ได้เข้ามาห้องมึงซะหน่อยค่ะ”
“กูหมายถึงทั้งหมด”
“เกินไปป่ะ กูก็จ่ายค่าห้องนะคะ ถ้ากูมีแฟนกูก็มีสิทธิ์พาเขามาห้องกูค่ะเพื่อนสาว อ่อ หรือจริงๆ กลัวพี่เวลล์”
“เหอะ คนอย่างกูจะกลัวเขาทำไม”
“กูนึกว่ามึง มองหน้าพี่เขาไม่ติดเพราะเรื่องคืนนั้น”
“ทำไมต้องมองไม่ติดเรื่องแค่นี้เอง”
“แค่นั้นเหรอ อ่อ”
“มีนมึงเปลี่ยนเรื่องป่ะ กูคุยกับมึงเรื่องเอาผู้มาคอนโดเรานะ”
“ทำไม หรือมึงอยากให้กูไปนอนที่อื่นว่ะแจน กูไปได้นะ” มีนกอดอกหันหลังให้ฉัน คนหัวร้อนต้องเป็นฉันไม่ใช่เหรอ
“กูก็ไม่ได้....เฮ้อเอาเถอะ แล้วแต่มึงเลยแล้วกัน กูไม่พูดล่ะ”
“ถือเป็นอันตกลงตามนี้ แจนมึงไม่เอาผู้มาแล้วแต่มึงเลย แต่ถ้ากูมีแฟนกูอยากพาเขามาห้องกูดีกว่าไปมั่วสุมข้างนอก อีกอย่างนะ..”
“อะไร”
“พวกรุ่นพี่เขาอยู่คอนโดเดียวกับเรานี่แหละค่า พึ่งมาอยู่ได้ไม่นาน มึงว่าพวกพี่เขาดวงสมพงศ์กับพวกเราไหมล่ะ ฮ่า..ออกไปทานข้าวกันเถอะ อย่าคิดมาก ถือว่าทำความรู้จักเพื่อนบ้าน พี่เขาอุตส่าห์ทำกับข้าวเลยนะ วาสนาปากเราแท้”
“....” ยัยมีนปลีกตัวออกจากห้องไปก่อน อย่างอารมณ์ดี ส่วนฉันใส่ชุดคลุมก่อนจะเดินตามออกมา คราวนี้อาหารก็ถูกจัดวางเต็มโต๊ะ ยัยมีนที่นั่งอยู่ข้างพี่แม็กก็ดี๊ด๊าสุดๆ ส่วนฉันนั่งลงเก้าอี้ข้างๆ พี่เวลล์ที่เอาแต่นั่งทานอาหารเงียบๆ
ฉันเองก็นั่งทานอาหารเงียบๆ เช่นกัน ไม่ได้สนใจสามคนร่วมโต๊ะอาหารเท่าไหร่ เมื่อทานอิ่มจะลุกเอาจานไปล้างที่ซิงค์ และเดินดิ่งจะเข้าห้องนอนทันที
“ทานยาก่อนไปนอนครับ” เสียงพี่เวลล์เอ่ยด้วยใบหน้าเรียบเฉย แต่ฉันสิที่กำลังเดินกลับเข้าห้องกับต้องชะงักแข็งทื่อเหลียวหันไปมองคนต้นเสียง
“คะ อ่อลืมทานนี่เอง” ฉันจัดการคว้ายาบนโต๊ะที่มันดูเหมือนจะมีคนหยิบออกมาวางให้ กรอกยาลงปากดื่มน้ำตาม
“ทานแล้วขอตัวนะคะ ยัยมีนออกไปกันเสร็จล็อคประตูห้องด้วยนะ”
“อือ ไปนอนเถอะ”
ตั้งแต่วันนั้น โลกก็เหวี่ยงให้เจอกันเรื่อย ๆ เลยสินะ
EP.12ไม่รู้ว่านอนไปนานแค่ไหน แต่ที่แน่ๆ ฉันนอนฝันร้ายสุดๆ ฝันถึงแต่พี่เขา จดจำแต่เรือนร่างอันแข็งแกร่งและทรงเสน่ห์นั้นแทบทุกส่วน แถมในฝันก็เป็นฉันที่เอาแต่กอดรัดฟัดเหวี่ยงร่างกายเขาอย่างหิวโหย จนคิดตลกไปว่าเขาเล่นของใส่ฉันรึเปล่า หรือแท้จริงแล้วฉันมันพวกหื่นกระหายเกินเบอร์ตอนนี้ระหว่างขาของฉันมันชุ่มแฉะเต็มไปด้วยน้ำรัก หรือที่ใครๆ เรียกว่าฝันเปียกนั่นแหละ ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มานานมากจริงๆ ให้ตายเถอะหลับแล้วยังเสือกมีอารมณ์ร่วมอีก“แม่งเอ้ย...ทำไมพี่เวลล์ถึงทำให้กลายเป็นคนหื่นกามได้ขนาดนี้เนี้ย รู้ถึงไหนอายถึงนั่น”เพราะอารมณ์ที่ค้างต่อจากฝัน ตื่นมาก็ยังคงกระสับกระส่าย วาบหวิวไปทั้งตัว ซ่านไปหมด จึงลุกจากเตียงไปโต๊ะเครื่องแป้งหยิบเซ็กทอยที่ลิ้นชัก เดินกลับมาบนเตียงอารมณ์อันเร่าร้อน ทั้งเนื้อทั้งตัวรุ่มร้อนไปหมด มือหนึ่งก็เฟ้นหน้าอกตัวเองอย่างเสียวซ่าน อีกมือหนึ่งก็จับเจ้าอุปกรณ์แท่งสวรรค์ที่สั่งออนไลน์มาสอดใส่ลงไประหว่างขาที่เปียกชื้นแฉะค่อยๆ ดันเข้าไปจนมิดโคน“อ่า...” ชักเข้าออกช้าๆ เป็นจังหวะพลานนึกถึงใบหน้าเขาคนนั้น กระตุ้นให้เกิดอารมณ์พลุ่งพล่าน ขนลุกไปทั้งตัว“พะ...พี่เวลล
หลายวันต่อมา...ณ. คอนโด“มึง ช่วงนี้พี่แม็กไม่มีเวลาให้กูเลย นอยสุดๆ” ยัยมีนสถบก่อนจะเดินมานั่งลงบนโซฟาที่ฉันกำลังนั่งดูซีรีส์จีนอยู่“พี่เขาเรียนหมอ ขึ้นชื่อว่าเรียกหนักอยู่แล้วป่ะ มึงต้องเผื่อใจปัญหาด้านเวลา ที่มึงต้องเจอ”“ฉันก็บ่นไปงั้นแหละรู้นา.. แล้วมึงกับพี่เวลล์ล่ะ”“เกี่ยวไรกับกู” ฉันหันหน้าควับไปหายัยมีน จู่ๆ ก็โยนถามมาเฉยเลย“มึงไม่คิดถึงพี่เวลล์บ้างเหรอ” ยัยมีนทำหน้าสนอกสนใจ“กูไม่ได้เป็นอะไรกับพี่เขา จะคิดถึงเขาทำเพื่อ?”“อ่อ ไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่...”“มึงพูดมากจังว่ะมีน”“หยอกหน่อยนา...ทำเป็นหงุดหงิดไปได้ อย่าให้เห็นนะว่าตกหลุมรักพี่เวลล์ หล่อขั้นเทพขนาดนั้น ฉันว่าแกไม่รอดแน่ ฮ่าๆ” ยัยมีนพูดจบ ก็หันหลังรีบลุกเดินเข้าห้องของตัวเองทันที เพราะตอนนี้ฉันกำลังง้างเท้าจะถีบมันไงล่ะ ขนาดเข้าห้องไปแล้ว เสียงหัวเราะร่ายังดังลอดออกมา กวนประสาทฉันสุดแต่ก็จริงอย่างที่ยัยมีนพูดอยู่หนึ่งอย่าง หลังจากเรื่องวันนั้น ฉันก็ไม่ได้พบกับรุ่นพี่เวลล์อีกเลย ก็ไม่ได้คิดถึงอะไรหรอกยัง
EP.14 อุกอาจ22.00ฉันขับรถออกจากโกดังเก็บสินค้า วิ่งไปตามถนนเส้นหลักมุ่งหน้าเพื่อกลับคอนโด แต่แล้วก็พบว่ามีรถคันหรูคันหนึ่งจอดอยู่ไหล่ทาง และมีชายชุดดำกลุ่มหนึ่งราวสามถึงสี่คนพยายามทุบกระจกรถนั้นอย่างรุนแรง เนี่ยแหละนะกลางคืนของเมืองนี้ เมืองคนเถื่อน ตำรวจหลับหูหลับตา ปล่อยให้เกิดอาชญากรรม แน่นอนว่าครอบครัวฉันก็เป็นหนึ่งในพวกนี้แหละในสมองคิดจะปล่อยผ่าน เพราะไม่อยากเข้าไปยุ่งวังวนแห่งการแก้แค้นของตระกูลไหน แต่พอเหลือบมองพบว่าคนในรถเป็น คู่ชายหญิงมีอายุ ทำให้ตัวฉันทนดูไม่ได้ตัดสินใจหยิบมือถือเรียกพี่ทิมให้เตรียมคนมาสมทบตามโลเคชั่นก่อนจะหักเลี้ยวรถกลับอย่างกะทันหัน จนเสียงล้อที่เบียดเสียดกับพื้นดังสนั่นหวั่นไหว ‘เอี๊ยด....’ ขับย้อนกลับไป พลางมือหนึ่งหยิบปืนใต้ลิ้นชักรถออกมารถของฉันจอดออกไปไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ ลดกระจกข้างลงเอี้ยวตัวโผล่พ้นรถยิงไปยังชายชุดดำที่กำลังมั่วแต่ทุบกะจกของชายหญิงมีอายุ“ปัง...ปัง” ฉันรัวปืนเล็งยิงไปยังขาของชายชุดดำทุกคน แน่นอนว่าจะฆ่าพวกมันไม่ได้เพราะไม่อยากให้มีคดี แต่หากยิงขามันก็ถือว่าป้องกันตัวได้ เรื่องยิงปืนฉันไม่พลาดสักนัด เพราะพ่อสอนฉันที่ฮาวายตั้งแต่เด
EP.15 ณ. คอนโด ฉันกลับถึงคอนโดด้วยความเหนื่อยล้า “อยากนอนบนฟูกนุ่มๆ แล้วสิ แต่สภาพแบบนี้คงต้องอาบน้ำอุ่นๆ ให้หายเหนื่อยซะก่อน ชีวิตมาเฟียไหนจะสบาย วันๆ มีแต่เรื่องให้จัดการ” ฉันขึ้นลิฟท์ เดินก้มหน้าไปยังห้องของตัวเอง แต่ก่อนที่จะถึงห้องกลับถูกรั้งแขนไว้ แถมยังถูกดึงหมวกเสื้อฮู้ดที่คลุมอยู่ออก ฉันตวัดตัวมองคนที่กระทำด้วยท่าที่ขึงขังไปพร้อมกับกำลังจะเตะก้านคอคนที่บังอาจมาแตะต้องตัวฉัน แต่แล้วขาที่กำลังตั้งฉากเกือบร้อยแปดสิบองศาก็หยุดชะงักกลางอากาศ ไม่อยากจะเจอทำไมดันเจอกันตลอด “รุ่นพี่” ฉันชะงักลง แถมข้อมือเขาก็จับแขนฉันอย่างแรง “ไปไหนมาครับ” เสียงหล่อเอ่ยถามแต่ใบหน้าของเขากลับน่ากลัวแปลกๆ ไปโดนรังแตนไหนมา แล้วมาลงกับฉันวะ “รุ่นพี่ ปล่อยแขนฉันก่อน ฉันเจ็บ” ฉันทำหน้ายู่ยี่ มันเจ็บจริงๆ นะแก ถ้าเป็นคนอื่นฉันสวนคืนไปนานแล้วนะ แต่ดูเหมือนว่าพอเขาเห็นหน้าฉันแสดงสีหน้าไม่ดีนักเขาก็คลายมือปล่อยฉันแต่โดยดี ฉันสะบัดแขนไปมาก่อนจะยืนกอดอกจ้องมองเขาอย่างหาเรื่อง “รุ่นพี่มีอะไรจะคุยกับแจนถึงมาดักถึงหน้าห้อง ว่ามาได้เลยค่ะ ”ฉันจ้องเขาไม่ละสายตา นึกว่าฉันจะกลัวเขารึไง ไม่มีทาง มาเฟียอย่างฉันกลั
EP.16(Well Part)หลายชั่วโมงก่อน ผมเดินสวนกับเธอตรงหน้าลิฟท์ของคอนโด แม้เธอจะแต่งตัวมิดชิดสวมฮู้ดดำคลุมหัว สวมแมสปิดหน้า เห็นเพียงแค่ดวงตา ผมก็จำได้ว่าเป็นเธอแจนดูรีบเร่ง และพยายามหลีกเลี่ยงที่จะมองผมอย่างเห็นได้ชัด ตอนแรกผมกะตั้งใจจะรั้งเธอสักหน่อย แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะไม่ทำเพราะก็ไม่รู้ว่าจะทำไปทำไม แล้วมีสิทธิ์อะไรที่จะไปถามเธอแบบนั้น ในเมื่อเธอเลี่ยงที่จะไม่ให้ผมทัก ผมก็ทำเป็นไม่เห็นเธอแล้วกัน ปล่อยผ่านกลับห้องตัวเองเพื่อพักผ่อน หลังกลับจากโรงพยาบาล22.00น.ผมนอนไปนานอยู่เหมือนกัน เพราะตั้งแต่ตะวันตกดินจนตอนนี้ค่ำมืดแสงจันทร์สาดเข้ามาในห้องที่มืดมิด ความเหนื่อยทำให้ผมหลับสนิท แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งตื่นเมื่อได้รับสายทางไลน์จากเพื่อนผม ที่วันนี้ก่อนออกจากโรงพยาบาลมันบอกผมด้วยใบหน้าอารมณ์ดีว่าจะไปเดทกับน้องมีนของมัน เห็นว่าน้องเขางอนที่ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เจอกันหรือคุยกันเท่าไหร่ แต่ก็ไม่แปลก พวกผมงานทั้งในมหาลัย และโรงพยาบาลยุ่งกันมากจริงๆ ชนิดที่เวลากินข้าว หรือแม้แต่เล่นเกมในมือถือยังไม่มีเวลาด้วยซ้ำ นี่แหละจึงเป็นเหตุผลที่พวกผมและเพื่อนเรียนหมอหลายคนโสดกันซะส่วนใหญ่ หรือถ้าคนที่มีแฟน
EP.17(Well Part)‘บรืน....’ผมขับรถด้วยความเร็วสูง ตัวผมไม่สามารถทำใจสงบนิ่งได้จริงๆ จากที่ผมพึ่งจะหงุดหงิดเรื่องแจนจอมปากแข็งมาแล้ว ตอนนี้ต้องมาได้รับข่าวร้ายที่กระทบจิตใจผมอย่างจัง เมื่อพ่อแม่ผมนั้น ถูกพวกคนเลวทำร้าย ใครกันช่างกล้าทำร้ายคนของตระกูลผมแสดงว่าพวกมันคงมีอำนาจมากพอควรถึงกล้าลงมือขนาดนี้ หรือจะเป็นพวก ‘มาเฟีย’ แน่นอนว่าถ้าผมรู้ตัวการ ผมไม่ปล่อยพวกมันได้แน่ผมอยากกลับไปเจอพวกท่านเร็วๆ การที่วีโทรหาผมเอ่ยว่าสภาพรถยับเยินมากขนาดนั้น แต่พ่อแม่กลับไม่ได้อยู่โรงพยาบาล นั่นแสดงว่าพวกท่านยังคงปลอดภัยไม่ได้รับอันตรายถึงชีวิต แม้จะโล่งใจไปหน่อย แต่ก็ยังชะล่าใจไม่ได้เมื่อผมขับรถมาถึงคฤหาสน์ บ้านตระกูลของผม และจอดเทียบโรงจอดรถแล้วนั้น รถคันหนึ่งที่คาดว่าพวกท่านขับในคืนวันนี้ สภาพบุบไปทั่วทั้งคันรถ กระจกรถรุ่นพิเศษที่หนาขนาดนั้นถึงกลับมีรอยแตกร้าวได้ ทำเอาตาผมเบิกโพรงไอ้พวกที่ทำกะเอาพ่อแม่ผมตายเลยสินะ ร่างกายจากที่พอสงบนิ่งได้บ้าง กลับกลายเป็นสั่นเทาด้วยความโกรธใบหน้าที่ไม่แสดงสีหน้าอะไรก็ไม่สามารถซ่อนความรู้สึกได้อีกต่อไป สองเท้าวิ่งเข้าตัวบ้านอย่างไม่รอรี“พ่อครับ แม่ครับ” ผมเรียก
สองวันผ่านมา (เช้าวันใหม่)อากาศสดใส สองวันที่ผ่านมานอนหลับเต็มอิ่มสุดๆ หรือเป็นเพราะได้รับ ‘จูบ’ จากพี่เขา ก็เลยพาลลืมเรื่องทุกอย่างที่ปวดหัวไปหมดเดี๋ยวนะ นี่ฉันคิดอะไรอยู่ ให้ตายเถอะ ถ้าไม่ติดว่าโถงทางเดินแม่จะจูบสูบวิญญาณคืนไปแล้วสองวันก่อนนั้น พี่เวลล์เหมือนหมาบ้าจริงๆ เขามานิ่งๆ ไม่พูดจา แต่การกระทำคือจู่โจมสุดๆ ฉันว่าทุกคำที่ฉันพูดเป็นความจริงทั้งนั้นนะ แล้วที่บอกว่าไม่ได้เป็นอะไรกัน มันก็เรื่องจริงไม่ใช่เหรอ เขาเองก็เคยบอกไม่ชอบมีพันธะใด ๆ นี่ไงหลังจบคืนแรกนั้นฉันไม่เคยจะกลับไปตื้อเขาสักกะครั้งหนึ่งตามสัญญาที่พูดไว้ แล้วเขาโมโหอะไร เป็นพี่เขาเองมากกว่าที่เอาแต่ป้วนเปี้ยนอยู่ข้างฉันแต่ยอมรับเรื่องเดียวที่โกหกก็คือเรื่องเขม่าดินปืน ใครจะไปตอบล่ะ ว่าฉันยิงปืนมาค่ะ ฉันสอยอันธพาลมาค่ะ ฉันเป็นมาเฟียค่ะ งี้เหรอ พูดก็โง่แล้วฉัน โมโหไปเถอะจะมาเค้นจนบีบคอก็ไม่ตอบหรอกณ. มหาวิทยาลัย(ห้องเรียนของฉัน)หลังคาบเรียนที่แสนสาหัสจบ เราจับกลุ่มกันทำโปรเจคยักษ์ใหญ่ของกลุ่มกันจนหัวหมุน กว่าจะคุยกันเสร็จก็ปาไปสองชั่วโมงเต็มๆตอนนี้เหลือเพียงฉันกับพลอย(เพื่อนวิศวะห้องเดียวกัน) ที่ยังนั่งคุยสัพเพเ
ฉันกับไอ้นัทเดินไปยังกลุ่มน้อง ๆ ปีหนึ่งเศรษฐศาสตร์กลุ่มหนึ่งที่นั่งรวมตัวอยู่ใต้ต้นขะจาวข้างสนามบาส เสียงกรี๊ดในสนามยังดังไม่หยุดหย่อน อีกทั้งคนดูบางส่วนก็หันมามองฉันกันเป็นระยะ เอาเถอะมองกันให้พอตอนที่ฉันยังอารมณ์ดี“พี่นัท ไม่อยากจะเชื่อว่าพี่จะพาพี่แจนมาได้” สาวคนคุยของไอ้นัทเอ่ยพรางยกมือไหว้ฉันอย่างนอบน้อม ทำไมเขาทำเหมือนฉันเป็นคนแก่ขนาดนั้น แต่ไงก็รับไว้ตามมารยาทไว้ก่อนแหละ“นี่น้องอร เอ่อ...” ไอ้นัทพูดติดขัด มันคงเขินแหละ สเปกตัวเล็ก ตาโต แก้มป่อง อย่างที่มันพูดจริงๆ ถือว่าหน้าตาใช้ได้เลย“แฟนพี่นัทค่ะ” น้องอรพูดเสียงดังฟังชัด ฉันหันไปมองไอ้นัท ที่ตอนนี้มันอ้าปากค้างไปแล้ว น้องอรนี่ชัดเจนดีแหะ ถือว่าเป็นการเริ่มต้นคบใครได้ดีของไอ้นัทมันแล้วล่ะ“พี่ชื่อแจนนะคะ เพื่อนนัท ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”“พวกเรารู้จักพี่ค่ะ พี่แจน” กลุ่มหญิงสาวพูดกันอย่างพร้อมเพรียง ทำเอาฉันทำตัวไม่ถูกไปเลย สมองเอาแต่คิดว่า รู้จักฉันเพราะอะไร ชื่อเสีย เอ้ย ชื่อเสียงฉันกระฉ่อนอะไรนะ หน้าตาอย่าง
หมอพัฒน์ หมอที่ดูโอบอ้อมอารี ใจดีและเป็นมิตรกับทุกคนในโรงพยาบาล ฉันเคยรักษากับเขา พี่แม็กเองก็ชมเขาไม่หยุด และดูเหมือนพี่เวลล์เองก็จะให้ความเคารพนับถือเขาไม่น้อย ไม่คิดเลยว่าเบื้องหลังใบหน้าที่แสนดีขนาดนี้ จะซุกซ่อนความเลวร้ายได้เกินจะบรรยาย“ทำหน้าแบบนั้น ตกใจรึไงกัน” หมอพัฒน์ยังบีบคางฉันแน่นไม่ยอมปล่อย“หึ ถุย...” ฉันสถบถุยใส่เขาไม่เกรงกลัว และแน่นอนว่าฉันถูกตบหน้าไปอีกหนึ่งฉาด ‘เพี๊ยะ’ มือของชายคนนี้รุนแรงมากกว่าผู้หญิงคนนั้นหลายสิบเท่า ตบเพียงครั้งเดียวทำให้หน้าสั่นเลือดกลบปากฉัน จนสำลักเลือดออกมาทางเรียวปากไหลเป็นทาง“ไม่เอานา...ผมไม่อยากทำร้ายคุณ ไม่อยากทำให้ใบหน้าสวยนี้ต้องระบมไปมากกว่านี้” หมอพัฒน์ปล่อยมือเขาออกจากใบหน้าฉัน ก่อนจะเดินวนไปมา ท่าทีเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายของเขาทำให้ฉันยิ่งเห็นความน่ากลัวของชายวัยกลางคนคนนี้“หมอพัฒน์ ไม่สิคุณพัฒน์ คุณทำแบบนี้ต้องการอะไร”“ผมรู้ว่าคุณรู้ว่าผมคือใคร เหมือนที่ผมรู้ว่าคุณคือใครน่ะ คุณหนูแจน” เขายืนกอดอกมองฉันด้วยใบหน้าแสยะยิ้มมองฉันราวกับลูกไก่ในกำมือ ในขณะที่ผู้หญิงด้านหลังนั่นมองฉันแทบจะกินเลือดกินเนื้ออยากฆ่าฉันให้พ้น ๆ“งั้นฉันก็ไม่พิ
EP.50ณ.โรงพยาบาลฉันได้สติอีกทีเหมือนจะถูกส่งมารักษาที่โรงพยาบาลแล้ว มองไปรอบ ๆ ดูเหมือนจะนอนพักอยู่ในห้องพิเศษวีไอพีของโรงพยาบาลที่คุ้นตานั่นแหละ จริง ๆ ก็จำเหตุการณ์หลังจากที่หมดสติในรถนั่นไม่ได้หรอก คงเป็นพี่เวลล์ที่เรียกรถพยาบาลมาละมั้ง ทำให้ฉันถึงมาอยู่ที่นี่ไม่นานนักก็มีพยาบาลวนเข้ามาตรวจฉันเป็นระยะ อาหารอ่อนเข้ามาเสิร์ฟ ส่วนพี่เวลล์ก็มีเข้ามาหาบ้าง ไม่สิค่อนข้างบ่อยเลยล่ะ แต่เพราะเขาเองก็ยังวุ่นกับวอร์ดจึงอยู่นานไม่ได้ ดังนั้นจึงทำได้เพียง ให้กำลังใจ มอบรอยยิ้มให้ แล้วก็กลับไปทำงานของตัวเองต่อ ส่วนยัยมีน กับพลอย ก็เจียดเวลามาเยี่ยมแล้ว แต่ฉันก็เป็นฝ่ายไล่พวกมันกลับไปไม่อยากให้พวกมันเฝ้า เพราะยังไงฉันเองก็มีสิ่งที่ต้องทำอยู่ฉันเคยคิดว่าถ้าฉันเจ็บจนต้องเข้าโรงพยาบาล เขาจะฟูมฟาย ดูกังวลและแสดงออกว่าเป็นห่วงมากกว่านี้ แต่เปล่าเลยเขาไม่เพียงดูนิ่งขรึมใบหน้าราบเรียบ แต่ไม่เอ่ยถามไถ่สาเหตุที่ฉันได้รับบาดเจ็บด้วยซ้ำก็เลยค่อนข้างแปลกใจอยู่หน่อยฉันที่ลุกขึ้นนั่งได้เพียงเครั้ง ก็ทิ้งตัวลงไปนอนแผ่บนเตียงผู้ป่วยเหมือนเดิน พลางมองฝ้าเพดานคิดอะไรเรื่อยเปื่อยไม่รู้เหมือนกันที่หมดสติไป
หลายเดือนต่อมาอีกไม่กี่วันก็ใกล้ปิดภาคเรียนแล้ว การมุ่งไปสู่ปีสี่ก็คืบคลานเข้ามา แม้โปรเจคนรกปีสามจะผ่านไป แต่การเรียนวิศวะมันไม่ง่ายเลย ยิ่งปีสี่แล้วถึงใจฉันจะพับโครงการนั่นไป แต่การเรียนในมหาลัยก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ส่วนพี่เวลล์ก็ง่วนกับโรงพยาบาลตามเคย แม้จะไม่ค่อยได้เจอกัน ความรักของฉันกับพี่เวลล์ยังคงดำเนินไปได้ด้วยดี โดยฉันกับพี่เขาก็เติมหวานด้วยการสัญญาว่าในหนึ่งวัน ต้องโทร หรือส่งข้อความหากัน ห้ามหายเด็ดขาด บางครั้งพอมีเวลาวันหยุดก็มักไปเที่ยวด้วยกัน หรือแม้กระทั่งเมคเลิฟกันบ้างถ้าสถานที่อำนวยส่วนวันนี้ ฉันกะจะเข้าไปตรวจโกดังสักหน่อย เพราะที่ผ่านมายุ่งทั้งเรื่องการเรียน และหาเวลาให้พี่เวลล์ ทำให้ห่างจากการไปดูแลงานของตระกูลไปพอสมควร จะปล่อยให้พี่ทิมจัดการคนเดียวได้ไง เขาก็มนุษย์คนหนึ่ง ถ้าฉันเป็นพี่เขา ก็คงบ่นว่า เจ้านายไม่ได้เรื่องแหง ๆ อีกอย่างเด่นเรื่องเรียน กับ ความรักไปแล้ว การงานจะน้อยหน้าได้ยังไงจริงไหมดังนั้นวันนี้ถือเป็นโอกาสดีที่จะได้เจียดไปเยี่ยมลูกน้อง แถมยังต้องติดตามอัปเดตข่าวสารพวกสายลับมาเฟียคู่อริอีก จะให้พวกมันมาหยามแย่งอิทธิพลทางการค้าฝั่งตะวันตกไม่ได้เด็ด
ดวงตาที่หลับสนิทของฉัน ถูกกระตุ้นด้วยแสงแดดอ่อน ๆ ที่สาดส่องเข้ามายังบานหน้าต่าง ฉันค่อย ๆ ลืมตาขึ้น หรี่มองไปยังหน้าต่างเล็กน้อยทอดมองออกไปยังตำแหน่งของแสงที่พาดผ่านมา ยกมือขยี้ดวงตาเบา ๆ พลางยืดแขนขึ้นเพื่อคลายความงัวเงีย“อ่ะ...” เพียงแค่ขยับจะลงจากเตียงก็รู้สึกได้ว่าร่างกายปวดร้าวไปทั้งตัว เสียงที่เปล่งออกทำให้คนที่อยู่ด้านนอกวิ่งมาด้วยความตกใจ“เป็นอะไรครับ” ฉันที่เห็นพี่เวลล์วิ่งกุลีกุจอวิ่งเข้ามาด้วยใบหน้าตกใจหน้าตื่น เลิกคิ้วมองเพื่อรอให้ฉันตอบ อึ้ย...ใครจะไปบอกกันล่ะ ว่าพี่คะฉันปวดตรงนั้นมาก ให้ตายก็ไม่พูดหรอก แค่นี้ไม่สะเทือน ‘อึก’“ป่าวค่ะ สะดุ้งตื่นนิดหน่อย ว่าแต่กลิ่นอะไรหอมจัง”“พี่ทำกับข้าวไว้ให้ รีบลุกมาแปรงฟัน อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วออกมาทานด้วยกันนะ”“ค่ะ ฮี่...” ฉันยิ้มจนตาหยี่ให้เขาก่อนที่เขาจะลูบหัวเบา ๆ แล้วเดินออกจากห้องไป“ว่าแต่เมื่อคืนฉันนอนไปตอนไหน” ฉันลุกขึ้นมองไปรอบ ๆ ก็จ้องมองกระจกที่สะท้อนตัวเองขึ้นมา “แล้วชุดที่สวมใส่นี่ล่ะ พี่เวลล์ก็จัดการให้หมดงั้นเหรอ” พอหลับตาคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืน ในสมองฉันกลับจดจำแต่เรื่องอย่างว่า ท่านั้น ท่านี้ ได้เท่านั้น
ให้ตายเถอะ เสียวมากอยู่หรอก แต่ดูเหมือนคนที่ยืนอยู่จะเสียวกว่าฉันมากไปหน่อยไหม เล่นสอบเอวใส่ปากฉันจนมิดลำแทบสำลัก ดีนะว่าควบคุมมันไว้ทันทันทีที่เขากระตุกตัวปล่อยน้ำขุ่นอุ่นร้อนของเขาออกมาเต็มโพรงปากฉัน ฉันก็ตั้งใจกลืนมันทุกหยดไม่ให้เหลือ รอบนี้เหมือนเขาไม่ได้บังคับ แต่เป็นฉันเองที่เสียวซ่านจนอยากจดจ่ออยู่ตรงกึ่งกลางกลายเขาอีกสักหน่อย แต่พอโลมเลียได้ไม่ทันไร มันกลับมาแข็งขืนขึ้นอีกครั้งแล้ว‘พี่เวลล์ แอบหื่น นะเนี่ย’พอฉันละปากออกจากเจ้าแท่งที่ตอนนี้มันพยักหงึก ๆ อีกรอบนั้น ฉันก็ทรุดลง มือยันพื้นหยัดตัวไว้ หอบหายใจแรงจนต้องเปลี่ยนมานั่งขัดสมาธิ ยกมือเช็ดคราบบริเวณริมฝีปากพลางหายใจหอบถี่ด้วยความเหนื่อย แต่นั่งได้ไม่นาน คนที่ยืนจ้องมองกันอยู่ก็สอดแขนใต้รักแร้ฉัน ดึงฉันขึ้นให้ยืนจากนั้นก็สวมกอด“เหนื่อยแล้วเหรอ” เขากระซิบด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ส่วนฉันหอบหายใจแรงเหนื่อยจริง ๆ นั่นแหละหายใจไม่ทัน“ค่ะ เหนื่อย” ฉันตอบไปตามตรงแม้ว่าตรงนั้นจะปวดหนึบเพราะอยากมากก็ตาม“แต่พี่ไม่เหนื่อยเลยนะ” เขาเอ่ยเสียวแผ่วเบาก่อนจะงับใบหูเล็กๆ ของฉัน ตอนนี้เขาคงอารมณ์มาเต็มที่เพราะลมหายใจที่รดฉันมันร้อนมาก ร้อนช
EP.46(Well Part)จู่ๆ คนเมาในอ้อมแขนของผมก็กระซิบบอกรักผมซะงั้น ถ้าในเวลาปกติของแจนล่ะก็ไม่มีทางจะได้ยินคำบอกรักด้วยแววตาเสน่ห์แบบนี้เป็นแน่ สงสัยผมต้องขอบคุณคนที่คิดค้นน้ำมึนเมาขึ้นมานี้แล้วล่ะ เพราะมันสามารถเปลี่ยนคนที่แข็งกร้าวในยามปกติ ให้กลายเป็นคนขี้อ่อย ขี้อ้อนมาได้แต่นั่นก็ทำให้ผมเริ่มคิดอีก ถ้าเธอไปดื่มหนักที่ไหน เธอจะมีท่าทีแบบนี้กับคนอื่นด้วยรึเปล่า ไม่ได้การหลังจากนี้ผมคงต้องเข้มงวดกับเธอหน่อย ก็ตอนนี้เธอคือแฟนผมผมอุ้มคนเมามายวางลงโซฟากลางห้อง เพราะผมยังไม่ได้ทายาบริเวณขาและเข่าของเธอที่มันยังปรากฏรอยฟกช้ำ แม้ตอนนี้มันเป็นรอยจางสีม่วงแล้วก็ตาม แต่เพราะเธอทำตัวยุกยิกนั่งไม่นิ่ง จนผมต้องนั่งโอบรัดเธอจากด้านหลัง“นั่งนิ่งๆ พี่ทายาให้ก่อน” ผมบีบยาลงในมือก่อนจะเอื้อมลูบไปตามรอยแผลฟกช้ำอย่างเบามือ “ยังเจ็บอยู่ไหม” ผมเอ่ยข้างหูเธอ“ไม่ค่ะ ไม่เจ็บแล้ว” เสียงอันบางเบาของเธอตอบผม“ถ้าหายแล้วงั้น.....” ผมพูดให้เธอคิด ก่อนจะงับใบหูของเธอเบาๆมือผมเริ่มอยู่ไม่สุขละจากการทายาเลื่อนมาสัมผัสหน้าอกของเธอคลึงเบาๆ ผ่านเสื้อยืนแสนบางที่ผมให้เธอเปลี่ยน ใบหน้าผมโน้มลงเล็กน้อยมองต้นคอระหงส์ท
EP.45พี่เวลล์พาฉันขับรถออกจากร้านอาหาร ฉันมองเขาอย่างคาดเดาความคิดไม่ได้สักนิดว่าเขาจะพาฉันไปที่ไหน ทำอะไร ฉันรู้ได้แค่ว่าตอนนี้เขารู้สึกเหมือนร่างท่านมารสุดหล่อสายตาสุดแซ่บที่สามารถชี้นิ้วสั่งฉันให้ทำอะไรก็ได้แบบนั้น สายตาความอ่อนโยนที่เคยเห็นมันไม่มีเลยสักนิด ดูร้ายๆ เหมือนจ้องจะงับเหยื่ออยู่ตลอด“วันนี้พี่แปลกๆ นะคะ” ฉันจ้องมองเขาตาไม่กะพริบ ก็ดูสิขนาดขับรถอยู่ก็ทำมุมปากยกยิ้มเป็นระยะ ดื้อๆ เขาเหมือนคนโดนเข้าสิงอ่ะ“ฮ่า....พี่ยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ”“เนี้ย หัวเราะแบบนี้ก็แปลกแล้ว พี่ไปโดนยาอะไรมารึเปล่า” ฉันยืดหน้าไปมองเขาที่กำลังตั้งใจขับรถใกล้ๆ จ้องเขาอย่างคาดคั้น แต่ไม่ทันที่ฉันได้ตั้งตัว เขากลับหันมาจุ๊บฉันหนึ่งทีที่ริมฝีปากแล้วกลับไปสนใจกับการขับรถต่อฉันหดตัวกลับมานั่งประจำที่ตัวเอง ยกมือลูบปากตัวเองเบา ๆ ก่อนจะมองค้อนคนข้าง ๆ วันนี้ปากฉันเปื่อยไปหมดแล้วเพราะเขาแต่ถามว่าชอบไหม ริมฝีบางของเขาฉันต้องชอบอยู่แล้วล่ะ“พี่จะบอกฉันได้รึยังว่าจะพาฉันไปไหน”&ldquo
EP.44แม้ตอนนี้ฉันจะมีอะไรให้คิดมากมาย แต่เมื่ออยู่กับเพื่อน ๆ ฉันก็ต้องเฮฮาให้เต็มที่ สายตาอาจจะยังดูออกว่าหนักอึ้งเพราะยังเอาแต่คิดถึงเขา แต่ฉันก็ต้องฝืนเพราะพวกเราทุกคนในโต๊ะนี้ต่างผ่านนรกที่เรียกว่าโปรเจคเล็ก ๆ ปีสามกันมาจะให้มาเสียบรรยากาศเพราะฉันได้ยังไงล่ะอาหารที่สั่งเริ่มทยอยจัดวางบนโต๊ะของพวกเรา จากโต๊ะที่โล่งโจ้ง ตอนนี้กลับดูแคบไปถนัดตา เพราะหน้ามืดตามัวสั่งกันแบบไม่ยั้งคิด ตอนนี้ก็เลยมาลำบากท้องของพวกเราเองล่ะนะ“สั่งกันขนาดนี้จะกินหมดเหรอ” พลอยมองอาหารบนโต๊ะพลางทำหน้าเจื่อน“แค่เห็นก็รู้สึกอิ่มแล้วนะเนี้ย” ฉันพูดพลางกอดอกพิงหลังลงพนักพิง“จะมาโทษฉันคนเดียวไม่ได้นะเว้ย พวกแกเองก็พูดสิ่งที่อยากกินออกมาทั้งนั้น ฉันก็สั่งไปตามนั้น” ไอ้นัทลุกขึ้นยืนยันโต๊ะเถียงขาดใจ“ก็ยังไม่มีใครว่าอะไร นั่งลง ๆ” มิกที่อยู่ข้าง ๆ ไอ้นัทดึงตัวมันนั่งลง“เออ ใจเย็นก็แค่บ่น ๆ กันเท่านั้น ทานกันเถอะเดี๋ยวอาหารเย็นชืดหมด”พวกเราทั้งสี่คน ต่างเอ็นจอยกับอาหารที่อยู่ต
EP.43ณ.คอนโดตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาล ฉันก็ปิดมือถือเครื่องนั้นไปเลย ฉันรู้ว่าถ้าเดินออกมาพี่แม็กต้องรีบไปบอกพี่เวลล์แน่ ๆ ฉันยังไม่พร้อมที่จะคุยอะไรกับเขา เพราะตอนนี้แค่พูดเสียงสะอึกอันน่าอายนี่เขาต้องได้ยินแน่ ๆรู้นะว่าภาพที่เห็นนั่นมันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้ แต่ฉันคิดมากไง มากเสียจนไม่อยากจะควานหาคำตอบ ทั้งที่เดินเข้าไปตรงนั้นถามให้รู้เรื่องก็คงจบแล้ว แต่ที่ไม่กล้า เพราะกลัว กลัวจะได้คำตอบที่ไม่อยากได้ยินขึ้นมานะสิฉันผิดเอง ที่จู่ ๆ ก็กลายเป็นคนงี่เง่า เอาไว้อารมณ์อ่อนไหวต่อความรักนี่ลดลง ฉันจะเป็นฝ่ายไปหาเขาเองเพราะยังไงฉันก็เชื่อใจพี่เวลล์อยู่แล้วล่ะ“อ่าวมาแล้วเหรอ” ยัยมีนที่กำลังนั่งกินขนมดูซีรีส์อยู่กลางห้องหันมาทักทายฉัน“พลอยยังไม่มาเหรอ” ฉันที่มองซ้ายมองขวาไม่เห็นเพื่อนอีกคน“ยังไม่เห็นนะ แกไม่โทรถามล่ะ”“ฉันปิดมือถือ” ฉันพูดก่อนจะโยนกระเป๋าลงโซฟาแล้วนั่งข้าง ๆ ยัยมีนที่มันกำลังวางถุงขนมละสายตาจากซีรีส์และหันมาสนใจฉัน“เ