LOGIN“อื้อ…พี่ติณณ์ ไม่กินข้าวก่อนเหรอ"“ข้าวจะไปน่ากินกว่าเมียได้ยังไงล่ะ”ยี่หวาพร้อมยอมรับโทษนี้แต่โดยดี เธอรู้ว่าติณณ์ภพเอง ก็คงอัดอั้นมานาน เพราะหลายวันมานี้ ทั้งคู่แทบจะไม่ได้อยู่ด้วยกันแบบนี้เลย ดังนั้นคืนนี้ เป็นเรื่องปกติที่มื้อเย็นจะเป็นหมัน เพราะเธอกับติณณ์ภพ แทบจะไม่ได้ทานข้าวเลย จนกระทั่งตอนดึก ที่ลงมาทำอาหารง่าย ๆ ทานกันเอง“วันเสาร์นี้ไปเที่ยวกันมั้ย”“ไปไหนคะ ไปหาที่ทำลูกอีกแล้วเหรอ โอ๊ย! ตีหน้าผากอีกแล้วนะ”“ก็ปากดีนักนี่ ชวนไปเที่ยวแล้ววนไปหาเรื่องนั้นได้ยังไงกัน”“ก็แค่แซวเล่นเอง แซวน่ะค่ะแซว เข้าใจมั้ยเนี่ย”ติณณ์ภพยกชามข้าวมาวางให้เธอ และนั่งกินด้วยกันที่เคาน์เตอร์ครัวในตอนดึก “บะหมี่ไข่ฝีมือพี่ติณณ์ อร่อยสุดยอดไปเลย”“กินเยอะ ๆ สิ เอานี่ไข่ขาวที่หวาชอบ”“ขอบคุณค่ะ ว่าแต่ตอนบ่ายมีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ เห็นออกไปจากห้องสีหน้าเครียด ๆ”“อ๋อ ไม่มีอะไรหรอก คนไข้เลือดออกหลังผ่าตัดน่ะ”“ว่าไงนะคะ นี่มันร้ายแรง…”“ไม่ร้ายแรงหรอก มันเกิดขึ้นได้อยู่แล้วแต่ครั้งนี้ เป็นตัวคนไข้เองที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ เขาทะเลาะกับญาติในห้องพัก แล้วล้มจนแผลเปิด ก็เลยต้องรีบทำแผลใหม่น่ะ”“มิน่าล่
"บอสคะ"“เอาล่ะ… เรารีบไปดูข้างในกันเถอะ ยังต้องดูโซนห้องเก็บของอีก แล้วก็ห้องเด็กอ่อน คุณบอกว่าระบบระบายน้ำยังไม่เข้าที่ไม่ใช่เหรอ”“ค่ะ ทางนี้ค่ะบอส”ริต้าได้แต่พยายามข่มเสียงเอาไว้ ให้พูดเหมือนปกติ เมื่อเธอเห็นว่าตอนนี้ บอสของเธอเริ่มไม่มีสมาธิในการทำงานแล้ว เธอเดินนำหน้าเจ้านายไปที่ห้องซักล้างอีกโซนทันที ภาฑิตเดินตามไปช้า ๆ และอดจะหันไปมองยี่หวา และติณณ์ภพ ที่กำลังเดินออกไปจากตึกไม่ได้“ถึงจะเสียดายที่มาช้าไปหน่อย แต่ดูแล้ว… คงจะยังไม่หมดโอกาสซะทีเดียว ยิ่งเป็นแบบนี้ มันก็ยิ่งท้าทายมากกว่าเดิมสินะ ยี่หวา…. คุณเป็นผู้หญิงที่น่าสนใจมาก”ติณณ์ภพขับรถกลับบ้าน โดยที่ไม่ได้พูดอะไรกับยี่หวาเลยสักคำ ยี่หวาหันไปมองเขาบ่อย ๆ แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรออกมา เพราะช่วงบ่ายเธอกับเขาพึ่งจะมีปากเสียงกันไปเล็กน้อยในห้องพักบ้านหมอติณณ์เมื่อมาถึงบ้าน ติณณ์ภพก็เปิดประตูรถ และเดินเข้าบ้าน ยี่หวาไม่กล้าพูดอะไร เธอได้แต่เดินตามเขาเข้าไปในบ้าน และเมื่อไม่เห็นว่าป้าจินอยู่แถวนั้น เธอจึงตัดสินใจเดินมาเรียกเขา“พี่ติณณ์คะ”ติณณ์ภพเดินเอากุญแจรถไปเก็บ แต่ยังไม่ได้หันไปมองเธอ“ขึ้นไปคุยข้างบนเถอะ ป้าจินยังอยู่หลั
“พี่ติณณ์ เลิกงานแล้วเหรอคะ”ยี่หวาเองก็ตกใจ เมื่อเห็นติณณ์ภพเดินมารับเธอด้วยตัวเองถึงที่นี่ ซึ่งเขามาเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ตอนที่เธอเริ่มวางระบบกล้องวงจรปิดในตึก เมื่อติณณ์ภพเดินเข้ามาด้วยสีหน้าตึง กึ่งโมโห เธอก็รู้ทันทีว่า สามีของเธอคงเริ่มไม่พอใจแล้ว เธอจึงรีบเดินเข้าไป และควงแขนเขาทันที พร้อมกับพูดขึ้นมา ด้วยเสียงที่ดังกว่าปกติ“พี่ติณณ์คะ! นี่คุณภาฑิต ผู้บริหารของบริษัท BB ดีไซน์ ที่มารับงานตกแต่งภายในในตึกกุมารเวชค่ะ คุณภาฑิตคะ ขอแนะนำให้รู้จัก นี่คุณหมอติณณ์ภพ ศัลยแพทย์คนเก่งของโรงพยาบาลเรา และเป็น “สามี” ของฉันเองค่ะ”ภาฑิตเมื่อฟังจบแล้ว ก็หุบยิ้มลงไปเล็กน้อย เมื่อยี่หวาแนะนำว่า ติณณ์ภพคือสามีของเธอ เขาใจหายวาบและนึกเสียดายอยู่ไม่น้อยที่รู้ว่า ยี่หวาเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว เขาไม่เคยถาม และไม่ทันได้สังเกตจนถึงตอนนี้ ที่หันไปและเห็นแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายที่เธอสวมอยู่ ก็เข้าใจในทันทีว่า ตัวเองคงมาช้าเกินไป“สวัสดีครับคุณหมอติณณ์ภพ ผมภาฑิต เจ้าของบริษัท BB ดีไซน์ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ”ติณณ์ภพยิ้มให้ภาฑิตตามมารยาท และยกมือขึ้นมาจับกับเขา โดยจงใจยื่นมือที่สวมแหวนแต่งงาน ออกมา
ติณณ์ภพเหมือนกับถูกเธอตีแสกหน้า วันนี้เขาอุตส่าห์รอทานข้าวเที่ยงกับเธอ เพื่ออยากจะพูดเรื่องนี้อีกสักครั้ง หลังจากที่ปล่อยให้เรื่องลูกถูกลืมไปแล้วกว่าสามเดือน ไม่คิดว่าการที่ได้มาคุยกันอีกครั้ง ยี่หวาจะตอบเขามาด้วยคำตอบที่เขาเองก็ไม่คาดคิด ทั้งดูไม่ใส่ใจและดูไร้ความรับผิดชอบ ด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยแบบนี้“ยี่หวา พี่มีค่าแค่ไหนสำหรับหวาเหรอ”ยี่หวาเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เขาไม่เคยทำสีหน้าผิดหวังและเศร้าขนาดนี้มาก่อน และด้วยคำถามนี้ ทำเอายี่หวาแทบจะกินข้าวไม่ลงเลยทีเดียว“พี่ติณณ์ ทำไมถามหวาแบบนั้นล่ะคะ แน่นอนว่าพี่ติณณ์ต้องสำคัญกับหวาที่สุดอยู่แล้วสิคะ”แต่พอพี่ถามเรื่องนี้ขึ้นมาทีไร หวาไม่เลี่ยงคุยเรื่องอื่น ก็จะเงียบแล้วทำเป็นลืมไปเลย พี่ก็แค่อยากรู้ว่าตอนนี้ ในใจหวามีพี่มากแค่ไหน หรือว่ามีแต่งานที่หวาทิ้งไม่ได้”เมื่อเธอเห็นว่าติรณ์ภพ เริ่มมีอารมณ์ขุ่นขึ้นมาจริง ๆ เธอก็เอื้อมมือไปจับมือเขาทันที “พี่ติณณ์คะ เอาแบบนี้ดีมั้ยคะ เย็นนี้เรากลับไปที่บ้านแล้ว ค่อยคุยกันดี ๆ อีกครั้งได้มั้ยคะ อย่ามาคุยกันตรงนี้เลย เดี๋ยวพี่ติรณ์จะไม่มีสมาธิทำงาน หวาคิดว่า...”ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูห้องพักขอ
“อย่าไปถือสาคุณแม่เลยนะหวา ท่านก็แค่เป็นห่วงพวกเราน่ะ”“หวาไม่ถือสาท่านหรอกค่ะ และเข้าใจด้วยว่า แม่ของพี่ติณณ์ กับแม่ของหวา อยากให้เรามีลูกเร็ว ๆ แต่หวาแค่อยากจะให้งานที่ทำ เข้าที่เข้าทางไปกว่านี้อีกสักหน่อย และรอให้พี่ติณณ์งานซาลงมากกว่านี้ เราค่อยมาคุยกันอีกทีดีมั้ยคะ”ติณณ์ภพหันมากอดภรรยาของเขาเอาไว้แน่น เขาดีใจที่เธอเข้าใจเขา และครอบครัว แม้ว่าตอนนี้เธอจะบอกกับเขากลาย ๆ ว่ายังไม่พร้อมที่จะมีลูกก็ตาม เขาก็ยังยอมรับในการตัดสินใจของเธอ“พี่ไม่มีปัญหาหรอก ครั้งหน้าถ้าเจอคุณแม่ เราก็บอกท่านไปตรง ๆ แบบนี้ก็แล้วกัน จะได้ไม่ต้องมีปัญหากัน ดีมั้ย”“ดีค่ะ หวาเชื่อพี่ติณณ์ค่ะ”ทั้งสองหลับไปภายใต้อ้อมกอดของกันและกัน ในค่ำคืนที่เหนื่อยล้า แต่เต็มไปด้วยความสุขอีกครั้ง…สองเดือนต่อมา / แผนกศัลยกรรมช่วงสองเดือนที่ผ่านมา งานของยี่หวายุ่งมาก เพราะภาสกร ซึ่งเป็นลุงของติณณ์ภพ กำลังจะเปิดตึกใหม่ที่พึ่งสร้างเสร็จ ซึ่งเป็นตึกสำหรับแผนกกุมารเวช งานของยี่หวาจึงมีมากขึ้น เพราะเธอต้องวางระบบไอทีทั้งตึก ซึ่งใช้เวลากว่าสามเดือน และตอนนี้ก็เป็นโค้งสุดท้าย “ขอโทษนะคะพี่ติณณ์ หวามาช้าไปหน่อย”"กินข้าวก่อนเถอะ
ในห้องน้ำแน่นอนว่าหมอติณณ์ เป็นคนเตรียมน้ำอุ่นจัดให้เธอได้แช่ แต่ก็แค่ไม่ถึงสิบนาที เมื่อทั้งสองคุยและลูบไล้ไปตามเรือนร่างที่เปลี่ยนเปล่า ติณณ์ภพก็เริ่มปลุกเร้าอารมณ์ภรรยาของเขาอีกครั้ง ยี่หวาเองก็พร้อมที่จะตอบสนอง ไฟปรารถนาของทั้งคู่เมื่อถูกปลุกแล้ว ไม่มีทางมอดลงได้ง่าย ๆ “พี่ติณณ์ขา….อูยยย หวาเสียวมากเลย อ๊าา ดูดแรงกว่านี้อีกค่ะ”“งั้นก็ร่อนเอวแรง ๆ สิที่รัก พี่จะช่วยเอง”“อ๊าาา เสียว เสียวมาก อ๊าาา”เธอจับศีรษะของเขามาที่หน้าอก และสั่งให้เขาใช้ปากดูดดึงยอดหวานที่ปลายถัน เพื่อช่วยเธอให้ไปถึงฝั่ง และแน่นอนว่าติณณ์ภพตามใจเธอในทันที เขาไม่เพียงทำตามใจที่เธอปรารถนา แต่ก็เติมเต็มความต้องการของตัวเองไปด้วย เมื่อยี่หวาเริ่มหมดแรง เขาก็เป็นฝ่ายจับสะโพกกลมของเธอ สอดเข้ามารับแท่งร้อนที่ยังรออยู่จนสุด“อื้อ…เสียวมาก อ๊าา!!”เสียงน้ำกระเพื่อม ดังกว่าตอนที่เธอเป็นคนขย่มเขา ติณณ์ภพใช้จังหวะนี้สอดเข้าไปจนยี่หวารู้สึกจุก ไม่นานเขาก็เร่งจังหวะ ยี่หวารู้สึกเสียวจนตาลอย เมื่อเขารัวกระแทกเข้ามาถี่ ๆ “พี่อยากเปลี่ยนท่า”“อ๊ะ!”เขาไม่อยากเสร็จในอ่างน้ำ เพราะรู้ว่ามันไม่สะดวก จึงพาเธอออกมาและดันเธอไปติ







