LOGINหมอติณณ์ลุกขึ้นและย้ายมานั่งข้าง ๆ เธอทันที ยี่หวาเริ่มร้อนวูบวาบไปทั้งตัว ไม่ว่าจะด้วยกลิ่นน้ำหอมของเขา และนาฬิกาที่ข้อมือ ซึ่งเธอจำได้ว่า มันเป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายที่เคยให้เขา
“ทำไมคุณถึงมาทำงานที่นี่ได้ล่ะยี่หวา”
“เรื่องนี้ เล่าแล้วยาวค่ะ แต่สั้น ๆ ก็คือ รุ่นพี่คริสต้องกลับไปช่วยงานที่อังกฤษ บอสเลยให้ฉันมาประจำที่โรงพยาบาลแทน”
“ระบบคอมพิวเตอร์ในโรงพยาบาล เป็นอะไรที่ยุ่งยากและซับซ้อนมาก เก่งมากเลยนะ ไม่เสียแรงที่เป็นสายท็อปคณะวิศวะมาก่อน”
“ค่ะ”
เธอรู้สึกร้อนไปทั้งหน้า เมื่อถูกเขาชมแบบนี้ ปกติหมอติณณ์ไม่ค่อยชมเธอเท่าไหร่ ตั้งแต่ตอนคบกัน เธอเก่งได้ส่วนหนึ่งก็เพราะมีเขา ช่วยติวหนังสือให้ สองปีที่คบและอยู่ด้วยกัน เธอกับเขาผูกพันกันมาก เวลาเลิกกันครั้งนั้น เธอจึงเจ็บปวดมาก เหมือนทำอีกครึ่งหนึ่งของชีวิตหายไป
“ขอบคุณที่เลี้ยงกาแฟนะคะ ฉันขอตัวกลับไปดูงานก่อน”
เธอลุกขึ้นจากเก้าอี้ หมอติณณ์ไม่ได้ว่าอะไร แต่แค่ทิ้งคำพูดให้เธอก่อนออกไปเท่านั้น
“ผมไม่ยอมแพ้หรอกนะยี่หวา เรื่องที่จะจีบคุณอีกครั้ง ยังไงผมก็ไม่มีทางถอยเด็ดขาด”
“คุณหมอทำแบบนี้เพื่ออะไรคะ”
เขาลุกตามเธอขึ้นมา และมายืนใกล้ ๆ เธอ ในร้านไม่มีใครสังเกตพวกเขา เพราะทั้งคู่อยู่โต๊ะในสุด
“ไม่รู้จริง ๆ เหรอ ว่าทำไปเพราะอะไร ถามตัวเองดูสิ ว่ากำลังโกหกตัวเองอยู่หรือเปล่ายี่หวา”
ยี่หวากะพริบตาถี่ ๆ และรีบถอยออกมา แต่มือของเขารวบเอวเธอเข้ามาจนเกือบชิด
“อย่าพึ่งตกใจไป ถึงผมจะไม่กระโตกกระตาก จีบคุณเงียบ ๆ แต่จากนี้ไป จะเริ่มรุกคุณรุนแรงมากขึ้น จนกว่าคุณจะยอมรับ เตรียมใจเอาไว้ด้วยล่ะ”
“แต่ว่าฉันมีแฟนแล้ว”
“มีแฟนแล้วยังไงล่ะ มีแล้วก็เลิกได้ เหมือนเมื่อก่อนไง ที่คุณทิ้งผมไป ผมยังไม่เคยบอกใครว่าเราเลิกกัน เพราะฉะนั้นอย่าหวังว่าผมจะยอมรับ”
“คุณหมอคะ นี่มันไม่เอาแต่ใจตัวเองไปหน่อยเหรอคะ”
หมอติณณ์เดินเข้ามาดึงเธอไปที่ผนังด้านในสุด ซึ่งเป็นซอกเล็ก ๆ ที่ไม่มีใครเข้ามา เขาก้มลงไปหาเธอจนเกือบจะชิด ยี่หวากลืนน้ำลายลงไป หัวใจเต้นแรงเหมือนตอนที่พึ่งจูบครั้งแรก ไม่คิดเลยว่าผู้ชายคนนี้ จะทำให้เธอเป็นแบบนี้อีกครั้ง
“คุณจะทำอะไร”
“ถ้าผมเอาแต่ใจตัวเองจริง ๆ คุณคงไม่ได้อยู่ตรงนี้หรอกยี่หวา จำเอาไว้ว่า ผมไม่ยอมหยุดแค่นี้แน่”
“คุณบ้าไปแล้ว ฉันไม่ได้รักคุณแล้ว”
“แล้วทำไมไม่กล้าสบตาผมล่ะ ตั้งแต่เราพบกัน จนถึงตอนนี้ คุณไม่กล้าสบตาผมตรง ๆ เลยสักครั้ง คนที่ไม่รักกันแล้ว ต้องกล้าสบตากันตรง ๆ สิ อย่าหลอกตัวเองเลยยี่หวา ผมยังยอมรับเลยว่า ลืมคุณไม่ได้แม้แต่วันเดียว”
ยี่หวาผลักเขาออกไปอย่างแรง และรีบเดินออกมาจากร้านกาแฟ เธอรู้สึกหายใจไม่คล่อง และไม่มีแรงเดิน อีกนิดเดียวเธอก็จะเผลอจูบเขาแล้ว ถ้าเขากล้าทำ ใช่ว่าหัวใจเธอจะแข็งเหมือนก้อนหินเมื่อไหร่ ที่จะไม่หวั่นไหวเมื่อเขาทำแบบนี้อีกครั้ง
“อย่านะยี่หวา ไม่ได้นะ”
เธอเดินมากดลิฟต์ เพื่อจะกลับไปที่ห้องประชุมชั้นบน เมื่อลิฟต์มาถึง หมอติณณ์ก็เดินตามเธอเข้ามาอีกครั้ง
“คุณ…”
“คุณคงลืมไปแล้วมั้งว่า ผมก็ต้องไปที่ห้องประชุมเหมือนกัน”
ยี่หวาไม่พูดอะไรต่อ แม้ว่าจะถูกมองอยู่ตลอดเวลาก็ตาม เขากำลังสำรวจเธอ ผ่านไปห้าปี เธอแทบจะไม่เปลี่ยนไปเลย นอกจากความสวยและความเก่งที่มีมากขึ้น แต่สำหรับติณณ์ภพ ยังไงเธอก็ยังเป็นยี่หวาของเขา แม้ว่ารอยยิ้มที่อ่อนโยน ที่ยี่หวาเคยมีให้เขามาตลอด จะหายไปเพราะเขาเองก็ตาม
คณะวิศวะกรรมศาสตร์ / 5 ปีก่อน
“โอ๊ย! ไม่เอาหรอกพี่คิว หวาไม่ได้คิดกับพี่แบบนั้นจริง ๆ เราเป็นพี่น้องกันแบบนี้ก็ดีแล้ว เนอะ”
“ก็ได้ พี่รู้ว่าหวาชอบคนฉลาด ตัวสูงแล้วเก่งเหมือนพวกคณะแพทย์”
“ไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย ทำไมพี่ดูถูกตัวเองแบบนั้นล่ะ คนเรามีดีคนละอย่าง และเหมาะกับคนบางคน หวาแค่จะบอกว่า พี่เหมาะเป็นพี่ชายของหวา ไม่เหมาะจะเป็นแฟน”
“ขอบใจนะที่บอกกับพี่ตรง ๆ พี่ไปล่ะ ยัยเด็กดื้อ”
“โอ๊ย! ไอ้พี่คิว ชอบลูบผมอยู่เรื่อยเลย ยุ่งหมดแล้ว เดี๋ยวไม่สวย”
“ฮ่า ๆ อะไร ยังห่วงสวยอยู่เหรอ”
ติณณ์ภพรีบเดินกลับมาทันที เขารู้ว่าเธอปฏิเสธผู้ชายคนนั้น แต่ใจเขากลับสั่น ลุ้นระทึกตลอดเวลา และไม่พอใจที่เห็นคนอื่นแตะต้องตัวเธอ แม้ว่าจะเป็นแค่รุ่นพี่ในคณะก็ตาม
‘ยี่หวา… ทั้งรอยยิ้ม และหัวใจของหวา พี่จะเอากลับคืนมาทั้งหมด พี่จะรอจนกว่าหัวใจของหวา เปิดรับพี่อีกครั้ง’
เมื่อประตูลิฟต์เปิด ยี่หวาก็รีบเดินออกไป และแยกไปที่ห้องงานระบบทันที โดยไม่ได้คุยอะไรกับเขาเลยสักคำ
“ใจร้ายชะมัด”
ติณณ์ภพตกใจ และรีบบีบมือภรรยาแน่น เพื่อไม่ให้เธอตกใจ“หมอกฤษ เกิดอะไรขึ้น”“ให้ตายเถอะคุณหมอติณณ์ คุณนี่ไม่ธรรมดาเลยนะครับ คุณยี่หวา... ดีใจด้วยนะครับ เป็นครรภ์แฝดครับ”“อะไรนะครับ แฝดเหรอ!”ยี่หวาตกใจ แต่ก็อดยิ้มออกมาไม่ได้เช่นกัน เมื่อติณณ์ภพมองไปที่จออัลตร้าซาวด์ ถุงน้ำคร่ำสองถุงที่อยู่ติดกัน ทำเอาหัวใจของคนที่เป็นว่าที่คุณพ่อ ถึงกับเต้นรัวถี่ และหันมายิ้มให้กับภรรยาอีกครั้ง“ยี่หวาได้ยินมั้ย ลูกของเราเป็นแฝด”“พี่ติณณ์ ลูกแฝดเหรอคะเนี่ย คิดไม่ถึงเลย”“นั่นสิครับ ตอนนี้คงต้องมาคุยกัน เรื่องการวางแผนคลอดที่ปลอดภัย และการดูแลตัวเองแล้วล่ะครับคุณหมอติณณ์”“ผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกันครับ”บ้านของพ่อแม่“ว่ายังไงนะ แฝดเหรอ!”“ยอดไปเลย ทีเดียวได้หลานสองคน ทีนี้พวกคุณก็ไม่ต้องแย่งกันเลี้ยงแล้วนะ คุณย่ากับคุณยายน่ะ แบ่งกันเลี้ยงไปเลย”“จริงเหรอยี่หวา เป็นลูกแฝดจริงเหรอ”“ค่ะแม่ หวาได้ลูกแฝดค่ะ แต่เรื่องเพศคงต้องรออีกประมาณ สี่ถึงห้าเดือนถึงจะทราบค่ะ”“ไม่รู้แหละ ๆ ฉันจะมีหลานแฝด ว้าวคุณยาย เราคงต้องรีบไปหาซื้อของที่เป็นคู่มาแล้วสินะ จะได้ไม่ต้องแย่งกันใช้ เวลาเลี้ยง เปลก็ต้องสองหลัง ไม่สิ ๆ เ
ทั้งสี่คน หันมามองหน้าติณณ์ภพกับยี่หวาพร้อมกัน ด้วยสายตาตกตะลึง ตกใจ แปลกใจ และดีใจ โดยเฉพาะว่าที่คุณย่าอย่างรัศมี ที่ถึงกับลุกขึ้นจากเก้าอี้“เมื่อกี้แกว่ายังไงนะติณณ์ภพ พูดใหม่อีกทีสิ!”ดาหราเองก็อดไม่ได้ ที่จะหันไปถามลูกสาวด้วยความตื่นเต้น“ยี่หวา เมื่อกี้แม่ได้ยินติณณ์บอกว่า…”ยี่หวาหันมายิ้มให้กับติณณ์ภพ ทั้งคู่จึงยิ้มให้กับทุกคน และแจ้งข่าวดีออกไป“พ่อครับ แม่ครับ ลุงภาส ตอนนี้… ผมกำลังจะเป็นพ่อคนแล้ว!!”รัศมีกับดาหรา ดีใจจนโผเข้ามากอดกันด้วยความดีใจทันที ส่วนภาสกรกับภาคภูมิ หันมาชนแก้วกันด้วยความดีใจ“ยอดไปเลยค่ะ ในที่สุดเราก็กำลังจะมีหลานกันแล้ว… คุณยายดาหรา”“นั่นสิคะ อุ๊ย… คุณย่ารัศมี”“ฮ่า ๆ งั้นเราก็ต้องเป็นคุณปู่แล้วสินะ”“เอ… แล้วฉันเป็นอะไรล่ะ”“ปู่ใหญ่ไงละคะคุณลุงภาส”“เออ พูดได้ดียี่หวา งานนี้คงต้องเตรียมของรับขวัญหลานอีกแล้วสินะเนี่ย”“ยอดไปเลย นี่ยี่หวาหนูรู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ตรวจตอนไหนแล้วจะไปฝากครรภ์เมื่อไหร่”“เอ่อ…”ยี่หวาถึงกับตอบคำถามไม่ถูก เมื่อแม่สามียิงคำถามมา เพราะความตื่นเต้น ติณณ์ภพโอบไหล่ภรรยาและหันไปตอบแทน“พรุ่งนี้ผมกับยี่หวาจะไปฝากครรภ์ครับแม่”“แล้วแ
“ได้! ไม่ต้องรีบนะหวา ใจเย็น ๆ ทำตัวให้สบาย ๆ ไม่ต้องตื่นเต้นนะโอเคมั้ย”“ค่ะ หวาจะไม่ตื่นเต้นค่ะ รออยู่ที่นี่นะคะ”ยี่หวาเดินเข้าไปในห้องน้ำ และเริ่มแกะกล่องที่ตรวจครรภ์ออกมาดู เธอพยายามควบคุมสติ และลงมือตรวจทันที ผ่านไป 5 นาทีประตูห้องน้ำเปิดออกมา ยี่หวาเดินเหม่อลอยออกมาหาติณณ์ภพ ที่ยืนรออยู่ที่หน้าห้องน้ำด้วยความตื่นเต้น แต่เมื่อเห็นสีหน้าของภรรยา รอยยิ้มที่มีกลับเริ่มหุบลง เขารีบเดินมากอดปลอบใจเธอทันที“ยี่หวา… ไม่เป็นไรนะ”“พี่ติณณ์คะ”“ไม่เป็นไร พี่เข้าใจ ช่วงนี้หวาอาจจะเครียดเรื่องงานมากเกินไป เอาไว้เรามีโอกาส ค่อย….”“หวาท้องแล้วค่ะ”“ค่อยท้องกันใหม่… ว่าอะไรนะ!”ติณณ์ภพถึงกับตกใจ หัวใจที่ห่อเหี่ยว เหมือนได้น้ำทิพย์รดลงไป จนทำให้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาจนเต้นแรงอีกครั้ง เมื่อหันมามองหน้าภรรยา ที่ยิ้มออกมาทั้งน้ำตา และดึงแขนเขามาดูที่ตรวจทั้งสามอัน ซึ่งขึ้นสองขีดทั้งสามชุด ติณณ์ภพแค่เห็นก็เข่าทรุดลงไปทันที“พี่ติณณ์!”“ให้ตายเถอะยี่หวา พี่หัวใจจะวายอยู่แล้ว ทำไมถึงได้แกล้งกันแบบนี้ละที่รัก”ยี่หวาพยุงตัวติณณ์ภพขึ้นมา และมองหน้าสามี เขาเอื้อมมือเช็ดน้ำตาให้เธอ เหมือนกับที่เธอทำให้เขา
“เดี๋ยวออยไปเป็นเพื่อนนะคะ”“ฝากด้วยนะครับ”ออยเดินตามยี่หวาไปทันที ตอนนี้ทั้งคู่เดินออกไปแล้ว แต่หมอกฤษยังเห็นสายตาของติณณ์ภพ ดูจะเป็นห่วงยี่หวามาก “คุณหมอติณณ์ครับ”“ครับ”"ไม่ต้องห่วงหรอกครับ มีออยไปด้วยคงไม่มีอะไรหรอก ว่าแต่คุณยี่หวามีอาการแบบนี้ มานานหรือยังครับ"ติณณ์ภพละสายตาจากภรรยา และหันมานั่งคิด ก่อนจะตอบหมอกฤษกลับไป“ตั้งแต่มาถึงสิงคโปร์ เธอก็เอาแต่บ่นว่าเพลีย อยากนอนตลอดเวลา หลังจากที่คุยกับณรินทร์เมื่อคืน พอเธอกลับไปก็อาเจียนหนักมาก เธอบอกว่าเรื่องราวของณรินทร์ ทำให้เธอรู้สึกเครียด จนอยากอาเจียนน่ะครับ”“ขอโทษนะครับที่ผมต้องถามซอกแซก แล้ว…หลังจากนั้นละครับ เธออาเจียนบ่อยขึ้น หรือว่ามีอะไรที่ดูแตกต่างผิดไปจากเดิมมั้ยครับ”“ก็… ที่ผมเห็นนะครับ เธอกินจุกจิกบ่อยขึ้น ซึ่งปกติไม่ค่อยเป็น ซื้ออาหารที่ไม่ค่อยมีประโยชน์ อย่างพวกลูกอมรสเปรี้ยว ผลไม้ดอง แล้วก็… วันนี้ผมพาเธอไปซื้อของ ปกติยี่หวาเป็นคนที่เดินซื้อของเก่งมาก แต่วันนี้เธอเดินไม่ถึงสองชั่วโมง ก็ขอกลับเลย ผิดกับตอนที่ไปฮันนีมูน ที่เดินได้เป็นครึ่งวันเลยครับ ว่าแต่… ทำไมคุณถึงถามผมแบบนี้ละครับ”“ก็… ผมดูอาการของคุณยี่หวาแ
อาลีน่าเบิกตากว้าง พร้อมกับความแปลกใจ และรอยยิ้มที่จริงใจ เมื่อเธอยื่นมือออกมาทำความรู้จักกับยี่หวา"โอ้ว…. ในที่สุดฉันก็ได้เจอกับภรรยาคนสวยของคุณแล้ว ยินดีที่ได้พบกันนะคะ"“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ดอกเตอร์อาลีน่า คุณติณณ์พูดเรื่องของคุณให้ฉันฟัง เขายังศึกษาผลการวิจัยของคุณ และมองเป็นแนวทางในการทำงานด้วยค่ะ เขาชื่นชมคุณมาก ๆ เลยนะคะ” “ว้าว… ขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะ ยิ่งได้ฟังแบบนี้ ยิ่งรู้สึกดีมาก ๆ เลยค่ะ คุณหมอติณณ์ภพ ภรรยาของคุณสมาร์ทมาก ๆ เธอฉลาดและรู้จักพูด และยังสวยมากอีกด้วย คุณโชคดีมากจริง ๆ ครั้งนี้ฉันชื่นชมด้วยความจริงใจ ไม่ใช่ตามมารยาทเหมือนครั้งก่อน”“ครั้งก่อนเหรอคะ”อาลีน่าตกใจเล็กน้อย ที่เผลอพูดออกไปแบบนั้น เธอเกรงว่าจะทำให้ยี่หวาเข้าใจผิด“โอว...ตายจริงคุณฟังที่ฉันพูดออกทุกคำสินะคะ ฉันผิดไปแล้วค่ะคุณติณณ์ภพ ฉัน…”แต่ติณณ์ภพไม่ได้ว่าอะไร เขายิ้มและรีบตอบกลับอาลีน่าไปทันที"ไม่มีปัญหาครับ เรื่องนี้ภรรยาผมทราบดีอยู่แล้ว ผมบอกเธอในทุก ๆ เรื่อง พวกเราจัดการปัญหานี้ได้ครับไม่ต้องห่วง"“ยอดไปเลย โล่งอกไปทีค่ะ โอ้ว… ฉันต้องรีบไปเตรียมตัวหลังเวทีแล้ว เอาไว้หลังจากรับรางวัลเสร็จแล้ว จะแ
"ยี่หวายิ้มแก้มปริ และรีบตอบไปทันที โดยไม่ต้องลังเล“ยินดีมาก ๆ ค่ะ ท่านรองศาสตราจารย์ติณณ์ภพ วันนี้ก็เชิญจ่ายเงิน ให้กับภรรยาคนสวย หลังจากที่ทำงานมาหนักมาหลายวันมานี้ด้วยนะคะ”“ยินดีครับผม แต่ว่า… ต้องอย่าเกินน้ำหนักที่สายการบินกำหนดนะ พี่ไม่อยากจ่ายเพิ่ม”“ได้เลยค่ะ”ติณณ์ภพโอบรอบเอวภรรยา และพาเธอไปช็อปปิ้งในร้านที่เขาเคยคิดว่า อยากจะเข้ามาเลือกซื้อของฝากกลับไปให้เธอ แต่ว่าวันนี้เขาไม่ต้องเลือกเองแล้ว เพราะว่ายี่หวามาที่นี่ และเป็นคนเลือกซื้อของพร้อมกันกับเขา“อันนี้สวยดี คุณแม่น่าจะชอบ”“เอาสิหวาเลือกเลย เอาชุดน้ำชานี้ด้วยครับ”“เอ๊ะ! ทำไมรีบจ่ายจังเลยล่ะคะ”“กลัวหวาเปลี่ยนใจอีกน่ะสิ เลือก ๆ วาง ๆ มาหลายรอบแล้ว”“ก็มันแพงนี่คะ”“เฮ้อ… ซื้อ ๆ ไปเถอะน่า นาน ๆ จะได้ออกมาใช้เงินทีนะครับ ที่สำคัญครั้งนี้ก็ไม่ใช่เงินเราด้วย รีบไปกันเถอะ”ยี่หวากับติณณ์ภพ ใช้เวลาเดินซื้อของอยู่นานกว่าสองชั่วโมง จนกระทั่งกลับมาถึงโรงแรม ทั้งคู่เลือกจะออกไปทานข้าวข้างนอก ก่อนจะกลับไปเตรียมตัวสำหรับงานเลี้ยงช่วงเย็น ยี่หวาขอให้ออย ติดต่อช่างแต่งหน้าทำผมให้ เพราะเธอรู้จกจากคุณหมอที่เคยใช้บริการ และบอกต่อ ๆ กั







