Share

บทที่ 2

last update Last Updated: 2025-06-10 18:40:51

"คาระวะท่านผู้นำหมู่บ้านขอรับ มิทราบว่ามีธุระอันใดหรือขอรับ"

"เข้าไปคุยกันด้านในเถิด" หม่าเฉินพูดขึ้นก่อนจะเดินไปในบ้านหน้าตาเฉยโดยที่เจ้าของบ้านยังไม่ทันได้เชิญ คนที่เหลือจึงเดินตามเข้าไป

"ท่านผู้นำหม่าเชิญนั่งก่อน บ้านข้าไม่มีของดีๆต้อนรับพวกท่านต้องของอภัยด้วยนะเจ้าคะ" สวี่ฟางที่เห็นแขกมาก็รีบเชิญมานั่งที่โต๊ะก่อนจะรินน้ำร้อนผสมน้ำตาลให้แขกกิน  ครอบครัวหม่าได้แต่มองน้ำตาลนั้นเป็นของมีราคาหากเป็นที่บ้านของตนคงไม่นำมาผสมน้ำให้แขกดื่มเป็นแน่

"มิเป็นไรพวกข้านั้นย่อมเข้าใจ ชาวบ้านจนๆอย่างพวกเจ้าลำพังแค่หาของป่ามาขายก็แทบไม่พอประทังชีวิตจะเอาของดีๆที่ไหนมาต้อนรับพวกข้าเล่า"  นางกัวเหม่ยมารดาของหม่าจางอี้เอ่ยด้วยน้ำเสียงเหยียดหยัน 

"มิทราบว่าพวกท่านมาที่นี่มีธุระอันใดหรือขอรับ" เหอจงเทาพยายามไม่สนใจถ้อยคำดูหมิ่นนั่น มุ่งเข้าจุดประสงค์หลักที่คนพวกนี้มาทันทีหากไม่ใช่ว่าครั้งตอนผู้เฒ่าหม่ายังมีชีวิตอยู่เอ่ยขอหมั้นหมายบุตรเกอให้กับหลานชายของตนมีหรือเขาจะยอมให้บุตรของเขาไปยุ่งกับคนพวกนี้ หากมิใช่เห็นแก่ความสัมพันธ์อันดีกับผู้เฒ่าหม่าน่าเสียดายที่เมื่อสิ้นผู้เฒ่าหม่าแล้วก็เหลือเพียงบุตรหลานที่ละโมบ

"ที่ข้ามาวันนี้เพราะข้าต้องมาบอกเจ้าว่าทางบ้านหม่าต้องการถอนหมั้นบุตรเกอของเจ้า" หม่าเฉินเอ่ยบอกจุดประสงค์ที่มาทันที

"ถอนหมั้น!  เหตุใดถึงถอนหมั้นล่ะเจ้าคะ" สวี่ฟางกับเหอจงเทาถึงกับตกใจ

"เพราะฟานเสวี่ยไม่เหมาะสมกับท่านพี่ของข้าอย่างไรเล่า" หม่าซูเหมยเอ่ยขึ้นพลางส่งสายตาเหยียด  นางกับสหายไม่ชอบเหอฟางเสวี่ยเป็นอย่างมากเพราะสหายของนางมีใจให้กับพี่ชายของนาง หม่าซูเหมยถึงใช้ความเป็นน้องสร้างความสนิทสนมให้กับคนทั้งสองจนในที่สุดพี่ชายของนางก็ตกหลุมรักสหายของนางและยอมถอนหมั้นเจ้าเด็กเกอนี่

"พวกเจ้าคงรู้ว่าอาอี้นั้นเป็นถึงศิษย์ในสำนักศึกษาชื่อดัง อนาคตก็ต้องสอบซิ่วไฉถึงตอนนั้นพวกเจ้าคิดว่าเกอที่มาจากครอบครัวชาวบ้านจนๆยังจะคู่ควรกับบุตรชายของข้าอีกหรือ" หม่าเฉินพูดด้วยความเหย่อหยิ่ง

"เหตุใดพวกท่านถึงพูดเช่นนี้ ตอนมาขอหมั้นหมายก็เป็นครอบครัวท่านมาเอ่ยขอ พอตอนนี้อยู่ๆก็มาถอนหมั้นพวกท่านก็รู้ว่าสตรีหรือเกอที่ถูกถอนหมั้นผู้นย่อมเอาไปติฉินนินทาทำเช่นนี้บุตรของข้าย่อมเสียหาย" เหอจงเทาพูดด้วยความโมโห

"แล้วอย่างไร เจ้าจะให้บุตรชายของข้าแต่งงานกับบุตรของเจ้าหากต่อไปเขาได้เป็นขุนนางเขาจะเอาหน้าไว้ที่ใด อย่าเห็นแก่ตัวนักสิ" นางกัวเหม่ยพูดด้วยความไม่พอใจ

"เอาละๆ เหอจงเทาอย่างไรพวกข้าก็จะถอนหมั้นยังไงเสียเจ้าก็ควรให้แก่อนาคตของบุตรชายของข้า อาอี้ยังคงก้าวหน้าอีกไกล" หม่าเฉินพูดอย่างเห็นแก่ตัว

"แล้วอนาคตของลูกข้าเล่า! " เหอจงเทาโมโหจนตัวสั่น

"ลูกของเจ้าเป็นเพียงเกอ อนาคตก็ต้องแต่งออกไปเจ้าจะสนใจอันใดมันนักหนา" กัวเหม่ยพูดอย่างไม่สนใจ

"หากพวกท่านต้องการถอนหมั้นก็ตามใจเถิด" เหอฟานเสวี่ยที่นั่งฟังอยู่นานเอ่ยขึ้น

"เสวี่ยเออร์" สวี่ฟางเรียกลูกชายด้วยกลัวว่าว่าบุตรของตนจะเสียใจ

"ท่านพ่อท่านแม่ ข้าไม่เป็นอันใดขอรับ ตัวข้าเองก็มิได้มีใจให้พี่จางอี้เช่นนั้นถอนหมั้นก็ย่อมดีกับตัวข้าเช่นกัน" เหอฟานเสวี่ยพูดราวกับไม่ใช่ใจ เชอะ ใครอยากหมั้นกับไอ้หน้าปลากะโห้นี่กัน  เมื่อได้ยินว่าเหอฟ่นเสวี่ยไม่ได้สนใจลูกชายของตนคนบ้านหม่าก็ถึงกับหน้าม้าน ลูกชายเขาเป็นถึงบัณฑิตมีอนาคตเหตุใดเกอนี่ถึงพูดราวกับบุตรของเขาไม่มีค่าคู่ควรกับตน  หม่าจางอี้เองได้ยินดังนั้นก็รู้สึกไม่พอใจเขานึกว่าจะเหอฟานเสวี่ยจะขอร้องไม่ให้เขาถอนหมั้นเสียอีก หากเป็นเช่นใดก็จะได้ยื่นข้อเสนอแต่งเป็นภรรยารองให้

"ถ้าเสวี่ยเออร์ว่าเช่นนั้นก็ถอนหมั้นตามที่พวกท่านต้องการเถิด" เหอจงเทาเห็นบุตรของตนไม่เสียใจกับการถอนหมั้นก็รู้สึกยินดีอยู่ลึกๆ เหอะ มีคนนินทาแล้วอย่างไร ใครว่าร้ายลูกของเขาเขาก็จะด่ามันกลับเสีย ไม่มีคนมาสู่ขอแล้วอย่างไร ต่อให้ไม่ออกเรือนเขาก็จะเลี้ยงดูบุตรของเขาด้วยความรักอยู่ดี

"เช่นนั้นก็เอาตามนั้น  นี่หนังสือยกเลิกสัญญาหมั้นหมายเจ้าเอาไปอ่านดูเถิด  อ้อ ข้าลืมไปว่าพวกเจ้าอ่านหนังสือไม่ออกเช่นนั้นข้าจะอ่านให้ฟังแล้วเจ้าค่อยลงนามยืนยันก็แล้วกัน" หม่าเฉินพูดอย่างดูถูก

"ข้าอ่านเองขอรับ" เหหอฟานหนิงเอ่ยขึ้นก่อนจะเอาหนังสือยกเลิกการหมั้นหมาย ครอบครัวหม่ารู้สึกตกใจเป็นอย่างมากไม่คิดว่าเหอฟานเสวี่ยจะอ่านหนังสือออก

"ทุกอย่างเรียบร้อยถูกต้องขอรับ ท่านพ่อลงนามได้เลยขอรับ" เหอฟานเสวี่ยยื่นกระดาษให้บิดาตนลงนาม

"ถ้าไม่มีอันใดพวกข้าก็ขอตัวกลับก่อน" หม่าเฉินเอ่ยขึ้น

"พวกข้าไม่ส่งนะขอรับ" เหอฟานเสวี่ยพูดขึ้นทำให้ครอบครัวหม่ารู้สึกไม่พอใจที่ครอบครัวเหอไม่ให้เกียรติตนจึงพากันเชิดหน้าเดินออกจากเรือนไป

"เจ้าไม่เสียใจจริงๆใช่ไหมเสวี่ยเออร์" เหอจงเทอถามผู้เป็นลูกด้วยความเป็นห่วง

"ไม่ขอรับ เหตุใดข้าต้องเสียใจด้วยเล่าขอรับข้ามิได้ชอบคนผู้นั้นเสียหน่อย" เหอฟานเสวี่ยพูดด้วยท่าทางสบายๆทำให้เหอจงเทากับสวี่ฟางรู้สึกสบายใจขึ้น

"เช่นนั้นก็ดีแล้ว พ่อต้องขอโทษที่ตอนนั้นตัดสินใจด้วยไม่ไตร่ตรองให้ดีเสียก่อน มาตอนนี้ทำให้ชื่อเสียงของเจ้าเสื่อมเสีย" เหอจงเทาไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าหากบุตรของเขาได้แต่งงานกับหม่าจางอี้จริงๆบุตรของเขาจะต้องทุกข์ใจแค่ไหน

"มิเป็นไรขอรับ ข้าเข้าใจท่านพ่อ" เหอฟานเสวี่ยส่ายหน้าน้อยๆให้กับบิดา

"จริงสิเสวี่ยเออร์ เจ้าอ่านหนังสือออกได้อย่างไรกัน" สวี่ฟางเอ่ยถามบุตรเกอของตน ตอนที่เห็นเหอฟานเสวี่ยหยิบกระดาษแผ่นนั้นมาอ่านเธอรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก บุตรของเธอรู้หนังสือได้อย่างไรกัน

"คือว่าเรื่องนั้น.... "

 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หมอเกอเทวดาน้อย   บทที่ 4

    "เจ้าหมายความว่าเช่นไร" เหอจงเทาเอ่ยถามบุตรเกอ"ความจริงแล้วข้าไม่ได้แค่วิชาการรักษามา แต่สวรรค์เมตตาข้าให้มิติสมุนไพรมาด้วยขอรับ ไม่ใช่เพียงแค่นั้นภายในมิติเองก็มีเครื่องมือที่ข้ารู้จักและไม่รู้จักขอรับ คราแรกข้าก็ไม่แน่ใจแต่พอข้าลองหยิบของในมิตินั้นออกมามันก็นำออกมาได้จริงๆ" เหอฟานเสวี่ยเล่าสิ่งต่างๆที่ได้พบในมิติให้บิดาฟัง ไม่ว่าจะเครื่องมือสำหรับรักษา ปรุงยา และสมุนไพรในมิติ"เสวี่ยเออร์ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มากเจ้าอย่าบอกเรื่องนี้กับใครเด็ดขาด" เหอจงเทาเอ่ยบอกบุตรเกอ"ขอรับ นอกจากท่านพ่อท่านแม่แล้วข้าก็ไม่ไว้ใจผู้ใดขอรับ" ืเหอฟานเสวี่ยพยักหน้ารับ"ดีแล้ว ต่อไปเจ้าต้องระมัดระวังตัวให้มาก" เหอจงเทาลูบหัวบุตรของตน"เช่นนั้นเราเอาสมุนไพรไปขายที่ตัวเมืองได้แล้วใช่หรือไม่ขอรับ" เหอฟานเสวี่ยเอ่ยถามผู้เป็นบิดา"ย่อมได้ เช่นนั้นเรากลับลงจากเขากันเถิดกว่าจะเดินทางเข้าเมืองใช้เวลานาน" สองพ่อลูกเดินลงจากเขาโดยได้ของติดมือมาเพียงเล็กน้อย พอกลับมาถึงบ้านเหอจงเทาก็เล่าทุกอย่างให้ภรรยาฟังสวี่ฟางเองก็ตกใจไม่น้อยและคิดว่าบุตรของตนนั้นช่างโชคดียิ่งนัก"เสวี่ยเออร์ เจ้าจงระวังให้มากรู้หรือไม

  • หมอเกอเทวดาน้อย   บทที่ 3

    "จริงสิเสวี่ยเออร์ เจ้าอ่านหนังสือออกได้อย่างไรกัน" "คือว่าเรื่องนั้น ตอนที่ข้าไม่สบายหนักแล้วหลับไปหาวันข้าฝันขอรับ ในฝันนั้นข้าไปเรียนรู้สิ่งต่างๆมากมายโดยเฉพาะเรื่องการรักษาที่ข้าไม่เคยเห็นมาก่อน ในจะการปรุงยาและสมุนไพรต่างๆข้าก็รู้สึกว่าคุ้นเคยกับมันดี คราแรกข้าก็คิดว่ามันเป็นเพียงความฝันขอรับแต่พอตื่นขึ้นมาข้ากลับยังจำทุกอย่างได้ดีอยู่ ข้าคิดว่าสวรรค์คงเป็นเมตตาข้าขอรับท่านพ่อท่านแม่ " เหอฟานเสวี่ยแต่งเรื่องขึ้นมาแอบคิดในใจว่าเรื่องราวเกินจริงแบบนี้ผู้ใดเขาจะเชื่อ"จริงหรือเสวี่นเออร์ ลูกพ่อเจ้าช่างโชคดียิ่งนัก" เอ่อ บิดาเขานี่แหละเชื่อ"เช่นนั้นตอนนี้เจ้าก็รู้วิธีการรักษาสินะ" สวี่ฟางอดตกใจระคนยินดีไม่ได้"ขอรับท่านแม่ ทั้งวิธีการรักษา การปรุงยา และสมุนไพรต่างๆข้ารู้สึกว่าตัวข้าคุ้นเคยราวกับศึกษามานานหลายปีเลยขอรับ" เหอฟานเสวี่ยได้แต่ขอโทษทั้งสองคนในที่ต้องโกหก"ช่างเป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่งนัก" สวี่ฟางเอ่ยขึ้น"ท่านพ่อท่านแม่ขอรับ พวกท่านคิดว่าอย่างไรหากข้าอยากใช้วิชาความรู้ที่ได้มาช่วยเหลือผู้อื่น" เหอฟานเสวี่ยเอ่ยถามบิดามารดา"เจ้าหมายถึงรักษาคนหรือ" เหอจงเทาเอ่ยถามบุตรเ

  • หมอเกอเทวดาน้อย   บทที่ 2

    "คาระวะท่านผู้นำหมู่บ้านขอรับ มิทราบว่ามีธุระอันใดหรือขอรับ""เข้าไปคุยกันด้านในเถิด" หม่าเฉินพูดขึ้นก่อนจะเดินไปในบ้านหน้าตาเฉยโดยที่เจ้าของบ้านยังไม่ทันได้เชิญ คนที่เหลือจึงเดินตามเข้าไป"ท่านผู้นำหม่าเชิญนั่งก่อน บ้านข้าไม่มีของดีๆต้อนรับพวกท่านต้องของอภัยด้วยนะเจ้าคะ" สวี่ฟางที่เห็นแขกมาก็รีบเชิญมานั่งที่โต๊ะก่อนจะรินน้ำร้อนผสมน้ำตาลให้แขกกิน ครอบครัวหม่าได้แต่มองน้ำตาลนั้นเป็นของมีราคาหากเป็นที่บ้านของตนคงไม่นำมาผสมน้ำให้แขกดื่มเป็นแน่"มิเป็นไรพวกข้านั้นย่อมเข้าใจ ชาวบ้านจนๆอย่างพวกเจ้าลำพังแค่หาของป่ามาขายก็แทบไม่พอประทังชีวิตจะเอาของดีๆที่ไหนมาต้อนรับพวกข้าเล่า" นางกัวเหม่ยมารดาของหม่าจางอี้เอ่ยด้วยน้ำเสียงเหยียดหยัน "มิทราบว่าพวกท่านมาที่นี่มีธุระอันใดหรือขอรับ" เหอจงเทาพยายามไม่สนใจถ้อยคำดูหมิ่นนั่น มุ่งเข้าจุดประสงค์หลักที่คนพวกนี้มาทันทีหากไม่ใช่ว่าครั้งตอนผู้เฒ่าหม่ายังมีชีวิตอยู่เอ่ยขอหมั้นหมายบุตรเกอให้กับหลานชายของตนมีหรือเขาจะยอมให้บุตรของเขาไปยุ่งกับคนพวกนี้ หากมิใช่เห็นแก่ความสัมพันธ์อันดีกับผู้เฒ่าหม่าน่าเสียดายที่เมื่อสิ้นผู้เฒ่าหม่าแล้วก็เหลือเพียงบุตรหลานที่ล

  • หมอเกอเทวดาน้อย   บทที่ 1

    นที ศาสตราจารย์วัย 39 ปี ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์แผนจีนโบราณและแพทย์แผนปัจจุบันรวมถึงสมุนไพรต่างๆ ในอดีตนทีนั้นเป็นเพียงเด็กคนหนึ่งในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า นทีเป็นคนที่เรียนเก่งเรียกได้ว่าเป็นอัจฉริยะเลยก็ว่าได้ เขาทำงานส่งตัวเองเรียนจนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ก่อนจะออกจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในตอนอายุ 18 ปี นทีเป็นคนที่มีความมุ่งมั่นสูงจนในที่สุดเขาสามารถสอบชิงทุนไปเรียนต่อแพทย์ที่ประเทศจีน และสามารถสอบชิงทุนได้ทุกครั้งจนส่งตัวเองเรียนจบถึงปริญญาเอก นทีนับว่าเป็นหมอที่มีฝีมือดีไม่ว่าจะเป็นการวินิจฉัยโรค หรือการผ่าตัด จนปัจจุบันนทีกลายเป็นศาสตราจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในวงการแพทย์ นทีใช้ชีวิตในการสอนนักศึกษาแพทย์เวลาว่างก็เรียนรู้เรื่องสมุนไพร การปรุงยาและแพทย์แผนจีนโบราณจนชำนาญ ชีวิตดำเนินไปอย่างราบเรียบจนกระทั่งวันหนึ่งมัจจุราชที่มองไม่เห็นมาพรากชีวิตของเขาไปเพียงเพราะเขาแค่ สะดุดขาตัวเองล้ม! 'บ้าซะมัด ทำไมผมต้องมาตายด้วยเหตุผลน่าขายหน้าแบบนี้' นทีได้แต่ก่นด่าในใจ หัวที่ฟาดพื้นอย่างรุนแรงทำให้พรากลมหายใจของเขาไปในไม่กี่วินาที 'เกิดมายังไม่เคยสัมผัสคำว่าครอบครัวเลย' นทีคิดอย่างเศร

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status