แชร์

บทที่ 4

ผู้เขียน: หยางม่งเหยา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-10 18:42:07

"เจ้าหมายความว่าเช่นไร"  เหอจงเทาเอ่ยถามบุตรเกอ

"ความจริงแล้วข้าไม่ได้แค่วิชาการรักษามา  แต่สวรรค์เมตตาข้าให้มิติสมุนไพรมาด้วยขอรับ ไม่ใช่เพียงแค่นั้นภายในมิติเองก็มีเครื่องมือที่ข้ารู้จักและไม่รู้จักขอรับ คราแรกข้าก็ไม่แน่ใจแต่พอข้าลองหยิบของในมิตินั้นออกมามันก็นำออกมาได้จริงๆ" เหอฟานเสวี่ยเล่าสิ่งต่างๆที่ได้พบในมิติให้บิดาฟัง ไม่ว่าจะเครื่องมือสำหรับรักษา ปรุงยา และสมุนไพรในมิติ

"เสวี่ยเออร์ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มากเจ้าอย่าบอกเรื่องนี้กับใครเด็ดขาด"  เหอจงเทาเอ่ยบอกบุตรเกอ

"ขอรับ นอกจากท่านพ่อท่านแม่แล้วข้าก็ไม่ไว้ใจผู้ใดขอรับ" ืเหอฟานเสวี่ยพยักหน้ารับ

"ดีแล้ว ต่อไปเจ้าต้องระมัดระวังตัวให้มาก"  เหอจงเทาลูบหัวบุตรของตน

"เช่นนั้นเราเอาสมุนไพรไปขายที่ตัวเมืองได้แล้วใช่หรือไม่ขอรับ" เหอฟานเสวี่ยเอ่ยถามผู้เป็นบิดา

"ย่อมได้  เช่นนั้นเรากลับลงจากเขากันเถิดกว่าจะเดินทางเข้าเมืองใช้เวลานาน"  สองพ่อลูกเดินลงจากเขาโดยได้ของติดมือมาเพียงเล็กน้อย พอกลับมาถึงบ้านเหอจงเทาก็เล่าทุกอย่างให้ภรรยาฟังสวี่ฟางเองก็ตกใจไม่น้อยและคิดว่าบุตรของตนนั้นช่างโชคดียิ่งนัก

"เสวี่ยเออร์ เจ้าจงระวังให้มากรู้หรือไม่" สวี่ฟางย้ำเตือนบุตร

"ขอรับ ท่านแม่อย่าได้กังวลเรื่องนี้จะมีเพียงคนในครอบครัวของเราเท่านั้นที่รู้" เเหอฟานเสวี่ยเอ่ยบอกมารดา

"ดีแล้ว ท่านพี่จะเข้าเมืองอย่างไรเจ้าคะ" สวี่ฟางหันไปถามผู้เป็นสามี

"คงต้องเดินไป ครอบครัวนั้นคงไม่ให้เรายืมเกวียน" เหอจงเทาเอ่ยขึ้น  เพราะมีเพียงบ้านผู้นำเท่านั้นที่มีเกวียนเนื่องจากเกวียนมีราคาแพงทำให้ชาวบ้านธรรมดาไม่มีกำลังซื้อ

"เสวี่ยเออร์ เจ้าเดินไหวหรือไม่" เหอจงเทาเอ่ยถามผู้เป็นบุตร

"ไหวขอรับ เห็นอย่างนี้ข้าแข็งแรงมากเลยนะขอรับ"  เหอฟานเสวี่ยพูดด้วยท่าทางซุกซน

"อย่าให้พ่อเห็นเจ้าบ่นก็แล้วกัน" เหอจงเทามองบุตรเกอด้วยสายตาเอ็นดู

สองพ่อลูกเดินเท้ามาถึงประตูเมืองใช้เวลาสองชั่วยามกับอีกสามเค่อ เมื่อมาถึงประตูเมืองก็แสดงป้ายชื่อให้ผู้เฝ้าประตูดู  เหอฟานเสวี่ยมองดูผู้คนและรถม้าที่ต่อแถวรอผ่านประตูเมืองด้วยความตื่นเต้น 

'เหมือนที่เคยเห็นในซีรี่ย์เลย' เขาคิดในใจ

หลังจากผ่านประตูเมืองเข้ามาแล้วเหอจงเทาก็พาบุตรเกอเดินไปที่ร้านขายยาสมุนไพรที่ชาวบ้านหลายคนต่างบอกว่าให้ราคายุติธรรมที่สุด เมื่อเดินเข้ามาในร้านก็มีเสี่ยวเอ้อร์เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ

"นายท่านและคุณชายน้อยต้องการสิ่งใดหรือขอรับ"  เหอฟานเสวี่ยพึงพอใจกับการบริการของเสี่ยวเออร์มากเพราะถึงแม้เสื้อผ้าของเขาและบิดาจะมีแต่รอยปะชุนแต่อีกฝ่ายก็ยังเรียกพวกเขาด้วยถ้อยคำสุภาพ

"ข้าต้องการขายสมุนไพร มิทราบว่าที่นี่รับซื้อหรือไม่"  เหอฟานเสวี่ยกระตุกแขนบิดาบอกว่าตนจะเป็นคนพูดเองซึ่งเหอจงเทาก็ตามใจ

"รับขอรับ นายท่านกับคุณชายน้อยโปรดรอสักครู่เรื่องรับซื้อสมุนไพรต้องให้หลงจู๊เป็นผู้ตีราคา เดี๋ยวข้าไปตามเขามาให้" เสี่ยวเออร์โค้งขอตัวสักครู่ก่อนจะเดินหายเข้าไปหลังร้านและกลับออกมาพร้อมกับชายวัยกลางคน

"พวกเจ้าต้องการขายสมุนไพรชนิดใดหรือ" หลงจู๊เอ่ยถามทั้งสองคน

"ข้าต้องการขายสิ่งนี้ขอรับ" เหอฟานเสวี่ยเปิดห่อผ้าออกให้หลงจู๊ดู

"นะ นี่  อ้อพวกเจ้ามาส่งสมุนไพรที่เถ้าแก่สั่งไว้สินะ ตามข้ามาเถ้าแก่กำลังรออยู่"  หลงจู๊ที่เห็นว่าสองพ่อลูกนำสิ่งใดมาขายก็ต้องตกใจแต่ก็พยายามควบคุมสติและกวาดตามองดูลูกค้าในร้านจึงเอ่ยออกไปเช่นนั้น ไม่อย่างนั้นหากลูกค้าคนอื่นรู้ว่าสองพ่อลูกนี่นำสิ่งใดมาขายเกรงว่าหลังออกจากร้านจากโชคดีจะกลายเป็นความโชคร้ายเสียมากกว่า  เหอฟานเสวี่ยเองเห็นสายตาที่หลงจู๊ส่งมาก็เข้าใจจึงเดินตามหลงจู๊เข้าไปหลังร้าน

"เถ้าแก่ขอรับ คุณชายน้อยผู้นี้กับบิดามีสมุนไพรมาขายขอรับ" หลงจู๊เอ่ยบอกเถ้าแก่ร้าน

"พวกเจ้ามีอันใดมาขายให้ข้าหรือ" เถ้าแก่ซูเอ่ยถามอย่างตื่นเต้นเพราะรู้ดีว่าหากหลงจู๊ร้านพาเข้ามาพบตนเช่นนี้หมายความว่าสมุนไพรนั่นย่อมไม่ใช่ของธรรมดา

"คาระวะเถ้าแก่ขอรับ พวกข้านำสิ่งนี้มาขายไม่ทราบว่าเถ้าแก่รับซื้อหรือไม่ขอรับ" เหอฟานเสวี่ยวางห่อผ้าลงบนโต๊ะก่อนจะเปิดออก

"สะ โสม โสมคน!" เถ้าแก่ซูมองดูห่อผ้าเบื้องหน้าด้วยความตื่นเต้น  โสมคนตรงหน้านี้อยู่ในรูปร่างเติมโตสมบูรณ์ 

"เถ้าแก่รับซื้อหรือไม่ขอรับ" เหอฟานเสวี่ยที่เห็นเถ้าแก่ร้านยามัวแต่ตื่นเต้นก็เอ่ยถามอีกครั้ง

"รับ ข้ารับแน่นอน โสมคนเป็นของหายากอีกทั้งรูปร่างสมบูรณ์เช่นนี้อีกข้าให้พวกเจ้า 2000 ตำลึงทองพวกเจ้าพอใจหรือไม่" เถ้าแก่ซูให้ราคาสูงสุดเลยทีเดียว

"พอใจขอรับ  แล้วถังเช่าเถ้าแก่รับซื้อหรือไม่ขอรับ"  เหอฟานเสวี่ยเอ่ยถามคราแรกเขาอยากเอาเห็ดหลินจือออกมาขายแต่เกรงว่าจะถูกสงสัยที่เขาสามารถมีของหายากพร้อมกันถึงสองอย่างจึงตัดสินใจขายถังเช่าแทน   ถังเช่าแม้จะเป็นสมุนไพรหายากแต่ก็ไม่ได้ถึงกับหาไม่ได้เลยเหมือนโสมกับเห็ดหลินจือ

"รับ ถังเช่าข้าให้จินละ 100 ตำลึงเงิน" เถ้าแก่ซูเอ่ยบอก

"นี่ขอรับ  เชิญเถ้าแก่ชั่งดู" เหอฟานเสวี่ยนำห่อผ้าที่ห่อถังเช่าไว้ยื่นให้เถ้าแก่นำไปชั่งนำหนักซึ่งหลงจู๊ก็อาสานำมันไปชั่งเอง

"ดูท่าแถวหมู่บ้านของพวกเจ้าคงจะอุดมสมบูรณ์น่าดู" เถ้าแก่ซูชวนทั้งสองคุยระหว่างรอชั่งน้ำหนักถังเช่า

"มิได้เป็นเช่นนั้นหรอกขอรับ หมู่บ้านของพวกข้านั้นแห้งแล้งเช่นเดียวกับหมู่บ้านอื่นแต่โชคดีมีภูเขาที่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ ตัวข้านั้นเป็นพรานป่าจึงมีโอกาสเข้าป่าลึกบ่อยครั้ง มีครั้งนี้ที่โชคดีได้ของล้ำค่าจากภูเขามา"  เหอจงเทาเอ่ยตอบ เหอฟานเสวี่ยพยักหน้าอย่างพึงพอใจกับไหวพริบของผู้เป็นบิดา

"พวกเจ้าโชคดีจริงๆ" เถ้าแก่ซูเองก็เห็นด้วย  เขาว่ากันว่าสมุนไพรล้ำค่ามักจะเลือกคนที่จะพบเจอ สองพ่อลูกนนี่อาจเป็นคนที่ถูกเลือกก็ได้

"เถ้าแก่ขอรับถังเช่าชั่งได้ 5 จินขอรับ" หลงจู๊เดินเข้ามาบอกจำนวนที่ชั่งได้

" 5 จินก็ 500 ตำลึงเงิน พวกเจ้าจะรับเป็นตั๋วเงินเลยหรือไม่" เถ้าแก่ซูเอ่ยถาม

"ข้าขอเป็นตั๋วเงิน 2000 ตำลึงทองขอรับ ส่วน 500 ตำลึงเงินข้าขอเป็นก้อนตำลึงขอรับ" เหอฟานเสวี่ยเอ่ยบอก

"ได้ หลงจู๊จัดการให้ด้วย ข้าเพิ่มให้พวกเจ้าอีก 1000 อีแปะก็แล้วกันเป็นค่าขอบคุณที่พวกเจ้านำสมุนไพรล้ำค่ามาขายที่ร้านของข้าเวลาซื้อของไม่กี่อีแปะจะได้ไม่ต้องจ่ายก้อนตำลึง" เถ้าแก่ซูเอ่ยบอก

"ขอบคุณเถ้าแก่ขอรับ" สองพ่อลูกเอ่ยขอบคุณเถ้าแก่

 

"ท่านพ่อจะไปไหนต่อหรือขอรับ" หลังจากออกมาจากร้านขายยาเหอฟานเสวี่ยก็เอ่ยถามบิดา

"เจ้าอย่างไปที่ใดเล่า" เหอจงเทาเอ่ยถามความต้องการของผู้เป็นบุตร

"เราไปซื้อรถม้าดีหรือไม่ขอรับ" เหอฟานเสวี่ยเอ่ยถามผู้เป็นบิดา

"ดี แต่พอว่าเราเอาตั๋วเงินไปฝากที่ร้านรับฝากก่อนดีกว่า" เหอจงเทาเอ่ยบอกผู้เป็นบุตร เขาเกรงว่าหากเก็บตั๋วเงินไว้กับตนเองอาจจะหายหรืออาจถูกปล้นได้

"ขอรับ"  สองพ่อลูกจึงเดินทางมาที่ร้านฝากเงินโดยที่เหอจงเทาให้ฝากเป็นชื่อของบุตรเกอของตน เหอฟานเสวี่ยให้เจ้าหน้าที่ถอนเงินออกมาให้จำนวน 100 ตำลึงทองเพื่อซื้อรถม้า เมื่อฝากเงินเสร็จแล้วทั้งสองคนก็เดินมาที่ตลาดค้าสัตว์ทันที

"นายท่าน คุณชายน้อย ไม่ทราบว่าท่านทั้งสองต้องการสิ่งใดขอรับ ร้านของข้ามีทั้ง ม้า ลา และวัว" เถ้าแก่เจ้าของร้านเห็นพวกเขาก็รีบมาต้อนรับและไม่มีท่าทีดูถูกแต่อย่างใด

"ข้าต้องการรถม้า  ไม่ทราบว่ามีรถม้าแบบสำเร็จหรือไม่" เหอจงเทาเอ่ยถาม

"มีขอรับ  รถม้าของเรามีตั้งแต่ทำจากไม้ธรรมดาไปจนถึงไม้เนื้อดีเลยขอรับ" เถ้าแก่เจ้าของร้านเอ่ยตอบ

"ข้าขอดูได้หรือไม่ขอรับ"  เหอฟานเสวี่ยเอ่ยถาม

"ได้ขอรับ เชิญคุณชายน้อยทางนี้ขอรับ" เถ้าแก่เจ้าของร้านรีบพาทั้งสองเดินไปดูรถม้าแบบสำเร็จ เหอฟานเสวี่ยถูกใจรถม้าสีขาวมันเห็นกับที่เขาเคยเห็นให้ซีรีย์เมื่อชาติก่อนจึงตัดสินใจเลือกรถม้าคันนี้ทันที  อีกทั้งยังเลือกม้าลักษณะดีอีกสองตัวเพราะรถม้าที่ซื้อนั้นค่อนข้างใหญ่จึงต้องใช้ม้าลากสองตัว

"ทั้งหมดข้าคิดราคา 70 ตำลึงทองขอรับ" เถ้าแก่ร้านเอ่ยบอก

"นี่ขอรับ" เหอจงเทาจ่ายเงินให้กับเถ้าแก่อย่างไม่ต่อรองสร้างความประทับใจให้เถ้าแก่เจ้าของร้านเป็นอย่างมาก

"เจ้าจะไปไหนต่อหรือ" เหอจงเทาเอ่ยถามบุตรเกอ

"ร้านขายผ้าขอรับ" 

 

 

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • หมอเกอเทวดาน้อย   บทที่ 4

    "เจ้าหมายความว่าเช่นไร" เหอจงเทาเอ่ยถามบุตรเกอ"ความจริงแล้วข้าไม่ได้แค่วิชาการรักษามา แต่สวรรค์เมตตาข้าให้มิติสมุนไพรมาด้วยขอรับ ไม่ใช่เพียงแค่นั้นภายในมิติเองก็มีเครื่องมือที่ข้ารู้จักและไม่รู้จักขอรับ คราแรกข้าก็ไม่แน่ใจแต่พอข้าลองหยิบของในมิตินั้นออกมามันก็นำออกมาได้จริงๆ" เหอฟานเสวี่ยเล่าสิ่งต่างๆที่ได้พบในมิติให้บิดาฟัง ไม่ว่าจะเครื่องมือสำหรับรักษา ปรุงยา และสมุนไพรในมิติ"เสวี่ยเออร์ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มากเจ้าอย่าบอกเรื่องนี้กับใครเด็ดขาด" เหอจงเทาเอ่ยบอกบุตรเกอ"ขอรับ นอกจากท่านพ่อท่านแม่แล้วข้าก็ไม่ไว้ใจผู้ใดขอรับ" ืเหอฟานเสวี่ยพยักหน้ารับ"ดีแล้ว ต่อไปเจ้าต้องระมัดระวังตัวให้มาก" เหอจงเทาลูบหัวบุตรของตน"เช่นนั้นเราเอาสมุนไพรไปขายที่ตัวเมืองได้แล้วใช่หรือไม่ขอรับ" เหอฟานเสวี่ยเอ่ยถามผู้เป็นบิดา"ย่อมได้ เช่นนั้นเรากลับลงจากเขากันเถิดกว่าจะเดินทางเข้าเมืองใช้เวลานาน" สองพ่อลูกเดินลงจากเขาโดยได้ของติดมือมาเพียงเล็กน้อย พอกลับมาถึงบ้านเหอจงเทาก็เล่าทุกอย่างให้ภรรยาฟังสวี่ฟางเองก็ตกใจไม่น้อยและคิดว่าบุตรของตนนั้นช่างโชคดียิ่งนัก"เสวี่ยเออร์ เจ้าจงระวังให้มากรู้หรือไม

  • หมอเกอเทวดาน้อย   บทที่ 3

    "จริงสิเสวี่ยเออร์ เจ้าอ่านหนังสือออกได้อย่างไรกัน" "คือว่าเรื่องนั้น ตอนที่ข้าไม่สบายหนักแล้วหลับไปหาวันข้าฝันขอรับ ในฝันนั้นข้าไปเรียนรู้สิ่งต่างๆมากมายโดยเฉพาะเรื่องการรักษาที่ข้าไม่เคยเห็นมาก่อน ในจะการปรุงยาและสมุนไพรต่างๆข้าก็รู้สึกว่าคุ้นเคยกับมันดี คราแรกข้าก็คิดว่ามันเป็นเพียงความฝันขอรับแต่พอตื่นขึ้นมาข้ากลับยังจำทุกอย่างได้ดีอยู่ ข้าคิดว่าสวรรค์คงเป็นเมตตาข้าขอรับท่านพ่อท่านแม่ " เหอฟานเสวี่ยแต่งเรื่องขึ้นมาแอบคิดในใจว่าเรื่องราวเกินจริงแบบนี้ผู้ใดเขาจะเชื่อ"จริงหรือเสวี่นเออร์ ลูกพ่อเจ้าช่างโชคดียิ่งนัก" เอ่อ บิดาเขานี่แหละเชื่อ"เช่นนั้นตอนนี้เจ้าก็รู้วิธีการรักษาสินะ" สวี่ฟางอดตกใจระคนยินดีไม่ได้"ขอรับท่านแม่ ทั้งวิธีการรักษา การปรุงยา และสมุนไพรต่างๆข้ารู้สึกว่าตัวข้าคุ้นเคยราวกับศึกษามานานหลายปีเลยขอรับ" เหอฟานเสวี่ยได้แต่ขอโทษทั้งสองคนในที่ต้องโกหก"ช่างเป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่งนัก" สวี่ฟางเอ่ยขึ้น"ท่านพ่อท่านแม่ขอรับ พวกท่านคิดว่าอย่างไรหากข้าอยากใช้วิชาความรู้ที่ได้มาช่วยเหลือผู้อื่น" เหอฟานเสวี่ยเอ่ยถามบิดามารดา"เจ้าหมายถึงรักษาคนหรือ" เหอจงเทาเอ่ยถามบุตรเ

  • หมอเกอเทวดาน้อย   บทที่ 2

    "คาระวะท่านผู้นำหมู่บ้านขอรับ มิทราบว่ามีธุระอันใดหรือขอรับ""เข้าไปคุยกันด้านในเถิด" หม่าเฉินพูดขึ้นก่อนจะเดินไปในบ้านหน้าตาเฉยโดยที่เจ้าของบ้านยังไม่ทันได้เชิญ คนที่เหลือจึงเดินตามเข้าไป"ท่านผู้นำหม่าเชิญนั่งก่อน บ้านข้าไม่มีของดีๆต้อนรับพวกท่านต้องของอภัยด้วยนะเจ้าคะ" สวี่ฟางที่เห็นแขกมาก็รีบเชิญมานั่งที่โต๊ะก่อนจะรินน้ำร้อนผสมน้ำตาลให้แขกกิน ครอบครัวหม่าได้แต่มองน้ำตาลนั้นเป็นของมีราคาหากเป็นที่บ้านของตนคงไม่นำมาผสมน้ำให้แขกดื่มเป็นแน่"มิเป็นไรพวกข้านั้นย่อมเข้าใจ ชาวบ้านจนๆอย่างพวกเจ้าลำพังแค่หาของป่ามาขายก็แทบไม่พอประทังชีวิตจะเอาของดีๆที่ไหนมาต้อนรับพวกข้าเล่า" นางกัวเหม่ยมารดาของหม่าจางอี้เอ่ยด้วยน้ำเสียงเหยียดหยัน "มิทราบว่าพวกท่านมาที่นี่มีธุระอันใดหรือขอรับ" เหอจงเทาพยายามไม่สนใจถ้อยคำดูหมิ่นนั่น มุ่งเข้าจุดประสงค์หลักที่คนพวกนี้มาทันทีหากไม่ใช่ว่าครั้งตอนผู้เฒ่าหม่ายังมีชีวิตอยู่เอ่ยขอหมั้นหมายบุตรเกอให้กับหลานชายของตนมีหรือเขาจะยอมให้บุตรของเขาไปยุ่งกับคนพวกนี้ หากมิใช่เห็นแก่ความสัมพันธ์อันดีกับผู้เฒ่าหม่าน่าเสียดายที่เมื่อสิ้นผู้เฒ่าหม่าแล้วก็เหลือเพียงบุตรหลานที่ล

  • หมอเกอเทวดาน้อย   บทที่ 1

    นที ศาสตราจารย์วัย 39 ปี ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์แผนจีนโบราณและแพทย์แผนปัจจุบันรวมถึงสมุนไพรต่างๆ ในอดีตนทีนั้นเป็นเพียงเด็กคนหนึ่งในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า นทีเป็นคนที่เรียนเก่งเรียกได้ว่าเป็นอัจฉริยะเลยก็ว่าได้ เขาทำงานส่งตัวเองเรียนจนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ก่อนจะออกจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในตอนอายุ 18 ปี นทีเป็นคนที่มีความมุ่งมั่นสูงจนในที่สุดเขาสามารถสอบชิงทุนไปเรียนต่อแพทย์ที่ประเทศจีน และสามารถสอบชิงทุนได้ทุกครั้งจนส่งตัวเองเรียนจบถึงปริญญาเอก นทีนับว่าเป็นหมอที่มีฝีมือดีไม่ว่าจะเป็นการวินิจฉัยโรค หรือการผ่าตัด จนปัจจุบันนทีกลายเป็นศาสตราจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในวงการแพทย์ นทีใช้ชีวิตในการสอนนักศึกษาแพทย์เวลาว่างก็เรียนรู้เรื่องสมุนไพร การปรุงยาและแพทย์แผนจีนโบราณจนชำนาญ ชีวิตดำเนินไปอย่างราบเรียบจนกระทั่งวันหนึ่งมัจจุราชที่มองไม่เห็นมาพรากชีวิตของเขาไปเพียงเพราะเขาแค่ สะดุดขาตัวเองล้ม! 'บ้าซะมัด ทำไมผมต้องมาตายด้วยเหตุผลน่าขายหน้าแบบนี้' นทีได้แต่ก่นด่าในใจ หัวที่ฟาดพื้นอย่างรุนแรงทำให้พรากลมหายใจของเขาไปในไม่กี่วินาที 'เกิดมายังไม่เคยสัมผัสคำว่าครอบครัวเลย' นทีคิดอย่างเศร

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status