Share

บทที่ 5

last update Terakhir Diperbarui: 2025-06-19 15:07:38

"เจ้าหมายความว่าเช่นไร"  เหอจงเทาเอ่ยถามบุตรเกอ

"ความจริงแล้วข้าไม่ได้แค่วิชาการรักษามา  แต่สวรรค์เมตตาข้าให้มิติสมุนไพรมาด้วยขอรับ ไม่ใช่เพียงแค่นั้นภายในมิติเองก็มีเครื่องมือที่ข้ารู้จักและไม่รู้จักขอรับ คราแรกข้าก็ไม่แน่ใจแต่พอข้าลองหยิบของในมิตินั้นออกมามันก็นำออกมาได้จริงๆ" เหอฟานเสวี่ยเล่าสิ่งต่างๆที่ได้พบในมิติให้บิดาฟัง ไม่ว่าจะเครื่องมือสำหรับรักษา ปรุงยา และสมุนไพรในมิติ

"เสวี่ยเออร์ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มากเจ้าอย่าบอกเรื่องนี้กับใครเด็ดขาด"  เหอจงเทาเอ่ยบอกบุตรเกอ

"ขอรับ นอกจากท่านพ่อท่านแม่แล้วข้าก็ไม่ไว้ใจผู้ใดขอรับ" ืเหอฟานเสวี่ยพยักหน้ารับ

"ดีแล้ว ต่อไปเจ้าต้องระมัดระวังตัวให้มาก"  เหอจงเทาลูบหัวบุตรของตน

"เช่นนั้นเราเอาสมุนไพรไปขายที่ตัวเมืองได้แล้วใช่หรือไม่ขอรับ" เหอฟานเสวี่ยเอ่ยถามผู้เป็นบิดา

"ย่อมได้  เช่นนั้นเรากลับลงจากเขากันเถิดกว่าจะเดินทางเข้าเมืองใช้เวลานาน"  สองพ่อลูกเดินลงจากเขาโดยได้ของติดมือมาเพียงเล็กน้อย พอกลับมาถึงบ้านเหอจงเทาก็เล่าทุกอย่างให้ภรรยาฟังสวี่ฟางเองก็ตกใจไม่น้อยและคิดว่าบุตรของตนนั้นช่างโชคดียิ่งนัก

"เสวี่ยเออร์ เจ้าจงระวังให้มากรู้หรือไม่" สวี่ฟางย้ำเตือนบุตร

"ขอรับ ท่านแม่อย่าได้กังวลเรื่องนี้จะมีเพียงคนในครอบครัวของเราเท่านั้นที่รู้" เเหอฟานเสวี่ยเอ่ยบอกมารดา

"ดีแล้ว ท่านพี่จะเข้าเมืองอย่างไรเจ้าคะ" สวี่ฟางหันไปถามผู้เป็นสามี

"คงต้องเดินไป ครอบครัวนั้นคงไม่ให้เรายืมเกวียน" เหอจงเทาเอ่ยขึ้น  เพราะมีเพียงบ้านผู้นำเท่านั้นที่มีเกวียนเนื่องจากเกวียนมีราคาแพงทำให้ชาวบ้านธรรมดาไม่มีกำลังซื้อ

"เสวี่ยเออร์ เจ้าเดินไหวหรือไม่" เหอจงเทาเอ่ยถามผู้เป็นบุตร

"ไหวขอรับ เห็นอย่างนี้ข้าแข็งแรงมากเลยนะขอรับ"  เหอฟานเสวี่ยพูดด้วยท่าทางซุกซน

"อย่าให้พ่อเห็นเจ้าบ่นก็แล้วกัน" เหอจงเทามองบุตรเกอด้วยสายตาเอ็นดู

สองพ่อลูกเดินเท้ามาถึงประตูเมืองใช้เวลาสองชั่วยามกับอีกสามเค่อ เมื่อมาถึงประตูเมืองก็แสดงป้ายชื่อให้ผู้เฝ้าประตูดู  เหอฟานเสวี่ยมองดูผู้คนและรถม้าที่ต่อแถวรอผ่านประตูเมืองด้วยความตื่นเต้น 

'เหมือนที่เคยเห็นในซีรี่ย์เลย' เขาคิดในใจ

หลังจากผ่านประตูเมืองเข้ามาแล้วเหอจงเทาก็พาบุตรเกอเดินไปที่ร้านขายยาสมุนไพรที่ชาวบ้านหลายคนต่างบอกว่าให้ราคายุติธรรมที่สุด เมื่อเดินเข้ามาในร้านก็มีเสี่ยวเอ้อร์เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ

"นายท่านและคุณชายน้อยต้องการสิ่งใดหรือขอรับ"  เหอฟานเสวี่ยพึงพอใจกับการบริการของเสี่ยวเออร์มากเพราะถึงแม้เสื้อผ้าของเขาและบิดาจะมีแต่รอยปะชุนแต่อีกฝ่ายก็ยังเรียกพวกเขาด้วยถ้อยคำสุภาพ

"ข้าต้องการขายสมุนไพร มิทราบว่าที่นี่รับซื้อหรือไม่"  เหอฟานเสวี่ยกระตุกแขนบิดาบอกว่าตนจะเป็นคนพูดเองซึ่งเหอจงเทาก็ตามใจ

"รับขอรับ นายท่านกับคุณชายน้อยโปรดรอสักครู่เรื่องรับซื้อสมุนไพรต้องให้หลงจู๊เป็นผู้ตีราคา เดี๋ยวข้าไปตามเขามาให้" เสี่ยวเออร์โค้งขอตัวสักครู่ก่อนจะเดินหายเข้าไปหลังร้านและกลับออกมาพร้อมกับชายวัยกลางคน

"พวกเจ้าต้องการขายสมุนไพรชนิดใดหรือ" หลงจู๊เอ่ยถามทั้งสองคน

"ข้าต้องการขายสิ่งนี้ขอรับ" เหอฟานเสวี่ยเปิดห่อผ้าออกให้หลงจู๊ดู

"นะ นี่  อ้อพวกเจ้ามาส่งสมุนไพรที่เถ้าแก่สั่งไว้สินะ ตามข้ามาเถ้าแก่กำลังรออยู่"  หลงจู๊ที่เห็นว่าสองพ่อลูกนำสิ่งใดมาขายก็ต้องตกใจแต่ก็พยายามควบคุมสติและกวาดตามองดูลูกค้าในร้านจึงเอ่ยออกไปเช่นนั้น ไม่อย่างนั้นหากลูกค้าคนอื่นรู้ว่าสองพ่อลูกนี่นำสิ่งใดมาขายเกรงว่าหลังออกจากร้านจากโชคดีจะกลายเป็นความโชคร้ายเสียมากกว่า  เหอฟานเสวี่ยเองเห็นสายตาที่หลงจู๊ส่งมาก็เข้าใจจึงเดินตามหลงจู๊เข้าไปหลังร้าน

"เถ้าแก่ขอรับ คุณชายน้อยผู้นี้กับบิดามีสมุนไพรมาขายขอรับ" หลงจู๊เอ่ยบอกเถ้าแก่ร้าน

"พวกเจ้ามีอันใดมาขายให้ข้าหรือ" เถ้าแก่ซูเอ่ยถามอย่างตื่นเต้นเพราะรู้ดีว่าหากหลงจู๊ร้านพาเข้ามาพบตนเช่นนี้หมายความว่าสมุนไพรนั่นย่อมไม่ใช่ของธรรมดา

"คาระวะเถ้าแก่ขอรับ พวกข้านำสิ่งนี้มาขายไม่ทราบว่าเถ้าแก่รับซื้อหรือไม่ขอรับ" เหอฟานเสวี่ยวางห่อผ้าลงบนโต๊ะก่อนจะเปิดออก

"สะ โสม โสมคน!" เถ้าแก่ซูมองดูห่อผ้าเบื้องหน้าด้วยความตื่นเต้น  โสมคนตรงหน้านี้อยู่ในรูปร่างเติมโตสมบูรณ์ 

"เถ้าแก่รับซื้อหรือไม่ขอรับ" เหอฟานเสวี่ยที่เห็นเถ้าแก่ร้านยามัวแต่ตื่นเต้นก็เอ่ยถามอีกครั้ง

"รับ ข้ารับแน่นอน โสมคนเป็นของหายากอีกทั้งรูปร่างสมบูรณ์เช่นนี้อีกข้าให้พวกเจ้า 2000 ตำลึงทองพวกเจ้าพอใจหรือไม่" เถ้าแก่ซูให้ราคาสูงสุดเลยทีเดียว

"พอใจขอรับ  แล้วถังเช่าเถ้าแก่รับซื้อหรือไม่ขอรับ"  เหอฟานเสวี่ยเอ่ยถามคราแรกเขาอยากเอาเห็ดหลินจือออกมาขายแต่เกรงว่าจะถูกสงสัยที่เขาสามารถมีของหายากพร้อมกันถึงสองอย่างจึงตัดสินใจขายถังเช่าแทน   ถังเช่าแม้จะเป็นสมุนไพรหายากแต่ก็ไม่ได้ถึงกับหาไม่ได้เลยเหมือนโสมกับเห็ดหลินจือ

"รับ ถังเช่าข้าให้จินละ 100 ตำลึงเงิน" เถ้าแก่ซูเอ่ยบอก

"นี่ขอรับ  เชิญเถ้าแก่ชั่งดู" เหอฟานเสวี่ยนำห่อผ้าที่ห่อถังเช่าไว้ยื่นให้เถ้าแก่นำไปชั่งนำหนักซึ่งหลงจู๊ก็อาสานำมันไปชั่งเอง

"ดูท่าแถวหมู่บ้านของพวกเจ้าคงจะอุดมสมบูรณ์น่าดู" เถ้าแก่ซูชวนทั้งสองคุยระหว่างรอชั่งน้ำหนักถังเช่า

"มิได้เป็นเช่นนั้นหรอกขอรับ หมู่บ้านของพวกข้านั้นแห้งแล้งเช่นเดียวกับหมู่บ้านอื่นแต่โชคดีมีภูเขาที่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ ตัวข้านั้นเป็นพรานป่าจึงมีโอกาสเข้าป่าลึกบ่อยครั้ง มีครั้งนี้ที่โชคดีได้ของล้ำค่าจากภูเขามา"  เหอจงเทาเอ่ยตอบ เหอฟานเสวี่ยพยักหน้าอย่างพึงพอใจกับไหวพริบของผู้เป็นบิดา

"พวกเจ้าโชคดีจริงๆ" เถ้าแก่ซูเองก็เห็นด้วย  เขาว่ากันว่าสมุนไพรล้ำค่ามักจะเลือกคนที่จะพบเจอ สองพ่อลูกนนี่อาจเป็นคนที่ถูกเลือกก็ได้

"เถ้าแก่ขอรับถังเช่าชั่งได้ 5 จินขอรับ" หลงจู๊เดินเข้ามาบอกจำนวนที่ชั่งได้

" 5 จินก็ 500 ตำลึงเงิน พวกเจ้าจะรับเป็นตั๋วเงินเลยหรือไม่" เถ้าแก่ซูเอ่ยถาม

"ข้าขอเป็นตั๋วเงิน 2000 ตำลึงทองขอรับ ส่วน 500 ตำลึงเงินข้าขอเป็นก้อนตำลึงขอรับ" เหอฟานเสวี่ยเอ่ยบอก

"ได้ หลงจู๊จัดการให้ด้วย ข้าเพิ่มให้พวกเจ้าอีก 1000 อีแปะก็แล้วกันเป็นค่าขอบคุณที่พวกเจ้านำสมุนไพรล้ำค่ามาขายที่ร้านของข้าเวลาซื้อของไม่กี่อีแปะจะได้ไม่ต้องจ่ายก้อนตำลึง" เถ้าแก่ซูเอ่ยบอก

"ขอบคุณเถ้าแก่ขอรับ" สองพ่อลูกเอ่ยขอบคุณเถ้าแก่

 

"ท่านพ่อจะไปไหนต่อหรือขอรับ" หลังจากออกมาจากร้านขายยาเหอฟานเสวี่ยก็เอ่ยถามบิดา

"เจ้าอย่างไปที่ใดเล่า" เหอจงเทาเอ่ยถามความต้องการของผู้เป็นบุตร

"เราไปซื้อรถม้าดีหรือไม่ขอรับ" เหอฟานเสวี่ยเอ่ยถามผู้เป็นบิดา

"ดี แต่พอว่าเราเอาตั๋วเงินไปฝากที่ร้านรับฝากก่อนดีกว่า" เหอจงเทาเอ่ยบอกผู้เป็นบุตร เขาเกรงว่าหากเก็บตั๋วเงินไว้กับตนเองอาจจะหายหรืออาจถูกปล้นได้

"ขอรับ"  สองพ่อลูกจึงเดินทางมาที่ร้านฝากเงินโดยที่เหอจงเทาให้ฝากเป็นชื่อของบุตรเกอของตน เหอฟานเสวี่ยให้เจ้าหน้าที่ถอนเงินออกมาให้จำนวน 100 ตำลึงทองเพื่อซื้อรถม้า เมื่อฝากเงินเสร็จแล้วทั้งสองคนก็เดินมาที่ตลาดค้าสัตว์ทันที

"นายท่าน คุณชายน้อย ไม่ทราบว่าท่านทั้งสองต้องการสิ่งใดขอรับ ร้านของข้ามีทั้ง ม้า ลา และวัว" เถ้าแก่เจ้าของร้านเห็นพวกเขาก็รีบมาต้อนรับและไม่มีท่าทีดูถูกแต่อย่างใด

"ข้าต้องการรถม้า  ไม่ทราบว่ามีรถม้าแบบสำเร็จหรือไม่" เหอจงเทาเอ่ยถาม

"มีขอรับ  รถม้าของเรามีตั้งแต่ทำจากไม้ธรรมดาไปจนถึงไม้เนื้อดีเลยขอรับ" เถ้าแก่เจ้าของร้านเอ่ยตอบ

"ข้าขอดูได้หรือไม่ขอรับ"  เหอฟานเสวี่ยเอ่ยถาม

"ได้ขอรับ เชิญคุณชายน้อยทางนี้ขอรับ" เถ้าแก่เจ้าของร้านรีบพาทั้งสองเดินไปดูรถม้าแบบสำเร็จ เหอฟานเสวี่ยถูกใจรถม้าสีขาวมันเห็นกับที่เขาเคยเห็นให้ซีรีย์เมื่อชาติก่อนจึงตัดสินใจเลือกรถม้าคันนี้ทันที  อีกทั้งยังเลือกม้าลักษณะดีอีกสองตัวเพราะรถม้าที่ซื้อนั้นค่อนข้างใหญ่จึงต้องใช้ม้าลากสองตัว

"ทั้งหมดข้าคิดราคา 70 ตำลึงทองขอรับ" เถ้าแก่ร้านเอ่ยบอก

"นี่ขอรับ" เหอจงเทาจ่ายเงินให้กับเถ้าแก่อย่างไม่ต่อรองสร้างความประทับใจให้เถ้าแก่เจ้าของร้านเป็นอย่างมาก

"เจ้าจะไปไหนต่อหรือ" เหอจงเทาเอ่ยถามบุตรเกอ

"ร้านขายผ้าขอรับ" 

 

 

 

ฝากติดตามด้วยนะคะ    #ยังไม่ได้แก้คำผิด

 

 

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Komen (1)
goodnovel comment avatar
ອິດ ພັນນະວົງ
บทช้ำกันสองตอน,สงสารคนอ่านหน่อยเถอะ
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terbaru

  • หมอเกอเทวดาน้อย   บทที่ 34 (จบ)

    ทั้งสองเดินกลับเข้ามาในบ้านที่มีบิดามารดาของทั้งสองฝ่ายกำลังนั่งคุยกันอยู่ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ทั้งคู่มองหน้ากันก่อนจะเข้าไปนั่งข้างบิดามารดาของตัวเอง เมื่อเห็นว่าทั้งสองนั่งลงแล้วจ้าวฮูหยินก็เปิดปากพูดขึ้น”เสวี่ยเออร์ แม่ได้คุยกับบิดามารดาของเจ้าแล้ว บิดามารดาของเจ้ายินดีหากเจ้าจะหมั้นกับอาจวิน” “…..” เหอฟานเสวี่ยหันหน้าไปมองบิดามารดาของตนก็เห็นว่าทั้งคู่พยักหน้าให้“เจ้าล่ะ ยินดีจะหมั้นหมายกับจวินเกอของเจ้าหรือไม่” จ้าวฮูหยินเอ่ยถามว่าที่ลูกสะใภ้ด้วยรอยยิ้ม จ้าวเพ่ยจวินเองก็มองคนน้องด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนแต่ภายในใจก็ลุ้นอยู่ไม่น้อย“ข้า…ขอเรียนท่านแม่ตามตรง ตัวข้านั้นยังอยากอยู่กับบิดามารดาเปิดบ้านรักษาชาวบ้านเช่นนี้ หากวันนึงข้าต้องแต่งงานกับจวินเกอข้าอาจไม่สามารถไปอยู่ที่เมืองหลวงได้” เหอฟานเสวี่ยเอ่ยบอกจุดประสงค์ของตน แม้ว่าครอบครวคนพี่จะเคยพูดว่าไม่ได้กังวลที่จะให้บุตรชายมาอยู่ที่นี่แต่เขาก็อยากจะพูดคุยให้ชัดเจนอีกครั้ง“อาจวิน เจ้าว่าอย่างไร ยินดีจะมาอยู่กับน้องที่นี่หรือไม่” จ้าวฮูหยินเอ่ยถามบุตรชาย“ลูกยินดีขอรับท่านแม่ ขอแค่มีเสวี่ยเออร์อยู่ลูกอยู่ที่ไหนก็ได้ขอรับ” จ้าวเพ่ยจ

  • หมอเกอเทวดาน้อย   บทที่ 33

    วันเวลาล่วงเลยผันผ่าน จนเวลาล่วงเลยผ่านมาสามปี เหอฟานเสวี่ยยังคงทำหน้าที่เป็นหมอเทวดาน้อยได้อย่างดีเช่นเดิมจวบจนตอนนี้จากเกอน้อยวัย 12 หนาวกลายเป็นเกอวัย 15 หนาวซึ่งตามธรรมเนียมคือถึงช่วงวัยปักปิ่นและออกเรือนสำหรับเกอและสตรีในยุคนี้ งานปักปิ่นให้กับเหอฟานเสวี่ยจะถูกจัดขึ้นอีกสามวันข้างหน้าผู้เป็นมารดาใบหน้ามีความสุขที่เห็นบุตรของตนเติบโตขึ้นมากผิดกลับบิดาที่รู้ว่าบุตรเกอของตนถึงวัยออกเรือนก็เอาแต่ทำหน้าเครียด “ท่านพ่อเลิกทำหน้าเศร้าเถิดขอรับ ข้ามิได้จะออกเรือนวันพรุ่งนี้เสียหน่อย” เหอฟานเสวี่ยเอ่ยบอกบิดาด้วยน้ำเสียงเย้าแหย่“พ่อเพียงแค่เป็นห่วงเจ้า” นับวันบุตรเกอของตนยิ่งงดงามขึ้นมีแม่สื่อจากหลายตระกูลมาทาบทามแม้ว่าจะพูดไปว่าบุตรของเขามีคู่หมายแล้วก็ตาม“ท่านพี่อย่าคิดมากไป ถึงอย่างไรวันนึงเสวี่ยเออร์ก็ต้องออกเรือน” สวี่ฟางเอ่ยกับสามี“เหอะ แล้วนี่ไอ้บุรุษหน้าเหม็นผู้นั้นไปไหนเล่า มาประกาศตัวแล้วก็หนีหายมิใช่ว่าทิ้งเจ้าไปแต่งงานแล้วหรือ” เหอจงเทาเอ่ยถามบุตรเกอ เหอฟานเสวี่ยที่ได้ยินคำถามนั้นก็ทำเพียงแค่ยิ้มบางๆให้กับบิดา ตั้งแต่จ้าวเพ่ยจวินกลับไปเมืองหลวงตั้งแต่ตอนนั้นจนตอนนี้เป็นเวลา

  • หมอเกอเทวดาน้อย   บทที่ 32

    หลังจากจับตัวคนที่ก่อเรื่องส่งทางการไปชาวบ้านคนอื่นๆก็ต่างแห่พากันตามไป เหอฟานเสวี่ยก็ต้องเดินทางไปเพราะถือว่าเป็นผู้เสียหายแม้ว่าเหอจงเทาจะไม่อยากให้บุตรของตนไปเจอหน้าคนพวกนั้นอีกก็ตาม ครอบครัวเหอรวมถึงจ้าวเพ่ยจวินและลูกศิษย์ทั้งสองพากันเดินทางมายังในตัวเมือง ผู้ตัดสินคดีในครั้งนี้คือท่านเจ้าเมืองผู้ที่เคยตัดสินคดีของนายอำเภอและหม่าจางอี้ “ท่านเจ้าเมืองเจ้าคะ ท่านเจ้าเมืองช่วยบุตรชายของข้าด้วยชาวบ้านพวกนี้มันทำร้ายร่างกายบุตรชายข้า” สตรีวัยกลางคนรีบเอ่ยขอความช่วยเหลือคนผู้นั่งอยู่บนโต๊ะตัดสินสูงสุดทันทีปัง!“เงียบ! พวกเจ้าจงอยู่ในความสงบข้าจะเป็นผู้ไต่สวนเอง” ท่านเจ้าเมืองพูดเสียงเย็น ดูทรงอำนาจอย่างไม่อาจต้านทาน“บอกชื่อของเจ้ามา” ท่านเจ้าเมืองเอ่ยถามบุรุษผู้เต็มไปด้วยรอยแผลตามร่างกาย“คาระวะท่านเจ้าเมือง ข้าน้อยหย่งเล่อ ขอรับ” “เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นมา เหตุใดเจ้าจึงถูกจับตัวมาส่งทางการแล้วเหตุใดร่างกายจึงเต็มไปด้วยรอยแผลเช่นนี้” ท่านเจ้าเมืองเอ่ยถามเสียงเรียบ ท่าทางเต็มไปด้วยอำนาจทำให้บุรุษหนุ่มพูดไม่ออกเพราะกลัวความผิด“อะ เอ่อ…คือ”“จะอะไรเสียอีกเล่า เกอผู้นี้ยั่วยวนบุตรชา

  • หมอเกอเทวดาน้อย   บทที่ 31

    จ้าวเพ่ยจวินลืมตาตื่นมาในตอนเช้ามืด ร่างสูงลุกขึ้นบิดไล่ความขบเมื่อยการนอนต่างที่ต่างถิ่นเป็นเรื่องปกติของเขาไปเสียแล้ว คราที่มาแอบดูคนน้องบางครั้งเขายังนอนบนต้นไม้ไม่ก็หลังคาเรือน จ้าวเพ่ยจวินรีบลุกขึ้นไปจัดการธุระตนเองเพราะจากการที่เมื่อก่อนมาแอบดูคนน้องเขารู้ดีว่ากิจวัตรในทุกเช้านั้นคืออะไร ร่างสูงเดินตรงเข้าไปที่เรียนครัวที่ตอนนี้มีสามคนพ่อแม่ลูกกำลังวุ่นวายกับการเตรียมอาหารกันอยู่“จวินเกอ!” เหอฟานเสวี่ยที่หันไปเห็นคนท่เพิ่งเข้ามาก็ร้องเรียกด้วยความตกใจ“มีอันใดให้พี่ช่วยหรือไม่” จ้าวเพ่ยจวินเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้ม สรรพนามที่ใช้แทนตัวเองที่เปลี่ยนไปทำให้เหอฟานเสวี่ยเขินอายอยู่ไม่น้อย“ไม่มีขอรับ”อีกฝ่ายเป็นแขกเขาจะให้มาช่วยทำงานได้อย่างไรกัน“คุณชายจ้าวเหตุใดจึงตื่นเช้านักเล่า ไม่ไปนอนต่ออีกเสียหน่อย หรือว่าที่หลับนอนไม่สบายเดี๋ยวป้าจะเข้าเมืองไปซื้อฟูกมาปูให้ใหม่” สวี่ฟางเอ่ยถามบุรุษหนุ่ม จ้าวเพ่ยจวินเป็นถึงคุณชายจากเมืองหลวงนอนผ้าปูพื้นบางๆคงจะไม่สบายตัวเป็นแน่“เป็นบุรุษหากทนลำบากแค่นี้ไม่ได้แล้วจะดูแลภรรยาในอนาคตได้อย่างไร” เหอจงเทาค่อนแคะ“ไม่เป็นไรขอรับท่านป้า แค่นอนไ

  • หมอเกอเทวดาน้อย   บทที่ 30

    จ้าวเพ่ยจวินกับเหอฟานเสวี่ยออกเดินทางตั้งแต่ยามเหม่าเพื่อที่จะได้ถึงเมืองที่เหอฟานเสวี่ยอาศัยอยู่ก่อนตะวันตกดิน พวกเขาเลือกพักกินอาหารแค่ครู่เดียวก็ออกเดินทางต่อ จนเวลาล่วงเลยมาถึงยามเชินขบวนรถม้าหลายคันก็เข้าสู่หมู่บ้านและมุ่งหน้ามายังบ้านเหอ ชาวบ้านหลายคนต่างพากันเดินตามมาดูขบวนรถม้าคันใหญ่ที่วิ่งเข้ามาในหมู่บ้านเมื่อเห็นว่ามาจอดที่บ้านเหอจึงพากันยืนมุงดูอยู่ด้านนอก“ท่านพ่อ! ทานแม่!”​ เหอฟานเสวี่ยที่ลงจากรถม้าได้ก็รีบพุ่งไปกอดบิดามารดาของตนเองทันที“เสวี่ยเออร์” สวี่ฟางอ้าแขนรับกอดลูกของตัวเองด้วยความคิดถึง เหอจงเทาที่เห็นว่าบุตรเกอของตนกลับมาอยากปลอดภัยความกังวลที่มีอยู่หลาดวันมานี้ก็คลายลง“คาระวะนายท่านเหอ ฮูหยินเหอ” จ้าวเพ่ยจวินเดินเข้ามาคำนับผู้อาวุโสทั้งสอง “เสวี่ยเออร์” สวี่ฟางมองหน้าบุตรเกอของตนด้วยสายตาตั้งคำถาม ส่วนเหอจงเทาที่เห็นว่ามีบุรุษเดินทางมากับบุตรเกอของตนก็มีสีหน้ามืดครึ้มลง“ท่านพ่อ ท่านแม่ขอรับ นี่คุณชายจ้าวเพ่ยจวินขอรับ ช่วงที่อยู่เมืองหลวงข้าพักที่จวนสกุลจ้าวแล้ววันนี้คุณชายจ้าวจึงอาสามาส่งข้าขอรับ” เหอฟานเสวี่ยเอ่ยแนะนำคนพี่ให้รู้จัก“เจ้าคือคนที่มอบปิ่

  • หมอเกอเทวดาน้อย   บทที่ 29

    หลังจากสิ้นสุดงานเลี้ยงอันสนุกสนาน? คุณหนูหลายตระกูลก็ถูกสั่งให้กักตัวอยู่แต่ภายในจวน คุณหนูเซี่ยเองต้องไปคุกเข่าที่หน้าศาลบรรพชนตามรับสั่งของฮ่องเต้จนชาวเมืองต่างเล่าลือกันสนุกปาก ส่วนเหอฟานเสวี่ยนั้นต้องเข้าวังถวายการตรวจพระครรภ์ของฮองเฮาอยู่หลายครั้งสลับกับการไปแลกเปลี่ยนความรู้กับเหล่าอาจารย์ของสำนักหมอหลวงโดยที่มีจ้าวเพ่ยจวินตามไปด้วยไม่เคยห่างจนเวลาล่วงเลยมาเกือบเดือนจึงถึงเวลาที่เหอฟานเสวี่ยต้องเดินทางกลับบ้านของตน“เสวี่ยเออร์ลาท่านพ่อท่านแม่ขอรับ” เหอฟานเสวี่ยคำนับลาผู้อาวุโสของจวนตามธรรมเนียม“ไม่อยู่ต่ออีกสักนิดหรือลูก” จ้าวฮูหยินเอ่ยพลางน้ำตาซึม ตลอดเวลาเกือบเดือนที่อีกฝ่ายอยู่ที่นี่เขารู้สึกเอ็นดูไม่น้อย“อย่าทำให้ลูกลำบากใจเลย เส้นทางยาวไกลหลายพันลี้อาจวินเจ้าต้องดูแลน้องดีๆ พ่อขอให้พวกเจ้าเดินทางปลอดภัย” บิดาของจ้าวเพ่ยจวินเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้มใจดี“ขอรับท่านพ่อ” จ้าวเพ่ยจวินรับคำผู้เป็นบิดา“อย่าลืมมาหาแม่บ้างนะเสวี่ยเออร์ จวนตระกูลจ้าวตอนรับเจ้าเสมอ” จ้าวฮูหยินเอ่ยบอกเกอน้อย“ขอรับ หลายวันมานี้เสวี่ยเออร์มารบกวน ขอบคุณท่านพ่อท่านแม่ที่ดูแลข้าอย่างดีขอรับ” เหอฟานเสวี

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status