Home / รักโบราณ / หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน / ตอนที่ 6 เตรียมดินและเมล็ดพันธุ์

Share

ตอนที่ 6 เตรียมดินและเมล็ดพันธุ์

last update Last Updated: 2025-02-21 12:38:33

อี้หมิงได้นำเอาเม็ดถั่วเขียวออกมาจากถุงผ้า นางนำไปแช่น้ำปล่อยทิ้งข้ามคืนไว้ แล้ววันพรุ่งจึงจะจำนำออกมาเพาะ เมื่อจัดการทำถั่วเขียวเสร็จ สาวน้อยและมารดาได้นำเอาพริกที่มีทั้งเม็ดที่เน่าเสีย และช้ำ ซึ่งเป็นเม็ดที่แก่แล้วภายในอัดแน่นไปด้วยเมล็ดพริกเต็มเม็ด มาค่อย ๆ ใช้มีดกรีดทีละเม็ด แล้วใส่ในกระด้ง นางตั้งใจจะนำเมล็ดพริกแก่เหล่านี้ออกมาผึ่งตากแดดทำให้แห้ง แล้วจะนำไปเพาะต่อไปนั่นเอง 

ซึ่งวันนี้เธอกับเฟิน เฟิน หลังจากถอนหญ้าที่รกปกคลุมพื้นที่ว่างขนาดเล็กหลังเรือนเล็กเสร็จ ทั้งสองก็ลงมือพรวนดิน โดยอี้หมิงบอกกับเฟิน เฟิน ว่า มันคือขั้นตอนของการเตรียมดิน โดยขุดดินที่อยู่ด้านล่างขึ้นมาพรวนตากแดดไว้ก่อน เป็นการพลิกให้หน้าดินที่อยู่ด้านบนลงไปอยู่ด้านล่าง แล้วใช้ไม้เเหลมเสียบๆ จนพรุนลงไปเป็นการเพิ่มพื้นที่ช่วยทำให้ดินไม่จับกันเป็นก้อนใหญ่ ดินจะได้โปร่ง จะได้มีช่องว่างให้น้ำและอากาศแทรกเข้าไปพอเหมาะ ทำให้ดินมีความเป็นกรดและด่างที่พอดี เป็นการช่วยให้รากของต้นพืชที่จะปลูกชอนชัยหาอาหารได้ดี และที่สำคัญเป็นการฆ่าเชื้อโรคให้กับดินไปในตัวอีกด้วย พืชที่ปลูกจะได้โตเร็ว ๆ 

“โอ้โห!!! พี่หมิงอี้ พี่ไปเอามาจากไหนกัน ใครสอนเจ้ามารึ ครั้งก่อนที่พี่จะสลบไปเรายังเตร็ดแตร่เล่นกัน และยังแย่งอารหารกับคนเร่ร่อนในตลาดด้านกะโน้นอยู่เลยนะ ไม่ยักกะรู้ว่าพี่จะรู้เรื่องพวกนี้ด้วย” เฟิน เฟิน ถามอย่างประหลาดใจ

ด้านอี้หมิงไม่ได้ตอบอะไร ได้แต่ยิ้มให้เฟิน เฟิน แล้วลงมือใช้ไม้ไผ่ปลายแหลมเสียบลงดินต่อไปเรื่อย ๆ 

” อ่ะ หมิงอี้พริกเสร็จแล้ว “อี้เฟินเอ่ยบอกลูกสาวที่นับวันยิ่งแปลกประหลาด หมิงอี้คนเดิมเคยสนใจงานการเกษตรเสียที่ไหน แม้แต่เธอเองยังไม่มีความรู้ด้านนี้เลย อี้เฟินส่ายหน้ากับความคิดตนเอง

” ดีเลย ต่อไปก็มะเขือเทศ “

“อ่ะ นี่” อี้เฟินยกตะกร้าที่ใส่มะเขือเทศที่บางลูกบ้างก็ช้ำ บางลูกก็เน่าไปแล้วครึ่งซีก มาวางตรงหน้า

อี้หมิงเลือกหยิบขึ้นมาหนึ่งลูกแล้วใช้มีดกรีดลงไปแบะเนื้อออกแล้วคว้านเอาแต่เมล็ดเหลืองๆ ออกมา 

“เราจะะเอาเมล็ดมะเขือเทศนี่ไปตากแดดเหมือนพริก จะได้ใช้เป็นเมล็ดพันธุ์ได้” อี้หมิงอธิบายกับอี้เฟิน 

“อ่อ ข้าเข้าใจเเล้วล่ะ” ทั้งสองช่วยกันลงมือพลางพูดคุยสัพเพเหระกัน จนในที่สุดก็ได้เมล็ดพันธุ์ออกมา สองแม่ลูกช่วยกันยกกระด้งที่มีเมล็ดพริก และมะเขือเทศที่แผ่กระจายเต็มกระด้งอยู่ ออกไปตากแดดยังลานเล็กหน้าบ้าน เมื่อเสร็จแล้วอี้หมิงก็วกมาหอบยกเอาใบผักทั้งหลายที่มารดาได้มา ไปวางทิ้งไว้ในแปลงผักเพื่อที่จะให้หมักและทำเป็นปุ๋ยธรรมชาติต่อไป ส่วนผักบุ้งบัดนี้ถูกนำมาชำแช่อยู่ในน้ำเป็นที่เรียบร้อย รอเพียงตากหน้าดินเสร็จเท่านั้น 

“หมิงอี้ ไปอาบน้ำอาบท่าเถอะจะได้มาทานข้าวกัน “

อี้เฟินตะโกนบอกลูกสาว วันนี้นางไปรับจ้างล้างจานในโรงเตี๊ยมในตลาดมาได้ค่าตอบแทนเป็นแป้งสาลี แถมยังได้หมูจากอู๋ไป๋ที่ใจดีแบ่งมาให้อีก วันนี้นางจึงจะทำเมนูที่ลูกสาวนางโปรดปรานที่นาน ๆ ได้ทำที เดิมสมัยที่อยู่แคว้นเหลียง นางพลันนึกย้อนไปถึงสมัยที่หลายปีก่อนที่ นางเติมโตในตระกูลขุนนางใหญ่ เมื่อเติบโตเป็นสาวแรกรุ่นก็ได้ขึ้นนั่งตำแหน่งที่สาว ๆ ทั้งเมืองใฝ่ฝัน มีลูกสาวน่ารัก มีสามีที่ดี แต่แล้วราชสำนักเกิดระส่ำระส่าย บ้านเมืองเกิดสงครามทำให้ครอบครัวแตกแยก สามีนางรึ แม้แต่ศพก็หาไม่พบ นางและคนของนางต่างพลัดหลงแตกจากกัน มีเพียงนางและลูกสาวที่โดนกวาดต้อนมายังแคว้นต้าหลี่แห่งนี้ จากชีวิตอันแสนสุขสบายกลับต้องตาลปัตร ระหกระเหินกระเสือกกระสนทำงานงานแลกข้าว เพื่อประทังชีวิตของลูกน้อยและตัวนางเอง เมื่อนึกย้อนอดีตใบหน้าที่คล้อยตามกาลเวลาแต่ยังคงเหลือเค้าโครงความงามอยู่ก็พลันน้ำตารื้นขึ้นมา อี้เฟินถอนหายใจอย่างปลงตกกับโชคชะตาแล้วลงมือทำอาหารต่อ

วันนี้นางตั้งใจทำเกี๊ยวทอด ส่วนผสมถูกจัดเตรียมไว้เรียบร้อย มือที่เริ่มเหี่ยวจุ่มมือลงไปในน้ำสะอาดที่เตรียมไว้ เเขนเสื้อถูกพันเลิกขึ้นเพื่อสะดวกแก่การปรุงอาหาร เริ่มต้นด้วยการนำหมูมาหั่น จากนั่นก็ลงมือสับหมูหยาบ ๆ จนเกิดเป็นเสียงมีดที่กระทบกับเขียงไม้เป็นจังหวะ “ปุก ปุก!!” เมื่อได้หมูสับที่ต้องการ ก็เอื้อมมือหยิบเต้าหู้ที่เหลือมาซอยหั่น ๆ เป็นชิ้นเล็กเต๋าอย่างชำนาญมีด ต่อด้วยซอยสับต้นหอมที่เก็บจากผักที่ร้านเหลือทิ้ง น้ำหมูสับ ตามด้วยเต้าหู้ และหอมซอยเทผสมลงในชามไม้ใหญ่ ใช้มือปรุงรสด้วยเกลือเล็กน้อย คลุกเคล้าส่วนผสมให้เข้ากัน เมื่อทั้งสามอย่างผสมเข้าที่แล้ว ขึงหยิบแป้งที่เตรียมไว้ค่อยๆ โรยและคลุกเคล้าไปมาจนได้เป็นก้อนแป้งกลมขาดไม่ใหญ่มาก มือค่อย ๆ หยิบแบ่งก้อนออกมาขนาดพอดี นวดคลึงไปมากับมือจนเป็นก้อนกลม ๆ แล้ววางบนไม้ขนาดสี่เหลี่ยม นวดแบออกเป็นแผ่น ๆ ขนาดพอดี ตอนนี้กระทะเหล็กที่ตั้งไว้กำลังร้อนพอดี จนเกิดเป็นเสียงเดือด” ปุด ปุด “นางคุมไฟไม่ให้แรงมาก เมื่อเห็นว่าน้ำมันร้อนได้ที่ก็หล่นแผ่นแป้งลงไปทอด เกิดเป็นเสียง “ฟู่ ฟู่ “เกิดกลิ่นหอมจากการทอดลอยฟรุ้งหอมไปทั่วบ้าน 

” อึก! “อี้หมิงกลืนน้ำลาย จากกลิ่นอาหารที่หอมยั่วยวนกระเพาะน้อย ๆ ของเธอ หลายวันตั้งแต่ฟื้นขึ้นมาก็ได้กินแต่ข้าวต้มกับผักมาตลอด แต่ข้าวต้มที่นางกินแม่น่าตาธรรมดาแต่รสชาตินั่นหาได้ธรรมดาไม่ มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของข้าวและน้ำซุปที่หวานกลมกล่อมกำลังดี จนอดชมในใจไม่ได้ว่าแม่นางในชาตินี้ก็ทำอาหารได้อร่อยเหมือนแม่ของเธอไม่น้อย คิดแล้วก็ทำให้คิดถึงพ่อกับแม่ที่เธอจากมา ป่านนี้จะเป็นเช่นไรบ้างหนอ จะคิดถึงนางกันบ้างไหมนะ

” หมิงอี้ นี่แม่ทำเกี๊ยวทอดที่เจ้าชอบ มาๆ ลูก มาทานกัน” 

อี้หมิงสะดุ้งออกจากภวังค์ที่กำลังคิดถึงบ้าน มองเกี๊ยวทอดตรงหน้าแล้วหยิบขึ้นชิมทันที

“ค่อย ๆ นะลูก พึ่งทำเสร็จกำลังร้อน ๆ อยู่เลย” อี้เฟินบอกยิ้ม ๆ

” หื้มมม อร่อยย! “หลังกัดคำแรกแล้วเคี้ยว อี้หมิงตะลึงกับรสชาติที่ได้สัมผัส นางตาโตเคี้ยวตุ่ย ๆ มือก็ส่งเกี๊ยวทอดเข้าปากไม่หยุดอย่างเอร็ดอร่อย ไม่นานอาหารด้านหน้าก็หมดเกลี้ยง 

อี้เฟินมองลูกสาวที่กำลังเคี้ยวกินอย่างเอร็ดอร่อยก็ยิ้มหายเหนื่อยจากการทำงานเป็นปลิดทิ้ง ขอแค่ลูกของนางกินอิ่มนอนหลับ ไม่ป่วย ไม่ไข้ เพียงเท่านี้นางก็มีความสุขมากแล้วล่ะ

” อื้มม อร่อยมากเลยทะท่านแม่ ฝีมือท่านไม่ธรรมดานะเนี่ย “อี้หมิงพูดหยอกเย้า

” อ่ะ อะ อร่อยก็กินเยอะ ๆ นะ ไว้ข้าจะทำให้กินใหม่นะอ่ะ “

เมื่อทานเรียบร้อยอี้หมิงจึงอาสาเก็บจานชามไปล้าง เมื่อเรียบร้อย สองแม่ลูกจึงได้แยกย้ายกันเข้านอนสู่นิทราหลังจากดหน็ดเหนื่อยกันมาทั้งวัน 

🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 168 ฟ้าหลังฝนอันสดใส

    เจ็ดวันต่อมาหลังจากคดีความเสร็จสิ้นลง บัดนี้ร้านเทียนฝูกลับมาเปิดตามปกติซึ่งแน่นอนว่ามันคึกคักเกือบเท่าตัว ผักของนางที่สร้างขึ้นมากับมือต่างขายดีเป็นอย่างมากทำให้เวลานี้ทั่วทั้งบริเวณฝั่งหมู่บ้านคนอพยพคึกคักเป็นพิเศษ เฉิงอี้ที่เห็นหมิงอี้ยืนเหม่อมองบรรยากาศร้านอยู่ก็รีบสืบเท้าเข้าไปหาอย่างรวดเร็วด้วยความคะนึงถึง“หมิงอี้”“อ้าวเฉิงอี้”“ยินดีกับเจ้าที่สามารถกลับมาเปิดร้านได้เช่นเดิม ดูคึกคักทีเดียว”“อืม ต้องขอบคุณเจ้าที่ช่วยข้า”“หึ! เรื่องเช่นนี้แน่นอนว่าสำหรับข้าเจ้านั้น...”“แน่นอนสหายเช่นข้า ทั้งงดงามทั้งเป็นคนดี ชาตินี้เจ้าจะไปหาจากที่ใดใช่หรือไม่” หมิงอี้พอเดาออกว่าเฉิงอี้จะกล่าวเช่นไร เรื่องนี้หมิงอี้นั้นนอนคิดมาตลอดทั้งคืนหลังจากก่อนจากกันที่ศาลต้าหลี่วันนั้นระหว่างนั่งรถม้ากลับเฉิงอี้ได้สารภาพความในใจกับตน แต่หมิงอี้นั้นคิดว่าเรื่องนี้เช่นไรย่อมต้องไม่เกิด หมิงอี้นั้นเมื่อทบทวนตัวเองพบว่านางอยากใช้ชีวิตเรียบง่ายกับมารดาและสหายเช่นอู๋ไป๋และเฟิน เฟิน มิได้อยากมียศมีตำแหน่งและต่อสู้แย่งชิงกับสตรีอื่นใดเฉิงอี้ครั้นได้ฟังหมิงอี้กล่าวก็พอรู้ความนัย ใบหน้าคมคายหล่อเหลาราวหยกสลักก

  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 167 จุดจบ

    ‘พิษปรอทหรือ! ละแล้วที่ข้ากินไปเล่า’ กู้ไห่ซินครางในใจ เมื่อคืนพวกตนจัดงานเลี้ยงให้กับกิจการที่ไปได้ดีโกยเงินได้เป็นกอบเป็นกำจึงคิดจะลองชิมมันซักครั้ง และตนนั้นกินไปมากทีเดียว ครั้นคิดถึงตรงนี้พลันก็เกิดอาการคอแข็งขึ้นอย่างรวดเร็วจนมิอาจอดกลั้นได้ ทำให้เขานั้นต้องรีบวิ่งออกมายังด้านนอกแล้วล้วงคออ้วกออกมาในทันที ซึ่งไม่ต่างกันกับเฉินอ๋องที่พยายามเก็บอาการพะอืดพะอมภายใต้ใบหน้าเรียบนิ่ง“เอาล่ะเรื่องนี้ยังไม่กระจ่าง วันนี้ยังหาข้อยุติไม่ได้!” เหวินกงมู่หน้าซีดเพราะเมื่อคืนตนนั้นก็คิดพิเรนทร์กินกันไปเสียมาก จนเมื่อรู้ต้นตอสาเหตุที่ทำให้ชาวเมืองป่วยในเวลานี้เขานั้นก็อดที่จะเหงื่อตกเสียมิได้ เหวินกงมู่บัดนี้มือชื่นเหงื่อไปเสียหมดหากแต่เขานั้นพยายามเก็บอาการไว้และเร่งตัดสินคดีตรงหน้าแบบขอไปทีเพื่อที่ตนนั้นจะรีบไปให้หมอตรวจดูเสียหน่อย ‘ไม่ได้พึ่งได้เงินก้อนใหญ่มาจะมาชิงตายก่อนได้อย่างไรกัน’ ในขณะที่เขากำลังครุ่นคิดว่าจะตัดสินคดีนี้อย่างไรเสียงหวานของสตรีที่กำลังถูกพิพากษาอยู่ในเวลานี้ก็ทำให้เขาสะดุ้งน้อย ๆ จนจำใจต้องแก้ไขสถานการณ์ไปก่อน“เช่นไรท่านเจ้ากรมหลักฐานข้ามากมายแลครบถ้วนถึงเพียงนี้ ท

  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 166 ขุนนางกังฉิน

    สิ้นเสียงเอ่ยอนุญาตก็ปรากฏร่างสูงปราดเปรียวใบหน้าเคร่งขรึมเย็นชาไร้อารมณ์ขึ้น เขาเดินเข้ามาอย่างองอาจ ท่าทางหยิ่งผยองของเขานั้นสร้างเสียงฮือฮาให้แก่ชาวเมืองเป็นอย่างมาก และยิ่งเสียงดังเซ็งแซ่ขึ้นไปอีกเมื่อด้านหลังเขานั้นมีเหล่าบุรุษเพศร่างกายผอมกะหร่องดูราวกับคนขี้โรคราวสิบคนเดินเรียงแถวตามหลังกันเข้าไปยังด้านในศ่าลต้าหลี่“นี่หนะหรือพยานที่เจ้าว่า” กู้ไห่ซินระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างดัง เขาหรือก็นึกว่านางจะแน่นึกว่าหลักฐานที่นางว่าจะสร้างปัญหาให้เขาซะอีก“ท่านเสนาบดีอย่าได้พึ่งดีใจไป ลองฟังข้าก่อนสิเจ้าค่ะ” หมิงอี้แสยะยิ้มมุมปากก่อนจะเชิดหน้ากอดอกเอ่ยออกมาอย่างมิได้นึกหวั่นกลัวแต่อย่างใด เอาสิข้าตายแล้วฟื้นแถมย้อนเวลาวันนี้จะไม่ยอมเสียชาติเกิด และเกิดแล้วตาย ตายแล้วฟื้นอย่างเด็ดขาด หึ!“ฮึ ๆ” กู้ไห่ซินลูบเครายาวพร้อมทั้งยิ้มเต็มหน้าอย่างยียวน ก่อนจะละมือจากเครายาวที่กำลังลูบอยู่ก่อนจะผายมือให้นางได้ชี้แจงตัวเองให้เต็มที่ เช่นไรเขานั้นก็ย่อมมีทางหนีทีไร่ ก็แค่ตอบไปว่าเป็นผักที่ซื้อจากร้านของนาง หึ!“ท่านเจ้ากรมคนตรงหน้าท่านในเวลานี้ล้วนเป็นคนงานจากไร่ของตระกูลกู้ ไร่ที่ท่านใช้ปลูกผั

  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 165 สะสาง

    เสียงกลองร้องทุกข์หน้าศาลต้าหลี่ดังขึ้นแต่เช้าตรู่ เหวินกงมู่รีบวิ่งออกมาดูด้วยอารามตกใจและมีอารมณ์นักด้วยเวลานี้ยังเช้าตรู่ และแน่นอนว่าวันนี้ตนเองนั้นไม่มีงานที่จะต้องสะสาง คดีใหญ่ก็ยังไม่ถึงวันที่จะตัดสินเช่นนั้นค่ำคืนที่ผ่านมาของเขาจึงเป็นดั่งคืนวสันต์เพราะเขาถูกเชิญไปสังสรรค์ในงานลี้ยงอันหรูหราที่ข้าราชการหลายคนใฝ่ฝันอยากไปซักครั้งที่จวนเฉินอ๋องร่างอวบค่อนไปทางเจ้าเนื้อเร่งฝีเท้าวิ่งทั้ง ๆ ที่ยังสวมชุดขุนนางยังไม่เรียบร้อยดี ด้านหลังนั้นมีสาวน้อยหน้าตาหมดจรดหลายนางวิ่งถืออาภรณ์ตามมาติด ๆ แต่ครั้นใกล้ถึงศาลาว่าการท่าทางเขากลับแปรเปลี่ยนไปราวเป็นคนละคน เหวินกงมู่เปลี่ยนจังหวะการเดินเป็นนิ่งสุขุม ก่อนจะยืนนิ่งให้สาวใช้ปรนนิบัติจัดแต่งอาภรณ์ให้เข้าที่ เพียงอึดใจเดียวเขานั้นก็ดูวางมาดผู้ว่าการศาลต้าหลี่ที่แผ่กลิ่นอายน่าเกรงขามและน่าเคารพเลื่อมใสในสายตาของชาวเมืองเสียแล้ว‘หึ! ท่าทางเช่นนี้แน่นอนว่าเขานั้นตลอดหลายปีมานี้แสดงเสียจนชิน’ปึก!“เป็นผู้ใดมาตีกลองร้องเรียนแต่เช้าตรู่เช่นนี้ เงียบ!”แท่นหมึกถูกเหวินกงมู่วางลงกระทบโต๊ะแท่นตัดสินคดีความอย่างแรงจนหมิงอี้เองถึงกลับชะงัก ส่วนผู้ค

  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 164 แท้จริงคือพิษปรอท

    รถม้าวิ่งลิ่วจากร้านเทียนฝูแต่เช้าตรู่นั้นสร้างความแปลกใจให้แก่มารดาแลสหายเช่นอู๋ไป๋และเฟิน เฟิน เป็นอย่างมาก“นั่นหมิงอี้หรอ นางไปไหนกันช่างดูเร่งรีบนัก” อี้เฟินออกมาทันได้เห็นหลังบุตรสาวไว ๆ แต่ครั้นเรียกนางก็ขึ้นนั่งบนรถม้าไปเสียแล้ว“ไม้รู้เช่นกัน นางมิได้บอกอันใดเลยท่านป้า/ใช่เจ้าค่ะ ไม่ได้บอกข้าเช่นกัน” ทั้งสามมองตามหลังรถม้าด้วยแววตาเป็นห่วง ในใจรู้สึกร้อนรนจนอู๋ไป๋และเฟิน เฟิน ต้องเอ่ยปากว่าพวกตนนั้นจะเร่งตามไป เพราะมองสีหน้าป้าอี้เฟินก็รับรู้ได้ทันทีว่าท่านป้านั้นไม่สบายใจ ยิ่งช่วงนี้อยู่ในระหว่างสืบหาหลักฐานก็ยิ่งต้องระแวดระวังให้มากยู้ววววเสียงรถม้าจอดที่หน้าเรือนหลังใหญ่ที่ปลูกแยกออกมาอย่างเงียบสงบในย่านของชนชั้นสูงของราชวงศ์ หมิงอี้เร่งเดินลงจากรถม้าทันทีที่ล้อรถหยุดลง“เชิญขอรับ” ทหารยามเปิดทางให้หมิงอี้เข้าไปโดยง่ายโดยมิได้ไถ่ถามแต่อย่างใด ซึ่งนั้นสร้างความประหลาดใจให้แก่หมิงอี้อยู่มิน้อย เหตุใดการรักษาความปลอดภัยขององค์รัชทายาทถึงได้หละหลวมเช่นนี้ หรือรู้จักนางเช่นนั้นหรือ แต่หากว่ารู้จักทหารยามแน่นอนว่าย่อมมิเคยเห็นนางแต่เหตุใดถึงให้ผ่านเข้ามาโดยง่ายหมิงอี้ครุ่นคิด

  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 163 ต้นตอพิษร้าย

    หานเย่รู้สึกไม่ชอบใจกับเจ้าสหายตัวใหญ่ที่บอกกล่าวแก่สตรีตรงหน้าราวตนเป็นขยะเปียกที่เก็บมาเผื่อมีประโยชน์เสียอย่างนั้น แต่กระนั้นก็จำต้องสงบใจเพราะเจ้านี่รับประกันว่าหากติดตามเขามาจะให้งานแลที่อยู่อาศัยที่ดีกว่าหมิงอี้มองทั้งคู่สลับกันไปมาก่อนจะสวมใส่ถุงมือผ้า นางส่ายศีรษะเพียงเล็กน้อยกับอู๋ไป๋ จากนั้นจึงค่อย ๆ หยิบเอาดินที่อู๋ไป๋เก็บมาค่อย ๆ พินิจ“ดินสีเทาออกค่อนไปทางสีดำ อีกทั้งกลิ่นยังฉุนเช่นนี้ อู๋ไป๋ที่ตรงนั้นนอกจากดินเช่นนี้แล้วมีดิน เอ่อสีอื่นรึไม่”“อืม มีนะ เท่าที่ข้าเห็นมีเพียงดินที่ใช้ปลูกผักสลัดพวกนั้นที่มีกลิ่นฉุนและสีเช่นนี้ คิดแล้วก็ช่างน่าประหลาดทั้ง ๆ ที่ตรงนั้นเป็นดินทรายร่วนแท้ ๆ เหตุใดถึงได้มีดินประเภทนี้อยู่กันล่ะ เจ้าหานเย่! เจ้ารู้รึไม่”“ข้าย่อมรู้แน่ก่อนหน้านี้เดือนก่อนกระมัง เจ้าของที่สั่งให้คนงานไปขนดินจากในป่าตรงเขาสมุนไพร ขนมามากทีเดียวว่ากันว่าเป็นดินดีปลูกอะไรก็งามอย่างอัศจรรย์นัก และภูเขานั้นบัดนี้มีคนของทางการปิดล้อมไปแล้วชาวบ้านที่พอรู้เรื่องก็หาเข้าไปเก็บสมุนไพรเฉกเช่นเดิมได้ไม่” หานเย่เอ่ยในสิ่งที่ตนพอรู้และจากที่ชาวบ้านที่เข้ามาเป็นคนงานเช่นกันกับ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status