Share

บทที่ ๔ เชิญหลี่กงกงถามไถ่

last update Huling Na-update: 2025-09-13 14:12:26

บทที่ ๔

เชิญหลี่กงกงถามไถ่

“ถวายพระพรชินอ๋องเพคะ”

เมื่อโดนหญิงสาวจับได้แล้วไม่มีประโยชน์ที่จะต้องหลบซ่อนอยู่อีกต่อไป เท้าใหญ่ก้าวออกจากที่หลบซ่อน เอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบไม่บอกอารมณ์

“ไม่ต้องมากพิธี”

จิ่วเหลียนฮวาลุกขึ้นยืนเต็มความสูง มองหน้าจินเทียนหลุนด้วยสายตาสงสัยมากกว่าจะเป็นสำรวจ

“องครักษ์ของเปิ่นหวางกำชับทุกอย่างที่ควรกำชับแล้ว ขอตัว”

จินเทียนหลุนไม่อาจบอกว่าตนมาที่นี่เพราะสัมผัสได้ถึงพลังบริสุทธิ์ ดังนั้นจึงอ้างเรื่องชุดที่มีรอยขาดจากดาบ

จิ่วเหลียนฮวาเองที่รู้ตัวว่าตนไม่มีสิทธิ์รั้งบุรุษที่สูงศักดิ์กว่าได้อยู่แล้วจึงทำเพียงย่อกายคารวะเท่านั้น

“น้อมส่งท่านอ๋อง”

เมื่อเจ้านายไม่อยู่แล้ว เฉียวเหอก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องอยู่ที่นี่ต่อ พื้นที่ลานซักล้างจึงกลับมาเงียบสงบอีกครั้งหนึ่ง

“เฮ้อ~เกือบไปแล้วจิ่วเหลียนฮวา”

จิ่วเหลียนฮวาถอนหายใจอย่างโล่งออก แต่โล่งใจได้ไม่นานก็ต้องรับมือกับนางกำนัลที่เห็นเหตุการณ์เมื่อครู่

“เสี่ยวจิ่ว! ท่านอ๋องเสด็จมาที่นี่หรือ ท่านอ๋องมาหาเจ้าหรือ มาหาด้วยเรื่องใด หรือท่านอ๋องสนใจในตัวเจ้า”

“ไม่ใช่ เจ้าเข้าใจผิดแล้ว”

“จะไม่ใช่ได้อย่างไร เมื่อครู่ข้าเห็นชัดเต็มสองตา ท่านอ๋องเดินเข้ามาพูดกับเจ้า ว่าแต่พูดเรื่องใดหรือ”

สีหน้าอยากรู้อยากเห็นของสหายนางกำนัลทำให้จิ่วเหลียนฮวาคิดอะไรออก นางเดินไปนั่งซักผ้า แสดงสีหน้าแฝงเลศนัย สหายนางกำนัลที่อยากรู้เหตุการณ์เมื่อครู่จึงมาหย่อนก้นลงนั่งข้าง ๆ ช่วยจิ่วเหลียนฮวาซักผ้าเพราะอยากนำสารที่ตนได้รับไปกระจายต่อ

“ข้าช่วยเจ้าซักดีกว่า”

“เอาสิ”

จิ่วเหลียนฮวาไม่ห้าม ยกพระภูษาไปตากโดยมีสายตาสหายนางกำนัลมองตาม

นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้รับความรู้สึกของการเป็นต่อ ผู้เปิดประสบการณ์นี้ให้นางโดยไม่รู้ตัวก็คือเจ้าของตำหนักแห่งนี้ แล้วเรื่องที่สหายนางกำนัลอยากล้วงความลับจากนางแล้วล่ะก็…

ฝันไปเถอะ ช่วยซักผ้าให้จนเสร็จข้าก็ไม่บอกเจ้า

ทางด้านจินเทียนหลุน…

เมื่อกลับมายังเรือนใหญ่ของตนเองก็ให้องครักษ์ทำแผลจากการลอบสังหารของกลุ่มกบฏ ไม่เรียกหมอหลวงเพราะไม่อยากให้เรื่องนี้ถึงหูไทเฮาผู้เป็นพระมารดา

“จะไม่ให้เรียกหมอหลวงจริง ๆ หรือพ่ะย่ะค่ะ”

“แผลไม่ลึกมาก เจ้าทำก็พอแล้ว”

แผลไม่ลึกมากแต่ก็ไม่ได้แค่โดนถาก ๆ ทว่าในตอนที่เฉียวเหอเหยาะสมุนไพรใส่แผลเขาไม่แม้แต่จะแสดงสีหน้าเจ็บปวดเลยสักนิด ความอดทนเป็นเลิศยิ่ง

เมื่อใส่ยาเสร็จแล้วก็กระชับชุดที่แหวกออกเพียงหัวไหล่แล้วรัดเข็มขัดหยกให้แน่น หยกที่แสดงถึงฐานะและตำแหน่งแม้ชุดที่ปักจะไม่ใช่ลายมังกร

“แต่เรื่องกบฏอย่างไรก็ต้องถวายรายงานฝ่าบาท ช่วงเช้าเปิ่นหวางยังไม่ได้ทูลฝ่าบาทเรื่องนี้…ฝนหมึก!”

ร่างหนาลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเดินไปยังโต๊ะทำงานเตรียมเขียนฎีกาถวายเรียงร้อยถ้อยความให้เป็นสำนวน

จินเทียนหลุนเก่งทั้งบู๊และบุ๋น ตัวอักษรที่ปรากฏหลังปลายขนพู่กันบ่งบอกนิสัยที่มีความหนักแน่น ยึดมั่นในความถูกต้อง

ในเวลาที่เขาเขียนหนังสือหรืออ่านตำราจะมีสมาธิไม่ว่อกแว่ก แต่ในตอนนั้นเองที่ใบหน้าซีดขาวแววตาหม่นเศร้าแวบเข้ามาในหัว

“เฉียวเหอ…”

“พ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง” เฉียวเหอที่พร้อมสนองโอษฐ์อยู่แล้วรีบขยับเข้ามาหานายตน

“เชิญหลี่กงกงมานี่ที เปิ่นหวางมีเรื่องจะถามเขา”

เฉียวเหอยิ้มกรุ้มกริ่มแล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้นายตน

“ติดใจใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ ภาพสาวงามในสภาพร่างกายอ่อนแอ”

ชิ่ง!

สิ้นประโยคนี้ก็ได้รับสายตาเชือดเฉือนจากบุรุษผู้เป็นเจ้านายและพี่ชายในทันที

“เจ้ากลายเป็นคนสู่รู้ตั้งแต่เมื่อไร”

เฉียวเหอยกมือปิดปาก รีบไปทำงานที่ได้รับมอบหมาย จนกระทั่งเดินออกมาจากห้องทำงานของจินเทียนหลุนแล้วถึงได้เอ่ยคำที่อยู่ในใจ

“ข้าไม่ได้สู่รู้เสียหน่อย ท่านอ๋องปากแข็งไม่ยอมรับ เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าสงสาร”

เฉียวเหอไปไม่นานก็เดินเข้ามาในห้องหนังสือพร้อมหลี่กงกง หัวหน้าขันทีผู้ดูแลตำหนักเทียนหลุนจือเล่อมาสอบถามเรื่องที่ติดอยู่ในใจเขาจริง ๆ

“ถวายพระพรท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ”

“หลี่กงกงไม่ต้องมากพิธี เปิ่นหวางมีเรื่องอยากจะสอบถามเจ้าเกี่ยวกับ…”

จินเทียนหลุนเว้นจังหวะการพูดตวัดสายตาไปมองเฉียวเหอที่กลั้นยิ้มรอแล้ว แต่เมื่อโดนถลึงตาใส่เขาก็กลับมาทำหน้าเคร่งขรึม

“เชิญท่านอ๋องตรัสถาม เกี่ยวกับผู้คนหรือเรื่องราวในวังหลวง หากกระหม่อมทราบกระหม่อมจะเผยโดยไม่ปิดบัง แต่หากกระหม่อมไม่ทราบก็จะสืบมาให้จงได้”

เห็นสีหน้าจริงจังของหลี่กงกงแล้วจินเทียนหลุนเริ่มรู้สึกว่าการจะกล่าวคำพูดนี้ออกไปยากเย็นนัก

แต่เมื่อภาพของจิ่วเหลียนฮวาวกกลับเข้ามาในหัวอีกครั้งจึงไม่เหลือความลังเลใจ

 “ชีวิตหม่าจิ่วเหลียนฮวาตอนที่เปิ่นหวางไม่อยู่เป็นอย่างไรบ้าง”

“หม่าจิ่วเหลียนฮวาหรือพ่ะย่ะค่ะ”

หลี่กงกงนิ่งไปครู่หนึ่งเพราะไม่คิดว่าเจ้านายจะเอ่ยนามนี้ออกมา เพราะที่ผ่านมาเขาไม่เคยได้ยินมาว่าจินเทียนหลุนให้ความสนใจจิ่วเหลียนฮวาเลย

“ว่าอย่างไรหลี่กงกง”

เฉียวฉือยังคงใบหน้าเรียบเฉยไว้ได้ เมื่อเห็นหลี่กงกงเงียบไปก็เอ่ยเสียงเข้ม

“เอ่อ หม่าจิ่วเหลียนฮวาคนนี้มิค่อยมีปากมีเสียงพ่ะย่ะค่ะ นางกำนัลคนอื่นมีแกล้งนางบ้าง แต่ไม่ถึงขั้นตบตีกัน”

หลี่กงกงเริ่มหวั่นใจเพราะคิดว่าชินอ๋องผู้ที่ไม่เคยดุด่าว่ากล่าวจิ่วเหลียนฮวาเพราะเห็นนางเป็นลูกหลานกบฏจะเอาความที่ปล่อยให้สตรีที่เขาทูลขอจากฝ่าบาทให้มาประจำอยู่ตำหนักเทียนหลุนจือเล่อได้รับการกลั่นแกล้ง

“เปิ่นหวางขอให้นางมาอยู่ที่นี่เพราะเวทนาที่นางเกิดวันเดียวกับเปิ่นหวาง ไม่ได้รู้เรื่องที่บรรพบุรุษกระทำเอาไว้ ย้ายไปอยู่จวนจือเล่อเมื่อไรอย่าให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีกเป็นอันขาด”

หลี่กงกงหน้าซีด รีบโค้งตัวลงต่ำขอประทานอภัย ทั้งยังให้คำสัญญาว่าจะไม่มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอีก

ในขณะเดียวกันก็อดคิดไม่ได้ว่าจิ่วเหลียนฮวาไปเรียกร้องความยุติธรรมต่อหน้าพระพักตร์หรือไม่

“เป่ินหวางเห็นลานซักผ้ามีชุดเต็มไปหมด ไยมีนางซักผ้าเพียงคนเดียวเท่านั้น”

จนกระทั่งได้ยินประโยคนี้จากปากจินเทียนหลุน หัวใจสะท้านเมื่อทราบว่าอ๋องหนุ่มไปเยือนที่นั่นด้วยตนเองโดยที่ไม่มีใครคาบข่าวไปฟ้อง

“เอ่อ นางมีหน้าที่ซักผ้าพ่ะย่ะค่ะ งานอื่น ๆ กระหม่อมไม่เคยเรียกใช้งานเลยสักครั้ง อีกอย่าง…”

คำพูดของหลี่กงกงหยุดอยู่เพียงเท่านั้นเมื่อได้ยินเสียงนางกำนัลเรียกนามของจิ่วเหลียนฮวาดังไม่ไกลจากห้องหนังสือมากนัก

“เสี่ยวจิ่ว ซักผ้าเสร็จแล้วใช่หรือไม่ ไปช่วยข้าเช็ดหน้าต่างที่จวนจือเล่อเร็วเข้า ฝุ่นหนามาก”

“เสร็จแล้ว แต่ข้าขอพักก่อนมิได้หรืออาฉู่ เพิ่งตากม่านเสร็จก็ตรงมานี่เลย น้ำสักอึกยังไม่ได้ดื่ม”

“ไม่ทันแล้ว ข้าเสียเวลามาตามเจ้าในวัง หากข้าออกจากวังไปจวนจือเล่อเพียงคนเดียวข้าก็ทำความสะอาดคนเดียวไม่เสร็จแน่ ถึงเวลานั้นหลี่กงกงตำหนิข้าขึ้นมาจะทำอย่างไร ไหนจะมู่หมัวมัวอีก”

“ก็ได้ เช่นนั้นเราจะออกจากวังกันเลยหรือไม่”

“ไปตอนนี้เลย”

เสียงของสตรีทั้งสองหายไปแล้ว สีหน้าหลี่กงกงซีดขาวราวกับกระดาษ ร่างสั่นสะท้านเมื่อสัมผัสได้ถึงรังสีอำมหิตจากนายเหนือหัว

“ดูท่านางกำนัลขันที 20 คนในตำหนักจะทำงานกันไม่ถ้วนทั่ว”

ตุบ!

หลี่กงกงคุกเข่าแนบศีรษะลงกับพื้นในทันที

“ท่านอ๋อง กระหม่อมขอประทานอภัยพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะไม่ให้เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นอีกแล้ว ได้โปรดให้โอกาสกระหม่อมจัดการเรื่องนี้…”

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • หม่าจิ่วเหลียนฮวาบุปผาเก้าชีวิต (ภาคต่อบุปผาเยียวยาใจ)   บทที่ ๘๘ สตรีคลอดบุตรไม่ต่างจากก้าวเข้าประตูปากผี

    บทที่ ๘๘สตรีคลอดบุตรไม่ต่างจากก้าวเข้าประตูปากผีเมืองฮั่นหลินเกิดคดีฆาตกรรมต่อเนื่องขึ้น!เพื่อไม่ให้ตนมัวแต่จมปลักอยู่กับความรักที่ไม่อาจร่วมทางไปกับคนรักได้จนสุดฝั่ง จินหลี่จินจึงขอฮ่องเต้ไปสืบคดีนี้ด้วยตนเอง ฮ่องเต้อนุญาตเพราะคิดว่าการทำงานหนักอาจทำให้อีกฝ่ายไม่มีเวลาฟุ้งซ่านส่วนจินเทียนหลุนนั้น ยามนี้ได้รับตำแหน่งทางการเมืองที่สำคัญ รับหน้าที่เป็นแม่ทัพพิทักษ์เมืองหลวงต่อจากท่านตาของจินหลี่จินเดิมทีตำแหน่งนี้ฮ่องเต้จินจิ่นฟู่อยากมอบให้จินหลี่จิน แต่อีกฝ่ายรักอิสระ อยากทำหน้าที่ที่ไม่กังขังตนเอาไว้เพียงในเมืองหลวง เขาจึงได้รับหน้าที่พิเศษเป็นฑูตประจำแคว้น ทำหน้าที่เจริญสัมพันธไมตรีระหว่างแคว้น เดินทางขึ้นเหนือล่องใต้ได้สะดวกสมกับที่ไม่มีครอบครัวส่วนจินเทียนหลุนที่มีชายาที่ท้องโตขึ้นทุกวันรอที่จวนอยู่แล้ว เช้ามาเข้ากองทัพฝึกทหาร ค่ำกลับจวนอยู่เป็นเพื่อนชายาและแนบหูคุยกับลูกน้อยทุกคืนแม้เด็กในท้องจะไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับเพราะเพิ

  • หม่าจิ่วเหลียนฮวาบุปผาเก้าชีวิต (ภาคต่อบุปผาเยียวยาใจ)   บทที่ ๘๗ ความรักระหว่างมนุษย์เหมือนลมสายหนึ่ง

    บทที่ ๘๗ความรักระหว่างมนุษย์เหมือนลมสายหนึ่งยามนี้เทพโอสถกำลังยืนอยู่บนกลางท้องฟ้า ใต้เท้าเป็นสัตตบงกชแห่งการเคลื่อนย้าย ด้านซ้ายมีหวงผิงที่ยืนอยู่บนปุยเมฆมองการแต่งงานของไช่จงซินในมุมสูงสีหน้าของเขาเรียบเฉยต่างกับเทพโอสถที่ฉายแววปวดใจ เมื่อคนที่กำลังเดินเคียงคู่กับไช่จงซินเข้าไปในโถงทำพิธีกราบไหว้ฟ้าดินมิใช่คนที่มีใจต้องกัน“ข้าเป็นคนนอก มองดูแล้วยังปวดใจเพียงนี้ พวกเขาสองคนก็คงปวดใจจนหายใจไม่ออก ร้องไห้ก็ไม่ได้ จุกลิ้นปี่ตรงนี้”หวงผิงหันมามองนิ้วมือเรียวที่ชี้จุดตรงลิ้นปี่ที่อยู่ตรงกลางด้านล่างอกเหนือกระเพาะอาหาร“ท่านเจ็บเพราะจิ้มแรงเกินไป”คนที่กำลังคล้อยไปกับเรื่องราวไม่สมหวังของคู่รักมนุษย์ตวัดสายตามามองหวงผิง แต่เมื่อเห็นหน้าอีกฝ่ายยังไม่เข้าใจความรู้สึกนี้จริง ๆ ก็ไม่โทษเขา“เอาเถอะ! เรื่องยังไม่เกิดกับตนจะเข้าใจได้อย่างไร ลองจินตนาการดู หากเจ้าเป็นไช่จงซินหรือจินหลี่จินจะไม่รู้สึกอันใด

  • หม่าจิ่วเหลียนฮวาบุปผาเก้าชีวิต (ภาคต่อบุปผาเยียวยาใจ)   บทที่ ๘๖ เมื่อรักและหน้าที่ไปด้วยกันไม่ได้

    บทที่ ๘๖เมื่อรักและหน้าที่ไปด้วยกันไม่ได้การมาเยือนแคว้นฝูครั้งนี้ จินเทียนหลุนคิดว่าคุ้มค่าที่สุด ไม่ต้องไปถามวิธีการดูแลบุตรจากหมอหลวงที่ไม่เคยตั้งครรภ์ แต่ได้ความรู้จากเหล่าฮูหยินทั้งหลายที่ต่อไปจะกลายเป็นฮูหยินผู้เฒ่าสตรีมีครรภ์จะเป็นเหน็บชา ต้องหมั่นนวดเท้า เรื่องอาหารการกิน งดดื่มสุรา รวมถึงสิ่งแวดล้อมที่จะมีผลต่ออารมณ์และอย่างสุดท้ายที่สำคัญสำหรับชีวิตคู่คือการร่วมหลับนอนระหว่างสามีภรรยา“เสี่ยวจิ่ว เปิ่นหวางถามฮูหยินทั้งสามแล้ว เรายังเข้าหอกันได้ตามปรกติ เว้นเพียงช่วงนี้กับช่วงใกล้คลอด ขอแค่เปิ่นหวางระวังไม่เน้นท่าโลดโผน ค่ำคืนของเราก็ยังคงเร่าร้อนได้เหมือนเคย”จิ่วเหลียนฮวาหน้าร้อนฉ่า ไม่คิดว่าสวามีของนางจะกล้าพูดเสียงดังต่อหน้าบ่าวในจวนตระกูลไช่ที่กำลังทำความสะอาดอยู่ด้านนอกนางดึงแขนเขาเข้าไปด้านในเรือนทันทีเพราะปั้นสีหน้าไม่ถูกแล้ว“ท่านอ๋อง! กล่าวเช่นนี้ต่อหน้าคนอื่นไม่ได้เพคะ”“ขออ

  • หม่าจิ่วเหลียนฮวาบุปผาเก้าชีวิต (ภาคต่อบุปผาเยียวยาใจ)   บทที่ ๘๕ เจ้าจะไม่ตายไปจากใจข้า

    บทที่ ๘๕เจ้าจะไม่ตายไปจากใจข้าสองหนุ่มใหญ่จ้องหน้ากันนิ่ง จิ่วเหลียนฮวาเห็นเช่นนั้นก็มองหน้าจินเทียนหลุน ไม่กล้าหายใจแรงเพราะกลัวว่าเสียงหายใจของตนจะไปขัดจังหวะคนทั้งคู่“ยายหนูจิ่ว ขนมของที่นี่เป็นอย่างไรบ้าง”ไช่จงซินถอนสายตาจากจินหลี่จินก่อน เดินไปนั่งตำแหน่งประมุขตระกูล รอคำตอบจากจิ่วเหลียนฮวาอย่างใจเย็น คำอวยพรจากจินหลี่จินเมื่อครู่ทำให้เขาไม่กล้ามองหน้าอีกฝ่ายอีก ด้วยกลัวจะพรั่งพรูความรู้สึกต่อหน้าทุกคน“อร่อยเจ้าค่ะท่านประมุข”“เรียกข้าว่าท่านอาจารย์ตามเจ้าหนูหลุนเถิด”จิ่วเหลียนฮวาพยักหน้ารับ “เจ้าค่ะ ขนมอร่อยมากเจ้าค่ะท่านอาจารย์ หากใจไม่ห้ามเอาไว้ ข้าอยากทานแทนอาหารสามมื้อ”ไช่จงซินหลุดหัวเราะเกือบสำลักน้ำชา“เสี่ยวจิ่วมีอารมณ์ขันแล้ว สตรีวัยเจ้าที่ทานมาก ส่วนใหญ่จะเป็นสตรีมีครรภ์ทั้งนั้น หรือเจ้ากำลังมีครรภ์”ไช่จงซินถามโดยไม่คิดอันใด ไม่คิดว่าทุกคนจะเงียบ เขามองหน้าจินเทียนหลุนสลั

  • หม่าจิ่วเหลียนฮวาบุปผาเก้าชีวิต (ภาคต่อบุปผาเยียวยาใจ)   บทที่ ๘๔ คราวนี้ใครก็ดูถูกเจ้าไม่ได้แล้ว

    บทที่ ๘๔คราวนี้ใครก็ดูถูกเจ้าไม่ได้แล้ววันเวลามาถึงวันที่จินเทียนหลุนเดินทางไปร่วมงานแต่งของท่านอาจารย์ตนที่แคว้นฝู ผู้ร่วมเดินทางประกอบไปด้วย จินหลี่จิน จินเทียนหลุน จิ่วเหลียนฮวา องครักษ์ของอ๋องทั้งสองและนางกำนัลคอยปรนนิบัติจิ่วเหลียนฮวาที่กำลังตั้งครรภ์ตอนนี้ผู้ทราบว่านางตั้งครรภ์มีเพียงฮ่องเต้ ไทเฮาและจินหลี่จินเท่านั้น อายุครรภ์เพิ่มขึ้นเมื่อไรจินเทียนหลุนจะประกาศเรื่องนี้ให้ทราบโดยทั่วกัน“พลังยายหนูจิ่วดีนัก มิเช่นนั้นเราต้องใช้เวลาอีกหลายวันกว่าจะเดินทางถึง”ขบวนเดินทางไปร่วมงานมงคลยังไปไม่ถึงไหน แต่จิ่วเหลียนฮวาใช้พลังเทพเคลื่อนกายมาที่ปลายทางล่วงหน้าขบวนเดินทางมาก่อนแล้ว“จริงอย่างที่เสด็จอากล่าว เช่นนี้ดียิ่ง ครรภ์ของเจ้าจะได้ไม่เป็นอันตรายไปด้วย”จิ่วเหลียนฮวาพาเพียงสองหนุ่มราชวงศ์จินมาด้วยเท่านั้น เมื่อขบวนเดินทางใกล้เมืองหลวงแคว้นฝูเมื่อใดถึงค่อยกลับไปนั่งขบวนรถม้าอีกครั้ง“อีกหลาย

  • หม่าจิ่วเหลียนฮวาบุปผาเก้าชีวิต (ภาคต่อบุปผาเยียวยาใจ)   บทที่ ๘๓ ไม่อยากได้รับคำแสดงความยินดี

    บทที่ ๘๓ไม่อยากได้รับคำแสดงความยินดีฉายาชายารองมือปราบมาร ตอนนี้ไม่ได้ลือกันในหมู่จวนขุนนางแล้วเท่านั้น แต่ยังเล่าลือกันไปทั้งเมืองหลวง ปากต่อปากรวดเร็ว เพียงไม่ถึงหนึ่งเดือนก็แพร่ไปทั้งแผ่นดินใหญ่ แม้แต่ไช่จงซินที่อยู่เมืองหลวงแคว้นฝูยังได้ยิน“ยายหนูจิ่วมีชื่อเสียงใหญ่แล้ว คราวนี้เจ้าหนูหลุนได้กินน้ำส้มสายชูรายวันแน่”ไช่จงซินเอ่ยด้วยน้ำเสียงแฝงความสุข จนกระทั่งดวงตาเหลือบไปมองเทียบเชิญงานแต่งของตนกับคุณหนูตระกูลสูงศักดิ์ในเมืองหลวง ความเศร้าหมองก็มาแทนที่“นายท่านจะให้ข้าน้อยส่งเทียบเชิญเลยหรือไม่”ไช่จงซินยังไม่ตอบ หลับตาลงซ่อนเร้นความเศร้าหมอง จนกระทั่งเวลาผ่านไปครู่หนึ่งเขาก็พยักหน้ารับ แม้ไม่อยากให้คน ๆ นั้นมาร่วมงานด้วย…แต่หากไม่เชิญเลย เขาคงก็โดนอีกฝ่ายเข้าใจผิดว่าไม่ให้ความสำคัญ!“ส่งเลย ขออภัยพวกเขาแทนข้าด้วยที่ไม่ได้มาเชิญด้วยตัวเอง”“ขอรับนายท่าน”

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status