Share

บทที่ ๗ ครั้งนี้ในตลาด

last update Last Updated: 2025-09-13 14:33:00

บทที่ ๗

ครั้งนี้ในตลาด

“ที่ตลาดครึกครื้นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน”

จิ่วเหลียนฮวาเดินอย่างไม่มีเป้าหมายไปตามทาง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นางออกมาเดินเตร็ดเตร่ที่นี่ เพียงแต่ทุกครั้งที่นางได้ออกจากวังมาเที่ยวเล่นมักจะเดินเพียงลำพัง สหายในวังจะมีก็ตอนที่ทำงานเท่านั้น

พออยู่ในเวลาอิสระที่เป็นตัวเองได้กลับไม่มีใครอยากเสวนากับนาง!

เพราะเช่นนี้การเดินตลาดที่ดูสนุกสนานสำหรับสหายนางกำนัลคนอื่นกลับเป็นเรื่องน่าเบื่อสำหรับจิ่วเหลียนฮวา ทว่าหลังจากที่เจอกับเทพบุปผา ความรู้สึกราวกับเจอญาติสนิทที่ไม่ได้เจอกันมานานกลับมาแทนที่ความโดดเดี่ยว ความรู้สึกของการเดินตลาดก็เช่นกัน

“หากข้าเจอเทพบุปผาก่อนหน้านี้ก็ดีสินะ”

จิ่วเหลียนฮวาถอนหายใจ ดวงตาสอดส่องร้านแผงลอยตามถนน ไม่คิดจะนำเงินที่เก็บหอมรอมริบมาทั้งชีวิตออกมาใช้ เพราะใจลอยคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย นางจึงไม่รู้ตัวว่ายามนี้กำลังมีคนเดินตามตนอยู่

“ท่านอ๋อง เหมือนนางจะเดินไปเรื่อย ๆ อย่างไม่มีจุดหมาย เราจะเดินตามนางไปเช่นนี้หรือพ่ะย่ะค่ะ”

เฉียวเหอตั้งคำถามดวงตาสอดส่องโดยรอบ เขาไม่เพียงแค่ต้องติดตามจิ่วเหลียนฮวาเท่านั้น แต่ยังต้องคอยอารักขาความปลอดภัยของจินเทียนหลุนด้วย

“เปิ่นหวางสังหรณ์ใจว่าวันนี้จะเกิดเหตุการณ์บางอย่าง…เอาเป็นว่าเดินตามไปก่อน”

“พ่ะย่ะค่ะ”

เฉียวเหอเชื่อสัญชาตญาณเจ้านาย เพราะเช่นนี้เขายิ่งระมัดระวังตัวมากขึ้น

“กรี๊ด~”

เสียงกรี๊ดดังขึ้นในตลาดเรียกความสนใจของทุกคนให้จับจ้องไปยังที่มาของเสียงรวมถึงจิ่วเหลียนฮวาและจินเทียนหลุนด้วย

จิ่วเหลียนฮวาขาแข็งทื่อ ไม่เดินเข้าไปใกล้จุดเกิดเหตุเมื่อเห็นชายคลุ้มคลั่งคนหนึ่งใช้หญิงสาวเป็นตัวประกันโดยเอามีดสั้นจ่อคอนางเอาไว้

“การเดินตลาดในรอบหลายเดือนของข้าไยเป็นเช่นนี้…ไม่สนแล้ว ถอยดีกว่า”

จิ่วเหลียนฮวาถอยหลังไปหนึ่งก้าว แผ่นหลังกระแทกกับกำแพงมนุษย์จนนางแทบจะถลาตัวไปด้านหน้า ดีว่ามือหนารั้งเอวเอาไว้ นางจึงไม่ได้เสียหลักหน้าคะมำ

ยามที่จิ่วเหลียนฮวาหันมามองหน้าคนที่ให้ความช่วยเหลือตนก็นิ่งไปทันทีเพราะไม่คิดว่าจะเป็นเจ้านายที่เพิ่งเจอกันเมื่อช่วงเช้า

“หลบไป ตรงนี้ไม่ปลอดภัย”

จิ่วเหลียนฮวาได้สติในยามที่เขาปล่อยมือออกจากเอวตน ดวงตาคู่โตจับจ้องแผ่นหลังกว้างที่ยามนี้กำลังเดินเข้าไปหาชายคลั่งเพื่อช่วยเหลือสตรีผู้เป็นตัวประกัน

“อย่าเข้ามา! มิเช่นนั้นนางตายแน่”

“ฮึก~ช่วยข้าด้วยเจ้าค่ะ…อะ!”

ดรุณีน้อยน้ำตาไหลพราก ทั้งหวาดกลัวทั้งเจ็บปวดเมื่อโดนความคมของมีดเฉือนจนได้เลือด

“ไยต้องจับสตรีอ่อนแอเป็นตัวประกัน สถานการณ์แย่จนต้องใช้วิธีนี้แล้วหรือ”

เฉียวเหอเอ่ยเสียงเย็นโดยที่จินเทียนหลุนเพียงมองนิ่ง ๆ หาจังหวะจัดการชายคลั่ง

“เข้ามาจุ้นทำไม ในเมื่อเจ้าช่วยเหลือข้าไม่ได้”

“ปัญหาเจ้าคือสิ่งใดบอกเปิ่นหวางมาก่อน”

คำแทนตัวอ๋องสร้างเสียงฮือฮาขึ้นในทันที แม้แต่ชายคลั่งเองก็นิ่งไปครู่หนึ่ง

“เจ้าคือ…”

“ชินอ๋องจินเทียนหลุน”

เฉียวเหอเป็นคนเอ่ยนามและสถานะของเจ้านายด้วยท่าทางหยิ่งผยอง จังหวะนั้นเองที่มือชายคลั่งเผลอถอยห่่างจากคอดรุณีน้อยเป็นโอกาสให้จินเทียนหลุนซัดเข็มยาชาออกฤทธิ์ในฉับพลันใส่แขนและหน้าผากชายคลั่ง

ดรุณีน้อยฉลาดพอตัว รีบผลักชายคลั่งออกแล้ววิ่งมาทางจินเทียนหลุน

ชายคลั่งโกรธ แต่ยาชาที่ออกฤทธิ์ครึ่งจิบชาทำให้เขาไม่อาจขยับตัวได้ชั่วคราว จังหวะนั้นมือปราบจากศาลต้าหลี่มาถึงพอดีจึงเข้าควบคุมชายคลั่ง

“ท่านอ๋อง”

หัวหน้ามือปราบคุกเข่าลง มือขวากำหมัดมือซ้ายทับกำปั้นผงกศีรษะลงต่ำทำความเคารพจินเทียนหลุน

“จัดการชายคลั่งคนนี้เสีย เอาไปสอบสวนที่ศาลต้าหลี่ถึงเหตุจูงใจ”

“พ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง”

หัวหน้ามือปราบยืนขึ้นเต็มความสูง สั่งความลูกน้องให้จัดการคุมตัวชายคลั่งไปศาลต้าหลี่

จิ่วเหลียนฮวารีบหลบเข้าข้างทางทันทีเมื่อมือปราบคุมตัวชายคลั่งเดินมาทางตน ยามนี้ทุกคนคิดว่าสถานการณ์กลับสู่ปรกติแล้ว ไม่มีใครคิดว่าจะเกิดเรื่องไม่คาดฝันอีก

ฉึก! ฉึก! ฉึก!

มีดสั้นสองเล่มพุ่งจากชั้นสองของโรงเตี๊ยม เล่มหนึ่งปักอยู่ที่หน้าผากของชายคลั่ง อีกเล่มหนึ่งปักเข้าที่หัวใจของจิ่วเหลียนฮวาท่ามกลางความตกใจของทุกคน

จินเทียนหลุนเองก็ตกใจเช่นกัน เขารีบวิ่งเข้าไปหาจิ่วเหลียนฮวาที่ดวงตาเบิกโพลง มือจับหน้าอกตัวเองที่มีเลือดไหลซึมผ่านมือ

ตุบ!

ร่างบางร่วงลงพื้นราวกับผลไม้สุกงอม ศีรษะเกือบกระแทกลงพื้นแล้ว ดีว่าจินเทียนหลุนมารับไว้ทัน

“จิ่วเหลียนฮวา!”

จินเทียนหลุนขมวดคิ้วหน้าเครียด เฉียวเหอรีบเข้ามาหาเจ้านายแล้วจับชีพจรของจิ่วเหลียนฮวา

“ท่านอ๋อง…ตายแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

ชั่วขณะหนึ่งหัวใจจินเทียนหลุนคล้ายถูกบีบรัดด้วยมือที่มองไม่เห็น แต่ไม่นานความรู้สึกนั้นก็หายไป ตวัดสายตาไปทางโรงเตี๊ยมชั้นสองออกคำสั่งให้เฉียวฉือตามมือสังหารที่ปลิดชีพชายคลั่ง

“ท่านอ๋อง จะจัดการอย่างไรกับนางต่อพ่ะย่ะค่ะ เชิญรับสั่งได้เลย”

จินเทียนหลุนหลุบตามองจิ่วเหลียนฮวา ยื่นมือไปใต้จมูกนางเพื่อวัดสัญญาณชีพอีกครั้ง เมื่อไร้ลมหายใจอุ่นร้อนปะทะมือก็ถอดชุดคลุมตัวนอกออกคลุมร่างของจิ่วเหลียนฮวาปิดใบหน้านางเอาไว้

“ฝังนางไว้สุสานตระกูลหม่าตั้งป้ายวิญญาณ”

“พ่ะย่ะค่ะ”

จินเทียนหลุนลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ให้เฉียวเหออุ้มร่างเบาหวิวของจิ่วเหลียนฮวาตามตนมาพร้อมสั่งให้มือปราบจัดการทำความสะอาดพื้นที่เกิดเหตุให้เรียบร้อย

มีมือสังหารฆ่าปิดปากเช่นนี้ คดีนี้จะเป็นชายคลั่งธรรมดาได้อย่างไร!

จินเทียนหลุนให้คนปิดข่าวจิ่วเหลียนฮวาไว้ก่อน เขาสามารถสั่งงานองครักษ์คนสนิทให้จัดการจิ่วเหลียนฮวาโดยที่เขาไม่ต้องมาคุมงานเองก็ได้

ทว่าเขากลับขี่ม้านำหน้าเกวียนที่บรรทุกโลงศพของหม่าจิ่วเหลียนฮวาเอาไว้ มุ่งหน้าออกนอกเมืองที่เป็นสุสานฝังรวมร่างตระกูลหม่าที่ถูกประหารนับร้อยเอาไว้

จิ่วเหลียนจะถูกฝังแยกจากบรรพบุรุษของนาง นี่ถือเป็นความเมตตาของจินเทียนหลุนที่มีต่อนางในฐานะที่รับใช้ตำหนักเทียนหลุนจือเล่อมาหลายปี

“หยุด~”

จินเทียนหลุนกระโดดลงจากม้า ยามนี้ยังเป็นเวลาบ่ายคล้อย ทว่าฝนตั้งเค้าทำให้บรรยากาศขมุกขมัวเหมือนฝนจะตก

“เร่่งมือเถิด ฝนใกล้ตกแล้ว”

องครักษ์ห้านายรับคำ พวกเขาช่วยกันยกโลงไม้ลงจากเกวียน ในจังหวะนั้นเองที่ลมห่าใหญ่พัดเข้ามาฝุ่นตลบอบอวล สุสานรวมญาติตระกูลหม่าเดิมก็น่ากลัวเพราะมีเรื่องเล่ามากมายจากชาวบ้านอยู่แล้ว

มายามนี้บรรยากาศยังส่งให้น่าหวาดกลัว หากจินเทียนหลุนไม่มาด้วยพวกเขาคงกลัวกันยิ่งกว่านี้!

ตึก! ตึก!

“เฮือก”

หนึ่งในองครักษ์สะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงบางอย่างดังมาจากในโลงศพ จินเทียนหลุนไม่เชื่อเรื่องผีสางมุ่นคิ้วใส่ลูกน้องในทันที

“กลัวอะไร”

“ขอ ขออภัยพ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง”

จินเทียนหลุนส่ายหน้าให้น้อย ๆ แล้วออกคำสั่งให้เริ่มขุดดินได้

ตึก!

“ท่านอ๋อง เสียงดังมาจากในโลงพ่ะย่ะค่ะ!”

องครักษ์คนเดิมชี้นิ้วไปยังโลงศพ คราวนี้องครักษ์คนอื่นก็ได้ยินเสียงด้วย จินเทียนหลุนจึงเดินเข้ามาใกล้เตียงแล้วสั่งให้เปิดโลง

“ท่านอ๋อง จะดีหรือพ่ะย่ะค่ะ ถ้าหากว่าเป็น…”

“เหลวไหล!”

โดนเสียงแข็งใส่เช่นนี้แล้วองครักษ์ทั้งห้าก็ไม่กล้ามีใครทักท้วงอีก ช่วยกันเปิดฝาโลงที่ตอกเอาไว้แน่น ไม่นานก็เปิดฝาโลงออกได้โดยมีสิ่งที่สั่นประสาทพวกเขาตามมาด้วย

จิ่วเหลียนฮวาที่ตายไปแล้วเด้งตัวขึ้นมาทันทีที่ฝาโลงเปิดออก ใบหน้าซีดขาว ดวงตาแข็งทื่อดูไร้ชีวิตของนางทำองครักษ์ตกใจจนแตกกระเจิงเป็นรังผึ้ง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หม่าจิ่วเหลียนฮวาบุปผาเก้าชีวิต (ภาคต่อบุปผาเยียวยาใจ)   บทที่ ๙๐ ความทรงจำที่สวยงามไม่มีลืมเลือนทุกชาติ (จบบริบูรณ์)

    บทที่ ๙๐ความทรงจำที่สวยงามไม่มีลืมเลือนทุกชาติห้าปีผ่านไป…จิ่วเหลียนฮวาชีวิตสนุกมากเมื่อมีลูกน้อยทั้งหลายมาคอยล้อมหน้าล้อมหลัง แม้แต่จินเทียนหลุนยังเข้าไม่ถึงตัวนาง เพราะเช่นนี้เขาถึงฝากลูกไปเลี้ยงกับคนนั้นที คนนี้ทีเพื่อจะได้ใช้เวลาส่วนตัวกับชายารักบ้างเสี่ยวกั่วกัวท่านหญิงใหญ่ถูกฝากเลี้ยงกับหยางเซียงยี่ เสี่ยวน่ายน่ายถูกนางกำนัลของไทเฮามารับตัวไปเล่นในวังเกือบทุกวัน เช่นเดียวกับเสี่ยวน่ายกัวที่แทบจะกินนอนอยู่ที่ห้องทรงอักษรของฮ่องเต้จินจิ่นฟู่จวิ้นอ๋องที่อยากอยู่กับหลานเช่นกันแต่ไม่มีโอกาสนั้นเลยถึงกับออกปากกับหลานชายว่าให้เขามีหลานให้อีกสักสองคนจะได้ครบกันหนึ่งปีต่อจากคลอดแฝดสาม จิ่วเหลียนฮวาก็ตั้งครรภ์อีกครั้งเป็นแฝดชายหญิง ชื่อเล่นเสี่ยวผิงผิงและเสี่ยวปิงปิงบุตรชายเสี่ยวผิงผิงตกเป็นของจวิ้นอ๋อง บุตรสาวเสี่ยงปิงปิงตกเป็นของจื่อเจี่ยนเฉิงจวิ้นอ๋องและจื่อเจี่ยนเฉิงยังมีแรงพอจะสร้างทายาท ทว่าพวกเขากลับไม่คิดแต่งงานหรือ

  • หม่าจิ่วเหลียนฮวาบุปผาเก้าชีวิต (ภาคต่อบุปผาเยียวยาใจ)   บทที่ ๘๙ พระนัดดารุ่นแรกของราชวงศ์

    บทที่ ๘๙พระนัดดารุ่นแรกของราชวงศ์เก้าเดือนแห่งการตั้งครรภ์แฝดสามไม่ง่าย!ดีว่าจิ่วเหลียนฮวามีพลังเทพปกป้อง ทั้งยังมีคนดูแลอย่างดีทั้งคนจากไทเฮา สมุนไพรบำรุงครรภ์จากคลังหลวง สภาพแวดล้อมที่ไม่เป็นพิษอย่างหยางเซียงยี่และการดูแลที่ดีจากสวามีในยามค่ำคืนจินเทียนหลุนมีตำแหน่งทางการเมืองที่สำคัญ กลางวันว่ายุ่งจากการทำงานแล้ว แต่กลางคืนก็ยังมาปรนนิบัติพระชายาช่วยนวดเท้าให้นางกลางคืนเมื่อยามที่เกิดอาการเหน็บชานางจึงผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นมาได้จนกระทั่งมาถึงวันที่น้ำคร่ำแตก!“น้องรองไม่ต้องกังวล หมอที่เก่งที่สุดอยู่ในนั้นแล้ว”ฮ่องเต้จินจิ่นฟู่ที่เสด็จมาจวนจือเล่อเอ่ยปลอบอนุชาที่กำลังเดินไปเดินมาอยู่หน้าห้องคลอดแม้คนปลอบจะใจไม่สงบเช่นเดียวกันก็ตาม!“นั่นสิหลุนเอ๋อร์ เจ้าเดินไปเดินมาจนแม่ลายตาแล้ว นั่งลงก่อน มีเทพโอสถอยู่ทั้งคนยังจะกังวลเพียงนี้”ไทเฮาก็เอ่ยปลอบโอรสด้วยคน คลอดแฝดสามเดิมทีน่าเป็นห่วง

  • หม่าจิ่วเหลียนฮวาบุปผาเก้าชีวิต (ภาคต่อบุปผาเยียวยาใจ)   บทที่ ๘๘ สตรีคลอดบุตรไม่ต่างจากก้าวเข้าประตูปากผี

    บทที่ ๘๘สตรีคลอดบุตรไม่ต่างจากก้าวเข้าประตูปากผีเมืองฮั่นหลินเกิดคดีฆาตกรรมต่อเนื่องขึ้น!เพื่อไม่ให้ตนมัวแต่จมปลักอยู่กับความรักที่ไม่อาจร่วมทางไปกับคนรักได้จนสุดฝั่ง จินหลี่จินจึงขอฮ่องเต้ไปสืบคดีนี้ด้วยตนเอง ฮ่องเต้อนุญาตเพราะคิดว่าการทำงานหนักอาจทำให้อีกฝ่ายไม่มีเวลาฟุ้งซ่านส่วนจินเทียนหลุนนั้น ยามนี้ได้รับตำแหน่งทางการเมืองที่สำคัญ รับหน้าที่เป็นแม่ทัพพิทักษ์เมืองหลวงต่อจากท่านตาของจินหลี่จินเดิมทีตำแหน่งนี้ฮ่องเต้จินจิ่นฟู่อยากมอบให้จินหลี่จิน แต่อีกฝ่ายรักอิสระ อยากทำหน้าที่ที่ไม่กังขังตนเอาไว้เพียงในเมืองหลวง เขาจึงได้รับหน้าที่พิเศษเป็นฑูตประจำแคว้น ทำหน้าที่เจริญสัมพันธไมตรีระหว่างแคว้น เดินทางขึ้นเหนือล่องใต้ได้สะดวกสมกับที่ไม่มีครอบครัวส่วนจินเทียนหลุนที่มีชายาที่ท้องโตขึ้นทุกวันรอที่จวนอยู่แล้ว เช้ามาเข้ากองทัพฝึกทหาร ค่ำกลับจวนอยู่เป็นเพื่อนชายาและแนบหูคุยกับลูกน้อยทุกคืนแม้เด็กในท้องจะไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับเพราะเพิ

  • หม่าจิ่วเหลียนฮวาบุปผาเก้าชีวิต (ภาคต่อบุปผาเยียวยาใจ)   บทที่ ๘๗ ความรักระหว่างมนุษย์เหมือนลมสายหนึ่ง

    บทที่ ๘๗ความรักระหว่างมนุษย์เหมือนลมสายหนึ่งยามนี้เทพโอสถกำลังยืนอยู่บนกลางท้องฟ้า ใต้เท้าเป็นสัตตบงกชแห่งการเคลื่อนย้าย ด้านซ้ายมีหวงผิงที่ยืนอยู่บนปุยเมฆมองการแต่งงานของไช่จงซินในมุมสูงสีหน้าของเขาเรียบเฉยต่างกับเทพโอสถที่ฉายแววปวดใจ เมื่อคนที่กำลังเดินเคียงคู่กับไช่จงซินเข้าไปในโถงทำพิธีกราบไหว้ฟ้าดินมิใช่คนที่มีใจต้องกัน“ข้าเป็นคนนอก มองดูแล้วยังปวดใจเพียงนี้ พวกเขาสองคนก็คงปวดใจจนหายใจไม่ออก ร้องไห้ก็ไม่ได้ จุกลิ้นปี่ตรงนี้”หวงผิงหันมามองนิ้วมือเรียวที่ชี้จุดตรงลิ้นปี่ที่อยู่ตรงกลางด้านล่างอกเหนือกระเพาะอาหาร“ท่านเจ็บเพราะจิ้มแรงเกินไป”คนที่กำลังคล้อยไปกับเรื่องราวไม่สมหวังของคู่รักมนุษย์ตวัดสายตามามองหวงผิง แต่เมื่อเห็นหน้าอีกฝ่ายยังไม่เข้าใจความรู้สึกนี้จริง ๆ ก็ไม่โทษเขา“เอาเถอะ! เรื่องยังไม่เกิดกับตนจะเข้าใจได้อย่างไร ลองจินตนาการดู หากเจ้าเป็นไช่จงซินหรือจินหลี่จินจะไม่รู้สึกอันใด

  • หม่าจิ่วเหลียนฮวาบุปผาเก้าชีวิต (ภาคต่อบุปผาเยียวยาใจ)   บทที่ ๘๖ เมื่อรักและหน้าที่ไปด้วยกันไม่ได้

    บทที่ ๘๖เมื่อรักและหน้าที่ไปด้วยกันไม่ได้การมาเยือนแคว้นฝูครั้งนี้ จินเทียนหลุนคิดว่าคุ้มค่าที่สุด ไม่ต้องไปถามวิธีการดูแลบุตรจากหมอหลวงที่ไม่เคยตั้งครรภ์ แต่ได้ความรู้จากเหล่าฮูหยินทั้งหลายที่ต่อไปจะกลายเป็นฮูหยินผู้เฒ่าสตรีมีครรภ์จะเป็นเหน็บชา ต้องหมั่นนวดเท้า เรื่องอาหารการกิน งดดื่มสุรา รวมถึงสิ่งแวดล้อมที่จะมีผลต่ออารมณ์และอย่างสุดท้ายที่สำคัญสำหรับชีวิตคู่คือการร่วมหลับนอนระหว่างสามีภรรยา“เสี่ยวจิ่ว เปิ่นหวางถามฮูหยินทั้งสามแล้ว เรายังเข้าหอกันได้ตามปรกติ เว้นเพียงช่วงนี้กับช่วงใกล้คลอด ขอแค่เปิ่นหวางระวังไม่เน้นท่าโลดโผน ค่ำคืนของเราก็ยังคงเร่าร้อนได้เหมือนเคย”จิ่วเหลียนฮวาหน้าร้อนฉ่า ไม่คิดว่าสวามีของนางจะกล้าพูดเสียงดังต่อหน้าบ่าวในจวนตระกูลไช่ที่กำลังทำความสะอาดอยู่ด้านนอกนางดึงแขนเขาเข้าไปด้านในเรือนทันทีเพราะปั้นสีหน้าไม่ถูกแล้ว“ท่านอ๋อง! กล่าวเช่นนี้ต่อหน้าคนอื่นไม่ได้เพคะ”“ขออ

  • หม่าจิ่วเหลียนฮวาบุปผาเก้าชีวิต (ภาคต่อบุปผาเยียวยาใจ)   บทที่ ๘๕ เจ้าจะไม่ตายไปจากใจข้า

    บทที่ ๘๕เจ้าจะไม่ตายไปจากใจข้าสองหนุ่มใหญ่จ้องหน้ากันนิ่ง จิ่วเหลียนฮวาเห็นเช่นนั้นก็มองหน้าจินเทียนหลุน ไม่กล้าหายใจแรงเพราะกลัวว่าเสียงหายใจของตนจะไปขัดจังหวะคนทั้งคู่“ยายหนูจิ่ว ขนมของที่นี่เป็นอย่างไรบ้าง”ไช่จงซินถอนสายตาจากจินหลี่จินก่อน เดินไปนั่งตำแหน่งประมุขตระกูล รอคำตอบจากจิ่วเหลียนฮวาอย่างใจเย็น คำอวยพรจากจินหลี่จินเมื่อครู่ทำให้เขาไม่กล้ามองหน้าอีกฝ่ายอีก ด้วยกลัวจะพรั่งพรูความรู้สึกต่อหน้าทุกคน“อร่อยเจ้าค่ะท่านประมุข”“เรียกข้าว่าท่านอาจารย์ตามเจ้าหนูหลุนเถิด”จิ่วเหลียนฮวาพยักหน้ารับ “เจ้าค่ะ ขนมอร่อยมากเจ้าค่ะท่านอาจารย์ หากใจไม่ห้ามเอาไว้ ข้าอยากทานแทนอาหารสามมื้อ”ไช่จงซินหลุดหัวเราะเกือบสำลักน้ำชา“เสี่ยวจิ่วมีอารมณ์ขันแล้ว สตรีวัยเจ้าที่ทานมาก ส่วนใหญ่จะเป็นสตรีมีครรภ์ทั้งนั้น หรือเจ้ากำลังมีครรภ์”ไช่จงซินถามโดยไม่คิดอันใด ไม่คิดว่าทุกคนจะเงียบ เขามองหน้าจินเทียนหลุนสลั

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status