แชร์

บทที่ 3 ชิงช้าลอยฟ้า

ผู้เขียน: องค์หญิงโนเนม
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-02 15:17:50

ยามนี้จ้าวไป๋ลู่กำลังเดินชมดอกเหมยที่ออกดอกบานสะพรั่งอย่างเบื่อหน่าย เพราะท่านแม่กับองค์หญิงหงลี่มีเรื่องต้องสนทนาหารือกัน จึงให้นางออกมาเดินเล่น ด้วยกังวลว่านางจะเบื่อหน่ายเสียก่อน 

จ้าวไป๋ลู่ทิ้งกายลงนั่งที่ชิงช้า ซึ่งถูกผูกเอาไว้กับต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง ก่อนจะยื่นมือไปล้วงขนมกุ้ยฮวาในแขนเสื้อออกมากัดกินอย่างอารมณ์ดี ขนมนี้นางแอบหยิบมาจากในเรือนใหญ่ รสชาติไม่เลวเลยทีเดียว 

"หมิงอวี้ เจ้ามาไกวชิงช้าให้ข้าที" 

"คุณหนูเจ้าคะ แต่นายหญิงสั่งเอาไว้ว่า..." 

"ช่างท่านแม่เถอะน่า!!! ยามนี้ท่านแม่ไม่เห็น มา เร็ว ๆ" 

หมิงอวี้ไม่อาจทัดทานคำสั่งของจ้าวไป๋ลู่ได้ จึงจำใจต้องเดินมาไกวชิงช้าให้นางอย่างมิอาจหลีกเลี่ยง

"ฮ่า ๆ ๆ ๆ สนุกยิ่งนัก" 

ชิงช้าแกว่งไกวตามแรงมือของหมิงอวี้ที่ผลักออกไป จ้าวไป๋ลู่หลับตาลง ยามนี้นางรู้สึกราวกับว่าตนเองกำลังจะล่องลอยสู่แดนสวรรค์ 

"ฮึมมมม" 

นางฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีในขณะที่ปากก็เคี้ยวขนมกุ้ยฮวาไปด้วย ราวกับเด็กน้อยที่ทั้งห่วงเล่นสนุกและห่วงกินในเวลาเดียวกัน 

แกรก

"ว้ายยย คุณหนู!!!"

เสียงร้องตะโกนของหมิงอวี้ทำให้จ้าวไป๋ลู่ลืมตาขึ้นมา ก่อนจะอุทานในใจ 

ตายแล้ว!!! นางบินได้ 

ไม่ใช่สิ!!! 

บัดซบ!!! ชิงช้าขาดหรือ!!!

"อ๊าาาาา!!!" 

จ้าวไป๋ลู่เบิกตากว้างด้วยความตื่นตระหนก นางมิอาจส่งเสียงขอความช่วยเหลือได้เพราะยามนี้ในปากยังมีขนมกุ้ยฮวาอยู่เต็มปาก

ไม่ได้!!! ต่อให้แขนขาหักแต่ขนมต้องห้ามร่วงหล่นออกจากปากเด็ดขาด 

เมื่อคิดได้เช่นนั้นนางจึงนำขนมกุ้ยฮวาที่ถือเอาไว้ในมือมาคาบไว้ทันที

ด้านหลี่รั่วหานที่กำลังกลับมาจากค่ายทหาร ยามนี้เขาอยากจะพบกับหนิงเสวี่ยใจจะขาด เขาจะถือโอกาสนี้บอกแก่ท่านแม่ว่าเขาจะแต่งงานกับหนิงเสวี่ย ไม่มีทางแต่งกับสตรีอื่นเป็นอันขาด 

"อื้ออ อ้วยอ้วย!!!" 

"หืมมม เสียงอันใดกัน" 

ยังไม่ทันที่เขาจะได้เอ่ยสิ่งใด เมื่อหันไปมองก็ถึงกับต้องอ้าปากค้าง 

สตรีน้อยนางหนึ่งกำลังลอยละลิ่วมาทางที่เขายืนอยู่ ผมของนางถูกรวบขึ้นแบ่งเป็นมวยสองข้างราวซาลาเปาก้อนนิ่มสองก้อน ยามสายลมพัดผ่านผ้าปักสีแดงสดที่ผูกมัดพลิ้วไหวขับเน้นใบหน้าขาวเนียนให้ดูสดใสราวบุปผาแรกแย้ม 

เดี๋ยวก่อนนางคาบสิ่งใดเอาไว้ในปาก!!! 

"อ้วยอ้วย!!!" 

"บัดซบ!!! ลอยมาจากที่ใดกัน!!! อ๊า!!!" 

โครม ตู้มมม!!!

"คุณหนู!!!" 

"ซื่อจื่อ!!!"

ร่างของจ้าวไป๋ลู่ลอยไปชนกับร่างของหลี่รั่วหานที่ยืนตกใจอยู่ ทำให้คนทั้งสองเซถลาร่วงตกลงไปในสระบัวพร้อมกัน 

จ้าวไป๋ลู่ตะเกียกตะกายคลานขึ้นมาบนฝั่ง ในขณะที่หลี่รั่วหานก็มีสภาพสะบักสะบอมไม่ต่างกัน 

"แค่กแค่ก!!!" 

"บัดซบ!!! เด็กบ้านี่!!! เจ้าจะใจกล้าเกินไปแล้ว!!!" 

หลี่รั่วหานจ้องมองจ้าวไป๋ลู่อย่างเย็นชา อีกทั้งยังตะโกนใส่นางจนตัวนางสะดุ้งเฮือก 

แม้ยามนี้นางก็ยังไม่ยอมคายขนมกุ้ยฮวาออกจากปาก 

องค์หญิงหงลี่และฮูหยินหลิวอิ๋งผ่านมาเห็นเหตุการณ์เข้าพอดี ก็พากันตื่นตระหนกเป็นอย่างยิ่ง  โดยเฉพาะฮูหยินหลิวอิ๋งที่ยามนี้กำมือแน่นด้วยความกรุ่นโกรธ 

ไป๋ไป๋เจ้าทำงามหน้าแล้ว!!! 

ไม่เพียงแค่องค์หญิงหงลี่และฮูหยินหลิวอิ๋งที่เห็นเหตุการณ์ที่พวกเขากอดรัดกันในสระบัว แต่ทว่าหนิงเสวี่ยก็เห็นเหตุการณ์นี้ด้วยเช่นเดียวกัน 

ใบหน้าสวยฉายแววเย็นชา พลางจ้องมองจ้าวไป๋ลู่อย่างดูแคลน 

อายุเพียงเท่านี้ก็เรียนรู้วิธีแย่งคนรักของผู้อื่นเสียแล้ว!!! 

"ซื่อจื่อ เกิดสิ่งใดขึ้น!!!"

องค์หญิงหงลี่รีบเอ่ยถามบุตรชายของตนอย่างห่วงใย ก่อนจะรีบให้คนหาผ้ามาคลุมร่างกายให้จ้าวไป๋ลู่อย่างเร่งด่วน

หลี่รั่วหานปรายตามองจ้าวไป๋ลู่อย่างรังเกียจ ก่อนจะเอ่ยขึ้นมา 

"ลูกเพิ่งกลับมาจากค่ายทหาร แต่โชคร้ายพบเจอสตรีนางนี้ลอยมาจากที่ใดก็มิทราบได้ นางกระโจนเข้าหาลูกจนพาลูกตกสระบัวไปพร้อมกับนางด้วยขอรับ!!!" 

ฮูหยินหลิวอิ๋งที่ได้ยินเช่นนั้นก็โมโหไม่น้อย ด้านหมิงอวี้ที่เพิ่งวิ่งมาถึงอย่างเหนื่อยหอบ ก็รีบเอ่ยขึ้นมาทันที 

"ฮูหยินเจ้าคะ เมื่อครู่คุณหนูกำลังนั่งเล่นชิงช้า แต่สายชิงช้าเกิดขาด ร่างของคุณหนูจึงลอยมา เอ่อ..." 

เมื่อเห็นสภาพของผู้เป็นนาย หมิงอวี้ก็ลอบไว้อาลัยให้นางในใจ 

เมื่อกลับเข้ามาในเรือนใหญ่ องค์หญิงหงลี่ก็สั่งให้คนพาจ้าวไป๋ลู่ไปเปลี่ยนชุดเพื่อแก้สถานการณ์ตรงหน้าไปก่อน

จ้าวไป๋ลู่กลับมานั่งข้างกายผู้เป็นมารดา นางรู้ดีว่ายามนี้ท่านแม่โกรธนางยิ่งนัก 

หลี่รั่วหานยกถ้วยชาขึ้นดื่ม เขาร้อนใจยิ่งนักอยากจะไปอธิบายให้หนิงเสวี่ยได้ฟังเสียเดี๋ยวนี้ แต่เมื่อได้เห็นแววตาเย็นเยียบของผู้เป็นมารดา เขาจึงทำได้เพียงสำรวมกิริยาเอาไว้

"เอาละ ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว แม่คงต้องให้เจ้าและจ้าวไป๋ลู่แต่งงานกัน" 

"ท่านแม่!!!" 

"อารั่ว จ้าวไป๋ลู่เสียเกียรติเพราะเจ้า" 

"นางเสนอหน้ามาเอง ลูกมิได้หมิ่นเกียรตินางนะขอรับ!!!" 

"แต่ผู้คนต่างเห็นเหตุการณ์เมื่อครู่หมดแล้ว อย่างไรเจ้าก็ต้องแต่งนางเข้าจวน" 

"ไม่ขอรับ!!! ลูกจะแต่งกับเสวี่ยเอ๋อร์เพียงคนเดียวเท่านั้น!!!" 

"อารั่ว แม่ไม่ชอบหนิงเสวี่ย นางเจ้าเล่ห์มากกล ลูกมองนางไม่ออกหรือ!!!" 

"แล้วสตรีนางนี้ดีนักหรือขอรับ หากดีจริงคงมิทำเช่นนี้ ลูกว่านางจงใจเข้าหาลูกเพื่อหวังผลประโยชน์เสียมากกว่า!!!" 

"หุบปากเดี๋ยวนี้นะ!!!"

ฮูหยินหลิวอิ๋งลอบกำมือแน่น นางเป็นมารดา เมื่อได้ยินวาจาของผู้อื่นที่เอ่ยดูถูกบุตรสาวของตนเช่นนี้ก็รู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่ง 

"อิ๋งเอ๋อร์ เจ้ามิต้องเป็นกังวล อย่างไรเสียข้าจะต้องตบแต่งบุตรสาวของเจ้าเข้าจวนโหวให้ได้" 

จ้าวไป๋ลู่ที่ได้ยินเช่นนั้นก็เหลือบมองหลี่รั่วหานคราหนึ่ง เมื่อครู่นางไม่ได้มองเขาให้ชัดเจนเท่าใดนัก ยามนี้จึงถือโอกาสลอบพิจารณาใบหน้าเขาอย่างลับ ๆ

ใบหน้าของเขาหล่อเหลา แต่ทว่าแววตากลับดูเย็นชา อีกทั้งท่าทีก็หยิ่งผยองเกินผู้ใด 

เวรกรรมแท้ ๆ นางมิน่าไปเล่นชิงช้านั่นเลย 

เมื่อรับรู้ได้ถึงสายตาที่มองมา หลี่รั่วหานจึงเอ่ยกับจ้าวไป๋ลู่ด้วยน้ำเสียงที่ดูแคลน 

"ข้าคือซื่อจื่อแห่งจวนโหว มีเกียรติ มีหน้ามีตา สตรีเช่นเจ้ามิคู่ควรกับข้าเลยแม้แต่น้อย หากอยากหน้าด้านแต่งเข้ามา เจ้าก็เป็นได้เพียงอนุ อย่าคิดว่าข้าจะหลงใหลในตัวเจ้า ไม่มีวัน!!!" 

เขาเอ่ยเพียงเท่านั้นก่อนจะเดินออกไปจากเรือนใหญ่ โดยไม่สนใจผู้ใดทั้งสิ้น 

จ้าวไป๋ลู่ลอบเบ้ปากคราหนึ่ง 

แล้วใครอยากแต่งกับท่านกัน!!! ชิงช้ามันลอยไปเองโว้ยยย!!!

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • หยกงามใต้เงาจันทร์   บทเสริม หนิงเสวี่ย

    หวังเจียหมิ่นเดินถือกล่องใส่อาหารไว้ในมือ ก่อนจะเดินขึ้นไปบนวัดไป๋หม่า เขาทำเช่นนี้มาร่วมปี เขาเองก็เต็มใจทำโดยไม่เคยปริปากบ่นแม้เพียงน้อยเสียงกวาดพื้นดังมาเป็นระยะ หวังเจียหมิ่นจ้องมองสตรีตรงหน้าที่ยามนี้นางเกล้าผมอย่างเรียบร้อย สวมเพียงเสื้อผ้าธรรมดา กำลังถือไม้กวาดกวาดใบไม้อย่างตั้งใจนางคือหลี่หลานฮวา หรือก็คือ หนิงเสวี่ย นั่นเอง นางเสียสติอยู่ร่วมปี กว่าจะทำใจยอมรับเรื่องราวก่อนหน้านี้ได้ มันไม่ง่ายเลยจริง ๆ ที่นางจะยอมรับว่านางกับหลี่รั่วหานเป็นพี่น้องสายเลือดเดียวกัน และไม่ง่ายเลยกว่านางจะยอมรับว่าสตรีที่นางเกลียดชังนักหนา แท้จริงแล้วคือมารดาผู้ให้กำเนิดนาง แม้จะเป็นเรื่องที่ทำใจได้ยาก แต่ในท้ายที่สุดนางก็ทำใจยอมรับมันได้ แม้จะต้องใช้เวลาบ้างก็ตาม นางอุทิศตัวให้พระโพธิสัตว์ ชาตินี้จะขอสร้างบุญเพื่อไถ่บาปกรรมที่นางเคยทำเอาไว้ทั้งหมด แม่ทัพใหญ่หลี่ องค์หญิงหงลี่และหลี่รั่วหานยังคงมาเยี่ยมนางอยู่เสมอ พวกเขายังคงพูดกับนางเหมือนเช่นทุกครา ว่ายังรอวันที่นางจะยินดีกลับจวนโหวอีกครั้ง ซึ่งนางเองก็ยังไม่รู้ว่าวันนั้นจะมาถึงเมื่อใดนางรู้สึกผิดต่อทุกคน ด้วยความรู้สึกผิดในใจนางจึงเล

  • หยกงามใต้เงาจันทร์   บทที่ 53 วิวาห์อีกครา (จบบริบูรณ์)

    จ้าวไป๋ลู่ยื่นน้ำตาลก้อนหนึ่งให้หลี่รั่วหานเพื่อให้เขาใช้แก้อาการแสบร้อนในปาก เขารีบยัดน้ำตาลก้อนนั้นเข้าปากทันที ยามนี้ปากของเขาบวมราวกับโดนฝูงผึ้งรุมต่อย สร้างความขบขันให้แก่นางไม่น้อย "หลี่รั่วหาน" "หืม" "ท่านพ่อท่านแม่ข้าบอกข้าว่า พวกเขาชอบท่านมาก" "จริงหรือ?" "จริงสิ แต่จะให้ข้ากลับเข้าจวนไปง่าย ๆ ก็คงจะไม่ดีเท่าใดนัก" "จ้าวไป๋ลู่ เรามาแต่งงานกันอีกรอบเถิด!!!" "ท่านว่าอย่างไรนะ" "ข้าจะแต่งงานกับเจ้าอีกรอบ เรามาแต่งงานกันเถอะ" "หลี่รั่วหาน ท่านแน่ใจแล้วหรือ ว่าจะแต่งกับข้าอีกครั้ง" "แน่ใจสิ""หากข้าไม่ได้อ่อนโยนเหมือนแต่ก่อนเล่า ไม่ใช่คนที่ท่านสามารถเอาเปรียบได้เช่นแต่ก่อนอีกเล่า" "ข้าก็ยังยืนยันที่จะแต่งกับเจ้าเช่นเดิม" "ท่านจะไม่โกหกข้า ไม่ทำร้ายข้าอีกครั้งใช่หรือไม่" "ข้าจะไม่มีวันทำให้เจ้ากับลูกเสียใจอีกเป็นอันขาด" "หากท่านผิดสัญญา ข้าจะไม่กลับไปหาท่านอีก" "ห้าปีที่ข้ารอเจ้า มันเป็นบทเรียนชั้นดีที่สอนข้าอย่างสาหัสแล้วจ้าวไป๋ลู่" "ตกลง เช่นนั้นข้าจะแต่งงานกับท่านอีกครา" "จริงหรือ เจ้าพูดจริงหรือ!!!" "หน้าข้าเหมือนคนโกหกหรือ?" "ก็ข้าคิดว่าเจ้า..." "หุบปาก!!!"

  • หยกงามใต้เงาจันทร์   บทที่ 52 เอาใจครอบครัวภรรยา

    จวนตระกูลจ้าวหลี่รั่วหานมาตามที่ตกลงกับจ้าวไป๋ลู่เอาไว้ ยามนี้เขากำลังนั่งตัวเกร็งอยู่ที่ห้องโถงด้านในจวนตระกูลจ้าว อดทนกับสายตากดดันของจ้าวเยียน ฮูหยินหลิวอิ๋ง และจ้าวเฉียน ที่มองเขาด้วยแววตาที่เย็นเยียบแต่เพื่อนางกับลูกเขายอม จ้าวเยียนปรายตามองหลี่รั่วหานคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นมา "ซื่อจื่อ ท่านแน่ใจแล้วหรือ ที่จะลดตัวลงมาหาพวกเรา" "แน่ใจขอรับ ข้าเต็มใจทำทุกสิ่งเพื่อจ้าวไป๋ลู่กับลูก" "ก็ดี ท่านทำอาหารเป็นหรือไม่ แม่ครัวเก่าเพิ่งจะลาออกไป ฮูหยินข้ากำลังอยากได้ลูกมือทำครัวอยู่พอดี" "ได้เลยขอรับ" ฮูหยินหลิวอิ๋งปรายตามองหลี่รั่วหานคราหนึ่ง ก่อนจะครุ่นคิดถึงจดหมายที่องค์หญิงหงลี่ส่งมาให้นาง ในจดหมายเขียนเอาไว้ว่า จัดการให้หนัก! ยามนี้นางกับองค์หญิงหงลี่ปรับความเข้าใจกันด้วยดีแล้วหลี่รั่วหานเดินตามฮูหยินหลิวอิ๋งเข้ามาในโรงครัว ก่อนจะจ้องมองนางที่กำลังหยิบมีดคมขึ้นมาถือเอาไว้ ในใจของเขาก็รู้สึกเย็นวาบแปลก ๆ "มีดนี่คมมาก ข้าใช้มันหั่นเนื้อเป็นประจำ เป็นมีดประจำตัวของข้า เดิมทีข้าอยากส่งต่อมันให้กับจ้าวไป๋ลู่ ซื่อจื่อท่านรู้หรือไม่ว่า เหตุใดข้าจึงอยากส่งต่อมีดนี้ให้บุตรสาวของข้า"

  • หยกงามใต้เงาจันทร์   บทที่ 51 ตามง้ออีกครา

    ยามนี้เหตุการณ์ทุกอย่างอยู่ในความสงบแล้ว ทุกคนกลับไปใช้ชีวิตปกติเหมือนเช่นเคย และมีเรื่องที่น่ายินดีอีกเรื่องหนึ่งนั่นก็คือ เซียวถงกำลังจะเข้าพิธีแต่งงานกับสวีลั่วลั่ว ทั้งสองพบรักกันเมื่อหนึ่งปีก่อนจ้าวไป๋ลู่ยินดีกับทั้งสองเป็นอย่างมาก และนางดีใจที่เซียวถงจะมีสตรีที่ดีพร้อมมาคอยดูแลเสียที ส่วนนางเองก็ยังไม่ได้ใจอ่อนกับหลี่รั่วหาน แม้ว่าเขาจะพยายามตามง้อนางก็ตาม ยามนี้จ้าวหยางอายุได้สี่ขวบปีแล้ว เป็นวัยที่กำลังช่างพูดช่างคุย บางคราเขาตื่นมาชวนนางคุยกลางดึกก็เคยทำมาแล้ว วันนี้เป็นวันมงคลของเซียวถงและสวีลั่วลั่ว จ้าวไป๋ลู่พาจ้าวหยางไปร่วมงานในครานี้ด้วย งานเลี้ยงจัดอย่างยิ่งใหญ่ ผู้คนต่างมาร่วมยินดีกับบ่าวสาวกันมากมายจ้าวไป๋ลู่มองดูเซียวถงกับสวีลั่วลั่วที่หยอกล้อกันตามประสาคู่แต่งงานก็เผลอยิ้มออกมาเล็กน้อย งานแต่งของนางไม่เคยมีความทรงจำเหล่านี้อยู่เลยแม้แต่น้อย "ไป๋ไป๋" จ้าวไป๋ลู่ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะหันไปพบหลี่รั่วหานที่เดินมาพร้อมกับหลัวเทียนเฉิน นางเพียงมองเขาแต่ไม่ได้เอ่ยสิ่งใดออกมา "แม่นางไป๋ไป๋ ดีใจที่ได้พบเจ้าอีกครา" "ใต้เท้าหลัว" "อย่าเรียกบ่อย ข้ากลัวจะตกหลุมรักเจ้

  • หยกงามใต้เงาจันทร์   บทที่ 50 เสียสติ

    เว่ยจิ่นซางหยิบยาพิษออกมาจากในอกเสื้ออีกขวดหนึ่ง ก่อนจะเดินตรงเข้าไปหาองค์หญิงหงลี่ช้า ๆ "ตายซะเถอะ ในที่สุดข้าก็ล้างแค้นได้สำเร็จสักที" ฉึก! ยังไม่ทันที่เว่ยจิ่นซางจะสังหารองค์หญิงหงลี่ได้สำเร็จ มีดเล่มหนึ่งก็แทงเข้ามาที่แผ่นหลังของนางทะลุมาที่หน้าท้อง เมื่อนางหันกลับไปช้า ๆ จึงได้พบว่าเป็นฝีมือของหนิงเสวี่ย "นะ!!! นังชั่ว นังเนรคุณ!!!" "ฮือออออ" หนิงเสวี่ยแทงมีดจนสุดด้าม ก่อนจะทิ้งกายลงนั่งบนพื้นแล้วปิดหน้าร้องไห้โฮออกมาอย่างเจ็บปวดเว่ยจิ่นซางตกตายด้วยมีดเล่มนั้นของหนิงเสวี่ย"ท่านแม่!!!"ด้านนอกมีเสียงการต่อสู้ดังขึ้น ก่อนจะมีคนเปิดประตูพุ่งเข้ามา เป็นหลี่รั่วหานนั่นเอง เขามองสภาพศพของเว่ยจิ่นซางที่นอนตายอยู่บนพื้นดวงตาเบิกกว้าง ข้าง ๆ กันมีหนิงเสวี่ยที่นั่งร้องไห้อยู่ เขาไม่มีเวลาสนใจหนิงเสวี่ยมากนัก เขารีบวิ่งเข้าไปแก้มัดให้องค์หญิงหงลี่ ก่อนจะเดินเข้าไปหาจ้าวไป๋ลู่และลูกที่นอนหลับไม่ได้สติอยู่ข้าง ๆ กัน"ไป๋ไป๋!!!" "นางสลบไม่ได้สติมาหลายชั่วยามแล้ว" เสียงของหลี่รั่วหานปลุกหนิงเสวี่ยให้ตื่นจากความสับสนและหวาดกลัวในจิตใจ นางค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นไปมองเขาช้า ๆ เมื่อเขาหันมาส

  • หยกงามใต้เงาจันทร์   บทที่ 49 ความจริงที่แสนเจ็บปวด

    นางกรอกยาพิษทั้งที่มือก็สั่นไม่น้อย ยิ่งได้เห็นแววตาที่แข็งกระด้างขององค์หญิงหงลี่ที่มองมา มือนางก็สั่นมากยิ่งขึ้น จนทำยาพิษหกลงพื้นไปเสียดื้อ ๆ องค์หญิงหงลี่กินยาพิษนั้นไปไม่ถึงครึ่งขวดด้วยซ้ำ แต่นางก็กระอักโลหิตสีดำออกมาไม่น้อย เว่ยจิ่นซางที่ได้เห็นเช่นนั้นก็ส่งเสียงหัวเราะสะใจออกมาอย่างบ้าคลั่ง แปะ แปะ แปะ หนิงเสวี่ยกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ก่อนจะหันไปมองเว่ยจิ่นซาง "ท่านแม่" เว่ยจิ่นซางหันมามองหนิงเสวี่ยด้วยสายตาที่เย็นชา "ผู้ใดเป็นแม่เจ้ากัน?" "เอ๋? ท่านแม่ เหตุใดท่านจึงเอ่ยวาจาเช่นนี้เจ้าคะ ข้าไม่เข้าใจ" เว่ยจิ่นซางปรายตามองหนิงเสวี่ยอย่างดูแคลน แววตาที่เคยมองนางประดุจลูกในไส้ แววตาที่อ่อนโยนเลือนหายไปจนหมดสิ้น ยามนี้มีเพียงความเกลียดชังเข้ามาแทนที่ นางทุ่มเทแรงกายแรงใจ รอเวลานี้มานานเหลือเกิน นางรอจนกระทั่งถึงวันนี้!!! "ฮ่า ๆ ๆ ๆ การได้มองเห็นบุตรสาวกำลังฆ่ามารดาของตนเองกับมือ ช่างเป็นภาพที่งดงามเสียจริง ๆ" เว่ยจิ่นซางเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่มีความสุข หนิงเสวี่ยที่ได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วมุ่น ด้านองค์หญิงหงลี่ที่ได้ยินเว่ยจิ่นซางเอ่ยคำพูดเช่นนี้ออกมา ใจของนางก็เต้นแรงอย่างบ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status