Beranda / รักโบราณ / หยกงามใต้เงาจันทร์ / บทที่ 3 ชิงช้าลอยฟ้า

Share

บทที่ 3 ชิงช้าลอยฟ้า

last update Terakhir Diperbarui: 2025-05-02 15:17:50

ยามนี้จ้าวไป๋ลู่กำลังเดินชมดอกเหมยที่ออกดอกบานสะพรั่งอย่างเบื่อหน่าย เพราะท่านแม่กับองค์หญิงหงลี่มีเรื่องต้องสนทนาหารือกัน จึงให้นางออกมาเดินเล่น ด้วยกังวลว่านางจะเบื่อหน่ายเสียก่อน 

จ้าวไป๋ลู่ทิ้งกายลงนั่งที่ชิงช้า ซึ่งถูกผูกเอาไว้กับต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง ก่อนจะยื่นมือไปล้วงขนมกุ้ยฮวาในแขนเสื้อออกมากัดกินอย่างอารมณ์ดี ขนมนี้นางแอบหยิบมาจากในเรือนใหญ่ รสชาติไม่เลวเลยทีเดียว 

"หมิงอวี้ เจ้ามาไกวชิงช้าให้ข้าที" 

"คุณหนูเจ้าคะ แต่นายหญิงสั่งเอาไว้ว่า..." 

"ช่างท่านแม่เถอะน่า!!! ยามนี้ท่านแม่ไม่เห็น มา เร็ว ๆ" 

หมิงอวี้ไม่อาจทัดทานคำสั่งของจ้าวไป๋ลู่ได้ จึงจำใจต้องเดินมาไกวชิงช้าให้นางอย่างมิอาจหลีกเลี่ยง

"ฮ่า ๆ ๆ ๆ สนุกยิ่งนัก" 

ชิงช้าแกว่งไกวตามแรงมือของหมิงอวี้ที่ผลักออกไป จ้าวไป๋ลู่หลับตาลง ยามนี้นางรู้สึกราวกับว่าตนเองกำลังจะล่องลอยสู่แดนสวรรค์ 

"ฮึมมมม" 

นางฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีในขณะที่ปากก็เคี้ยวขนมกุ้ยฮวาไปด้วย ราวกับเด็กน้อยที่ทั้งห่วงเล่นสนุกและห่วงกินในเวลาเดียวกัน 

แกรก

"ว้ายยย คุณหนู!!!"

เสียงร้องตะโกนของหมิงอวี้ทำให้จ้าวไป๋ลู่ลืมตาขึ้นมา ก่อนจะอุทานในใจ 

ตายแล้ว!!! นางบินได้ 

ไม่ใช่สิ!!! 

บัดซบ!!! ชิงช้าขาดหรือ!!!

"อ๊าาาาา!!!" 

จ้าวไป๋ลู่เบิกตากว้างด้วยความตื่นตระหนก นางมิอาจส่งเสียงขอความช่วยเหลือได้เพราะยามนี้ในปากยังมีขนมกุ้ยฮวาอยู่เต็มปาก

ไม่ได้!!! ต่อให้แขนขาหักแต่ขนมต้องห้ามร่วงหล่นออกจากปากเด็ดขาด 

เมื่อคิดได้เช่นนั้นนางจึงนำขนมกุ้ยฮวาที่ถือเอาไว้ในมือมาคาบไว้ทันที

ด้านหลี่รั่วหานที่กำลังกลับมาจากค่ายทหาร ยามนี้เขาอยากจะพบกับหนิงเสวี่ยใจจะขาด เขาจะถือโอกาสนี้บอกแก่ท่านแม่ว่าเขาจะแต่งงานกับหนิงเสวี่ย ไม่มีทางแต่งกับสตรีอื่นเป็นอันขาด 

"อื้ออ อ้วยอ้วย!!!" 

"หืมมม เสียงอันใดกัน" 

ยังไม่ทันที่เขาจะได้เอ่ยสิ่งใด เมื่อหันไปมองก็ถึงกับต้องอ้าปากค้าง 

สตรีน้อยนางหนึ่งกำลังลอยละลิ่วมาทางที่เขายืนอยู่ ผมของนางถูกรวบขึ้นแบ่งเป็นมวยสองข้างราวซาลาเปาก้อนนิ่มสองก้อน ยามสายลมพัดผ่านผ้าปักสีแดงสดที่ผูกมัดพลิ้วไหวขับเน้นใบหน้าขาวเนียนให้ดูสดใสราวบุปผาแรกแย้ม 

เดี๋ยวก่อนนางคาบสิ่งใดเอาไว้ในปาก!!! 

"อ้วยอ้วย!!!" 

"บัดซบ!!! ลอยมาจากที่ใดกัน!!! อ๊า!!!" 

โครม ตู้มมม!!!

"คุณหนู!!!" 

"ซื่อจื่อ!!!"

ร่างของจ้าวไป๋ลู่ลอยไปชนกับร่างของหลี่รั่วหานที่ยืนตกใจอยู่ ทำให้คนทั้งสองเซถลาร่วงตกลงไปในสระบัวพร้อมกัน 

จ้าวไป๋ลู่ตะเกียกตะกายคลานขึ้นมาบนฝั่ง ในขณะที่หลี่รั่วหานก็มีสภาพสะบักสะบอมไม่ต่างกัน 

"แค่กแค่ก!!!" 

"บัดซบ!!! เด็กบ้านี่!!! เจ้าจะใจกล้าเกินไปแล้ว!!!" 

หลี่รั่วหานจ้องมองจ้าวไป๋ลู่อย่างเย็นชา อีกทั้งยังตะโกนใส่นางจนตัวนางสะดุ้งเฮือก 

แม้ยามนี้นางก็ยังไม่ยอมคายขนมกุ้ยฮวาออกจากปาก 

องค์หญิงหงลี่และฮูหยินหลิวอิ๋งผ่านมาเห็นเหตุการณ์เข้าพอดี ก็พากันตื่นตระหนกเป็นอย่างยิ่ง  โดยเฉพาะฮูหยินหลิวอิ๋งที่ยามนี้กำมือแน่นด้วยความกรุ่นโกรธ 

ไป๋ไป๋เจ้าทำงามหน้าแล้ว!!! 

ไม่เพียงแค่องค์หญิงหงลี่และฮูหยินหลิวอิ๋งที่เห็นเหตุการณ์ที่พวกเขากอดรัดกันในสระบัว แต่ทว่าหนิงเสวี่ยก็เห็นเหตุการณ์นี้ด้วยเช่นเดียวกัน 

ใบหน้าสวยฉายแววเย็นชา พลางจ้องมองจ้าวไป๋ลู่อย่างดูแคลน 

อายุเพียงเท่านี้ก็เรียนรู้วิธีแย่งคนรักของผู้อื่นเสียแล้ว!!! 

"ซื่อจื่อ เกิดสิ่งใดขึ้น!!!"

องค์หญิงหงลี่รีบเอ่ยถามบุตรชายของตนอย่างห่วงใย ก่อนจะรีบให้คนหาผ้ามาคลุมร่างกายให้จ้าวไป๋ลู่อย่างเร่งด่วน

หลี่รั่วหานปรายตามองจ้าวไป๋ลู่อย่างรังเกียจ ก่อนจะเอ่ยขึ้นมา 

"ลูกเพิ่งกลับมาจากค่ายทหาร แต่โชคร้ายพบเจอสตรีนางนี้ลอยมาจากที่ใดก็มิทราบได้ นางกระโจนเข้าหาลูกจนพาลูกตกสระบัวไปพร้อมกับนางด้วยขอรับ!!!" 

ฮูหยินหลิวอิ๋งที่ได้ยินเช่นนั้นก็โมโหไม่น้อย ด้านหมิงอวี้ที่เพิ่งวิ่งมาถึงอย่างเหนื่อยหอบ ก็รีบเอ่ยขึ้นมาทันที 

"ฮูหยินเจ้าคะ เมื่อครู่คุณหนูกำลังนั่งเล่นชิงช้า แต่สายชิงช้าเกิดขาด ร่างของคุณหนูจึงลอยมา เอ่อ..." 

เมื่อเห็นสภาพของผู้เป็นนาย หมิงอวี้ก็ลอบไว้อาลัยให้นางในใจ 

เมื่อกลับเข้ามาในเรือนใหญ่ องค์หญิงหงลี่ก็สั่งให้คนพาจ้าวไป๋ลู่ไปเปลี่ยนชุดเพื่อแก้สถานการณ์ตรงหน้าไปก่อน

จ้าวไป๋ลู่กลับมานั่งข้างกายผู้เป็นมารดา นางรู้ดีว่ายามนี้ท่านแม่โกรธนางยิ่งนัก 

หลี่รั่วหานยกถ้วยชาขึ้นดื่ม เขาร้อนใจยิ่งนักอยากจะไปอธิบายให้หนิงเสวี่ยได้ฟังเสียเดี๋ยวนี้ แต่เมื่อได้เห็นแววตาเย็นเยียบของผู้เป็นมารดา เขาจึงทำได้เพียงสำรวมกิริยาเอาไว้

"เอาละ ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว แม่คงต้องให้เจ้าและจ้าวไป๋ลู่แต่งงานกัน" 

"ท่านแม่!!!" 

"อารั่ว จ้าวไป๋ลู่เสียเกียรติเพราะเจ้า" 

"นางเสนอหน้ามาเอง ลูกมิได้หมิ่นเกียรตินางนะขอรับ!!!" 

"แต่ผู้คนต่างเห็นเหตุการณ์เมื่อครู่หมดแล้ว อย่างไรเจ้าก็ต้องแต่งนางเข้าจวน" 

"ไม่ขอรับ!!! ลูกจะแต่งกับเสวี่ยเอ๋อร์เพียงคนเดียวเท่านั้น!!!" 

"อารั่ว แม่ไม่ชอบหนิงเสวี่ย นางเจ้าเล่ห์มากกล ลูกมองนางไม่ออกหรือ!!!" 

"แล้วสตรีนางนี้ดีนักหรือขอรับ หากดีจริงคงมิทำเช่นนี้ ลูกว่านางจงใจเข้าหาลูกเพื่อหวังผลประโยชน์เสียมากกว่า!!!" 

"หุบปากเดี๋ยวนี้นะ!!!"

ฮูหยินหลิวอิ๋งลอบกำมือแน่น นางเป็นมารดา เมื่อได้ยินวาจาของผู้อื่นที่เอ่ยดูถูกบุตรสาวของตนเช่นนี้ก็รู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่ง 

"อิ๋งเอ๋อร์ เจ้ามิต้องเป็นกังวล อย่างไรเสียข้าจะต้องตบแต่งบุตรสาวของเจ้าเข้าจวนโหวให้ได้" 

จ้าวไป๋ลู่ที่ได้ยินเช่นนั้นก็เหลือบมองหลี่รั่วหานคราหนึ่ง เมื่อครู่นางไม่ได้มองเขาให้ชัดเจนเท่าใดนัก ยามนี้จึงถือโอกาสลอบพิจารณาใบหน้าเขาอย่างลับ ๆ

ใบหน้าของเขาหล่อเหลา แต่ทว่าแววตากลับดูเย็นชา อีกทั้งท่าทีก็หยิ่งผยองเกินผู้ใด 

เวรกรรมแท้ ๆ นางมิน่าไปเล่นชิงช้านั่นเลย 

เมื่อรับรู้ได้ถึงสายตาที่มองมา หลี่รั่วหานจึงเอ่ยกับจ้าวไป๋ลู่ด้วยน้ำเสียงที่ดูแคลน 

"ข้าคือซื่อจื่อแห่งจวนโหว มีเกียรติ มีหน้ามีตา สตรีเช่นเจ้ามิคู่ควรกับข้าเลยแม้แต่น้อย หากอยากหน้าด้านแต่งเข้ามา เจ้าก็เป็นได้เพียงอนุ อย่าคิดว่าข้าจะหลงใหลในตัวเจ้า ไม่มีวัน!!!" 

เขาเอ่ยเพียงเท่านั้นก่อนจะเดินออกไปจากเรือนใหญ่ โดยไม่สนใจผู้ใดทั้งสิ้น 

จ้าวไป๋ลู่ลอบเบ้ปากคราหนึ่ง 

แล้วใครอยากแต่งกับท่านกัน!!! ชิงช้ามันลอยไปเองโว้ยยย!!!

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • หยกงามใต้เงาจันทร์   บทที่ 4 ลงโทษ

    เมื่อหลี่รั่วหานจากไปแล้ว ฮูหยินหลิวอิ๋งจึงหันมาเอ่ยกับองค์หญิงหงลี่ทันที "องค์หญิงอย่าได้ทรงเป็นกังวล เดิมทีนี่ก็เป็นความผิดของไป๋ไป๋เช่นกัน อย่างไรข้าคงมิอาจฝืนใจซื่อจื่อให้เขาต้องลำบากมาแต่งงานกับไป๋ไป๋เป็นแน่ หากนางมิสามารถแต่งออกจากจวนได้อีก ตระกูลจ้าวย่อมต้องส่งนางออกบวชเพื่อลบล้างความผิดในครานี้" จ้าวไป๋ลู่ที่ได้ยินเช่นนั้นก็ตื่นตระหนกเป็นอย่างยิ่ง นางมุ่ยหน้าลงราวกับเด็กน้อย ในใจครุ่นคิดไปต่าง ๆ นานาไปอยู่อารามหรือ ออกบวชหรือ!!! ข้าไม่อยากถือศีลกินเจนะ ข้าชอบกินเนื้อที่สุดเลย ฮือออ!!!แต่จะว่าไปอาหารเจก็รสชาติดีมิใช่หรือ?แถมไม่ต้องเสียเงินสักอีแปะด้วย!องค์หญิงหงลี่ที่ได้ยินเช่นนั้นก็รีบเอ่ยห้ามปรามสหายสนิทของตนทันที "ไม่ได้เด็ดขาด!!! นางอายุเพียงเท่านี้จะให้ออกบวชได้อย่างไร ข้าน่ะเอ็นดูนางยิ่งนัก นางน่ารักและไร้เดียงสาถึงเพียงนี้ข้าคงทำใจให้เจ้าพานางออกบวชมิได้ อิ๋งเอ๋อร์ หากเจ้าจะส่งนางออกบวช มิสู้ให้นางแต่งเข้ามาเป็นลูกสะใภ้ข้ามิดีกว่าหรือ" ฮูหยินหลิวอิ๋งที่ได้ยินเช่นนั้นก็ถอนหายใจออกมาคราหนึ่ง เมื่อได้เห็นสายตาที่องค์หญิงหงลี่มองจ้าวไป๋ลู่ด้วยความเอ็นดู นางก็เริ่มใจอ

    Terakhir Diperbarui : 2025-05-02
  • หยกงามใต้เงาจันทร์   บทที่ 5 ความบันเทิงในวังหลวง

    ด้านจ้าวไป๋ลู่นั้นก็กำลังให้หมิงอวี้สาวใช้ทายาที่ท่านหมอจัดให้ ก่อนจะเบ้หน้าด้วยความเจ็บปวด ขาของข้า!!! ฮือออ จ้าวเฉียนที่เห็นเช่นนั้นก็ยิ้มให้น้องสาวของตนด้วยความอ่อนโยน ก่อนจะยื่นซาลาเปาไส้เนื้อไปตรงหน้านาง เมื่อเห็นของกินมาวางตรงหน้า จ้าวไป๋ลู่ก็ยิ้มตาหยี ก่อนจะรับซาลาเปาไส้เนื้อลูกนั้นมากัดกินอย่างเอร็ดอร่อย ทั้งที่ยังนอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียง"อย่างไรเจ้าคงต้องแต่งเข้าจวนโหว" จ้าวเฉียนเอ่ยกับจ้าวไป๋ลู่ด้วยน้ำเสียงที่ห่วงใย เมื่อได้ยินผู้เป็นพี่ชายเอ่ยเช่นนั้น จ้าวไป๋ลู่ก็รู้สึกกระอักกระอ่วนใจเป็นอย่างมาก "พี่ใหญ่ มันเป็นอุบัติเหตุ เอ่อ ข้าไม่ได้ตั้งใจ" "ข้ารู้ ข้าเชื่อเจ้า แต่ชื่อเสียงของเจ้าย่ำแย่เช่นนี้ จะให้ทำเช่นไรได้เล่า" "ช่างสิ!!! ข้าจะอยู่ให้ท่านพี่เลี้ยงดูไปจนแก่ ดีกว่าต้องแต่งกับจอมมารผู้นั้น" จ้าวเฉียนรู้สึกขบขันน้องสาวของตนยิ่งนัก เขายื่นมือไปลูบศีรษะน้องสาวด้วยความรักใคร่ "ไม่ว่าเจ้าจะอยู่ที่ใด ก็ยังเป็นน้องสาวของพี่เสมอ"จ้าวไป๋ลู่พยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างปลงไม่ตก เห็น ๆ อยู่ว่าจอมมารหลี่ผู้นั้นมีคู่รักอยู่แล้ว เหตุใดท่านแม่และองค์หญิงหงลี่จึง

    Terakhir Diperbarui : 2025-05-02
  • หยกงามใต้เงาจันทร์   บทที่ 6 พี่ชายข้างจวน

    สามวันต่อมา องค์หญิงหงลี่ก็ส่งแม่สื่อมาที่จวนตระกูลจ้าวตามที่ได้รับปากเอาไว้จริง ๆ อีกทั้งยังมีรายการสินสอดมาอีกหนึ่งฉบับ ฮูหยินหลิวอิ๋งมองดูรายการสินสอดที่เขียนเอาไว้บนแผ่นกระดาษ ก็รู้สึกตกใจไม่น้อย เหตุใดจึงมากมายถึงเพียงนี้! เพราะนางเติบโตมาในตระกูลชนบท อีกทั้งตระกูลสามีก็เป็นเพียงพ่อค้าร้านอาหารเล็ก ๆ ในเมืองหลวงเพียงเท่านั้น นางเองมิได้มีใจโลภละโมบในสมบัติของผู้อื่น แม้จะไม่สบายใจเท่าใดนัก แต่ก็ทำได้เพียงยิ้มแย้มต้อนรับแม่สื่อไปตามมารยาท นางรู้ดีว่าอย่างไรเสียคงมิอาจตัดไมตรีที่องค์หญิงหงลี่มอบให้ได้เป็นอันขาด หลังจากที่แม่สื่อกลับไปแล้ว ฮูหยินหลิวอิ๋งก็ให้สาวใช้ไปเรียกจ้าวไป๋ลู่มาพบที่เรือนใหญ่ จ้าวไป๋ลู่ที่กำลังนอนแผ่หลาอ่านตำราอาหารอยู่บนเตียง เมื่อได้ยินเช่นนั้นจึงรีบวางตำราในมือลง ก่อนจะรีบไปพบมารดาของตนทันที "คารวะท่านแม่เจ้าค่ะ" "นั่งลงเถิด" เมื่อมาถึงเรือนใหญ่ นางก็ทำความเคารพผู้เป็นมารดา ฮูหยินหลิวอิ๋งพยักหน้า ก่อนจะเอ่ยกับบุตรสาวด้วยท่าทีที่เคร่งขรึม"จวนโหวส่งใบรายการสินสอดมาแล้ว อีกสองวันจะสั่งให้คนมาตัดเย็บชุดเจ้าสาวให้เจ้า เตรียมตัวให้ดี นับแต่วันนี้ไปข้าจะเป็น

    Terakhir Diperbarui : 2025-05-02
  • หยกงามใต้เงาจันทร์   บทที่ 7 พุ่งชนเสา

    เมื่อกินอิ่มแล้ว จ้าวไป๋ลู่จึงช่วยท่านปู่ท่านย่าเก็บกวาดล้างจานชามจนสะอาด เซียวถงเองก็เข้าไปช่วยนางเช่นกัน ชายหญิงชราที่เห็นเช่นนั้นก็เพียงสบตากันและยิ้มเพียงเล็กน้อย ในสายตาของพวกเขา เซียวถงเป็นบุรุษที่ดีคนหนึ่ง หากได้มาเป็นหลานเขย ชีวิตของจ้าวไป๋ลู่ ย่อมมีความสุขไม่น้อย "พี่ชาย ท่านกลับมาเมื่อใดหรือเจ้าคะ" "สองสามวันที่แล้ว แต่ต้องเข้าวังหลวงรายงานความเป็นไปให้ฝ่าบาททรงรับรู้เสียก่อน เมื่อเสร็จงานแล้วข้าจึงตั้งใจจะกลับจวน แต่ทว่ากลับพบเจ้าที่กินมูมมามอยู่หน้าร้านจึงต้องแวะมาหา" "หากท่านว่างมากก็ให้ท่านหมองัดสุนัขออกจากปากบ้างนะเจ้าคะ" "ฮ่า ๆ ๆ ๆ!!!" เซียวถงที่ได้ยินเช่นนั้นก็หัวเราะชอบใจเป็นอย่างยิ่ง เขาลอบมองนางอย่างพิจารณาก่อนจะครุ่นคิดในใจ นางเติบโตเป็นสตรีเต็มตัวแล้ว อีกทั้งยังงดงามมากอีกด้วย "ไป๋ไป๋" "หืม" "ยามนี้ข้ามิต้องไปชายแดนแล้ว เจ้าจะยินดีแต่งงานกับข้าได้หรือไม่" จ้าวไป๋ลู่ที่ได้ยินเช่นนั้นจึงรีบหันขวับไปมองเซียวถงทันที ก่อนจะหัวเราะออกมา "ฮ่า ๆ ๆ ๆ" "เจ้าขบขันสิ่งใดกัน!!!" เมื่อเห็นว่านางหัวเราะโดยไร้เหตุผลเช่นนั้น เซียวถงก็ขมวดคิ้วมุ่น จ้าวไป๋ลู่จึงรีบเอ่ย

    Terakhir Diperbarui : 2025-05-02
  • หยกงามใต้เงาจันทร์   บทที่ 8 แต่งงาน

    จวนตระกูลหนิง "โง่งมที่สุด ไหนเจ้าว่าหลี่รั่วหานรักเจ้านักหนา เหตุใดเขาจึงยอมตกปากรับคำแต่งงานกับสตรีนางนั้นง่ายดายเช่นนี้เล่า!!!"หนิงเสวี่ยในยามนี้กำลังนั่งก้มหน้างุดมิเอ่ยวาจาใดออกมา ทำได้เพียงทนฟังผู้เป็นมารดาก่นด่านางโดยไร้หนทางโต้แย้ง มารดาของนางมีนามว่า เว่ยจิ่นซาง เป็นบุตรสาวของตระกูลบัณฑิต ตั้งแต่นางจำความได้ ท่านแม่มักจะพูดกรอกหูนางอยู่เสมอว่านางจะต้องเป็นสตรีที่งดงามเพียบพร้อม กิริยามารยาทต้องเป็นเลิศ และจะต้องแต่งเข้าจวนโหวตระกูลหลี่เป็นฮูหยินใหญ่ให้ได้ เดิมทีนางเองก็มิเข้าใจเท่าใดนัก นางพยายามเอ่ยปากถามผู้เป็นมารดาอยู่หลายครา แต่ก็ไร้ซึ่งคำตอบ มีเพียงคำก่นด่าและถากถางเพียงเท่านั้น ข้าให้เจ้าทำสิ่งใดก็จงทำ มิต้องมาถามข้าให้มากความ เจ้าจงจำเอาไว้ ว่าจะต้องมัดใจหลี่รั่วหานให้ได้ ทำให้เขาหลงใหลเจ้า มอบทุกอย่างให้กับเจ้า ข้าอยากจะเห็นมารดาของเขา อกแตกตาย ฮ่า ๆ ๆ ๆ!!! หนิงเสวี่ยได้ยินท่านแม่พูดประโยคนี้จนนางท่องจำได้ขึ้นใจ นางเองมิรู้ว่าท่านแม่และองค์หญิงหงลี่มีความแค้นใดต่อกันมาก่อน คราแรกนางมิได้ชมชอบหลี่รั่วหานเท่าใดนัก แต่เมื่อได้ใกล้ชิดกับเขา นางก็เผลอหลงรักเขาจนหมดห

    Terakhir Diperbarui : 2025-05-02
  • หยกงามใต้เงาจันทร์   บทที่ 9 ช่วยดูต้นทาง

    การแต่งงานผ่านไปอย่างทุลักทุเล ยามที่กำลังยกน้ำชาคำนับฟ้าดิน หลี่รั่วหานก็แกล้งจ้าวไป๋ลู่ โดยการใช้ไหล่ของเขากระแทกไหล่ของนาง จนน้ำชาในถ้วยกระฉอกมาโดนใบหน้าของนางเต็ม ๆ จ้าวไป๋ลู่เองก็มิยอมแพ้ ยามที่ต้องตักขนมมงคลป้อนให้เขากิน นางก็ตักขึ้นมาเต็มช้อนโดยที่ไม่เป่าให้หายร้อนเสียก่อน ก็ยัดเข้าปากเขาในทันที ภาพที่เจ้าบ่าวตาเหลือกช่างสร้างความสุนทรีย์ให้คนในงานไม่น้อย ช่างเป็นงานแต่งที่บันเทิงเสียจริง!!! "เฮ้อ!!! หมิงอวี้ข้าหิวแล้ว" "ฮูหยินน้อยเจ้าคะ บ่าวจะนำหมั่นโถวมาให้ท่านนะเจ้าคะ" ยามนี้นางมานั่งพักในเรือนหอเรียบร้อยแล้ว จ้าวไป๋ลู่ยกมือขึ้นลูบท้องด้วยความหิวโหย ให้ตายเถิด การแต่งงานมันช่างทรมานเสียจริงเชียว ไม่นานหมิงอวี้ก็นำหมั่นโถวมาให้นางสามลูก จ้าวไป๋ลู่กินจนหมดก่อนจะทิ้งกายลงนอนบนเตียง ความอิ่มทำให้นางรู้สึกง่วงงุนไม่น้อย จึงผล็อยหลับไปเสียอย่างนั้น หลังจากส่งแขกเหรื่อเรียบร้อยแล้ว หลี่รั่วหานก็เดินเข้ามาในห้องหอก่อนจะสั่งให้หมิงอวี้ออกไปเสีย เขาเดินเข้าไปหาจ้าวไป๋ลู่ และยกเท้าขึ้นมาเขี่ยขานางอย่างรังเกียจ "อ๊าาาา ซาลาเปาไส้หมูแดง ซดน้ำซุปด้วย เยี่ยม!!!" หลี่รั่วหานรู้สึกห

    Terakhir Diperbarui : 2025-05-02
  • หยกงามใต้เงาจันทร์   บทที่ 10 อย่าดูหมิ่นข้า

    เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจแล้ว หลี่รั่วหานจึงเดินออกมาจากด้านหลังต้นสาลี่ แล้วจ้องมองจ้าวไป๋ลู่อย่างเอาเรื่อง "เจ้านี่มารยาเยอะเสียจริง ทำทีมาบอกว่าจะดูต้นทางให้ข้า แต่แท้จริงแล้ว เจ้าคงอยากดูของข้าจนตัวสั่นสินะ!!!" จ้าวไป๋ลู่ที่ได้ยินเช่นนั้นก็จ้องมองเขาด้วยความตกใจ ให้ตายเถิด!!! นางแค่แวะผ่านมาเองนะ "ซื่อจื่อคงเข้าใจผิดแล้วกระมังเจ้าคะ เดิมทีข้าเพียงรู้สึกเบื่อหน่ายจึงอยากจะออกมาเดินเล่นเพื่อผ่อนคลายอารมณ์เพียงเท่านั้น แต่กลับ ได้ยิน เอ่อ... ชักขึ้นชักลง ชักลงชักขึ้น ฮ่า ๆ ๆ ๆ" "หุบปาก เดี๋ยวนี้นะ!!!" "ซื่อจื่อ ข้าอุตส่าห์มีน้ำใจดูต้นทางให้ท่านนะเจ้าคะ" "ใครขอร้องเจ้ากัน!!!" "ไม่มีเจ้าค่ะ" "จำไว้!!! อย่าเสนอหน้ามายุ่งเรื่องของข้าอีก!!!" "เจ้าค่ะ ข้าขอตัวก่อนนะเจ้าคะ อุ๊ย ชักขึ้นชักลง ชักลงชักขึ้น ฮ่า ๆ ๆ ๆ"จ้าวไป๋ลู่หัวเราะจนตัวงอ สร้างความโมโหให้แก่หลี่รั่วหานเป็นอย่างมาก เขากระชากแขนนางเข้าหาตัวอย่างสุดแรง ก่อนจะจ้องนางเขม็ง "ท้าทายข้าหรือ!!!" เมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้ล้อเล่น จ้าวไป๋ลู่จึงพยายามดันตนเองออกจากการเกาะกุมของเขา "ข้าเจ็บนะเจ้าคะ!!!" "เจ็บหรือ!!! หึ!!! เมื่อครู่ยัง

    Terakhir Diperbarui : 2025-05-02
  • หยกงามใต้เงาจันทร์   บทที่ 11 ข้อตกลง

    หลี่รั่วหานลืมตาตื่นขึ้นมาในยามเช้าของอีกวัน วันนี้เขามิต้องเข้าไปที่ค่ายทหารเนื่องจากเป็นวันหยุดพัก จึงคิดจะนอนต่ออีกสักหน่อย ตระกูลหลี่ของเขานั้น แม้ท่านพ่อจะเป็นถึงราชบุตรเขยของราชวงศ์ แต่เพราะมีใจซื่อสัตย์และรักชาติบ้านเมือง ต่อสู้เพื่อบ้านเมืองมาโดยตลอด จึงยังดำรงตำแหน่งท่านแม่ทัพใหญ่ได้อย่างสมเกียรติ อีกทั้งยังได้รับความไว้วางใจจากเสด็จลุงเป็นอย่างมากอีกด้วย ในขณะที่เขากำลังจะล้มตัวลงนอนต่อ พลันก็ได้กลิ่นอาหารลอยโชยมาเตะจมูก กลิ่นหอมของเครื่องเทศทำให้ความอยากอาหารของเขามีมากขึ้นกว่าเดิม เดิมทีที่คิดว่าจะนอนต่ออีกสักหน่อย เขาจึงเปลี่ยนใจมุ่งหน้าไปที่โรงครัวทันที ภาพที่เห็นตรงหน้าทำให้ใจของเขาสั่นระรัวอย่างแปลกประหลาด จ้าวไป๋ลู่ในยามนี้กำลังวุ่นวายอยู่กับการทำอาหาร ใบหน้าสวยมีเม็ดเหงื่อผุดพรายขึ้นมาเต็มใบหน้า ทรงผมยาวสลวยถูกรวบขึ้นอย่างลวก ๆ ทุกท่วงท่าของนางงดงามและอ่อนช้อย จนเขาสัมผัสได้ว่ายามที่นางทำอาหารช่างน่ามองยิ่งนัก น่ามองกับผีน่ะสิ!!! แม้ในใจจะก่นด่านาง แต่ยามนี้เขาต้องทำตามแผนที่วางเอาไว้ให้ลุล่วงเสียก่อน แสร้งทำดีให้นางตายใจ ท้ายที่สุดก็ค่อยไล่นางออกจากจวน หรือไม

    Terakhir Diperbarui : 2025-05-02

Bab terbaru

  • หยกงามใต้เงาจันทร์   บทเสริม หนิงเสวี่ย

    หวังเจียหมิ่นเดินถือกล่องใส่อาหารไว้ในมือ ก่อนจะเดินขึ้นไปบนวัดไป๋หม่า เขาทำเช่นนี้มาร่วมปี เขาเองก็เต็มใจทำโดยไม่เคยปริปากบ่นแม้เพียงน้อยเสียงกวาดพื้นดังมาเป็นระยะ หวังเจียหมิ่นจ้องมองสตรีตรงหน้าที่ยามนี้นางเกล้าผมอย่างเรียบร้อย สวมเพียงเสื้อผ้าธรรมดา กำลังถือไม้กวาดกวาดใบไม้อย่างตั้งใจนางคือหลี่หลานฮวา หรือก็คือ หนิงเสวี่ย นั่นเอง นางเสียสติอยู่ร่วมปี กว่าจะทำใจยอมรับเรื่องราวก่อนหน้านี้ได้ มันไม่ง่ายเลยจริง ๆ ที่นางจะยอมรับว่านางกับหลี่รั่วหานเป็นพี่น้องสายเลือดเดียวกัน และไม่ง่ายเลยกว่านางจะยอมรับว่าสตรีที่นางเกลียดชังนักหนา แท้จริงแล้วคือมารดาผู้ให้กำเนิดนาง แม้จะเป็นเรื่องที่ทำใจได้ยาก แต่ในท้ายที่สุดนางก็ทำใจยอมรับมันได้ แม้จะต้องใช้เวลาบ้างก็ตาม นางอุทิศตัวให้พระโพธิสัตว์ ชาตินี้จะขอสร้างบุญเพื่อไถ่บาปกรรมที่นางเคยทำเอาไว้ทั้งหมด แม่ทัพใหญ่หลี่ องค์หญิงหงลี่และหลี่รั่วหานยังคงมาเยี่ยมนางอยู่เสมอ พวกเขายังคงพูดกับนางเหมือนเช่นทุกครา ว่ายังรอวันที่นางจะยินดีกลับจวนโหวอีกครั้ง ซึ่งนางเองก็ยังไม่รู้ว่าวันนั้นจะมาถึงเมื่อใดนางรู้สึกผิดต่อทุกคน ด้วยความรู้สึกผิดในใจนางจึงเล

  • หยกงามใต้เงาจันทร์   บทที่ 53 วิวาห์อีกครา (จบบริบูรณ์)

    จ้าวไป๋ลู่ยื่นน้ำตาลก้อนหนึ่งให้หลี่รั่วหานเพื่อให้เขาใช้แก้อาการแสบร้อนในปาก เขารีบยัดน้ำตาลก้อนนั้นเข้าปากทันที ยามนี้ปากของเขาบวมราวกับโดนฝูงผึ้งรุมต่อย สร้างความขบขันให้แก่นางไม่น้อย "หลี่รั่วหาน" "หืม" "ท่านพ่อท่านแม่ข้าบอกข้าว่า พวกเขาชอบท่านมาก" "จริงหรือ?" "จริงสิ แต่จะให้ข้ากลับเข้าจวนไปง่าย ๆ ก็คงจะไม่ดีเท่าใดนัก" "จ้าวไป๋ลู่ เรามาแต่งงานกันอีกรอบเถิด!!!" "ท่านว่าอย่างไรนะ" "ข้าจะแต่งงานกับเจ้าอีกรอบ เรามาแต่งงานกันเถอะ" "หลี่รั่วหาน ท่านแน่ใจแล้วหรือ ว่าจะแต่งกับข้าอีกครั้ง" "แน่ใจสิ""หากข้าไม่ได้อ่อนโยนเหมือนแต่ก่อนเล่า ไม่ใช่คนที่ท่านสามารถเอาเปรียบได้เช่นแต่ก่อนอีกเล่า" "ข้าก็ยังยืนยันที่จะแต่งกับเจ้าเช่นเดิม" "ท่านจะไม่โกหกข้า ไม่ทำร้ายข้าอีกครั้งใช่หรือไม่" "ข้าจะไม่มีวันทำให้เจ้ากับลูกเสียใจอีกเป็นอันขาด" "หากท่านผิดสัญญา ข้าจะไม่กลับไปหาท่านอีก" "ห้าปีที่ข้ารอเจ้า มันเป็นบทเรียนชั้นดีที่สอนข้าอย่างสาหัสแล้วจ้าวไป๋ลู่" "ตกลง เช่นนั้นข้าจะแต่งงานกับท่านอีกครา" "จริงหรือ เจ้าพูดจริงหรือ!!!" "หน้าข้าเหมือนคนโกหกหรือ?" "ก็ข้าคิดว่าเจ้า..." "หุบปาก!!!"

  • หยกงามใต้เงาจันทร์   บทที่ 52 เอาใจครอบครัวภรรยา

    จวนตระกูลจ้าวหลี่รั่วหานมาตามที่ตกลงกับจ้าวไป๋ลู่เอาไว้ ยามนี้เขากำลังนั่งตัวเกร็งอยู่ที่ห้องโถงด้านในจวนตระกูลจ้าว อดทนกับสายตากดดันของจ้าวเยียน ฮูหยินหลิวอิ๋ง และจ้าวเฉียน ที่มองเขาด้วยแววตาที่เย็นเยียบแต่เพื่อนางกับลูกเขายอม จ้าวเยียนปรายตามองหลี่รั่วหานคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นมา "ซื่อจื่อ ท่านแน่ใจแล้วหรือ ที่จะลดตัวลงมาหาพวกเรา" "แน่ใจขอรับ ข้าเต็มใจทำทุกสิ่งเพื่อจ้าวไป๋ลู่กับลูก" "ก็ดี ท่านทำอาหารเป็นหรือไม่ แม่ครัวเก่าเพิ่งจะลาออกไป ฮูหยินข้ากำลังอยากได้ลูกมือทำครัวอยู่พอดี" "ได้เลยขอรับ" ฮูหยินหลิวอิ๋งปรายตามองหลี่รั่วหานคราหนึ่ง ก่อนจะครุ่นคิดถึงจดหมายที่องค์หญิงหงลี่ส่งมาให้นาง ในจดหมายเขียนเอาไว้ว่า จัดการให้หนัก! ยามนี้นางกับองค์หญิงหงลี่ปรับความเข้าใจกันด้วยดีแล้วหลี่รั่วหานเดินตามฮูหยินหลิวอิ๋งเข้ามาในโรงครัว ก่อนจะจ้องมองนางที่กำลังหยิบมีดคมขึ้นมาถือเอาไว้ ในใจของเขาก็รู้สึกเย็นวาบแปลก ๆ "มีดนี่คมมาก ข้าใช้มันหั่นเนื้อเป็นประจำ เป็นมีดประจำตัวของข้า เดิมทีข้าอยากส่งต่อมันให้กับจ้าวไป๋ลู่ ซื่อจื่อท่านรู้หรือไม่ว่า เหตุใดข้าจึงอยากส่งต่อมีดนี้ให้บุตรสาวของข้า"

  • หยกงามใต้เงาจันทร์   บทที่ 51 ตามง้ออีกครา

    ยามนี้เหตุการณ์ทุกอย่างอยู่ในความสงบแล้ว ทุกคนกลับไปใช้ชีวิตปกติเหมือนเช่นเคย และมีเรื่องที่น่ายินดีอีกเรื่องหนึ่งนั่นก็คือ เซียวถงกำลังจะเข้าพิธีแต่งงานกับสวีลั่วลั่ว ทั้งสองพบรักกันเมื่อหนึ่งปีก่อนจ้าวไป๋ลู่ยินดีกับทั้งสองเป็นอย่างมาก และนางดีใจที่เซียวถงจะมีสตรีที่ดีพร้อมมาคอยดูแลเสียที ส่วนนางเองก็ยังไม่ได้ใจอ่อนกับหลี่รั่วหาน แม้ว่าเขาจะพยายามตามง้อนางก็ตาม ยามนี้จ้าวหยางอายุได้สี่ขวบปีแล้ว เป็นวัยที่กำลังช่างพูดช่างคุย บางคราเขาตื่นมาชวนนางคุยกลางดึกก็เคยทำมาแล้ว วันนี้เป็นวันมงคลของเซียวถงและสวีลั่วลั่ว จ้าวไป๋ลู่พาจ้าวหยางไปร่วมงานในครานี้ด้วย งานเลี้ยงจัดอย่างยิ่งใหญ่ ผู้คนต่างมาร่วมยินดีกับบ่าวสาวกันมากมายจ้าวไป๋ลู่มองดูเซียวถงกับสวีลั่วลั่วที่หยอกล้อกันตามประสาคู่แต่งงานก็เผลอยิ้มออกมาเล็กน้อย งานแต่งของนางไม่เคยมีความทรงจำเหล่านี้อยู่เลยแม้แต่น้อย "ไป๋ไป๋" จ้าวไป๋ลู่ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะหันไปพบหลี่รั่วหานที่เดินมาพร้อมกับหลัวเทียนเฉิน นางเพียงมองเขาแต่ไม่ได้เอ่ยสิ่งใดออกมา "แม่นางไป๋ไป๋ ดีใจที่ได้พบเจ้าอีกครา" "ใต้เท้าหลัว" "อย่าเรียกบ่อย ข้ากลัวจะตกหลุมรักเจ้

  • หยกงามใต้เงาจันทร์   บทที่ 50 เสียสติ

    เว่ยจิ่นซางหยิบยาพิษออกมาจากในอกเสื้ออีกขวดหนึ่ง ก่อนจะเดินตรงเข้าไปหาองค์หญิงหงลี่ช้า ๆ "ตายซะเถอะ ในที่สุดข้าก็ล้างแค้นได้สำเร็จสักที" ฉึก! ยังไม่ทันที่เว่ยจิ่นซางจะสังหารองค์หญิงหงลี่ได้สำเร็จ มีดเล่มหนึ่งก็แทงเข้ามาที่แผ่นหลังของนางทะลุมาที่หน้าท้อง เมื่อนางหันกลับไปช้า ๆ จึงได้พบว่าเป็นฝีมือของหนิงเสวี่ย "นะ!!! นังชั่ว นังเนรคุณ!!!" "ฮือออออ" หนิงเสวี่ยแทงมีดจนสุดด้าม ก่อนจะทิ้งกายลงนั่งบนพื้นแล้วปิดหน้าร้องไห้โฮออกมาอย่างเจ็บปวดเว่ยจิ่นซางตกตายด้วยมีดเล่มนั้นของหนิงเสวี่ย"ท่านแม่!!!"ด้านนอกมีเสียงการต่อสู้ดังขึ้น ก่อนจะมีคนเปิดประตูพุ่งเข้ามา เป็นหลี่รั่วหานนั่นเอง เขามองสภาพศพของเว่ยจิ่นซางที่นอนตายอยู่บนพื้นดวงตาเบิกกว้าง ข้าง ๆ กันมีหนิงเสวี่ยที่นั่งร้องไห้อยู่ เขาไม่มีเวลาสนใจหนิงเสวี่ยมากนัก เขารีบวิ่งเข้าไปแก้มัดให้องค์หญิงหงลี่ ก่อนจะเดินเข้าไปหาจ้าวไป๋ลู่และลูกที่นอนหลับไม่ได้สติอยู่ข้าง ๆ กัน"ไป๋ไป๋!!!" "นางสลบไม่ได้สติมาหลายชั่วยามแล้ว" เสียงของหลี่รั่วหานปลุกหนิงเสวี่ยให้ตื่นจากความสับสนและหวาดกลัวในจิตใจ นางค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นไปมองเขาช้า ๆ เมื่อเขาหันมาส

  • หยกงามใต้เงาจันทร์   บทที่ 49 ความจริงที่แสนเจ็บปวด

    นางกรอกยาพิษทั้งที่มือก็สั่นไม่น้อย ยิ่งได้เห็นแววตาที่แข็งกระด้างขององค์หญิงหงลี่ที่มองมา มือนางก็สั่นมากยิ่งขึ้น จนทำยาพิษหกลงพื้นไปเสียดื้อ ๆ องค์หญิงหงลี่กินยาพิษนั้นไปไม่ถึงครึ่งขวดด้วยซ้ำ แต่นางก็กระอักโลหิตสีดำออกมาไม่น้อย เว่ยจิ่นซางที่ได้เห็นเช่นนั้นก็ส่งเสียงหัวเราะสะใจออกมาอย่างบ้าคลั่ง แปะ แปะ แปะ หนิงเสวี่ยกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ก่อนจะหันไปมองเว่ยจิ่นซาง "ท่านแม่" เว่ยจิ่นซางหันมามองหนิงเสวี่ยด้วยสายตาที่เย็นชา "ผู้ใดเป็นแม่เจ้ากัน?" "เอ๋? ท่านแม่ เหตุใดท่านจึงเอ่ยวาจาเช่นนี้เจ้าคะ ข้าไม่เข้าใจ" เว่ยจิ่นซางปรายตามองหนิงเสวี่ยอย่างดูแคลน แววตาที่เคยมองนางประดุจลูกในไส้ แววตาที่อ่อนโยนเลือนหายไปจนหมดสิ้น ยามนี้มีเพียงความเกลียดชังเข้ามาแทนที่ นางทุ่มเทแรงกายแรงใจ รอเวลานี้มานานเหลือเกิน นางรอจนกระทั่งถึงวันนี้!!! "ฮ่า ๆ ๆ ๆ การได้มองเห็นบุตรสาวกำลังฆ่ามารดาของตนเองกับมือ ช่างเป็นภาพที่งดงามเสียจริง ๆ" เว่ยจิ่นซางเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่มีความสุข หนิงเสวี่ยที่ได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วมุ่น ด้านองค์หญิงหงลี่ที่ได้ยินเว่ยจิ่นซางเอ่ยคำพูดเช่นนี้ออกมา ใจของนางก็เต้นแรงอย่างบ

  • หยกงามใต้เงาจันทร์   บทที่ 48 แค้นเก่าหนหลัง

    จ้าวไป๋ลู่ถูกลักพาตัวมาที่เรือนโกโรโกโสหลังหนึ่งบนหุบเขา นางกอดจ้าวหยางเอาไว้แนบอก พยายามปกป้องบุตรชายเอาไว้อย่างสุดชีวิต "ลงมา!!! เดินเข้าไป!!!" ชายฉกรรจ์สี่ห้าคนพากันล้อมตัวนางเอาไว้ ก่อนจะบังคับให้นางเดินเข้าไปในเรือนหลังนั้น เมื่อนางมาถึงก็พบกับองค์หญิงหงลี่ที่ยามนี้ถูกมัดมือมัดเท้าเอาไว้ ใบหน้าขององค์หญิงหงลี่บวมเป่งคล้ายกับถูกตบตีมาอย่างหนัก "ท่านแม่!!!" "ไป๋ไป๋" จ้าวไป๋ลู่ถูกนำมาขังรวมเอาไว้กับองค์หญิงหงลี่ นางกอดจ้าวหยางไว้แนบอก ก่อนจะหันมองไปโดยรอบอย่างระแวดระวัง พวกมันจับตัวนางมาด้วยเหตุใดกัน ไม่นานนักความสงสัยของนางก็กระจ่าง เมื่อได้พบกับ หนิงเสวี่ยและมารดาของนาง หนิงเสวี่ยจ้องมองนางด้วยแววตาที่เย็นชา ก่อนจะสลับมองมาที่จ้าวหยางอย่างเกลียดชัง "หึ!!! ตายยากเสียจริงนะจ้าวไป๋ลู่ เจ้าไม่เพียงไม่ตาย แต่ยังคลอดเด็กนรกนี่ออกมาอีกด้วย!!!" "อย่ายุ่งกับบุตรของข้า" "ฮ่า ๆ ๆ ๆ เจ้ามีสิทธิ์อันใดมาขอร้องข้ากัน" นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เย้ยหยัน ก่อนจะครุ่นคิดถึงเรื่องที่ท่านแม่บอกเล่าให้ฟัง ท่านแม่บอกว่าจ้าวไป๋ลู่รอดตายกลับมาได้อีกทั้งยังมีบุตรชายที่เกิดจากหลี่รั่วหานตามมาอีกด้

  • หยกงามใต้เงาจันทร์   บทที่ 47 ลักพาตัว

    เมื่อหลี่รั่วหานกลับมาถึงจวน เขาก็ได้พบข่าวร้ายว่าท่านแม่ของเขาหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ยามนี้ท่านพ่อออกไปตรวจตราชายแดนยังไม่กลับเมืองหลวง เขาเองก็เอาแต่ตามติดจ้าวไป๋ลู่และลูก ระยะนี้จึงไม่ได้สนใจมารดาของตนมากเท่าใดนัก"เจ้าเล่ามา ท่านแม่หายไปได้เช่นไร!!!" "บ่าวไม่ทราบเจ้าค่ะ เดิมทีฮูหยินกำลังเดินเล่นอยู่ที่ริมสระบัวท้ายจวน แล้วเกิดอยากกินขนมกุ้ยฮวา จึงให้บ่าวมาทำ ฮูหยินบอกว่าอยากอยู่เงียบ ๆ เพียงลำพังจึงให้สาวใช้ปลีกตัวออกมาจนหมด พอบ่าวกลับไปก็ไม่พบฮูหยินแล้วเจ้าค่ะ" หลี่รั่วหานที่ได้ยินเช่นนั้นก็หน้าซีดเผือดขึ้นมาทันที เขาสั่งให้คนค้นหาท่านแม่จนทั่วจวน เผื่อว่าจะเป็นลมอยู่ที่ใดสักแห่ง แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่พบตัวขององค์หญิงหงลี่ เขาจึงรีบเข้าวังกราบทูลฮ่องเต้หงหยวนในทันที ด้านจ้าวไป๋ลู่นั้น เมื่อเสร็จธุระจากร้านอาหารแล้ว นางจึงสั่งให้คนขับรถม้ามุ่งหน้าไปยังวัดไป๋หม่า เพื่อจะพาจ้าวหยางไปไหว้พระขอพรแต่ระหว่างทาง รถม้าของนางก็เกิดหยุดลงกะทันหัน จู่ ๆ ก็มีชายชุดดำสี่ห้าคนเข้ามาลักพาตัวของนางและจ้าวหยางไป ข่าวที่องค์หญิงหงลี่หายตัวไปยังไม่ทันได้สืบทราบ หลี่รั่วหานก็ได้รับข่าวร้ายจากจวนต

  • หยกงามใต้เงาจันทร์   บทที่ 46 ตามง้อ

    ยามนี้เข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ผลิ เหล่าราษฎรต่างพากันออกมาทำมาหากิน บ้างก็ทำเรือกสวนไร่นา บ้างก็ออกมาขายของที่ตลาด ช่างเป็นบรรยากาศที่คึกคักเป็นอย่างมาก วันนี้จ้าวไป๋ลู่พาจ้าวหยางที่มีอายุสองขวบกว่าแล้ว มาที่ร้านอาหารของท่านปู่ท่านย่า นางอยากให้เขาเรียนรู้การใช้ชีวิตให้มาก ๆ จึงตั้งใจให้เขาเรียนรู้ทุกอย่างในชีวิต "นี่ เต้าหู้ เด็กดีพูดตามแม่สิ เต้าหู้" "เต้าหู้ ท่านแม่ ท่านแม่ เต้าหู้" "เก่งมากเลยจ้ะลูกรัก" จ้าวไป๋ลู่ตบมือให้จ้าวหยางด้วยความชื่นชม เด็กน้อยที่เห็นเช่นนั้นก็กระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุข "ขอหม้อไฟสองที่ ซุปซี่โครงหมูหนึ่งที่" "เชิญ..." จ้าวไป๋ลู่หันไปมองก่อนที่รอยยิ้มบนใบหน้าจะจางหายไป มาอีกแล้ว!!! "แม่นางคนงาม ข้ารอหม้อไฟอยู่นะ" หลัวเทียนเฉินเอ่ยด้วยท่าทียั่วเย้า หลี่รั่วหานที่เห็นเช่นนั้นจึงแอบยื่นมือไปหยิกบั้นท้ายหลัวเทียนเฉินจนเขาสะดุ้งโหยง หึ!!! ถึงข้าจะเหลือแขนเดียวแต่ข้าก็สู้นะ!!! "ใต้เท้ารอสักครู่ พี่เซียวถงนั่งก่อนเถิด" จ้าวไป๋ลู่เดินกลับเข้าไปในโรงครัวพักใหญ่ ก่อนจะเดินออกมาพร้อมกับจ้าวหยาง นางวางหม้อไฟลงบนโต๊ะ พร้อมกับซุปกระดูกหมูที่มีพริกสีแดงสดลอยเต็ม

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status